ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กฎของโอห์ม"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
[[ไฟล์:OhmsLaw.svg|thumb|200px|ภาพแสดงความต่างศักย์ (V) ตกคร่อมตัวนำใด ๆ ที่มีค่าความต้านทาน (R)ทำให้เกิดกระแส (I)ไหลผ่านต้วนำนั้น]]
[[ไฟล์:OhmsLaw.svg|thumb|200px|ภาพแสดงความต่างศักย์ (V) ตกคร่อมตัวนำใด ๆ ที่มีค่าความต้านทาน (R)ทำให้เกิดกระแส (I)ไหลผ่านต้วนำนั้น]]


gggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggg
'''กฎของโอห์ม''' ใช้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง[[กระแสไฟฟ้า]]กับ[[ความต่างศักย์ไฟฟ้า]] และกระแสไฟฟ้ากับ[[ความต้านทาน]] กล่าวคือ กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวนำใด ๆ แปรผันโดยตรงกับความต่างศักย์ (แรงดันไฟฟ้าหรือแรงดันตกคร่อม คือกระแสมีค่ามากหรือน้อยตามความต่างศักย์นั้น) เขียนเป็นสมการได้ว่า

<math>I</math> ∝ <math>V</math>

และกระแสไฟฟ้าจะแปรผกผันกับความต้านทานระหว่างสองจุดนั้น(คือถ้าความต้านทานมากจะทำให้กระแสไหลผ่านน้อย, ถ้าความต้านทานน้อยจะทำให้มีกระแสมาก) เขียนเป็นสมการได้ว่า

<math>I</math> ∝ <math>1</math>/<math>R</math>

นำสูตรสมการทางคณิตศาสตร์ทั้งสองมารวมกัน, เขียนได้ดังนี้:

:<math>I = \frac{V}{R}</math>

โดยที่ <math>V</math> คือความต่างศักย์ มีหน่วยเป็น [[โวลต์]],
<math>I</math> คือกระแสในวงจร หน่วยเป็น [[แอมแปร์]]
และ <math>R</math> คือความต้านทานในวงจร หน่วยเป็น [[โอห์ม]]

กฎดังกล่าวตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่[[เกออร์ค ซีม็อน โอห์ม]] นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ผู้ที่ตีพิมพ์ผลงานใน ค.ศ. 1827 บรรยายการทดลองวัดค่าแรงดันและกระแสผ่านลวดความยาวต่าง ๆ กัน และอธิบายผลด้วยสมการ (ซึ่งซับซ้อนกว่าสมการบนเล็กน้อย)


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:22, 20 กันยายน 2561

ภาพแสดงความต่างศักย์ (V) ตกคร่อมตัวนำใด ๆ ที่มีค่าความต้านทาน (R)ทำให้เกิดกระแส (I)ไหลผ่านต้วนำนั้น

gggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggg

อ้างอิง

William F. Smith,1993, Foundation of Materials Science and Engineering