ลำต้น

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ลำต้นที่แสดงให้เห็นข้อ (node) ปล้อง (internpode) และก้านใบ (petiole)
ลำต้นเหนือพื้นดินของ Polygonatum สูญเสียใบไม้ไป แต่ได้สร้างรากพิเศษจากตาของมัน

ลำต้น เป็นหนึ่งในสองแกนโครงสร้างหลักของพืชมีท่อลำเลียง อีกอย่างหนึ่งเป็นราก ทำหน้าที่รองรับใบไม้ ดอกไม้ และผลไม้ ขนส่งของเหลวระหว่างรากถึงยอดในไซเลมและโฟลเอ็ม เก็บสารอาหาร และสร้างเนื้อเยื่อชีวิตใหม่

ลำต้นโดยปกติแบ่งออกเป็นข้อและปล้อง:

  • ข้อรองรับหนึ่งใบหรือมากกว่า รวมทั้งตาซึ่งสามารถเติบโตเป็นก้าน (หรือใบกรวยต้นสนหรือช่อดอก) รากพิเศษอาจจะเกิดขึ้นได้จากข้อ
  • ปล้องคือส่วนที่อยู่ระหว่างข้อ

คำว่า "หน่อ" มักจะถูกสับสนกับ "ลำต้น"; "หน่อ" โดยทั่วไปหมายถึงการเจริญเติบโตของพืชสดใหม่ที่รวมทั้งลำต้นและโครงสร้างอื่น ๆ เช่นใบไม้หรือดอกไม้ ในพืชส่วนใหญ่ลำต้นตั้งอยู่เหนือผิวดิน แต่พืชบางชนิดมีลำต้นใต้ดิน

ลำต้นมีสี่หน้าที่หลักคือ:[1]

  • รองรับและยกใบไม้ ดอกไม้ และผลไม้ ลำต้นจะช่วยให้ใบคงในที่มีแสงและให้สถานที่อยู่สำหรับดอกไม้และผลไม้
  • การขนส่งของเหลวระหว่างรากและหน่อโดยไซเลมและโฟลเอ็ม (ดูด้านล่าง)
  • เป็นที่เก็บสารอาหาร
  • การผลิตเนื้อเยื่อที่มีชีวิตใหม่ โดยปกติของเซลล์พืชจะมีชัวิตระหว่างหนึ่งถึงสามปี โดยลำต้นมีเนื้อเยื่อเจริญซึ่งสร้างเนื้อเยื่อที่มีชีวิตใหม่ทุกปี

ลำต้นมีเนื้อเยื่อคล้ายท่อสองที่เรียกว่าไซเลมและโฟลเอ็ม เนื้อเยื่อไซเลมจะลำเลียงน้ำโดยแรงดึงจากการคายน้ำ แรงยกตัว และความดันราก เนื้อเยื่อของโฟลเอ็มประกอบด้วยเซลล์หลอดตะแกรงและเซลล์ข้างเคียง เนื้อเยื่อทั้งสองแยกจากกันด้วยวาสคิวลาร์แคมเบียม ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่สามารถแบ่งออกเป็นเซลล์ในไซเลมหรือโฟลเอ็มได้

อ้างอิง[แก้]

  1. Raven, Peter H., Ray Franklin Evert, and Helena Curtis (1981). Biology of Plants. New York: Worth Publishers. ISBN 0-87901-132-7.