อาดัม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อาดัม
อัครบิดร
เกิดถูกสร้างในวันที่ 6
สวนเอเดน
เสียชีวิตประมาณ 930 ปี AM
นับถือ ในโรมันคาทอลิก
วันฉลอง24 ธันวาคม
องค์อุปถัมภ์ชาวสวน และช่างเย็บผ้า
อาดัม
บุคคลในคัมภีร์ไบเบิล
คู่สมรสเอวา
ลิลิธ
บุตรอะวาน (ลูกสาว)
คาอิน (ลูกชาย)
อะซูรา (ลูกสาว)
อาเบล (ลูกชาย)
เซท (ลูกชาย)
อัคลิมา (ลูกสาว)

อาดัม (ฮีบรู: אָדָם; แอราเมอิก: ܐܕܡ; อาหรับ: آدم; อังกฤษ: Adam) เป็นมนุษย์คนแรกที่พระยาห์เวห์ทรงสร้างขึ้นจากดิน ตามคติของศาสนาอับราฮัม ปรากฏทั้งในคัมภีร์ฮีบรู คัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาเดิม และอัลกุรอาน

ตามคติของศาสนาคริสต์และศาสนายูดาห์ อาดัมเป็นเพียงมนุษย์คนแรกของโลก แต่ตามคติของอิสลามอดัมยังเป็นนบีท่านแรกของอัลลอฮ์ด้วย

อดัมและภรรยาชื่อเอวา เดิมพระเจ้าประทานอยู่ในสวนเอเดน ต่อมาภายหลังถูกซาตานหลอกลวงให้ประพฤติผิด เกิดเป็นบาป ทำให้ถูกไล่จากสวนเอเดน

คริสต์ศาสนา[แก้]

ในคัมภีร์ไบเบิล กล่าวถึง Adam ทั้งในแง่มุมของประวัติศาสตร์โลก ที่ว่าด้วยการทรงสร้างของพระเจ้า ดังเช่นที่ปรากฏในหนังสือปฐมกาล และในมุมมองด้านศาสนาเปรียบเทียบ ดังที่ได้กล่าวถึงในไว้ในหนังสือเล่มอื่น ๆ

กำเนิดมนุษย์[แก้]

ในคัมภีร์ไบเบิล ได้กล่าวว่า พระเจ้าทรงใช้เวลาสร้างโลกทั้งสิ้น 6 วัน โดยทรงสร้างมนุษย์ในวันที่ 6 ของการทรงสร้าง ในหนังสือปฐมกาล บทที่ 2 [1] ได้กล่าวถึงไว้ว่า พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีดิน แต่สิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์อื่น ๆ บนโลกใบนี้ เนื่องจากพระเจ้าทรงระบายลมปรานให้แก่มนุษย์ด้วย อาจเรียกลมปรานว่าวิญญาณเป็นเหตุให้หลังจากมนุษย์ตายลง ร่างกายจึงสูญสลายกลับกลายเป็นดินเช่นเดิม

กำเนิดเอวา[แก้]

เมื่อพระเจ้าทรงสร้างอดัมมมนุษย์ผู้ชายขึ้นมาแล้ว ทรงเห็นว่ายังไม่มีคู่อุปถัมภ์ที่เหมาะสมกับเขา จึงทรงกระทำให้เขาหลับไปและทรงชักกระดูกซี่โครงอันหนึ่งของเขาออกมา แล้วทำให้เนื้อติดกันเข้าแทนกระดูกอย่างเดิม ส่วนกระดูกซี่โครงที่พระเจ้าได้ทรงชักออกจากชายนั้น พระองค์ทรงสร้างให้เป็นหญิงแล้วทรงนำมาให้ชายนั้น ชายนั้นจึงว่า "นี่‍แหละ กระ‌ดูก​จาก​กระ‌ดูก​ของ​เรา เนื้อ​จาก​เนื้อ​ของ​เรา จะ​เรียก​คน​นี้​ว่า​หญิง เพราะ​คน​นี้​ออก​มา​จาก​ชาย" แรกเริ่มทั้งผู้ชายและผู้หญิงเปลือยกายกันอยู่ไม่อายกัน เพราะยังมีจิตใจบริสุทธิ์ [2]

ความบาป[แก้]

ในคติทางศาสนา บาปเข้ามาสู่มนุษย์ครั้งแรกในโลก จากการไม่เชื่อฟังพระเจ้าของเอวา เพราะถูกล่อลวงโดยมารให้สงสัยในคำสั่งของพระเจ้า และไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระองค์

เนื่องจากเอวาไม่เชื่อฟัง ดังนั้นผู้หญิงจึงได้รับโทษให้รับความทุกข์ที่ยิ่งใหญ่คือการอุ้มท้องและการคลอดบุตร เพื่อเตือนให้มนุษย์ระลึกถึงความเจ็บปวดจากการมีบาป ดังพระดำรัสของพระเป็นเจ้าในหนังสือปฐมกาลบทที่ 3 ข้อที่ 16 ว่า "เรา​จะ​เพิ่ม​ความ​ทุกข์​ลำ‌บาก​มาก​ขึ้น​แก่​เจ้าและ​เมื่อ​เจ้า​มี‍ครรภ์ เจ้า​จะ​คลอด‍บุตร​ด้วย​ความ​เจ็บ‍ปวดถึง‍กระ‌นั้น เจ้า​จะ​ยัง​ปรารถ‌นา​ใน​สามี​ของ​เจ้าและ​เขา​จะ​ปก‍ครอง​ตัว​เจ้า"[3]

ขณะที่ Adam ไม่เชื่อฟังพระเจ้าเพราะเชื่อภรรยา ดังนั้นผู้ชายจึงได้รับโทษให้ต้องทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ดังที่พระเจ้าทรงตร้สไว้ว่า "เจ้า​จะ​ต้อง​หา‍กิน​ด้วย​เหงื่อ​อาบ‍หน้าจน​เจ้า​กลับ​ไป​เป็น​ดิน เพราะ​เจ้า​ถูก​นำ​มา​จาก​ดินและ​เพราะ​เจ้า​เป็น​ผง‍คลี​ดิน และ​เจ้า​จะ​กลับ​เป็น​ผง‍คลี​ดิน​ดัง‍เดิม"[4]

ลักษณะความเป็นบุคคลของมนุษย์[แก้]

ลักษณะความเป็นบุคคลของมนุษย์ในพระฉายของพระเจ้า[5] พระคัมภีร์กล่าวชัดเจนว่าเชื้อสายของมนุษย์ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจตนารมณ์พิเศษของพระเจ้า ตามพระฉายของพระเจ้าและพระลักษณะของพระองค์ ฉะนั้น อดัมและเอวาจึงไม่ใช่ผลผลิตของวิวัฒนาการ เพราะพวกเขาถูกสร้างตามพระลักษณะของพระเจ้า พวกเขาจึงสามารถตอบสนองและมีสามัคคีธรรมกับพระเจ้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นความรัก พระเกียรติสิริ และความบริสุทธิ์ของพระองค์

เราสังเกตพระลักษณะของพระเจ้าอย่างน้อยสามประการในมนุษย์คือ อาดัมและเอวามีลักษณะด้านศีลธรรมของพระเจ้า ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเป็นคนชอบธรรมและบริสุทธิ์ มีใจรักและปรารถนาที่จะกระทำสิ่งที่ถูกต้อง พวกเขามีพระลักษณะด้านสติปัญญาของพระเจ้า พวกเขาถูกสร้างให้มีวิญญาณ ความคิด อารมณ์ และอำนาจในการเลือก ในความรู้สึกบางอย่างลักษณะที่ประกอบขึ้นเป็นร่างกายของมนุษย์ก็เป็นพระลักษณะของพระเจ้าซึ่งไม่เป็นเช่นนั้นกับสัตว์ต่าง ๆ พระเจ้าประทานพระฉายแก่มนุษย์ซึ่งพระองค์สามารถปรากฏให้เห็นได้ในพันธสัญญาเดิม และในรูปแบบที่พระบุตรของพระองค์จะมาปรากฏในวันหนึ่งข้างหน้า

เมื่ออดัมและเอวาทำบาป พระลักษณะของพระเจ้าที่อยู่ในพวกเขาก็เสื่อมลงอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่ได้ถูกทำลายจนหมดสิ้น แน่นอนที่ความเหมือนพระเจ้าในด้านศีลธรรมเสื่อมลงเมื่อพวกเขาทำบาป ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่สมบูรณ์และบริสุทธิ์อีกต่อไป แต่มีแนวโน้มที่จะทำบาป ซึ่งพวกเขาถ่ายทอดไปสู่ลูกหลาน พันธสัญญาใหม่ยืนยันความเสื่อมจากพระลักษณะของพระเจ้าเมื่อกล่าวว่า ผู้เชื่อที่ได้รับการไถ่จะได้รับการฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพดังเดิมที่มีความเหมือนพระเจ้าในด้านศีลธรรม ในเวลาเดียวกัน มนุษย์ที่เป็นคนบาปยังมีความเหมือนพระเจ้าในด้านอื่น ๆ คือ ด้านสติปัญญา และความสามารถในการสามัคคีธรรมและสื่อสารกับพระองค์ พระลักษณะของพระเจ้าในส่วนนี้ก็เสื่อมลงเช่นกัน แต่ไม่สูญหายไปอย่างสิ้นเชิงเมื่ออาดัมและเอวาทำบาปในสวนเอเดน

ในศาสนาอิสลาม[แก้]

ศาสนาอิสลามเชื่อว่า อาดัม เป็นมนุษย์คนแรกที่อัลลอฮ์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างขึ้นจากดินด้วย พระหัตถ์ขวาของพระองค์ แล้วพระองค์ทรงเป่าวิญญาณ เพื่อเป็นเคาะลีฟะฮ์ (ตัวแทน) บนแผ่นดินโลก นอกจากนี้มุสลิมยังเชื่อว่า อาดัม เป็นผู้เผยพระวจนะคนแรก และถือเป็นมุสลิมคนแรก

พงศาวลี[แก้]

 
 
 
 
 
 
 
 
อาดัม
 
เอวา
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
คาอิน
 
 
 
อาเบล
 
 
 
เสท
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เอโนค
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เอโนช
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
​อิ‌ราด
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เคนัน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เม‌หุ‌ยา‌เอล
 
 
 
 
 
 
 
 
 
มาหะลาเลล
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
​เม‌ธู‌ชา‌เอล
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ยาเรด
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
อาดาห์
 
ลาเมค
 
 
 
​ศิล‌ลาห์
 
 
 
เอโนค
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ยา‌บาล
 
ยู‌บาล
 
ทู‌บัล‍คา‌อิน
 
นา‌อา‌มาห์
 
เมธูเสลาห์
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ลาเมค
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
โนอาห์
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เชม
 
ฮาม
 
ยาเฟท

อ้างอิง[แก้]

  1. หนังสือปฐมกาล บทที่ 2, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  2. หนังสือปฐมกาล 2:23-25, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  3. หนังสือปฐมกาล 3:16, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  4. หนังสือปฐมกาล 3:19, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  5. หนังสือปัญญาจารย์ บทที่ 12 หน้า 1196, ลักษณะความเป็นบุคคลของมนุษย์, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับอธิบาย "ชีวิตครบบริบูรณ์" 2008

ดูเพิ่ม[แก้]