อำเภอนางรอง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อำเภอนางรอง
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันAmphoe Nang Rong
คำขวัญ: 
เมืองโบราณนานเนา มะพร้าวเผาน้ำตาลหวาน
ศาลหลักเมืองศักดิ์สิทธิ์ เศรษฐกิจก้าวหน้า ขาหมูรสดี มีภาษานางรอง
แผนที่จังหวัดบุรีรัมย์ เน้นอำเภอนางรอง
แผนที่จังหวัดบุรีรัมย์ เน้นอำเภอนางรอง
พิกัด: 14°37′42″N 102°47′36″E / 14.62833°N 102.79333°E / 14.62833; 102.79333
ประเทศ ไทย
จังหวัดบุรีรัมย์
พื้นที่
 • ทั้งหมด769.8 ตร.กม. (297.2 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2564)
 • ทั้งหมด113,743 คน
 • ความหนาแน่น147.76 คน/ตร.กม. (382.7 คน/ตร.ไมล์)
รหัสไปรษณีย์ 31110
รหัสภูมิศาสตร์3104
ที่ตั้งที่ว่าการที่ว่าการอำเภอนางรอง ถนนสืบสหการ ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ 31110
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

นางรอง เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นอำเภอที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจังหวัดรองจากอำเภอเมืองบุรีรัมย์ และเป็น 1 ใน 4 อำเภอหลักที่มีเศรษฐกิจใหญ่รองจากอำเภอเมืองบุรีรัมย์

ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]

อำเภอนางรองตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้

ประวัติศาสตร์[แก้]

สมัยขอมเรืองอำนาจ เมืองนางรองหรือแคว้นพนมโรงเป็นที่อยู่ของชนชาติขอม ขอมได้ปกครองดินแดงส่วนนี้เป็นเวลานาน ได้พบซากเมืองโบราณที่แสดงว่าขอมมีอำนาจแถบนี้เป็นระยะ ๆ จากปราสาทหินพิมายและปราสาทหินพนมรุ้ง โบราณวัตถุที่ค้นพบเก่าแก่ที่สุดคือ เทวรูปต่าง ๆ และหม้อน้ำดินเผาโบราณแบบขอม เมื่อขอมเสื่อมอำนาจลงแล้ว มอญก็เข้ามามีอำนาจในดินแดนแถบนี้ ทำให้เกิดชนชาติใหม่ขึ้นคือ ขอม มอญ เป็น เข-มอญ หรือเขมร ซึ่งก็คือขอมนั่นเองแต่มีเชื้อผสมระหว่างมอญกับขอม[ต้องการอ้างอิง]

ต่อมาเมื่อมอญเสื่อมอำนาจลง ไทยจึงได้แผ่อาณาเขตเข้าครอบครองดินแดนแถบนี้ต่อไป การแผ่อาณาเขตของไทยในดินแดนแถบนี้ จะเห็นได้ว่ามาจาก 2 ทางคือ ทางนครราชสีมาและทางหลวงพระบาง แต่ไม่มีหลักฐานว่ามาครั้งใด สันนิษฐานว่าไทยคงจะเข้าครอบครองดินแดนแถบนี้ในสมัยกรุงสุโขทัยหรือกรุงศรีอยุธยาตอนต้น หลักฐานพอจะอ้างอิงได้คือ พระพุทธรูปโบราณที่ขุดพบ ส่วนมากเป็นพระพุทธรูปสมัยลพบุรี เมื่อไทยได้เข้าครอบครองดินแดนส่วนนี้ จึงตั้งศูนย์กลางปกครองที่เมืองนางรอง มีเจ้าเมืองปกครองติดต่อกันมาโดยตลอด สมัยกรุงศรีอยุธยา ดินแดนแถบเมืองนางรอง เมืองตลุง (อำเภอประโคนชัยในปัจจุบัน) เมืองบุรีรัมย์ เมืองพุทไธสง ต่างก็มาขึ้นกับกรุงศรีอยุธยา โดยขึ้นกับข้าหลวงใหญ่ที่นครราชสีมา ซึ่งเป็นข้าหลวงต่างพระองค์โดยตั้งเมืองชั้นจัตวา เมืองนางรองเป็นหัวเมืองชั้นเอก

หลังกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 แล้ว คนไทยผู้มีอำนาจต่างก็ตั้งตนเป็นก๊กเป็นเหล่า ปกครองตนเองเพื่อจะกอบกู้เอกราช ครั้งแรกเจ้าเมืองนางรองได้เข้าร่วมกับก๊กกรมหมื่นเทพพิพิธ เจ้าเมืองพิมาย ต่อมาพระเจ้าตากสินได้รวบรวมกำลังทำการปราบก๊กต่าง ๆ จนสำเร็จ และได้ยกกองทัพมาปราบก๊กเจ้าเมืองพิมายจนได้รับชัยชนะ เจ้าเมืองนางรองเห็นว่าก๊กเจ้าเมืองพิมายพ่ายแพ้แล้ว จึงได้แยกตัวออกไปร่วมกับเจ้าเมืองจำปาศักดิ์

หลังจากพระเจ้าตากสินได้ปราบปรามหัวเมืองต่าง ๆ จนราบคาบแล้ว จึงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์และตั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี ต่อมาในปี พ.ศ.2319 เจ้าเมืองนางรองได้คบคิดกับเจ้าโอ เจ้าอิน เจ้าเมืองจำปาศักดิ์แข็งเมืองไม่ขึ้นต่อกรุงธนบุรี พระเจ้ากรุงธนบุรีจึงโปรดเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ในขณะนั้นทรงดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าพระยาจักรีมาปราบ พระยานางรองถูกเจ้าเมืองนครราชสีมาจับตัวได้ และถูกประหารชีวิตที่ต้นโพธิ์ [ต้นโพธิ์ดังกล่าวอยู่หน้าสนามโรงเรียนนางรอง (สังขกฤษณ์อนุสรณ์) ในปัจจุบัน] เมืองนางรองจึงได้ไปขึ้นต่อเมืองนครราชสีมา

เมื่อพระยานางรองถูกประหารชีวิตแล้ว ทางเมืองหลวงได้ตั้งนายปิ่นและนายมา บุตรพระยานางรองเป็นเจ้าเมืองนางรองปกครองต่อมาจนถึงพระวิเศษสงคราม (กฤษณ์ บุญญกฤษณ์) ลูกหลานของนายปิ่นได้เป็นเจ้าเมืองปกครอง เมื่อพระวิเศษสงครามสิ้นอายุแล้วพระนางรองภักดี (สุดใจ บุญญกฤษณ์) ซึ่งเป็นบุตรได้เป็นเจ้าเมืองแทน ต่อมาพระนางรองภักดีถูกจับในข้อหาฆ่าพ่อตา (หลวงอุดมพนาเวช ต้นตระกูลอุดมพงษ์) ทางเมืองนครราชสีมาจึงได้แต่งตั้งหลวงยกบัตร (ต้นตระกูลสุรัสวดี) มาเป็นผู้รั้งเมืองแทน ท่านผู้นี้ได้สร้างที่ทำการและที่พักขึ้น ณ ท้องสนามชุมพลบริเวณโรงเรียนบ้านนางรอง (ยุทธกาจราษฎร์วิทยาคาร) ในปัจจุบัน เป็นอันว่าเมืองนางรองสมัยมีเจ้าเมืองปกครองก็สิ้นสุดลงเพียงนี้

ในปี พ.ศ. 2435 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ จัดระบบการปกครองใหม่เป็น กระทรวง มณฑล ได้รวมเมืองนางรอง เมืองบุรีรัมย์ เมืองตลุง (อำเภอประโคนชัยในปัจจุบัน) เมืองรัตนบุรี เมืองพิมาย เมืองพุทไธสง เข้าเป็นเมืองเดียวกัน เรียกว่า "บริเวณนางรอง" มีพระนครภักดี (ทองดี) รักษาการแทนเจ้าเมืองนางรอง ต่อมาอาณาเขตของเมืองนางรองเปลี่ยนแปลงไปคือ เมืองรัตนบุรีไปขึ้นกับสุรินทร์ เมืองพิมายไปขึ้นกับนครราชสีมา แล้วจึงตั้งเมืองแป๊ะขึ้นเป็นจังหวัดเรียกว่า "จังหวัดบุรีรัมย์" เมืองนางรองจึงเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์

ความเป็นมาของชื่ออำเภอ[แก้]

เนื่องจากเป็นอำเภอที่มีประวัติยาวนาน และปรากฏชื่อเมืองมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ดังนั้นชื่ออำเภอจึงสันนิษฐานว่ามีที่มาอย่างไร โดยมีผู้สันนิษฐานไว้ 3 นัย

  1. อาศัยนามจากพนมรุ้ง ซึ่งเลือนมาจากภาษาเขมรว่า "พนมโรง" แปลว่า เขาชัน หรือเขาร่อง เป็นเมืองใหญ่อยู่ใกล้เขาพนมรุ้ง จึงเรียกเมืองโรง ต่อมาเปลี่ยนเป็นนางรอง
  2. ได้นามจากวัดโบราณทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกำแพงเมือง ชื่อวัดร้อง จึงได้ชื่อว่าเมืองร้องแล้วเปลี่ยนมาเป็นนางรอง หรือผู้สร้างวัดเป็นหญิงชื่อโรง เรียนนางโรง แล้วเปลี่ยนมาเป็นนางรอง
  3. ได้ชื่อมาจากนิทานในโบราณคดี เรื่อง นางอรพิม กล่าวว่า นางอรพิมนั่งร้องไห้จึงได้นามว่านางร้อง แล้วเพี้ยนเป็นนางรอง

สภาพอากาศ[แก้]

การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]

การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]

อำเภอนางรองแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 15 ตำบล 188 หมู่บ้าน ได้แก่

1. นางรอง (Nang Rong) 14 หมู่บ้าน 9. บ้านสิงห์ (Ban Sing) 14 หมู่บ้าน
2. สะเดา (Sadao) 17 หมู่บ้าน 10. ลำไทรโยง (Lam Sai Yong) 14 หมู่บ้าน
3. ชุมแสง (Chum Saeng) 14 หมู่บ้าน 11. ทรัพย์พระยา (Sap Phraya) 13 หมู่บ้าน
4. หนองโบสถ์ (Nong Bot) 14 หมู่บ้าน 12. หนองยายพิมพ์ (Nong Yai Phim) 10 หมู่บ้าน
5. หนองกง (Nong Kong) 11 หมู่บ้าน 13. หัวถนน (Hua Thanon) 11 หมู่บ้าน
6. ถนนหัก (Thanon Hak) 13 หมู่บ้าน 14. ทุ่งแสงทอง (Thung Saeng Thong) 7 หมู่บ้าน
7. หนองไทร (Nong Sai) 14 หมู่บ้าน 15. หนองโสน (Nong Sano) 12 หมู่บ้าน
8. ก้านเหลือง (Kan Lueang) 10 หมู่บ้าน

การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]

ท้องที่อำเภอนางรองประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 16 แห่ง ได้แก่

  • เทศบาลเมืองนางรอง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลนางรองและตำบลถนนหัก
  • เทศบาลตำบลทุ่งแสงทอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทุ่งแสงทองทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลนางรอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนางรอง (เฉพาะนอกเขตเทศบาลเมืองนางรอง)
  • องค์การบริหารส่วนตำบลสะเดา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสะเดาทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลชุมแสง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลชุมแสงทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหนองโบสถ์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองโบสถ์ทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองกงทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลถนนหัก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลถนนหัก (เฉพาะนอกเขตเทศบาลเมืองนางรอง)
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหนองไทร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองไทรทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลก้านเหลือง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลก้านเหลืองทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสิงห์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านสิงห์ทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลลำไทรโยง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลลำไทรโยงทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลทรัพย์พระยา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทรัพย์พระยาทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหนองยายพิมพ์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองยายพิมพ์ทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหัวถนน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหัวถนนทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหนองโสน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองโสนทั้งตำบล

ศูนย์ราชการ[แก้]

  • ที่ว่าการอำเภอนางรอง ตั้งอยู่ที่ ถนนสืบสหการ ตำบลนางรอง
  • สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง ตั้งอยู่ที่ ถนนสืบสหการ ตำบลนางรอง
    • เขตพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุม 8 อำเภอ
      • 1. อำเภอนางรอง
      • 2. อำเภอหนองกี่
      • 3. อำเภอละหานทราย
      • 4. อำเภอโนนดินแดง
      • 5. อำเภอชำนิ
      • 6. อำเภอโนนสุวรรณ
      • 7. อำเภอปะคำ
      • 8. อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
  • ศาลจังหวัดนางรอง ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 950 ถนนโชคชัย-เดชอุดม ตำบลนางรอง
    • เขตอำนาจศาลครอบคลุม 10 อำเภอ
      • 1. อำเภอนางรอง
      • 2. อำเภอบ้านกรวด
      • 3. อำเภอหนองกี่
      • 4. อำเภอปะคำ
      • 5. อำเภอละหานทราย
      • 6. อำเภอหนองหงส์
      • 7. อำเภอชำนิ
      • 8. อำเภอโนนสุวรรณ
      • 9. อำเภอโนนดินแดง
      • 10. อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
  • สำนักงานอัยการจังหวัดนางรอง ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 88 หมู่ที่ 12 ถนนโชคชัย-เดชอุดม ตำบลนางรอง
  • สำนักงานบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 52 หมู่ 4 ถนนโชคชัย-เดชอุดม
  • สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง ตั้งอยู่ที่ อาคารพาณิชย์เลขที่ 147/21

ถนนโชคชัย-เดชอุดม ตำบลนางรอง

  • สำนักงานเทศบาลเมืองนางรอง ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 906 ถนนโชคชัย-เดชอุดม ตำบลนางรอง
  • สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 110 ถนนสืบสหการ
  • สถานีตำรวจภูธรอำเภอนางรอง ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 33 ซอยมิตรอารีย์ ถนนสังขกาจประชานุสรณ์ ตำบลนางรอง
  • สถานีตำรวจภูธรอำเภอนางรองสาขาย่อย ตั้งอยู่ที่ ถนนสืบสหการ
  • สำนักงานกิ่งกาชาดอำเภอนางรอง ตั้งอยู่ที่ ถนนสืบสหการ
  • กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 215 ตั้งอยู่ชุมชนวัดสวนป่ารักษ์น้ำ

รัฐวิสาหกิจ[แก้]

  • สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอนางรอง สาขาที่ 171 ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 9 ถนนศรีกัลยา ตำบลนางรอง
  • สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคอำเภอนางรอง ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 59 ถนนศรีกัลยา ตำบลนางรอง
  • สำนักงานขนส่งอำเภอนางรอง ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 68 ถนนเฉลิมพระเกียรติ 50 ปี ตำบลนางรอง
  • ที่ทำการไปรษณีย์อำเภอนางรอง ตั้งอยู่ที่ 385 หมู่ 5 ถนนโชคชัย-เดชอุดม ตำบลนางรอง
  • ศูนย์บริการลูกค้าทีโอทีอำเภอนางรอง ตั้งอยู่ที่ ถนนประจันตเขต ตำบลนางรอง

การศึกษา[แก้]

  • โรงเรียนฝ่ายประถม(ในตัวเมืองและใกล้ตัวเมืองนางรอง)
    • โรงเรียนอนุบาลนางรอง (สังขกฤษณ์อนุสรณ์)
    • โรงเรียนบ้านนางรอง (ยุทธกาจราษฎร์วิทยาคาร)
    • โรงเรียนบ้านหนองรีมิตรภาพที่ 225
    • โรงเรียนบ้านโคกหลวงพ่อ (พินิจศิลป์ประชานุกูล)
    • โรงเรียนถนนหัก(เพียรประจงวิทยา)
    • โรงเรียนบ้านหนองเสม็ด
    • โรงเรียบ้านแพงพวย(สังฆคุรุราฎร์บำรุง)
    • โรงเรียนชุมชนบ้านกระเดื่อง(โศภนประชานุกูล)
  • โรงเรียนฝ่ายมัธยม
    • โรงเรียนนางรอง (โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ)
    • โรงเรียนนางรองพิทยาคม (โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอแห่งที่ 2)
    • โรงเรียนสิงหวิทยาคม
    • โรงเรียนถนนหักพิทยาคม
    • โรงเรียนพิมพ์รัฐประชาสรรค์
    • โรงเรียนทุ่งแสงทองพิทยาคม
    • โรงเรียนเหลืองพนาวิทยาคม
  • โรงเรียนเอกชน
    • โรงเรียนมารีพิทักษ์
    • โรงเรียนอนุบาลกมลลักษณ์
    • โรงเรียนตุลยาธร
  • โรงเรียนฝ่ายประถม-มัธยม
    • โรงเรียนทีโอเอวิทยา (เทศบาล ๑)
    • โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๑
  • วิทยาลัย
    • วิทยาลัยเทคนิคนางรอง
    • วิทยาลัยเทคโนโลยีบุรีรัมย์บริหารธุรกิจ

การสาธารณสุข[แก้]

  • โรงพยาบาลนางรอง
  • โรงพยาบาลเรืองโรจน์ การแพทย์ (เอกชน)

สถานที่สำคัญ[แก้]

  • ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองนางรอง
  • ศาลเจ้าเมืองนางรอง
  • ศาลเจ้าพ่อสระหญ้าม้า
  • ศาลเจ้าสมาคมพุทธธรรมสงเคราะห์ พ่งไล้ยี่จับชาเชียวเกาะ
  • ศาลเจ้าพ่อถนนหัก
  • อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม)
  • อนุสาวรีย์ท้าวปาจิต-นางอรพิม(อนุสรณ์สถานแห่งความรัก)
  • วัดกลางนางรอง
  • วัดป่าเรไร
  • วัดขุนก้อง
  • วัดร่องมันเทศ
  • วัดสวนป่ารักษ์น้ำ(ธุดงคสถาน)
  • วัดหัวสะพาน
  • วัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ นางรอง(โบสถ์คริสนิกายโรมันคาทอลิก)

สวนสาธารณะและที่พักผ่อน[แก้]

  • สวนสาธารณะหนองตาหมู่
  • สวนสาธารณะหนองมน
  • สวนสาธารณะอ่างเก็บน้ำทุ่งแหลม
  • สวนสาธารณะอ่างเก็บน้ำหนองทะลอก
  • สวนสุขภาพหน้ากาชาดนางรอง
  • ห้องสมุดอำเภอนางรอง
  • สนามกีฬากลางอำเภอนางรอง

การขนส่ง[แก้]

รถโดยสารประจำทาง[แก้]

  • สายกรุงเทพ-บุรีรัมย์ ขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) มาลงที่สถานีขนส่งอำเภอนางรอง มีบริการทั้งกิจการทัวร์, บริษัทขนส่ง จำกัด
  • สายที่ทางไกลผ่านนางรอง เป็นรถกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี, กรุงเทพฯ-สุรินทร์, กรุงเทพฯ-พนมรุ้ง และกรุงเทพฯ-ศรีสะเกษ ,นคราชสีมา-อุบลฯ แวะจอดรับ-ส่งผู้โดยสารที่อำเภอนารอง มีทั้งรถปรับอากาศชั้น 1 , 2 และ VIP
  • สายไประยอง
    • ระยอง-พัทยา-อรัญประเทศ-นางรอง-สุรินทร์
    • ระยอง-พัทยา-อรัญประเทศ-นางรอง-บุรีรัมย์-สตึก
    • ระยอง-พัทยา-บุรีรัมย์-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร
  • สายไปจังหวัดใกล้เคียง
    • บุรีรัมย์-นครราชสีมา (สาย 273)
    • นครราชสีมา-สุรินทร์ (สาย 274)
    • บุรีรัมย์-สระแก้ว
    • บุรีรัมย์-จันทบุรี (สาย522)
  • สายไปต่างอำเภอ
    • บุรีรัมย์-นางรอง
    • นางรอง-ตาพระยา (สระแก้ว)
    • นางรอง-ชุมพวง (นครราชสีมา)
    • นางรอง-ละหานทราย
    • บุรีรัมย์-นครราชสีมา (รถตู้)
  • รถโดยสารในตัวเมือง
    • สองแถวสายพนมรุ้ง ขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งและตลาดสดเทศบาล
    • รถแท็กซี่มิเตอร์ จุดให้บริการที่ บขส
    • รถยนต์รับจ้าง(เหมาระยะทาง) จุดให้บริการที่ บขส
    • มอเตอร์ไซด์วินรับจ้าง จุดให้บริการ ที่ บขส/คิวรถเล็ก/ธนาคารกสิกรไทย
  • สายรถโดยสารสายไปต่างอำเภอ
    • สายปะคำ ขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งและคิวรถเล็ก (รถสองแถว)
    • สายลำปลายมาศ ขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่ง

อ้างอิง[แก้]

  1. "World Meteorological Organization Climate Normals for 1991–2020". World Meteorological Organization. สืบค้นเมื่อ 12 October 2023.
  2. "ปริมาณการใช้น้ำของพืชอ้างอิงโดยวิธีของ Penman Monteith (Reference Crop Evapotranspiration by Penman Monteith)" (PDF) (ภาษาThai). Office of Water Management and Hydrology, Royal Irrigation Department. p. 66. สืบค้นเมื่อ 2 August 2016.{{cite web}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)
  3. "Climatological Data for the Period 1981–2010". Thai Meteorological Department. สืบค้นเมื่อ 4 August 2016.
  • ผศ.ดร.สรเชต วรคามวิชัย และคณะ. บุรีรัมย์ ภูมิหลังประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร : บริษัท ที.เค.พริ้นติ้ง จำกัด, 2555.