ท่าอากาศยานนานาชาติ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ท่าอากาศยานนานาชาติฮาร์ตสฟีลด์–แจ็กสัน แอตแลนตาในเวลากลางคืน แสดงอาคารผู้โดยสาร สะพานเทียบเครื่องบิน ลานจอด และเครื่องบินที่จอดอยู่

ท่าอากาศยานนานาชาติ (อังกฤษ: International airport) เป็นรูปแบบหนึ่งของท่าอากาศยานที่มีการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรเพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางระหว่างประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้ ท่าอากาศยานนานาชาติมักจะมีขนาดใหญ่กว่าท่าอากาศยานภายในประเทศ มีทางวิ่งที่ยาวกว่า และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบถ้วนเพื่อรองรับเครื่องบินที่มีน้ำหนักมากกว่า เช่น โบอิง 747 และแอร์บัส เอ380 ที่ใช้กันทั่วไปสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศและข้ามทวีป ท่าอากาศยานนานาชาติมักมีเที่ยวบินภายในประเทศที่เดินทางเข้า–ออกท่าอากาศยาน ซึ่งสามารถช่วยเชื่อมต่อผู้โดยสารและสินค้าไปยังเที่ยวบินระหว่างประเทศและในทางกลับกันได้

ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมาอาคาร การดำเนินงาน และการจัดการในท่าอากาศยานนานาชาติมีมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ่น เป็นผลจากการเริ่มจัดหาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเที่ยวบินพลเรือนระหว่างประเทศ มาตรฐานทางเทคนิคโดยละเอียดได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยและระบบการเข้ารหัสทั่วไปที่นำมาใช้เพื่อให้มีความสอดคล้องกันทั่วโลก ณ คริสต์ทศวรรษ 2020 มีท่าอากาศยานนานาชาติมากกว่า 1,200 แห่งทั่วโลก[ต้องการอ้างอิง] โดยในเดือนมกราคม ค.ศ. 2023 ได้มีผู้โดยสารนานาชาติเดินทางผ่านกว่า 3.8 พันล้านคน[1]พร้อมกับสินค้า 50 ล้านตัน[ต้องการอ้างอิง]

ประวัติ[แก้]

เรือบินชอร์ต เอ็มไพร์ของควอนตัสเอ็มไพร์แอร์เวย์ ที่โรสเบย์ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย (<abbr {{#if: ค.ศ. 1939)

สนามบินเฮาน์สโลว์ฮีธในลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นท่าอากาศยานแห่งแรกที่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศ โดยเริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1919 สนามบินปิดตัวลงในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1920 และทดแทนด้วยท่าอากาศยานครอยดอน[2][3] ในสหรัฐท่าอากาศยานเทศบาลดักลาสในรัฐแอริโซนาเป็นท่าอากาศยานนานาชาติแห่งแรกในปี 1928[4]

ก่อนหน้าที่จะมีท่าอากาศยานนานาชาติ ช่วงแรกเที่ยวบินจะใช้สนามบิน ซึ่งมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกน้อยกว่า เนื่องจากเครื่องบินสี่เครื่องยนต์ไม่สามารถปฏิบัติการเหนือน้ำไปยังจุดหมายปลายทางระหว่างประเทศ จึงมีการแพร่หลายในการใช้เรือบิน โดยในบริเวณปลายเส้นทาบินระหว่างประเทศที่ยาวที่สุด (ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเส้นทางจิงโจ้) ได้มีการจัดพื้นที่ลงจอดบนน้ำในหลายๆ พื้นที่ เช่น สุราบายา กูปัง และในโรสเบย์ เมืองซิดนีย์[5]

ท่าอากาศยานนานาชาติบางแห่งยังเป็นฐานทัพอากาศด้วย ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาทางเทคโนโลยี เช่น ท่าอากาศยานเกาะแคนตอนในคิริบาส โดยหลังใช้เป็นฐานทัพอากาศในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ท่าอากาศยานถูกใช้เป็นจุดแวะพักของควอนตัส ซึ่งได้นำพนักงานภาคพื้นไปประจำการที่ท่าอากาศยานในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1950[6] การเริ่มใช้อากาศยานไอพ่นอย่างโบอิง 707 ในคริสต์ทศวรรษที่ 1960 ที่มีพิสัยการบินมากจนสามารถทำการบินเที่ยวเดียวระหว่างออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์และฮาวาย ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ท่าอากาศยานจุดแวะพักในมหาสมุทรแปซิฟิกอีกแล้ว ท่าอากาศยานนานาชาติอื่นๆ เช่น ท่าอากาศยานไขตั๊กในฮ่องกงได้ปิดตัวลงและแทนที่ดวยท่าอากาศยานนี่ใหม่กว่าเมื่อถึงขีดความสามารถในการพัฒนา[7][8]

ลักษณะและการก่อสร้าง[แก้]

การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ของท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตาในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

การก่อสร้างและการดำเนินงานของท่าอากาศยานนานาชาติขึ้นอยู่กับผลกระทบจากเทคโนโลยี การเมือง เศรษฐกิจ และภูมิศาสตร์ รวมถึงกฎหมายทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ[9][10][11][12] การออกแบบท่าอากาศยานจำเป็นต้องมีการประสานงานกับทุกภาคส่วน – สถาปนิก วิศวกร ผู้จัดการ และพนักงานท่าอากาศยานทั้งหมดจะต้องเกี่ยวข้องกับการออกแบบ[13][14] ท่าอากาศยานมักแสดงถึงความเป็นชาติ และความภาคภูมิใจในชาติ จึงมีการก่อสร้างท่าอากาศยานให้มีความยิ่งใหญ่ เช่นแผนการสร้างท่าอากาศยานนานาชาติเม็กซิโกซิตีใหม่ ซึ่งเดิมจะทดแทนท่าอากาศยานเดิมเมื่อถึงขีดความสามารถการรับผู้โดยสาร[15]

ท่าอากาศยานสามารถมีหอควบคุมการบินหรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นการจราจรของท่าอากาศยานและต้นทุน ท่าอากาศยานนานาชาติมักมีหอควบคุมการบินประจำท่าอากาศยาน เนื่องจากมีความหนาแน่นการจราจรที่มาก

ท่าอากาศยานนานาชาติบางแห่งจำเป็นต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายนอกท่าอากาศยาน เช่นท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง ซึ่งต้องมีระบบรถไฟความเร็วสูงและทางด่วนเพื่อเชื่อมต่อท่าอากาศยานเข้ากับตัวเมืองฮ่องกง โดยการสร้างทางด่วนนี้ประกอบด้วยสะพานสามสะพาน โดยเป็นสะพานยกระดับหนึ่งแห่ง แต่ละสะพานจะมีการจราจรทั้งรถยนต์และรถไฟ[16]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "The world's airports – the state of the industry in Jan-2023 in 11 numbers". CAPA - Centre for Aviation (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2024-01-11.
  2. Bluffield, Robert (2009). Imperial Airways: the birth of the British airline industry 1914–1940. Hersham [England]: Ian Allan. ISBN 978-1-906537-07-4.
  3. Learmonth, Bob; Cluett, Douglas; Nash, Joanna (1977), A history of Croydon Airport, Sutton Libraries and Arts Services
  4. Blaskey, Larry (6 June 2008). "Eleanor Roosevelt's trip to Douglas remembered". Douglas Dispatch. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 October 2019. สืบค้นเมื่อ 6 October 2014.
  5. Stackhouse, John (1995). --from the dawn of aviation : The Qantas Story, 1920-1995. Double Bay, NSW: Focus Pub. pp. 57, 66–71. ISBN 1-875359-23-0.
  6. Walker, Howell. "Air Age Brings Life to Canton Island". The National Geographic Magazine: January 1955, pp. 117-132.
  7. Hafer, JR. "Kai Tak Airport Hong Kong". 20th Century Aviation Magazine. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 July 2014. สืบค้นเมื่อ 20 October 2014.
  8. Farewell speech for Kai Tak (6 July 1998)
  9. Feldman, Elliot J. and Jerome Milch (1982). Technology versus democracy: the comparative politics of international airports. Boston, Massachusetts: Auburn House Pub. Co. ISBN 0-86569-063-4.
  10. Regulatory implications of the allocation of flight departure and arrival slots at international airports. Montreal, Canada: International Civil Aviation Organization. 2001.
  11. Salter, Mark B. (2008). Politics at the airport ([Online-Ausg.] ed.). Minneapolis: University of Minnesota Press. ISBN 978-0-8166-5014-9.
  12. Williams, Alan, 1934-, Developing strategies for the modern international airport : East Asia and beyond / by Alan Williams, Ashgate Pub. Co{{citation}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)
  13. "Planning and design of airport terminal building facilities at nonhub locations". United States Federal Aviation Administration. 1980. สืบค้นเมื่อ 30 September 2014.
  14. "Quality control of construction for airport grant projects". U.S. Dept. of Transportation, Federal Aviation Administration. 2007. สืบค้นเมื่อ 1 October 2014.
  15. Luhnow, David (2 September 2014). "Mexico Plans New $9.2 Billion Airport". The Wall Street Journal. สืบค้นเมื่อ 6 December 2014.
  16. Telford, Thomas (1 November 1998). "transport links". Hong Kong International Airport (Technical report). Vol. Supplement of Volume 126 (Special Issue 2 ed.). Journals Leon Heward-Mills for Institution of Civil Engineers.