พระมหากัจจายนะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
รูปปั้นของพระมหากัจจายนะหรือพระสังกัจจายน์

พระมหากัจจายนะ (บาลี: มหากจฺจายน, สันสกฤต: มหากาตฺยายน) เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในพระอสีติมหาสาวกของพระโคตมพุทธเจ้า ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในทางผู้อธิบายความย่อให้พิสดาร ในประเทศไทยนอกจากชื่อตามภาษาบาลีแล้ว ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ "พระสังกัจจายน์" หรือ "พระสังกระจาย"

พระมหากัจจายนะเกิดในตระกูลพราหมณ์ตระกูลหนึ่งในกรุงอุชเชนี ได้ศึกษพระเวทตามอย่างตระกูลพราหมณ์ทั้งหลาย ท่านเป็นศิษย์ของอสิตดาบสแห่งเขาวินธัย (ผู้ทำนายว่าเจ้าชายสิทธิตถะจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหรือพระพุทธเจ้าในอนาคต) พระมหากัจจายนะพร้อมด้วยมิตรอีก 7 คนได้อาราธนาพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดงธรรมเทศนา และได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในระหว่างฟังธรรมนั้นเอง หลังจากนั้นท่านจึงทูลขออุปสมบทต่อพระพุทธเจ้า และได้เผยแผ่ศาสนาพุทธอยู่ในแคว้นอวันตีจนมีผู้เข้ามาเป็นสาวกในพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก

ความเชื่อในนิกายมหายาน คัมภีร์สัทธรรมปุณฑรีกสูตร บรรพที่ 6 ว่าด้วยการพยากรณ์ กล่าวถึงพุทธพยากรณ์ว่า พระมหากัจจายนะ พระสุภูติ พระมหากัสสปะ และพระมหาโมคคัลลานะ (ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น) หลังจากได้สดับพระสูตรนี้แล้ว จักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต

ความเข้าใจผิดในพุทธศาสนิกชนชาวไทย[แก้]

วัดนวลนาราม อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี

รูปเคารพของพระมหากัจจายนะหรือพระสังกัจจายน์ มักเป็นที่สับสนและเข้าใจผิดในหมู่พุทธศาสนิกชนชาวไทยว่าเป็นองค์เดียวกับพระสังกัจจายน์จีน ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นรูปเคารพของ พระปู้ไต้หลอฮั่น หรือ พระปู้ไต้ (จีน: 布袋; พินอิน: Bùdài) หรือพระโฮไท่ในญี่ปุ่น เป็น 1 ในพระอรหันต์ 18 องค์ และเป็น 1 ใน 7 องค์ของพระนำโชคที่ชาวญี่ปุ่นเคารพนับถือ

พระปู้ไต้ เดิมชื่อ ฉวีคู ถือกำเนิดที่เมืองหมิงโจว เขตเฟิงหัว ในมณฑลเจ้อเจียง ท่านมีชีวิตอยู่ในช่วงสมัยราชวงศ์เหลียง (พ.ศ.1450-1466) ท่านได้ศึกษาธรรมฝ่ายพุทธศาสนามหายาน ต่อมาจึงบวชเป็นพระภิกษุมีฉายาว่า ฉิ้วฉื่อ และชางทิงฉวี่ มักเห็นรูปของท่านนั่งพุงพลุ้ย ถือกระสอบ หรือ ย่าม ใบหน้ายิ้มแย้มอยู่เสมอ ซึ่งแสดงถึงความมีเมตตากรุณาต่อคนทั่วไปให้พวกเขาได้รับความสุข เท้าทั้งสองอยู่บนพื้น เพราะถือว่าท่านยังไม่ได้สำเร็จมรรคผลชั้นสูงสุด เป็นพระสงฆ์ที่มีอารมณ์ดีและนิสัยดีน่ารัก และได้ชื่อว่าเป็นพระสงฆ์ที่ต้อนรับแขก ท่านชอบแจกขนมให้แก่เด็กๆ

ก่อนมรณภาพ ท่านได้กล่าวบทสวดว่า

彌勒真彌勒,化身千百億,時時示時人,時人自不識
เมตไตรยะ เมตไตรยะที่แท้
จุติลงมาเกิดในโลกเป็นพันล้านองค์
มักปรากฏให้ปวงชนเห็นเสมอ
บางช่วงเวลาคนเหล่านั้นมิได้ระลึกถึงเลย

— ปู้ไต้หลอฮั่น

ท่านจึงได้รับการยกย่องจากพระสงฆ์ ในพระพุทธศาสนานิกายเซ็น ลัทธิเต๋า และชินโต ว่า ท่านเป็นปางหนึ่งของพระเมตไตรยโพธิสัตว์ลงมากำเนิด และถือว่าท่านเป็นหนึ่งในพระอรหันต์ 18 องค์ ในสมัยพุทธกาล คือ พระอังกิตา หรือ กาลิโก เดิมเป็นชาวอินเดีย ชอบจับงูมีพิษเอาไปปล่อยเพื่อไม่ต้องการให้คนที่สัญจรไปมาเหยียบถูกงูพิษกัด ชาวบ้านจึงเรียกท่านว่า เป็น โพธิ ทั้งพระปู้ไต้ และ อังกิตาเหมือนกันอย่างหนึ่งคือ ใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลาและถือย่ามหรือถุงสะพายหลัง

ส่วนพระสังกัจจายน์หรือพระมหากัจจายนะในประเทศไทย รูปจะต่างกันตรงที่ศีรษะมีผมม้วนเป็นก้นหอยคล้ายพระพุทธเจ้า และครองจีวรแบบเถรวาท แต่ก็ยังอ้วนท้วนเหมือนเดิม ส่วนของจีนศีรษะล้าน ครองจีวรแบบจีน[1]

อ้างอิง[แก้]

  • Chandra, Lokesh (2002). Dictionary of Buddhist Iconography. Aditya Prakashan. pp. 1652–1653. ISBN 8177420496.
  • Keown, Damien (2003). A Dictionary of Buddhism. Oxford University Press. p. 140. ISBN 0198605609.
  • หน้า 3, พระพุทธรูปหัวร่อ โดย กิเลน ประลองเชิง. "ชักธงรบ". ไทยรัฐปีที่ 69 ฉบับที่ 21933: วันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 แรม 8 ค่ำ เดือน 3 ปีระกา
  1. ประวัติโดยย่อ พระปู้ไต้หล่อฮั่น