โบสถ์นักบุญโธมัส (ไลพ์ซิช)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โบสถ์นักบุญโธมัส
เยอรมัน: Thomaskirche
แผนที่
ประเทศเยอรมนี
นิกายลูเทอแรน
นิกายเดิมโรมันคาทอลิก
เว็บไซต์www.thomaskirche.org
ประวัติ
สถานะโบสถ์แพริช
สถาปัตยกรรม
สถานะการใช้งานใช้งาน
รูปแบบสถาปัตย์กอทิก
โรมาเนสก์ (บริเวณร้องเพลงสวด/ตัวโบสถ์)
ปีสร้างคริสต์ศตวรรษที่ 12
ค.ศ. 1884–1889 (บูรณะ)
โครงสร้าง
เนฟกว้าง25 เมตร (82 ฟุต)
การปกครอง
นักบวช
แผนกEvangelical-Lutheran Church of Saxony
ศิษยาภิบาลRev. Britta Taddiken
ฆราวาส
ผู้อำนวยการเพลงGotthold Schwarz
Andreas Reize
นักออร์แกนUllrich Böhme
Music group(s)Thomanerchor

โบสถ์นักบุญโธมัส (เยอรมัน: Thomaskirche) เป็นโบสถ์เก่าแก่ของเมืองไลพ์ซิช มีหลักฐานการสร้างโบถส์ตั้งแต่ ค.ศ. 1212 ปัจจุบันมีความสำคัญเนื่องจากเป็นโบสถ์ที่โยฮัน เซบัสทีอัน บัค คีตกวีชื่อดังชาวเยอรมัน ที่เคยทำงานเพลง และยังเป็นสถานที่ฝังศพของเขาอีกด้วย

ประวัติ[แก้]

โบสถ์นักบุญโธมัส เมืองไลพ์ซิชทางด้านทิศเหนือ

ตามเอกสารประวัติศาสตร์ คาดว่าโบสถ์นักบุญโธมัส ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกใน ค.ศ. 1212 ด้วยสถาปัตยกรรมยุค Romanesque ออกแบบโดยมาร์กราเฟ ดีตริช (Margrave Dietrich) เพื่อเป็นอารามของคณะออกัสติเนียน ต่อมาในปี ค.ศ. 1355 จึงได้มีการบูรณะตัวโบสถ์ให้ทันสมัยขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมกอทิก ปัจจุบันยังคงหลงเหลือรูปแบบสถาปัตยกรรมดังกล่าวในบริเวณที่เป็นหน้าต่างทางทิศเหนือของโบสถ์ และบริเวณพื้นชั้นล่างของหอคอย[1]: 2 

ในยุคศตวรรษที่ 15 อุตสาหกรรมเหมือง แร่เงิน ทางด้านใต้ของเมืองไลพ์ซิช สร้างรายได้ให้แก่ชาวเมืองอย่างมาก โบสถ์แห่งนี้จึงได้รับการบูรณะใหม่ โดยขยายขนาดให้โอ่โถงยิ่งขึ้น โถงห้องประชุมใหญ่ถูกออกแบบโดยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคยุคปลาย ซึ่งเป็นต้นแบบของโบสถ์นักบุญโธมัสที่เห็นในปัจจุบัน โดยการบูรณะตัวโถงห้องประชุมแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1496 ยกเว้นส่วนหอคอยซึ่งมีความสูงถึง 68 เมตร ใช้เวลาในการสร้างยาวนาน แล้วเสร็จใน ค.ศ. 1702 สถาปัตยกรรมของโบสถ์นักบุญโธมัส ซึ่งโครงสร้างหลักของโบสถ์นักบุญโธมัส ได้คงรูปแบบนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

การตกแต่งภายในโบสถ์ ได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นแบบ Baroque ในช่วง ค.ศ. 1723 - 1750 ซึ่งเป็นช่วงที่โยฮัน เซบัสทีอัน บัค ทำงานเป็นนักดนตรี และนักประพันธ์เพลงที่เมืองไลพ์ซิช และต่อมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 การตกแต่งภายในจึงได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นแบบ โกธิคยุคใหม่ ใน ตามค่านิยมในยุคนั้น และได้คงรูปแบบดังกล่าวไว้จวบจนปัจจุบัน

ใน ค.ศ. 1539 มาร์ติน ลูเทอร์ นักการปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์และผู้ก่อตั้งลูเทอแรน ได้มาเทศนาที่โบสถ์แห่งนี้ ปัจจุบัน โบสถ์นักบุญโธมัสเป็นสถานนมัสการประจำสำหรับคริสเตียนนิกายลูเทอแรน มีรอบนมัสการทุกวันอาทิตย์เวลา 10:00 น.

โยฮัน เซบัสทีอัน บัค ทำงานเป็นนักดนตรี นักประพันธ์เพลง และหัวหน้าคณะนักร้องประสานเสียง ประจำโบสถ์ในเมืองไลพ์ซิช อันได้แก่ โบสถ์นักบุญโธมัส โบสถ์นักบุญนิโคลัส โบสถ์นักบุญเปาโล และโบสถ์โยฮานเนส (โบสถ์แห่งสุดท้ายนี้ถูกทำลายไปตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง และยังไม่ได้มีการสร้างสิ่งก่อสร้างใดทดแทนในบริเวณดังกล่าว) ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1723 จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1750 เดิมสุสานของเขา ตั้งอยู่ ณ โบสถ์โยฮานเนส เนื่องจากโบสถ์ดังกล่าวถูกระเบิดเสียหายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงได้มีการย้ายสุสานของเขามายังโบสถ์นักบุญโธมัสแห่งนี้ในปี ค.ศ. 1950 จนปัจจุบัน ต่อมาในปี ค.ศ. 1908 ได้มีการสร้างอนุสวรีย์ โยฮัน เซบัสทีอัน บัค ตั้งอยู่บริเวณทิศใต้ภายนอกของโบสถ์อีกด้วย และในปี ค.ศ. 2007 จึงได้มีการสร้างอนุสวรีย์ของเฟลิกซ์ เมลโดโซห์น ตั้งไว้ด้านทิศตะวันออกของโบสถ์แห่งนี้

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1943 โบสถ์นักบุญโธมัส ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรทำความเสียหาย และคงสภาพเช่นนั้นกระทั่งในปี ค.ศ. 1990 ภายหลังการรวมเยอรมนีสองประเทศจึงได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ โดยการบูรณะในครั้งนั้นแล้วเสร็จเพื่อเฉลิมฉลองงานครบรอบ 250 ปี วันเสียชีวิตของ โยฮัน เซบัสทีอัน บัค ซึ่งตรงกับวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 2000 ซึ่งรวมถึงการสร้างออแกนหลังใหม่ของโบสถ์ด้วย การบูรณะครั้งนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากสหภาพยุโรป

รายละเอียด[แก้]

โบสถ์มีความยาว 76 เมตร โดยบริเวณกลางโบสถ์มีความยาว 50 เมตร กว่าง 25 เมตร และกำแพงอยู่ในระดับสูงสุดที่ 18 เมตร หลังคาของโบสถ์มีความชันมากกว่าโบสถ์โดยทั่วไป โดยมีความชันของหลังคาถึง 63 องศา แต่ถ้าวัดความสูงจากพื้นโบสถ์จนถึงกระโดงหลังคา (ไม่รวมหอคอย) จะสูงถึง 45 เมตร[1]: 3 

ภายนอกด้านทิศตะวันออกของโบสถ์ เป็นที่ตั้งของอนุสวรีย์ของเฟลิกซ์ เมนเดลโซห์น บาร์โธลดี้ ผู้อำนวยวงออเครสต้าประจำเมืองไลพ์ซิชในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยอนุสวรีย์ดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงในงานครบรอบวันเกิด 200 ปีของเขาเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 2008 โดยเป็นอนุสวรีย์รูปเหมือนทองสัมฤทธิ์ขนาดสูง 6 ฟุต โดยอนุสวรีย์นี้สร้างขึ้นเพื่อทดแทนของเก่าที่สร้างเมื่อ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1936 เนื่องจากของเดิมถูกกองทัพนาซีทำลายด้วยเมนเดลโซห์นมีเชื้อสายยิว

คณะนักร้องประสานเสียง[แก้]

คณะนักร้องประสานเสียงของโบสถ์นักบุญโธมัส เมืองไลพ์ซิช มีหลักฐานว่าน่าจะกำเนิดมาพร้อม ๆ กับการก่อตั้งโบสถ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1254 แต่ในช่วงที่คณะนักร้องประสานเสียง ได้รับการกล่าวถึงมาก ได้แก่ในช่วงปี ค.ศ. 1723 - ค.ศ. 1750 ที่โยฮัน เซบัสทีอัน บัค ทำหน้าที่ประพันธ์เพลง และเป็นหัวหน้าคณะนักร้องประสานเสียงนี้ด้วย ณ ขณะนั้น คณะนักร้องประสานเสียงมีจำนวน 54 คน โดยทั้งหมดพักอาศัยอยู่บนชั้นดาดฟ้าของอาคารด้านข้างโบสถ์นั้นเอง

ปัจจุบันคณะนักร้องประสานเสียงโบสถ์นักบุญโธมัส เมืองไลพ์ซิช เป็นหนึ่งในคณะนักร้องประสานเสียงที่มีชื่อเสียงมากในประเทศเยอรมนี มีจำนวนนักร้องประสานเสียงถึง 100 คน นักร้องประสานเสียงของโบสถ์นี้เป็นเด็กผู้ชายทั้งสิ้น โดยมีอาคารเรียน และหอพักสำหรับกลุ่มนักร้องประสานเสียงตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันตกของเมืองประมาณ 15 นาทีจากตัวโบสถ์ ปัจจุบันคณะนักร้องประสานเสียงของโบสถ์มีการจัดแสดงทุกสัปดาห์ดังนี้

วันศุกร์ เวลา 18:00 น. วันเสาร์ เวลา 15:00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 10:00 น. ซึ่งเป็นรอบการนมัสการประจำสัปดาห์

การตกแต่งภายใน[แก้]

ออแกน[แก้]

เนื่องจาก คริสตจักรในประเทศเยอรมนี นิยมใช้ออแกน เป็นเครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลงเพลงนมัสการในคริสตจักร โดยเฉพาะที่โบสถ์แห่งนี้เป็นที่ทำงานของ โยฮัน เซบัสทีอัน บัค นักประพันธ์เพลงชื่อดังของโลก ที่ได้ประพันธ์เพลงเพื่อนมัสการพระเจ้าคริสตจักรในเทศกาลต่าง ๆ ในช่วงที่ท่านทำงานประจำโบสถ์ในเมืองไลพ์ซิช แต่ออแกนที่ใช้ในยุคที่โยฮัน เซบัสทีอัน บัค ดำรงชีวิตอยู่นั้น ไม่หลงเหลือให้เห็นในปัจจุบันแล้ว ปัจจุบันในโบสถ์นักบุญโธมัส มีออแกนอยู่ทั้งสิ้น 2 หลัง ได้แก่

  • ออแกนที่ตั้งอยู่ทิศตะวันตก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1889 โดยวิลเฮล์ม เซาเออร์ เดิมเป็นออแกนที่มี 63 เสียงด้วยกัน ต่อมาได้ถูกเพิ่มโทนเสียงขึ้นอีก 25 เสียง และกลายเป็นออแกน 88 โทนเสียงเมือปี ค.ศ. 1908
  • ออแกนที่ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นออแกนใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2000 ขณะทำการบูรณะโบสถ์โดยงบประมาณสนับสนุนของสหภาพยุโรป โดยออแกนหลังนี้ถูกออกแบบ และสร้างตามแบบออแกนที่เคยใช้ในโบสถ์นักบุญเปาโล เนื่องจากตามข้อมูลประวัติศาสตร์ เชื่อว่า ออแกนหลังดังกล่าวเป็นออแกนหลังที่โยฮัน เซบัสทีอัน บัค มักจะใช้เพื่อแสดงผลงานเพลงด้วยตนเอง โดยออแกนหลังนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทดแทนออแกนตัวเดิมที่ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1967 โดยอเล็กซานเดอร์ ชูเกอร์ โดยออแกนหลังดังกล่าวถูกย้ายไปไว้ที่โบสถ์เซนต์มารี เมืองเฟือซเตนวาลเด ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 จวบจนปัจจุบัน

โต๊ะพิธี[แก้]

โต๊ะพิธีที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ เป็นโต๊ะพิธีที่นำมาจากโบสถ์นักบุญเปาโล เมืองไลพ์ซิช เนื่องจากโบสถ์นักบุญเปาโลถูกทุบทิ้งโดยมติคณะปกครองคอมมิวนิสต์ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเป็นโต๊ะพิธีนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในยุคศตวรรษที่ 15

บานหน้าต่างกระจก[แก้]

บานหน้าต่างกระจกของโบสถ์เซนต์โธมัสนี้ ได้ติดตั้งเป็นกระจกแต่งสีในปี ค.ศ. 1889 เป็นเรื่องราวของพระเยซูทั้งสิ้น แต่ได้ถูกทำลายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จึงได้จัดทำกระจกแต่งสีขึ้นใหม่ โดยกระจกแต่งสีที่เห็นในปัจจุบัน ถูกจัดทำขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 2000 โดยมีทั้งสิ้น 5 บาน บรรยายเรื่องราวต่างกันตามลำดับ ดังนี้

  • บานที่ 1 แสดงภาพรำลึกถึงเหล่าทหารเยอรมันที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1
  • บานที่ 2 แสดงภาพกษัตริย์กุสตาฟ อดอลฟ์ที่สอง แห่งสวีเดน เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สงคราม 30 ปี ที่พระองค์ยกทัพมาร่วมสงครามกับเยอรมนีและเสียชีวิตในบริเวณนี้ (บริเวณตอนเหนือของเมืองไลพ์ซิช)
  • บานที่ 3 แสดงภาพมาร์ติน ลูเทอร์ และผู้ให้การสนับสนุนในการปฏิรูปศาสนา ได้แก่ อิเล็กเตอร์เฟรดเดอริกผู้ชาญฉลาดแห่งรัฐแซกโซนี และฟิลลิป เมลันชธอน ซึ่งเป็นผู้ที่ให้ที่พำนักแก่ มาร์ติน ลูเธอร์ และปกป้องเขาจากการตามล่าของวาติกัน เพื่อรำลึกถึงเหตุการปฏิวัติทางศาสนา ซึ่งได้เกิดขึ้นในรัฐแซกโซนี
  • บานที่ 4 แสดงภาพเฟลิกซ์ เมนเดลโซห์น บาร์ธอลดี้ อดีตผู้อำนวยการวงดนตรีออเครสตร้า และนักประพันธ์เพลงเชื้อสายยิว ที่เคยมาดำรงตำแหน่ง ณ เมืองไลพ์ซิช
  • บานที่ 5 แสดงภาพกษัตริย์ไกเซอร์ วิลเฮล์มที่ 1 กษัตริย์พระองค์แรกของเยอรมัน

คลังภาพ[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 Die Thomaskirche zu Leipzig (German). Evang. Luthergemeinde St. Thomas-Matthäi.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]