ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เทศบาลเมืองมาบตาพุด"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
ย้ายป้ายโครงการวิกิประเทศไทยไปหน้าพูดคุย
Yuktanan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 20: บรรทัด 20:
เทศบาลเมืองมาบตาพุด ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองระยอง และบางส่วนของ กิ่งอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง โดยห่างจาก[[เทศบาลนครระยอง|ตัวเมืองระยอง]] ประมาณ ๘ กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพมหานครตามถนนสุขุมวิทเป็นระยะทาง ๒๐๔ กิโลเมตร
เทศบาลเมืองมาบตาพุด ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองระยอง และบางส่วนของ กิ่งอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง โดยห่างจาก[[เทศบาลนครระยอง|ตัวเมืองระยอง]] ประมาณ ๘ กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพมหานครตามถนนสุขุมวิทเป็นระยะทาง ๒๐๔ กิโลเมตร


เมืองมาบตาพุด มีสถานะที่คล้ายกับ [[เมืองแหลมฉบัง]]เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ตั้งขึ้นเพื่อรองรับโดครงการพัฒนาชายฝั่งภาคตะวันออก และยังเป็นเขตอุตสาหกรรมหนักที่สำคัญของประเทศอีกด้วย
เมืองมาบตาพุด มีสถานะที่คล้ายกับ [[เมืองแหลมฉบัง]]เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ตั้งขึ้นเพื่อรองรับโครงการพัฒนาชายฝั่งภาคตะวันออก และยังเป็นเขตอุตสาหกรรมหนักที่สำคัญของประเทศอีกด้วย


[[หมวดหมู่:เทศบาลในภาคตะวันออก]]
[[หมวดหมู่:เทศบาลในภาคตะวันออก]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:47, 14 กุมภาพันธ์ 2551

เทศบาลเมืองมาบตาพุด
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันThetsaban Tambon Maptaphut Town
คำขวัญ: 
มาบตาพุดเมืองน่าอยู่ คู่อุตสาหกรรม นำเทคโนโลยี ประเพณีวันไหล ใส่ใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
ประเทศ ไทย
จังหวัด[[จังหวัด{{{province}}}|{{{province}}}]]
อำเภอ{{{district}}}
การปกครอง
 • นายกเทศมนตรีนายสมพงษ์ โสภณ
พื้นที่
 • ทั้งหมด144.575 ตร.กม. (55.821 ตร.ไมล์)
รหัส อปท.{{{code}}}
ที่อยู่
สำนักงาน
สำนักงานเทศบาลเมืองมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
โทรศัพท์4425-6500
เว็บไซต์http://www.emaptaphut.com/ http://www.emaptaphut.com/
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

เทศบาลเมืองมาบตาพุด ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองระยอง และบางส่วนของ กิ่งอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง โดยห่างจากตัวเมืองระยอง ประมาณ ๘ กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพมหานครตามถนนสุขุมวิทเป็นระยะทาง ๒๐๔ กิโลเมตร

เมืองมาบตาพุด มีสถานะที่คล้ายกับ เมืองแหลมฉบังเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ตั้งขึ้นเพื่อรองรับโครงการพัฒนาชายฝั่งภาคตะวันออก และยังเป็นเขตอุตสาหกรรมหนักที่สำคัญของประเทศอีกด้วย