ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การสักยันต์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ย้อนการแก้ไขของ พงศ์ สาริตาจินดา (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย Aranya
ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว
Raphind (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 10: บรรทัด 10:
การสักยันต์มีมาก่อน[[อาณาจักรสุโขทัย]] โดยต้นแบบน่าจะมาจาก[[ขอม]]ในขณะที่ขอมยังครอบครอง[[ดินแดนสุวรรณภูมิ]]เมื่อประมาณ 1,400 ปีที่แล้ว เพราะ[[อักษร|อักขระ]]และลวดลายที่ใช้สักกันนั้นเป็นแบบ[[อักษรขอม]] และใช้[[ภาษาบาลี]]เป็นส่วนใหญ่<ref>[http://tattoothai-magic.com/index.php?option=com_content&view=article&id=48&Itemid=60&lang=en ความเป็นมาของการสักยันต์]</ref>
การสักยันต์มีมาก่อน[[อาณาจักรสุโขทัย]] โดยต้นแบบน่าจะมาจาก[[ขอม]]ในขณะที่ขอมยังครอบครอง[[ดินแดนสุวรรณภูมิ]]เมื่อประมาณ 1,400 ปีที่แล้ว เพราะ[[อักษร|อักขระ]]และลวดลายที่ใช้สักกันนั้นเป็นแบบ[[อักษรขอม]] และใช้[[ภาษาบาลี]]เป็นส่วนใหญ่<ref>[http://tattoothai-magic.com/index.php?option=com_content&view=article&id=48&Itemid=60&lang=en ความเป็นมาของการสักยันต์]</ref>


ส่วนใน[[ประเทศไทย]][[การสัก]]สืบทอดกันมาแต่โบราณ ในอดีต[[ข้าราชการ]]ของไทยจะทำตำหนิที่ข้อมือคนในบังคับซึ่งเป็นหน้าที่ของแผนกทะเบียนเป็นผู้บันทึกและรวบรวมสถิติชาย สันนิษฐานว่า การทำเครื่องหมายลงบนร่างกายนี้อาจมีมาตั้งแต่สมัย[[อาณาจักรอยุธยา|อยุธยา]]ตอนต้น ในรัชสมัยของ[[สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ]]<ref name="ประวัติ"/>
ส่วนใน[[ประเทศไทย]][[การสัก]]สืบทอดกันมาแต่โบราณ ในอดีต[[ข้าราชการ]]ของไทยจะทำตำหนิที่ข้อมือคนในบังคับซึ่งเป็นหน้าที่ของแผนกทะเบียนเป็นผู้บันทึกและรวบรวมสถิติชาย สันนิษฐานว่า การทำเครื่องหมายลงบนร่างกายนี้อาจมีมาตั้งแต่สมัย[[อาณาจักรอยุธยา|อยุธยา]]ตอนต้น ในรัชสมัยของ[[สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ]]<ref name="ประวัติ"/><ref> พระปลัดระพิน พุทธิสาโร. (2561). รหัสพุทธธรรม : ยันต์โสฬสที่วัดหน้าพระเมรุ จ.พระนครศรีอยุธยา Code of Buddhadahmma : Yantra Solasa in Wat Na Phra Meru in Ayutthaya http://gps.mcu.ac.th/wp-content/uploads/2016/09/Yantra-12-6-63-1-1.pdf</ref>


แม้ว่าการสักยันต์ในประเทศไทยจะมีมาแต่โบราณ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนนัก จะมีก็แต่หลักฐานที่ปรากฏใน[[วรรณคดี]]เรื่อง "[[ขุนช้างขุนแผน]]" และ[[วรรณกรรม]]อื่น ๆ โดยเชื่อมโยงกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ ทำให้แคล้วคลาดต่ออันตรายต่าง ๆ เป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้จิตใจมีความมั่นคง ซึ่งการสักยันต์เพื่อหวังผลทางไสยศาสตร์จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ เพื่อผลทางเมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรี<ref name="ประวัติ"/>
แม้ว่าการสักยันต์ในประเทศไทยจะมีมาแต่โบราณ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนนัก จะมีก็แต่หลักฐานที่ปรากฏใน[[วรรณคดี]]เรื่อง "[[ขุนช้างขุนแผน]]" และ[[วรรณกรรม]]อื่น ๆ โดยเชื่อมโยงกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ ทำให้แคล้วคลาดต่ออันตรายต่าง ๆ เป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้จิตใจมีความมั่นคง ซึ่งการสักยันต์เพื่อหวังผลทางไสยศาสตร์จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ เพื่อผลทางเมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรี<ref name="ประวัติ"/>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:53, 14 เมษายน 2564

ยันต์แปดทิศ เชื่อว่ามีคุณทางด้านเมตตา อยู่ยงคงกระพัน คุ้มครองทิศทั้งแปด
การสักยันต์ลงบนแผ่นหลัง

'การสักยันต์ (Sak Yant)' เป็นการสักที่ต่างจากการสักทั่วไปที่มุ่งเน้นเรื่องความสวยงามหรือเพื่องานศิลปะ แต่การสักยันต์มีจุดประสงค์หลักในเรื่องของความเชื่อทางไสยศาสตร์ เช่น จะทำให้มีโชค แคล้วคลาด ปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน และพ้นจากอันตรายต่าง ๆ โดยมีความเชื่อว่า รูปแบบลายสักหรือยันต์แต่ละชนิดจะให้คุณที่ต่างกัน[1] และผู้ที่ได้รับการสักยันต์จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่แต่ละสำนักกำหนดไว้ เช่น ห้ามด่าบิดามารดา ห้ามลบหลู่ครูอาจารย์ เป็นต้น[2]

การสัก คือ การเอาเหล็กแหลมแทงลงด้วยวิธี การหรือเพื่อประโยชน์ต่าง ๆ กัน ใช้เหล็กแหลมจุ้มหมึกหรือน้ำมันแทงที่ผิวหนังให้เป็นอักขระ เครื่องหมายหรือลวดลาย ถ้าใช้หมึกเรียกว่าสักหมึก ถ้าใช้น้ำมันเรียกว่าสักน้ำมัน[1] ส่วนคำว่า "ยันต์" ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน กล่าวว่า ยันต์คือตารางหรือลายเส้นเป็นตัวเลข อักขระหรือรูปภาพที่เขียน สัก หรือแกะสลักลงบนแผ่นผ้า ผิวหนัง ไม้ โลหะ เป็นต้น ถือว่าเป็นของขลัง เช่น ยันต์ตรีนิสิงเห ยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ เรียกเสื้อหรือผ้าเป็นต้นที่มีลวดลายเช่นนั้นว่า เสื้อยันต์ ผ้ายันต์ เรียกกิริยาที่ทำเช่นนั้นว่า ลงเลข ลงยันต์[3]

ประวัติ

การสักยันต์มีมาก่อนอาณาจักรสุโขทัย โดยต้นแบบน่าจะมาจากขอมในขณะที่ขอมยังครอบครองดินแดนสุวรรณภูมิเมื่อประมาณ 1,400 ปีที่แล้ว เพราะอักขระและลวดลายที่ใช้สักกันนั้นเป็นแบบอักษรขอม และใช้ภาษาบาลีเป็นส่วนใหญ่[4]

ส่วนในประเทศไทยการสักสืบทอดกันมาแต่โบราณ ในอดีตข้าราชการของไทยจะทำตำหนิที่ข้อมือคนในบังคับซึ่งเป็นหน้าที่ของแผนกทะเบียนเป็นผู้บันทึกและรวบรวมสถิติชาย สันนิษฐานว่า การทำเครื่องหมายลงบนร่างกายนี้อาจมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ[1][5]

แม้ว่าการสักยันต์ในประเทศไทยจะมีมาแต่โบราณ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนนัก จะมีก็แต่หลักฐานที่ปรากฏในวรรณคดีเรื่อง "ขุนช้างขุนแผน" และวรรณกรรมอื่น ๆ โดยเชื่อมโยงกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ ทำให้แคล้วคลาดต่ออันตรายต่าง ๆ เป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้จิตใจมีความมั่นคง ซึ่งการสักยันต์เพื่อหวังผลทางไสยศาสตร์จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ เพื่อผลทางเมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรี[1]

อ้างอิง

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น