แชมป์ (สัตว์ประหลาด)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แชมป์ (สัตว์ประหลาด)
กลุ่มย่อยสัตว์ประหลาดทะเลสาบ / งูทะเล
ชื่ออื่นสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบแชมเพลน
ประเทศสหรัฐ, แคนาดา
ภูมิภาคทะเลสาบแชมเพลน
ถิ่นที่อยู่ในน้ำ
แผนที่ของทะเลสาบแชมเพลน

แชมป์ หรือ แชมปี[1] (อังกฤษ: Champ, Champy[1]) สิ่งมีชีวิตลึกลับขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ที่เชื่อว่าอาศัยอยู่ในทะเลสาบแชมเพลน ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ในนิวอิงแลนด์ ระหว่างรัฐนิวยอร์กและรัฐเวอร์มอนต์ สหรัฐอเมริกา ได้รับการขนามนามว่าเป็น "ล็อกเนสส์อเมริกา"

แชมป์ มีบันทึกว่าพบเห็นครั้งแรกโดย ซามูแอล เดอ แชมเพลน นักสำรวจชาวฝรั่งเศสที่ชื่อของเขาถูกนำมาตั้งเป็นชื่อทะเลสาบ ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1609 ว่ามันเหมือนงูตัวยาว 20 ฟุต ตัวหนาเหมือนถังไม้ มีหัวเหมือนม้า โดยแชมป์มักถูกอธิบายจากพยานผู้ที่อ้างว่าเคยพบเห็นหลายคนได้ว่า มีตัวยาวบาง มีความเก่าแก่โบราณเหมือนไดโนเสาร์ คอยาวเหมือนงู มีความยาวระหว่าง 6–25 ฟุต[2][3]

ค.ศ. 1873 เป็นปีที่มีการพบเห็นมากที่สุด หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า คนงานสร้างทางรถไฟเห็นหัวของงูยักษ์ มีเกล็ดแวววาว เดือนกรกฎาคม ปีเดียวกัน นายตำรวจคนหนึ่งพบเห็นงูน้ำขนาดใหญ่ ความยาว 25–30 ฟุต ในเดือนถัดมา เรือยนต์ลำหนึ่งได้เผชิญกับสัตว์ประหลาดโดยบังเอิญ จากคำบอกเล่าของผู้โดยสารบอกว่าเรือเกือบคว่ำ พี.ที. บาร์นัม นักการเมืองและนักจัดแสดงอาชีพได้ประกาศรางวัล 50,000 เหรียญสำหรับผู้ที่ล่าหรือบอกที่ซ่อนมันได้ แต่ก็ไม่มีผู้ใดจับได้นอกจากมีการพบเห็นอยู่เรื่อย ๆ[2]

โดยสภาพทางธรณีวิทยาของทะเลสาบแชมเพลนในอดีตเคยติดกับทะเลเมื่อราว 11,000–9,000 หรือ 8,000 ปี ก่อน มีการขุดพบซากฟอสซิลของสัตว์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์จำพวกวาฬมีฟัน รวมถึงสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังจำพวกปะการัง จึงมีทฤษฎีว่าแชมป์อาจเป็นสัตว์ทะเลในยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ติดอยู่ที่นี่และต้องปรับตัวจากทะเลให้อยู่ในน้ำจืดได้ โดยปลาหลายชนิดที่พบในทะเลสาบแชมเพลน เช่น ปลาสเตอร์เจียน หรือปลาแซลมอนแอตแลนติกก็พบว่าเดิมเป็นปลาทะเลมาก่อนและได้ปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในน้ำจืดได้[2]

แซนดรา แมนซี (กลาง) กับ โจ นิกเกล (ซ้าย) และ เบน เรดฟอร์ด สองนักวิมตินิยมทางวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเรื่องแชมป์
ภาพจำลองของท่อนไม้ที่ลอยขึ้นเหนือน้ำ จนกลายเป็นภาพที่ดูคล้ายสัตว์ประหลาดตามข้อสันนิษฐานของเบน เรดฟอร์ด และกลายมาเป็นภาพถ่ายของแซนดรา แมนซี

5 กรกฎาคม ค.ศ. 1977 แซนดรา แมนซี พร้อมด้วยสามีและลูกชายหญิงสองคน จากรัฐคอนเนตทิคัต เดินทางมาเที่ยวพักผ่อนที่นี่ ทั้งหมดได้จอดรถและเดินเล่นริมทะเลสาบ แซนดราก็เห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติในน้ำ เธอได้บอกสามี สามีของเธอได้ตะโกนเรียกให้ลูกทั้งสองออกห่างจากน้ำ แซนดราได้ใช้กล้องโกดักอินสตาเมติกถ่ายรูปสิ่งที่เธอเห็น ปรากฏเป็นภาพค่อนข้างชัดของสัตว์ขนาดใหญ่คล้ายสัตว์เลื้อยคลานทางทะเลยุคก่อนประวัติศาสตร์จำพวกเพลสิโอซอร์ เธอบอกว่า ส่วนคอของมันพ้นน้ำสูงประมาณ 6 ฟุต และลำตัวอย่างน้อย 12 ฟุตโผล่ออกมา โดยเธอเห็นนานถึง 5–6 นาที รูปดังกล่าวเธอเก็บไว้นาน 4 ปี โดยไม่เปิดเผย เพราะเกรงจะถูกหาว่าเสียสติ แต่ในที่สุดเธอได้ตัดสินใจนำรูปดังกล่าวไปลงนิวยอร์กไทมส์และสำนักข่าวเอ็นบีซีได้นำเสนอข่าวนี้ จนกลายเป็นที่ฮือฮา และกลายเป็นที่มาของชื่อ "แชมป์" ในที่สุด[4] เธอบอกว่าตอนที่เธอถ่ายรูปนี้ เธอถึงกับเข่าทรุดด้วยความกลัว[2]

ค.ศ. 1987 คริสตีน ฮีเบิร์ต กล่าวว่าเธอได้พบเห็นแชมป์บนบกด้วยในเวลากลางคืน เมื่อสุนัขสองตัวของเธอเห่าด้วยความตกใจและยืนด้วยขาหลังจนโซ่ที่ล่ามมันถูกดึงตึง เธอเห็นแชมป์ออกมาจากป่าและหยุดอยู่ใต้แสงไฟ มันถอยออกและเลี้ยวกลับเข้าไปในความมืดอีกรอบ หนึ่งสัปดาห์ต่อมา คริสตีนได้พบกับสัตว์ประหลาดตัวนี้อีกครั้งพร้อมกับแม่ของเธอ เธอบอกกับแม่เธอว่ามันคือ แชมป์ มันเดินช้าและไม่หยุด แต่คราวนี้ตัวของมันเป็นสีน้ำตาลและไม่ใหญ่เท่ากับตัวแรกที่เป็นสีเขียว เธอยืนยันว่าเธอมองไม่ผิด เธอรู้ว่าสัตว์ตัวไหนเป็นอย่างไร รู้ดีว่าถ้าเป็นปลาจะเป็นยังไง เพราะเธอเป็นชาวท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ที่ทะเลสาบแชมเพลนนี้มาตลอดชีวิต เธออธิบายว่าหัวมันเหมือนกับหัวของไดโนเสาร์และยกหัวขึ้นขณะเดิน[2]

มิถุนายน ค.ศ. 2002 อลิซาเบธ ฟอน มักเกนทาเลอร์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ศึกษาเรื่องการสื่อสารด้วยเสียงของสัตว์ได้ทำการบันทึกเสียงในทะเลสาบแชมเพลน เธอต้องประหลาดใจกับเสียงที่ได้ยินเพราะเป็นเสียงของสัตว์นาน 10 นาที จากสถานที่ต่าง ๆ สามจุด ในระดับความลึกตั้งแต่ 24–30 ฟุต เสมือนกับเป็นการบอกพิกัด หรือไบโอโซนาร์ เหมือนกับที่วาฬหรือโลมาปล่อยออกมาเพื่อใช้ในการเดินทาง แต่คล้ายคลึงกับเสียงของวาฬเพชฌฆาต ซึ่งเธอสรุปว่ามันไม่ใช่เสียงของทั้งวาฬและโลมาเพราะเป็นสัตว์ที่เธอไม่รู้จัก แต่บอกได้ว่าสัตว์ที่ส่งเสียงนี้ต้องเป็นสัตว์ที่มีพัฒนาการทางสมองอย่างดี จึงสามารถปล่อยเสียงแบบนี้ได้[2]

อย่างไรก็ตาม ค.ศ. 1982 ทั้งสภาผู้แทนราษฎรเวอร์มอนต์และวุฒิสภานิวยอร์กได้ออกกฎหมายให้แชมป์เป็นสัตว์คุ้มครองในฐานะสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่ควรอนุรักษ์ แม้จะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนยืนยันถึงการมีตัวตนอยู่จริง[2]

ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2006 สำนักข่าวเอบีซี ได้เสนอข่าวว่าชาวประมงสองคน คือ ปีเตอร์ บอเดตต์ และดิก อัฟโฟลเตอร์ ได้ถ่ายวิดีโอของสิ่งที่อยู่ใต้น้ำที่เชื่อว่าเป็นแชมป์ได้ค่อนข้างชัดเจนเมื่อบ่ายวันหนึ่งของฤดูร้อนปีที่ผ่านมา โดยปรากฏอยู่ใกล้เรือของพวกเขามีลักษณะเหมือนส่วนคอที่ยาวและหัวขนาดเล็กส่ายไปมาอยู่ใต้ผิวน้ำ จากนั้นก็ดำหายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสองยืนยันว่ามันมีขนาดเท่าต้นขาของเขา เขามั่นใจว่าเห็นสิ่งนี้อย่างแน่นอน แต่ไม่มั่นใจว่าเป็นอะไร แต่ก็ไม่เหมือนกับอะไรที่เขาเคยเห็นและเขาก็ไม่เคยเห็นทั้งตัวของมัน อดีตเจ้าหน้าที่เอฟบีไอสองคนที่เชี่ยวชาญเรื่องการวิเคราะห์ภาพ หนึ่งในนั้น คือ เจอราลด์ ริชาร์ดส์ กล่าวหลังจากเห็นภาพแล้วว่า เขาไม่พบว่ามันจะเป็นสิ่งประดิษฐ์หรือถูกตกแต่งขึ้นมาในทางใดทางหนึ่ง [5]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 Caudell, Robin (Nov 5, 2011). "Gordie Little writes children's book". Press-Republican. สืบค้นเมื่อ Dec 9, 2014.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 2.6 S.CHAD HD3 (2016-08-16). "สารคดี - สัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบ loch ness HD". Monster Quest. สืบค้นเมื่อ 2016-10-01.
  3. "Canada's Lake Creature: Champ". Welcome to Ogopogo Country. Centre culturel Marie-Anne-Gaboury. 2001. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-03-02. สืบค้นเมื่อ 25 October 2009.
  4. "Legend of the Lake Champlain Monster". The Committee for Skeptical Inquiry. สืบค้นเมื่อ 31 October 2010.
  5. "Is There a Monster in Lake Champlain?". abcnews. 2006-02-22. สืบค้นเมื่อ 2016-10-08.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]