เลิฟซองส์เลิฟซีรีส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก Love Songs Love Series)

เลิฟซองส์เลิฟซีรีส์ (Love Songs Love Series) เป็นละครโทรทัศน์ไทยที่มีชื่อเรื่องตามชื่อเพลงของแต่ละเพลง โดยสร้างต่อจากซีรีส์ Love Songs Love Stories By นิติพงษ์ ห่อนาค ผลิตโดย บริษัท เชนจ์ 2561 จำกัด ออกอากาศทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25

รายชื่อตอนในฤดูกาลที่ 1 (2559)[แก้]

เลิฟซองส์เลิฟซีรีส์
ประเภทละครโทรทัศน์, ซีรีส์
สร้างโดยบริษัท เก้ง กวาง แก๊งค์ จำกัด
กำกับโดยเอกสิทธิ์ ตระกูลเกษมสุข
ประเทศแหล่งกำเนิดไทย
ภาษาต้นฉบับไทย
การผลิต
ความยาวตอน75 นาที
ออกอากาศ
เครือข่ายจีเอ็มเอ็ม 25
ออกอากาศ4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 –
28 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เลิฟซองส์เลิฟซีรีส์ 1 (Love Songs Love Series 1) เป็นละครโทรทัศน์ไทยที่มีชื่อเรื่องตามชื่อเพลงของแต่ละเพลง โดยสร้างต่อจากซีรีส์ Love Songs Love Stories By นิติพงษ์ ห่อนาค บทโทรทัศน์โดย ธัญลักษณ์ จุลพงษ์ และ ธีระพัสตร์ ถนัดสอนสาร ผลิตโดย บริษัท เก้ง กวาง แก๊งค์ จำกัด ออกอากาศทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25

ฤดูร้อน[แก้]

เบสท์ (ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล) สาวผู้ที่มีดีกรีเป็นประธานสภานักเรียนของโรงเรียนเลิฟซองวิทยา ซึ่งนั่นทำให้เธอกลายเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ หนึ่งในนั้นก็คือ เม่น (ปฐมพงศ์ เรือนใจดี) เด็กหลังห้องที่พยายามจีบเบสท์ โดยมีฟิต (กฤตธวัฒน์ เอกชัย) เพื่อนสนิทของเม่นเป็นคู่แข่งคนสำคัญซึ่งฟิตนั้นมีดีกรีเป็นนักบาสสุดป๊อปของโรงเรียน แถมฟิตยังเป็นหนุ่มฮอตของสาวๆ ซึ่งก็รวมถึง มะลิ (กวิสรา ฮาวรังษี) ที่แอบชอบและปลื้มฟิตอยู่ห่างๆ ซึ่งทำให้เพื่อนซี้ในชมรมเดียวกันอย่าง ภัทร (ชลธร คงยิ่งยง) ต้องมาเป็นพ่อสื่อให้กับมะลิอย่างไม่เต็มใจ เพราะภัทรเองก็แอบชอบมะลิอยู่เหมือนกัน

นักแสดง[แก้]

สุขาอยู่หนใด[แก้]

เป้ง (ภัทร เอกแสงกุล) กับ เอ็ม (เผ่าเพชร เจริญสุข) เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ เอ็มเป็นแฟนกับ อิงอิง (สรัณณัฏฐ์ ประดู่คู่ยามดี) ส่วนเป้งเป็นแฟนกับ มีน (นฤภรกมล ฉายแสง) เป้งและเอ็มมีรุ่นพี่คือ ตั้ม (พงศ์พิชญ์ ปรีชาบริสุทธิ์กุล) วันหนึ่งพวกเขารู้สึกว่าชีวิตยังไม่มีความสุข จึงปรึกษาหาวิธีสร้างความสุขให้ตัวเองกับช่วงชีวิตวัยรุ่นนี้ให้ได้มากที่สุด จังหวะนั้นเองไลน์พี่ตั้มเด้งมาในกลุ่มลับ เล่าบรรยากาศความสนุกสุดฟินในงานคอนเสิร์ตที่ตั้มเคยไปมา เป้งกับเอ็มอยากไปมากจึงโทรเข้าไปเล่นเกมเพื่อชิงบัตรเข้างานในคลื่นวิทยุ ในที่สุดเป้งและเอ็มก็ได้บัตร VIP จากการช่วยเหลือของตั้ม ซึ่งทำงานเป็นสตาฟให้คอนเสิร์ตในครั้งนี้ เป้งและเอ็มจึงวางแผนโกหกมีนและอิงอิงว่าไปถ่ายงานต่างจังหวัด ในงานคอนเสิร์ตเป้งกับเอ็มเต้นอย่างสนุกสนาน หลังงานจบปรากฏว่าพวกเขาเจอกับโฮยอน (จุฑามาศ วิชัย) สาวเกาหลี ในสภาพเมาไม่รู้เรื่อง ทั้งคู่ไม่รู้จะจัดการกับเธออย่างไรดี จึงพากลับไปคอนโดด้วย โฮยอนฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ที่คอนโดเป้งและเอ็ม โฮยอนยังเมาอยู่ชวนเป้งและเอ็มเล่นเกมเป่ายิงฉุบ ใครแพ้ถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น เอ็มและเป้งแพ้โฮยอนตลอดจนต้องถอดเกือบหมดเหลือเพียงแค่บ็อกเซอร์อยู่ตัวเดียว ตั้มโทรเตือนเป้งกับเอ็มว่ามีนและอิงอิง กำลังจะมาที่คอนโด เป้งและเอ็มพยายามอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างที่อยู่กับโฮยอนให้มีนและอิงอิงฟัง แต่มีนกับอิงอิงไม่เชื่อและรู้ว่าทั้ง 2 หนุ่มโกหกแน่นอน จึงบอกเลิกทันที เอ็มและเป้งเครียดมากไม่รู้จะทำอย่างไร พวกเขาทั้งคู่จะหาทางออกให้กับความรักสนุกจนเกินเลยในครั้งนี้ได้หรือไม่

นักแสดง[แก้]

เพื่อนสนิท[แก้]

หวาน (ภาวดี คุ้มโชคไพศาล) เป็นเด็กนักเรียนใหม่ที่ย้ายมาจากต่างจังหวัดตอนกลางเทอม ความน่ารักของหวานเป็นที่หมายตาของแก๊งรุ่นพี่ม.6 หนึ่งในนั่นคือ พี่ติว (ธนบดี ใจเย็น) ติวเห็นว่าหวานเรียนห้องเดียวกับ โซ่ (ชานน สันตินธรกุล) หนุ่มตี๋ขวัญใจรุ่นน้องประจำโรงเรียน จึงใช้โซ่เป็นสะพานเชื่อมต่อเข้าไปจีบหวาน ซึ่งโซ่แม้ตัวเองจะชอบหวานเหมือนกันแต่ก็ต้องทำให้ด้วยความเกรงใจ หวานกับพี่ติวได้คบเป็นแฟนกันจากความช่วยเหลือของโซ่ แต่ในที่สุดก็ไปกันไม่รอดเพราะตัวเองก็แค่อยากจีบหวานตามกระแส ไม่ได้คิดจริงจัง หวานอกหักจากพี่ติวก็ได้โซ่เป็นเพื่อนสนิทคอยช่วยเหลือปลอบใจให้คำปรึกษาทุกอย่าง ฝันของโซ่เป็นจริงในตอนที่พี่ติวเลิกกับหวาน ก่อนจากไปพี่ติวได้บอกโซ่ไว้อย่างน่าซาบซึ้งว่า "กูรู้นะว่ามึงก็ชอบหวาน บอกเขาไปตรงๆ เหอะ กูไม่โกรธมึงหรอก"

หลังจากผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย ความสัมพันธ์ระหว่างโซ่กับหวานจึงเดินไปถึงจุดที่เปลี่ยนจากเพื่อนสนิทเป็นแฟนกันได้ในที่สุด จนมาถึงภาคปลายก่อนจะจบ ม.6 ที่ทุกคนต้องเตรียมตัวเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย ความแตกต่างระหว่างหวานกับโซ่คือ หวานซีเรียสมากในเรื่องการเรียนและการสอบ ในขณะที่โซ่ชิลมากเพราะคิดว่าเรียนที่ไหนก็ได้ ความไม่พอดีของคนสองคนจึงเกิดขึ้นจนถึงขั้นทำให้หวานบอกเลิกโซ่ และขอให้สถานะภาพกลับไปเป็นเพื่อนเหมือนเดิม จากเพื่อนกลายเป็นแฟนว่ายากแล้ว จากแฟนกลับไปเป็นเพื่อนยากยิ่งกว่า ยิ่งมีตัวแปรอื่นๆ เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มตี๋ก้ามปูที่เข้ามาจีบหวาน หรือสาวสวยรุ่นพี่ หยก (ณัฏฐธิดา ดำรงวิเศษพาณิชย์) ที่เข้ามาจีบโซ่ การประชดกันอย่างจริงจังจึงเกิดขึ้น และถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะยังมีใจให้กัน จนรู้สึกว่าลึกๆ ในความเป็นเพื่อนสนิทในวันนี้ ถ้าเป็นไปได้ก็ยังอยากจะกลับไปเป็นแฟนกันอีกครั้ง ทั้งสองคนจะทำยังไงกับความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปมาแบบนี้

นักแสดง[แก้]

พรหมลิขิต[แก้]

ธาม (ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) เรียนอยู่ปีสุดท้ายกำลังจะจบ และเตรียมที่จะคัดตัวเพื่อไปลงแข่งขันกีฬาระดับชาติ ธามเป็นที่ป๊อปปูล่าในกลุ่มของนักศึกษาสาวๆ ด้วยความเก่ง เท่และหน้าตาดี แต่ธามก็เป็นคนเก็บตัว มีโลกส่วนตัวสูง และชอบพูดจาขวางโลกอยู่มาก จนวันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อธามไปกินข้าวกับเพื่อนๆ หลังจากการฝึกซ้อมเสร็จ แล้วเพื่อนธามดันไปมีเรื่องกับกลุ่มคนเมาที่ร้านข้าวต้มจนเกิดการทะเลาะวิวาทกัน ธามไม่อยากให้มีเรื่องจึงเข้าไปห้ามเพื่อนแต่ก็ตกอยู่ในกลุ่มชกต่อยไปด้วย เหตุการณ์สงบเมื่อตำรวจมาแยก แต่ฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์ทั้งหมดมีคนที่เห็นเหตุการณ์ถ่ายคลิปแล้วเอาไปโพสต์ลง Social Media จนแพร่กระจายเป็นคลิปดัง และมีคนกดไลค์ แชร์ และคอมเม้นท์ด่าประจานเข้ามามากมาย ธามโดนคณบดีเรียกพบและบทลงโทษคือการถูกพักการเรียนและหมดสิทธิ์ในการเข้าคัดตัวไปแข่งทีมชาติด้วย ธามพยายามที่จะอธิบายว่าตนไม่ได้เป็นคนก่อเรื่อง คณบดีเข้าใจและเชื่อว่าธามไม่ได้ทำแต่จากหลักฐานคลิปที่ออกมา และกระแสของโลกโซเชียลทุกคนพุ่งประเด็นไปที่ธามทั้งหมดจึงต้องตัดสินแบบนี้ คณบดีเสนอให้ธามหากิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์หรืองานอะไรที่ช่วยเหลือทางมหาวิทยาลัย เพื่อล้างภาพพจน์ไม่ดีจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ในช่วงเวลาเดียวกัน อีฟ (เขมิศรา พลเดช) นักศึกษาเอกฟิล์มปีสุดท้าย อยากจะทำหนังสั้นส่งเข้าประกวดเพื่อชิงทุนไปเรียนต่อด้านภาพยนตร์ที่นิวยอร์กตามความฝันของเธอ อีฟอยากทำหนังแนวโรแมนติก ฝันหวานตามประสาสาวช่างฝัน โดยมีต้นแบบคือหนัง Notting Hill, You've got mail, The Classic แต่อาจารย์ที่ปรึกษาบอกว่าเธอไม่มีทางชนะได้ทุนถ้าทำหนังแนวนี้ จึงแนะนำให้อีฟทำหนังกึ่งสารคดีเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของธาม เพราะเรื่องราวชีวิตของธามมีความน่าสนใจทั้งในมุมของการเป็นนักกีฬาและในอีกมุมหนึ่งยังได้สะท้อนให้เห็นสังคมทุกวันนี้ที่เชื่อและแชร์ทุกสิ่งในโลกโซเชียลแบบไม่คิดไตร่ตรองก่อน จนทำให้มีคนอย่างธามต้องตกเป็นเหยื่อจากกระแสสังคมโลกโซเชียล ใจจริงอีฟไม่สนใจเลยเพราะมันเป็นแนวเรื่องที่เธอไม่อยากทำ แต่ ดาว (นารา เทพนุภา) เพื่อนสนิทของอีฟ ซึ่งแอบปลื้มธามอยู่และอยากช่วยเหลือธามให้หลุดพ้นจากมลทินนี้ เห็นว่าเป็นโอกาสดีและเหลือเวลาอีกไม่มากจะหมดเขตที่ต้องส่งเรื่องจึงแอบเขียนพล็อตเรื่องย่อและส่งประกวดโดยใส่ชื่อของอีฟว่าเป็นคนส่ง สรุปคือเรื่องผ่านการคัดเลือก อีฟจึงจำเป็นต้องลงมือทำหนังสั้นตามพล็อตเรื่องนี้โดยมีดาวรับปากว่าจะช่วยงานนี้เต็มที่ ถ้าเป็นอะไรที่เกี่ยวกับธาม เริ่มจากการที่อีฟต้องไปขอร้องให้ธามยอมที่จะเปิดเผยเรื่องราวชีวิตของตัวเองและยอมมาเล่นหนังให้เธอ ซึ่งธามไม่สนใจและไม่อยากทำแต่อาจารย์ที่ปรึกษาและคณบดีต้องช่วยเกลี่ยกล่อมให้ธามยอมช่วยอีฟทำหนังสั้นเพื่อส่งประกวดในนามของมหาวิทยาลัยจนได้ อีฟต้องใช้เวลาในการพูดคุย ศึกษานิสัยใจคอ คอยติดตามธามไปในที่ต่างๆ ทั้งในมหาวิทยาลัยและชีวิตประจำวันเพื่อเก็บข้อมูลเรียนรู้ตัวตนจริงๆ ของธามให้มากที่สุด เอามาเขียนบทและถ่ายหนังเก็บไปด้วย แต่ด้วยความที่ทั้งธามและอีฟมีบุคลิก วิถีชีวิต และความเชื่อที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งคู่จึงมักมีเรื่องทะเลาะและไม่ลงรอยกันอยู่ตลอดเวลาโดยมีดาวคอยเป็นคนห้ามทัพ

ในช่วงเวลาที่ถ่ายทำหนังสั้นธามและอีฟได้ใกล้ชิดกัน อีฟกลับได้เห็นตัวตนอีกมุมหนึ่งของธามว่า ภายใต้ภาพลักษณ์ที่ธามแสดงออกดูเป็นคนขวางโลก พูดจาตรงๆ แรงๆ แข็งกระด้าง ไม่แคร์ใคร ธามก็มีมุมที่อ่อนโยนอบอุ่นและยังดูโดดเดี่ยวน่าสงสาร จนทำให้อีฟแอบหลงรักธามโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆ ที่อีฟก็รู้ว่า ดาว เพื่อนสนิทของเธอนั้นชอบธามอยู่ ดาวมาปรึกษาอีฟว่าอยากบอกรักธามต้องทำยังไงดี อีฟรู้สึกอึดอัดใจ ส่วนธามเองก็เริ่มรู้สึกว่าตนเองสามารถยิ้มและมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้อีฟ เมื่อหนังสั้นของอีฟตัดต่อเสร็จส่งประกวด แต่ได้แค่ที่ 2 อีฟผิดหวังที่พลาดทุนครั้งนี้ แต่ธามแอบดีใจอยู่ลึกๆ ที่อีฟไม่ต้องไปเรียนต่อ ดาวชวนธามมานัดเลี้ยงปลอบใจให้อีฟ ดาวบอกอีฟว่าเธอตั้งใจว่าจะใช้โอกาสนี้บอกรักธามด้วยและอยากให้อีฟเป็นพยานในการบอกรักครั้งนี้ อีฟเศร้า ส่วนธามเองก็คิดว่าอยากบอกความรู้สึกของตนที่มีต่ออีฟเช่นกัน ในขณะที่ธามและดาวตั้งใจอยากจะพูดในสิ่งที่คิดมา อีฟซึ่งอยู่ในภาวะอึดอัดใจก็ได้รับข่าวจากอาจารย์ที่ปรึกษาว่า คนที่ชนะประกวดหนังสั้นขอสละสิทธิ์ไม่รับทุน ทางคณะกรรมการเลยจะมอบทุนให้อีฟไปเรียนต่อแทน เมื่อเหตุการณ์เกิดพลิกผันแบบนี้ อีฟจะตัดสินใจอย่างไร เธอจะไปเรียนต่อตามความฝันหรือไม่ ธามและดาวจะได้มีโอกาสบอกความในใจกับคนที่ตนแอบรักหรือไม่ ความรักของทั้งสามคนจะลงเอยแบบไหน

นักแสดง[แก้]

ขอบคุณที่รักกัน[แก้]

แมน (สาริษฐ์ ตรัยเลิศวิเชียร) หนุ่มน้อยวัย 16 ปี ผู้ที่ไม่เคยมีความฝันเป็นของตัวเองและแน่นอนเขายังไม่รู้ว่าอนาคตตัวเองอยากเป็นอะไร แมนเป็นตัวแทนของเด็ก ม.ปลายทั้งหลายในปัจจุบันที่รู้เพียงแต่ว่า เรียนสายวิทย์จะมีโอกาสมีทางเลือกมากกว่าสายศิลป์ และพ่อแม่ของเขาก็คะยั้นคะยอให้เลือกเรียนหมอหรือเรียนเป็นวิศวะ ทั้งๆ ที่ไม่ได้สนใจที่ความถนัดหรือความต้องการของแมนเลย ชีวิตการเรียนของแมนเป็นไปอย่างน่าเบื่อในโรงเรียนชายล้วน เวลาที่เขารอคอยก็คือเช้าวันเสาร์ วันที่เขาจะได้ไปเรียนพิเศษ ได้พบกับเพื่อนใหม่มากหน้าหลายตาที่มาจากหลายโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ติ้ง (นรีกุล เกตุประภากร) หญิงสาวที่มาจากโรงเรียนคอนแวนต์ชื่อดัง ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจว่าจะเป็นหมอมาตั้งแต่ ป.4 เรื่องราวคงไม่จบง่ายๆ เมื่อแมนถลำลึกไปกับโลกของหมออย่างจริงจัง ถึงขั้นไปสมัครเข้าค่ายอยากเป็นหมอของมหาลัยรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง เพียงเพราะมันจะเป็น 2 สัปดาห์ที่เขาจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับสกายตลอดทุกวันทั้งคืน แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนกลัวเลือดกลัวผีมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่เคยรู้ว่าจะต้องไปพบกับสิ่งที่ตัวเองเกลียดตัวเองกลัวตั้งแต่เลือดกบ เลือดหมู ไปจนถึงเลือดคน และสิ่งที่เรียกว่าเป็นสิ่งหลอนที่สุดก็คืออาจารย์ใหญ่ตัวจริงเสียงจริงจากค่ายนี้ เรียกได้ว่า 2 อาทิตย์ในสรวงสวรรค์ที่เขาคิดกลับกลายเป็น 2 อาทิตย์นรกบนดินไปเสียแล้ว

เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ความรักของแมนจะสมหวังหรือไม่ หรือเขาจะถอดใจจนหนีกลับบ้านก่อน และความลับของค่ายอยากเป็นหมอที่ถูกเก็บซ่อนไว้คืออะไร พบกับเรื่องราวอันสนุกสนานของมิตรภาพ ความรัก การเติบโตที่ยิ่งใหญ่ไปพร้อมๆ กัน

นักแสดง[แก้]

คนไม่จำเป็น[แก้]

ก้อง (ธิติ มหาโยธารักษ์) เด็กหนุ่มไม่เอาถ่าน บ้านเป็นห้องซ้อมดนตรี ก้องชอบถ่ายรูปและเล่นกล้องซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อก้องสอนและให้มรดกเป็นกล้องและอุปกรณ์รุ่นเก่าๆ ไว้เต็มห้องนอน วันหนึ่งสีสันในชีวิตเนือยๆ ของก้องกลับมาสดใส มีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อก้องเห็นรถขนของวิ่งมาจอดที่บ้านฝั่งตรงข้ามซึ่งปิดร้างไปหลายเดือน คนที่ย้ายมาอยู่เป็นพี่น้องสองสาวชื่อ มี่ (ญานนีน ภารวี ไวเกล) และ แหม่ม (ณภศศิ สุรวรรณ) มี่กำลังจะจบ ม.ปลาย ส่วนแหม่มพี่สาวคนสวยของมี่เพิ่งเรียนจบ ทั้งสองพี่น้องมีบุคลิกนิสัยที่ต่างกันชัดเจน แหม่มจะอ่อนหวานตรงข้ามกับมี่ที่ดูทะโมนและแสบกว่า ก้องเจอมี่ที่สถาบันสอนพิเศษเตรียมเอนทรานซ์ ทั้งคู่มีเหตุให้เกลียดขี้หน้ากันตั้งแต่เจอกันครั้งแรก มี่กลับมาบ่นให้แหม่มฟัง ก่อนจะยิ่งเซ็งหนักมากขึ้นเมื่อได้รู้ว่าก้องคือคนข้างบ้านที่ชอบเล่นกีต้าร์ เปิดเพลงเสียงดังกวนโสตประสาททุกคืน

แดน (ธนกร กุลจรัสสมบัติ) เป็นรุ่นพี่ที่มี่แอบชอบมาตั้งแต่เรียนมัธยม มี่รู้ว่าแดนรักพี่แหม่มมากแต่ก็ต้องทำใจไม่อยู่ใกล้เวลาแดนกับแหม่มอยู่ด้วยกัน ก้องไม่ค่อยชอบหน้าแดนเพราะเป็นคู่แข่งคนสำคัญ วันหนึ่งก้องบังเอิญรู้ว่ามี่แอบชอบแดนจากปากของ ติน (สิทธิเดช จอมจันทร์ยอง) ก้องล้อมี่จนทั้งคู่ทะเลาะกันแรง ก้องขู่มี่ว่าถ้ากีดกันเขาจากพี่แหม่มอีกก็จะบอกเรื่องนี้กับแหม่ม มี่เสียใจแอบร้องไห้แต่ก็ได้ตินเพื่อนข้างบ้านมาคอยมาปลอบใจ มี่คิดว่าตินเป็นเกย์จึงเปิดใจกับตินหลายเรื่องโดยไม่รู้ว่าที่จริงตินเป็นแค่ผู้ชายเรียบร้อยที่แอบชอบมี่อยู่

ช่วงปิดเทอมก่อนเข้ามหาวิทยาลัย มี่ไม่อยากอยู่บ้าน ชวนตินไปทำงานพิเศษที่ร้านกาแฟของเพื่อนแดน ซึ่งแดนแนะนำให้ ช่วงนั้นแดนกับแหม่มเกิดมีปัญหากัน ทั้งคู่เจอกันน้อยลง กลายเป็นว่ามี่กลับได้เจอแดนที่ร้านกาแฟบ่อยขึ้น มี่แอบปรึกษาตินว่าเรื่องแอบชอบแฟนพี่สาว ตินได้แต่รับฟังเพราะลึกๆ ก็เสียใจที่ได้รู้ว่ามี่ชอบแดนขนาดหนัก

ก้องได้โอกาสเข้าไปใกล้ชิดกับแหม่มมากขึ้น หลังจากแดนหายหน้าไป ก้องคิดจะพยายามเข้าไปแทนที่แดนเพื่อช่วยปลอบใจพี่แหม่มแต่ความจริงที่ก้องได้เจอกลับกลายเป็นว่าที่แหม่มกับแดนมีปัญหากันเพราะแหม่มเป็นฝ่ายขอห่างจากแดนเอง ที่หนักกว่านั้นคือก้องได้รู้ว่าแหม่มไม่เคยมองก้องมากกว่าน้องข้างบ้านเพราะแหม่มมีแฟนคนใหม่ที่เริ่มคบกันอยู่ มี่เห็นแดนซึมเศร้าก็ทนไม่ไหว สารภาพเรื่องในใจกับแดน แดนบอกมี่ว่าเขากับแหม่มดูออกนานแล้วแต่มี่เป็นแค่น้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น มี่เสียใจสุดๆ ตินตัดสินใจสารภาพรักกับมี่หวังจะช่วยให้มี่ดีขึ้น แต่กลับทำให้ทุกอย่างแย่หนักลงไปอีก

ผ่านไปไม่นาน เมื่อมหาวิทยาลัยเปิดเรียน เวลาดูเหมือนจะเยียวยาบาดแผลในใจให้ดีขึ้นได้ มี่ไปเรียนมหาลัยในลุคที่ดูน่ารักขึ้น ตินกลายเป็นเพื่อนสนิทจริงๆ ของมี่ ก้องบอกรักกับแหม่มแต่แหม่มบอกก้องว่าเป็นได้แค่พี่สาวของก้อง เพราะความจริงแล้วแหม่มกำลังกลับไปคบกับแฟนเก่าอีกคน ก้องเพิ่งเข้าใจว่าความรักไม่ได้เป็นแค่ภาพที่ตามองเห็นอย่างเดียว

ก้องกับมี่ต่างเติบโตขึ้น เมื่อได้ผ่านประสบการณ์เกี่ยวกับความรักเล็กๆ ด้วยกัน ทำให้ทั้งสองมองโลกในมุมมองที่กว้างขึ้นและเกิดมิตรภาพครั้งใหม่ระหว่างกันในที่สุด

นักแสดง[แก้]

รายชื่อตอนในฤดูกาลที่ 2 (2560)[แก้]

เลิฟซองส์เลิฟซีรีส์
ประเภทละครโทรทัศน์, ซีรีส์
สร้างโดยบริษัท เก้ง กวาง แก๊งค์ จำกัด
กำกับโดยเอกสิทธิ์ ตระกูลเกษมสุข
ประเทศแหล่งกำเนิดไทย
ภาษาต้นฉบับไทย
การผลิต
ความยาวตอน75 นาที
ออกอากาศ
เครือข่ายจีเอ็มเอ็ม 25
ออกอากาศ5 มีนาคม พ.ศ. 2560 –
31 ธันวาคม พ.ศ. 2560

เลิฟซองส์เลิฟซีรีส์ 2 (Love Songs Love Series 2) เป็นละครโทรทัศน์ไทยที่มีชื่อเรื่องตามชื่อเพลงของแต่ละเพลง โดยสร้างต่อจากซีรีส์ Love Songs Love Stories By นิติพงษ์ ห่อนาค บทโทรทัศน์โดย ธัญลักษณ์ จุลพงษ์ และ ธีระพัสตร์ ถนัดสอนสาร ผลิตโดย บริษัท เก้ง กวาง แก๊งค์ จำกัด ออกอากาศทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25

ยังโสด[แก้]

เรื่องราวของ 4 สาวนักศึกษาคณะธุรกิจการบินซึ่งประกอบไปด้วย เหมย (อนิพรรณ เฉลิมบูรณะวงศ์), โอ (ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย), มุก (รัตน์ฟ้า ไชยชื่นจิตต์) และ แพร (ณัฏฐธิดา ดำรงวิเศษพาณิชย์) พวกเธอจบจากโรงเรียนหญิงล้วนแห่งหนึ่งมาด้วยกันจึงรักและสนิทกันมาก ความฝันของพวกเธอคือการได้เดินทางท่องเที่ยว ดังนั้นคณะที่พวกเธอเลือกเรียนก็คือคณะธุรกิจการบินเพื่อเติมฝันการเดินทางให้พวกเธอ

วันหนึ่ง เมื่อแพรแอบนัดเดทกับหนุ่มรุ่นพี่ที่ครอบครัวหามาให้อย่างโน้ต (เลโอ โซสเซย์) โดยไม่บอกเพื่อนๆ เพราะกลัวโดนล้อ ด้านมุกเด็กเรียนประจำกลุ่มที่ขี้อายมากๆ เพื่อนจึงทำเซอร์ไพรส์วันแห่งความรักให้มุกด้วยการให้แมงมุม (นิธิพงษ์ พลจันทร์) มาหามุกเพื่อให้มุกเลิกกลัวผู้ชายแต่นั่นกลับยิ่งทำให้เรื่องราววุ่นวายมากขึ้น เพราะมุขดันชอบแมงมุมจริงๆ

ส่วนโอเป็นคนเดียวที่เคยมีแฟนอย่างจริงจังแต่ก็เจ็บมาไม่น้อยเพราะโอยังไม่ลืมรักเก่าที่ฝังใจกับเนม (จุมพล อดุลกิตติพร) จนไม่อาจมีรักใหม่ได้ แถมมิ้ม (พรรณปพร ศรีดุรงคธรรมพ์) แฟนใหม่ของเนมยังตามราวีโอเพราะกลัวว่าเนมจะกลับมาหาโอ มีเพียงเหมยที่ไม่สนใจความรักกับหนุ่มๆ คนไหน เพราะเธอมีคนในหัวใจอยู่แล้ว เรื่องราววุ่นๆ ในกลุ่ม 4 สาว (ยังโสด) แก๊งนี้จะสนุก สดใส วุ่นวาย ขนาดไหน แล้วจะมีชายใดข้ามกำแพงมาปลดสถานะโสดของพวกเธอ

นักแสดง[แก้]

ไกลแค่ไหนคือใกล้[แก้]

ดรีม (ชนม์ทิดา อัศวเหม) คุณหนูไฮโซ อยากไปเรียนต่อที่อังกฤษ แต่ทรงยศ (สุรจิต บุญญานนท์) พ่อของเธอกลับบังคับให้เธอสอบเข้าเรียนที่ม.เชียงใหม่ เพื่อเป็นการดัดนิสัยของเธอ 1 ปี ถ้าเธอทำเกรดเฉลี่ยในปีแรกได้ 3.00 เขาจะส่งเธอไปเรียนต่อที่อังกฤษตามความต้องการของดรีม และฝากฝังให้เธอไปอยู่ในความดูแลของป้านวล (นัฏฐา ลอยด์) อดีตแม่นมของดรีมสมัยตอนเล็กๆ เปิดเทอมวันแรกดรีมมาเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องสายจนถูกทำโทษคู่กับดิน (ธิติ มหาโยธารักษ์) หลานชายคนเดียวของป้านวลและเป็นเพื่อนเล่นกับดรีมตอนเด็กๆ พฤติกรรมการวีน เหวี่ยงของดรีม ทำให้บิว (อลิส ทอย) รุ่นพี่คณะเดียวกันเกิดอาการหมั่นไส้และไม่ชอบขี้หน้าจนหาเรื่องกลั่นแกล้งดรีมอยู่บ่อยๆ การกลับมาเจอดรีมอีกครั้งในตอนโตทำให้ดินรู้สึกดีกับดรีมมากยิ่งขึ้น และเขาก็คอยดูแลเธอไม่ห่างตามคำสั่งของทรงยศและป้านวล แต่เขาก็ไม่สามารถเข้าใกล้เธอได้ง่ายๆ เมื่อพีท (จักรพันธ์ วงศ์คณิต) รุ่นพี่ที่คณะ หล่อ เท่ห์ เป็นขวัญใจสาวๆ เข้ามาจีบดรีม ทำให้ดินน้อยใจและยิ่งรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อย ไม่คู่ควรกับดรีม จนวันหนึ่งดินบังเอิญได้กลับมาเจอกับแนน (ริต์ตา รามณรงค์) อดีตรุ่นพี่สมัยมัธยมที่เคยแอบชอบดิน ทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและดรีมเริ่มถอยห่างออกไปเรื่อยๆ

นักแสดง[แก้]

เรือเล็กควรออกจากฝั่ง[แก้]

ตุลย์ (ชลธร คงยิ่งยง) เด็กมัธยมปลายมาดนิ่งเคร่งขรึม ชอบลงมือทำมากกว่าพูด เขาเติบโตและถูกเลี้ยงมากับพ่อ (ดิลก ทองวัฒนา) ผู้คอยดูแลและทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ให้ตุลย์ตั้งแต่ตุลย์ยังเล็ก แต่ด้วยความที่พ่อเคยผิดหวังและผ่านการสูญเสียภรรยามาจึงเป็นคนไม่ค่อยคาดหวังอะไร ทำให้ตุลย์ไม่สนิทสนมกับพ่อเท่าที่ควร สมัยที่ตุลย์ยังเล็กบังเอิญไปพบแซกโซโฟนเก่าของพ่อและหยิบออกมาเล่นจนโดนพ่อดุ แต่นั่นก็เป็นแรงบันดาลใจให้ตุลย์ขอพ่อไปเรียนแซกโซโฟนเพราะอยากให้พ่อภูมิใจ แต่ตุลย์กลับต้องผิดหวังเพราะเขาไม่ได้แม้กระทั่งคำชมของพ่อแต่กลับเป็นคำตำหนิ พ่อเตือนว่าอย่างเหลิงโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าสาเหตุที่พ่อเลิกเล่นดนตรีเพราะฝังใจที่อดีตห่วงแต่เล่นดนตรีจนลืมสนใจแม่ของตุลย์จึงเป็นเหตุทำให้แม่เขาต้องตาย แต่ตุลย์ไม่ละความพยายามเขาได้เข้าเป็นสมาชิกวงดนตรีแจ๊สของโรงเรียน ซึ่งมี วิง (วิศรุต หิมรัตน์) เป็นหัวหน้าวง โดยมีเพื่อนอย่าง ก๊อก (ปัณฑา พัฒนอำไพวงศ์) และ เครป (พรพิพัฒน์ พัฒนเศรษฐานนท์) เป็นกำลังใจแต่ด้วยความเครียดที่ทำให้กดดันตัวเอง ทั้งเรื่องตั้งใจเรียนและเล่นดนตรี กลับทำให้เขายิ่งแย่ทั้งสองอย่าง จนเมื่อได้มาเจอกับ มิว (นฤภรกมล ฉายแสง) นักศึกษาเภสัชปี 2 ที่เคยอยากสอบเข้าคณะแพทย์แต่สอบไม่ติด มิวเข้ามาคอยให้กำลังใจ ติวหนังสือ และสอนให้ตุลย์มองโลกในแง่ดี ในขณะเดียวกันตุลย์ก็มักแวะไปบ้านยายแต้ว (ฉันทนา กิติยพันธ์) น้องสาวของยายแท้ๆ ของตุลย์ ที่อาศัยอยู่ในละแวกบ้านเดียวกัน ตุลย์เห็นยายชอบเล่นเปียโน ทั้งๆ ที่เล่นก็ไม่ค่อยไพเราะเท่าไร แต่ยายแต้วกลับเป็นแรงผลักดันให้ตุลย์ พยายามเล่นแซกโซโฟน เพื่อให้พ่อภูมิใจ ตุลย์จะเอาชนะความกลัวและเปลี่ยนเป็นความกล้า เพื่อลบล้างความรู้สึกผิดที่ฝังในใจของผู้เป็นพ่อได้หรือไม่

นักแสดง[แก้]

แพ้ทาง[แก้]

เบิ้ล (ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์) หนุ่มที่รักและชื่นชอบการ์ตูนเป็นชีวิตจิตใจ เบิ้ลเรียนโรงเรียนชายล้วนและใช้ชีวิตอยู่กับเตี่ยและพี่ชาย ไม่เคยได้ใกล้ชิดผู้หญิงแม้แต่คนเดียว วันหนึ่งเบิ้ลสอบติดคณะศิลปกรรมตามที่ฝันเอาไว้ และต้องเข้ารับน้องกับรุ่นพี่ที่เป็นสาวสวยตัวท็อปของมหาวิทยาลัยอย่าง ปลาทู (อรัชพร โภคินภากร) รุ่นพี่ศิลปกรรม ป๊อปแป๊ป (สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ) รุ่นพี่คณะแพทย์ศาสตร์ และ โอโม่ (ณัฐจารี หรเวชกุล) รุ่นพี่คณะพลศึกษา ระหว่างกิจกรรมการรับน้องเบิ้ลได้ใกล้ชิดกับรุ่นพี่สามสาวสวยจนเบิ้ลเริ่มมีอาการคันและตามร่างกายของเบิ้ลก็มีผื่นแดงขึ้นเต็มตัว ทำให้ ปีโป้ (ทินกร ภูวศักดิวงศ์) และ ดัมโบ้ (ธนกร โพธิ์วิจิตร) รูมเมทของเบิ้ลเป็นห่วงและเลือกใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งให้เบิ้ลเคลมรุ่นพี่สักคนเพื่อให้อาการคันหายไป เบิ้ลใกล้ชิดกับสามสาวมากขึ้น จน ตูน (ธวัช พรรัตนประเสริฐ) รุ่นพี่ศิลปกรรม หมั่นไส้เบิ้ลที่มีสาวๆ เข้าหาเยอะแยะ ตูนตามแอบถ่ายคลิปวีดีโอเวลาเบิ้ลมีอาการคันเพื่อประจานเบิ้ลจนทุกอย่างแย่ลง และเบิ้ลก็ไม่มีท่าทีจะหายจากอาการคัน เบิ้ลตัดสินใจไปตรวจกับหมอสติเฟื่องท่านหนึ่ง จากผลการวินิจฉัยอาการของเบิ้ล หมอสรุปว่าเบิ้ลมีอาการแพ้ทาง แพ้ความสวย ความน่ารักของผู้หญิง ทำให้เบิ้ลมีอาการคัน และผื่นแดงขึ้นทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดกับผู้หญิง

นักแสดง[แก้]

โปรดส่งใครมารักฉันที[แก้]

จิน (ลภัสลัล จิรเวชสุนทรกุล) นักเรียนมัธยมปลาย ชอบให้เพื่อนๆ เรียกเธอในชื่อเกาหลีว่ายูจิน แต่ชื่อจริงของเธอคือจินตรา ที่แม่เรียกเป็นประจำ จินเป็นแฟนคลับเกาหลีตัวยงชื่นชอบวง TOEFL แต่รักเป็นพิเศษคือ เอริค (เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช) นักร้องนำของวง จินใฝ่ฝันว่าเธอจะได้เจอตัวจริงของเอริคและบอกรักเขาให้ได้ วันหนึ่งจินรู้ข่าวจาก ฟาง รุ่นพี่ที่ชอบเกาหลีเหมือนเธอ (กัญญาภัค พงษ์ศักดิ์) ว่าวง TOEFL จะมาเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทย แฟนคลับรอดูกันเพียบทำให้จินและฟางซื้อตั๋วไม่ทัน จินเกือบจะหมดหวังในการเจอเอริคแต่แล้วโอกาสใหม่ก็เข้ามาหาจินเมื่อค่ายเพลงประกาศว่าจะมีการจัดประกวดวงดนตรีและหากวงไหนชนะจะได้เวิร์คช็อบใกล้ชิดกับวง TOEFL จินบังคับ เจ็ท (กันต์ ชุณหวัตร) ลูกชายป้าของเธอที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเพราะเจ็ทมีพรสวรรค์ในเรื่องของดนตรี ส่วนเจ็ทหวังว่าการเล่นดนตรีจะเป็นหนทางในการหาสาวสักคน เจ็ทตัดสินใจชวน อิ๊ค (เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช) เพื่อนสนิทหน้าหล่อ ใส่แว่นแต่ไร้ซึ่งพรสวรรค์ในการร้องเพลงให้มาทำวงด้วยกัน เมื่ออิ๊คได้เจอกับจิน เขาหลงรักจินตั้งแต่แรกพบ เมื่อจินให้ทำอะไรเขาก็พร้อมที่จะทำให้จินหมดทุกอย่าง วันหนึ่งจินบังเอิญเห็นอิ๊คถอดแว่น นั่นทำให้จินตกใจมาก เพราะอิ๊คมีใบหน้าละม้ายคล้ายกับเอริคนักร้องนำวง TOEFL การฟูลทีมเพื่อทำวงดนตรีของจินค่อนข้างยาก เพราะเธอยังขาดมือกีต้าร์และมือกลองทำให้จินต้องตระเวณหาคนมาร่วมวง เวลาผ่านไปจิน เจ็ท และอิ๊ค ได้บังเอิญเห็น แทน (วิชยุตม์ ลิ่มรัตนะมงคล) เล่นกีต้าร์ให้กับวงอื่นแต่ดันมีปัญหากับวง ทำให้แทนโดนไล่ออกจากวง ทั้ง 3 คนเลยชวนแทนให้มาเป็นมือกีต้าร์ในวง ส่วนเคนนี่ (ภีมพล พาณิชย์ธำรง) รู้เรื่องวงดนตรีของจินจากฟางจึงมาขอสมัครเป็นมือกลองให้กับวง เมื่อจินรวมวงจนครบทุกตำแหน่ง เธอรับหน้าที่ผู้จัดการวงสลับตำแหน่งให้อิ๊คขึ้นเป็นนักร้องนำ โดยลิปซิงก์ตามเสียงของเจ็ทที่ทำหน้าที่เล่นกีต้าร์แทนอิ๊ค ทั้งหมดซุ่มซ้อมเล่นดนตรีจนทำคลิปวีดีโอส่งประกวดและเข้ารอบ 1 ใน 5 วง สุดท้ายสำเร็จในนามวง "J.E.T.K" ระหว่างที่วงซ้อมดนตรีเพื่อเข้าประกวดที่ร้านอาหารที่จินทำงานพิเศษ ทำให้เจ็ทได้พบกับ แอ๋ม (ณัฐธิดา ตรีชัยยะ) เจ็ทชอบแอ๋มตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นและพยายามทำความรู้จักแต่เรื่องกลับยุ่งยากเมื่อแอ๋มเข้าใจว่าคนที่ตามจีบเธอคืออิ๊ค

นักแสดง[แก้]

แพ้คำว่ารัก[แก้]

เรื่องราวของเดย์ (ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล) ที่ยังทำใจไม่ได้หลังจากที่เขาสูญเสียเอ๋ (มณีรัตน์ คำอ้วน) แฟนสาวที่กำลังจะแต่งงานด้วยที่จากไปอย่างกะทันหันด้วยโรคร้าย แม้เวลาจะผ่านไปสองปีแล้ว เดย์ยังคงกลับมาเยี่ยมเอ๋ที่สุสานในจังหวัดจันทบุรี เขาก็ยังคงคิดถึงเธอมากไม่เคยเปลี่ยน แต่แล้วการเดินทางกลับมาต่างจังหวัดครั้งนี้ ทำให้เดย์บังเอิญพบกับข้าวผัด (มนสภรณ์ ชาญเฉลิม) บนรถทัวร์ เพราะข้าวผัดนอนหลับบนไหล่ของเขา ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันไป เมื่อข้าวผัดเดินทางมาถึงร้านที่เช่าไว้ขายของ ข้าวผัดได้พบกับน้าทีน (เดวิด อัศวนนท์) เจ้าของร้านออล อะเบ้าท์ ทีน ร้านขายของเกี่ยวกับทีนในย่านนั้น น้าทีนเล่าให้ข้าวผัดฟังถึงความอาถรรพ์ที่ร้านค้าย่านนั้นมีแต่คนย้ายออกไปกันหมด รวมถึงร้านของเดย์ที่อยู่ใกล้กับร้านของข้าวผัด เมื่อข้าวผัดรู้ว่าเดย์จะเซ้งร้านไปอีกคน เธออยากทำตามความฝันและอยากพิสูจน์ให้แม่กิ๊ก (ชนกวนันท์ รักชีพ) ได้เห็นว่าเธอดูแลตัวเองได้แล้ว ข้าวผัดพยายามทำตัวสนิทสนมและขอร้องให้เดย์เปิดร้านอีกครั้งเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเธอจนทั้งสองคนเริ่มสนิทกัน ด้านข้าวผัดกับเดย์เริ่มรู้สึกดีต่อกันมากขึ้น แต่อาร์ท ลูกศิษย์ของเดย์ชอบข้าวผัดตั้งแต่แรกพบ และขอร้องให้เดย์ช่วยจีบข้าวผัดแต่เดย์ไม่ยอมทำเพราะลึกๆ เขาแอบชอบข้าวผัดแต่ไม่รู้ตัว จนกระทั่งวันเกิดของเดย์มาถึง ทั้งข้าวผัดและน้าทีนช่วยกันเซอร์ไพรส์เดย์ จนทุกคนเมาหนักไม่ได้สติ เดย์กับข้าวผัดที่ตื่นมาตอนเช้า พบว่าตัวเองมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน

เมื่อเหตุการณ์บานปลายข้าวผัดขอให้เดย์ตกลงเป็นแฟนกับเธอและรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เดย์กลับคิดหนักเพราะเขายังไม่สามารถลืมเอ๋ได้และกลัวคำว่ารักจนไม่อยากเปิดใจให้ใคร เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร เมื่อความรักของทั้งคู่ต่างกันด้วยวัย ข้าวผัดจะได้ยินคำว่ารักจากเดย์หรือไม่ ส่วนเดย์จะเลิกกลัวความรักและเปิดใจให้ข้าวผัดหรือไม่

นักแสดง[แก้]

อ้าว[แก้]

เรื่องราวโรแมนติกสุดฮาของโอม (ปฐมพงศ์ เรือนใจดี) เชฟสุดเท่ ผู้มุ่งมั่นคิดเมนูอาหารแปลกๆ ใหม่ๆ แต่ยังคงฝันร้ายกับเรื่องเดิมในอดีตที่ถูกปั้น (ลาภิสรา อินทรสูต) แฟนเก่าบอกเลิกอย่างไร้เหตุผล แต่วันนี้โอมไม่ใช่หนุ่มอ้วนแต่งตัวเชยอีกต่อไป เขากลายเป็นเชฟโอมสุดเท่ที่มีสาวๆ ห้อมล้อมตลอด โอมกำลังคบกับฝน (ทิพนารี วีรวัฒโนดม) สาวสวยใสผู้มีรอยยิ้มและดวงตาใสซื่อราวกับนางฟ้า แต่ทว่าคืนหนึ่ง ปั้นกลับมาหาโอมแถมยังมาง้อขอคืนดีกับเขาแต่เรื่องไม่ง่ายอย่างที่ปั้นคิด โอมยังคงฝังใจกับอดีตอันเจ็บปวดที่ปั้นทำเขาอกหัก โอมบอกปั้นว่าตอนนี้เขาคบกับฝนและรักกันมาก ปั้นไม่ยอมและทำทุกวิธีทางเพื่อทำให้โอมยอมคืนดีด้วย ปั้นบอกโอมว่าเธอหนีออกจากบ้านกำลังลำบากเพราะพ่อของปั้นบังคับให้ปั้นแต่งงานกับลูกนักการเมืองผู้มีอิทธิพล โอมจำใจยอมให้ปั้นมาอาศัยอยู่ด้วยชั่วคราวแต่มีข้อแม้ว่าห้ามยุ่งเรื่องส่วนตัวและห้ามทำให้ฝนจับได้เด็ดขาด เพราะว่าฝนเวลาหึงจะหึงโหดจากสาวหวานกลายร่างเป็นขาเหวี่ยงตัวแม่ โอมมีสิทธิ์หัวแตกได้ง่ายๆ

เรื่องราววุ่นวายของโอมกับสองสาวจึงบังเกิด โอมต้องคอยหลบไม่ให้ฝนจับได้ว่าเขาให้ปั้นมาอยู่บ้าน ทุกวันปั้นก็คอยทำตัวน่ารักทั้งอ่อยทั้งกวนประสาท โอมยังมีคำถามคาใจมากมายว่าทำไมวันนั้นปั้นจึงทิ้งเขาไป แล้วทำไมถึงกลับมาขอคืนดีกับเขา ปั้นมีแผนการอะไรซ่อนไว้ในใจกันแน่ ในที่สุดโอมก็ใจอ่อนกับปั้น ฝนแฟนสาวของเขาก็จับได้ เรื่องราวลุกลามบานปลาย โอมสับสนว่าจะเลือกใครดี ระหว่างฝนรักใหม่ที่แสนดี กับ ปั้นรักแรกที่ยังไม่เคยลืม

นักแสดง[แก้]

เรื่องที่ขอ[แก้]

สกาย (โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์) กับ ซี (ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช) ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมจนกระทั่งเรียนมหาวิทยาลัย สกายกับซีเป็นเพื่อนสนิทตัวติดกันมาก จน แซนดี้ (สรัณณัฏฐ์ ประดู่คู่ยามดี) แฟนของสกาย และ ซัน แฟนของซี (จิรกิตติ์ ถาวรวงศ์) หึงและไม่เข้าใจกัน ทำให้ทั้งสองคู่ทะเลาะกันจนถึงขั้นเลิกรา ด้านสกายเป็นห่วงซี จึงพาซีมาพักผ่อนรักษาหัวใจที่ทะเล ทำให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้น จากการดื่มหนักซีตัดสินใจขอสกายเป็นแฟน ด้านสกายที่แอบรักเพื่อนสนิทอย่างซีมาตั้งนานจึงตอบตกลงตามคำขอของซี

ความรักของทั้งคู่ก็ดูจะไปด้วยกันได้ดีเพราะทั้งสองคนรู้ใจกันอยู่แล้วว่าใครชอบอะไรไม่ชอบอะไรและต้องทำอะไรให้กันถึงจะรู้สึกดี แต่แล้วก็มีเรื่องที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ต้องสั่นคลอนเมื่อทั้งซันและแซนดี้ต่างกลับมาขอคืนดีกับคนรักเก่าของตัวเอง ทั้งๆ ที่สกายกับซีเพิ่งจะคบกันได้เพียงเจ็ดวันเท่านั้นและนั่นก็ทำให้สกายหวั่นไหว สกายบอกกับซีว่าระหว่างที่คบกันในเวลาเจ็ดวัน เขารู้สึกไม่ดี ไม่เหมือนตอนที่เป็นเพื่อนกับซีเลยจึงขอลดสถานะจากคนรักกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ทำให้ซีเสียใจมาก เมื่อความสัมพันธ์ของเพื่อนมันล้ำเส้นไปแล้ว ทั้งสองคนจะกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกได้หรือไม่

นักแสดง[แก้]

สิ่งของ[แก้]

แบม (ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์) สาวจบใหม่ได้ทำงานฝ่ายเสื้อผ้าในรายการ ทีนคลับ ที่รับปรึกษาปัญหาวัยรุ่น โดยมี พี่กรณ์ (ชานนท์ อักขระชาตะ) พิธีกรสุดหล่อขวัญใจชาวไทยดำเนินรายการ แบมมีพี่กรณ์เป็นแรงบันดาลใจให้เข้ามาทำงานที่นี่ เธอทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ใกล้ชิดและฝันว่าวันหนึ่งจะได้บอกความในใจกับพี่กรณ์ ด้วยความที่เป็นคนไม่สวยโดดเด่นกับบุคลิกอันกระโดกกระเดกทำให้ถูกกลั่นแกล้งจากรุ่นพี่และเพื่อนๆ ที่ทำงานเสมอ มีแต่ ต้าร์ (อัครวุฒิ มังคลสุต) หนุ่มฝ่ายกำกับรายการ คอยฟังความเพ้อเจ้อและให้คำปรึกษาแบบขวานผ่าซากอยู่บ่อยๆ แบมมีโลกส่วนตัวอีกอย่างในห้องพักที่คอยเก็บชิ้นส่วนเสื้อผ้าของพี่กรณ์มาประกอบใส่หุ่นโชว์เสื้อและคิดเอาเองว่าเป็นพี่กรณ์ที่แสนดี อบอุ่น คอยดูแลเป็นกำลังใจเธอในยามว้าเหว่ไม่มีใครและแอบอธิษฐานขอพรว่าขอให้มีใครสักคนที่เป็นเหมือนคนที่เธอต้องการเข้ามาในชีวิตจริงๆ สักครั้ง จะยอมทิ้งทุกอย่างและดูแลไม่ให้ห่างไปตลอดชีวิต แต่ก็เหมือนคำอธิษฐานลมๆ แล้งๆ ตามประสาสาวช่างฝัน

เมื่อเพื่อนร่วมงานรู้ว่าแบมคลั่งไคล้พี่กรณ์มาก เลยรวมหัวกันแกล้งด้วยการแสร้งว่าพี่กรณ์ก็น่าจะมีใจให้เธอทำให้เธอมีความหวังขั้นสุดจนกระทั่งจัดฉากบอกรักพี่กรณ์กลางรายการสด แต่ไม่มีใครคิดว่าแบมจะเชื่อเป็นตุเป็นตะถึงขึ้นลุกขึ้นบอกรักพี่กรณ์ขึ้นมาจริงๆ ขณะที่รายการกำลังดำเนินอยู่และแขกรับเชิญกำลังร้องไห้เสียใจเรื่องลูกตาย พี่กรณ์โมโหแบมมากถึงขั้นไล่แบมเป็นหมูเป็นหมา แบมรู้สึกเสียใจและผิดหวังกับตัวเองสุดๆ ทำลายหุ่นพี่กรณ์ในห้องที่เก็บสะสมไว้เละเทะและนั่งร้องไห้เสียสติ ต้าร์มาปลอบใจก็ไม่ฟัง ขอทำใจอยู่กับตัวเองแต่พออยู่คนเดียวแล้วได้สติ แบมเห็นซากหุ่นที่พังอยู่ก็เสียใจในสิ่งที่ทำลงไปจึงเข้าไปกอดหุ่นตัวนั้นร้องไห้จนหลับไป ในใจก็คิดว่าหุ่นนี้คือสิ่งเดียวที่เธอจะยึดเหนี่ยวไว้ได้ในชีวิต น้ำตาของแบมไหลหยดลงบนหุ่นนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากผ่านไปหนึ่งคืน แบมกลับพบว่าตื่นในอ้อมแขนของพี่กรณ์ที่มาปลอบใจ แบมคิดว่าเธอฝันไปเพราะเช็คดูในรายการสดพี่กรณ์ก็ยังออนอยู่และไม่นานก็พบว่าพี่กรณ์คนที่อยู่กับเธอในห้องคือหุ่นพี่กรณ์ที่เธอดูแลใส่ใจมาโดยตลอด นายหุ่นต้องการจะตอบแทนการให้ใจของเธอด้วยการดูแลสภาพจิตใจที่บอบช้ำ และเมื่อนิสัยดี อ่อนโยน อบอุ่นแบบที่เธอมโนถึงพี่กรณ์มาโดยตลอด แบมจึงเปิดใจและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเหมือนคู่รักที่เธอใฝ่ฝันมานาน ชีวิตของแบมดีขึ้นแต่ไม่นานก็พบว่าเธอไม่สามารถอยู่ห่างจากหุ่นได้เกิน 24 ชั่วโมงไม่เช่นนั้นหุ่นก็จะกลายสภาพไร้ชีวิตเหมือนเดิม และนั่นทำให้ชีวิตที่กำลังเริ่มเป็นปกติต้องรวนเพราะเธอต้องคอยดูแลนายหุ่นที่ต้องการอยู่กับเธอเกือบตลอดเวลา

แล้วแบมจะแก้ปัญหานี้อย่างไรเมื่อคนรอบข้างก็เริ่มรู้สึกว่าเธอตัดขาดจากโลกภายนอกมากขึ้น โดยเฉพาะ ต้าร์ ที่คอยติดตามพฤติกรรมของแบมอยู่ห่างๆ และพยายามจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือโดยไม่รู้เลยว่าแบมต้องการหรือไม่ ความรักในมโนนั้นจะดูแลยากไหมเมื่อเราต้องใช้ชีวิตจริง แบมจะพบคำตอบดีๆ ให้กับตัวเองและรักษาชีวิตของนายหุ่น หรือจะรักษาความสัมพันธ์แบบคนจริงๆ ที่ห่วงใยจาก ต้าร์ เอาไว้ได้หรือไม่

นักแสดง[แก้]

รายชื่อตอนในฤดูกาลที่ 3 (2561)[แก้]

เลิฟซองส์เลิฟซีรีส์
ประเภทละครโทรทัศน์, ซีรีส์
สร้างโดยบริษัท เก้ง กวาง แก๊งค์ จำกัด
กำกับโดยเอกสิทธิ์ ตระกูลเกษมสุข
ประเทศแหล่งกำเนิดไทย
ภาษาต้นฉบับไทย
การผลิต
ความยาวตอน75 นาที
ออกอากาศ
เครือข่ายจีเอ็มเอ็ม 25
ออกอากาศ17 มีนาคม พ.ศ. 2561 – 26 มกราคม พ.ศ. 2562

เลิฟซองส์เลิฟซีรีส์ 3 (Love Songs Love Series 3) เป็นละครโทรทัศน์ไทยที่มีชื่อเรื่องตามชื่อเพลงของแต่ละเพลง โดยสร้างต่อจากซีรีส์ Love Songs Love Stories By นิติพงษ์ ห่อนาค บทโทรทัศน์โดย ธัญลักษณ์ จุลพงษ์ และ ธีระพัสตร์ ถนัดสอนสาร ผลิตโดย บริษัท เก้ง กวาง แก๊งค์ จำกัด ออกอากาศทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25

เราและนาย[แก้]

มาร์ค (ธนัท รัตนสิริพันธ์) และ ไบร์ท (วชิรวิชญ์ ชีวอารี) สองหนุ่มหล่อเพื่อนซี้ จากโรงเรียนชายล้วนที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัย คณะสถาปัตยกรรมได้ พวกเขาเพิ่งจะพบกับสังคมใหม่ โลกใบใหม่ อาจารย์คนใหม่ ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจไปหมด ที่เข้าหาพวกเขาทั้งสองคนอย่างไม่มีหยุด รวมถึงสาวๆ ในมหาวิทยาลัยทั้งรุ่นเพื่อน รุ่นพี่ ซึ่งมาร์คกับไบร์ทก็เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว จนกระทั่งรุ่นพี่สุดหล่ออย่าง บุ๊ค (พงษ์นิรันดร์ กันตจินดา) ต้องออกมาเตือนว่าถ้าอยากมีชีวิตมหาวิทยาลัยที่สดใสอย่างเพิ่งมีแฟน ทั้งสองหนุ่มไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร บุ๊คจึงบอกว่าเพราะตนเข้ามาตอนปีหนึ่งก็มีแฟนเลย แล้วก็ทำให้โอกาสที่เข้ามาในชีวิตทั้งหมดต้องเสียไป ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่เราคิดว่าน่ารักแล้วมันก็ยังมีคนที่น่ารักกว่านั้นอีก หรือพอเวลาติดแฟนแล้วก็ทำให้พากันลงเหวแบบเขาที่ตอนนี้ควรจะเรียนจบไปตั้งนานแล้ว แต่ยังคงเรียนปีที่ 6 อยู่ มาร์คกับไบร์ทก็ต่อว่าบุ๊คว่าไปโทษผู้หญิงแต่ก็เห็นด้วยเรื่องที่ยังไม่มีแฟนดีกว่าเพราะมันจะปิดโอกาสที่พวกเขาจะไปเจอคนที่ดีกว่าไปเรื่อยๆ ทั้งสองจึงตกลงกันว่าห้ามมีแฟน ใครมีแฟนก่อนจะแพ้ ต้องซื้อโทรศัพท์มือถือให้อีกคน ซึ่งตรงกันข้ามกับ นาเดีย (สุภาวดี พิทักษ์วรรัตน์) และ ปลา (เกวลิน อุดมอักษร) สองสาวเพื่อนสนิทจากโรงเรียนหญิงล้วนที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยมาเช่นกัน เมื่อพวกเธอพบกับโลกใบใหม่และบวกกับความเก็บกดจากโรงเรียน ทั้งคู่จึงประกาศว่าจะต้องมีแฟนให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้อง รวมไปถึงมาร์คและไบร์ทด้วยแต่สองหนุ่มไม่เล่นด้วยเพราะพวกเธอดูไม่เข้าตาเลย เป้าหมายของมาร์คและไบร์ทก็เปลี่ยนไปเมื่อได้พบกับ ชาช่า (ชาช่า โมซิมันน์) รุ่นพี่ปี 2 ที่สวย สง่าและเป็นผู้หญิงที่ใครๆ ต่างหมายปอง ด้วยความที่ทั้งคู่มีข้อตกลงต่อกันว่าจะไม่มีแฟนจึงได้แต่แอบจีบโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ นอกจากนี้บุ๊คเองก็ยังมาตามจีบด้วยอีกคน ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่ปลื้มชาช่าแต่สาวเรียบร้อยอย่าง แมรี่ (แมรี่ แมรี่แอน) ก็อยากที่จะถูกหมายปองแบบชาช่าบ้างแต่ก็มีหนุ่มสุดจืดอย่าง บอล (อัครพล เอี่ยมสมบัติ) รุ่นพี่ปี 3 แอบสนใจเธออยู่โดยที่เธอไม่รู้ตัว

ซึ่งบอลเป็นหัวหน้าชมรมที่คอยทำประโยชน์ให้กับสถานที่ต่างๆ จึงให้บุ๊คกับชาช่าช่วยกันประชาสัมพันธ์หาคนเข้าชมรมไปร่วมกิจกรรมอาสากัน ซึ่งแน่นอนว่ามาร์คกับไบร์ทต้องรีบมาสมัครอยู่แล้ว รวมถึงแมรี่ นาเดีย และปลาก็ตามมาด้วย จึงเกิดเป็นเรื่องราวของความรัก ความผูกพัน มิตรภาพ ความบาดหมาง ผิดใจกัน น้ำตา ความฝัน และเป้าหมายของชีวิต สุดท้ายแล้วทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร

นักแสดงนำ[แก้]

(ชื่อตัวละคร มาจากชื่อเล่นจริงๆ ของแต่ละคน)

เพื่อนกันวันสุดท้าย[แก้]

เมย์ (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) สาวที่ทำงานในบริษัทประกันชีวิต ผู้ใฝ่ฝันที่จะมีชีวิตลุยๆ แบบผู้หญิงที่ทำงานเท่ๆ แต่ชีวิตไม่ได้หวือหวาเท่าใดนัก เมย์มีโอกาสได้ไปงานเลี้ยงรุ่นเพื่อนเก่าสมัยมัธยมและได้พบกับ เซฟ (นนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์) เกย์หนุ่มอดีตเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ทำงานเป็นช่างภาพอิสระ เมื่อถึงตอนงานเลี้ยงใกล้จะเลิก เซฟก็ประกาศตามหาเพื่อนสองคนที่จะร่วมเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น 2 คน เนื่องจากเซฟรับงานจ้างจากเมืองคิตะคิวชูเพื่อถ่ายภาพนำเสนอลงเว็บไซต์ จึงหาคนช่วยหารค่าอาหาร ค่าเดินทาง เมย์ตกลงที่จะไปด้วย เนื่องจากจะซื้อตั๋วเที่ยวญี่ปุ่นไปทำให้ นนท์ (ธนบูลย์ วัลลภศิรินันท์) แฟนหนุ่มประหลาดใจ ในวันเดินทางเซฟรอเมย์อย่างร้อนใจเพราะประตูใกล้จะปิดแล้ว เมย์มาถึงด้วยสภาพที่ไม่ค่อยสู้ดีนักเนื่องจากเพิ่งเลิกกับนนท์มา การเดินทางที่แสนชุลมุนจึงเริ่มขึ้น

การเดินทางในครั้งนี้มี ยอด (สิทธิโชค เผือกพูลผล) ผู้ช่วยตากล้องของเซฟร่วมเดินทางด้วย เมื่อไปถึงญี่ปุ่นทั้งหมดก็ได้มาพบกับ พี่เอ๊ะ รุ่นพี่ที่มีภรรยาเป็นคนญี่ปุ่นและทำกิจการอาหารไทยกับที่พักที่นั่น ในระหว่างการเดินทางเมย์และเซฟกลับมาสนิทกันมากขึ้น ยอดที่มองดูอยู่รู้สึกไม่พอใจเพราะตนแอบชอบเซฟอยู่ จึงขอแยกตัวออกจากกลุ่มไป เซฟช่วยปลอบใจและเปิดใจคุยกับเมย์จนเข้าใจกันมากขึ้น ระหว่างนั้นทั้งคู่ก็ได้พบกับโยชิ ที่เป็นรุ่นน้องของภรรยาของพี่เอ๊ะ โยชิชอบเมย์มาก ตามตื้อเมย์จนต้องแกล้งเป็นแฟนกับเซฟ ระหว่างที่กำลังวุ่น ยอดก็กลับมาอีกครั้งเพราะคิดทบทวนตัวเองแล้วแต่ก็เกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเมย์และเซฟคบกันจริงๆ เมย์จึงต้องรีบอธิบายให้ยอดฟัง และนนท์ก็ส่งข้อความมาขอคืนดี เมย์จึงตัดสินใจกลับไทย เซฟที่คิดกับเมย์เกินเพื่อนไปแล้ว ตัดสินใจที่จะอยู่ที่ญี่ปุ่นต่อ เมย์จึงกลับมาคนคนเดียว

เมย์กลับมาทำงานตามปกติและกลับมาคบกับนนท์อีกครั้ง ถึงภายนอกดูเหมือนจะมีความสุขแต่ภายในเมย์รู้สึกอึดอัดเพราะนนท์ต่างจากที่เมย์ต้องการ รวมถึงครอบครัวของเขาด้วย แม้ว่านนท์จะพยายามแค่ไหนก็ไม่ทำให้เมย์รู้สึกอึดอัดน้อยลง เมย์กลับมาญี่ปุ่นอีกครั้งเพราะงานศพของภรรยาพี่เอ๊ะ จึงได้พบกับเซฟอีกครั้ง ทั้งคู่คุยกันจนเข้าใจมากขึ้น เซฟไม่ได้คบกับยอดและยังคงเดินตามความฝันถ่ายภาพต่อไป ส่วนเมย์ก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมแต่ทั้งคู่สัญญาว่าวันใดที่เหนื่อยล้าจะกลับมาเจอกันที่ญี่ปุ่นตรงที่ดูพระอาทิตย์ด้วยกัน เวลาผ่านไปเมย์ก็เลิกกับนนท์และกลับมาที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง เมย์มารอเซฟที่จุดนัดพบ จนเมื่อเซฟกลับมา ทั้งคู่พบกันและตัดสินใจที่จะอยู่เป็นเพื่อนชีวิตกันโดยที่ไม่ต้องมีสถานะมาจำกัดความรู้สึกของทั้งคู่

นักแสดงนำ[แก้]

เสพติดความเจ็บปวด[แก้]

เต็นท์ (ธนัท รัตนสิริพันธ์) เด็กหนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดาคนหนึ่งที่ถูก ออม (กันย์ยภัค ขำสุนทร) ที่เป็นแฟนสาว บอกเลิกเขาผ่านทางโทรศัพท์ขณะที่เธอกำลังกลับไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัด ในขณะที่เต็นท์กำลังเศร้าเสียใจ เขาก็ได้มาพบกับ หนุ่ย (วชิรวิชญ์ เรืองวิวรรธน์) เพื่อนนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันที่ไม่ได้สนิทกันมากนักกำลังถูกทำร้ายร่างกาย ทั้งสองคนต่างก็มีบาดแผลด้วยกันทั้งคู่ คนหนึ่งเห็นชัดว่าเป็นบาดแผลทางกาย ส่วนอีกคนเป็นบาดแผลทางใจ ทั้งสองพากันมานั่งดื่มและพูดคุยปัญหาชีวิตกัน หนุ่ยเล่าว่าถูกทำร้ายร่างกายเพราะโดนหาว่าไปแอบคุยลับหลังกับแฟนชาวบ้าน ก่อนหนุ่ยจะยุให้เต็นท์ตามไปง้อออมที่ต่างจังหวัด เมื่อถูกหนุ่ยกวนมากๆ เต็นท์จึงซัดหนุ่ยด้วยหมัดจนสลบ

หนุ่ยตื่นขึ้นมาบนรถด้วยอาการมึนงง ก่อนจะพบว่าเต็นท์พาเขาขึ้นรถมาง้อออมที่ต่างจังหวัดด้วย ระหว่างที่แวะเติมน้ำมันก็มีสายโทรศัพท์เบอร์ที่ไม่คุ้นเคยโทรมาหาหนุ่ย ก่อนจะพบว่าเธอคือ พิ้งค์ (ปาณิสรา ริกุลสุรกาน) แฟนสาวของคนที่มาทำร้ายร่างกายหนุ่ย พิ้งค์ขอโทษหนุ่ยและถามอีกว่าอยู่ที่ไหน หนุ่ยบอกว่ากำลังจะไปต่างจังหวัด พิ้งค์จึงขอตามไปด้วย ทั้ง 3 คนมุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดอุทัยธานี โดยที่ไม่รู้ว่าบ้านของออมอยู่ที่ไหน เต็นท์จึงเปิดดูข้อมูลในเฟซบุ๊กแต่ก็พบว่าถูกออมลบเพื่อนทิ้งไปแล้ว จึงขอใช้เฟซบุ๊กของหนุ่ยเพื่อที่จะได้ไปขอออมเป็นเพื่อในเฟซบุ๊ก ระหว่างที่รอออมตอบรับ หนุ่ยก็เป็นตัวตั้งตัวตีในการพาทุกคนออกไปเที่ยว เพื่อหวังว่าจะได้อยู่ใกล้ชิดกับพิ้งค์ แต่กลายเป็นว่าพิ้งค์ชอบเต็นท์มากกว่า

ตกดึกหนุ่ยมีแผนที่จะมอมเหล้าพิ้งค์ แต่ด้วยความคออ่อนทำให้หนุ่ยเผลอหลับไปก่อน ออมตอบรับการเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก เต็นท์จึงรีบที่จะออกไปตามหาออมทันที แต่พิ้งค์ห้ามไว้เพราะเห็นว่าดึกมากแล้ว รุ่งเช้าเต็นท์ปลุกหนุ่ย แต่หนุ่ยรู้สึกเพลียจึงขอนอนต่อ เต็นท์กับพิ้งค์จึงไปตามหาออมกันสองคน เมื่อเจอกับออม พวกเขาก็พบว่าออมอยู่กับแฟนใหม่และออมก็ได้บอกความจริงว่าตนคบซ้อน แต่ไม่กล้าบอกเต็นท์เพราะยังอยากเป็นเพื่อนกันอยู่ เต็นท์รู้สึกว่างเปล่า และพิ้งค์ก็มารู้ความจริงอีกว่าคนที่คุยแล้วรู้สึกดีในเฟซบุ๊กไม่ใช่หนุ่ย แต่เป็นเต็นท์ที่ปลอมเป็นหนุ่ยมาคุยตอนที่เธอมีปัญหากับแฟน พิ้งค์โกรธเต็นท์มากจึงหายไปจากชีวิตเต็นท์ ที่เต็นท์ทำไปก็เพราะต้องการแก้แค้นหนุ่ยที่ออมเคยเล่าให้ฟังว่าเธอเคยทำแท้งตอนที่คบกันเล่นๆ กับหนุ่ย เต็นท์จึงใช้เฟซบุ๊กหนุ่ยปลอม บอกความรู้สึกที่มีและหวังว่าพิ้งค์จะเข้าใจ

นักแสดงนำ[แก้]

จะรักหรือจะร้าย[แก้]

เรื่องราวของ เต๋อ (วชิรวิชญ์ ชีวอารี) หนุ่มหน้าตาดีท่าทางลึกลับ เปิดสอนพิเศษเพื่อหารายได้ แต่กิจการไปได้ไม่สวยจึงไปกู้เงินนอกระบบจาก ป๋าแดง (แอนนา ชวนชื่น) พ่อของ สนู๊ปปี้ (อภิชญา ทองคำ) แต่ถูกเพื่อนซี้อย่าง โจ้ (ธนกร กุลจรัสสมบัติ) ขโมยเงินชิ่งหนีหายไป เต๋อไม่มีเงินใช้หนี้ ป๋าแดงจึงยื่นข้อเสนอให้ติวหนังสือให้สนู๊ปปี้ลูกสาวที่ไม่สนใจการเรียน ให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ เพื่อแลกกับหนี้สินทั้งหมดของเต๋อ เมื่อสนู๊ปปี้รู้ว่าเต๋อต้องมาติวหนังสือให้ เธอก็ไม่สนใจ เพราะไม่ชอบความขี้เก๊กของเต๋อ สนู๊ปปี้จึงวางแผนกับ ปุ๊กกี้ (เกวลิน อุดมอักษร) และ บิงซู (ณัฐธิดา ตรีชัยยะ) แกล้งป่วนเต๋อสารพัด แต่เต๋อก็เนียนตีสนิทจนทำให้สามสาวไว้ใจและยอมอ่อนข้อให้

สนู๊ปปี้เริ่มพัฒนาตัวเอง ตั้งใจอ่านหนังสือมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ป๋าแดงจึงตัดสินใจส่งสนู๊ปปี้ไปเรียนต่างประเทศ แต่เต๋อไม่อยากให้ไป จึงขอเดิมพันกับป๋าแดงว่า ถ้าสนู๊ปปี้สอบไม่ได้ เต๋อจะปิดกิจการสอนหนังสือ หลังจากนั้นเต๋อก็มุ่งมั่นตั้งใจสอนสนู๊ปปี้อย่างหนัก และสนู๊ปปี้ก็ตั้งใจอ่านหนังสือและทำตามที่เต๋อสอนทุกอย่าง เพราะไม่อยากไปเรียนที่ต่างประเทศ ความใกล้ชิดกันทำให้ทั้งคู่เริ่มรู้สึกดีต่อกัน แม้เพื่อนๆ ของสนู๊ปปี้จะหยอก แต่ทั้งเต๋อและสนู๊ปปี้ต่างก็ปากแข็งไม่ยอมรับ สุดท้ายทั้งคู่จะยอมรับและเปิดใจให้กันหรือไม่ และสนู๊ปปี้จะสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หรือไม่ ต้องรอลุ้นกันต่อไป

นักแสดงนำ[แก้]

สบาย สบาย[แก้]

เรื่องราว นนท์ (ธนนท์ จำเริญ) เด็กหนุ่มที่โตมาพร้อมกับบทเพลงของ พี่เบิร์ด - ธงไชย แมคอินไตย์ เพราะแม่ของนนท์ชอบพี่เบิร์ดมาก จนกระทั่งแม่ของนนท์จากไป สิ่งที่ทำให้เขายังรู้สึกถึงแม่ได้ก็คือเพลงของพี่เบิร์ด นนท์เป็นคนมาดกวน นิสัยทะเล้น แต่ก็มักมีสาวๆ มาจีบเขาก่อนเสมอ นนท์มีเพื่อนสนิทสมัยเด็กคือ ปัน (พัชรา ทับทอง) สาวสวยเจ้าเสน่ห์ที่เปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น ปันเป็นคนตรงๆ ชอบสังสรรค์ ชอบทุ่มเทเพื่อความรักแต่ก็จบด้วยการโดนทิ้งตลอด ปันคิดเสมอว่าเธอโชคร้ายเรื่องความรัก ฉะนั้นที่ระบายเมื่อเธออกหักก็คือเพื่อนสนิทอย่างนนท์

เวลาที่นนท์ปลอบใจปันเขามักจะฮัมเพลง หยดน้ำ ของพี่เบิร์ดให้ปันฟัง เพราะนนท์หวังว่าปันอาจจะรับรู้ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอเหมือนเช่นเพลงนี้ ปันเองไม่รู้ว่ามันคือเพลงอะไร แต่เธอก็จะสบายใจทุกครั้งที่ได้ยิน จนกระทั่งวันหนึ่งนนท์เผลอหลุดปากบอกรักปัน พอปันรู้ว่าเพื่อนที่สนิทที่สุดแอบรักเธอมาตลอด ปันจะยอมรับความรู้สึกของนนท์หรือไม่ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเปลี่ยนไปอย่างไร นนท์จะสมหวัง หรือต้องเสียปันเพื่อนที่เขาแอบรักไป

นักแสดงนำ[แก้]

ก็เคยสัญญา[แก้]

เรื่องราว ความรัก ความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิทสามคน โซ่ (ภัทร เอกแสงกุล) เคน (วชิรวิชญ์ ชีวอารี) และ แป้ง (สโรชา บุรินทร์) ทั้งหมดคนเดินทางไปดูสถานที่ที่ชายทะเลแห่งหนึ่งเพื่อถ่ายภาพยนตร์สั้นส่งประกวดด้วยกัน ซึ่งโซ่กับเคนตกลงกันว่าจะใช้เวลาช่วงนี้สารภาพรักแป้ง แต่บังเอิญระหว่างเดินทางรถของพวกเขาก็เกิดเสียหลักไปชน หมวย (คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์) ทั้ง 3 คนตกใจมากเพราะ หมวยมีท่าทางเหมือนคนเสียสติ แต่อยู่ๆ ต่อ (สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร) ก็เข้ามาช่วยและพาหมวยกลับบ้านไปรักษา โซ่ เคน และ แป้ง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมต่อถึงไม่พาหมวยไปโรงพยาบาล พวกเขาจึงรีบตามทั้งคู่ไปและพยายามถามต่อว่าเกิดอะไรขึ้นกับหมวย จนได้รับรู้เรื่องราวความรัก มิตรภาพ คำมั่นสัญญา เมื่อ 20 ปีก่อนระหว่าง หมวย ต่อ และ เป้ (รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์)

โซ่ เคน และแป้ง สนใจเรื่องราวนี้มากจึงขอนำเรื่องของ หมวย เป้ และ ต่อ ไปทำหนังสั้นประกวด แต่ต่อไม่ยอมเพราะไม่อยากให้หมวยเสียใจหากหมวยจำเรื่องราวในอดีตได้ ซึ่งนั่นทำให้ โซ่ กับ เคน เริ่มเข้าใจความรักมากขึ้นและรับรู้ความตั้งใจของต่อ ทั้งคู่จึงกลับมาคิดทบทวนเรื่องราวความรักของพวกเขาทั้งสามคนอีกครั้ง สุดท้ายโซ่กับเคนจะยอมสารภาพรักแป้งอย่างที่ตั้งใจกันไว้แต่ต้นหรือไม่ พวกเขาจะตัดสินใจอย่างไร ระหว่างความรักที่อาจจะต้องเสียเพื่อนคนหนึ่งหรือมิตรภาพที่จะคงอยู่ตลอดไป

นักแสดงนำ[แก้]

X Years After คำสัญญา...เพื่อนรัก[แก้]

การเดินทางกลับบ้านเกิดของ ต้า (ยศวัศ สิทธิวงค์) โจ (ภาวดี คุ้มโชคไพศาล) บี (ศิตา มหารวิเดชากร) เสือ (ธนกร กุลจรัสสมบัติ) และ กอล์ฟ (กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา) กลุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเองแล้วกลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบ 10 ปี หลังจากได้รับจดหมายจาก X เพื่อนคนเดียวในกลุ่มที่ยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดและได้หายตัวไป ซึ่งในจดหมายมีใจความว่ากลับมาทำตามสัญญาที่เคยให้กัน ต้า โจ บี เสือ และกอล์ฟ สงสัยว่ามันคืออะไร พวกเขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปที่บ้านเกิดของ X เพื่อหาคำตอบแต่พอไปถึงบ้าน X ปรากฏว่า X ไม่ได้อยู่ที่บ้านเดิมแล้ว ภารกิจการตามหา X เริ่มต้นขึ้นซึ่งช่วงระยะเวลาที่พวกเขาตามหา X ก็ทำให้พวกเขาได้ระลึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ทั้งมิตรภาพ ความฝัน และความรัก รวมถึงปมต่างๆ ของแต่ละคนจนทำให้พวกเขาได้รู้ว่าตัวตนจริงๆ ของพวกเขานั้นเป็นอย่างไร สัญญาลึกลับของเพื่อนกลุ่มนี้คืออะไร และพวกเขาจะเจอ X หรือไม่

นักแสดงนำ[แก้]

ความเชื่อ[แก้]

กิต (บุณยกร รัตนอำนวยชัย) นักเรียนตัวอย่างของโรงเรียนที่กำลังจะได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ทุกอย่างต้องพังลง เมื่อ อาจารย์โอฬาร (นที เอกวิจิตร) มาแจ้งว่ากิตและเด็กอีก 4 คน ว่า ติด ร. วิชากิจกรรม ซึ่งจะทำให้เรียนไม่จบและไม่ได้ทุนเรียนต่อ ครูเบน (มณีรัตน์ คำอ้วน) ครูที่ปรึกษาของเด็กๆ จึงเข้ามาช่วยทำให้ครูใหญ่ยื่นข้อเสนอว่าวิธีเดียวที่จะแก้ ร. ตัวนี้ คือเด็กทุกคนต้องรวมตัวกันทำวงดนตรีไปแข่งขันแทนวงเก่าของโรงเรียนที่โดนโรงเรียนอื่นซื้อตัวไป กิตจึงรวมตัวกับ ทาม (ศุภวิชญ์ ตันติมาภรณ์) ฝรั่ง (ชินดนัย เดชะวลีกุล) เต่า (แดน พฤกษ์พยุง) กี้ (ลลิตา บุญภาณุวิจิตร) และ ฟาง (ฐิติชญา ชิวปรีชา) ทำวงดนตรีขึ้นมาชื่อว่า แสลมบอดี้ แต่การตั้งวงครั้งนี้ทุกคนนั้นไม่มีความมั่นใจว่าตัวเองจะชนะได้ พร้อมทั้งระหว่างการแข่งขันพวกเขาต้องเจอกับอุปสรรคต่างๆ มากมายทั้งครอบครัวและคู่แข่งที่น่ากลัว ทำให้พวกเขารู้สึกท้อแท้ ครูเบนจึงเป็นคนคอยช่วยให้กำลังใจเด็กๆ มาตลอด

นักแสดงนำ[แก้]

การออกอากาศ[แก้]

อ้างอิง[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]