อาบิลา

พิกัด: 40°39′16″N 4°41′46″W / 40.65444°N 4.69611°W / 40.65444; -4.69611
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อาบิลา
เมือง
ปลาซาเดลเมร์กาโดชิโก
ธงของอาบิลา
ธง
ตราราชการของอาบิลา
ตราอาร์ม
สมญา: 
"อาบิลาแห่งพระมหากษัตริย์, อาบิลาแห่งเหล่าผู้จงรักภักดี, อาบิลาแห่งเหล่าอัศวิน"
คำขวัญ: 
"หนึ่งนครสำหรับทุกคน..."
(Una ciudad para todos...)
อาบิลาตั้งอยู่ในสเปน
อาบิลา
อาบิลา
ที่ตั้งเมืองอาบิลาในประเทศสเปน
พิกัด: 40°39′16″N 4°41′46″W / 40.65444°N 4.69611°W / 40.65444; -4.69611
ประเทศ สเปน
แคว้นแคว้นกัสติยาและเลออน กัสติยาและเลออน
จังหวัดอาบิลา
การปกครอง
 • นายกเทศมนตรีมิเกล อังเฆล การ์ซิอา นิเอโต (พรรคประชาชน)
พื้นที่
 • ทั้งหมด231.9 ตร.กม. (89.5 ตร.ไมล์)
ความสูง(AMSL)1,132 เมตร (3,714 ฟุต)
ประชากร
 (ค.ศ. 2013)
 • ทั้งหมด59,258 คน
 • ความหนาแน่น260 คน/ตร.กม. (660 คน/ตร.ไมล์)
เขตเวลาUTC+1 (CET)
 • ฤดูร้อน (เวลาออมแสง)UTC+2 (CEST)
รหัสไปรษณีย์05001 - 05006
รหัสพื้นที่+34 (สเปน)
+920 (อาบิลา)
เว็บไซต์เว็บไซต์ทางการ
เมืองเก่าอาบิลาพร้อมด้วยโบสถ์นอกกำแพงเมือง *
  แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก
ประเทศ สเปน
ภูมิภาค **ยุโรปและอเมริกาเหนือ
ประเภทวัฒนธรรม
เกณฑ์พิจารณาiii, iv
อ้างอิง348
ประวัติการขึ้นทะเบียน
ขึ้นทะเบียน2528 (คณะกรรมการสมัยที่ 9)
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก
** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก

อาบิลา (สเปน: Ávila) เป็นเมืองแห่งหนึ่งของประเทศสเปน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอาดาฆา (Adaja) ในแคว้นปกครองตนเองกัสติยาและเลออน อาบิลาเป็นเมืองหลักของจังหวัดที่มีชื่อเดียวกันและเป็นเมืองหลักจังหวัดที่ตั้งอยู่สูงที่สุดของประเทศ กล่าวคือ ตั้งอยู่ที่ 1,131 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ด้วยเหตุนี้ในเขตเมืองจึงมีหิมะตกค่อนข้างบ่อยในฤดูหนาว ตัวเมืองมีสภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ในปี ค.ศ. 2012 มีประชากรอาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองอาบิลาประมาณร้อยละ 34 ของประชากรทั้งจังหวัด

หลังจากที่จักรวรรดิโรมันได้สถาปนาอำนาจขึ้นในพื้นที่และกลมกลืนชนพื้นเมืองชาวเวตตอน (Vettones) ให้เข้ากับอารยธรรมโรมันแล้ว (เนื่องจากไม่เหลือร่องรอยการตั้งถิ่นฐานสมัยก่อนโรมันที่ชัดเจนในเขตเมืองเก่า) อาบิลาก็เปลี่ยนมาอยู่ในอำนาจของชาววิซิกอท จากนั้นจึงตกอยู่ใต้อำนาจของชาวมุสลิมในตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 8 เช่นเดียวกับพื้นที่ส่วนใหญ่ของคาบสมุทรไอบีเรีย ชาวคริสต์ไม่สามารถยึดเมืองคืนไปได้อย่างเด็ดขาดจนกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 11 เมืองมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างโดดเด่นในคริสต์ศตวรรษที่ 16 แต่ต่อมาก็ประสบภาวะวิกฤตที่ยาวนานจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งมีการก่อสร้างทางรถไฟผ่านตัวเมือง สภาพเศรษฐกิจจึงกระเตื้องขึ้นในระดับหนึ่ง

อาบิลาได้รับพระราชทานสมญานาม "อาบิลาแห่งพระมหากษัตริย์" (Ávila del Rey) จากพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 7 แห่งเลออน, "อาบิลาแห่งเหล่าผู้จงรักภักดี" (Ávila de los Leales) จากพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 8 แห่งกัสตียา และ "อาบิลาแห่งเหล่าอัศวิน" (Ávila de los Caballeros) จากพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 11 แห่งกัสตียา สมญานามทั้งสามยังคงปรากฏอยู่ในธงและตราประจำเมืองในปัจจุบัน นอกจากนี้เมืองนี้ยังได้รับการยกย่องว่าเป็น "นครแห่งบทเพลงร้องและนักบุญ" (ciudad de cantos y de santos) มาแต่โบราณอีกด้วย[1]

สิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ของอาบิลาคือกำแพงเมืองยุคกลางซึ่งอยู่ในสภาพสมบูรณ์ สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ สิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่มีความโดดเด่น เช่น อาสนวิหารอาบิลา (ซึ่งมีมุขโค้งด้านสกัดรวมเป็นส่วนหนึ่งของแนวกำแพงเมือง), มหาวิหารนักบุญบิเซนเต, สำนักชีนักบุญยอแซฟ เป็นต้น ย่านเมืองเก่ายุคกลางรวมทั้งโบสถ์บางแห่งนอกกำแพงเมืองซึ่งอยู่ในสภาพการอนุรักษ์ที่ดีเยี่ยมได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกร่วมกันในปี ค.ศ. 1985

เมืองพี่น้อง[แก้]

อาบิลาเป็นเมืองพี่น้องกับเมืองต่อไปนี้

อ้างอิง[แก้]

  1. Martínez Taboada, Pilar (2009). "Historia del urbanismo medieval hispano: cuestiones metodológicas e historiográficas". Anales de Historia del Arte. Volumen Extraordinario: 27–59. สืบค้นเมื่อ 22 de febrero de 2013. {{cite journal}}: |volume= has extra text (help); ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

"Ávila" in the 1913 Catholic Encyclopedia.