ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ศรีคำ002 (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ศรีคำ002 (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 43: บรรทัด 43:
== เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ==
== เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ==
{{ป.ม.|2555}}<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2555/B/035/1.PDF ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๕, เล่ม ๑๒๙, ตอน ๓๕ ข , ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕]</ref>
{{ป.ม.|2555}}<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2555/B/035/1.PDF ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๕, เล่ม ๑๒๙, ตอน ๓๕ ข , ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕]</ref>
{{ท.ช.|2554}}
* [[พ.ศ. 2554]] - [[ไฟล์:Order of the White Elephant - 2nd Class (Thailand) ribbon.svg|80px]] เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้น[[ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก]] (ท.ช.)


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:31, 13 พฤษภาคม 2564

จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด2 มีนาคม พ.ศ. 2508 (59 ปี)
อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ศาสนาพุทธ
พรรคการเมืองเพื่อไทย (2554–2561)
เพื่อชาติ (2561–ปัจจุบัน)

จ่าสิบตำรวจ ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ หรือที่นิยมเรียกกันโดยทั่วไปว่า จ่าประสิทธิ์ เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุรินทร์ สังกัดพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคเพื่อชาติ และเป็นหนึ่งในแนวร่วมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง

ประวัติ

จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ เกิดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2508 ที่อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ[1] สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย[2] มีภรรยาเป็นชาวจังหวัดสุรินทร์[1]

การทำงาน

จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ เข้ารับราชการตำรวจโดยมีตำแหน่งเป็นผู้บังคับหมู่ฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร และมีบทบาทเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จังหวัดสมุทรสาคร ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นถิ่นพำนักและบ้านเกิดของภรรยา โดยแข่งขันกับอดีต ส.ส.พื้นที่เดิม คือ นางฟาริดา สุไลมาน จากพรรคภูมิใจไทย และนายธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา จากพรรคชาติไทยพัฒนา แต่สามารถเอาชนะและได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สมัยแรกได้สำเร็จ

ในสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 24 ได้ทำหน้าที่เป็นกรรมาธิการตำรวจ และมีบทบาทในการตอบโต้กับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ในการอภิปรายในสภาบ่อยครั้ง โดยเฉพาะกับกรณีของนางสาวรังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม[3] รวมถึงกรณีกล่าวถึงมหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจโดยเฉพาะจากสมาคมศิษย์เก่ารามคำแหง[4]

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555 จ.ส.ต.ประสิทธิ์ได้กล่าวหมิ่นคณะตุลาการศาลธรรมนูญด้วยถ้อยคำหยาบคายที่หมายถึงอวัยวะเพศชาย[5]

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จ.ส.ต.ประสิทธิ์ได้ยกรองเท้าของตนเองมาไว้บนใบหน้าเพื่อยั่วยุเพื่อแสดงการตอบโต้กับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์[6]

วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ที่พรรคเพื่อไทย จ.ส.ต.ประสิทธิ์ได้ขึ้นปราศรัยบนรถกระบะติดเครื่องขยายเสียงมาชุมนุมบริเวณด้านหน้าพรรคของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เพื่อปราศรัยสนับสนุนให้ ส.ส. พรรคเพื่อไทยสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ระหว่างนั้นได้มีคำพูดว่า “ผมอยากยิงแม่งในสภาให้ตายห่าไปเลยด้วยซ้ำ แต่เอาทักษิณกลับมาสะใจกว่า ทำให้เหมือนตายทั้งเป็น ยิ่งกว่าติดคุก"[7] ซึ่งคำกล่าวเช่นนี้เป็นไปในลักษณะการชี้แจงขั้นตอนของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวในทางที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจในพรรคเพื่อไทย กระทั่งในการประชุมพรรคเพื่อไทย จ.ส.ต.ประสิทธ์ได้กล่าวขอโทษต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงกรณีดังกล่าว[8]

วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ได้กล่าวข้อความหมิ่นสถาบันกษัตริย์ ศาลได้พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดี และรายงานการสืบเสาะ แล้วเห็นว่า ข้อความที่ปราศรัย เป็นเรื่องร้ายแรง [9]ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 2ปี 6เดือนในวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 หลังการรัฐประหารก่อนหน้านั้น 2 วัน จ.ส.ต.ประสิทธิ์ละเมิดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2557 โดยไม่ยอมไปรายงานตัวที่หอประชุมกองทัพบกเทเวศน์ ในวันเดียวกัน เวลา 13.00 น.[10]แต่ไปรายงานตัวที่ จทบ.ส.ร./กกล.รส.ประจำพื้นที่ จ.สุรินทร์ ทางตำรวจได้ดำเนินคดีตามหมายจับ สน.โชคชัย ที่ 912/2557 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ในช่วงกลางปี พ.ศ. 2559 หลังการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในปีนั้น จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ได้กลับมามีบทบาทอีกครั้ง โดยเข้าไปเป็นพิธีกรรายการ "เพื่อประชาธิปไตย" ออกอากาศทาง พีซทีวี ช่วงเช้าวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการวิพากษ์เรื่องราวทางการเมืองไทยในหลายมิติ

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 "วิเคราะห์คอลัมนิสต์ 29 12 57 เบรก 1". ฟ้าวันใหม่. 29 December 2014. สืบค้นเมื่อ 30 December 2014.
  2. [https://www.facebook.com/You.Unacceptable/photos/a.609812802370245.1073741828.593891430629049/738986039452920/?type=1&permPage=1
  3. ประท้วงยับ "จ่าประสิทธิ์" พูดกลางสภา ฝันว่าได้นอนกับ ส.ส.รังสิมา
  4. “ศิษย์เก่ารามฯ” สุดทน “จ่าประสิทธิ์” ดูถูกโง่กลางสภา จี้ขอขมาองค์พ่อขุนฯ
  5. http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000077048
  6. เสื่อม!"จ่าประสิทธิ์"ยกรองเท้ากลางสภา
  7. “จ่าประสิทธิ์” กร่างขู่ยิง “มาร์ค-เทือก” กลางสภา
  8. "จ่าประสิทธิ์"น้ำตาซึมขอโทษ"ปู-เจ๊แดง"
  9. http://www.thairath.co.th/content/466995
  10. http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000060007
  11. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๕, เล่ม ๑๒๙, ตอน ๓๕ ข , ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕