ซามูไรพเนจร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ซามูไรพเนจร
หน้าปกของมังงะ ซามูไรพเนจร เล่ม 1 ในฉบับภาษาไทย
るろうに剣心
ชื่อภาษาอังกฤษRurouni Kenshin หรือ Samurai X
แนวแอคชั่น, ประวัติศาสตร์,ดราม่า,ตลก
มังงะ
เขียนโดยโนบุฮิโระ วาสึกิ
สำนักพิมพ์ญี่ปุ่น ชูเอฉะ
ไทย สยามอินเตอร์คอมิกส์
อนิเมะ
กำกับโดยคาซึฮิโระ ฟุรุฮาชิ
สตูดิโอสตูดิโอแกลลอป (ตอนที่ 1-66)
สตูดิโอดีน (ตอนที่ 67-95)

ซามูไรพเนจร (ญี่ปุ่น: るろうに剣心โรมาจิRurouni Kenshinทับศัพท์: รุโรนิ เค็งชิง; "เคนชินคนพเนจร", ชื่อเต็ม: ญี่ปุ่น: るろうに剣心 -明治剣客浪漫譚-โรมาจิRurōni Kenshin -Meiji Kenkaku Rōmantan-ทับศัพท์: รุโรนิ เค็นชิง -เมจิ เค็งคะคุ โรมังตัง-; "เคนชินคนพเนจร: นิยายรักนักดาบยุคเมจิ") เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นผลงานของ โนบุฮิโระ วาสึกิ เรื่องราวของซามูไรชื่อเคนชิน ชื่อการ์ตูนภาษาอังกฤษของซามูไรพเนจร ใช้ชื่อ Rurouni Kenshin และในบางประเทศใช้ชื่อ Samurai X ในฉบับหนังสือการ์ตูนมี 28 เล่มจบ ในฉบับภาษาไทยตีพิมพ์โดยสยามอินเตอร์คอมิกส์ ในฉบับภาษาญี่ปุ่นตีพิมพ์โดยชูเอฉะ

ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันของเรื่องนี้ได้มีการประกาศเปิดตัวเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2554[1] อำนวยการสร้างโดย วอร์เนอร์บราเธอร์ส และกำกับโดย โอโตะโมะ เคชิ โดยมีนักแสดงนำคือ ซะโต ทะเกะรุ (ตัวเอกใน คาเมนไรเดอร์ เดนโอ) แสดงเป็นเคนชิน และ ทะเกะอิ เอะมิ แสดงเป็นคาโอรุ [2] ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2555[3]

เนื้อเรื่อง[แก้]

ปฐมบท[แก้]

ฮิมุระ เคนชิน อดีตมือสังหารของคณะปฏิวัติเจ้าของฉายา "มือพิฆาตบัตโตไซ" ได้วางดาบ กลายเป็นซามูไรพเนจรธรรมดาๆ จวบจนได้มาพบกับครูฝึกดาบสาวของสำนักคามิยะคัตชินริว คามิยะ คาโอรุ ผู้ซึ่งทำให้เขารู้สึกสบายใจและหยุดการเดินทางที่ไร้จุดหมายลงได้ หลังจากการพำนักอยู่กับคาโอรุ เคนชินต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเหตุการณ์มากมายและได้พบกับ ซางาระ ซาโนสุเกะ, เมียวยิน ยาฮิโกะ, ทากานิ เมกุมิ รวมถึงชิโนโมริ อาโอชิ และกลุ่มโอนิวาบังชู

ภาคชิชิโอ: เกียวโต[แก้]

การหวนกับมาพบกันอีกครั้งของเคนชิน และไซโต ฮาจิเมะ อดีตหัวหน้าหน่วยชินเซ็น กอง 3 ซึ่งปัจจุบันได้ทำหน้าที่ตำรวจสันติบาล ไซโตซึ่งมีหน้าที่เป็นสายสืบให้กับรัฐบาลกลางกำลังสืบสวนเรื่องของอดีตมือสังหารของคณะปฏิวัติอีกคนหนึ่ง ชิชิโอ มาโคโตะ ซึ่งคาดว่ากำลังเตรียมแผนก่อการปฏิวัติอยู่ จากเหตุการณ์การสังหาร โอคุโบ โทชิมิจิ เสนาบดีฝ่ายมหาดไทยโดยเซตะ โซจิโร่ สมุนของชิชิโอ ทำให้เคนชินไม่อาจอยู่เฉยได้ เขาจึงเดินทางยังเกียวโตเพื่อยับยั้งแผนการปฏิวัติของชิชิโอ ขณะเดียวกันชิชิโอก็เรียกกองกำลังจุปปงคาตานะ ซึ่งเป็นยอดฝีมือพิเศษ 10 คนของตัวเองออกมารับมือกับเคนชินด้วย ทางด้านซาโนสุเกะก็ได้ออกติดตามเคนชินมาที่เกียวโตเพื่อช่วยเหลือเคนชินอีกแรง ขณะที่ยาฮิโกะกับคาโอรุก็เดินทางมาหาเคนชินเช่นกัน ระหว่างการเดินทางเคนชินพบกับ มากิมาจิ มิซาโอะ สาวน้อยแห่งโอนิวาบังชู และด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มโอนิวาบังชู ทำให้พวกของเคนชินสามารถป้องกันแผนเผากรุงเกียวโตเพื่อก่อความวุ่นวาย ในขณะที่ตัวชิชิโอและผู้ใกล้ชิดเตรียมนำเรือดำ "เรนโกกุ" เข้าอ่าวโตเกียวเพื่อสร้างความวุ่นวาย แต่ในที่สุดเรือเรนโกกุ ก็ถูกระเบิดมือของซาโนสุเกะทำลายเสียหายจนต้องเลิกล้มแผนการบุกยึดอ่าวโตเกียวไป ชิชิโอพร้อมทั้งจุปปงคาตานะทั้งหมดจึงย้อนกลับไปที่ฐานของตัวเองพร้อมกับท้าให้เคนชินตาม การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเคนชินและชิชิโอ เดิมพัน ด้วยชะตากรรมของรัฐบาลญี่ปุ่น

ภาคเอนิชิ: ทัณฑ์มนุษย์[แก้]

หลังจบศึกชิชิโอ พวกเคนชินอยู่อย่างสงบซักระยะ แต่แล้วเงาแห่งการต่อสู้ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อกลุ่มคน 6 คน ที่เคยมีความแค้นต่อเคนชิน ในสมัยอดีตรวมตัวกันมาเพื่อแก้แค้น 1 ในนั้น คือ ยูกิชิโร่ เอนิชิ น้องชายของ ยูกิชิโร่ โทโมเอะ ภรรยาที่ล่วงลับของเคนชินเอง เอนิชิที่แค้นฝังใจว่าเคนชินผิด จึงทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้เคนชินทุกข์ใจ โดยเริ่มจากการทำร้ายคนรอบข้าง ถึงขั้นนำทัพบุกโรงฝึกคามิยะ แต่พวกเคนชินก็จัดการได้หมด แต่หลังจากหมอกควันที่หนาทึบจางลง ทุกคนก็พบว่าคาโอรุถูกดาบปักอกและถูกกรีดใบหน้าแบบเคนชินแล้วสิ้นใจไปเสียแล้ว เคนชินถึงกับหมดหวัง หนีไปอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านคนไร้ราก

แม้ทุกคนมาเตือนสติ เคนชินก็ไม่สน ซาโนก็กลับไปบ้านเกิดกับก่อเรื่องแล้วกลับมาในภายหลัง ขณะที่อาโอชิกับมิซาโอะเพิ่งมาถึง พอรู้ทราบเชื่อว่าคาโอรุยังไม่ตายจึงขุดศพชันสูตรดู จนรู้ว่าคือศพปลอม อาโอชิกับไซโต้สืบหาฐานใหม่ของเอนิชิ ทางคุจิรานามิ เฮียวโก ที่แค้น เพราะถูกเคนชินตัดมือขวาตอนสงครามปฏิวัติ เกิดคลั่งแหกคุกอาละวาดไปทั่ว ยาฮิโกะออกมารับหน้าแทน สึบาเมะเตือนสติเคนชินสำเร็จ จึงโค่นคุจิรานามิลง พอทุกคนกลับมารวมตัวไปฐานใหม่ของเอนิชิบนเกาะร้าง สู้ตัดสินกันจนชนะ ช่วยคาโอรุตัวจริงออกมาสำเร็จ เอนิชิที่ได้รับบันทึกก่อนตายของโทโมเอะจากคาโอรุ พอถึงโตเกียวก็หลบหนีไปหมู่บ้านคนไร้ยาก โดยหมดหวังกับตัวเอง โดยไม่รู้ว่าตนได้อยู่กับพ่ออีกครั้ง

ตัวละครหลัก[แก้]

รายชื่อตอน[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. ""Rurouni Kenshin" to get film adaptation starring Sato Takeru!". Tokyohive. สืบค้นเมื่อ June 28, 2011.
  2. "Emi Takei to Play Live-Action Rurouni Kenshin's Kaoru". Anime News Network. สืบค้นเมื่อ July 25, 2011.
  3. "Live-Action Rurouni Kenshin Film Image Published". Anime News Network. สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]