ปอร์โตฟลาวีอา
ปอร์โตฟลาวีอา (อิตาลี: Porto Flavia) เป็นอ่าวริมทะเล ตั้งอยู่ใกล้กับเนบีดาในคอมมูนอีเกลซีอัส ซาร์ดีญาใต้ ประเทศอิตาลี สร้างขึ้นในปี 1923–24 และใช้งานเป็นศูนย์กลางการผลิตแร่ของมาซูอาบนชายฝั่งของซาร์ดีญาในแถบอีเกลซีเอนเต ชื่อของปอร์โตนี้ตั้งตามฟลาวีอา เวเชลลี (Flavia Vecelli) ลูกสาวของวิศวกรและผู้ออกแบบ เซซาเร เวเชลลี (Cesare Vecelli)[1] ลักษณะของอ่าวถือว่าโดดเด่นและพิเศษกว่าทุกที่ในโลก รวมถึงเป็นผลงานวิศวกรรมชั้นยอดของโลกในเวลานั้น[2]
การออกแบบและก่อสร้าง[แก้]
ปอร์โตฟลาวีอาออกแบบโดยวิศวกรชาวอิตาลี เซซาเร เวเชลลี (Cesare Vecelli) โดยเจ้าของเหมืองต้องการปรับปรุงเวลาและค่าใช้จ่ายในการขนส่งผลิตภัณฑ์จากเหมืองขึ้นบนเรือกลไอน้ำ เวเชลลีทำการสำรวจพื้นที่ในแถบมาซูอา และพบกับหน้าผาสูงชันด้านหน้าของสแต็กที่ชื่อ ปันดีซุจเจโร (Pan di Zucchero) ทะเลตรงนี้ลึกพอและปลอดภัยดีจากลมและคลื่นลมทำให้สามารถทอดสมอได้ปลอดภัยในขณะที่ขนส่งแร่ลงมาจากหน้าผาโดยใช้แรงโน้มถ่วง[3]
หลังการสำรวจพื้นที่นานหนึ่งปีเต็ม เขาได้ออกแบบแผนโดยละเอียดสำหรับสร้างอุโมงค์สองอุโมงค์ที่วางซ้อนกัน (superimposed tunnels) แต่ละอุโมงค์มีความยาว 600 เมตร (2,000 ฟุต) และเชื่อมต่อเข้ากับพื้นที่เก็บแร่ที่ผ่านขบวนการแล้วจำนวนเก้าโถงลักษณะเป็นแนวตั้ง ในอุโมงค์อันบนมีติดตั้งรถไฟฟ้าเพื่อขนส่งจากปลายทางฝั่งหน้าผาไปยังพื้นที่เก็บแร่ แร่จะถูกเทออกมาโดยใช้แรงโน้มถ่วงลงบนโครงสร้างคล้ายประตูกักน้ำ (hatches) บนยอดของพื้นที่เก็บแร่ ส่วนในอุโมงค์ล่างเป็นสายพานสำหรับรับแร่จากที่เก็บแร่ไปยังสายพานตวามยาว 16-เมตร (52-ฟุต) ที่สามารถขนส่งแร่เต็มความจุของเรือกลไอน้ำได้ภายในสองวัน ส่วนที่เก็บแร่ที่เจาะเข้าไปในหินนั้นสามารถบรรจุแร่ได้ถึง 10,000 เมตริกตัน (11,000 short ton)[1]
ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการระเบิดเหมืองแร่และปีนเขาได้ถูกว่าจ้างให้มาช่วยในการก่อสร้าง โดยทำงานกันเป็นกะกลางวันกับกลางคืนเพื่อให้สร้างเสร็จทันตามเวลาที่ตั้งไว้ ในการก่อสร้างนี้ มาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ ได้ถูกละเลยอย่างหนักเพื่อให้สร้างเสร็จเร็ว กระนั้นก็ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในระหว่างการก่อสร้าง[4]
การใช้งาน[แก้]
ปอร์โตฟลาวีอาเริ่มเปิดใช้งานในปี 1924 และช่วยลดค่าใช้จ่ายลงมากถึง 70% และข่วยให้วีแอล มองตาเญ (Vieille Montagne) สามารถกินส่วนแบ่งในตลาดได้อย่างรวดเร็ว การก่อสร้างปอร์โตฟลาวีอาคุ้มทุนในเวลาเพียงสองปี และได้รับการยกย่องให้เป็นผลงานทางวิศวกรรมที่มหัศจรรย์ในวงการธุรกิจเหมืองแร่ ในขณะเดียวกัน เหมืองแร่อื่น ๆ ในพื้นที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้อุโมงค์และอ่าวของปอร์โตฟลาวีอา ทำให้ยังคงต้องใช้แรงงานมุนษย์และการขนส่งทางรางที่เวลานานกว่า[5] ในสภาวการณ์ปกติ สามารถขนส่งแร่มากกว่า 500 เมตริกตัน (550 short ton) ลงเรือในเวลาหนึ่งชั่วโมง[6]
ปอร์โตฟลาวีอาลดทอนความสำคัญลงในทศวรรษ 1960s พร้อมกับการเสื่อมลงของธุรกิจเหมืองแร่ในแถบซูลชีส-อัเกลเชียนเต ก่อนจะปิดใช้งานลงในทศวรรษ 1990s หลังการผลิตแร่ในพื้นที่มาซูอาปิดตัวลง ปัจจุบันปอร์โตฟลาวีอาเป็นของ IGEA SpA บริษัทสาธารณะที่มีหน้าที่ในการดูแลและบำรุงรักษาเหมืองแร่เก่าแก่ในพื้นที่ ผอร์โตฟลาวีอาได้รับการคุ้มครองโดยยูเนสโก ปัจจุบันมีบริการนำชมอุโมงค์ที่นำชมโดยอดีตคนงานและวิศวกรเหมืองของ IGEA[7]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 "Miniera di Masua - Porto Flavia". Miniere di Sardegna. สืบค้นเมื่อ 22 August 2011.
- ↑ "Nebida Spiagge". Nebida.com. สืบค้นเมื่อ 22 August 2011.
- ↑ "Le Miniere di Porto Flavia in Sardegna". Touring Club. สืบค้นเมื่อ 22 August 2011.
- ↑ "Porto Flavia, una miniera di ricordi". Myperfectworld. สืบค้นเมื่อ 22 August 2011.. The fact is confirmed in the guided tours.
- ↑ Onsite panels and guided tour
- ↑ "Porto Flavia La più straordinaria opera d'ingegneria mineraria presente in Sardegna". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-01-19. สืบค้นเมื่อ 22 August 2011.
- ↑ "Porto Flavia". IGEA SpA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-29. สืบค้นเมื่อ 22 August 2011.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- Porto Flavia at Atlas Obscura. Includes many photos.