ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระไชยเชษฐาธิราชที่ 2"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mda (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Su 21279 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
'''พระไชยเชษฐาธิราชที่ 2'''<ref name="ลาว">สุรศักดิ์ ศรีสำอาง. ''ลำดับกษัตริย์ลาว''. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร, 2545, หน้า 219</ref> หรือ '''พระไชยองค์เว้'''<ref name="ลาว"/> เป็นพระราชโอรสของเจ้าชมพู ที่ถูกเนรเทศไปอยู่เมือง[[เว้]] พระองค์ได้ครองราชสมบัติเมื่อ พ.ศ. 2245 ทรงตั้งให้[[เจ้าองค์ลอง]]หรือเจ้านอง พระอนุชาต่างบิดาเป็นอุปราชและไปครองเมือง[[หลวงพระบาง]] และอัญเชิญ[[พระบาง]]มาประดิษฐานที่เวียงจันทน์
'''พระไชยเชษฐาธิราชที่ 2'''<ref name="ลาว">สุรศักดิ์ ศรีสำอาง. ''ลำดับกษัตริย์ลาว''. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร, 2545, หน้า 219</ref> หรือ '''พระไชยองค์เว้'''<ref name="ลาว"/> เป็นพระราชโอรสของเจ้าชมพู ที่ถูกเนรเทศไปอยู่เมือง[[เว้]] พระองค์ได้ครองราชสมบัติเมื่อ พ.ศ. 2245 ทรงตั้งให้[[เจ้าองค์ลอง]]หรือเจ้านอง พระอนุชาต่างบิดาเป็นอุปราชและไปครองเมือง[[หลวงพระบาง]] และอัญเชิญ[[พระบาง]]มาประดิษฐานที่เวียงจันทน์


ต่อมาใน พ.ศ. 2249 [[เจ้ากิ่งกิศราช]]ซึ่งเป็นพระโอรสของเจ้าราชบุตรและเป็นหลานปู่ของ[[พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช]] ที่ลี้ภัยไปอยู่[[สิบสองปันนา]]กับเครือญาติฝ่ายพระมารดา ได้ยกทัพลงมาตีเมืองหลวงพระบาง เจ้าลองสู้ไม่ได้ แตกพ่ายลงมาเวียงจันทน์ เจ้ากิ่งกิศราชยกทัพตามลงมาที่เวียงจันทน์ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงขอกองทัพจากกรุงศรีอยุธยามาช่วย
ต่อมาใน พ.ศ. 2249 [[เจ้ากิ่งกิสราช|เจ้ากิ่งกิศราช]]ซึ่งเป็นพระโอรสของเจ้าราชบุตรและเป็นหลานปู่ของ[[พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช]] ที่ลี้ภัยไปอยู่[[สิบสองปันนา]]กับเครือญาติฝ่ายพระมารดา ได้ยกทัพลงมาตีเมืองหลวงพระบาง เจ้าลองสู้ไม่ได้ แตกพ่ายลงมาเวียงจันทน์ เจ้ากิ่งกิศราชยกทัพตามลงมาที่เวียงจันทน์ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงขอกองทัพจากกรุงศรีอยุธยามาช่วย


[[สมเด็จพระเพทราชา]] กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาในขณะนั้น ได้ยกทัพขึ้นมาและไกลเกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายประนีประนอมกัน โดยให้แบ่งเขตแดนระหว่างหลวงพระบางกับเวียงจันทน์ ให้เจ้ากิ่งกิศราชครองหลวงพระบาง ให้พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชครองเวียงจันทน์ ทั้งสองกษัตริย์ตกลงแบ่งเขตแดนกันโดยใช้[[แม่น้ำเหือง]]เป็นแดนทางฝั่งขวา ทางฝั่งซ้ายใช้เทือกเขาภูชนะคามเป็นเขตแดน แคว้น[[สิบสองจุไท]]กับ[[หัวพันห้าทั้งหก]]ขึ้นกับหลวงพระบาง แคว้น[[เชียงขวาง]]และแคว้นที่อยู่ใต้ลงมาให้ขึ้นกับเวียงจันทน์ การแบ่งเขตแดนนี้เกิดขึ้นใน พ.ศ. 2250
[[สมเด็จพระเพทราชา]] กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาในขณะนั้น ได้ยกทัพขึ้นมาและไกลเกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายประนีประนอมกัน โดยให้แบ่งเขตแดนระหว่างหลวงพระบางกับเวียงจันทน์ ให้เจ้ากิ่งกิศราชครองหลวงพระบาง ให้พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชครองเวียงจันทน์ ทั้งสองกษัตริย์ตกลงแบ่งเขตแดนกันโดยใช้[[แม่น้ำเหือง]]เป็นแดนทางฝั่งขวา ทางฝั่งซ้ายใช้เทือกเขาภูชนะคามเป็นเขตแดน แคว้น[[สิบสองจุไท]]กับ[[หัวพันห้าทั้งหก]]ขึ้นกับหลวงพระบาง แคว้น[[เชียงขวาง]]และแคว้นที่อยู่ใต้ลงมาให้ขึ้นกับเวียงจันทน์ การแบ่งเขตแดนนี้เกิดขึ้นใน พ.ศ. 2250

รุ่นแก้ไขเมื่อ 08:29, 31 กรกฎาคม 2564

พระไชยเชษฐาธิราชที่ 2[1] หรือ พระไชยองค์เว้[1] เป็นพระราชโอรสของเจ้าชมพู ที่ถูกเนรเทศไปอยู่เมืองเว้ พระองค์ได้ครองราชสมบัติเมื่อ พ.ศ. 2245 ทรงตั้งให้เจ้าองค์ลองหรือเจ้านอง พระอนุชาต่างบิดาเป็นอุปราชและไปครองเมืองหลวงพระบาง และอัญเชิญพระบางมาประดิษฐานที่เวียงจันทน์

ต่อมาใน พ.ศ. 2249 เจ้ากิ่งกิศราชซึ่งเป็นพระโอรสของเจ้าราชบุตรและเป็นหลานปู่ของพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช ที่ลี้ภัยไปอยู่สิบสองปันนากับเครือญาติฝ่ายพระมารดา ได้ยกทัพลงมาตีเมืองหลวงพระบาง เจ้าลองสู้ไม่ได้ แตกพ่ายลงมาเวียงจันทน์ เจ้ากิ่งกิศราชยกทัพตามลงมาที่เวียงจันทน์ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงขอกองทัพจากกรุงศรีอยุธยามาช่วย

สมเด็จพระเพทราชา กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาในขณะนั้น ได้ยกทัพขึ้นมาและไกลเกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายประนีประนอมกัน โดยให้แบ่งเขตแดนระหว่างหลวงพระบางกับเวียงจันทน์ ให้เจ้ากิ่งกิศราชครองหลวงพระบาง ให้พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชครองเวียงจันทน์ ทั้งสองกษัตริย์ตกลงแบ่งเขตแดนกันโดยใช้แม่น้ำเหืองเป็นแดนทางฝั่งขวา ทางฝั่งซ้ายใช้เทือกเขาภูชนะคามเป็นเขตแดน แคว้นสิบสองจุไทกับหัวพันห้าทั้งหกขึ้นกับหลวงพระบาง แคว้นเชียงขวางและแคว้นที่อยู่ใต้ลงมาให้ขึ้นกับเวียงจันทน์ การแบ่งเขตแดนนี้เกิดขึ้นใน พ.ศ. 2250

หลังจากสิ้นสุดสงครามกับพระเจ้ากิ่งกิศราช พระองค์ได้เร่งปรับปรุงการปกครองหัวเมือง ส่งคนที่ไว้ใจได้ไปปกครองเมืองที่สำคัญ ทำให้กลุ่มของพระครูยอดแก้วโพนสะเม็ก ต้องอพยพลงใต้ไปหาที่มั่นใหม่ ในที่สุดได้ไปตั้งมั่นที่เมืองจำปาศักดิ์ และแยกตัวเป็นอิสระจากเวียงจันทน์ใน พ.ศ. 2256 พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชครองราชย์จนถึง พ.ศ. 2273 จึงสิ้นพระชนม์ จากนั้น เจ้าลองพระอนุชาได้ขึ้นครองราชย์สืบแทน

พระราชธิดาพระองค์หนึ่งในพระไชยเชษฐาธิราชที่ 2 พระนามว่า "พระกรัดนางกัลยาณี" ทรงเป็นพระมเหสีฝ่ายซ้ายในสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 แห่งอาณาจักรอยุธยา

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 สุรศักดิ์ ศรีสำอาง. ลำดับกษัตริย์ลาว. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร, 2545, หน้า 219
  • มหาบุนมี เทบสีเมือง. ความเป็นมาของชนชาติลาว เล่ม 2 อาณาจักรลาวล้านช้างตอนต้น. แปลโดย ไผท ภูธา. กทม. สุขภาพใจ. 2554. หน้า 354 - 356
  • มหาบุนมี เทบสีเมือง. ความเป็นมาของชนชาติลาว เล่ม 3 อาณาจักรลาวล้านช้างตอนปลายและการก่อตั้งสปป.ลาว. แปลโดย ไผท ภูธา. กทม. สุขภาพใจ. 2556. หน้า50 -57