ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กินทามะ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
วณิพก (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
วณิพก (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 145: บรรทัด 145:
== เนื้อเรื่อง ==
== เนื้อเรื่อง ==
[[ไฟล์:Spebtn gintama.gif|120px|thumb|left]]
[[ไฟล์:Spebtn gintama.gif|120px|thumb|left]]
เนื้อเรื่องมีฉากเป็นประวัติศาสตร์คู่ขนานในช่วงปลาย[[ยุคเอโดะ]] ยุคที่มนุษยชาติถูกโจมตีโดย[[มนุษย์ต่างดาว]]ที่เรียกกันว่า ''ชาวสวรรค์'' ({{nihongo|天人|Amanto}}) [[ซามูไร]]แห่งนคร[[เอโดะ]]ประเทศญี่ปุ่นพยายามต่อสู้เพื่อปกป้องโลก แต่เมื่อ[[โชกุน]]รู้ถึงพลังและวิทยาการของชาวสวรรค์จึงหวาดกลัวแล้วยอมจำนน โชกุนยินยอมลงนามในสนธิสัญญาที่ไม่เท่าเทียมกับชาวสวรรค์ ออกคำสั่งห้ามพกดาบในที่สาธารณะและอนุญาตให้ชาวสวรรค์เข้าประเทศ ดาบของซามูไรถูกยึดไปและ[[รัฐบาลเอโดะ|รัฐบาลบาคุฟุ]]ของโชกุน[[ตระกูลโทกูงาวะ|ตระกูลโทกุงาว่า]]ได้กลายเป็๋นรัฐบาลหุ่นเชิด
เนื้อเรื่องมีฉากในช่วงปลาย[[ยุคเอโดะ]] ยุคที่[[มนุษย์ต่างดาว]]ที่เรียกกันว่า ''ชาวสวรรค์'' ({{nihongo|天人|Amanto}}) ได้มาตั้งรกรากบนโลกมนุษย์ ชาวสวรรค์ได้ออกคำสั่งริบยศถาบรรดาศักดิ์และยึด[[ดาบ]]ของ[[ซามูไร]]ไป ทำให้ยุครุ่งเรืองของซามูไรได้จบสิ้นลง ชาวสวรรค์ได้มีอำนาจเหนือเอโดะมากยิ่งขึ้น แต่ยังมีคนหนึ่งที่ยังยึดมั่นในจิตวิญญาณของซามูไร เขาชื่อ [[ซากาตะ กินโทกิ]] เคยเป็นนักรบซามูไรต่อต้านชาวสวรรค์ ปัจจุบันเปิด''ร้านรับจ้างสารพัด'' ({{nihongo|万事屋|Yorozuya}}) มีผู้ช่วยคือ [[ชิมูระ ชินปาจิ]] หนุ่มแว่นที่ทำงานเพื่อเรียนรู้จิตวิญญาณของซามูไร และ[[คางุระ (ตัวละครในกินทามะ)|คางุระ]] เด็กหญิงชาวสวรรค์เผ่ายาโตะ ทั้งสามทำงานรับจ้างเพื่อหา[[เงิน]]มาจ่ายค่าเช่าบ้านและเลี้ยงชีวิตในยุคมืดของซามูไร


ซีรี่ส์เรื่องนี้เน้นที่เรื่องราวของซามูไรเพี้ยน ๆ ชื่อ[[ซากาตะ กินโทกิ]] ผู้ทำงานเป็นนักรับจ้างอิสระรับทำทุกอย่าง กินโทกิได้ช่วยเด็กหนุ่มชื่อ[[ชิมูระ ชินปาจิ]]ในการช่วยเหลือพี่สาวคือ[[ชิมูระ ทาเอะ]]จากกลุ่มชาวสวรรค์ที่ต้องการนำตัวเธอไปทำงานใช้หนี้ในซ่องโสเภณี ชินปาจิรู้สึกประทับใจกินโทกิจึงผันตัวมาเป็นเด็กฝึกงานลูกจ้างของกินโทกิเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายและเพื่อเรียนรู้วิถีซามูไรเพิ่มเติม ทั้งคู่บังเอิญไปช่วยเด็กหญิงชาวสวรรค์ที่มีพลังเหนือมนุษย์ชื่อ[[คางุระ (กินทามะ)|คางุระ]]จากกลุ่ม[[ยากูซ่า]] พวกเขารับคางุระเข้าทำงานเป็นลูกจ้าง แล้วทั้งสามคนก็เป็นที่รู้จักในชื่อ "ร้านรับจ้างสารพัด" ({{nihongo|万事屋|Yorozuya}})
นอกจากเรื่องราวการทำงานรับจ้างต่าง ๆ กินโทกิและลูกน้องยังได้รู้จักกับกลุ่ม[[ตำรวจ]]พิเศษติดอาวุธชินเซ็นงุมิ บางครั้งทั้งสองฝ่ายจะทะเลาะกัน บางครั้งจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เรื่องราวของพวกเขายังมีผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคน เช่น [[คาซึระ โคทาโร่]] นักรบขับไล่ต่างแดนซึ่งเป็นเพื่อนของกินโทกิและเป็นอาชญากรมีประกาศจับ [[ซารุโทบิ อายาเมะ]] [[นินจา]]สาวสายตาสั้นที่หลงรักกินโทกิ เป็นต้น ส่วนตัวละครตัวร้ายของเรื่องคือ[[ทากาสุงิ ชินสุเกะ]] หัวหน้ากลุ่มนักรบขับไล่ต่างแดนที่มีชื่อกลุ่มว่า''กองทหารอสุรา'' เขาเป็นนักรบขับไล่ต่างแดนที่มีหัวรุนแรงกว่าคาซึระ และต้องการจะทำลายเอโดะให้ราบคาบ

แม้ว่าเนื้่อเรื่องส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องจบเป็นตอน ๆ แต่ก็มีพัฒนาการของเนื้อเรื่องในเนื้อเรื่องบางภาคและตัวละครปฏิปักษ์ที่กลับมาซ้ำ ตัวอย่างเช่นอดีตสหายของกินโทกิชื่อ[[ทากาสุงิ ชินสุเกะ]]ผู้ถือว่ากินโทกิและอดัีตสหายคนอื่นคือศัตรูและหาทางจะทำลายรัฐยบาลโชกุน ในเวลาต่อมาทากาสุงิได้พันธมิตรอันได้แก่ [[คามุอิ]]พี่ชายของคางุระ และหน่วยรบชั้นสูงมิมาวาริงุมิ เพื่อเตรียมก่อการรัฐประหารครั้งใหญ่ ภายหลังเมื่อปฏิปักษ์ที่แท้จริงคืออุซึโร่ผู้เป็นอมตะปรากฏตัว กินโทกิจึงร่วมกับทั้งสหายและศัตรูในการยับยั้งอุซึโร่ไม่ให้ทำลายโลก


== ตัวละคร ==
== ตัวละคร ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:36, 11 มกราคม 2565

กินทามะ
หน้าปกของหนังสือการ์ตูนกินทามะเล่มแรก
ชื่อภาษาอังกฤษGin Tama
แนวผจญภัย, ตลก,[1] บันเทิงคดีแนววิทยาศาสตร์[2]
มังงะ
เขียนโดยฮิเดอากิ โซราจิ
สำนักพิมพ์ญี่ปุ่น ชูเอฉะ
ไทย สยามอินเตอร์คอมิกส์
ในเครือจัมป์ คอมิคส์
นิตยสารญี่ปุ่น โชเน็งจัมป์รายสัปดาห์ (พ.ศ. 2546 – 2561)
ญี่ปุ่น Jump Giga
(พ.ศ. 2561 – 2562)
ญี่ปุ่น Gintama app
(พ.ศ. 2562)
ไทย ซีคิดส์ เอ๊กซ์เพรส
กลุ่มเป้าหมายโชเน็ง
วางจำหน่ายตั้งแต่ญี่ปุ่น 8 ธันวาคม พ.ศ. 2546
20 มิถุนายน พ.ศ. 2562
จำนวนเล่มญี่ปุ่น 77 เล่ม
ไทย 75 เล่ม
โอวีเอ
สตูดิโอซันไรส์
ฉาย24 กันยายน พ.ศ. 2548
ความยาว33 นาที
อนิเมะโทรทัศน์
กำกับโดยชินจิ ทากามัตสึ (ตอนที่ 1-105)
โยอิจิ ฟูจิตะ (ตอนที่ 100-265)
จิซูรุ มิยาวากิ (ตอนที่ 266-328)
เขียนบทโดยอาคาซึกิ ยามาโทยะ (ตอนที่ 1–265)
ดนตรีโดยAudio Highs
สตูดิโอซันไรส์ (ตอนที่ 1–265)
บันไดนัมโคพิคเจอร์ส (ตอนที่ 266–328)
ถือสิทธิ์โดยไทย
เครือข่ายญี่ปุ่น TXN (ทีวีโตเกียว)
ไทย
ฉาย ญี่ปุ่น 4 เมษายน พ.ศ. 2549 - ปัจจุบัน
ไทย
  • 2 มกราคม พ.ศ. 2553 - ?
    (การ์ตูนคลับแชนแนล)
  • พ.ศ. 2550 - 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557
    (ทรู สปาร์ก)
  • 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556 -
    7 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
    (ช่อง 6)
  • 6 มกราคม พ.ศ. 2558 -
    พ.ศ. 2558
    (จีเอ็มเอ็มแชนเนล)
  • 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560
    12 มีนาคม พ.ศ. 2561
    (ทรู สปาร์ก จัมป์)
ตอนญี่ปุ่น 328 ตอน
ไทย 316 ตอน
ไลต์โนเวล
กินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ
เขียนโดยโทโมฮิโตะ โอซากิ
วาดภาพโดยฮิเดอากิ โซราจิ
สำนักพิมพ์ญี่ปุ่น ชูเอฉะ
ไทย สยามอินเตอร์คอมิกส์ไลท์
ในเครือจัมป์ เจบุ๊คส์ (Jump jBooks)
วางจำหน่ายตั้งแต่ญี่ปุ่น 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 -
4 กันยายน พ.ศ. 2556
ไทย 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
20 มกราคม พ.ศ. 2560
จำนวนเล่มญี่ปุ่น 7
ไทย 7
โอวีเอ
ชิโร่ยาฉะ โคทัน (กำเนิดชิโร่ยาฉะ)
สตูดิโอซันไรส์
ฉาย21 กันยายน พ.ศ. 2550
ความยาว10 นาที
โอวีเอ
กำกับโดยโยอิจิ ฟูจิตะ
อำนวยการโดย
  • ริเอโกะ เซคิงูจิ
  • ยาซูยูกิ บัง
  • ฮิโรมิซุ ฮิงูจิ
ดนตรีโดยAudio Highs
สตูดิโอซันไรส์
ฉาย9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
ความยาว25 นาที
โอวีเอ
กินทามะ: จัมป์ เฟสต้า 2015 สเปเชียล
สตูดิโอบันไดนัมโคพิคเจอร์ส
ฉาย3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
ความยาว12 นาที
โอเอดีวีดี
กินทามะ°: ภาคหอมย้อมรัก
กำกับโดยจิซูรุ มิยาวากิ
ดนตรีโดยAudio Highs
สตูดิโอบันไดนัมโคพิคเจอร์ส
ฉาย 4 สิงหาคม พ.ศ. 2559 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
ตอน2
ภาพยนตร์อนิเมะ
ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชัน

กินทามะ (ญี่ปุ่น: 銀魂โรมาจิGintama; แปลว่า "จิตวิญญาณสีเงิน") เป็นซีรีส์มังงะญี่ปุ่น เขียนเรื่องและวาดภาพโดยฮิเดอากิ โซราจิ มีฉากในนครเอโดะที่ถูกครอบครองโดยมนุษย์ต่างดาวที่เรียกว่าชาวสวรรค์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับซามูไรชื่อซากาตะ กินโทกิ ซึ่งทำงานเป็นนักรับจ้างอิสระพร้อมด้วยลูกจ้างสองคนคือชิมูระ ชินปาจิและคางุระ เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเช่าที่รายเดือน ตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็งจัมป์รายสัปดาห์ ของสำนักพิมพ์ชูเอฉะ ตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2546 ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2561 และตีพิมพ์ต่อในนิตยสารจัมป์ GIGA ตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 และเผยแพร่ต่อถึงตอนจบในแอปพลิเคชัน กินทามะ ในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน พ.ศ. 2562

ซีรีส์ได้รับการดัดแปลงเป็นออริจินอลวิดีโอแอนิเมชัน (โอวีเอ) ผลิตโดยสตูดิโอซันไรส์ ได้รับการฉายในงานจัมป์เฟสต้า 2006 อนิเมะทัวร์ ในปี พ.ศ. 2548 หลังจากนั้นจึงจัดทำเป็นซีรีส์อนิเมะโทรทัศน์ความยาวรวม 367 ตอนเริ่มออกอากาศเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2549 ทางช่องทีวีโตเกียว กระทั่งออกอากาศถึงตอนสุดท้ายในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2561 ได้มีการการสร้างเป็นภาพยนตร์อนิเมะ 3 เรื่อง ภาพยนตร์เรื่องแรกเข้าฉายในเดือนเมษายน พ.ศ. 2553 ภาพยนตร์เรื่องที่สองเข้าฉายในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2556 ภาพยนตร์เรื่องที่สามและเรื่องสุดท้ายเข้าฉายในเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 นอกจากซีรีส์อนิเมะแล้ว ยังมีการดัดแปลงกินทามะเป็นไลต์โนเวลหลายเล่มและวิดีโอเกมหลายเกม ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันดัดแปลงชื่อเรื่องว่า กินทามะ ซามูไร เพี้ยนสารพัด เข้าฉายในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2560 ในประเทศญี่ปุ่นโดยวอร์เนอร์บราเธอส์ ประเทศญี่ปุ่น[3] และมีภาพยนตร์ภาคต่อในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561

มังงะมีลิขสิทธิ์ในประเทศไทยโดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ ตีพิมพ์รายสัปดาห์ในนิตยสารการ์ตูนซีคิดส์หรีือภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นซีคิดส์ เอ๊กซ์เพรส และตีพิมพ์เป็นฉบับรวมเล่ม อนิเมะเริ่มจัดจำหน่ายฤดูกาลที่ 1 ในประเทศไทยโดยบริษัททีไอจีเอ ฤดูกาลที่ 2, 3, 4 จัดจำหน่ายโดยบริษัทไรท์บียอนด์ ซีรี่ส์ กินทามะ' และ กินทามะ': ภาคล่วงเวลา จัดจำหน่ายโดยบริษัทโรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ซีรี่ส์อนิเมะเคยมีการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ ได้แก่ ทรูสปาร์ก, ทรูสปาร์กจัมพ์, การ์ตูนคลับแชนแนล, ช่อง 6, จีเอ็มเอ็มวัน, จีเอ็มเอ็มแชนเนล และช่องแก๊งการ์ตูนแชนแนล

เนื้อเรื่อง

ไฟล์:Spebtn gintama.gif

เนื้อเรื่องมีฉากเป็นประวัติศาสตร์คู่ขนานในช่วงปลายยุคเอโดะ ยุคที่มนุษยชาติถูกโจมตีโดยมนุษย์ต่างดาวที่เรียกกันว่า ชาวสวรรค์ (ญี่ปุ่น: 天人โรมาจิAmanto) ซามูไรแห่งนครเอโดะประเทศญี่ปุ่นพยายามต่อสู้เพื่อปกป้องโลก แต่เมื่อโชกุนรู้ถึงพลังและวิทยาการของชาวสวรรค์จึงหวาดกลัวแล้วยอมจำนน โชกุนยินยอมลงนามในสนธิสัญญาที่ไม่เท่าเทียมกับชาวสวรรค์ ออกคำสั่งห้ามพกดาบในที่สาธารณะและอนุญาตให้ชาวสวรรค์เข้าประเทศ ดาบของซามูไรถูกยึดไปและรัฐบาลบาคุฟุของโชกุนตระกูลโทกุงาว่าได้กลายเป็๋นรัฐบาลหุ่นเชิด

ซีรี่ส์เรื่องนี้เน้นที่เรื่องราวของซามูไรเพี้ยน ๆ ชื่อซากาตะ กินโทกิ ผู้ทำงานเป็นนักรับจ้างอิสระรับทำทุกอย่าง กินโทกิได้ช่วยเด็กหนุ่มชื่อชิมูระ ชินปาจิในการช่วยเหลือพี่สาวคือชิมูระ ทาเอะจากกลุ่มชาวสวรรค์ที่ต้องการนำตัวเธอไปทำงานใช้หนี้ในซ่องโสเภณี ชินปาจิรู้สึกประทับใจกินโทกิจึงผันตัวมาเป็นเด็กฝึกงานลูกจ้างของกินโทกิเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายและเพื่อเรียนรู้วิถีซามูไรเพิ่มเติม ทั้งคู่บังเอิญไปช่วยเด็กหญิงชาวสวรรค์ที่มีพลังเหนือมนุษย์ชื่อคางุระจากกลุ่มยากูซ่า พวกเขารับคางุระเข้าทำงานเป็นลูกจ้าง แล้วทั้งสามคนก็เป็นที่รู้จักในชื่อ "ร้านรับจ้างสารพัด" (ญี่ปุ่น: 万事屋โรมาจิYorozuya)

แม้ว่าเนื้่อเรื่องส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องจบเป็นตอน ๆ แต่ก็มีพัฒนาการของเนื้อเรื่องในเนื้อเรื่องบางภาคและตัวละครปฏิปักษ์ที่กลับมาซ้ำ ตัวอย่างเช่นอดีตสหายของกินโทกิชื่อทากาสุงิ ชินสุเกะผู้ถือว่ากินโทกิและอดัีตสหายคนอื่นคือศัตรูและหาทางจะทำลายรัฐยบาลโชกุน ในเวลาต่อมาทากาสุงิได้พันธมิตรอันได้แก่ คามุอิพี่ชายของคางุระ และหน่วยรบชั้นสูงมิมาวาริงุมิ เพื่อเตรียมก่อการรัฐประหารครั้งใหญ่ ภายหลังเมื่อปฏิปักษ์ที่แท้จริงคืออุซึโร่ผู้เป็นอมตะปรากฏตัว กินโทกิจึงร่วมกับทั้งสหายและศัตรูในการยับยั้งอุซึโร่ไม่ให้ทำลายโลก

ตัวละคร

ดูตัวละครทั้งหมดได้ที่ รายชื่อตัวละครในกินทามะ

ตัวละครส่วนใหญ่ในการ์ตูนกินทามะได้ต้นแบบจากบุคคลในประวัติศาสตร์จริง โดยเฉพาะตัวละครในกลุ่มชินเซ็นงุมิที่ได้ต้นแบบจากกองกำลังชินเซ็นงุมิในประวัติศาสตร์จริง

ร้านรับจ้างสารพัดกินจัง (万事屋銀ちゃん)

ตัวละครหลักในการ์ตูนเรื่องกินทามะ เป็นนักรับจ้างสารพัดที่รับจ้างทำทุกอย่าง เพื่อนำเงินค่าจ้างจากการทำงานมาจ่ายค่าเช่าร้าน ประกอบด้วยสมาชิก 3 คน (และ 1 ตัว) ได้แก่

ซากาตะ กินโทกิ (坂田 銀時)

ตัวละครเอกของเรื่อง เป็นเจ้าของร้านรับจ้างสารพัด และในอดีตเคยเป็นสมาชิกของกลุ่มนักรบขับไล่ต่างแดน ซึ่งเป็นซามูไรที่ต่อสู้เพื่อขับไล่ชาวสวรรค์ออกจากเอโดะ แต่เมื่อเพื่อนเกือบทุกคนตายลง ก็ได้รู้ว่าไม่สามารถปกป้องทุกสิ่งได้ มีผมสีเงิน เป็นคนหน้าเหมือนปลาตาย (หน้านิ่งและดูไร้อารมณ์) เป็นคนกวน ๆ และถ้าไม่กินของหวานจะไม่มีเรี่ยวแรง (ของโปรดคือพาเฟ่ต์) เป็นคู่กัดกับฮิจิคาตะ โทชิโร่ และชินเซ็นงุมิโดยเฉพาะโอคิตะ โซโกะมักจะเรียกเขาว่า "ลูกพี่"

ชิมูระ ชินปาจิ (志村 新八)

ลูกชายของเจ้าของโรงฝึกดาบที่ปิดตัวลงเพราะบัญญัติการห้ามใช้ดาบ แล้วต่อมาได้เห็นจิตวิญญาณในตัวกินโทกิ จึงได้มาทำงานเป็นลูกจ้างของกินโทกิ ใส่แว่นจนเป็นจุดเด่น แต่ก็บทไม่เด่นนัก มักจะเป็นคนตบมุข

คางุระ (神楽)

เด็กหญิงชาวสวรรค์ผมสีส้ม ชนเผ่ายาโตะที่เดินทางมาที่โลกเพื่อหางานทำ แล้วจึงมาเป็นลูกจ้างอีกคนของกินโทกิ ชอบแต่งกายคล้ายคนจีน และมีกำลังมหาศาล ชอบพูดลงท้ายว่า "น่อ" โดนเรียกว่า "ยัยเด็กสาหร่ายดอง" อยู่เรื่อย ๆ

ซาดะฮารุ (定春)

เป็นสุนัขตัวใหญ่สีขาว ความจริงเป็นอินุงามิ (สุนัขเทพ) เป็นผู้เฝ้าทวารมังกรในเอโดะ แต่เมื่อชาวสวรรค์รุกราน จึงได้นำทวารมังกรมาเป็นพลังงานให้ท่าเรือ ทำให้อินุงามิไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เลยโดนมิโกะผู้เลี้ยงดู (อาเนะ และ โมเนะ) มาทิ้งให้ร้านรับจ้างสารพัดเลี้ยงดู จะคืนร่างจริงก็ต่อเมื่อกินเลือดของแพะ (นมสด) และผลไม้สีแดง (สตรอว์เบอร์รี)

กองตำรวจติดอาวุธ ชินเซ็นงุมิ (真選組)

นักรับจ้างสารพัดทั้งสาม บางครั้งต้องมาเกี่ยวข้องกับกลุ่มชินเซ็นงุมิ ซึ่งเป็นกองกำลังตำรวจพิเศษติดอาวุธ มีสมาชิกหลัก ๆ ได้แก่

คอนโด้ อิซาโอะ (近藤 勲)

หัวหน้ากลุ่มชินเซ็นงุมิ มีหน้าตาไม่ค่อยดีและมักถูกล้อว่าเป็นกอริลลาเป็นคนที่เห็นแต่ข้อดีของผู้อื่น ชอบโอทาเอะและทำตัวเป็นสตอล์กเกอร์ (โรคจิตชอบติดตาม) เคยเป็นหัวหน้าโรงฝึก

ฮิจิคาตะ โทชิโร่ (土方 十四郎)

รองหัวหน้ากลุ่มชินเซ็นงุมิ เป็นคนที่ชอบรับประทานมายองเนส (มายองเลอร์) ฉะนั้นถึงหน้าตาดีแต่เมื่อสาว ๆ เห็นกินมายองเนสเข้าก็คายของเก่าทุกราย (ยกเว้น คุริโกะ ลูกสาวของป๋ามัตสึไดระ , มิตสึบะ พื่สาวของโซโกะ)

โอคิตะ โซโกะ (沖田 総悟)

หัวหน้าหน่วยที่ 1 แห่งกลุ่มและนักดาบอันดับหนึ่งแห่งชินเซ็นงุมิ ภายนอกมีนิสัยคล้ายเด็ก ๆ แต่แท้จริงแล้วชอบความรุนแรง (ประเภท S) หมายตาตำแหน่งรองหัวหน้า พยายามแกล้งฮิจิคาตะอยู่บ่อย ๆ

ยามาซากิ ซางารุ (山崎 退)

หน่วยสอดแนมของทางชินเซ็นงุมิ เวลาไปสอดแนมมักจะกินอันปังอยู่เสมอชอบเล่นแบดมินตัน เป็นพวกบทจืดคล้าย ๆ ชินปาจิ ใช้ไม้แบดมินตันเป็นอาวุธแทนดาบ

มัตสึไดระ คาทาคุริโกะ (松平 片栗虎)

เจ้ากรมตำรวจ เป็นคนเก็บคอนโด้มาเลี้ยง ห่วงลูกสาวมาก ใส่แว่นกันแดดตลอดเวลา แต่ก็เป็นคนที่โหดมาก ๆ

ลักษณะการดำเนินเรื่อง

ลักษณะการดำเนินเรื่องหลักคือการใช้มุกตลกในการดำเนินเรื่อง ต่อมาเมื่อฮิเดอากิเขียนการ์ตูนกินทามะเป็นปีที่สอง เขาเริ่มใส่ความเป็นดรามาลงในการ์ตูนกินทามะ โดยคงความเป็นการ์ตูนตลกไว้ มุกตลกส่วนมากในเรื่องมีลักษณะล้อเลียนวัฒนธรรม ตัวละคร วิดีโอเกม หรือการ์ตูนเรื่องอื่น

เนื้อเรื่องของกินทามะส่วนใหญ่จะจบในตอน แต่ก็มีเนื้อเรื่องบางช่วงจะมีเรื่องราวต่อเนื่องไปหลายตอน ซึ่งมักจะเน้นความเป็นดราม่าและแอ็กชัน เช่น ภาคการกำเนิดดาบเบนิซากุระ ซึ่งมีความยาวตั้งแต่เล่มที่ 11 ไปจนถึงเกือบครึ่งเล่ม 12 เลยทีเดียว ซึ่งภาคนี้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์กินทามะเรื่องแรกในชื่อ กินทามะ เดอะมูฟวี่ กำเนิดใหม่ดาบเบนิซากุระ (ญี่ปุ่น: 劇場版 銀魂 新訳紅桜篇โรมาจิเงะคิโจบัง งิงทะมะ ชิงยะคุเบะนิซะคุระเฮ็ง) โดยมีตัวละครใหม่เพิ่มขึ้นมา และยังได้สอดแทรกอดีตของพวกกินโทกิในสมัยเด็กไว้เล็กน้อยด้วย

ประวัติการสร้าง

ฮิเดอากิ โซราจิ นักเขียนการ์ตูนผู้เขียนเรื่องกินทามะ ได้ความคิดเรื่องกินทามะ จากคำแนะนำของบรรณาธิการให้เขียนการ์ตูนเกี่ยวกับชินเซ็นงุมิ เขาจึงมีความคิดที่จะเขียนการ์ตูนแนวผสมผสานระหว่างแนวญี่ปุ่นย้อนยุคกับแนวนิยายวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็คือเรื่องกินทามะในเวลาต่อมา

รายชื่อตอน

ดูบทความหลักที่ รายชื่อตอนในกินทามะ (มังงะ) และ รายชื่อตอนในกินทามะ (อนิเมะ)

ชื่อตอนของกินทามะจะมีลักษณะพิเศษคือ มีชื่อตอนทีมีความยาวมาก มีลักษณะคล้าย ๆ สุภาษิต และดูเหมือนไม่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องในบางตอน แต่จริง ๆ แล้ว ชื่อตอนมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บางส่วนในตอนนั้น ๆ แต่อาจจะเป็นส่วนที่สั้น ๆ หรือไม่ค่อยมีความสำคัญ

เพลงประกอบ

เพลงเปิด

  • 1. "Pray" ร้องโดย "Tommy Heavenly6" (ตอนที่ 1-24)
  • 2. "Tooi Nioi (遠い匂い)" ร้องโดย "YO-KING" (ตอนที่ 25-49)
  • 3. "Giniro no Sora (銀色の空)" ร้องโดย "redballoon" (ตอนที่ 50-75)
  • 4. "Kasanaru Kage (かさなる影)" ร้องโดย "Hearts Grow" (ตอนที่ 76-99)
  • 5. "Donten (曇天)" ร้องโดย "DOES" (ตอนที่ 100-125)
  • 6. "Anata magic (アナタ Magic)" ร้องโดย "Monobright" (ตอนที่ 126-150)
  • 7. "Stairway Generation" ร้องโดย "Base Ball Bear" (ตอนที่ 151-176)
  • 8. "Light Infection" ร้องโดย "Prague" (ตอนที่ 177-201)
  • 9. "Tougenkyou Alien" ร้องโดย "Serial TV Drama" (ตอนที่ 202-227)
  • 10. "Dilemma" ร้องโดย "ecosystem'" (ตอนที่ 228-240)
  • 11. "Wonderland" ร้องโดย "FLiP" (ตอนที่ 241-252)
  • 12. "LET'S GO OUT" ร้องโดย "AMOYAMO" (ตอนที่ 253-256)
  • 13. "Sakura Mitsu Tsuki" ร้องโดย "SPYAIR" (ตอนที่ 257-265)
  • 14. "DAYxDAY" ร้องโดย "BLUE ENCOUNT" (ตอนที่ 266-277)
  • 15. "『プライド革命』“PURAIDO kakumei" ร้องโดย "CHiCO with HoneyWorks" (ตอนที่ 278-291)
  • 16. "Beautiful Days" ร้องโดย "OKAMOTO'S" (ตอนที่ 292-303)
  • 17. "KNOW KNOW KNOW" ร้องโดย "DOES" (ตอนที่ 304-316)
  • 18. "Kagerou" ร้องโดย "ЯeaL" (ตอนที่ 317-328)
  • 19. "VS" ร้องโดย "BLUE ENCOUNT" (ตอนที่ 329-341)
  • 20. "勝手にMY SOUL" ร้องโดย "DISH" (ตอนที่

342-353)

เพลงปิด

  • 1. "Fuusen Gamu (風船ガム)" ร้องโดย "Captain Straydum" (ตอนที่ 1-13)
  • 2. "Mr. Raindrop" ร้องโดย "amplified" (ตอนที่ 14-24)
  • 3. "Yuki no Tsubasa (雪のツバサ)" ร้องโดย "redballoon" (ตอนที่ 25-37)
  • 4. "Candy Line (キャンディ・ライン)" ร้องโดย "Takahashi Hitomi" (ตอนที่ 38-49)
  • 5. "Shura (修羅)" ร้องโดย "DOES" (ตอนที่ 50-62)
  • 6. "Kiseki (奇跡)" ร้องโดย "Snowkel" (ตอนที่ 63-75)
  • 7. "SIGNAL" ร้องโดย "KELUN" (ตอนที่ 76-87)
  • 8. "Speed of flow" ร้องโดย "The Rodeo Carburetto" (ตอนที่ 88-99)
  • 9. "Sanagi" ร้องโดย "POSSIBILITY" (ตอนที่ 100-112)
  • 10. "This world is Yours" ร้องโดย "Plingmin" (ตอนที่ 113-125)
  • 11. "I, ai, ai (I 、愛、会い)" ร้องโดย "ghostnote" (ตอนที่ 126-138)
  • 12. "kagayaita (輝いた)" ร้องโดย "Shigi" (ตอนที่ 139-150)
  • 13. "Asa answer (朝ANSWER)" ร้องโดย "PENGIN" (ตอนที่ 151-163)
  • 14. "Wo Ai Ni (ウォーアイニー)" ร้องโดย "Takahashi Hitomi & BEATCRUSADERS" (ตอนที่ 164-176)
  • 15. "Wonderful Days (ワンダフルデイズ)" ร้องโดย "ONE☆DRAFT" (ตอนที่ 177-189)
  • 16. "Sayonara no Sora (サヨナラの空)" ร้องโดย "Qwai" (ตอนที่ 190-201)
  • 17. "Samurai Heart (Some Like It Hot!!)" ร้องโดย "SPYAIR" (ตอนที่ 202-214)
  • 18. "Balance Doll" ร้องโดย "Prague" (ตอนที่ 215-227)
  • 19. "Anagura" ร้องโดย "Kuroneko Chelsea" (ตอนที่ 228-240)
  • 20. "Nakama" ร้องโดย "Good Coming" (ตอนที่ 241-252)
  • 21. "Moonwalk" ร้องโดย "Monobright" (ตอนที่ 253-256)
  • 22. "Expect" ร้องโดย "PAGE" (ตอนที่ 257-265)
  • 23. "DESTINY" ร้องโดย "Negoto" (ตอนที่ 266-277)
  • 24. "『最後までⅡ』“Saigomade Ⅱ" ร้องโดย "Aqua Timez" (ตอนที่ 278-291)
  • 25. "Glorious Days (グロリアスデイズ)" ร้องโดย "THREE LIGHTS DOWN KINGS" (ตอนที่ 292-303)
  • 26. "Acchi Muite (あっちむいて)" ร้องโดย "Swimy" (ตอนที่ 304-316)
  • 27 "silver" ร้องโดย "rize" (ตอนที่ 317-328)
  • 28 "Hankou Seimei" ร้องโดย "Ayumikurikamaki" (ตอนที่ 329-341)
  • 29 "hana ichi monme" ร้องโดย "burnout syndromes" (ตอนที่ 342-353)

รูปแบบต่าง ๆ

หนังสือการ์ตูน

หนังสือการ์ตูนกินทามะเล่มที่ 1 ตีพิมพ์โดยสำนักพิมม์ชูเอฉะ

การ์ตูนเรื่องกินทามะเริ่มลงตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์ ของสำนักพิมพ์ชูเอฉะ ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2546[4] จนถึงปัจจุบัน มีจำนวนตอนมากกว่า 200 ตอน และตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2547[5] จนถึงปัจจุบัน ออกมาถึงเล่มที่ 41[6] นอกจากนี้ สำนักพิมพ์ชูเอฉะยังลงกินทามะลงตอนแรกในหน้าเว็บไซต์ของสำนักพิมพ์ชูเอฉะ[7]

ในอเมริกาเหนือ กินทามะได้รับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์วิซมีเดีย ตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์ระหว่าง เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2550 และเริ่มตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2550[8] โดยได้ตีพิมพ์ถึงเล่มที่ 23 แล้วหยุดการตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มต่อ [9]

ในประเทศไทย กินทามะได้ลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ ตีพิมพ์ลงในนิตยสารการ์ตูนซีคิดส์ เอ๊กซ์เพรสรายสัปดาห์ และตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มตั้งแต่ พ.ศ. 2548[10] จนถึงปัจจุบัน ออกมาถึงเล่มที่ 70[11]

หนังสือการ์ตูนกินทามะที่ตีพิมพ์แล้วในประเทศไทย 50 เล่ม มีชื่อปกบนแต่ละเล่มดังนี้

  1. คนดีมักเป็นคนผมหยักศกตามธรรมชาติ
  2. ความมานะบากบั่นและความดื้อด้านต่างกันเพียงกระดาษกั้น
  3. มาลองคิดดูแล้ว ชีวิตคนเราหลังจากกลายเป็นคุณลุงเนี่ยมันนานกว่าตอนหนุ่มไม่ใช่เรอะ !! น่ากลั๊ว น่ากลัว
  4. คนเป็นพ่อลูกมักเกลียดอะไรเหมือน ๆ กัน
  5. ระวังสายพานให้ดี
  6. มีสิ่งที่ดาบฟาดฟันไม่ได้อยู่
  7. เรื่องไร้สาระเนี่ยจำกันแม่นซะจริง
  8. แฟนของลูกสาวต้องเขกซักโป๊ก
  9. ถ้าริจะเที่ยวคาบาเร่ต์อายุจะต้องถึง 20 ขวบก่อนนะ
  10. แมลงตัวเล็ก ๆ ก็มีจิตวิญญาณเหมือนกัน
  11. อาทิตย์ยังทอแสง
  12. ถ้าเร่งนักก็วิ่งเข้า
  13. ศัตรูเมื่อวาน วันนี้ก็ยังเป็นศัตรูเหมือนเดิม
  14. เมื่อสี่คนเรียงหน้า จะเกิดเชาว์ปัญญามากมาย
  15. รอยยิ้มคือการตกแต่งใบหน้าที่ดีที่สุดของผู้หญิง
  16. ผู้หญิงที่พูดว่าระหว่างฉันกับงานอันไหนสำคัญกว่ากัน ต้องโดนท่าเยอรมันซูเพล็กซ์
  17. ควรเล่นเกมส์แค่วันละหนึ่งชั่วโมง
  18. เหล่าบุรุษทั้งหลายจงเป็นลูกผู้ชายที่ไม่ยอมแพ้
  19. นักวางแผนมักตกหลุมพราง
  20. ก่อนหน้าจะเข้าสู่ช่วงหยุด ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด
  21. แม้สะโพกจะบิดเบี้ยว แต่ก็จะเดินเป็นเส้นตรง
  22. คนเรามักมีแรงผลักดันอยู่ที่หัวใจเสมอ...
  23. เมื่อถึงที่หมายในการไปเที่ยว มักมีเรื่องให้ทะเลาะกัน
  24. มีบางเรื่องที่แม้นพบกันแล้วก็ไม่อาจจะเข้าใจ...
  25. หนังสือที่ใช้หน้าคู่เยอะ ๆ เนี่ยเหมือนหนังสือการ์ตูนเลยเนอะ
  26. การดื่มเหล้าตอนกลางวันจะได้รสชาติที่แตกต่างไป
  27. สวรรค์ไม่ได้สร้างสรรค์ยอดคน แต่เป็นผู้ประดิษฐ์ทรงผม
  28. ยามเข้าไปในร้านแผงลอยจะพบความกล้าที่แสนบอบบาง
  29. แมงมุมยามราตรีมักไม่น่าอภิรมย์
  30. ความยิ่งใหญ่ของวงหัวนมกับความยิ่งใหญ่ของมนุษย์ถือเป็นความสัมพันธ์ที่ผกผันของซึ่งกันและกัน
  31. การลงคะแนนวัดความนิยมน่ะเรอะ ก็แค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง
  32. แมวเถื่อนแห่งคาบุกิโจคือเพลงช้าแต่ก็มีจังหวะหนักแน่น...
  33. ไม่ว่าใครก็อยากแข็งแกร่งและงดงามในหนึ่งเดียว
  34. ในเมืองที่ไร้ขื่อแป มักมีแต่พวกเฮฮาไปวัน ๆ มารวมตัวกัน
  35. เป็นเกียรติที่ได้พบและรู้จัก
  36. อายุขัยไร้กำหนด
  37. เมื่อหมดช่วงหยุดพักฤดูร้อน เราจะมองเห็นทุกคนเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมานิดหนึ่ง
  38. เรื่องราวในครอบครัวของคุณลุง มักเป็นเรื่องที่ชวนให้เพลียหัวใจ
  39. ถึงจะเป็นงานเฮฮาส่งท้ายปี แต่ก็ไม่ควรเฮมากเดี๋ยวจะฮาไม่ออก
  40. โลกนี้มีแต่รัก
  41. อย่าพูดคำว่าลาก่อน
  42. จดหมายจากเด็กกวนเมือง
  43. คนดีมักเป็นคนผมเรียบเนียนตามธรรมชาติ
  44. ความงามที่ผกผัน
  45. เปล่งความในใจ
  46. หัวใจของสิ่งมีชีวิตทั้งมวลล้วนเปล่งประกายแสงออกมาได้
  47. คนดูแลต้นฉบับน่ะมีแค่คนเดียวก็เกินพอแล้ว
  48. หัวใจที่ติดไฟ
  49. ราเม็งพูนชาม
  50. 9+1=ยางิว จูเบ

การนำเสนอเนื้อหาข้ามเรื่อง

หน้าปกนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ ฉบับที่ 18/2011 แจ้งการตีพิมพ์การ์ตูนข้ามเรื่อง (Crossover) ชุด "กินทามะ" และ "สเก็ต ดานซ์"

การ์ตูนชุด กินทามะ ได้มีการตีพิมพ์ตอนพิเศษซึ่งมีเนื้อหาข้ามเรื่อง (Crossover) กับการ์ตูนชุด "สเก็ต ดานซ์" ในโชเน็นจัมป์ฉบับที่ 18/2011 ประจำวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554 เพื่อการประชาสัมพันธ์แอนิเมชั่นชุดใหม่ของกินทามะ และแอนิเมชั่นชุดแรกของเรื่องสเก็ต ดานซ์ ซึ่งเริ่มฉายเมื่อต้นเดือนเมษายนปีเดียวกัน โดยการ์ตูนข้ามเรื่องของกินทามะและสเก็ต ดานซ์ แบ่งออกเป็นสองตอน คือ สเก็ต ดานซ์ ตอนที่ 180 "กินทามะ x สเก็ต ดานซ์" (นับลำดับตอนต่อเนื่องกับการ์ตูนในชุดของตัวเอง) และกินทามะตอนพิเศษ "สเก็ต ดานซ์ x กินทามะ" โดยมีผู้เขียนเรื่องต้นฉบับของแต่ละเรื่อง (เคนตะ ชิโนฮาระ จากเรื่องสเก็ต ดานซ์ และฮิเดอากิ โซราจิ จากเรื่องกินทามะ) รับผิดชอบในเนื้อหาการ์ตูนชุดของตนเอง [12]

เนื้อหาของการ์ตูนข้ามเรื่องชุดนี้เริ่มขึ้นในการ์ตูนชุดสเก็ต ดานซ์ ตอนที่ 180 "กินทามะ x สเก็ต ดานซ์" โดยที่ตัวละครหลักของเรื่องกินทามะ (กินโทกิ, คางุระ, ชินปาจิ) ได้ข้ามมิติด้วยเครื่องย้ายมวลสารมายังห้องของชมรมสเก็ตดานซ์และได้พบกับสามตัวละครเอกของเรื่องดังกล่าว (บอสเซน, ฮิเมโกะ, สวิชต์) และจบลงด้วยเหล่าตัวละครเอกของทั้งสองเรื่องถูกเครื่องย้ายมวลสารดึงมาสู่มิติของเรื่องกินทามะ และต่อด้วยเรื่องกินทามะตอนพิเศษ "สเก็ต ดานซ์ x กินทามะ" ซึ่งกล่าวถึงการแข่งขันชิงความเป็นสุดยอดร้านรับจ้างสารพัดระหว่างทีมกินทามะกับทีมสเก็ต ดานซ์ โดยใช้ฉากที่คล้ายกับโลกในเรื่อง "วันพีซ x โทริโกะ" ซึ่งเป็นการ์ตูนข้ามเรื่องอีกชุดหนึ่งของโชเน็นจัมป์ ที่ตีพิมพ์ในระยะเวลาใกล้เคียงกัน

อนึ่ง หลังจากได้มีการออกอากาศแอนิเมชั่นของการ์ตูนชุดกินทามะและสเก็ต ดานซ์ได้ 6 เดือน ได้มีการประกาศทำแอนิเมชั่นเนื้อหาข้ามเรื่องของทั้งสองเรื่องเป็นการเฉพาะ โดยมีกำหนดการออกอากาศในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน พ.ศ. 2554 ทั้งนี้จะเริ่มออกอากาศในตอน "สเก็ต ดานซ์ x กินทามะ" ในวันจันทร์ที่ 26 กันยายน และออกอากาศตอน "กินทามะ x สเก็ต ดานซ์" ในวันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน สตูดิโอที่รับผิดชอบการผลิดแอนิเมชั่นชุดนี้คือซันไรส์ ("สเก็ต ดานซ์ x กินทามะ") และทัตซึโนะโกะ โปรดัคชั่น ("กินทามะ x สเก็ต ดานซ์") ซึ่งเป็นสตูดิโอที่รับผิดชอบแอนิเมชั่นชุดกินทามะและสเก็ต ดานซ์ ตามลำดับ[13]

โอวีเอ

ออริจินอลวิดีโอแอนิเมชัน (โอวีเอ) ของการ์ตูนกินทามะ ผลิตโดยบริษัทซันไรส์ โอวีเอตอนแรก ใช้ชื่อตอนเดียวกับชื่อเรื่อง ได้รับการฉายในงานจัมป์เฟสต้า 2005 โอวีเอตอนที่สองใช้ชื่อว่า "ชิโระยะฉะ โคทัน" (ญี่ปุ่น: 白夜叉降誕โรมาจิShiroyasha Kotan; "กำเนิดปีศาจขาว") ได้รับการฉายในงานจัมป์เฟสต้า 2008 ดีวีดีของโอวีเอทั้งสองตอน ใช้ชื่อว่า Gintama Jump Anime Tour 2008 & 2005 ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัทอะนิเพล๊กซ์ในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552 [14]

ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์

กินทามะ

ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์เรื่อง กินทามะ ผลิตโดยบริษัทซันไรส์ 99 ตอนแรกกำกับโดยชินจิ ทากามาสึ ตอนที่ 100 ถึง 105 กำกับร่วมกันโดยชินจิ ทากามาสึและโยอิจิ ฟูจิตะ ตั้งแต่ตอนที่ 106 เป็นต้นไปกำกับโดยโยอิจิ ฟูจิตะ [15] ออกอากาศทางทีวีโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2549 ถึง วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553

ในประเทศญี่ปุ่น บริษัทอะนิเพล๊กซ์ได้จำหน่ายดีวีดีภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะตามลำดับเวลาดังนี้

ส่วนในประเทศไทย มีบริษัทผู้ถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะ ได้แก่ บริษัททีไอทีเอ และบริษัทไรท์บิยอนด์

  • บริษัททีไอทีเอ ได้ถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะปี 1 [21] และวางจำหน่ายในรูปแบบวีซีดี 25 แผ่น[22]และ ดีวีดี 12 แผ่น[23]
  • บริษัทไรท์บิยอนด์ ได้ถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะปี 2, ปี 3 และ ปี 4
    • วางจำหน่ายภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะปี 2 ในรูปแบบวีซีดี 23 แผ่น ดีวีดี 12 แผ่น
    • วางจำหน่ายภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะปี 3 ในรูปแบบวีซีดี 25 แผ่น ดีวีดี 13 แผ่น
    • วางจำหน่ายภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะปี 4 ในรูปแบบวีซีดี 25 แผ่น ดีวีดี 13 แผ่น

ภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะออกอากาศทางโทรทัศน์ครั้งแรกในวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2553 ในประเทศไทยทางช่องการ์ตูนคลับแชนแนล เมื่อในวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2553 จนถึงปัจจุบัน โดยออกอากาศตอนที่ 1 ถึง ตอนที่ 52 และเคยมีการออกอากาศภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะครบทุกตอนทางช่องทรู สปาร์ค ในปัจจุบันมีการออกอากาศภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะทางช่อง 6 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556 จนถึงปัจจุบัน

โยรินุกิ กินทามะ-ซัง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในภาษาญี่ปุ่นที่ ja:よりぬき銀魂さん

หลังจบแอนิเมชั่นชุดกินทามะ ภาค 4 สถานีโทรทัศน์ทีวีโตเกียวได้ออกอากาศภาพยนตร์แอนิเมชั่นทางโทรทัศน์ชุด "โยรินุกิ กินทามะ-ซัง" (ญี่ปุ่น: よりぬき銀魂さんทับศัพท์: Yorinuki Gintama-san; "รวมตอนที่ดีที่สุดของกินทามะ") ซึ่งเป็นการคัดเลือกตอนเก่า ๆ ของแอนิเมชั่นชุดกินทามะจากทั้งสี่ภาคมาออกอากาศซ้ำในระบบโทรทัศน์รายละเอียดสูง (HDTV) โดยชื่อของรายการนี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อล้อเลียนการออกอากาศซ้ำของแอนิเมชั่นชุด "ซาซาเอะซัง"[24] แอนิเมชั่นชุดนี้มีจำนวน 51 ตอน ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2553 จนถึงวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

ทั้งนี้ นอกจากการปรับปรุงระบบการออกอากาศจาก 4:3 มาเป็น 16:9 แล้ว ได้มีการเพิ่มเพลงเปิดและเพลงปิดรายการขึ้นใหม่อย่างละ 4 เพลง ดังรายชื่อต่อไปนี้

เพลงเปิดรายการ
  1. "บะคุจิ แดนเซอร์" (ญี่ปุ่น: バクチ・ダンサーโรมาจิBakuchi Dansā; "Bakuchi Dancer") โดย Does (ตอนที่ 1-9)
  2. "คะเซะ โน โงะโทะคุ" (ญี่ปุ่น: 風のごとく; "Kaze no Gotoku") โดย โจ อิโนะอุเอะ (ตอนที่ 10-26) [25]
  3. "คะโนเซ เกิร์ล" (ญี่ปุ่น: 可能性ガールทับศัพท์: Kanōsei Gāru; "Kanōsei Girl") โดย คุริยะมะ จิอะกิ (ตอนที่ 27-39)
  4. "คาโทะเนียโงะ" (ญี่ปุ่น: カートニアゴ) โดย FILP (ตอนที่ 40-51)
เพลงปิดรายการ
  1. "โบะคุทะจิ โนะ คิเซ็ทซึ" (ญี่ปุ่น: 僕たちの季節; "Bokutachi no Kisetsu") โดย Does (ตอนที่ 1-9)
  2. "เวฟ" (อังกฤษ: "WAVE") โดย Vijandeux (ตอนที่ 10-26)
  3. "อินมายไลฟ์" (อังกฤษ: "IN MY LIFE") โดย Azu (ตอนที่ 27-39)
  4. "ซะกุระเนะ" (ญี่ปุ่น: 桜音; "Sakurane") โดย Piko (ตอนที่ 40-51)

กินทามะ'

ในช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการออกอากาศแอนิเมชั่นชุดกินทามะ ภาค 4 โยอิจิ ฟูจิตะ ผู้กำกับแอนิเมชั่นชุดนี้ได้กล่าวว่าแอนิเมชั่นชุดนี้จะออกอากาศต่อเมื่อทีมงานผลิตรายการสามารถรวมรวบวัตถุดิบสำหรับการทำแอนิเมชั่นได้เพียงพอ ส่วนชินจิ ทากามัตสึ ซึ่งเป็นผู้ดูแลรายการ ได้กล่าวย้ำว่า แอนิเมชั่นทางโทรทัศน์ชุดนี้ยังไม่จบ และจะกลับมาออกอากาศอีกครั้งอย่างแน่นอน[26] ต่อมาสำนักพิมพ์ชูเอฉะ ได้ประกาศในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2553 ว่า แอนิเมชั่นชุดใหม่ของเรื่องนี้จะกลับมาแพร่ภาพในเดือนเมษายน พ.ศ. 2554[27]

เมื่อจบการออกอากาศแอนิเมชั่นชุด "โยรินุกิ กินทามะ-ซัง" ในวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554 แล้ว ในสัปดาห์ถัดมา ซึ่งตรงกับวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554 สถานีโทรทัศน์ทีวีโตเกียวจึงเริ่มการแพร่ภาพแอนิเมชั่นเรื่องกินทามะชุดใหม่ ภายใต้ชื่อ กินทามะ' (ญี่ปุ่น: 銀魂’โรมาจิGintama' มีการเพิ่มเครื่องหมายอะพอสทรอฟีไว้หลังชื่อ) ซึ่งเป็นแอนิเมชั่นเรื่องกินทามะชุดล่าสุดที่กำลังออกอากาศในขณะนี้[28] ทีมงานในการผลิตยังคงใช้ทีมงานชุดเดียวกันกับใน 4 ภาคก่อนหน้า โดยมีโยอิจิ ฟูจิตะ เป็นผู้กำกับรายการ สำหรับดีวีดีชุดแรกจากแอนิเมชั่นชุดนี้จะเริ่มจัดจัดจำหน่ายในวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554[29]

ในประเทศไทย มีบริษัทผู้ถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะ' คือบริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ วางจำหน่ายในรูปแบบดีวีดี 13 แผ่น

กินทามะ ซีซั่น 6 ภาคล่วงเวลา

ภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะ ซีซั่น 6 ภาคล่วงเวลาสถานีโทรทัศน์ทีวีโตเกียวเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เป็นภาคต่อเนื่องจากภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะ' ที่จบไปเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 ทีมงานในการผลิตยังคงใช้ทีมงานชุดเดียวกันกับภาคก่อนหน้า โดยมีโยอิจิ ฟูจิตะ เป็นผู้กำกับรายการ[30] สิ้นสุดการออกอากาศเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556 มีจำนวนตอนทั้งหมด 13 ตอน รวบรวมเป็นดีวีดีได้ 4 แผ่น วางจำหน่ายระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ถึงวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ในประเทศไทย มีบริษัทผู้ถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะ ซีซั่น 6 ภาคล่วงเวลา คือบริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ วางจำหน่ายในรูปแบบดีวีดีบ๊อกซ์เซ็ต รวมดีวีดี 4 แผ่น วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ภาพยนตร์

ภาพยนตร์แอนิเมชัน

ดูบทความหลักที่ กินทามะ เดอะมูฟวี่ กำเนิดใหม่ดาบเบนิซากุระ และ กินทามะ เดอะมูฟวี่ บทส่งท้าย : กู้กาลเวลาฝ่าวิกฤตพิชิตอนาคต

มีการสร้างภาพยนตร์จอเงินของเรื่องกินทามะมาแล้ว 2 ภาค ภาคแรกคือ กินทามะ เดอะมูฟวี่ กำเนิดใหม่ดาบเบนิซากุระ (ญี่ปุ่น: 劇場版 銀魂 新訳紅桜篇โรมาจิGekijōban Gintama Shinyaku Benizakura-Hen) เป็นการดัดแปลงมาจากเนื้อเรื่องภาคเบนิซากุระของเรื่องกินทามะ ซึ่งเป็นเหตุการณ์เมื่อคาซึระถูกคนของกองทหารอสุราลอบทำร้าย เหล่านักรับจ้างสารพัดจึงออกสืบหาต้นตอของเรื่องราวทั้งหมด [31] [32] ภาพยนตร์ออกฉายที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553 ในประเทศไทย บริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ได้ประกาศเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ภาคนี้บนเว็บบอร์ดของเว็บไซต์ของบริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เมื่อวันที่ วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2554 [33] ได้ออกฉายในงาน Manga & Anime festa ณ เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า เมื่อวันที่ 6 และ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554 [34] ออกวางจำหน่ายทั้งในรูปแบบดีวีดีและวีซีดีเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2554 และเคยออกอากาศทางช่องแก๊งการ์ตูน เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557 [35]

ภาพยนตร์ภาคที่สองของเรื่องกินทามะคือ กินทามะ เดอะมูฟวี่ บทสุดท้าย : กู้กาลเวลาฝ่าวิกฤตพิชิตอนาคต (ญี่ปุ่น: 劇場版 銀魂 完結篇 万事屋よ永遠なれโรมาจิGekijōban Gintama Kanketsu-hen: Yorozuya yo Eien Nare) ออกฉายที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อในวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ในประเทศไทย บริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ได้ประกาศเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ภาคนี้ในงานฉายภาพยนตร์ ฮันเดอร์ x ฮันเตอร์ เดอะ มูฟวี่ เนตรสีเพลิงกับกองโจรเงามายาเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556 [36]

ภาพยนตร์ไลฟ์แอคชัน

ดูบทความหลักที่ กินทามะ ซามูไร เพี้ยนสารพัด

เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 สำนักพิมพ์ชูเอฉะได้ประกาศว่าเรื่องกินทามะจะได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอคชัน และจะออกฉายในปี พ.ศ. 2560 กำกับและเขียนบทภาพยนตร์โดยยูอิจิ ฟุคุดะ และนำแสดงโดย ชุน โอะงุริ [37]

ภาพยนตร์ไลฟ์แอคชันดัดแปลงจากเรื่องกินทามะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ในประเทศไทย ภาพยนตร์เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560 [38] โดยมีชื่อเรื่องภาษาไทยว่า กินทามะ ซามูไร เพี้ยนสารพัด

ซีดีซาวน์แทร็ก

ดนตรีประกอบภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะ ประพันธ์โดย เออิจิ คามางาตะ ในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2549 ได้มีการจำหน่ายซีดีเซาด์แทร็กของภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะ ประกอบด้วยเซาวน์แทร็กจำนวน 32 เพลง รวมไปถึงเพลงเปิดเพลงแรก และเพลงปิดสองเพลงแรก [39]

ซีดีซาวน์แทร็กลำดับที่ 2 วางจำหน่ายในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ประกอบด้วยซาวน์แทร็กจำนวน 40 เพลง[40] ส่วนซีดีซาวน์แทร็กลำดับที่ 3 ที่เป็นลำดับล่าสุด วางจำหน่ายในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ประกอบด้วยซาวน์แทร็กจำนวน 28 เพลง[41]

ไลท์โนเวล

ไลท์โนเวลกินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ เล่มที่ 1

นิยายไลท์โนเวลที่อิงจากหนังสือการ์ตูน กินทามะ เขียนเนื้อเรื่องโดยโทโมฮิโตะ โอซากิ วาดภาพประกอบโดยฮิเดอากิ โซราจิ เจ้าของเรื่องต้นฉบับ และตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ชูเอฉะ ฉากของเรื่องเป็นโรงเรียนชื่อโรงเรียนกินทามะ โดยกินโทกิรับบทอาจารย์โดยใช้ชื่อว่า ซากาตะ กินปาจิ และตัวละครอื่น ๆ ส่วนใหญ่รับบทนักเรียนหรืออาจารย์คนอื่น ๆ ในโรงเรียน เนื้อเรื่องของไลท์โนเวลกินทามะตีพิมพ์ในนิตยสาร จัมป์สแควร์ ใช้ชื่อเรื่องว่า ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ (ญี่ปุ่น: 3年Z組銀八先生โรมาจิ3-Nen Z-Gumi Ginpachi-sensei; "ปี 3 ห้อง Z อาจารย์กินปาจิ") ไลท์โนเวลเล่มแรกตีพิมพ์ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 และตีพิมพ์ถึงเล่มที่ 7 [42][43] ซึ่งมีชื่อเรื่องดังต่อไปนี้

ในประเทศไทย นิยายไลท์โนเวลกินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ไลท์ วางจำหน่ายเล่มที่ 1 เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 [44] ปัจจุบันตีพิมพ์ครบ 7 เล่มแล้ว ซึ่งมีชื่อเรื่องดังนี้

  1. กินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ
  2. กินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ 2: ทัศนศึกษาล่ะ! ทุกคนมารวมตัวกัน!!
  3. กินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ 3: ไปห้องให้คำปรึกษาแก่นักเรียนกันเถอะ!
  4. กินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ 4: มีเรื่องแบบนั้นกับเรื่องแบบนี้ด้วยเร้ออออออ!!
  5. กลับมาแล้วจ้ะ กินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ RETURN: ไอ้หนุ่มเลือดเย็น ทากาสุงิคุง
  6. กลับมาแล้วจ้ะ กินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ Phoenix: Funky Monkey Teachers
  7. กลับมาแล้วจ้ะ กินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ Forever: ลาก่อน ชาว 3Z อันเป็นที่รัก

นอกจากนี้ ยังมีฉบับนิยายของภาพยนตร์กินทามะ เดอะมูฟวี่ บทสุดท้าย : กู้กาลเวลาฝ่าวิกฤตพิชิตอนาคต ที่เขียนโดยโทโมฮิโตะ โอซากิเช่นเดียวกัน วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ปีเดียวกันกับที่ภาพยนตร์เข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่น [45] นิยายฉบับนี้ยังไม่มีลิขสิทธิ์ในประเทศไทย

วิดีโอเกม

ไกด์บุ๊ค

ปัจจุบันมีการตีพิมพ์ไกด์บุ๊คกินทามะแล้ว 3 เล่ม สำหรับมังงะ 2 เล่ม และอนิเมะ 1 เล่ม ไกด์บุ๊คสำหรับมังงะเล่มแรก มีชื่อว่า Gintama Official Character Book - Gin Channel (ญี่ปุ่น: 銀魂公式キャラクターブック「銀ちゃんねる!」) ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ชูเอฉะในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2549 ในตัวหนังสือประกอบด้วยข้อมูลตัวละคร บทสัมภาษณ์ฮิเดอากิ โซราจิ และสติกเกอร์ตัวละคร [51] ไกด์บุ๊คสำหรับมังงะเล่ม 2 มีชื่อว่า Gintama Official Character Book 2 - Fifth Grade (ญี่ปุ่น: 銀魂公式キャラクターブック2 「銀魂五年生」) ตีพิมพ์ในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ซึ่งเป็นเล่มที่เพิ่มข้อมูลของตัวละครใหม่เพิ่มเติมจากเล่มแรก [52] ไกด์บุ๊คสำหรับอนิเมะมีชื่อว่า Gintama Official Animation Guide "Gayagaya Box" (ญี่ปุ่น: オフィシャルアニメーションガイド 銀魂あにめガヤガヤ箱) ตีพิมพ์ในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2551 เนื่องในโอกาสกินทามะออกอากาศถึงตอนที่ 100 มีข้อมูลเกี่ยกวับนักพาย์ผู้พากย์เป็นตัวละครในกินทามะ[53]

เสียงตอบรับ

ในประเทศญี่ปุ่น การ์ตูนเรื่องกินทามะได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ในปี พ.ศ. 2549 [54] หนังสือการ์ตูนกินทามะ 12 เล่มที่ออกวางแผงในปีนั้น ขายได้จำนวนรวมกัน 7,500,000 เล่ม ในปี พ.ศ. 2550 ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านเล่ม ติดอันดับการ์ตูนขายดีของนิตยสารโซเน็นจัมป์ในปี พ.ศ. 2550 [55] ในปี พ.ศ. 2551 ยอดจำหน่ายของการ์ตูนกินทามะเป็น 20 ล้านเล่ม[56]

ส่วนในประเทศไทย ในระยะแรก กระแสตอบรับของการ์ตูนกินทามะเป็นไปในทางลบ เนื่องจากผู้อ่านบางกลุ่มอ่านกินทามะไม่เข้าใจ[10] แต่ด้วยการพัฒนาเนื้อหาของผู้แต่งในระยะต่อมา และการแปลเป็นภาษาไทยที่ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น จึงทำให้กินทามะกลับมามีความนิยมอย่างท่วมท้นในประเทศไทย โดยเฉพาะการประกาศเรื่องและตัวละครชายดีเด่นในปี2010 ผลการโหวตปรากฏว่า การ์ตูนกินทามะได้อันดับที่สองรองจากK-on! และซากาตะ กินโทกิ ได้รับการโหวตให้เป็นตัวละครชายยอดนิยมแห่งปี

อ้างอิง

  1. "The Official Website for Gin Tama". Viz Media. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ October 27, 2017. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |archivedate= (help)
  2. "Gintama on Funimation". Funimation. สืบค้นเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  3. 銀魂. eiga.com (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ September 6, 2016.
  4. "2004年新年2号" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-05. สืบค้นเมื่อ 18 มิถุนายน 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  5. "銀魂―ぎんたま― 1" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  6. "銀魂―ぎんたま― 39" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. สืบค้นเมื่อ 14 มีนาคม 2554. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. "Shonen Jump Posts 1st Japanese Chapters of 22 Manga for Free". Anime News Network. 3 สิงหาคม 2552. สืบค้นเมื่อ 10 สิงหาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  8. "Gin Tama, Vol. 1" (ภาษาอังกฤษ). Viz Media. สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  9. "Viz Confirms Gintama Manga 23 Is Final N. American Volume (Updated)". เครือข่ายข่าวอนิเมะ. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  10. 10.0 10.1 ข้อมูลการ์ตูนกินทามะ
  11. โซราจิ, ฮิเดอากิ. "เล่ม 70". กินทามะ. สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์.
  12. "บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม - 3 เมษายน 2554". kartoon-discovery.com. 3 เมษายน 2554. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-05. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2554. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  13. "บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 5-11 กันยายน 2554". kartoon-discovery.com. 11 กันยายน 2554. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2554. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  14. "銀魂 ジャンプアニメツアー2008&2005 DVD" (ภาษาญี่ปุ่น). Amazon.com. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |trans_title= ถูกละเว้น แนะนำ (|trans-title=) (help)
  15. "Yoichi Fujita to Stop Directing Gintama This Spring". Anime News Network. 11 มกราคม 2552. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  16. "銀魂 1 通常版" (ภาษาอังกฤษ). Amazon.com. สืบค้นเมื่อ 10 เมษายน 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  17. "銀魂 第1期のDVD情報はこちら!!" (ภาษาอังกฤษ). ซันไรซ์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-07-26. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  18. "銀魂 シーズン其ノ弐のDVD情報はこちら!!". ซันไรส์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-07-22. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  19. "Gintama - Products - DVD 3" (ภาษาญี่ปุ่น). ซันไรส์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-07-04. สืบค้นเมื่อ 20 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  20. "銀魂 シーズン其ノ四 1" (ภาษาญี่ปุ่น). Amazon.com. สืบค้นเมื่อ 11 ตุลาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |trans_title= ถูกละเว้น แนะนำ (|trans-title=) (help)
  21. "ประกาศจากบริษัททีไอจีเอเรื่องการถือลิขสิทธิ์การ์ตูนกินทามะปี 2". ทีไอจีเอ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-09-14. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  22. "วีซีดีกินทามะแผ่นที่ 1-25". ทีไอจีเอ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-09-01. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  23. "ดีวีดีกินทามะแผ่นที่ 1-12". ทีไอจีเอ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-09-01. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  24. "「銀魂」最終回の日に両国国技館でイベント、全国で約2万人が"2期宣言"に拍手喝采 - ザテレビジョン". March 29, 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-19. สืบค้นเมื่อ June 21, 2010.
  25. "ナタリー - 井上ジョー新曲がアニメ「よりぬき銀魂さん」オープニング". May 25, 2010. สืบค้นเมื่อ June 21, 2010.
  26. "Gintama Director Shinji Takamatsu: 'It's Not Over'". Anime News Network. March 29, 2010. สืบค้นเมื่อ March 29, 2010.
  27. "News: Gintama TV Anime to Resume". Anime News Network. December 1, 2010. สืบค้นเมื่อ December 5, 2010.
  28. "News: Crunchyroll to Simulcast Gintama TV Anime's Return". Anime News Network. March 28, 2011. สืบค้นเมื่อ March 28, 2011.
  29. "Gintama' 1 Regular Edition". Neowing. สืบค้นเมื่อ June 7, 2011.
  30. "New Gintama Anime Episodes to Resume on TV" (ภาษาอังกฤษ). Anime News Network. สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  31. "Gintama, Haruhi Suzumiya Films' Dates Listed in 2010". Anime News Network. 2 พฤศจิกายน 2552. สืบค้นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  32. "Gintama, Precure, Shin-chan Movie Trailers Streamed". Anime News Network. 12 ธันวาคม 2552. สืบค้นเมื่อ 12 ธันวาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  33. "ประกาศลิขสิทธิ์เซ็ตใหม่ บาคุมัง / ยัตเตอร์แมน / กินทามะเดอะมูวี / กาโร่เดอะมูวี่". โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์. 6 เมษายน 2554. สืบค้นเมื่อ 14 มิถุนายน 2554. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  34. "Manga & Anime festa". เซนชู พับลิชชิ่ง. 20 กรกฎาคม 2554. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 20 ตุลาคม 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  35. นิตยสาร Rose Magazine ฉบับเดือนมกราคม พ.ศ. 2557
  36. "ประกาศลิขสิทธิ์ใหม่โรสมีเดีย ธันวาคม 2556 ครั้งที่ 3 X03 GintamaMovie2". โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์. 21 ธันวาคม 2556. สืบค้นเมื่อ 20 ตุลาคม 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  37. "Gintama Manga Gets Live-Action Film Adaptation in 2017 Starring Shun Oguri". Anime News Network. 30 มิถุนายน 2559. สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2560. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  38. "กินทามะ ซามูไร เพี้ยนสารพัด". เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์. สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2560. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  39. "銀魂 オリジナル・サウンドトラック Soundtrack" (ภาษาญี่ปุ่น). Amazon.com. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  40. "銀魂 オリジナル・サウンドトラック 2" (ภาษาญี่ปุ่น). Amazon.com. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  41. "銀魂 オリジナル・サウンドトラック 3" (ภาษาญี่ปุ่น). Amazon.com. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  42. "銀魂3年Z組銀八先生" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  43. "帰ってきた3年Z組銀八先生フォーエバ- さらば、愛しき3Zたちよ" (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. สืบค้นเมื่อ 13 กันยายน 2556, 2013. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  44. "กินทามะ‬ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ". สยามอินเตอร์คอมิกส์ไลท์. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2558. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  45. "劇場版 銀魂 完結篇" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. สืบค้นเมื่อ 30 สิงหาคม 2560. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  46. "Gintama Gin-San to Issho" (ภาษาอังกฤษ). GameSpot. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  47. "Gintama: Banji Oku Chuubu" (ภาษาอังกฤษ). GameSpot. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-22. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  48. "Gintama: Gin-Oh Quest" (ภาษาอังกฤษ). GameSpot. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  49. "Gintama DS: Yorozuya Daisoudou" (ภาษาอังกฤษ). GameSpot. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-22. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  50. "Gintama: Gintoki vs. Dokata" (ภาษาอังกฤษ). GameSpot. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  51. "銀魂公式キャラクターブック「銀ちゃんねる!」" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. สืบค้นเมื่อ 26 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  52. "銀魂公式キャラクターブック2 「銀魂五年生」" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. สืบค้นเมื่อ 26 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  53. "オフィシャルアニメーションガイド 銀魂あにめガヤガヤ箱" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. สืบค้นเมื่อ 26 กรกฎาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  54. "Shounen Jump Manga Circulation Numbers". Comipress. June 1, 2006. สืบค้นเมื่อ 27 สิงหาคม 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  55. "Comipress News article on "The Rise and Fall of Weekly Shōnen Jump"". Comipress. May 6, 2007. สืบค้นเมื่อ 2 มิถุนายน 2551. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  56. "ジャンプ作品売り上げ推移" (ภาษาญี่ปุ่น). GeoCities. สืบค้นเมื่อ 28 มีนาคม 2551. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น