พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก หลวงปู่ชา สุภัทโท)
พระโพธิญาณเถร​ วิ.

(ชา สุภทฺโท)
ชื่ออื่นพระอาจารย์ชา, หลวงพ่อชา,
หลวงปู่ชา
ส่วนบุคคล
เกิด17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 (73 ปี)
มรณภาพ16 มกราคม พ.ศ. 2535
นิกายมหานิกาย
การศึกษาน.ธ.เอก
ตำแหน่งชั้นสูง
ที่อยู่วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี
อุปสมบท26 เมษายน พ.ศ. 2482
พรรษา52
ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง

พระโพธิญาณเถร วิ. (ชา สุภทฺโท) (17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 – 16 มกราคม พ.ศ. 2535) ตรงกับ วันจันทร์ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีมะเมีย ณ บ้านจิกก่อ หมู่ที่ 9 ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดาชื่อนายมา ช่วงโชติ มารดาชื่อ นางพิมพ์ ช่วงโชติ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันจำนวน 10 คน

หลวงปู่ชา สุภทฺโท ขณะมีชีวิตอยู่ท่านได้อุทิศชีวิตเพื่อการปฏิบัติธรรมและเผยแผ่พุทธศาสนา ทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งบังเกิดผลทำให้ผลงานที่เป็นประโยชน์อเนกอนันต์แก่พระศาสนา ทั้งที่เป็นพระธรรมเทศนา และสำนักปฏิบัติธรรมในนามวัดสาขาวัดหนองป่าพงมากมาย ซึ่งแม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว แต่ศิษยานุศิษย์ของท่านก็ยังคงรักษาแนวทางปฏิบัติธรรมที่ท่านได้สั่งสอนไว้จนถึงปัจจุบัน

การศึกษา[แก้]

หลวงปู่ชาได้รับการศึกษาชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียนบ้านก่อ ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จนจบชั้นประถมปีที่ 1 แล้วได้ลาออกจากโรงเรียนเพราะมีจิตใจใฝ่ทางบวชเรียน ภายหลังเมื่อบวชเรียนแล้วได้เรียนหนังสือธรรมเรียนบาลีไวยากรณ์ เรียนมูลกัจจายน์ จนสามารถอ่านแปลภาษาบาลีได้ และได้ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้ชั้นสูงสุดสายนักธรรม คือ สอบได้นักธรรมชั้นเอก

ชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์[แก้]

เมื่ออายุ 13 ปี หลังจากลาออกจากโรงเรียนประถมศึกษาแล้ว โยมบิดาได้นำไปฝากกับเจ้าอาวาสเพื่อเรียนรู้บุพกิจเบื้องต้นเกี่ยวกับบรรพชาวิธี จึงได้รับอนุญาตให้บรรพชาเป็น สามเณรชา ช่วงโชติ เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ. 2474 โดยมีท่านพระครูวิจิตรธรรมภาณี (พวง) อดีตเจ้าอาวาส วัดมณีวนาราม อุบลราชธานี เป็นอุปัชฌาย์สามเณรชา ช่วงโชติ ได้อยู่จำพรรษา และศึกษาพระปริยัติธรรม ตลอดจนอยู่ปฏิบัติครูอาจารย์ เป็นเวลา 3 ปี ได้เอาใจใส่ต่อภารกิจของสามเณรท่องสวดมนต์ ทำวัตร ศึกษาหลักสูตรนักธรรมปฏิบัติพระเถระ แล้วจึงได้ลาสิกขาบทมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา ทั้งนี้ด้วยความจำเป็นของครอบครัวแบบชาวไร่ชาวนาอีสานทั่วไป ด้วยจิตใจที่ใฝ่ในการบวชเรียน จึงสำนึกอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องอุปสมทบเป็นพระให้ได้ เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ภายหลังเมื่อตกลงกับบิดามารดาและท่านทั้ง 2 ก็อนุญาตแล้วจึงได้ฝากตัวที่วัดก่อในที่ใกล้บ้าน แล้วได้รับอนุญาตให้อุปสมบทได้เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 เวลา 13.55 น. ณ พัทธสีมา วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี โดยมีพระเถระสำคัญที่ให้การอุปสมบทดังนี้

  • พระครูอินทรสารคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์
  • พระครูวิรุฬสุตการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
  • พระอธิการสอน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

พระชา สุภทฺโท ได้จำพรรษาอยู่ ณ วัดก่อนอก 2 พรรษา ตั้งใจศึกษาปริยัติธรรม ทั้งจากตำรับตำราและจากครูอาจารย์ จนสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในสำนักวัดก่อนอกแห่งนี้

ศึกษาปริยัติธรรมต่างถิ่น[แก้]

เมื่อพระชา สุภทฺโท สอบนักธรรมตรีได้แล้ว ก็อยากเรียนให้สูงขึ้นเพราะมีจิตใจรักชอบทางธรรมอยู่แล้ว แต่ขาดครูอาจารย์ในการสอนระดับสูงต่อไป นึกถึงภาษิตอีสานที่ว่า "บ่ออกจากบ้านบ่ฮู้ฮ่อมทางเทียว บ่เฮียนวิชาห่อนสิมีความฮู้" ชีวิตช่วงนี้จะเห็นได้ชัดว่า พระชา สุภทฺโท มุ่งเรียนปริยัติธรรมให้สูงสุด จึงทุ่มเทให้การศึกษาทั้งนักธรรมและบาลี และผ่านสำนักต่าง ๆ มากมายจนในที่สุดก็สอบนักธรรมได้ครบตามหลักสูตร คือ สอบนักธรรมชั้นโทได้ ในสำนักของ พระครูอรรคธรรมวิจารณ์ สอบนักธรรมชั้นเอกได้ในสำนักวัดบ้านก่อนอกถิ่นเกิด

สู่การปฏิบัติธรรม[แก้]

เสร็จภารกิจการศึกษา ประกอบกับเกิดธรรมสังเวชคราวโยมบิดาเสียชีวิต จึงหันมาสู่การปฏิบัติธรรม โดยออกธุดงค์และศึกษาหาแนวทางปฏิบัติในสำนักต่าง ๆ ผ่านอาจารย์ก็มากมาย เช่น ที่สำนักของหลวงพ่อเภา วัดเขาวงกฏ จังหวัดลพบุรี และพระอาจารย์ชาวกัมพูชาที่เป็นพระธุดงค์ซึ่งได้พบกันที่วัดเขาวงกฏ หลวงปู่กินรี อาจารย์คำดี หลวงปู่ทองรัตน์ พระอาจารย์มั่น เป็นต้น พออินทรีย์แก่กล้าแล้วก็ออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมต่อไปเรื่อย ๆ โดยยังดำรงสมณเพศเป็นพระมหานิกายอยู่ตลอดเวลา จนในที่สุดได้รับอาราธนาจากโยมมารดาและพี่ชาย เพื่อกลับไปโปรดสัตว์ที่บ้านเกิด เมื่อ พ.ศ. 2497 ก็ได้ดำเนินการสร้างวัดป่าขึ้น ซึ่งเรารู้จักในปัจจุบัน คือ วัดหนองป่าพง และท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนี้มาโดยตลอด และถึงแก่มรณภาพเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เวลา 05.20 น. ที่วัดหนองป่าพง อย่างสงบท่ามกลางธรรมสังเวชของศิษยานุศิษย์จากทุกสารทิศ

ปัจฉิมบท[แก้]

หลวงปู่ชา สุภัทโท และศิษยานุศิษย์พระภิกษุวัดหนองป่าพง ภิกษุชาวตะวันตกที่ยืนอยู่หน้าสุดข้างหลวงปู่ชาคือพระพรหมวชิรญาณ (โรเบิร์ต สุเมโธ) พระลูกศิษย์ชาวสหรัฐอเมริกา

หลวงปู่ชา สุภทฺโท ขณะมีชีวิตอยู่ท่านได้อุทิศชีวิตเพื่อการปฏิบัติธรรม และเผยแผ่พุทธศาสนา ทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งบังเกิดผลทำให้ผลงานที่เป็นประโยชน์อเนกอนันต์แก่พระศาสนา ทั้งที่เป็นพระธรรมเทศนา และสำนักปฏิบัติธรรม ดังนี้

1. ธรรมเทศนา สำหรับบรรพชิต, สำหรับคฤหัสถ์, เสียสละเพื่อธรรม, การเข้าสู่หลักธรรม, ธรรมะที่หยั่งรู้ยาก, ธรรมะธรรมชาติ, ปฏิบัติกันเถิด, ธรรมปฏิสันถาร, สองหน้าของสัจธรรม, ปัจฉิมกถา, การฝึกใจ, มรรคสามัคคี, ดวงตาเห็นธรรม, อยู่เพื่ออะไร, เรื่องจิตนี้, น้ำไหลนิ่ง, ธรรมในวินัย, บ้านที่แท้จริง, สัมมาสมาธิ, ขึ้นตรงต่อพระพุทธเจ้า, ความสงบบ่อเกิดปัญญา, พระองค์เดียว, นอกเหตุเหนือผล, สมมตติและวิมุตติ, การทำจิตให้สงบ, ตุจโฉโปฎฐิละ, ดวงตาเห็นธรรม, ทำใจให้เป็นบุญ, ทรงไว้ซึ่งข้อวัตร, เหนือเวทนา, เพียรละกามฉันทะ, ทางพ้นทุกข์, ไม่แน่คืออนิจจัง, โอวาทบางตอน, อ่านใจธรรมชาติ, อยู่กับงูเห่า, สัมมาทิฐิที่เยือกเย็น, มรรคผลไม้พ้นสมัย, นักบวชนักรบ, ธุดงค์ทุกข์ดง, สัมมาปฏิปทา, พึงต่อสู้ความกลัว, กว่าจะเป็นสมณะ, เครื่องอยู่ของบรรพชิต, กุญแจภาวนา, วิมุตติ

2. สำนักปฏิบัติธรรม มีสำนักปฏิบัติธรรม ในประเทศไทยซึ่งอยู่ทุกภาคของประเทศจำนวนทั้งสิ้น 82 สาขา และในต่างประเทศอีก 7 สาขา และเฉพาะศิษย์ที่เป็นพระชาวต่างประเทศซึ่งอยู่เป็นประธานสงฆ์ผู้มีพรรษาต่ำสุดคือ 16 พรรษา รายนามสาขาในต่างประเทศ มีดังนี้.-

ยุโรปและอเมริกา

ออสเตรเลีย

วัดและศูนย์ปฏิบัติธรรมที่เกี่ยวเนื่อง

ที่วัดหนองป่าพงยังมีสถานที่พอจะเป็นที่เตือนใจของผู้ประสงค์จะนมัสการและรำลึกถึงท่านคือ พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถระ (ชา สุภทฺโท) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมประวัติและผลงานของท่านมารวมไว้ ตลอดจนรูปปั้นขี้ผึ้งของท่าน ที่ผนังพิพิธภัณฑ์ก็ยังมีภาพชีวิตของท่าน ที่ทำจากกระเบื้องดินเผา เมื่อเข้าไปในพิพิธภัณฑ์แล้วจะให้ทั้งความร่มเย็นศักดิ์สิทธิ์ และปรากฏการณ์เสมือนหนึ่งท่านยังไม่ถึงมรณภาพ

สมณศักดิ์[แก้]

คำสอน[แก้]

คำสอนของหลวงปู่ชาทั้งหมด สามารถสรุปลงได้ดังนี้

  1. จุดหมาย : มรรค ผล นิพพาน พ้นทุกข์
  2. เนื้อหา : ศีล สมาธิ ปัญญา
  3. วิธีการ : สมถ วิปัสสนา
  4. กลวิธี : มองเข้าหาตัว ดูธรรมชาติ เปรียบเทียบ กับธรรมชาติ ทำให้ดู แล้วรู้ตาม

หยุดชั่ว มันก็ดี เก็บถาวร 2007-09-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
การไม่กระทำบาปนั้นมันเลิศที่สุด บางคนบางคราว โจรมันก็ให้ได้ มันก็แจกได้
แต่ว่าจะพยายามสอนให้มันหยุดเป็นโจรนั้นนะ มันยากที่สุด
การจะละความชั่วไม่กระทำผิดมันยาก การทำบุญ โจรมันก็ทำได้ มันเป็นปลายเหตุ
การไม่กระทำบาปทั้งหลายทั้งปวงนั้นนะเป็น ต้นเหตุ

นอกเหตุเหนือผล เก็บถาวร 2007-09-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
พระพุทธองค์ท่านทรงสอนว่าให้ "นอกเหตุเหนือผล"ไม่ว่าจะทำอะไร
ปัญญาของท่านให้นอกเหตุเหนือผล ให้นอกเกิดเหนือตาย นอกสุขเหนือทุกข์
ลองคิดตามไปซิลองพิจารณาไปตาม คนเราเคยอยู่ในบ้าน พอหนีจากบ้านไปไม่มีที่อยู่ไม่รู้จะทำอย่างไร
เพราะเรามันเคยอยู่ในภพ อยู่ในความยึดมั่นถือมั่นเป็นภพ

ลูกศิษย์ชาวต่างชาติที่สำคัญ[แก้]

  • พระพรหมวชิรญาณ (โรเบิร์ต สุเมโธ) (พระอาจารย์สุเมโธ) ศิษย์ชาวต่างประเทศรูปแรก เป็นพระภิกษุชาวสหรัฐอเมริกา อุปสมบทเมื่อ พ.ศ. 2510 และจำพรรษาที่วัดในจังหวัดหนองคาย ประมาณ 1 ปี แล้วจึงเดินทางมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี ได้ก่อตั้งวัดอมราวดีที่ประเทศอังกฤษเมื่อ พ.ศ. 2527 และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอมราวดีจนถึง พ.ศ. 2553
  • พระภาวนาวิเทศ (อลัน เขมธมฺโม) (พระอาจารย์เขมธัมโม) เป็นพระภิกษุชาวอังกฤษ อุปสมบทเมื่อ พ.ศ. 2515 ก่อนวันวิสาขบูชาเพียงไม่กี่วัน โดยมีหลวงพ่อชาเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้เผยแผ่ธรรมในเรือนจำ จนได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากประเทศสหราชอาณาจักร
  • พระราชโพธิวิเทศ (รีด ปสนฺโน) (พระอาจารย์ปสันโน) เป็นพระภิกษุชาวแคนาดา อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดเพลงวิปัสสนา แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เมื่อ พ.ศ. 2517 ในพรรษาแรกนั้นเอง ท่านได้มีโอกาสฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อชาโดยการแนะนำของพระอุปัชฌาย์ของท่าน ได้พำนักที่วัดหนองป่าพงและวัดสาขาอื่นๆ ตามโอกาสอันสมควร ต่อมาใน พ.ศ. 2525 ท่านได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ และได้ปฏิบัติหน้าที่นี้เป็นเวลา 15 ปี กระทั่งใน พ.ศ. 2540 พระอาจารย์ปสันโนได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ เพื่อมาก่อตั้งวัดป่าอภัยคีรีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นเจ้าอาวาสร่วมกับพระอาจารย์อมโร
  • พระราชพุทธิวรคุณ (เจเรมี ชาร์ลี จูเลียน อมโร) (พระอาจารย์อมโร) เป็นพระภิกษุชาวอังกฤษ อุปสมบทเมื่อ พ.ศ. 2522 เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าอภัยคีรีร่วมกับพระอาจารย์ปสันโน ต่อมาสละตำแหน่งเจ้าอาวาสร่วมวัดป่าอภัยคีรีใน พ.ศ. 2553 เพื่อรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอมราวดี ประเทศอังกฤษ ตามคำขอของพระอาจารย์สุเมโธ
  • พระธรรมพัชรญาณมุนี (ฌอน ชยสาโร) (พระอาจารย์ชยสาโร) เป็นพระภิกษุชาวอังกฤษ อุปสมบทเมื่อ พ.ศ. 2523 ที่วัดหนองป่าพง โดยมีหลวงพ่อชา เป็นพระอุปัชฌาย์ ปัจจุบัน พำนัก ณ สถานพำนักสงฆ์ จังหวัดนครราชสีมา

ทายาทธรรม[แก้]

เว็บทางการของวัดหนองป่าพง[แก้]

ธรรมะหลวงพ่อชา ภาษาอังกฤษ และภาษาต่างประเทศ[แก้]

อ้างอิง[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

ก่อนหน้า พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) ถัดไป
เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง
(พ.ศ. 2516 – พ.ศ. 2535)
พระราชภาวนาวิกรม (เลี่ยม ฐิตธมฺโม)