ชาริล ชับปุยส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ชาริล ชัปปุยส์
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ชาริล ยานนิส ชาปุย
วันเกิด 12 มกราคม พ.ศ. 2535 (32 ปี)
สถานที่เกิด โคลเทิน เมืองบือลัค
รัฐซูริก สวิตเซอร์แลนด์
ส่วนสูง 1.76 m (5 ft 9 12 in)
ตำแหน่ง กองกลาง
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
เชียงใหม่ (ยืมตัวจาก การท่าเรือ)
หมายเลข 92
สโมสรเยาวชน
1999–2000 โคลเทิน
2000–2003 วายเอฟ ยูเวนตุส
2003–2009 กราสฮอปเปอร์
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2009–2011 กราสฮอปเปอร์ 2 26 (3)
2010–2012 กราสฮอปเปอร์ 0 (0)
2011–2012โลคาร์โน (ยืมตัว) 26 (2)
2012ลูกาโน (ยืมตัว) 16 (0)
2013-2014 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 28 (4)
2014สุพรรณบุรี (ยืมตัว) 17 (2)
2015–2017 สุพรรณบุรี 36 (3)
2017–2019 เมืองทอง ยูไนเต็ด 67 (3)
2020– การท่าเรือ 32 (0)
2023–เชียงใหม่ (ยืมตัว) 24 (0)
ทีมชาติ
2008–2009 สวิตเซอร์แลนด์ อายุไม่เกิน 17 ปี 22 (0)
2010–2011 สวิตเซอร์แลนด์ อายุไม่เกิน 19 ปี 6 (0)
2013–2014 ไทย อายุไม่เกิน 23 ปี 14 (5)
2014–2017 ไทย 21 (5)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 2021
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2019

ชาริล ยานนิส ชาปุย (เกิด 12 มกราคม พ.ศ. 2535) เป็นนักฟุตบอลลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์ ปัจจุบันเล่นตำแหน่งกองกลางให้กับเชียงใหม่ ในไทยลีก 2 โดยยืมตัวจากการท่าเรือ

ชับปุยส์เคยเล่นให้กับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ที่ประเทศไนจีเรียใน พ.ศ. 2552 ก่อนมาเล่นให้ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี โดยเป็นหนึ่งในนักเตะชุดที่ได้เหรียญทองในการแข่งขันซีเกมส์ 2013 ที่ประเทศพม่า และคว้าอันดับ 4 ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2014 ที่ประเทศเกาหลีใต้ และก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นในทีมชาติไทยชุดใหญ่ในชุดที่คว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014

ประวัติ[แก้]

ชาริล เกิดวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2535 ที่เมืองโคลเทิน (Kloten) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์[1] เป็นบุตรคนเดียวของดาเนียล ชัปปุยส์ ชาวสวิส และไพลิน ชัปปุยส์ ชาวไทย โดยมีพี่สาวต่างมารดา 1 คนชื่อซาบีนา[2]

ชาริล จบการศึกษาระดับเกรด 12 จากโรงเรียนกีฬาในเมืองโคลเทิน โดยเริ่มต้นหัดเล่นฟุตบอลกับบิดาแต่เด็ก จนเมื่ออายุได้ 7 ขวบมีโอกาสได้เล่นฟุตบอลระดับเยาวชนให้กับสโมสรโคลเทินที่สวิตเซอร์แลนด์ในปี พ.ศ. 2542 จากนั้น 1 ปี ก็ย้ายมาอยู่สโมสรเอสซี ยังเฟลโลวส์ยูเวนตุส [3]ต่อมาใน พ.ศ. 2546 ชาริล ชัปปุยส์ย้ายมาอยู่ทีมชุดเยาวชนของสโมสรกราสฮอปเปอร์ ซูริก ในสวิสซูเปอร์ลีก

การเล่นฟุตบอลอาชีพ[แก้]

กราสฮอปเปอร์ ซูริก 2[แก้]

ในขณะเป็นนักเตะชุดเยาวชนของกราสฮอปเปอร์ ซูริก ชาริล ชัปปุยส์ ได้มีโอกาสลงเล่นให้กับทีมกราสฮอปเปอร์ ซูริก 2 ซึ่งเป็นทีมสำรองที่ลงแข่งในระดับลีกาคลาสสิก หรือดิวิชัน 4 ของสวิตเซอร์แลนด์ ในฤดูกาล 2552-2553 โดยในฤดูกาลนั้นชาริลเคยมีชื่อเป็นตัวสำรองของทีมกราสฮอปเปอร์ ซูริกชุดใหญ่หลายนัดในการแข่งขันระดับซุปเปอร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุด แต่ไม่ได้ถูกส่งลงสนาม

ชาริล ลงเล่นให้กราสฮอปเปอร์ ซูริก 2 ในระดับลีกาคลาสสิก (ดืวิชั่น 4) กลุ่มที่ 2 โดยลงเล่นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ในนัดที่เปิดบ้านถล่มสโมสรเอสเฟา ชัฟเฮาเซิน ไป 6-1 [4]

ปีต่อมาชาริล ชัปปุยส์ถูกส่งมาเล่นให้กับทีมสำรองในระดับดิวิชั่น 4 อีกครั้งในฤดูกาล 2553-2554 อย่างไรก็ตามชาริล ชัปปุยส์ มีโอกาสลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ของกราสฮอปเปอร์ 1 นัด ในฟุตบอลถ้วยสวิส คัพ รอบแรก เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553 ในนัดที่ไปเยือนสโมสร แบร์โรช กอร์กีเย[5]

โลคาร์โน[แก้]

เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 ชาริลย้ายไปเล่นให้กับสโมสรโลคาร์โน ในระดับแชลเลนจ์ ลีก หรือดิวิชั่น 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยสัญญายืมตัว ภายใต้การคุมทีมของดาวิเด โมรันดี และลงสนามให้โลคาร์โน นัดแรกในวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ในแชลเลนจ์ลีกที่ต้องออกไปเยือนสโมสรโวห์เลน ที่สนามนีเดอร์แมทเทน โดยชาริลถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงท้าย[6]

วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ชาริล ชัปปุยส์ ยิงประตูแรกในลีกให้กับโลคาร์โนได้ในนัดที่บุกไปชนะสโมสรเอฟซี วิล 2-1 ที่สนามแบร์กฮอลซ์ [7] เมื่อจบฤดูกาล สโมรโลคาร์โนได้อันดับที่ 9 โดยชาริล ชัปปุยส์ลงสนาม 28 นัด (ในแชลเลนจ์ลีก 26 นัด สวิสคัพ 2 นัด) ยิงในลีก 2 ประตู

เอฟซี ลูกาโน[แก้]

ชาริล ชัปปุยส์ ย้ายทีมในรูปแบบยืมตัวอีกครั้ง โดยย้ายมาร่วมทีมเอฟซี ลูกาโน ในแชลเลนจ์ลีก ฤดูกาล 2555-2556 เป็นระยะเวลา 5 เดือน โดยลงเล่นภายใต้การคุมทีมของไรมอนโด ปอนเต

ชาริลลงสนามนัดแรกให้เอฟซี ลูกาโนในวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 โดยเปิดบ้านชนะเอฟซี วิล 3-1 ที่สนามคอร์นาเรโด[8] และเป็นกำลังสำคัญในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก โดยเมื่อหมดสัญญายืมตัวในเดือนธันวาคม จึงเดินทางกลับสโมสรกราสฮอปเปอร์ ตลอดการยืมตัวชาริลสนามให้เอฟซี ลูกาโน 17 นัด (ในแชลเลนจ์ลีก 16 นัด สวิสคัพ 1 นัด)

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด[แก้]

เดือนมกราคม พ.ศ. 2556 ชาริล ชัปปุยส์ ย้ายมาเล่นฟุตบอลในประเทศไทยกับสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของอรรถพล บุษปาคม ด้วยสัญญา 2 ปี และลงสนามให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดนัดแรกเป็นตัวจริงเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ในเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ ที่พบกับบริสเบน โรอา (ประเทศออสเตรเลีย) ที่สนามนิวไอโมบายสเตเดียม[9]

ต่อมาวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ชาริล ชับปุยส์ลงเล่นรายการฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานเป็นครั้งแรก ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ก. 2556 หรือ โค้ก แชริตี้ คัพ 2013 ที่พบกับสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่สนามศุภชลาศัย โดยที่บุรีรัมย์เอาชนะไปได้ 2-0 และคว้าแชมป์ถ้วย ก.ไปครอง

การลงเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกครั้งแรกของชาริล ชัปปุยส์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556 ในนัดที่บุรีรัมย์ฯ เปิดสนามนิวไอโมบาย สเตเดี้ยม พบกับสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี นัดนั้น เขาปั่นลูกเตะมุมโค้งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม[10]

ต่อมาในวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 ชาริล ได้รับบาดเจ็บหนักที่หัวเข่าจากเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับสโมสรเจียงซู เสิ่นตี้ (ประเทศจีน) โดยชาริล ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำ 2-0 ชาริลวิ่งแสดงความดีใจไปบริเวณมุมธงพร้อมกระโดดแบบสุดตัว แต่จังหวะลงขาขวาที่รับน้ำหนักกลับเสียหลักจนหัวเข่าบิดอย่างน่าหวาดเสียว ทำให้ไม่สามารถเล่นต่อได้ และต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บ 3 เดือน[11] เขากลับมาลงสนามได้อีกครั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยโตโยต้า ลีกคัพ 2556 รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่พบกับสโมสรอุดรธานี เอฟซี โดยชาริลถูกส่งลงมาในครึ่งหลังและเป็นคนยิงประตูชัยให้ทีมชนะ 1-0 โดยประตูดังกล่าวเป็นการยิงประตูในการแข่งขันถ้วยลีกคัพ ประตูแรกของชาริลอีกด้วย[12]

จากนั้นชาริลกลับมาลงสนามในไทยพรีเมียร์ลีก เลก 2 ในวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ต้องออกไปเยือนสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง[13]

เมื่อจบฤดูกาล 2556 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการคว้าถึง 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียว ได้แก่ แชมป์ถ้วย ก., แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก, แชมป์โตโยต้า ลีกคัพ และแชมป์ไทยคม เอฟเอคัพ และชาริลมีส่วนร่วมในทุกรายการ โดยเขาลงสนามในฤดูกาลนี้รวม 28 นัด (ไทยพรีเมียร์ลีก 16 นัด,เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 6 นัด,ไทยคม เอฟเอคัพ 2 นัด,โตโยต้า ลีกคัพ 2 นัด,ถ้วย ก.และเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ รายการละ 1 นัด) ยิงได้ทั้งหมด 4 ประตู (ไทยพรีเมียร์ลีก 2 ประตู,โตโยต้า ลีกคัพ 1 ประตู และเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 1 ประตู[14])

ฤดูกาลต่อมาชาริล เริ่มต้นกับสโมสรด้วยการคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ก. 2557 โดยชนะสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0 ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 2 ของเขา แต่หลังจากนั้นเมื่อการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก 2557 เริ่มต้นขึ้นเขากลับประสบปัญหาฟอร์มตก โดยในช่วงแรกเขายังรักษาตำแหน่งตัวจริงในทีมไว้ได้แต่มักถูกเปลี่ยนตัวออกและเล่นไม่เต็มเวลา จนกลางเดือนเมษายน สโมสรเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็น โบซิดาร์ บันโดวิช โค้ชชาวเซอร์เบีย[15] ชาริลก็หลุดเป็นตัวสำรองของทีมและถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นในช่วงก่อนหมดเวลาเป็นบางนัด

เดือน มิถุนายน บุรีรัมย์ฯ เปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนอีกครั้ง โดยแต่งตั้ง อเล็กซานเดอร์ กามา เข้ามาเป็นโค้ชคนใหม่[16] และชาริล ชัปปุยส์ ที่เป็นตัวสำรองก็ถูกส่งตัวไปให้สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซียืมใช้งานจนจบฤดูกาล เพื่อโอกาสในการลงสนามอย่างสม่ำเสมอ

โดยในเลกที่ 1 ของฤดูกาล 2014 นี้ ชาริลลงสนามให้บุรีรัมย์ทั้งหมด 19 นัด โดยเป็นการลงเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกเพียง 12 นัด โตโยต้า ลีกคัพ และถ้วย ก. รายการละ 1 นัด แต่ก็ยังได้ลงสนามในการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ถึง 5 นัดด้วยกัน

สุพรรณบุรี เอฟซี[แก้]

เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2557 ช่วงเลกที่ 2 ของไทยพรีเมียร์ลีก สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซียืมตัวชาริล มาเล่นจนจบฤดูกาล ภายใต้การคุมทีมของเวลิซาร์ เอมิลอฟ โปปอฟ โค้ชชาวบัลแกเรีย โดยชาริล ย้ายมาเพื่อโอกาสในการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ และได้เสื้อหมายเลข 40

ชาริล ชัปปุยส์ลงเล่นให้สุพรรณบุรี เอฟซีนัดแรกวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ที่พบกับสโมสรบีอีซี เทโรศาสน[17] และมาทำประตูแรกให้กับสุพรรณบุรี เอฟซี ได้จากลูกโหม่ง ในวันที่ 26 กรกฎาคม ที่พบสโมสรฟุตบอลสิงห์ท่าเรือ ที่สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี[18] และมายิงในไทยพรีเมียร์ลีกได้อีก 1 ประตู ในนัดที่พบกับสโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬากองทัพบก

การเล่นที่สุพรรณบุรี เอฟซี ชาริล เป็นผู้เล่นคนสำคัญและกลับมาทำผลงานได้อย่างดีอีกครั้ง จนสามารถยึดตำแหน่งในแดนกลางของทีมได้ และเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โค้ชทีมชาติไทย ได้เรียกเขาติดทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ไปแข่งขันในกีฬาเอเชียนเกมส์ 2014 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งไทยได้อันดับ 4 และก้าวขึ้นมาติดชุดใหญ่ในปลายปีซึ่งสามารถคว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 มาครองได้สำเร็จ

ชาริลลงสนามในเลกที่ 2 ให้สุพรรณบุรีทั้งหมด 20 นัด (ไทยพรีเมียร์ลีก 17 นัด และไทยคม เอฟเอคัพ 3 นัด) ยิงในลีกได้ 2 ประตู และสโมสรจบฤดูกาล 2557 ด้วยอันดับ 6 ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดของสโมสร และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศถ้วยไทยคม เอฟเอคัพ ได้เป็นครั้งแรก โดยชาริลได้เซ็นสัญญาย้ายมาร่วมทีมสุพรรณบุรี เอฟซีอย่างถาวรเมื่อจบฤดูกาล[19]

ฤดูกาล 2558 ชาริล ได้เปลี่ยนมาใส่เสื้อเบอร์ 10[20][21]

สถิติ[แก้]

สโมสร ฤดูกาล ลีก ฟุตบอลถ้วย ลีกคัพ ทวีป อื่นๆ รวม
ดิวิชัน นัด ประตู นัด ประตู นัด ประตู นัด ประตู นัด ประตู นัด ประตู
กราสฮอปเปอร์ 2009-2010 ซุปเปอร์ลีก 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0
2010-2011 ซุปเปอร์ลีก 0 0 0 0 1 0 0 0 0 0 1 0
รวม 0 0 0 0 1 0 0 0 0 0 1 0
กราสฮอปเปอร์ 2 2009-2010 ลีกาคลาสสิก กลุ่ม 2 13 1 0 0 0 0 0 0 0 0 13 1
2010-2011 ลีกาคลาสสิก กลุ่ม 2 13 2 0 0 0 0 0 0 0 0 13 2
รวม 26 3 0 0 0 0 0 0 0 0 26 3
โลคาร์โน (ยืมตัว) 2011-2012 แชลเลนจ์ลีก 26 2 0 0 2 0 0 0 0 0 28 2
ลูการ์โน (ยืมตัว) 2012-2013 แชลเลนจ์ลีก 16 0 0 0 1 0 0 0 0 0 17 0
รวม 42 2 0 0 3 0 0 0 0 0 45 2
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2013 ไทยพรีเมียร์ลีก 16 2 2 0 2 1 6 1 2 0 28 4
2014 ไทยพรีเมียร์ลีก 12 0 0 0 1 0 5 0 1 0 19 0
สุพรรณบุรี (ยืมตัว) 2014 ไทยพรีเมียร์ลีก 17 2 3 0 0 0 0 0 0 0 20 2
สุพรรณบุรี 2015 ไทยพรีเมียร์ลีก
รวม 45 4 5 0 3 1 11 1 3 0 67 6
รวมทั้งหมด[22]

ทีมชาติ[แก้]

สวิตเซอร์แลนด์[แก้]

ในระดับทีมชาติ ชาริล ชัปปุยส์ เริ่มเข้าทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี และคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ที่สหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย ได้ในปี พ.ศ. 2552 โดยเขามีส่วนช่วยทีมครบทุกนัดในการแข่งขันรายการระดับโลก[23] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมดังกล่าวจึงทำให้ชาริลเคยตกเป็นข่าวกับสโมสรฟุตบอลระดับโลกทั้งฮัมบวร์คและยูเวนตุสทีเดียว[24]

ทีมชาติไทย[แก้]

ชาริล ชัปปุยส์ เคยถูกเรียกเข้าร่วมทีมชาติไทย โดยวินฟรีด เชฟเฟอร์ อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยเพื่อเข้าร่วมศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ 2015 แต่เนื่องจากเขาเคยเล่นให้กับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีมาก่อน จึงต้องให้ฟีฟ่าพิจารณาการเปลี่ยนสัญชาติ ซึ่งไม่ทันกับการแข่งขันในครั้งนั้น จึงยังไม่ได้ร่วมแข่งขันในนามทีมชาติไทย[14]

หลังฟีฟ่ารับรองให้ชาริลเป็นนักเตะทีมชาติไทย เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าฝึกสอนนักฟุตบอลทีมชาติไทยในขณะนั้น ก็เรียกให้ชาริลเข้าร่วมทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งเขาเล่นนัดแรกที่รับการมาเยือนของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาในเดือนสิงหาคม ก่อนเปิดตัวในนามทีมชาติอย่างเป็นทางการในนัดที่พบกับทีมชาติยูกันดา เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2556 และร่วมทีมชาติอีกในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่า[25]

หลังจากประสบความสำเร็จจากการคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 มาแล้ว ในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพครั้งที่ 43 ชับปุยส์ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ทำให้พลาดการลงเล่นในครั้งนี้ โดยต้องพักรักษาตัวนาน 1-2 เดือน[26] แต่ต่อมาในกลางปีเดียวกัน พบว่าต้องพักรักษาร่างกายนานจนถึงต้นปีหน้า

เกียรติประวัติ[แก้]

ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์[แก้]

เมืองทอง ยูไนเต็ด[แก้]

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด[แก้]

ทีมชาติไทย[แก้]

 เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

รางวัล[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. ชีวประวัติ ชาริล ชับปุยส์
  2. เรื่องลึกแต่ไม่ลับกับชาริล-ยานนิส-ชัปปุยส์
  3. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-04. สืบค้นเมื่อ 2015-01-09.
  4. เปิดบ้านถล่มสโมสรเอสเฟา ชัฟเฮาเซิน ไป 6-1
  5. ชาริล ชัปปุยส์ มีโอกาสลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ของกราสฮอปเปอร์
  6. ชาริลย้ายไปเล่นให้กับสโมสรโลคาร์โน
  7. ริล ชัปปุยส์ ยิงประตูแรกในลีกให้กับโลคาร์โนได้
  8. ชาริลลงสนามนัดแรกให้เอฟซี ลูกาโน
  9. หืดจับ!!! 'บุรีรัมย์' ดวลโทษดับบริสเบน 3-0 ลิ่วแบ่งกลุ่มชปล.
  10. บุรีรัมย์-ยูไนเต็ด-vs-สุพรรณบุรี
  11. "ชาริล ได้รับบาดเจ็บหนักที่หัวเข่าจากเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-04-14. สืบค้นเมื่อ 2014-12-27.
  12. เซราะกราวหืด!ชัปปุยส์ซัดทดเจ็บเฉือนอุดร 1-0 ลีกคัพ8ทีมนัดแรก
  13. แพ้แต่ได้ใจ!!สุพรรณ 10 คนไล่บุรีรัมย์ไม่ทันก่อนพ่ายไป 1-2+คลิป
  14. 14.0 14.1 "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-01-07. สืบค้นเมื่อ 2015-01-18.
  15. สโมสรเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็น โบซิดาร์ บันโดวิช
  16. Official : เนวินตั้ง"กามา"กุนซือบราซิลโปรไฟล์บิ๊กเอเชียคุมบุรีรัมย์
  17. สุพรรณส่งชาริลลงสนามนัดแรก
  18. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-05. สืบค้นเมื่อ 2014-12-27.
  19. ลาขาดเซราะกราวสุพรรณยันเซ็นชัปปุยส์ร่วมทัพถาวร
  20. ผลการค้นหา ชัปปุยส์ใช้เบอร์10ลุยไทยลีก เก็บถาวร 2016-05-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จาก สยามกีฬารายวัน
  21. "เปลี่ยนเบอร์!!ชัปปุยส์ย้ายสวมเบอร์ 10 ให้สุพรรณ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-10-27. สืบค้นเมื่อ 2016-02-06.
  22. สถิติการแข่งขัน
  23. ชาริล ชัปปุยส์ เริ่มเข้าทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์เก็บถาวร 2016-01-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน FIFA U-17 World Cup Nigeria 2009
  24. อึ้ง!!สื่อนอกปูดยูเว่-ฮัมบวร์คสน "ชัปปุยส์" ก่อนมาบุรีรัมย์
  25. หล่อทำซึ้ง! ชัปปุยส์ภูมิใจรับใช้แผ่นดินไทยแชมป์ซีเกมส์
  26. หน้า 12 ต่อ 10 กีฬา, แพทย์ยืนยันชัปปุยส์เจ็บพัก1-2เดือน. เดลินิวส์ฉบับที่ 23,838: วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558 แรม 14 ค่ำ เดือน 2 ปีมะเมีย
  27. ชับปุยส์ รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์เก็บถาวร 2016-01-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  28. เอ็มไทยท็อปทอล์กอะเบาต์ 2015 สรุปผลรางวัล เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน tlcthai.com

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]