โรคใหลตาย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

โรคใหลตาย (อังกฤษ: sudden unexpected death syndrome (ย่อ: SUDS) หรือ sudden unexpected nocturnal death syndrome (ย่อ: SUNDS)), มักสะกดผิดว่า โรคไหลตาย (ดู ศัพทมูล), เป็น ความตายที่เกิดแก่บุคคล ไม่ว่าวัยรุ่น (adolescent) หรือ ผู้ใหญ่ (adult) อย่างปัจจุบันทันด่วนขณะนอนหลับ และไม่อาจอธิบายสาเหตุแห่งความตายนั้นได้

ศัพทมูล[แก้]

ใน ปี พ.ศ. 2533 ซึ่งเป็นปีที่โรคใหลตายปรากฏ มีปัญหาว่า "ใหลตาย" หรือ "ไหลตาย" สะกดอย่างไรจึงจะถูกต้อง ราชบัณฑิตยสถานจึงประชุม และมีความเห็นเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเห็นควรสะกดว่า "หล" (สระ ไ ไม้มลาย) เพราะ "ไหล" เป็นภาษาถิ่นอีสาน ปรากฏในพจนานุกรมภาษาถิ่นอีสาน-ภาคกลาง ฉบับปณิธาน ของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสสฺมหาเถระ) มีความหมายว่า "นอนหลับไม่ได้สติ" ประกอบกับเป็นชื่อโรคซึ่งเป็นวิสามานยนาม และมิใช่หนึ่งในคำยี่สิบคำที่ต้องเขียนด้วยไม้ม้วน ขณะที่อีกฝ่ายเห็นควรสะกด "หล" (สระ ใ ไม้ม้วน) โดยพิเคราะห์ว่า "ใหล" มาจาก "หลับใหล" ซึ่งมีความหมายว่า "นอนหลับไม่ได้สติ" เหมือนกัน ในการประชุมครั้งนั้น ราชบัณฑิตยสถานมิได้ลงมติข้างไหน[1]

ปีเดียวกันนั้นเอง คณะกรรมการชำระพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ยกปัญหาดังกล่าวขึ้นพิจารณาอีกครั้ง โดยตรวจสอบจากเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น พจนานุกรมอีสาน-กลาง ฉบับมหาวิทยาลัยขอนแก่น-สหวิทยาลัยอีสาน, สารานุกรมภาษาอีสาน-ไทย-อังกฤษ ของ ปรีชา พิณทอง ฯลฯ ปรากฏว่า ไม่มีที่ใดในภาษาอีสานสะกด "หลับใหล" ว่า "หลับไหล" มีแต่พจนานุกรมของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสสฺมหาเถระ) ข้างต้นฉบับเดียวเท่านั้นที่อ้างว่าเทียบมาจากพจนานุกรมภาษาลาว ราชบัณฑิตยสถานจึงได้สืบค้นพจนานุกรมภาษาลาว พบว่า ในภาษาลาวก็สะกด "หลับใหล" ด้วยสระ ใ ไม้ม้วน เหมือนในภาษาไทย โดยให้ความหมายว่า "ละเมอ" หรือ "เอิ้นหรือฮ้องในเวลานอนหลับหรือในเวลาตื่นตกใจจนหลงสติ" มิได้สะกดอย่างสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสสฺมหาเถระ) แต่ประการใด[1] ที่สุด ราชบัณฑิตยสถานจึงมีมติว่า ชื่อโรคนี้ให้เขียน "ใหลตาย" โดยวินิจฉัยว่า "ใหล" มาจาก "หลับใหล"[1]

บันทึกการพบ[แก้]

โรคใหลตายนั้นมีบันทึกไว้เป็นครั้งแรกว่า เกิดในบรรดาชาวม้งที่ลี้ภัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาเมื่อ พ.ศ. 2520[2][3] และบันทึกอีกครั้งในประเทศสิงคโปร์ เมื่อผลการสำรวจย้อนหลัง (retrospective survey) ปรากฏว่า ชายไทยที่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง หลับแล้วเสียชีวิตอย่างฉับพลันโดยไร้สาเหตุ ในระหว่าง พ.ศ. 2525 ถึง 2533 จำนวน 230 คน[4] ในประเทศฟิลิปปินส์ปรากฏว่า ในปีหนึ่ง ๆ โรคใหลตายคร่าชีวิตชาวฟิลิปปินส์ไปร้อยละ 43 ต่อ 10,000 คน โดยผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่เป็นชายวัยรุ่น[5]

สาเหตุ[แก้]

โรคใหลตาย เดิมเชื่อว่ามีสาเหตุมาจาก วิญญาณเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่สัมผัสไม่ได้ ในประเทศไทยเชื่อว่า เกิดจากการกินขนมซึ่งทำจากข้าว ส่วนชาวฟิลิปปินส์เชื่อว่า การรับประทานคาร์โบไฮเดรตเป็นปริมาณมากก่อนนอนนั้นจะทำให้ใหลตาย หรือที่เรียกในภาษาตากาล็อกว่า "bangungot" (ฝันร้าย)

ในทางวิทยาศาสตร์ มีผลการค้นคว้าพบว่า ผู้ใหลตายล้วนมีโรคทางกายเกี่ยวกับหัวใจ หรือปัญหาอื่นทางโครงสร้างหัวใจ หรือมีปัญหาทางการหายใจ อันเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่เรียกสติกลับมาควบคุมการหายใจไม่ได้อีกครั้งและนำไปสู่ความตาย

การรักษา[แก้]

วิธีเดียวที่จะป้องกันโรคใหลตาย คือ ปลูกฝังเครื่องกระตุกหัวใจ (cardiovertor defibrillator implantation) ส่วนการรับประทานยาต้านหัวใจเต้นผิดจังหวะ (antiarrhythmic) นั้น ไม่มีผลช่วยชีวิตแต่อย่างใด[6]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 "สู่ข้อยุติ : โรคใหลตาย". (2533, 17 พฤษภาคม).จดหมายข่าวราชบัณฑิตยสถาน, (ปีที่ 2). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2553).
  2. Centers for Disease Control (CDC) (1981). "Sudden, unexpected, nocturnal deaths among Southeast Asian refugees". MMWR. Morbidity and Mortality Weekly Report. 30 (47): 581–589. PMID 6796814.
  3. Parrish RG, Tucker M, Ing R, Encarnacion C, Eberhardt M (1987). "Sudden unexplained death syndrome in Southeast Asian refugees: a review of CDC surveillance". MMWR Surveillance Summaries. 36 (1): 43SS–53SS. PMID 3110586.
  4. Goh KT, Chao TC, Chew CH (1990). "Sudden nocturnal deaths among Thai construction workers in Singapore". Lancet. 335 (8698): 1154. doi:10.1016/0140-6736(90)91153-2. PMID 1971883.{{cite journal}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)
  5. Gervacio-Domingo, G.; F. Punzalan; M. Amarillo; A. Dans. "Sudden unexplained death during sleep occurred commonly in the general population in the Philippines: a sub study of the National Nutrition and Health Survey ". Journal of Clinical Epidemiology. 60 (6): 561–571. สืบค้นเมื่อ 2008-12-09.
  6. Nademanee K, Veerakul G, Mower M; และคณะ (2003). "Defibrillator Versus beta-Blockers for Unexplained Death in Thailand (DEBUT) : a randomized clinical trial". Circulation. 107 (17): 2221–6. doi:10.1161/01.CIR.0000066319.56234.C8.{{cite journal}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]