วิลเลียมดาบยาว

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วิลเลี่ยมที่ 1 ผู้ดาบยาว

รูปปั้นของวิลเลี่ยมผู้ดาบยาว เป็นส่วนหนึ่งในชุด "หกดยุคแห่งนอร์ม็องดี" ในฟาเลส
เคานต์แห่งรูอ็อง
เกิด ค.ศ. 893
เสียชีวิต 17 ธันวาคม ค.ศ. 942, พิกกินญีบนแม่น้ำซอมม์
บิดา รอลโลแห่งนอร์ม็องดี
มารดา โปปป้า
ภรรยา ลุตการ์ดแห่งแวร์ม็องดัวซ์
บุตร/ธิดา ริชาร์ดที่ 1 แห่งนอร์ม็องดี
ขุนนางฝรั่งเศส - กษัตริย์ฝรั่งเศส - ประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส

วิลเลี่ยมผู้ดาบยาว (อังกฤษ: William Longsword, ฝรั่งเศส: Guillaume Longue-Épée, ละติน: Willermus Longa Spata, ภาษานอร์สโบราณ: Vilhjálmr Langaspjót; ค.ศ. 893 – 17 ธันวาคม ค.ศ. 942) เป็นผู้ปกครองคนที่สองของนอร์ม็องดี ตั้งแต่ ค.ศ. 927 จนถูกลอบสังหารใน ค.ศ. 942[1]

ชีวิตช่วงแรก[แก้]

วิลเลี่ยมเป็นบุตรชายของชาวไวกิ้ง รอลโล กับภรรยาชาวคริสเตียน โปปป้าแห่งบายูซ์[2] เขาเกิดในต่างประเทศ อาจจะในอังกฤษ[3] มารดาของเขามาจากตระกูลขุนนางชาวแฟรงก์[4] วิลเลี่ยมได้รับการทำพิธีศีลล้างบาปเป็นชาวคริสเตียนอาจจะในเวลาเดียวกับบิดา[5] ฉายาของวิลเลี่ยม ผู้ดาบยาว อาจได้มาในช่วงการต่อสู้ใน ค.ศ. 924-925 บริเวณบูเวส์, ปงธิว และอาเมียง[5]

ดยุคแห่งนอร์ม็องดี[แก้]

วิลเลี่ยมสืบทอดต่อจากบิดาเป็นผู้นำใน ค.ศ. 927[6] ช่วงแรกๆ ที่ครองตำแหน่ง เขาเผชิญหน้ากับการก่อกบฏของชาวนอร์มันกลุ่มอื่นที่ไม่คิดว่าเขาเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำของตน[7] ผู้นำของการกบฏครั้งนี้คือริยูฟแห่งอีฟโรซ์[7] ในเวลาเดียวกัน วิลเลี่ยมส่งภรรยา สโปรต้า ไปเฟค็อมป์ที่บุตรชายของทั้งคู่ ริชาร์ด เกิด[8]

ใน ค.ศ. 933 วิลเลี่ยมที่ 1 ผู้ดาบยาวปฏิญาณความจงรักภักดีต่อพระเจ้าราอูล กษัตริย์แห่งฟรังเกียตะวันตก แลกกับการที่พระเจ้าราอูลมอบการเป็นผู้นำเหนือดินแดนมากมายของชาวเบรตันที่รวมถึงแอฟร็องช์และโคต็องแต็งให้เขา[9] แต่ชาวเบรตันต่อสู้เพื่อรักษาดินแดนเหล่านั้นไว้ พวกเขามีอลันที่ 2 ดยุคแห่งบริตทานีกับเคานต์เบเรนเกร์แห่งแร็นน์เป็นผู้นำ มันจบลงอย่างรวดเร็วด้วยการหนีไปอังกฤษของอลันและการทำเงื่อนไขมิตรภาพกับชาวนอร์มันของเบเรนเกร์[10] ใน ค.ศ. 935 วิลเลี่ยมจัดการการแต่งงานระหว่างน้องสาวของตน อาเดลา กับวิลเลี่ยม เคานต์แห่งปัวตู ด้วยการเห็นดีเห็นงามของยูกผู้ยิ่งใหญ่[11] ในเวลาเดียวกัน วิลเลี่ยมแต่งงานกับลุตการ์ด[12] บุตรสาวของเคานต์แอร์แบต์ที่ 2 แห่งแวร์ม็องดัวซ์ สินสอดที่เธอมอบให้วิลเลี่ยมคือที่ดินของล็องเกอวีลล์, ครูเดรอ และอีลีเยร์ ลีฟเวค[13]

วิลเลี่ยมผู้ดาบยาวโจมตีฟลานเดอส์ใน ค.ศ. 939 และอาร์นูล์ฟที่ 1 เคานต์แห่งฟลานเดอส์กับพระเจ้าหลุยส์ที่ 4 แห่งฝรั่งเศส โจมตีนอร์ม็องดีเพราะเรื่องนี้ อาร์นูล์ฟยึดปราสาทแห่งมงเทรยล์-ซูร์-แมร์เพื่อปราบแอร์ลวน เคานต์แห่งปงธิว แอร์ลวนช่วยวิลเลี่ยมผู้ดาบยาวเอาปราสาทคืนมา[14] วิลเลี่ยมถูกตัดขาดจากศาสนาจากการโจมตีและทำลายดินแดนที่เป็นของอาร์นูล์ฟ[15] วิลเลี่ยมสาบานความจงรักภักดีต่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 4 ในตอนที่ทั้งสองเจอกันใน ค.ศ. 940 แลกกับการที่เขาได้รับการยืนยันสิทธิ์ในดินแดนที่ถูกมอบให้กับบิดาของเขา รอลโล[16] เกือบสามปีต่อมา ในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 942 ที่พิกกินญีบนแม่น้ำซอมม์ วิลเลี่ยมผู้ดาบยาวถูกโจมตีและถูกสังหารโดยผู้ติดตามของอาร์นูล์ฟขณะกำลังทำการประชุมร่วมกันทางสันติภาพเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งของทั้งคู่[13]

ครอบครัว[แก้]

วิลเลี่ยมมีบุตรชายหนึ่งคนกับสโปรต้า[17]

  1. ริชาร์ดผู้ไม่กลัวใคร ที่สืบทอดต่อจากบิดา[17]

วิลเลี่ยมแต่งงานครั้งที่สองกับลุตการ์ด บุตรสาวของแอร์แบต์ที่ 2 เคานต์แห่งแวร์ม็องดัวซ์[17] ทั้งคู่ไม่มีบุตรด้วยกัน[17]

อ้างอิง[แก้]

  1. Detlev Schwennicke, Europäische Stammtafeln: Stammtafeln zur Geschichte der Europäischen Staaten, Neue Folge, Band III Teilband 1 (Marburg, Germany: J. A. Stargardt, 1984), Tafel 79
  2. David C. Douglas, 'Rollo of Normandy', The English Historical Review, Vol. 57, No. 228 (Oct., 1942), p. 422
  3. François Neveux, A Brief History of the Normans, trans. Howard Curtis (London: Constable & Robbinson, Ltd, 2008), p. 62 & n. 111
  4. François Neveux, A Brief History of the Normans, trans. Howard Curtis (London: Constable & Robbinson, Ltd, 2008), pp. 60-1
  5. 5.0 5.1 David Crouch, The Normans: The History of a Dynasty (London: Hambledon Continuum Press, 2007), p. 9
  6. David C. Douglas, 'Rollo of Normandy', The English Historical Review, Vol. 57, No. 228 (Oct., 1942), p. 435
  7. 7.0 7.1 A Companion to the Anglo-Norman World, ed. Christopher Harper-Bill; Elisabeth Van Houts (Woodbridge, UK: The Boydell Press, 2007), p. 25
  8. Eleanor Searle, Predatory Kinship and the Creation of Norman Power, 840-1066 (Berkeley: University of California Press, 1988), p. 95
  9. Pierre Riché, The Carolingians; A Family who Forged Europe, trans. Michael Idomir Allen (Philadelphia: University of Pennsylvania Press, 1993), pp. 252-3
  10. The Gesta Normannorum Ducum of William of Jumieges, Orderic Vitalis, and Robert of Torigni, ed. & trans. Elizabeth M.C. Van Houts, Vol. I (Oxford: Clarendon Press, 1992), p. 79
  11. The Gesta Normannorum Ducum of William of Jumieges, Orderic Vitalis, and Robert of Torigni, ed. & trans. Elizabeth M.C. Van Houts, Vol. I (Oxford: Clarendon Press, 1992), p. 81
  12. Detlev Schwennicke, Europäische Stammtafeln: Stammtafeln zur Geschichte der Europäischen Staaten, Neue Folge, Band III Teilband 1 (Marburg, Germany: J. A. Stargardt, 1984), Tafel 79
  13. 13.0 13.1 François Neveux, A Brief History of the Normans, trans. Howard Curtis (London: Constable & Robbinson, Ltd, 2008), p. 72
  14. Eleanor Searle, Predatory Kinship and the Creation of Norman Power, 840-1066(Berkeley: University of California Press, 1988), p.56
  15. The Annals of Flodoard of Reims; 916-966, ed. & trans. Steven Fanning and Bernard S. Bachrach (New York; Ontario Canada: University of Toronto Press, 2011), p. 31
  16. The Annals of Flodoard of Reims; 916-966, ed. & trans. Steven Fanning and Bernard S. Bachrach (New York; Ontario Canada: University of Toronto Press, 2011), p. 32
  17. 17.0 17.1 17.2 17.3 François Neveux. A Brief History of The Normans (London: Constable & Robbinson, Ltd, 2008), p. 90