กลี
กลี | |
---|---|
การปลูกกลีหรือบาไบในบูตารีตารี คิริบาส | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอตา |
อาณาจักร: | พืช |
เคลด: | พืชมีท่อลำเลียง |
เคลด: | พืชดอก |
เคลด: | พืชใบเลี้ยงเดี่ยว |
อันดับ: | อันดับขาเขียด |
วงศ์: | วงศ์บอน |
สกุล: | Cyrtosperma (Hassk.) Schott |
สปีชีส์: | Cyrtosperma merkusii |
ชื่อทวินาม | |
Cyrtosperma merkusii (Hassk.) Schott | |
ชื่อพ้อง | |
|
กลี (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cyrtosperma merkusii) เป็นพืชในวงศ์ Araceae มีชื่อว่า ปูรากา ในหมู่เกาะคุก บาไบ ในคิริบาส ปูลาอา ในซามัว เวียกัน ในฟีจี ปูลากา ในตูวาลู และ นาเวีย ในวานูอาตู[1] เป็นไม้ล้มลุกโตเร็ว ต้นเดี่ยวหรือเป็นกอ เหง้าสั้นเรียวเล็กจนเป็นหัวทรงกระบอกขนาดใหญ่ แผ่นใบลักษณะคล้ายหัวลูกศร ก้านใบกลมมีหนาม ยกเว้นบางพันธุ์ที่ไม่มีหนาม ดอกช่อ กาบหุ้มช่อดอกหนา สีขาว เขียวเหลือง หรือม่วง ผลมีเนื้อ สีส้มแกมแดง ไม่มีก้านผล เมล็ดมีลักษณะโค้ง
การกระจายพันธุ์พบตั้งแต่มาเลเซียไปจนถึงมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ เป็นไม้หายากในเกาะสุมาตราและชวา กลีสะสมแป้งในหัวใต้ดิน นำมารับประทานได้ โดยการต้ม นึ่ง อบหรือขูดให้ละเอียด ใบอ่อนใช้เป็นผัก ใบใช่ห่ออาหาร เปลือกชั้นนอกของก้านใบลอกออกมาเป็นเส้นใยละเอียด ใช้สานเสื่อ ในฟิลิปปินส์ใช้น้ำต้มช่อดอกเป็นยาขับประจำเดือน ใช้เป็นไม้ประดับได้ ในบางพื้นที่ของฟิลิปปินส์ใช้หัวเป็นอาหารที่สำคัญ และเป็นอาหารสำรองในหมู่เกาะไมโครนีเซีย หัวเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ 3-6 ปี สูงสุด 10 ปี ถ้าแกเกินไปเนื้อหัวจะแข็งเป็นไม้ มีเส้นใยมากเกินไป สายพันธุ์โตเร็วจะแย่กว่าพันธุ์ที่โตช้า หัวแก่เมื่อเริ่มออกดอก
อ้างอิง[แก้]
- พีรศักดิ์ วรสุนทโรสถ และคณะ. ทรัพยากรพืชในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 9: พืชให้คาร์โบไฮเดรตที่ไม่ใช่เมล็ด. กทม. สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย. 2544. หน้า 109