ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nattayut.L (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Chanchai0875009082 (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับแอนดรอยด์
บรรทัด 30: บรรทัด 30:
}}
}}


'''อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล''' (ชื่อเล่น "เจ้ย" ต่างประเทศเรียก "Joe") เกิดวันที่ [[16 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2513]] ณ [[กรุงเทพมหานคร]] เติบโตใน[[จังหวัดขอนแก่น]] โดยเป็นบุตรชายของ นาย[[สุวัฒน์ วีระเศรษฐกุล]] อดีต[[สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น]] สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี [[คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น|คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์]] [[มหาวิทยาลัยขอนแก่น]] และปริญญาโท ศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขา[[ภาพยนตร์]] จากสถาบันศิลปะชิคาโก (Art Institute of Chicago) เริ่มต้นผลิตภาพยนตร์และวิดีโอตั้งแต่ต้นปี [[พ.ศ. 2533]] เป็นหนึ่งในผู้ผลิตภาพยนตร์ไม่กี่คนในประเทศไทยที่ทำงานนอกระบบสตูดิโอ อภิชาติพงศ์มักทดลองโดยยึดหลักโครงเรื่องที่อิงมาจากละครโทรทัศน์ ละครวิทยุ การ์ตูน และภาพยนตร์เก่า ๆ มักได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองเล็ก ๆ มักใช้นักแสดงที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่ใช่มืออาชีพ และใช้บทสนทนาสด
'''อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล''' (ชื่อเล่น "เจ้ย" ต่างประเทศเรียก "Joe") เกิดวันที่ [[16 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2513]] ณ [[กรุงเทพมหานคร]] เติบโตใน[[จังหวัดขอนแก่น]] โดยเป็นบุตรชายของ นาย[[สุวัฒน์ วีระเศรษฐกุล]] อดีต[[สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น]] สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี [[คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น|คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์]] [[มหาวิทยาลัยขอนแก่น]] และปริญญาโท ศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขา[[ภาพยนตร์]] จาก[[สถาบันศิลปะชิคาโก]]​ (Art Institute of Chicago) เริ่มต้นผลิตภาพยนตร์และวิดีโอตั้งแต่ต้นปี [[พ.ศ. 2533]] เป็นหนึ่งในผู้ผลิตภาพยนตร์ไม่กี่คนในประเทศไทยที่ทำงานนอกระบบสตูดิโอ อภิชาติพงศ์มักทดลองโดยยึดหลักโครงเรื่องที่อิงมาจากละครโทรทัศน์ ละครวิทยุ การ์ตูน และภาพยนตร์เก่า ๆ มักได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองเล็ก ๆ มักใช้นักแสดงที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่ใช่มืออาชีพ และใช้บทสนทนาสด


[[พ.ศ. 2543]] ภาพยนตร์สารคดีเรื่องยาวเรื่องแรกของเขา ''ดอกฟ้าในมือมาร'' (Mysterious Object at Noon) ได้เข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติมากมาย และได้รับคำวิจารณ์พร้อมรางวัล 4 รางวัล และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในปี 2543 โดยนักวิจารณ์นิตยสาร The village voice อภิชาติพงศ์เปิดบริษัทภาพยนตร์ Kick the Machine โดยผลิตภาพยนตร์เรื่อง ''สุดเสน่หา'' (Blissfully Yours) ได้รับรางวัล Un Certain Regard ใน[[เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์]] (Cannes Film Festival) ประจำปี [[พ.ศ. 2545]] ณ [[ประเทศฝรั่งเศส]] ถูกจัดเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดที่คานส์โดยนิตยสาร Le Cahiers du Cinema [[พ.ศ. 2547]] ภาพยนตร์เรื่อง ''สัตว์ประหลาด!'' (Tropical Malady) ซึ่งร่วมกับบริษัท Anna Sanders Films ประเทศฝรั่งเศส ได้รับรางวัล The Jury Prize และเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ได้รับเข้าเลือกในสายประกวดหลักของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์
[[พ.ศ. 2543]] ภาพยนตร์สารคดีเรื่องยาวเรื่องแรกของเขา ''ดอกฟ้าในมือมาร'' (Mysterious Object at Noon) ได้เข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติมากมาย และได้รับคำวิจารณ์พร้อมรางวัล 4 รางวัล และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในปี 2543 โดยนักวิจารณ์นิตยสาร The village voice อภิชาติพงศ์เปิดบริษัทภาพยนตร์ Kick the Machine โดยผลิตภาพยนตร์เรื่อง ''สุดเสน่หา'' (Blissfully Yours) ได้รับรางวัล Un Certain Regard ใน[[เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์]] (Cannes Film Festival) ประจำปี [[พ.ศ. 2545]] ณ [[ประเทศฝรั่งเศส]] ถูกจัดเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดที่คานส์โดยนิตยสาร Le Cahiers du Cinema [[พ.ศ. 2547]] ภาพยนตร์เรื่อง ''สัตว์ประหลาด!'' (Tropical Malady) ซึ่งร่วมกับบริษัท Anna Sanders Films ประเทศฝรั่งเศส ได้รับรางวัล The Jury Prize และเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ได้รับเข้าเลือกในสายประกวดหลักของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:57, 1 ตุลาคม 2564

อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล
อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ในปี 2553
อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ในปี 2553
สารนิเทศภูมิหลัง
เกิด16 กรกฎาคม พ.ศ. 2513 (53 ปี)
อาชีพผู้กำกับภาพยนตร์ , นักเขียนบทภาพยนตร์
ปีที่แสดงพ.ศ. 2537 - ปัจจุบัน
ฐานข้อมูล
IMDb
ThaiFilmDb

อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล (ชื่อเล่น "เจ้ย" ต่างประเทศเรียก "Joe") เกิดวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2513กรุงเทพมหานคร เติบโตในจังหวัดขอนแก่น โดยเป็นบุตรชายของ นายสุวัฒน์ วีระเศรษฐกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และปริญญาโท ศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาภาพยนตร์ จากสถาบันศิลปะชิคาโก​ (Art Institute of Chicago) เริ่มต้นผลิตภาพยนตร์และวิดีโอตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2533 เป็นหนึ่งในผู้ผลิตภาพยนตร์ไม่กี่คนในประเทศไทยที่ทำงานนอกระบบสตูดิโอ อภิชาติพงศ์มักทดลองโดยยึดหลักโครงเรื่องที่อิงมาจากละครโทรทัศน์ ละครวิทยุ การ์ตูน และภาพยนตร์เก่า ๆ มักได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองเล็ก ๆ มักใช้นักแสดงที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่ใช่มืออาชีพ และใช้บทสนทนาสด

พ.ศ. 2543 ภาพยนตร์สารคดีเรื่องยาวเรื่องแรกของเขา ดอกฟ้าในมือมาร (Mysterious Object at Noon) ได้เข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติมากมาย และได้รับคำวิจารณ์พร้อมรางวัล 4 รางวัล และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในปี 2543 โดยนักวิจารณ์นิตยสาร The village voice อภิชาติพงศ์เปิดบริษัทภาพยนตร์ Kick the Machine โดยผลิตภาพยนตร์เรื่อง สุดเสน่หา (Blissfully Yours) ได้รับรางวัล Un Certain Regard ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Cannes Film Festival) ประจำปี พ.ศ. 2545ประเทศฝรั่งเศส ถูกจัดเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดที่คานส์โดยนิตยสาร Le Cahiers du Cinema พ.ศ. 2547 ภาพยนตร์เรื่อง สัตว์ประหลาด! (Tropical Malady) ซึ่งร่วมกับบริษัท Anna Sanders Films ประเทศฝรั่งเศส ได้รับรางวัล The Jury Prize และเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ได้รับเข้าเลือกในสายประกวดหลักของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์

พ.ศ. 2551 อภิชาติพงศ์ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินรางวัล (ส่วนของภาพยนตร์สายหลัก) ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2008[1]

พ.ศ.2564 อภิชาติพงศ์ เปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง Memoria ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2021 (ครั้งที่ 74) ได้สร้างปรากฏการณ์ผู้ชมลุกขึ้นปรบมือ หรือ Standing Ovation นานกว่า 10 นาที ขณะเดียวกัน อภิชาติพงศ์ได้กล่าว "Long Live Cinema" หรือ “ภาพยนตร์จงเจริญ” ออกมา ส่วนภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับ รางวัล The Jury Prize หรือรางวัลพิเศษจากกรรมการ นับเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ที่อภิชาติพงศ์ คนไทยคนเดียวที่ได้รับรางวัลนี้[2]

ผลงานภาพยนตร์เรื่องยาว

รักที่ขอนแก่น (Cemetery of Splendour) (พ.ศ. 2558)

รางวัลและเกียรติยศที่ได้รับ

  • In competition, Un Certain Regard - 2015 Cannes Film Festival.

ลุงบุญมีระลึกชาติ‎ (Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives) (พ.ศ. 2553)

รางวัลและเกียรติยศที่ได้รับ

แสงศตวรรษ (Syndromes and A Century) (พ.ศ. 2549)

รางวัลและเกียรติยศที่ได้รับ

  • In competition, Venice Film Festival, Italy, 2006
  • รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Lotus du Meuilleur Film-Grand Prix ในงานเทศกาลภาพยนตร์จากเอเชีย ครั้งที่ 9 ประเทศฝรั่งเศส

สัตว์ประหลาด! (Tropical Malady) (พ.ศ. 2547)

รางวัลและเกียรติยศที่ได้รับ

  • The Jury Prize, Cannes Film Festival, France, 2004[4]
  • Age d’or Prize, Cinédécouvertes, Belgium, 2004
  • Grand Prize, Tokyo Filmex, Japan, 2004
  • Best Film, The xx International Gay & Lesbian Film Festival in Turin, Italy, 2005
  • Special Jury Prize, The xx International Gay & Lesbian Film Festival in Turin, Italy, 2005
  • Special Jury Prize, Singapore International Film Festival, Singapore, 2005

หัวใจทรนง (The Adventure of Iron Pussy) (พ.ศ. 2546)

สุดเสน่หา (Blissfully Yours) (พ.ศ. 2545)

รางวัลและเกียรติยศที่ได้รับ

  • Le Prix Un Certain Regard, Cannes Film Festival, France, 2002
  • Golden Alexander Award – Best Film, Thessaloniki Film Festival, Greece, 2002
  • Grand Prize, TOKYO FILMeX, Japan, 2002
  • The Circle of Dutch Film Critics Award, Rotterdam International Film Festival 2003
  • The International Critics Award (FIPRESCI Prize), Buenos Aires Film Festival 2003
  • Silver Screen Award, Singapore International Film Festival 2003
  • Best International Film Award, Images Festival, Canada 2004

ดอกฟ้าในมือมาร (Mysterious Object at Noon) ภาพยนตร์สารคดี (พ.ศ. 2543)

รางวัลและเกียรติยศที่ได้รับ

  • 2nd Prize, Yamagata International Documentary Film Festival, Japan, 2001
  • NETPAC Special Mention Prize, Yamagata Documentary Film Festival, 2001
  • Grand Prix - Woosuk Award, JeonJu International Film Festival, Korea, 2001
  • Special Citation, "Dragons & Tigers," Vancouver Film Festival, Canada, 2000

Memoria (พ.ศ.2564)

รางวัลและเกียรติยศที่ได้รับ

  • The Jury Prize, Cannes Film Festival, France, 2021[1][5][2]

ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ขนาดสั้น

  • Song Of The City (2561) หนึ่งในโครงการภาพยนตร์สั้น Ten Years Thailand
  • นิมิต (Meteorites) (2550) ภาพยนตร์สั้นในชุด แด่พระผู้ทรงธรรม
  • Ghost of Asia/ collaboration with Christelle Lheureux (พ.ศ. 2548)
  • Worldly Desires, Korea (พ.ศ. 2548)
  • It is Possible That only Your Heart is Not Enough to Find You a True Love, Korea. (พ.ศ. 2547)
  • This and Million More Lights, for Nelson Mandela Foundation, South Africa (พ.ศ. 2546)
  • Golden Ship/ Brugge Museum - Belgium & Opera City Gallery - Japan (พ.ศ. 2545)
  • Second Love in Hong Kong/ collaboration with Christelle Lheureux (พ.ศ. 2545)
  • I was Sketching/ segment of multi projections, ICC - Sapporo, Japan (พ.ศ. 2544)
  • Masumi is a PC Operator/ Fumiyo is a Designer (พ.ศ. 2544)
  • Haunted Houses: Swan’s Blood/ collaboration with Masahito Araki (พ.ศ. 2544)
  • Haunted Houses/ Istanbul Biennale, Turkey (พ.ศ. 2544)
  • Boys at Noon (พ.ศ. 2543)
  • Malee and the Boy (พ.ศ. 2542)
  • The Lungara Eating Jell-O/ World Artists for Tibet Exhibition (พ.ศ. 2541)
  • Thirdworld (พ.ศ. 2540)
  • Like the Relentless Fury of the Pounding Waves (พ.ศ. 2538)
  • Kitchen and Bedroom (พ.ศ. 2537)

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น