ฟุตบอลทีมชาติยิบรอลตาร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ยิบรอลตาร์ ยิบรอลตาร์
Shirt badge/Association crest
ฉายาGFA
Team 54[1]
สมาคมสมาคมฟุตบอลยิบรอลตาร์
(GFA)
สมาพันธ์ยูฟ่า (ยุโรป)
หัวหน้าผู้ฝึกสอนฮูลิโอ เซซาร์ ริบาส อุรุกวัย
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนโฆเซ การ์โลส กิลปริเอโต สเปน
กัปตันรอย ชิโปลินา
ติดทีมชาติสูงสุดเลียม วอล์กเกอร์ (59)
ทำประตูสูงสุดลี แคสเซียโร (3)
สนามเหย้าวิกตอเรีย สเตเดียม
รหัสฟีฟ่าGIB
อันดับฟีฟ่า
อันดับปัจจุบัน 203 ลดลง 2 (4 เมษายน 2024)[2]
อันดับสูงสุด190 (ตุลาคม 2018–ปัจจุบัน)
อันดับต่ำสุด206 (เมษายน 2017–มีนาคม 2018)
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก
ธงชาติยิบรอลตาร์ ยิบรอลตาร์ 0–0 สโลวาเกีย ธงชาติสโลวาเกีย
(ฟารู, โปรตุเกส; 19 พฤศจิกายน 2013)
ชนะสูงสุด
ธงชาติยิบรอลตาร์ ยิบรอลตาร์ 1–0 มอลตา ธงชาติมอลตา
(ฟารู, โปรตุเกส; 4 มิถุนายน 2014)
ธงชาติยิบรอลตาร์ ยิบรอลตาร์ 1–0 ลัตเวีย ธงชาติลัตเวีย
(ยิบรอลตาร์; 25 มีนาคม 2018)

อาร์มีเนีย อาร์มีเนีย 0–1 ธงชาติยิบรอลตาร์ ยิบรอลตาร์
(เยเรวาน, อาร์มีเนีย; 13 ตุลาคม 2018)

ธงชาติยิบรอลตาร์ ยิบรอลตาร์ 2–1 ลีชเทินชไตน์ ลิกเตนสไตน์
(ยิบรอลตาร์; 16 ตุลาคม 2018)
แพ้สูงสุด
ธงชาติฝรั่งเศส ฝรั่งเศส 14–0 ยิบรอลตาร์ ธงชาติยิบรอลตาร์
(นิส, ฝรั่งเศส; 18 พฤศจิกายน 2023)

ฟุตบอลทีมชาติยิบรอลตาร์ เป็นทีมฟุตบอลตัวแทนของยิบรอลตาร์ ซึ่งเป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร ควบคุมและบริหารงานโดยสมาคมฟุตบอลยิบรอลตาร์

ทีมชาติยิบรอลตาร์ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของยูฟ่า หลังจากผ่านความเห็นชอบจากการโหวตของชาติสมาชิกยูฟ่าในเดือนพฤษภาคม ปี 2013 [3] และได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 รอบคัดเลือก โดยนับเป็นการเข้าร่วมแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ของยูฟ่าเป็นครั้งแรก ต่อมาได้ยิบรอลตาร์ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของฟีฟ่าในเดือนพฤษภาคม 2016 โดยเป็นสมาชิกลำดับที่ 211 ของฟีฟ่า

ด้วยประชากรเพียง 33,000 คน ทำให้ดินแดนยิบรอลตาร์ กลายเป็นชาติสมาชิกที่มีขนาดเล็กที่สุดของยูฟ่าเมื่อวัดจากจำนวนประชากร

แม้ว่ายิบรอลตาร์จะไม่ใช่หมู่เกาะ แต่ก็เคยส่งทีมฟุตบอลเข้าร่วมแข่งขันในกีฬาไอส์แลนด์ เกม ในปี 1993 และชนะเลิศในกีฬาไอส์แลนด์ เกม 2007 ที่เกาะโรดส์

เข้าเป็นสมาชิกของยูฟ่า[แก้]

สมาคมฟุตบอลยิบรอลตาร์ (GFA) ได้ยื่นเรื่องขอเข้าเป็นสมาชิกยูฟ่า เป็นครั้งแรกในปี 1999 แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจากได้รับการคัดค้านจากประเทศสเปน โดยข้อคัดค้านของสเปนนั้นนอกจากจะอ้างกรรมสิทธิ์ในดินแดนยิบรอลตาร์ที่ยังเป็นข้อพิพาทกับสหราชอาณาจักรแล้ว ยังยกเหตุผลว่าการอนุมัติให้ยิบรอลตาร์เข้าเป็นสมาชิกของยูฟ่านั้น จะเป็นการส่งเสริมให้ดินแดนอื่นที่อยู่ในความปกครองของสเปนอย่างแคว้นกาตาลุญญาและแคว้นบาสก์ ใช้เป็นบรรทัดฐานในการขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกของยูฟ่าเช่นกัน และอาจส่งผลให้เกิดการแยกตัวออกมาจากสเปน

อย่างไรก็ตามการลงคะแนนเสียงมีขึ้นอีกครั้งในปี 2007 โดยสมาคมฟุตบอลสเปนได้มีการออกมากดดันว่าหากสมาคมฟุตบอลของยิบรอลตาร์ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของยูฟ่า สมาคมฟุตบอลสเปนจะขอถอนทีมออกจากการแข่งขันในทุกรายการของยูฟ่าเพื่อเป็นการประท้วง ท่ามกลางการกดดันจากทางสเปน มีชาติสมาชิกเพียง 3 ชาติเท่านั้นที่โหวตให้การสนับสนุนยิบรอลตาร์ คืออังกฤษ ,สก็อตแลนด์ และเวลส์ ซึ่งทั้งหมดต่างก็เป็นชาติที่อยู่ในสหราชอาณาจักร ที่ปกครองยิบรอลตาร์เอง

ต่อมายูฟ่าได้ออกกฏว่าชาติใดที่จะขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกได้ต้องเป็นรัฐเอกราชที่ได้รับการยอมรับจากสหประชาชาติเท่านั้น ทำให้สมาคมฟุตบอลยิบรอลตาร์ ยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา หรือ ศาลกีฬาโลก โดยศาลได้ตัดสินว่ากฏเรื่องรัฐเอกราชที่ยูฟ่าออกมานั้น ไม่สามารถใช้บังคับกับสมาคมฟุตบอลยิบรอลตาร์ได้ เพราะไม่ใช่กฏที่มีอยู่ในขณะที่ยิบรอลตาร์ขอเข้าร่วมเป็นสมาชิก แต่เป็นการออกกฏขึ้นใหม่ภายหลังจากที่ยิบรอลตาร์ได้ยื่นเรื่องขอเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ยูฟ่าจึงมิอาจใช้หลักรัฐเอกราชในการปฏิเสธความเป็นชาติสมาชิกของดินแดนยิบรอลตาร์ได้

ในเดือนพฤษภาคม ปี 2013 สมาคมฟุตบอลยิบรอลตาร์ได้เป็นสมาชิกของยูฟ่าอย่างเป็นทางการจากการโหวตของบรรดาสมาชิก ที่จัดขึ้นในลอนดอน โดยมีเพียงสเปนและเบลารุส ที่โหวตไม่สนับสนุน

เข้าเป็นสมาชิกของฟีฟ่า[แก้]

หลังจากชนะคดีที่ศาลกีฬาโลกจนได้เป็นสมาชิกของยูฟ่า ต่อมายิบรอลตาร์ได้ยื่นเรื่องขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกของฟีฟ่า โดยในเดือนกันยายน ปี 2014 คำขอเข้าเป็นสมาชิกของฟีฟ่าได้ถูกปฏิเสธ โดยเซพพ์ บลัทเทอร์ประธานของฟีฟ่า ยกเหตุผลในเรื่องที่ยิบรอลตาร์มีสถานะเป็นดินแดนอาณานิคมโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร

อย่างไรก็ตามเหตุผลดังกล่าวเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ในวงการฟุตบอลอย่างกว้างขวาง เนื่องจากก่อนหน้านี้ฟีฟ่าเคยรับชาติที่ยังไม่มีเอกราชสมบูรณ์ในตัวเอง เข้าเป็นสมาชิกของฟีฟ่าถึง 22 ชาติ (ในจำนวนนี้ มีถึง 5 ชาติที่เป็นสมาชิกของยูฟ่า คือหมู่เกาะแฟโร ที่มีสถานะเป็นเขตปกครองตนเองขึ้นตรงกับเดนมาร์ก และอังกฤษ,สก็อตแลนด์,เวลส์,ไอร์แลนด์เหนือที่เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร) โดยสมาคมฟุตบอลยิบรอลตาร์ได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องฟีฟ่าต่อศาลกีฬาโลก ให้เพิกถอนมติเดิมและรับยิบรอลตาร์เข้าเป็นสมาชิก ซึ่งวิธีการเดียวกันนี้ทำให้ยิบรอลตาร์ได้เข้าเป็นสมาชิกของยูฟ่ามาแล้ว

เดือนพฤษภาคม ปี 2015 ศาลกีฬาโลก ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับคดีที่สมาคมฟุตบอลยิบรอลตาร์ฟ้องร้องฟีฟ่าไว้พิจารณาในชั้นศาล ต่อมาในเดือนพฤษภาคม ปี 2016 ฟีฟ่าได้จัดประชุมเพื่อรับยิบรอลตาร์เป็นสมาชิก โดยการลงคะแนนเสียงของสมาชิกเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ปี 2016 ที่เม็กซิโก ได้ผ่านความเห็นชอบให้ยิบรอลตาร์เข้าเป็นสมาชิกของฟีฟ่า ด้วยคะแนนเสียง 172 ต่อ 12 ทำให้ยิลรอลตาร์ได้เป็นสมาชิกของฟีฟ่าลำดับที่ 211 ถัดจากทีมชาติคอซอวอ ที่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกลำดับที่ 210 ของฟีฟ่าในปี ค.ศ. 2016 และทำให้ยิบรอลตาร์มีสิทธิ์เข้าแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก

ผลงานในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป[แก้]

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016[แก้]

วันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2014 ยิบรอลตาร์ลงแข่งขันในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบคัดเลือก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยพบกับทีมชาติโปแลนด์

สนามเหย้า[แก้]

ในอดีตก่อนจะเป็นสมาชิกของยูฟ่า ทีมชาติยิบรอลตาร์ใช้ สนามกีฬาวิกตอเรีย เป็นสนามเหย้าสำหรับแข่งขันระดับชาติ โดยสนามกีฬาแห่งนี้มีความจุ 5,000 ที่นั่ง ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินยิบรอลตาร์ บนถนนวินสตัน เชอร์ชิล อเวนิว

โดยสมาคมฟุตบอลยิบรอลตาร์ ได้มีโครงการก่อสร้างสนามกีฬายูโรปา พอยต์ ซึ่งมีความจุ 10,000 ที่นั่งเพื่อมาใช้แทนที่สนามเดิม[4][5][6] โดยการก่อสร้างสนามใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นในเดือนตุลาคม ค.ศ.2013[7] ระหว่างการก่อสร้างสนามใหม่นี้ทีมชาติยิบรอลตาร์ จะต้องใช้สนาม เอสตาดิอู อัลการ์เว ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองฟารู, ประเทศโปรตุเกส เป็นสนามเหย้าแทน เนื่องจากสนามกีฬาวิกตอเรียยังไม่ผ่านมาตรฐานของยูฟ่า ในการจัดการแข่งขันระดับชาติอย่างเป็นทางการ[8]

อย่างไรก็ตาม แม้ทีมชาติยิบรอลตาร์จะไม่สามารถใช้งานสนามกีฬาวิกตอเรียสำหรับแข่งขันในรายการของยูฟ่า อย่างฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 รอบคัดเลือกได้ แต่ยังสามารถใช้สนามนี้ได้ในการแข่งขันกระชับมิตร[9]

สถิติ[แก้]

ผู้เล่นที่ลงสนามให้ทีมชาติมากที่สุด[แก้]

ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2018

# ชื่อ ช่วงเวลา จำนวนนัดที่ลงสนาม จำนวนประตู สโมสร
1 เลียม วอล์กเกอร์ 2013– 33 2 เซเด ซาน โรเก
บีไน เยฮูดา เทลอาวีฟ
ลินคอล์น เรด อิมพส์
ยูโรปา เอฟซี
นอตส์ เคาน์ตี
2 โจเซฟ ชิโปลินา 2013– 31 2 ลินคอล์น เรด อิมพส์
3 รอย ชิโปลินา 2013– 30 1 ลินคอล์น เรด อิมพส์
4 ฌอน-คาร์ลอส การ์เซีย 2014– 26 0 ลินคอล์น เรด อิมพส์
5 ไรอัน แคสเซียโร 2013– 24 0 ลินคอล์น เรด อิมพส์
ไคล์ แคสเซียโร 2013– 24 1 ลินคอล์น เรด อิมพส์
7 แอนโธนี บาร์ดอน 2014– 23 0 ลินคอล์น เรด อิมพส์
เชฟฟีลด์ เอฟซี
ลี แคสเซียโร 2014– 23 2 ลินคอล์น เรด อิมพส์
9 จอร์แดน เปเรซ 2013–2016 17 0 ลินคอล์น เรด อิมพส์
ไลออน ยิบรอลตาร์
เซ็นต์ โจเซฟ เอฟซี
10 เจย์ซี โอลิเวโร 2016– 16 0 อบิงดอน ยูไนเต็ด
แจ็ก เซอร์เจนต์ 2014– 16 0 แมนเชสเตอร์ 62
ลินคอล์น เรด อิมพส์
เจค กอสลิง (ซ้าย) และ ลี แคสเซียโร (ขวา) เจ้าของสถิติร่วมในฐานะผู้ยิงประตูสูงสุดในทีมชาติยิบรอลตาร์

ผู้ยิงประตูสูงสุดในทีมชาติ[แก้]

ณ วันที่ สิงหาคม 2018

# ชื่อ ช่วงเวลา ประตู จำนวนนัดที่ลงสนาม ค่าเฉลี่ยการยิงประตู
1 เจค กอสลิง 2014– 2 12 0.167
ลี แคสเซียโร 2014– 2 19 0.105
เลียม วอล์กเกอร์ 2013– 2 29 0.069
4 ไคล์ แคสเซียโร 2013– 1 23 0.043
รอย ชิโปลินา 2013– 1 28 0.036
แอนโธนี เฮอร์นานเดซ 2014– 1 13 0.077

ผู้เล่นที่มีชื่อเสียง[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Team 54". Gibraltar Football Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-18. สืบค้นเมื่อ 22 August 2014.
  2. "The FIFA/Coca-Cola World Ranking". FIFA. 4 เมษายน 2024. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2024.
  3. http://m.bbc.com/sport/football/22657481[ลิงก์เสีย]
  4. "Our new national stadium". team54.gi. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-16. สืบค้นเมื่อ 24 May 2013.
  5. "'NO POLITICS, JUST FOOTBALL' – BEISO". Gibraltar Chronicle. 3 October 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-28. สืบค้นเมื่อ 24 May 2013.
  6. Doyle, Paul (23 May 2013). "Gibraltar set to be new kids on the Rock as Uefa votes on its future". London: Guardian.co.uk. สืบค้นเมื่อ 24 May 2013.
  7. Franco, Liam. "GIB'S MAN IN UEFA FLAGS UP STADIUM PROJECT ON TWITTER". Gibraltar Chronicle. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-28. สืบค้นเมื่อ 26 September 2013.
  8. "Algarve – temporary home for Gibraltar's international football matches". GBC News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-06. สืบค้นเมื่อ 26 September 2013.
  9. Bailey, Graeme. "Slovakia to be Gibraltar's first opponents". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 5 November 2013.