ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อัศนี พลจันทร"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 6: | บรรทัด 6: | ||
| pseudonym = นายผี</br>ลุงไฟ |
| pseudonym = นายผี</br>ลุงไฟ |
||
| birth_date = [[15 กันยายน]] [[พ.ศ. 2461]] |
| birth_date = [[15 กันยายน]] [[พ.ศ. 2461]] |
||
| birth_place = [[จังหวัดราชบุรี]] ประเทศสยาม |
| birth_place = [[จังหวัดราชบุรี]] [[ประเทศสยาม]] |
||
| death_date = [[28 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2530]] (69 ปี) |
| death_date = [[28 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2530]] (69 ปี) |
||
| death_place = [[แขวงอุดมไซ]] ประเทศลาว |
| death_place = [[แขวงอุดมไซ]] [[ประเทศลาว]] |
||
| occupation = [[อัยการ]], [[นักเขียน]], นัก[[ปฏิวัติ]], คอลัมน์นิสต์, [[นักประพันธ์]] |
| occupation = [[อัยการ]], [[นักเขียน]], นัก[[ปฏิวัติ]], คอลัมน์นิสต์, [[นักประพันธ์]] |
||
| nationality = {{ธง|ไทย}} [[ไทย]] |
| nationality = {{ธง|ไทย}} [[ไทย]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:02, 3 มิถุนายน 2564
อัศนี พลจันทร | |
---|---|
เกิด | 15 กันยายน พ.ศ. 2461 จังหวัดราชบุรี ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 (69 ปี) แขวงอุดมไซ ประเทศลาว |
นามปากกา | นายผี ลุงไฟ |
อาชีพ | อัยการ, นักเขียน, นักปฏิวัติ, คอลัมน์นิสต์, นักประพันธ์ |
สัญชาติ | ไทย |
ผลงานที่สำคัญ | เพลงเดือนเพ็ญ |
คู่สมรส | วิมล พลจันทร[1] |
บุตร | 2 คน |
อัศนี พลจันทร หรือในนามปากกาว่า นายผี และ สหายไฟ หรือ ลุงไฟ (15 กันยายน พ.ศ. 2461 — 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530) นักประพันธ์และนักปฏิวัติชาวไทย รู้จักกันในฐานะผู้แต่งเพลงเดือนเพ็ญ (คิดถึงบ้าน)
ประวัติ
อัศนี พลจันทร เกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2461 ที่บ้านท่าเสา ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี บิดาคือ พระมนูกิจวิมลอรรถ (เจียร พลจันทร) มารดาคือ สอิ้ง พลจันทร ซึ่งหากสืบเชื้อสายทางบิดาขึ้นไปจนถึงสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี จะพบว่าต้นตระกูลคือ พระยาพลเดือน เดิมชื่อนายจันทร์ เคยรบกับพม่า จนได้ชัยชนะและเป็นผู้รั้งเมืองกาญจนบุรีในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
อัศนี พลจันทร จบชั้นมัธยม 5 แล้วศึกษาต่อจนจบชั้นมัธยม 8 ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เมื่อ พ.ศ. 2479 ในขณะที่ศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้สนใจในด้านวรรณกรรมโดยใช้นามปากกาว่า นายผี และเป็นที่รู้จักเมื่ออัศนีได้เป็นคนควบคุมคอลัมน์กวี ในนิตยสารรายสัปดาห์ เอกชน (นิตยสาร)[2]
การทำงาน
อัศนีเริ่มรับราชการครั้งแรกเป็นอัยการผู้ช่วยชั้นตรี เมื่อ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2484 ถูกย้ายไปที่จังหวัดปัตตานี เนื่องจากมีปัญหากับหัวหน้างาน อยู่ปัตตานีได้ 2 ปีก็ถูกสั่งย้ายไปที่สระบุรี ด้วยทางการได้ข่าวว่าให้การสนับสนุนชนชาวมลายูต่อต้านรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ผ่านไป 4 ปีเศษมีคำสั่งให้ย้ายไปอยุธยา เนื่องจากขัดแย้งกับข้าหลวง จากนั้นถูกสั่งให้กลับมาประจำกองคดี กรมอัยการ กระทรวงมหาดไทย เหตุเพราะความเป็นคนตรงไปตรงมา ภายหลังมีปัญหาท้ายที่สุดจึงตัดสินใจลาออกเมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2495
ในช่วง พ.ศ. 2495 จอมพล ป. มีคำสั่งให้จับกุมนักเขียนและนักหนังสือพิมพ์ที่มีผลงานไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ทำให้อัศนีต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพมหานคร ผลงานวรรณกรรมในช่วงนั้นคือ "ความเปลี่ยนแปลง", "เราชนะแล้วแม่จ๋า"
ในปี พ.ศ. 2504 ได้ปรากฏตัวอีกครั้งในนาม สหายไฟ ภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เมื่อสมาชิกพรรคถูกจับกุมทำให้อัศนีต้องหลบหนีไปอยู่เวียดนามและจีน เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 ในแขวงอุดมไซ ประเทศลาว และได้นำกระดูกกลับสู่ประเทศไทยเมื่อ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540[3]
ผลงาน
ช่วงชีวิตของอัศนี มีงานเขียน บทกวี มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบทกวีที่ชื่อ อีศาน ที่ลงพิมพ์ในสยามสมัย นับเป็นบทกวีที่ลือเลื่อง จนกลายเสมือนเป็นตัวแทนนายผี จิตร ภูมิศักดิ์ ยกย่องกวีบทนี้ว่า ตีแผ่ความยากเข็ญของชีวิตและปลุกเร้าจิตวิญญาณการต่อสู้ของประชาชนได้อย่างเพียบพร้อม มีพลัง ทั้งเชิดชูนายผีเป็น มหากวีของประชาชน โดยผลงานได้มีการกล่าวถึงมากมายในช่วง เหตุการณ์ 14 ตุลา
เพลง คิดถึงบ้าน หรือ เดือนเพ็ญ ที่อัศนีเขียนขึ้นเพราะความรู้สึกคิดถึงบ้านนับเป็นเพลงที่ถูกบันทึกเสียงและขับขานในวาระต่างๆ มากที่สุดเพลงหนึ่ง ทำให้ชื่อ นายผี อัศนี พลจันทร เป็นที่รู้จักและจดจำในวงกว้าง[4]
นามปากกา
นามปากกาของอัศนีมีเป็นจำนวนมาก เช่น
|
|