ตุ๊กตาบลายธ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บลายธ์
ประเภทตุ๊กตาแฟชั่น
ผู้ประดิษฐ์Allison Katzman
บริษัทKenner/Takara
ประเทศ สหรัฐ ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น
ช่วงเวลา1972–ปัจจุบัน
เว็บไซต์ทางการ

ตุ๊กตาบลายธ์ (อังกฤษ: Blythe) เป็นตุ๊กตาที่ผลิตในฮ่องกงและวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา โดยบริษัท เค็นเนอร์ (Kenner) เมื่อ พ.ศ. 2515 ออกแบบโดยนักออกแบบของบริษัท มาร์วิน กลาส สตูดิโอ ประกอบด้วย แอลลิสัน แคตสแมน และรูเบ็น เทอร์เซียน ตุ๊กตารุ่นนี้ไม่ได้รับความนิยม จึงมีวางจำหน่ายเพียงปีเดียวในสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็ไม่ได้มีการจำหน่ายอีก

ตุ๊กตาบลายธ์มีลักษณะเด่นคือ มีตากลมโตที่เปลี่ยนสีได้ โดยดึงเชือกที่อยู่ด้านหลังศีรษะตุ๊กตา มีสัดส่วนศีรษะโต ลำตัวและขาสั้น ดูเหมือนการ์ตูน ปัจจุบันบริษัท เค็นเนอร์ ได้เลิกกิจการแล้ว และลิขสิทธิ์ของตุ๊กตาบลายธ์ถือครองโดย บริษัท แฮสโบร

ในปี พ.ศ. 2540 โปรดิวเซอร์รายการโทรทัศน์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก ชื่อ จินา แกแรน (Gina Garan) ได้รับตุ๊กตาบลายธ์เป็นของขวัญจากเพื่อน และได้ใช้ตุ๊กตานี้เป็นแบบฝึกฝนการถ่ายภาพ เธอได้ตีพิมพ์หนังสือภาพถ่าย ชื่อ "This is Blythe" ซึ่งมีแต่ภาพของตุ๊กตาบลายธ์ทั้งเล่มในปี พ.ศ. 2545 และเริ่มเกิดกระแสความนิยม ตุ๊กตาบลายธ์ถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์โฆษณาของห้างสรรพสินค้าพาร์โคในประเทศญี่ปุ่น และทำให้เกิดกระแสความนิยมเป็นอย่างสูงในประเทศญี่ปุ่น รายการโทรทัศน์ I Love the '70s ของ VH1 ได้จัดให้มีช่วงของตุ๊กตาบลายธ์เป็นพิเศษ และทำให้เกิดความนิยมเป็นวงกว้าง

ปัจจุบัน นักสะสมตุ๊กตาพากันสะสมตุ๊กตาบลายธ์รุ่นแรก จนทำให้ราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากตัวละ 35 ดอลลาร์สหรัฐในปี พ.ศ. 2515 เป็นไม่ต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ บริษัทแฮสโบรได้ผลิตตุ๊กตาบลายธ์ขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ. 2543 เรียกว่า "นีโอ บลายธ์" ราคาจำหน่ายระหว่าง 60 ดอลลาร์สหรัฐ ถึง 300 ดอลลาร์สหรัฐ

ในสหรัฐอเมริกา โชคร้ายสำหรับเค็นเนอร์ ที่ตุ๊กตาขายไม่ดี เลยผลิตจำหน่ายแค่เพียงปีเดียวก็ยุติการผลิต แต่เป็นโชคดีของผู้มีตุ๊กตาบลายธ์ที่ผลิตในปีนั้นไว้ในครอบครอง เพราะปัจจุบัน นักสะสมตุ๊กตาระดับมืออาชีพ ต่างควานหาตุ๊กตารุ่นนี้กันให้ควั่ก แถมให้ราคาดี ซึ่งจะ”ดีมาก” หรือ “ดีมากๆ” ขึ้นอยู่กับสภาพของตุ๊กตา กล่าวกันว่าราคาซื้อขายทั่วไปจะอยู่ที่ตัวละ 1,000 กว่าดอลลาร์ขึ้นไป ส่วนตุ๊กตาบลายธ์ที่ผลิตใหม่ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา ที่เรียกว่า นีโอ บลายธ์ (Neo Blythe) เวลาจะขายทอดตลาดก็มักได้ราคาไม่ต่ำไปกว่าราคาที่ซื้อมา เรียกว่ามีไว้ไม่ขาดทุน ยิ่งถ้าเป็นรุ่นที่ผลิตออกมาในจำนวนจำกัด (limited edition) ก็ยิ่งได้ราคาดี

ตุ๊กตา บลายธ์เป็นสินค้าที่น่าสนใจมากทีเดียว บลายธ์เหมือนกับ ตุ๊กตาบาร์บี้ที่มีคุณค่า และมูลค่าอยู่ในชื่อของเธอเอง ถือเป็นแบรนด์ที่ขายชื่อได้และทำเงินดีด้วย ตุ๊กตาบลายธ์ รุ่น “วินเทจ” ซึ่งหมายถึงรุ่นที่ผลิตจำหน่ายในปี 1972 สามารถเรียกราคาประมูลบนเว็บไซต์อีเบย์ได้ตัวละกว่า 2,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 76,000 บาท (จากราคาจำหน่ายแค่ตัวละ 35 ดอลลาร์ หรือ 1,300 กว่าบาท) สินค้าเกี่ยวกับบลายธ ์มีนอกเหนือจากตุ๊กตาเป็นตัวๆที่เอาไว้ให้เล่น หรือเอาไว้ให้ชื่นใจ ส่วนใหญ่เป็นของใช้สำหรับผู้หญิง เช่น เข็มกลัด กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสะพาย ซองโทรศัพท์มือถือ แผ่นดีวีดี หรือแม้แต่หนังสือรวมภาพตุ๊กตาบลายธ์ในอิริยาบถต่างๆ ตุ๊กตายี่ห้อนี้มีแฟชั่นโชว์ และนิทรรศการจัดแสดงในหลายประเทศ

ดีไซเนอร์ที่ร่วมทีมออกแบบ ตุ๊กตาบลายธ์เมื่อปี 2515 มี 3 คนสังกัดบริษัท มาร์วิน กลาส สตูดิโอ ซึ่งโด่งดังมากในเรื่องการออกแบบของเด็กเล่น รูเบ็น เทอร์เซียน เป็นผู้ออกแบบลูกตา ซึ่งตอนแรกเขาตั้งใจจะใช้กับตุ๊กตาสุนัข ส่วนลำตัวของตุ๊กตา แรกๆทีมงานก็ออกแบบให้ยาวได้สัดส่วนกับหัวที่มีขนาดใหญ่ของตุ๊กตา แต่ปรากฏว่ากล่องใส่มีขนาดสั้น จึงต้องลดสัดส่วนความยาวลำตัวให้บรรจุได้พอดี ตุ๊กตาบลายธ์จึงหัวโตตัวสั้น ดูเหมือนการ์ตูน

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]