พระนารทพุทธเจ้า

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระนารทพุทธเจ้า
ข้อมูล
icon สถานีย่อยพระพุทธศาสนา

หลังจากพระศาสนาของพระปทุมพุทธเจ้าล่วงไปแล้ว จึงได้ถึงสมัยของพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระนารทพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายในวรกัปเดียวกัน

พระประวัติ[แก้]

พระนารทพุทธเจ้า ประสูติเป็นนารทราชกุมาร ในราชวงศ์กษัตริย์แห่งธัญญวดีนคร พระราชบิดาทรงพระนามว่าพระเจ้าสุเทวะ และพระราชมารดาทรงพระนามว่าพระนางอโนมา นารทราชกุมารทรงเกษมสำราญครองฆราวาสอยู่นาน 9,000 ปี ในปราสาท 3 หลัง ชื่อ วิชิตะ วิชิตาวี และวิชิตาภิรามะปราสาท มีพระมเหสีพระนามว่า วิชิตเสนาเทวี และทรงมีสนมนารีแวดล้อมอีก 120,000 นาง

วันหนึ่ง พระมหาบุรุษทอดพระเนตรเห็นเทวทูตทั้งสี่ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช พระองค์จึงมีพระทัยน้อมไปทางบรรพชา เมื่อพระนางวิชิตเสนาเทวีประสูติพระโอรส พระนามว่า นันทุตตรกุมาร จึงได้เสด็จด้วยพระบาทออกบรรพชาในธนัญชัยราชอุทยานนอกพระนคร โดยมีผู้ออกบรรพชาตามจำนวน 1 แสนคน

นารทราชกุมารทรงบำเพ็ญความเพียรอยู่ในพระราชอุทยานเป็นเวลา 7 วัน จนถึงวันเพ็ญเดือนวิสาขะ ทรงรับข้าวมธุปายาสจากพระนางวิชิตเสนาเทวีอัครมเหสี และรับหญ้า 8 กำจากพนักงานเฝ้าอุทยาน ปูลาดใต้ต้นมหาโสณะ (ต้นอ้อยช้างใหญ่) เป็นโพธิบัลลังก์ และได้ตรัสรู้เป็นพระปัญญาธิกะพุทธเจ้าในคืนนั้น

พระนารทพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาแก่พระภิกษุ ผู้บรรพชาตามจำนวน 1 แสนคนในราชอุทยานนั้นเอง

พระนารทพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมาภิสมัยให้บังเกิดขึ้น 3 วาระ คือ

  1. วาระที่ 1 แสดงปฐมเทศนา ธรรมาภิสมัยบังเกิดแก่มนุษย์และเทวดา 100,000 โกฏิ
  2. วาระที่ 2 แสดงธรรมแก่พญานาคโทณะ ธรรมาภิสมัยบังเกิดแก่มนุษย์และเทวดา 90,000 โกฏิ พญานาคโทณะได้เนรมิตมณฑบสำเร็จด้วยรัตนะทั้ง 7 ประการขึ้นในแม่น้ำคงคา
  3. วาระที่ 3 แสดงธรรมแก่พระโอรส ธรรมาภิสมัยบังเกิดแก่มนุษย์และเทวดา 80,000 โกฏิ

พระนารทพุทธเจ้า ทรงประชุมสาวกสันนิบาต 3 ครั้ง

  1. ครั้งที่ 1 ทรงแสดงปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวก 100,000 โกฏิ
  2. ครั้งที่ 2 ทรงแสดงปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวก 90,000 โกฏิ ที่มาประชุมกันในสมาคมพระญาติ
  3. ครั้งที่ 3 ทรงแสดงปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวก 8,000,000 ที่มาประชุมกันในคราวเสด็จโรงทานของพญานาคชื่อ เวโรจนะ

พระนารทพุทธเจ้ามีพระสาวกองค์สำคัญ คือ

  • พระอัครสาวก คือ พระภัททสาละเถระ และพระชิตมิตตะเถระ
  • พระอัครสาวิกา คือ พระอุตตราเถรี และพระผัคคุนีเถรี
  • พระอุปัฏฐาก คือ พระวาเสฏฐะ

พระนารทพุทธเจ้ามีพระวรกายสูง 88 ศอก มีพระรัศมีวาหนึ่ง เมื่อพระชนมายุได้ 90,000 ปี จึงปรินิพพาน พระศาสนาดำรงมาได้อีก 90,000 ปีนานพอสมควรแล้วก็อันตรธานไป

ความเกี่ยวข้องกับพระพุทธโคดม[แก้]

ในสมัยของพระนารทพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ได้บังเกิดเป็นมนุษย์ ได้ออกบวชเป็นฤๅษี บำเพ็ญพรตในป่าใหญ่จนสำเร็จอภิญญา 5 วันหนึ่ง พระพุทธองค์และพระอริยสงฆ์พร้อมทั้งเหล่าอุบาสกอุบาสิกา พากันมาใกล้อาศรมของฤๅษี ในคราวนั้น พระฤๅษีโพธิสัตว์ทรงอภิญญาทัศนาเห็น ก็มีความปีติยินดี ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธองค์ จึงเนรมิตอาศรมมากมายให้มีจำนวนเพียงพอ กับพระพุทธองค์และเหล่าพระสาวก แล้วถวายให้นั่งเป็นที่เรียบร้อย

ครานั้นพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม แก่พระสาวกและมหาฤๅษี ทำให้มหาฤๅษีมีความปีติปราโมทย์เป็นที่สุด ในวันรุ่งขึ้น จึงเหาะไปยังอุตตรกุรุทวีป เพื่อนำเอาภัตตาหารมาถวายพระพุทธองค์และพระสาวก อย่างเพียงพอ กระทำอย่างนั้นอยู่เป็นเวลา 7 วัน วันสุดท้าย สักการะด้วยแก่นจันทน์แดงอันมีคุณค่า พระพุทธองค์ทรงอนุโมทนา แล้วตรัสพยากรณ์ว่า

มหาฤๅษีผู้มีอนุภาพนี้ นานไปในอนาคตกำหนดอีก 1 อสงไขยกับอีกเศษแสนมหากัป จะได้ตรัสรุเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง มีนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดมพุทธเจ้า

หลังจากนั้นมหาฤๅษีโพธิสัตว์จึงทำความเพียรสร้างสมบารมี จนสิ้นอายุขัย ก็จุติเป็นพรหมบนพรหมโลก

อ้างอิง[แก้]

ก่อนหน้า พระนารทพุทธเจ้า ถัดไป
พระปทุมพุทธเจ้า
100,000 ปี
พระพุทธเจ้าในอดีต องค์ที่ ๑๒
(90,000 ปี)
พระปทุมุตตรพุทธเจ้า
(100,000 ปี)

ดูเพิ่ม[แก้]