พอลิสไตรีน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

พอลิสไตรีน (อังกฤษ: Polystyrene, PS) เป็นพลาสติกที่ผลิตขึ้นมาจากสไตรีนมอนอเมอร์ ซึ่งเป็นสารไฮโดรคาร์บอนที่ได้จากปิโตรเลียม ถูกผลิตออกขายครั้งแรกในช่วงปี 1930 - 1939 ช่วงแรกสไตรีนที่ผลิตขึ้นมาถูกนำไปใช้ในสงครามโลก ครั้งที่ 2 เป็นหลัก หลังจากสงครามจบลงจึงเปลี่ยนมาผลิตเป็นพลาสติกพอลิสไตรีนออกขายแทน ในการผลิตพอลิสไตรีนยังมีวัตถุดิบอื่น ๆ ที่ใช้ร่วมด้วยได้แก่ เบนซีน เอทิลีน และบิวทาไดอีน

พอลิสไตรีนเป็นพลาสติกชนิดเทอร์โมพลาสติก คือหลอมเป็นของเหลวได้ โดยที่อุณหภูมิห้องจะอยู่ในสถานะของแข็ง แต่จะหลอมละลายเมื่อทำให้ร้อนและแข็งตัวเมื่อเย็นลง พอลิสไตรีนแข็งที่บริสุทธิ์จะไม่มีสี ใส แต่สามารถทำเป็นสีต่าง ๆได้ และยืดหยุ่นได้จำกัด

พอลิสไตรีนที่ใช้กันอยู่ทั่วไปส่วนใหญ่เป็นชนิดที่เรียกว่า expanded polystyrene (EPS) เป็นชนิดที่ได้จากการผสมพอลิสไตรีนร้อยละ 90-95 กับสารทำให้ขยายตัว (ที่ใช้กันมากคือเพนเทนหรือคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อก่อนใช้ ซีเอฟซี ซึ่งเป็นสารทำลายชั้นโอโซน) ร้อยละ 5-10 พลาสติกที่เป็นของแข็งถูกทำให้เป็นโฟมโดยการใช้ความร้อน (มักเป็นไอน้ำ) พอลิสไตรีนอีกชนิดหนึ่งคือ Extruded polystyrene (XPS) มีชื่อทางการค้าที่แพร่หลายคือ Styrofoam เป็นชนิดที่มีการเติมอากาศไว้ในช่องว่างตามเนื้อโฟมทำให้มีค่าการนำความร้อนต่ำ ใช้ในงานก่อสร้าง และใช้เป็นฉนวนกันความร้อนในอาคาร และยังมีชนิดที่เป็นแผ่นเรียกว่า Polystyrene Paper Foam (PSP) ใช้เป็นภาชนะบรรจุอาหาร เช่นกล่องหรือถาดใส่อาหาร กระบวนการผลิตพอลิสไตรีนปลดปล่อยสารพิษอะไรบ้าง สารพิษที่ปลดปล่อยออกมาในระหว่างการผลิตพอลิสไตรีนได้แก่

  1. เบนซีน (เป็นสารก่อมะเร็ง)
  2. สไตรีนมอนอเมอร์ (เป็นสารที่สงสัยว่าก่อให้เกิดมะเร็ง)
  3. 1, 3-บิวทาไดอีน (เป็นสารที่สงสัยว่าก่อให้เกิดมะเร็ง)
  4. คาร์บอนเตตระคลอไรด์ ทำให้เกิดมะเร็งในสัตว์ทดลองและสงสัยว่าก่อให้เกิดมะเร็งในคน)
  5. โครเมี่ยม (6) ออกไซด์ ก่อให้เกิดมะเร็งและการกลายพันธุ์ในสัตว์ทดลอง

มีรายงานการตรวจพบว่าคนงานที่ทำงานในโรงงานสไตรีนและพอลิสไตรีนมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับการทำงานของปอด ทำลายโครโมโซม และเป็นมะเร็งเพิ่มมากขึ้น

การผลิต[แก้]

วัสดุที่ทำจากพอลิสไตรีน[แก้]

  • แก้วโฟมที่ใช้แล้วทิ้ง ที่ค้นพลาสติก จานหรือถาดพลาสติกใส่อาหาร
  • โฟมที่ใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ เช่นบรรจุภัณฑ์กันกระแทกสำหรับใส่ขวดไวน์ ผลไม้ และคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
  • วัสดุช่วยพยุงให้ลอยน้ำ
  • แผ่นฉนวนกันความร้อนในอาคาร
  • อื่น ๆ เช่น ไม้บรรทัด ไม้แขวนเสื้อ ม้วนวิดีโอ ตลับเทป เป็นต้น

ข้อควรระวัง[แก้]

  1. การใช้ภาชนะโฟมพลาสติก EPS ใส่อาหารที่ร้อน เช่นกาแฟเย็น การค้นกาแฟร้อน ๆ ด้วยคนที่ทำจากพลาสติก EPS หรือการที่โฟมสัมผัสกับกรดเช่น้ำมะนาว หรืออาหารที่มีวิตามิน เอแล้วนำไปเข้าไมโครเวฟ ก็สามารถทำให้สไตรีนมอนอเมอร์ในโฟมพลาสติกละลายออกมาผสมในอาหารได้
  2. การเผาโฟมพลาสติกพอลิสไตรีนทำให้เกิดก๊าซพิษสไตรีนออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของของมะเร็ง
  3. การรีไซเคิลโฟมพอลิสไตรีนมีปัญหาในเรื่องไม่คุ้มทุนเป็นสำคัญ เนื่องจากคุณภาพของพลาสติกที่รีไซเคิลได้จะต่ำลงกว่าก่อนผ่านการรีไซเคิล ดังนั้นพลาสติกที่รีไซเคิลได้จึงไม่สามารถนำกลับมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เดิมได้ ต้องทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่ด้อยคุณภาพลงไป เช่นโฟมบรรจุอาหารไม่สามารถรีไซเคิลกลับมาใส่อาหารได้อีก ต้องนำไปทำเป็นโฟมกันกระแทก ฉนวนฝาผนัง ถาดในโรงอาหาร เป็นต้น ซึ่งการทำเช่นนี้ต้องใช้เพิ่มวัตถุดิบหรือต้นทุนด้านต่าง ๆ เข้าไปอีก