คุจิกิ เบียคุยะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ตัวละคร เทพมรณะ
ไฟล์:Rukia.jpg
คุจิกิ เบียคุยะ
อาชีพ ยมทูต
วันเกิด 31 มกราคม
อายุ ไม่ปรากฏ
สีผม สีดำ
สีตา สีเทา
ส่วนสูง 180 cm.
น้ำหนัก 64 Kg
หมู่เลือด ไม่ปรากฏ
ดาบฟันวิญญาณ เซ็มบงซากุระ
พากย์เสียงโดย Ryotaro Okiayu(เรียวทาโร โอกิยู)

คุจิกิ เบียคุยะ (ญี่ปุ่น: 朽木 白哉 ; Kuchiki Byakuya) เป็นตัวละครจากการ์ตูนเรื่องเทพมรณะ และเป็นยมทูตหัวหน้าหน่วยที่ 6 แห่ง 13 หน่วยพิทักษ์

ลักษณะ/อุปนิสัย[แก้]

กฎเกณฑ์ที่สถิตอยู่ในแววตา

เบียคุยะ เป็นชายร่างสูง สง่างาม มีปิ่นปักผมของขุนนางชั้นสูงอยู่บนศีรษะ เขาเป็นคนเงียบครึม มักจะไม่ค่อยพูด เคร่งครัดในกฎระเบียบ ไม่ชอบแสดงความรู้สึกทางสีหน้า มักจะเย็นชากับคนรอบข้างเสมอ จนบางคนออกปากเรียกเขาว่า"เจ้าชายน้ำแข็ง" แต่แท้จริงแล้วเขาเองก็ถือได้ว่าเป็นคนที่รักษาสัจจะอย่างแท้จริงคนหนึ่ง เขาเป็นคนที่จริงจังต่อการทำงานในหน้าที่และยึดทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎที่มีอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น ตอนเด็กกลับเป็นเด็กหนุ่มร่าเริงสดใส ชอบการฝึกดาบอยู่ที่คฤหาสน์คุจิกิและมักจะทะเลาะกับโยรุอิจิซึ่งตอนนั้นเป็นหัวหน้าหน่วย 2 อยู่เป็นประจำเพราะเธอชอบแย่งเชือกมัดผมของเบียคุยะจากนั้นก็ใช้ก้าวพริบตาหนีหายไป

ประวัติ[แก้]

คุจิกิ เบียคุยะ เป็นหัวหน้าตระกูล "คุจิกิ" 1 ใน 4 ตระกูลขุนนางชั้นสูงสุด และว่ากันว่าเบียคุยะนั้นมีฝีมือเก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ตระกูลคุจิกิอันยาวนาน เขาเป็นพี่ชายบุญธรรมของลูเคีย และเป็นหัวหน้าหน่วย 6 ของ "13 หน่วยพิทักษ์" ซึ่งเขาได้รับลูเคียมาเป็นน้องสาวบุญธรรม เนื่องจากคำสัญญาของเขากับ "ฮิซานะ" ซึ่งเป็นพี่สาวที่แท้จริงของลูเคียและเป็นภรรยาของเขาซึ่งขอให้น้องสาวของตนเรียกเบียคุยะว่าพี่ ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาต้องแหกกฎของตระกูล เขาจึงสาบานต่อหน้าสุสานของพ่อแม่ว่าจะไม่ทำผิดกฎอีกเป็นครั้งที่สอง และปิดเรื่องนี้เป็นความลับตลอดมา

  • วันเกิด / 31 มกราคม
  • ส่วนสูง / 180 เซนติเมตร
  • น้ำหนัก / 64 กิโลกรัม
  • ดาบฟันวิญญาณ / เซ็มบงซากุระ
  • คำปลดปล่อย / จงโปรยปราย เซ็มบงซากุระ
  • บังไค / เซ็มบงซากุระ คาเงโยชิ (เงาหาญซากุระพันกลีบ)
  • ความชอบส่วนตัว / เดินเล่นชมจันทร์
  • ความถนัดส่วนตัว / การคัดอักษร
  • อาหาร / อาหารที่ชอบ - อาหารเผ็ด
  • อาหารที่ไม่ชอบ - อาหารหวาน
  • การพักผ่อนสบายๆในวันหยุด / เข้าร่วมวาระประชุมของสี่ตระกูลขุนนาง หรือคัดอักษรเพื่อทำใจให้สงบ
ข้อมูลของหน่วย 6

สัญลักษณ์ของหน่วยคือ ดอกสึบากิหรือดอกคาเมลเลีย ความหมายคือ อุดมคติอันสูงส่ง

ซึ่งความหมายนี้ อธิบายลักษณะนิสัยของทั้งหัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยได้อย่างชัดเจนยิ่ง เป็นหน่วยที่มีระเบียบวินัยและถือเป็นหน่วยที่แข็งแกร่งมากหน่วยหนึ่ง แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็เป็นหน่วยที่สงบเรียบร้อยและเยือกเย็นตามนิสัยของหัวหน้า เพราะเบียคุยะชื่นชอบกิจกรรมที่ทำให้ใจสงบสุขุม ไม่เว้นแม้แต่การเดินชมจันทร์

บทบาท[แก้]

ภาคโซลโซไซตี้[แก้]

เขาปรากฏตัวครั้งแรกพร้อมกับรองหัวหน้าหน่วย 6 "อาบาราอิ เร็นจิ"จากคำสั่งปลอมของ "วังกลาง 46 ห้อง" ให้ไปจับตัวลูเคียกลับมาจากโลกมนุษย์ และเบียคุยะนั้นยังเป็นผู้ตัด"โซ่กรรม"ของอิจิโกะ จนอิจิโกะสูญเสียพลังของยมทูตที่ได้มาจากลูเคียไป

หลังจากนั้นเบียคุยะก็ไม่ได้สนใจที่จะช่วยเหลือลูเคีย นั่นเพราะเขาเองได้สาบานแล้วว่าจะไม่แหกกฎอีก ทำให้อยู่ในฐานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และเขาก็ได้ต่อสู้กับเร็นจิที่ต้องการช่วยลูเคียและเอาชนะได้

ในตอนท้ายของภาคโซลโซไซตี้ เขาได้เข้าต่อสู้กับอิจิโกะและได้ใช้พลังและความสามารถทั้งหมดเท่าที่มีในการต่อสู้ จนในที่สุดเขาก็ยอมและจากไปทั้งที่ยังไม่รู้ผล แต่ในตอนที่ลูเคียกำลังจะโดน"อิจิมารุ งิน"จัดการ เขาก็เอาตัวเองมารับการโจมตีแทน และหลังจากนั้นเขาก็บอกความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับพี่สาวของลูเคีย เขาได้พักรักษาตัวเองอยู่ที่โซลโซไซตี้

ภาคเบาท์[แก้]

เบียคุยะได้ประจำอยู่ที่โซลโซไซตี้ และเมื่อเหล่าเบาท์ได้บุกมาถึงเซย์เรย์เทย์ เขาก็ได้เข้าต่อสู้กับคาริยะ จินหัวหน้าของเหล่าเบาท์ จนถึงขั้นที่เบียคุยะต้องปลดปล่อยสวัสดิกะ แต่อิจิโกะก็เข้ามาช่วยด้วยเสียก่อน ทำให้การต่อสู้จบลงโดยไม่รู้ผลแพ้ชนะ และในช่วงสุดท้ายของภาค เบียคุยะได้เข้าขัดขวางการส่งพลังเพื่อจุดระเบิดพลังวิญญาณ ของคาริยะในระหว่างการต่อสู้กับอิจิโกะร่วมกับโยรุอิจิ และเฝ้ามองการต่อสู้ของทั้งคู่อยู่จนจบ

ภาคอารันคาร์[แก้]

เบียคุยะไม่ค่อยมีบทมานัก นอกจากการปรากฏตัวในการประชุมในช่วงแรกและการมารับเหล่ายมทูตกลับไปยังโซลโซไซตี้ในช่วงหลัง

ภาคฮูเอโก้มุนโด้[แก้]

เบียคุยะได้ช่วยเหลือเร็นจิกับลูเคียให้เข้ามาในฮูเอโก้มุนโด้ เพื่อช่วยเหลือพวกอิจิโกะในการต่อสู้เพื่อช่วยเหลือโอริฮิเมะ

นอกจากนั้นยังมาช่วยเหลือลูเคียจากการกวาดล้างของเอสปาด้า หมายเลข 7 ที่ชื่อว่า "โซมารี เลอรูซ์" เบียคุยะใช้เซ็มบ้งซากุระจัดการกับโซมาลีได้เป็นผลสำเร็จ และตามซาราคิ เคมปาจิไปหาอิจิโกะหลังจากที่อิจิโกะสู้กับอุลคิโอร่าเสร็จแล้วและกำลังปะทะกับเอสปาด้าลำดับ10(หรือ0)ยามี่ ริยัลโก้ หลังจากปล่อยให้ซาราคิสู้กับยามี่ ก็พูดเตือนสติอิจิโกะให้รีบกลับไปยังโลกมนุษย์ด้วยความช่วยเหลือของคุโรซึจิ มายูริที่วิเคราะห์และเปิดการ์กันต้าที่ฮูเอโก้มุนโด้สำเร็จ จากนั้นเบียคุยะกับเคมปาจิก็ทะเลาะกันเองโดยที่ยามี่กลายเป็นตัวรับลูกหลงไป
หลังจากนั้น เบียคุยะ เคมปาจิ และเคียวราคุ ก็เข้าไปรับการเอ็ดตะโรชุดใหญ่จากหัวหน้าใหญ่ฐานที่ทำเสื้อคลุมหัวหน้าหน่วยหายโดยที่เบียคุยะได้บอกว่า"ของโหลๆแบบนี้เดี๋ยวผมซื้อมาใหม่ให้" หลังจากนั้นจึงโดนเอ็ดตะโรซ้ำอีกรอบ

ภาคตัวแทนยมทูตที่หายไป[แก้]

เบียคุยะหลังจากผ่านไป17เดือนพร้อมกับการแต่งกายแบบใหม่

เบียคุยะได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งพร้อมกับการแต่งกายใหม่หลังจากที่อิจิโกะได้พลังยมทูตคืนมาและต่อสู้กับซึคิชิม่า แต่ว่าก็ถูก"บุ๊ค ออฟ ดิเอนด์"ของซึคิชิม่าฟันเอาทำให้ซึคิชิม่าที่แทรกเข้าไปในอดีตของเบียคุยะสามารถอ่านการโจมตีออกทุกรูปแบบ เบียคุยะที่เข้าตาจนจึงได้ตัดสินใจปล่อยตัวเองไปตามความบ้าคลั่งในการต่อสู้เป็นครั้งแรกและสามารถสังหารซึคิชิม่าลงได้

ภาคสงครามเลือดพันปี[แก้]

เบียคุยะกับสมาชิกหน่วยหกได้เข้ารับการบุกของจักรวรรดิวินเดนไรห์และปะทะเข้ากับนักรบดวงดารา F"Fear"แอส นอดด์และถูกขโมยปลดปล่อยสวัสดิกะไป หลังจากนั้นเบียคุยะก็ถูกปลดปล่อยสวัสดิกะของตนเองโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส แต่ตอนนี้พ้นความตายแล้ว และถูกหน่วย 0 ( ราชันย์ ) นำตัวไปยังวังของราชาแห่งโลกวิญญาณ และได้ฝึกฝนจนและเข้าใจถึงแก่นแท้ของพลัง และได้กลับไปร่วมต่อสู้อีกครั้งพร้อมกับพลังบังไคแบบใหม่ (เป็นภาคที่โหดที่สุดเจอ 5 รุม1 แต่ชิวๆ)

ดาบฟันวิญญาณ[แก้]

ขั้นต้น (ชิไค)[แก้]

  • ชื่อ : เซ็มบงซากุระ (ญี่ปุ่น: 千本桜โรมาจิSenbonzakuraทับศัพท์: ซากุระพันดอก)
  • คำปลดปล่อย : "จงโปรยปราย" (ญี่ปุ่น: 散れโรมาจิchire)
  • ลักษณะ : ตัวคมดาบจะสลายเป็นกลีบดอกซากุระ ใช้ฟาดฟันด้วยการสะบัดด้ามดาบที่ยังไม่เปลี่ยนลักษณะ สร้างความเสียหายแก่สิ่งที่สัมผัสโดน ซึ่งวิธีการใช้และลักษณะจะคล้ายกับ "ไฮเนโกะ" ของมัสซึโมโตะ รันงิคุ
  • รูปร่างที่แท้จริง : เป็นผู้ชายร่างสูง ใส่ชุดเกราะซามูไรพร้อมกับหน้ากากยักษ์ นิสัยใจร้อน ขี้โวยวาย ชอบหลอกใช้และโยนความผิดให้คนอื่น ใจร้อน ความอดทนต่ำเหมือนนิสัยของ คุจิกิ เบียคุยะ ตอนเด็ก (อาจจะเป็นเพราะดาบฟันวิญญาณแสดงตัวตนของเจ้าของดังที่ เคียวราคุ กล่าวไว้) สูงกว่าเบียคุยะเพียงห้าเซนติเมตรเท่านั้น
  • ความสามารถ : ตัวคมดาบจะกลายสภาพเป็นกลีบเล็กๆจำนวนนับพันกระจายออกคล้ายกลีบดอกซากุระ ซึ่งจะพุ่งเข้าเฉือนร่างของคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็วและรุนแรง และสามารถใช้ในการตั้งรับได้อีกด้วย สามารถกันได้ทุกอย่าง โดยที่เบียคุยะจะเว้นขอบเขตระหว่างตัวเองกับคมดาบเอาไว้85ซม.เพื่อกันไม่ให้คมดาบฟันโดนตนเอง เรียกว่า เขตไร้บาดแผล เซ็มบงซากุระเคยเข้ามาในเขตไร้บาดแผลเพียงสองครั้งเท่านั้นคือตอนที่ดาบฟันวิญญาณก่อกบฏ กับตอนที่สู้กับซึคิชิม่า

ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)[แก้]

  • ชื่อ : เซ็มบงซากุระคาเงโยชิ (ญี่ปุ่น: 千本桜景厳โรมาจิเงาหาญซากุระพันดอก)
  • ลักษณะ : ตัวดาบทั้งหมดจะสลายเป็นกลีบดอกซากุระจำนวนมหาศาล
  • ความสามารถ : ซึ่งตัวคมดาบทั้งหมดจะแตกออกเป็นกลีบซากุระจำนวนนับไม่ถ้วน และจะเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วสูงมากราวกับพายุ และถ้าใช้วิธีควบคุมด้วยมือ ความเร็วก็จะเพิ่มขึ้น2เท่า
  • รูปแบบที่ 1 เซ็มบงซากุระคาเงโยชิ (เงาหาญซากุระพันกลีบ)
เบียคุยะจะปล่อยดาบจมลงดิน และผุดขึ้นมาเป็นคมดาบยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนเรียงเป็นแถวยาวจนลับสายตา ซึ่งตัวคมดาบทั้งหมดจะแตกออกเป็นกลีบซากุระจำนวนนับไม่ถ้วน และจะเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วสูงมากราวกับพายุ และถ้าใช้วิธีควบคุมด้วยมือ ความเร็วก็จะเพิ่มขึ้น2เท่า
  • รูปแบบที่ 2 เซ็นเคย์ (เงาพิฆาต)
ตัวกลีบคมดาบจะรวมกันกลายเป็นดาบเล็กๆพันเล่มล้อมรอบสถานที่ต่อสู้(ลักษณะคล้ายโดม) ซึ่งเบียคุยะสามารถควบคุมให้ดาบพุ่งเข้ามาหาตัวเองหรือคู่ต่อสู้ได้ตามต้องการ เป็นการโจมตีที่จะปิดช่องทางหนีของศัตรู และจะเน้นการโจมตีเพียงอย่างเดียว หมายเหตุ ขั้นนี้ดาบฟันวิญญาณทั้งพันเล่มจะทำการตรึงการเคลื่อนไหวของศัตรูทำให้เคลื่อนที่ช้าลง(ทำให้ง่ายต่อการฆ่า) เป็นขั้นที่เบียคุยะเองก็ไร้ซึ่งการป้องกันเพราะกลีบซากุระทั้งหมดกลายเป็นตัวดาบหมด
  • รูปแบบที่ 3 ชูเคย์ (เงาสุดท้าย) ฮาคุเทย์เค็น (ญี่ปุ่น: 白帝剣โรมาจิดาบจักรพรรดิขาว)
กลีบคมดาบทั้งหมดจะมารวมกันเป็นดาบเดียว ซึ่งจะมีสีขาวส่องประกาย และจะมีแสงเป็นรูปปีกแตกออกสองข้าง เป็นการโจมตีขั้นสุดท้ายของเซ้มบงซากุระคาเงโยชิ
  • รูปแบบที่ 4 โกเคย์ (เงาลำคอ)
กลีบเซ็มบงซากุระจะล้อมรอบศัตรูและจะโจมตีพร้อมกันและไม่เคยมีใครรอด ปรากฏเมื่อต่อสู้กับเอสปาดาหมายเลย 7 โซมารี เลอรูส์

หมายเหตุ เบียคุยะมีวิถีมารขั้นสูงที่ถนัดที่สุดคือ วิธีผนึกที่ 81 ดันคู(สะบั้นมิติ) อ้างอิงจาก หนังสือbleachเทพมรณะเล่ม34 หน้า141