ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วุยก๊ก"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 54: | บรรทัด 54: | ||
โจโฉถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 220 [[โจผี]]ขึ้นสืบทอดตำแหน่งวุยอ๋อง หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน โจผีบังคับพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้สละราชสมบัติ โจผีขึ้นครองราชย์แทนและสถาปนาวุยก๊ก (รัฐวุย) ขึ้น เล่าปี่ตอบโต้การอ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ของโจผีทันทีโดยการสถาปนาตนเป็น "จักรพรรดิแห่ง[[จ๊กก๊ก]]" ในปีถัดมา ซุนกวนดำรงตำแหน่งอ๋องภายใต้วุยก๊ก แต่ก็ได้ประกาศตนเป็นอิสระในปี ค.ศ. 222 และสถาปนาตนเป็น "จักรพรรดิแห่ง[[ง่อก๊ก]]" ในปี ค.ศ. 229 |
โจโฉถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 220 [[โจผี]]ขึ้นสืบทอดตำแหน่งวุยอ๋อง หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน โจผีบังคับพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้สละราชสมบัติ โจผีขึ้นครองราชย์แทนและสถาปนาวุยก๊ก (รัฐวุย) ขึ้น เล่าปี่ตอบโต้การอ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ของโจผีทันทีโดยการสถาปนาตนเป็น "จักรพรรดิแห่ง[[จ๊กก๊ก]]" ในปีถัดมา ซุนกวนดำรงตำแหน่งอ๋องภายใต้วุยก๊ก แต่ก็ได้ประกาศตนเป็นอิสระในปี ค.ศ. 222 และสถาปนาตนเป็น "จักรพรรดิแห่ง[[ง่อก๊ก]]" ในปี ค.ศ. 229 |
||
เพื่อแยกความแตกต่างของรัฐจากรัฐอื่น ๆ ในประวัติศาสร์จีนที่มีชื่อเดียวกัน นักประวัติศาสตร์ได้เพื่ออักขระที่เกี่ยวข้องกับชื่อเดิมของรัฐ: รัฐที่เรียกตัวเองว่า "เว่ย์"(魏) ยังเป็นที่รู้จักกันคือ "เฉา เว่ย์" (曹魏) |
|||
===รัชสมัยพระเจ้าโจผีและพระเจ้าโจยอย=== |
===รัชสมัยพระเจ้าโจผีและพระเจ้าโจยอย=== |
||
[[โจผี|เฉา พี]](โจผี) ทรงปกครองมาเป็นเวลาหกปีจนกระทั่งสวรรคตในปี ค.ศ. 226 และถูกสืบราชสมบัติโดยราชโอรสของพระองค์ [[โจยอย|เฉา หรุย]](โจยอย) ทรงปกครองจนกระทั่งทรงสวรรคตใน ค.ศ. 239 ตลอดรัชสมัยของเฉาพีและเฉาหรุย รัฐเว่ย์ต้องต่อสู้รบในสงครามหลายครั้งกับสองรัฐที่เป็นคู่แข่งกันคือ [[จ๊กก๊ก|รัฐฉู่]](จ๊กก๊ก) และ[[ง่อก๊ก|รัฐอู๋]](ง่อก๊ก) |
|||
{{โครง-ส่วน}} |
|||
ระหว่างปี ค.ศ. 228 และ ค.ศ. 234 [[จูกัดเหลียง|จูเก่อ เลี่ยง]](ขงเบ้ง) ผู้เป็นอัครมหาเสนาบดีและผู้แทนพระองค์ของรัฐฉู่ ได้นำชุดของการทัพทางทหารห้าครั้งเพื่อเข้าโจมตีชายแดนทางตะวันตกของเว่ย์ (ภายในกานซูและส่านซีในปัจจุบัน) โดยมีเป้าหมายเพื่อพิชิต[[ฉางอัน|นครฉางอัน]] เมืองยุทธศาสตร์ซึ่งอยู่บนถนนสู่นครลั่วหยาง เมืองหลวงของเว่ย์ การบุกครองของรัฐฉู่ได้ถูกขับไล่โดยกองทัพเว่ย์ที่นำโดยแม่ทัพ [[โจจิ๋น|เฉาเจิน]](โจจิ๋น) ซือหม่าอี้ [[เตียวคับ|จางเหอ]](เตียวคับ) และอื่น ๆ รัฐฉู่ไม่ได้ประโยชน์ใด ๆ อย่างมีนัยสำคัญในการทัพครั้งนี้เลย |
|||
บนชายแดนทางใต้และตะวันออก เว่ยได้ต่อสู้รบกับรัฐอู๋ในชุดของความขัดแย้งทางอาวุธตลอดช่วงปี ค.ศ. 220 และ ค.ศ. 230 รวมทั้งยุทธการที่ตงโข่ว (ค.ศ. 222-223) เจียงหลิง (ค.ศ. 223) และเซ็กเต๋ง (ค.ศ. 228) อย่างไรก็ตาม การสู้รบส่วนใหญ่ส่งผลก่อให้เกิดหนทางตันและทั้งสองฝ่ายไม่สามารถขยายอาณาเขตของตนได้มากนัก |
|||
===การบุกเลียวตั๋งของสุมาอี้=== |
===การบุกเลียวตั๋งของสุมาอี้=== |
||
ภายหลังจาก[[บู๊ขิวเขียม]] ได้ล้มเหลวในการปราบปรามตระกูลกงซุน(กองซุน)ในจังหวัดเลียวตั๋ง ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 238 ซือหม่าอี้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็น[[ไท่เว่ย์]]( 太尉 หรือ มหาเสนา) เปิดฉากการบุกครองพร้อมกับทหารจำนวน 40,000 นาย ตามรับสั่งของจักรพรรดิเฉา หรุยในการเข้าปะทะกับเลียวตั๋ง ซึ่งจุดที่แห่งนี้ได้ถูกหยั่งรากอย่างเหนียวแน่นภายใต้การควบคุมของตระกูลกงซุนมาเป็นเวลายาวนานถึงสี่ทศวรรษ ภายหลังจากการโอบล้อมเป็นเวลาสามเดือน โดยได้รับความช่วยเหลือจาก[[อาณาจักรโคกูรยอ]] ซือหม่าอี้สามารถเข้ายึดเมืองหลวงเซียงผิงได้ ส่งผลทำให้สามารถพิชิตจังหวัดภายในช่วงปลายเดือนกันยายนของปีเดียวกัน |
|||
{{โครง-ส่วน}} |
|||
===ศึกโคกูรยอ-วุยก๊ก=== |
===ศึกโคกูรยอ-วุยก๊ก=== |
||
{{โครง-ส่วน}} |
{{โครง-ส่วน}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:01, 20 ตุลาคม 2564
รัฐวุย 魏 | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พ.ศ. 763–พ.ศ. 808 | |||||||||
แผนที่สามก๊ก วุยก๊กแสดงด้วยสีเหลือง | |||||||||
เมืองหลวง | ลกเอี๋ยง | ||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาจีน | ||||||||
ศาสนา | เต๋า, ขงจื๊อ, ศาสนาชาวบ้านจีน | ||||||||
การปกครอง | ราชาธิปไตย | ||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | ยุคสามก๊ก | ||||||||
• พระเจ้าโจผีโค่นล้มราชวงศ์ฮั่น ก่อตั้งวุยก๊ก | พ.ศ. 763 | ||||||||
• พระเจ้าสุมาเอี๋ยนโค่นล้มราชวงศ์วุย ก่อตั้งราชวงศ์จิ้น วุยก๊กล่มสลาย | พ.ศ. 808 | ||||||||
ประชากร | |||||||||
• | สำมะโน 4,432,881 5-10 ล้านคน รวมกับคนที่อาจตกหล่นจากการสำมะโน | ||||||||
|
วุยก๊ก หรือ รัฐเว่ย์ (จีน: 曹魏; พินอิน: Cáo Wèi) (ค.ศ. 220–266), เป็นหนึ่งในสามรัฐหลักที่ต่อสู้รบแย่งชิงกันเพื่อครองอำนาจสูงสุดเหนือแผ่นดินจีนในยุคสมัยสามก๊ก(ค.ศ. 220 - ค.ศ. 280) ด้วยเริ่มแรก เมืองหลวงตั้งอยู่ที่สวี่ชาง(นครฮูโต๋) และต่อจากนั้นเป็นลั่วหยาง รัฐนี้ได้ถูกสถาปนาโดยเฉาพี(โจผี) ใน ค.ศ. 220 จากรากฐานที่ได้ถูกวางไว้โดยบิดาของเขา เฉาเฉา(โจโฉ) ตลอดจนถึงจุดสิ้นสุดราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ชื่อว่า "เว่ย์" มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นครั้งแรกกับเฉาเฉา เมื่อเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็น "วุยก๋ง" โดยราชสำนักฮั่นตะวันออกใน ค.ศ. 213 และกลายเป็นชื่อของรัฐ เมื่อเฉาพีได้สถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิใน ค.ศ. 220 นักประวัติศาสตร์มักจะเติมคำนำหน้าว่า "เฉา" เพื่อแบ่งแยกความแตกต่างจากรัฐอื่น ๆ ของจีนที่เรียกว่า "เว่ย์" เช่น รัฐเว่ย์แห่งยุครณรัฐ(จั้นกั๋ว) และรัฐเว่ย์เหนือแห่งยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ อำนาจการปกครองของตระกูลเฉาได้อ่อนแอลงอย่างมากในภายหลังจากทำการขับไล่เนรเทศและประหารชีวิตเฉา ซวง(โจซอง) พร้อมกับบรรดาพี่น้องของเขา ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ของจักรพรรดิเว่ย์องค์ที่สาม เฉา ฟาง(โจฮอง) โดยอำนาจควบคุมรัฐก็ค่อย ๆ ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของซือหม่า อี้(สุมาอี้) ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์อีกคนและครอบครัวของเขา ตั้งแต่ ค.ศ. 249 ต่อมา ในท้ายที่สุดจักรพรรดิเว่ย์ยังคงกลายเป็นผู้ปกครองหุ่นเชิดภายใต้การควบคุมของตระกูลซื่อหม่า จนกระทั่งซือหม่า หยาน(สุมาเอี๋ยน) หลานชายของซือหม่า อี้ ได้บีบบังคับให้เฉา ฮวน(โจฮวน) จักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งเว่ย สละราชบัลลังก์และสถาปนาราชวงศ์จิ้นขึ้นมา
วุยก๊กปกครองอาณาจักรโดยจักรพรรดิสืบต่อกันมาทั้งหมด 5 พระองค์ ได้แก่[1]
- โจผี ปกครองวุยก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 763 — พ.ศ. 769
- โจยอย ปกครองวุยก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 769 — พ.ศ. 782
- โจฮอง ปกครองวุยก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 782 — พ.ศ. 797
- โจมอ ปกครองวุยก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 797 — พ.ศ. 803
- โจฮวน ปกครองวุยก๊กในระหว่างปี พ.ศ. 803 — พ.ศ. 808
ประวัติ
จุดเริ่มต้นและการสถาปนา
ในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ภาคเหนือของจีนอยู่ใต้การปกครองของโจโฉ อัครมหาเสนาบดีในพระเจ้าเหี้ยนเต้ จักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ฮั่น ในปี ค.ศ. 213 พระเจ้าเหี้ยนเต้สถาปนาโจโฉขึ้นเป็น "วุยก๋ง" (魏公 เว่ย์กง) และพระราชทานเมืองให้ปกครองสิบเมือง พื้นที่นี้ถูกเรียกว่า "วุย" (เว่ย์) ขณะนั้นภาคใต้ของจีนถูกแบ่งเป็นสองพื้นที่ที่ปกครองโดยอีกสองขุนศึกคือเล่าปี่และซุนกวน ในปี ค.ศ. 216 พระเจ้าเหี้ยนเต้เลื่อนโจโฉขึ้นเป็น "วุยอ๋อง" (魏王 เว่ย์หวาง) และมอบอาณาเขตให้ปกครองมากขึ้น
โจโฉถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 220 โจผีขึ้นสืบทอดตำแหน่งวุยอ๋อง หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน โจผีบังคับพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้สละราชสมบัติ โจผีขึ้นครองราชย์แทนและสถาปนาวุยก๊ก (รัฐวุย) ขึ้น เล่าปี่ตอบโต้การอ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ของโจผีทันทีโดยการสถาปนาตนเป็น "จักรพรรดิแห่งจ๊กก๊ก" ในปีถัดมา ซุนกวนดำรงตำแหน่งอ๋องภายใต้วุยก๊ก แต่ก็ได้ประกาศตนเป็นอิสระในปี ค.ศ. 222 และสถาปนาตนเป็น "จักรพรรดิแห่งง่อก๊ก" ในปี ค.ศ. 229
เพื่อแยกความแตกต่างของรัฐจากรัฐอื่น ๆ ในประวัติศาสร์จีนที่มีชื่อเดียวกัน นักประวัติศาสตร์ได้เพื่ออักขระที่เกี่ยวข้องกับชื่อเดิมของรัฐ: รัฐที่เรียกตัวเองว่า "เว่ย์"(魏) ยังเป็นที่รู้จักกันคือ "เฉา เว่ย์" (曹魏)
รัชสมัยพระเจ้าโจผีและพระเจ้าโจยอย
เฉา พี(โจผี) ทรงปกครองมาเป็นเวลาหกปีจนกระทั่งสวรรคตในปี ค.ศ. 226 และถูกสืบราชสมบัติโดยราชโอรสของพระองค์ เฉา หรุย(โจยอย) ทรงปกครองจนกระทั่งทรงสวรรคตใน ค.ศ. 239 ตลอดรัชสมัยของเฉาพีและเฉาหรุย รัฐเว่ย์ต้องต่อสู้รบในสงครามหลายครั้งกับสองรัฐที่เป็นคู่แข่งกันคือ รัฐฉู่(จ๊กก๊ก) และรัฐอู๋(ง่อก๊ก)
ระหว่างปี ค.ศ. 228 และ ค.ศ. 234 จูเก่อ เลี่ยง(ขงเบ้ง) ผู้เป็นอัครมหาเสนาบดีและผู้แทนพระองค์ของรัฐฉู่ ได้นำชุดของการทัพทางทหารห้าครั้งเพื่อเข้าโจมตีชายแดนทางตะวันตกของเว่ย์ (ภายในกานซูและส่านซีในปัจจุบัน) โดยมีเป้าหมายเพื่อพิชิตนครฉางอัน เมืองยุทธศาสตร์ซึ่งอยู่บนถนนสู่นครลั่วหยาง เมืองหลวงของเว่ย์ การบุกครองของรัฐฉู่ได้ถูกขับไล่โดยกองทัพเว่ย์ที่นำโดยแม่ทัพ เฉาเจิน(โจจิ๋น) ซือหม่าอี้ จางเหอ(เตียวคับ) และอื่น ๆ รัฐฉู่ไม่ได้ประโยชน์ใด ๆ อย่างมีนัยสำคัญในการทัพครั้งนี้เลย
บนชายแดนทางใต้และตะวันออก เว่ยได้ต่อสู้รบกับรัฐอู๋ในชุดของความขัดแย้งทางอาวุธตลอดช่วงปี ค.ศ. 220 และ ค.ศ. 230 รวมทั้งยุทธการที่ตงโข่ว (ค.ศ. 222-223) เจียงหลิง (ค.ศ. 223) และเซ็กเต๋ง (ค.ศ. 228) อย่างไรก็ตาม การสู้รบส่วนใหญ่ส่งผลก่อให้เกิดหนทางตันและทั้งสองฝ่ายไม่สามารถขยายอาณาเขตของตนได้มากนัก
การบุกเลียวตั๋งของสุมาอี้
ภายหลังจากบู๊ขิวเขียม ได้ล้มเหลวในการปราบปรามตระกูลกงซุน(กองซุน)ในจังหวัดเลียวตั๋ง ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 238 ซือหม่าอี้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นไท่เว่ย์( 太尉 หรือ มหาเสนา) เปิดฉากการบุกครองพร้อมกับทหารจำนวน 40,000 นาย ตามรับสั่งของจักรพรรดิเฉา หรุยในการเข้าปะทะกับเลียวตั๋ง ซึ่งจุดที่แห่งนี้ได้ถูกหยั่งรากอย่างเหนียวแน่นภายใต้การควบคุมของตระกูลกงซุนมาเป็นเวลายาวนานถึงสี่ทศวรรษ ภายหลังจากการโอบล้อมเป็นเวลาสามเดือน โดยได้รับความช่วยเหลือจากอาณาจักรโคกูรยอ ซือหม่าอี้สามารถเข้ายึดเมืองหลวงเซียงผิงได้ ส่งผลทำให้สามารถพิชิตจังหวัดภายในช่วงปลายเดือนกันยายนของปีเดียวกัน
ศึกโคกูรยอ-วุยก๊ก
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การล่มสลายของวุยก๊ก
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ราชสำนัก
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วัฒนธรรม
ลายสือศิลป์แบบไข่ชูได้รับการพัฒนาในระหว่างช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออกและราชวงศ์วุยก๊ก ผู้เชี่ยวชาญลายสือศิลป์แบบไข่ชูที่เป็นที่รู้จักคือจงฮิว ขุนนางแห่งวุยก๊ก[2]
รายชื่ออาณาเขต
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
รายพระนามกษัตริย์
ชื่อวัด | พระราชสมัญญานาม | แซ่ (ตัวหนา) และชื่อตัว | ครองราชย์ (ค.ศ.) | ชื่อรัชศกและช่วงเวลา (ค.ศ.) | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|
(-) | จักรพรรดิเกา (เกาหฺวังตี้) 高皇帝 |
โจเท้ง (เฉา เถิง) 曹騰 |
(-) | (-) | พระราชสมัญญานามของโจเท้งได้รับการยกย่องย้อนหลังโดยพระเจ้าโจยอย |
(-) | จักรพรรดิไท่ (ไท่หฺวังตี้) 太皇帝 |
โจโก๋ (เฉา ซง) 曹嵩 |
(-) | (-) | พระราชสมัญญานามของโจโก๋ได้รับการยกย่องย้อนหลังโดยพระเจ้าโจผี |
ไท่จู่ 太祖 |
จักรพรรดิอู่ (อู่หฺวังตี้) 武皇帝 |
โจโฉ (เฉา เชา) 曹操 |
(-) | (-) | ชื่อวัดและพระราชสมัญญานามของโจโฉได้รับการยกย่องย้อนหลังโดยพระเจ้าโจผี |
ชื่อจู่ 世祖 |
จักรพรรดิเหวิน (เหวินหฺวังตี้) 文皇帝 |
โจผี (เฉา ผี) 曹丕 |
220-226 |
|
|
เลี่ยจู่ 烈祖 |
จักรพรรดิหมิง (หมิงหฺวังตี้) 明皇帝 |
โจยอย (เฉา รุ่ย) 曹叡 |
227-239 |
|
|
(-) | (-) | โจฮอง (เฉา ฟาง) 曹芳 |
240-249 |
|
โจฮองถูกลดขั้นเป็น "เจอ๋อง" (齊王 ฉีหวาง) หลังถูกถอดจากราชสมบัติ โจฮองได้รับการสถาปนาย้อนหลังเป็น "เช่าหลิงลี่กง" (邵陵厲公) ในยุคราชวงศ์จิ้นตะวันตก |
(-) | (-) | โจมอ (เฉา เหมา) 曹髦 |
254-260 |
|
โจมอได้รับการสถาปนาย้อนหลังเป็น "เกากุ้ยเซียงกง" (高貴鄉公). |
(-) | จักรพรรดิยฺเหวียน (ยฺเหวียนหฺวังตี้) 元皇帝 |
โจฮวน (เฉา ฮฺวั่น) 曹奐 |
260-266 |
|
พงศาวลีวุยก๊ก
วุยก๊ก | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
- - - - - = เส้นประแสดงถึงการรับเป็นโอรสบุญธรรม
|
อ้างอิง
- ↑ ราชวงศ์วุย, อินไซด์สามก๊ก, ณรงค์ชัย ปัญญานนทชัย, สำนักพิมพ์ดอกหญ้า, พ.ศ. 2550, หน้า 58
- ↑ Qiu Xigui (2000). Chinese Writing. Translated by Mattos and Jerry Norman. Early China Special Monograph Series No. 4. Berkeley: The Society for the Study of Early China and the Institute of East Asian Studies, University of California, Berkeley. ISBN 1-55729-071-7; p.142-3