ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พลปืนหลัง"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 2: | บรรทัด 2: | ||
==ประวัติ== |
==ประวัติ== |
||
พลปืนหลังใน[[กองทัพอากาศ]]ไทยเข้าประจำการครั้งแรกในช่วง[[สงครามอินโดจีน]] ในกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ([[พ.ศ. 2483]] - [[พ.ศ. 2484|2484]]) และนับเป็นการยุทธทางอากาศครั้งแรกของไทยด้วย แต่เพียงช่วงเวลาสั้นไม่กี่ปี เมื่อมีการนำเครื่องบินที่ทันสมัยเข้ามา ก็ได้เลิกตำแหน่งพลปืนหลังไป |
พลปืนหลังใน[[กองทัพอากาศ]]ไทยเข้าประจำการครั้งแรกในช่วง[[กรณีพิพาทอินโดจีน|สงครามอินโดจีน]] ในกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ([[พ.ศ. 2483]] - [[พ.ศ. 2484|2484]]) และนับเป็นการยุทธทางอากาศครั้งแรกของไทยด้วย แต่เพียงช่วงเวลาสั้นไม่กี่ปี เมื่อมีการนำเครื่องบินที่ทันสมัยเข้ามา ก็ได้เลิกตำแหน่งพลปืนหลังไป |
||
ตำแหน่งพลปืนหลังนับว่ามีความสำคัญในการสู้รบเป็นอย่างยิ่ง ในการยุทธทางอากาศยุคนั้น พลปืนหลังของกองทัพไทยได้ทำหน้าที่อย่างดีสมศักดิ์ศรี ทำลายชีวิตและเครื่องบินข้าศึกเป็นจำนวนไม่น้อย ขณะเดียวกัน พลปืนหลังของเราก็สังเวยชีวิตไปเป็นจำนวนมิใช่น้อยเช่นกัน |
ตำแหน่งพลปืนหลังนับว่ามีความสำคัญในการสู้รบเป็นอย่างยิ่ง ในการยุทธทางอากาศยุคนั้น พลปืนหลังของกองทัพไทยได้ทำหน้าที่อย่างดีสมศักดิ์ศรี ทำลายชีวิตและเครื่องบินข้าศึกเป็นจำนวนไม่น้อย ขณะเดียวกัน พลปืนหลังของเราก็สังเวยชีวิตไปเป็นจำนวนมิใช่น้อยเช่นกัน |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:03, 17 กุมภาพันธ์ 2551
พลปืนหลังเป็นตำแหน่งของทหารที่ต้องประจำการบนเครื่องบินรบในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อยังใช้เครื่องยนต์ใบพัด ปีกสองชั้น (เช่น เครื่องบินโจมตีคอร์แซร์) ทำหน้าที่คอยยิงต่อสู้กับข้าศึกทางด้านท้ายของเครื่องบิน โดยใช้ปืนกล ขณะที่นักบินจะคอยสังเกตการณ์ด้านหน้า และควบคุมการยิงกระสุนทางด้านหน้า รวมทั้งการปล่อยระเบิดที่ติดไว้ใต้ปีกและท้องเครื่อง นอกจากเครื่องบินโจมตีแล้ว ยังมีพลปืนหลังอยู่ในเครื่องบินแบบอื่น ๆ ด้วย เช่น เครื่องบินลำเลียง สังเกตการณ์ ทิ้งระเบิด ขับไล่ เป็นต้น
ประวัติ
พลปืนหลังในกองทัพอากาศไทยเข้าประจำการครั้งแรกในช่วงสงครามอินโดจีน ในกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส (พ.ศ. 2483 - 2484) และนับเป็นการยุทธทางอากาศครั้งแรกของไทยด้วย แต่เพียงช่วงเวลาสั้นไม่กี่ปี เมื่อมีการนำเครื่องบินที่ทันสมัยเข้ามา ก็ได้เลิกตำแหน่งพลปืนหลังไป
ตำแหน่งพลปืนหลังนับว่ามีความสำคัญในการสู้รบเป็นอย่างยิ่ง ในการยุทธทางอากาศยุคนั้น พลปืนหลังของกองทัพไทยได้ทำหน้าที่อย่างดีสมศักดิ์ศรี ทำลายชีวิตและเครื่องบินข้าศึกเป็นจำนวนไม่น้อย ขณะเดียวกัน พลปืนหลังของเราก็สังเวยชีวิตไปเป็นจำนวนมิใช่น้อยเช่นกัน
พลปืนหลังในปัจจุบัน
ในปัจจุบันพลปืนหลังได้ถูกเรียกว่า "นายสรรพาวุธ" โดยมีหน้าที่ควบคุมยุทโธกรณ์ และเล็งอาวุธนำวิถี แทนนักบินคนที่ 1 โดยปรากฏชัดในเครื่องบินขับไล่-ทิ้งระเบิด เช่น Su-30 Su-34 ของรัสเซีย F-15E/F/K/SG ของสหรัฐอเมริกา (F-15K เป็นเวอร์ชั่นสำหรับเกาหลีใต้ และ F-15SG เป็นเวอร์ชั่นสำหรับของ สิงคโปร์)