ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ห้องสมุดที่ว่างเปล่า"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Chainwit. (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าใหม่: '''''ห้องสมุดที่ว่างเปล่า''''' ({{lang-en|The Empty Library}}, 1995) หรือรู้จักในชื่อ '''''บีบลิโอเทค''''' ({{lang-de|Bibliothek}}; ห้องสมุด) เป็นอนุสรณ์สาธารณะโดยประติมากรชาวอิสราอล มีชา อุลล์มัน เพื่อระลึกถึงNa...
ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560
 
Chainwit. (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560
บรรทัด 3: บรรทัด 3:
''ห้องสมุดที่ว่างเปล่า'' มีลักษณะเป็นห้องใต้ดินชนาด {{convert|530|x|706|x|706|cm}} ผนังเป็นตู้หนังสือที่ว่างเปล่า และมีแผ่นกระจกปิดทับด้านบน ตัวประติมากรรมนี้ฝังอยู่ใต้ดินท่ามกลางทางเดินเท้าของจัตุรัส<ref name="sculpture"/> อนุสรณ์นี้เป็นตัวอย่างของ "รูปติดลบ" (negative form) ดังที่เจมส์ อี ยัง (James E. Young) เรียก บุ๋มลงไปในพื้นหินของบาเบลพลัทซ์เป็นหลุม<ref name=":4" /> การจัดวางอนุสรณ์ชิ้นนี้ให้อยู่ใต้ดินทำวห้ผู้ชมต้องยื่นคอและก้มหน้าเพื่อมองเข้าไปภายในห้อง<ref name="sculpture">{{Cite magazine|last=Bickel|first=Stefanie|date=October 2008|title=Searching for the Heavens When I Look Downward: A Conversation with Micha Ullman|url=https://www.sculpture.org/documents/scmag08/oct_08/ullman/Ullman.shtml|archive-url=https://web.archive.org/web/20200112021820/http://www.sculpture.org:80/documents/scmag08/oct_08/ullman/Ullman.shtml|archive-date=12 January 2020|journal=Sculpture|volume=27|issue=8|pages=32–37}}</ref> พื้นที่ภายในห้องมีติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อให้ไม่เกิดไอน้ำเกาะกระจก และภายในห้องเปิดไฟสว่างอยู่ตลอดเวลา<ref name=":2" /> ซึ่งเห็นชัดเป็นพิเศษในยามค่ำคืน
''ห้องสมุดที่ว่างเปล่า'' มีลักษณะเป็นห้องใต้ดินชนาด {{convert|530|x|706|x|706|cm}} ผนังเป็นตู้หนังสือที่ว่างเปล่า และมีแผ่นกระจกปิดทับด้านบน ตัวประติมากรรมนี้ฝังอยู่ใต้ดินท่ามกลางทางเดินเท้าของจัตุรัส<ref name="sculpture"/> อนุสรณ์นี้เป็นตัวอย่างของ "รูปติดลบ" (negative form) ดังที่เจมส์ อี ยัง (James E. Young) เรียก บุ๋มลงไปในพื้นหินของบาเบลพลัทซ์เป็นหลุม<ref name=":4" /> การจัดวางอนุสรณ์ชิ้นนี้ให้อยู่ใต้ดินทำวห้ผู้ชมต้องยื่นคอและก้มหน้าเพื่อมองเข้าไปภายในห้อง<ref name="sculpture">{{Cite magazine|last=Bickel|first=Stefanie|date=October 2008|title=Searching for the Heavens When I Look Downward: A Conversation with Micha Ullman|url=https://www.sculpture.org/documents/scmag08/oct_08/ullman/Ullman.shtml|archive-url=https://web.archive.org/web/20200112021820/http://www.sculpture.org:80/documents/scmag08/oct_08/ullman/Ullman.shtml|archive-date=12 January 2020|journal=Sculpture|volume=27|issue=8|pages=32–37}}</ref> พื้นที่ภายในห้องมีติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อให้ไม่เกิดไอน้ำเกาะกระจก และภายในห้องเปิดไฟสว่างอยู่ตลอดเวลา<ref name=":2" /> ซึ่งเห็นชัดเป็นพิเศษในยามค่ำคืน


ในวโรกาสครบรอบ 60 ปีของเหตุการณ์การเผาหนังสือที่เบเบลพลัทซ์ ในปี 1993 คณะกรรมาธิการสิ่งก่อสร้างและบ้านเรือนเบอร์ลิน (Berlin Senat for Building and Housing) ได้ส่งคำเชิญไปยังศิลปินสามสิบคนเข้าค่วมการแข่งขันออกแบบอนุสรณ์<ref name=":2">{{Citation|last=Arandelovic|first=Biljana|chapter=Public Art in Berlin|date=2018|pages=39–210|publisher=Springer International Publishing|isbn=978-3-319-73493-4|doi=10.1007/978-3-319-73494-1_3|title=Public Art and Urban Memorials in Berlin|series=The Urban Book Series}}</ref> โดยผลงานของศิลปินชาวอิสราเอล [[Micha Ullman|มีชา อูลล์มัน]] ได้รับเลือก<ref name=":3">{{Cite web|url=http://www.harvarddesignmagazine.org/issues/9/memory-and-counter-memory|title=Harvard Design Magazine: Memory and Counter-Memory|last=Young|first=James Edward|website=www.harvarddesignmagazine.org|access-date=2019-12-06}}</ref> โดยศิลปินเสนอให้ขุดลงไปในเบเบลพลัทซ์เพื่อสร้าง "หลุมว่างเปล่า"<ref name=":4">{{Cite book|title=The stages of memory : reflections on memorial art, loss, and the spaces between|last=Young, James Edward|date=2016|publisher=University of Massachusetts Press|isbn=978-1-61376-493-0|location=Amherst|pages=158|oclc=963603953}}</ref> อนุสรณ์เปิดเมื่อ 20 พฤษภาคม 1995<ref name=":5">{{Cite web|url=https://www.visitberlin.de/en/book-burning-memorial-bebelplatz|title=Book burning memorial at Bebelplatz|website=www.visitberlin.de|language=en|access-date=2019-12-07}}</ref>
หลายปีหลังเปิดอนุสรณ์ได้มีการติดตั้งแผ่นป้ายทองสัมฤทธิ์ห่างไปไม่กี่ฟุต<ref name=":3" /> ซึ่งระบุเนื้อความจากบทละคร ''[[Almansor]]'' (1820) ผลงานประพันธ์ของนักเขียนชาวยยิวเยอรมัน [[Heinrich Heine|ไฮน์ริช ไฮเนอ]] แปลได้ว่า "มันเป็นเพียงบทนำ; เมื่อใดพวกมันเผาหนังสือ ท้ายสุดมันก็เผามนุษย์เช่นกัน" หนังสือของไฮเนอ[[List of authors banned in Nazi Germany|ถูกนาซีขึ้นบัญชีดำ]] และเป็นไปได้ว่าถูกนำมาเผาที่จัตุรัสนี้เช่นกัน<ref name=":1" />

หลายปีหลังเปิดอนุสรณ์ได้มีการติดตั้งแผ่นป้ายทองสัมฤทธิ์ห่างไปไม่กี่ฟุต<ref name=":3" /> ซึ่งระบุเนื้อความจากบทละคร ''[[Almansor]]'' (1820) ผลงานประพันธ์ของนักเขียนชาวยยิวเยอรมัน [[Heinrich Heine|ไฮน์ริช ไฮเนอ]] แปลได้ว่า "มันเป็นเพียงบทนำ; เมื่อใดพวกมันเผาหนังสือ ท้ายสุดมันก็เผามนุษย์เช่นกัน" หนังสือของไฮเนอ[[List of authors banned in Nazi Germany|ถูกนาซีขึ้นบัญชีดำ]] และเป็นไปได้ว่าถูกนำมาเผาที่จัตุรัสนี้เช่นกัน


==อ้างอิง==
==อ้างอิง==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:37, 14 สิงหาคม 2566

ห้องสมุดที่ว่างเปล่า (อังกฤษ: The Empty Library, 1995) หรือรู้จักในชื่อ บีบลิโอเทค (เยอรมัน: Bibliothek; ห้องสมุด) เป็นอนุสรณ์สาธารณะโดยประติมากรชาวอิสราอล มีชา อุลล์มัน เพื่อระลึกถึงการเผาหนังสือโดยนาซีที่มีขึ้นที่เบเบลพลัทซ์ในเบอร์ลิน เมื่อ 10 พฤษภาคม 1933 อนุสรณ์นี้ตั้งอยู่ลึกลงไปใต้ดินในจัตุรัสเบเบลพลัทซ์ ภายในเป็นตู้หนังสือว่างเปล่า เหตุการณ์การเผาหนังสือนั้นเกิดขึ้นโดยหนังสือ 20,000 เล่มเล่มจากนักเขียนที่ส่วนใหญ่เป็นชาวยิว, นักคอมมิวนิสต์, เสรีนิยม และวิจารณ์สังคม ถูกเผาโดยยุวชนนาซีต่อหน้าผู้ชมจำนวนมาก บริเวณด้านหน้าหอสมุดใหญ่ของมหาวิทยาลัย[1]

ห้องสมุดที่ว่างเปล่า มีลักษณะเป็นห้องใต้ดินชนาด 530 โดย 706 โดย 706 เซนติเมตร (17.39 โดย 23.16 โดย 23.16 ฟุต) ผนังเป็นตู้หนังสือที่ว่างเปล่า และมีแผ่นกระจกปิดทับด้านบน ตัวประติมากรรมนี้ฝังอยู่ใต้ดินท่ามกลางทางเดินเท้าของจัตุรัส[2] อนุสรณ์นี้เป็นตัวอย่างของ "รูปติดลบ" (negative form) ดังที่เจมส์ อี ยัง (James E. Young) เรียก บุ๋มลงไปในพื้นหินของบาเบลพลัทซ์เป็นหลุม[3] การจัดวางอนุสรณ์ชิ้นนี้ให้อยู่ใต้ดินทำวห้ผู้ชมต้องยื่นคอและก้มหน้าเพื่อมองเข้าไปภายในห้อง[2] พื้นที่ภายในห้องมีติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อให้ไม่เกิดไอน้ำเกาะกระจก และภายในห้องเปิดไฟสว่างอยู่ตลอดเวลา[4] ซึ่งเห็นชัดเป็นพิเศษในยามค่ำคืน

ในวโรกาสครบรอบ 60 ปีของเหตุการณ์การเผาหนังสือที่เบเบลพลัทซ์ ในปี 1993 คณะกรรมาธิการสิ่งก่อสร้างและบ้านเรือนเบอร์ลิน (Berlin Senat for Building and Housing) ได้ส่งคำเชิญไปยังศิลปินสามสิบคนเข้าค่วมการแข่งขันออกแบบอนุสรณ์[4] โดยผลงานของศิลปินชาวอิสราเอล มีชา อูลล์มัน ได้รับเลือก[5] โดยศิลปินเสนอให้ขุดลงไปในเบเบลพลัทซ์เพื่อสร้าง "หลุมว่างเปล่า"[3] อนุสรณ์เปิดเมื่อ 20 พฤษภาคม 1995[6]

หลายปีหลังเปิดอนุสรณ์ได้มีการติดตั้งแผ่นป้ายทองสัมฤทธิ์ห่างไปไม่กี่ฟุต[5] ซึ่งระบุเนื้อความจากบทละคร Almansor (1820) ผลงานประพันธ์ของนักเขียนชาวยยิวเยอรมัน ไฮน์ริช ไฮเนอ แปลได้ว่า "มันเป็นเพียงบทนำ; เมื่อใดพวกมันเผาหนังสือ ท้ายสุดมันก็เผามนุษย์เช่นกัน" หนังสือของไฮเนอถูกนาซีขึ้นบัญชีดำ และเป็นไปได้ว่าถูกนำมาเผาที่จัตุรัสนี้เช่นกัน

อ้างอิง

  1. NDR. "10. Mai 1933: Bücherverbrennungen in Deutschland". www.ndr.de (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ 2019-10-24.
  2. 2.0 2.1 Bickel, Stefanie (October 2008). "Searching for the Heavens When I Look Downward: A Conversation with Micha Ullman". Sculpture. Vol. 27 no. 8. pp. 32–37. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 January 2020.
  3. 3.0 3.1 Young, James Edward (2016). The stages of memory : reflections on memorial art, loss, and the spaces between. Amherst: University of Massachusetts Press. p. 158. ISBN 978-1-61376-493-0. OCLC 963603953.
  4. 4.0 4.1 Arandelovic, Biljana (2018), "Public Art in Berlin", Public Art and Urban Memorials in Berlin, The Urban Book Series, Springer International Publishing, pp. 39–210, doi:10.1007/978-3-319-73494-1_3, ISBN 978-3-319-73493-4
  5. 5.0 5.1 Young, James Edward. "Harvard Design Magazine: Memory and Counter-Memory". www.harvarddesignmagazine.org. สืบค้นเมื่อ 2019-12-06.
  6. "Book burning memorial at Bebelplatz". www.visitberlin.de (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-12-07.