ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
→‎การประท้วงระยะที่สาม: เพิ่มเนื้อหาการชุมนุมรอบใหม่
→‎การประท้วงระยะที่สาม: ปรับลิงก์ให้ไปอยู่ในการอ้างอิง
บรรทัด 384: บรรทัด 384:
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรได้จัดกิจกรรม "ม็อบเฟสต์" ครั้งที่ 2 ที่หน้า[[สัปปายะสภาสถาน]] โดยมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาจำนวน 8 ประเด็น<ref>{{Cite web|url=https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/923562|title='นครบาล' ขีดเส้น 'Mob Fest' 4 ทุ่มยุติชุมนุมหน้าสภา|date=2021-02-19|access-date=2021-02-20|website=[[กรุงเทพธุรกิจ]]}}</ref> ซึ่งกิจกรรมนี้ก็ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ด้วย โดยในวันดังกล่าวได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมจากหลากหลายกลุ่มทั่วประเทศมาร่วมชุมนุมด้วย<ref>{{Cite web|url=https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/923681|title=เริ่มแล้ว 'ม็อบ' ราษฎรจัดซักฟอก 'รัฐบาล-ประยุทธ์'|date=2021-02-20|access-date=2021-02-20|website=[[กรุงเทพธุรกิจ]]}}</ref> และวันที่ 23 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรได้จัดการชุมนุมใหญ่ที่แยกราชประสงค์เป็นครั้งที่ 4 และเป็นครั้งที่ 2 ที่มีการเดินขบวนไปชุมนุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประท้วงการทุจริตและการใช้อำนาจแทรกแซงการเลื่อนตำแหน่งในวงการตำรวจ จาก[[การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีไทย พ.ศ. 2564|การอภิปรายไม่ไว้วางใจ]]ของ[[รังสิมันต์ โรม]] สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจาก[[พรรคก้าวไกล]] ในกรณีของ "ตั๋วช้าง"<ref>{{Cite web|date=2021-02-23|title=#ม็อบ23กุมภา เริ่มลงถนนแยกราชประสงค์ ชูธงชุมนุมเพื่อตำรวจ ขณะตำรวจเตรียมรถน้ำสกัด|url=https://www.sanook.com/news/8351474/|url-status=live|access-date=2021-02-23|website=[[สนุก.คอม]]|language=th}}</ref>
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรได้จัดกิจกรรม "ม็อบเฟสต์" ครั้งที่ 2 ที่หน้า[[สัปปายะสภาสถาน]] โดยมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาจำนวน 8 ประเด็น<ref>{{Cite web|url=https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/923562|title='นครบาล' ขีดเส้น 'Mob Fest' 4 ทุ่มยุติชุมนุมหน้าสภา|date=2021-02-19|access-date=2021-02-20|website=[[กรุงเทพธุรกิจ]]}}</ref> ซึ่งกิจกรรมนี้ก็ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ด้วย โดยในวันดังกล่าวได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมจากหลากหลายกลุ่มทั่วประเทศมาร่วมชุมนุมด้วย<ref>{{Cite web|url=https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/923681|title=เริ่มแล้ว 'ม็อบ' ราษฎรจัดซักฟอก 'รัฐบาล-ประยุทธ์'|date=2021-02-20|access-date=2021-02-20|website=[[กรุงเทพธุรกิจ]]}}</ref> และวันที่ 23 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรได้จัดการชุมนุมใหญ่ที่แยกราชประสงค์เป็นครั้งที่ 4 และเป็นครั้งที่ 2 ที่มีการเดินขบวนไปชุมนุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประท้วงการทุจริตและการใช้อำนาจแทรกแซงการเลื่อนตำแหน่งในวงการตำรวจ จาก[[การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีไทย พ.ศ. 2564|การอภิปรายไม่ไว้วางใจ]]ของ[[รังสิมันต์ โรม]] สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจาก[[พรรคก้าวไกล]] ในกรณีของ "ตั๋วช้าง"<ref>{{Cite web|date=2021-02-23|title=#ม็อบ23กุมภา เริ่มลงถนนแยกราชประสงค์ ชูธงชุมนุมเพื่อตำรวจ ขณะตำรวจเตรียมรถน้ำสกัด|url=https://www.sanook.com/news/8351474/|url-status=live|access-date=2021-02-23|website=[[สนุก.คอม]]|language=th}}</ref>


วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ผู้ชุมนุมในนาม "รีเด็ม-ประชาชนสร้างตัว" ซึ่งแตกสาขาออกมาจากกลุ่มเยาวชนปลดแอก<ref>{{Cite web|url=https://www.matichon.co.th/politics/news_2595694|title=เยาวชนปลดแอก เปิดตัว REDEM ช่องทางออกแบบการเคลื่อนไหว บันไดสู่ ปชต.|date=2021-02-24|access-date=2021-02-28|website=[[มติชน]]}}</ref> ได้เดินขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปชุมนุมประท้วงที่สระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นบ้านพักหลวงของประยุทธ์ ภายใน[[กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์]]{{Cite web|url=https://www.prachachat.net/politics/news-621696|title=มวลชนทยอยรวมตัวอนุสาวรีย์ชัยฯ ก่อนเดินไปบ้านพักนายก “ประยุทธ์”|date=2021-02-28|access-date=2021-02-28|website=[[ประชาชาติธุรกิจ]]}}
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ผู้ชุมนุมในนาม "รีเด็ม-ประชาชนสร้างตัว" ซึ่งแตกสาขาออกมาจากกลุ่มเยาวชนปลดแอก<ref>{{Cite web|url=https://www.matichon.co.th/politics/news_2595694|title=เยาวชนปลดแอก เปิดตัว REDEM ช่องทางออกแบบการเคลื่อนไหว บันไดสู่ ปชต.|date=2021-02-24|access-date=2021-02-28|website=[[มติชน]]}}</ref> ได้เดินขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปชุมนุมประท้วงที่สระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นบ้านพักหลวงของประยุทธ์ ภายใน[[กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์]]<ref>{{Cite web|url=https://www.prachachat.net/politics/news-621696|title=มวลชนทยอยรวมตัวอนุสาวรีย์ชัยฯ ก่อนเดินไปบ้านพักนายก “ประยุทธ์”|date=2021-02-28|access-date=2021-02-28|website=[[ประชาชาติธุรกิจ]]}}</ref>
{{clear}}
{{clear}}



รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:51, 28 กุมภาพันธ์ 2564

การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564
ตามเข็มนาฬิกาจากด้านบน:
วันที่
  • ระยะที่ 1: 23 กุมภาพันธ์ 2563
  • ระยะที่ 2: 18 กรกฎาคม 2563
  • ระยะที่ 3: 10 กุมภาพันธ์ 2564
สถานที่อย่างน้อย 49 จังหวัดในประเทศไทย และมีการประท้วงในต่างประเทศส่วนหนึ่ง
สาเหตุ
เป้าหมาย
  • ยุบสภาผู้แทนราษฎรและยกเลิกวุฒิสภา
  • หยุดคุกคามประชาชน
  • ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย
  • ไม่ยอมรับรัฐบาลแห่งชาติและรัฐประหาร
  • แก้ไขพระราชอำนาจและกฎหมายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย
  • เพิ่มสิทธิพลเมือง เศรษฐกิจและการเมือง
  • การปฏิรูประบบการศึกษาไทย
วิธีการเดินขบวน แฟลชม็อบ รณรงค์ออนไลน์ เข้าชื่อ
สถานะกำลังดำเนินอยู่
  • หยุดไปช่วงหนึ่งเพราะโควิด-19 และคำสั่งห้ามชุมนุม
  • ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 15–22 ตุลาคม
การยอมผ่อนปรน
  • ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2 ร่างอยู่ในชั้นกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร
คู่ขัดแย้ง

ผู้ประท้วง:
(ไม่มีสายบังคับบัญชา)

  • ไฟล์:20 September Rivet.jpg กลุ่มราษฎร [2]
  • คณะประชาชนปลดแอก (เดิมชื่อเยาวชนปลดแอก)
  • แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
  • กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย
  • สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย
  • เสรีเทย
  • กลุ่มอาชีวะเพื่อประชาชน
  • ฟันเฟืองประชาธิปไตย
  • คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
  • ดาวดินสามัญชน
  • ขอนแก่นพอกันที
  • กลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย
  • สมัชชาแรงงานแห่งชาติ
  • สมัชชาคนจน
  • เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน
  • นักเรียนเลว
  • นักเรียนไท
  • องค์กรต่อต้านทรงผมนักเรียนไทย
  • แดงก้าวหน้า 63
  • นักเรียน/นิสิต/นักศึกษา ใน

ราชการ:

ประชาชน:

สนับสนุนโดย:

ผู้นำ
จำนวน
  • 18 กรกฎาคม:
  • 2,500
  • 16 สิงหาคม:
  • 20,000–25,000
  • 19 กันยายน:
  • 20,000–100,000
ความเสียหาย
บาดเจ็บ76 คน[b]
ถูกจับกุม167+ คน[c]
ถูกตั้งข้อหา234+ คน[30]

การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564 เป็นการประท้วงที่กำลังดำเนินอยู่ต่อรัฐบาลนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แรกเริ่มเกิดจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 การประท้วงเกิดขึ้นในพื้นที่สถานศึกษาทั้งหมด และหยุดไปช่วงหนึ่งจากการระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทย และการออกคำสั่งปิดสถานศึกษาเพื่อควบคุมโรค

การประท้วงกลับมาอุบัติขึ้นอีกครั้งในวันที่ 18 กรกฎาคม ในรูปแบบการเดินขบวนซึ่งจัดระเบียบภายใต้กลุ่ม "เยาวชนปลดแอก" ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นับเป็นการชุมนุมใหญ่สุดในรอบ 6 ปี มีการยื่นข้อเรียกร้อง 3 ประการต่อรัฐบาล ได้แก่ ให้ยุบสภาผู้แทนราษฎร หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ การประท้วงในเดือนกรกฎาคมนั้นเกิดจากผลกระทบทางเศรษฐกิจของโควิด-19 และการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) นับแต่นั้นทำให้ต่อมาการประท้วงได้ลามไปอย่างน้อย 44 จังหวัดทั่วประเทศ จนวันที่ 3 สิงหาคม กลุ่มผู้ประท้วงจัดปราศรัยเกี่ยวกับประเด็นพระราชอำนาจและเพิ่มข้อเรียกร้องในการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ หลังจากนั้น ประเด็นพระราชอำนาจดูเหมือนเข้ามารวมอยู่ในเป้าหมายการประท้วงด้วย กลุ่มประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาลจัดการชุมนุมตอบโต้ โดยกล่าวหาผู้ประท้วงว่าถูกยุยงปลุกปั่นมีเจตนาแฝงล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ การประท้วงในวันที่ 19 กันยายนมีผู้เข้าร่วม 20,000–100,000 คน หลังรัฐสภาลงมติเลื่อนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในปลายเดือนกันยายนทำให้เกิดการแสดงออกนิยมสาธารณรัฐอย่างเปิดเผยหมู่ครั้งแรกในประเทศไทย นายกรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพมหานครระหว่างวันที่ 15–22 ตุลาคม โดยอ้างเหตุขวางขบวนเสด็จฯ แต่ก็ถูกกล่าวหาว่าทางการจงใจจัดขบวนเสด็จฯ ฝ่าผู้ชุมนุม สมัยประชุมวิสามัญได้ข้อสรุปว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาการเมือง การประชุมในเดือนพฤศจิกายนมีการรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ ซึ่งยังคงมีวุฒิสภา และห้ามแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 และหมวด 2 ทำให้การประท้วงในเดือนพฤศจิกายนมุ่งเป้าไปยังพระมหากษัตริย์มากขึ้น และมีการเผชิญหน้าระหว่างผู้ประท้วงและกลุ่มคนเสื้อเหลือง

การตอบสนองของภาครัฐมียุทธวิธีประวิงเวลา การแจ้งข้อหาอาญาโดยใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีการใช้หน่วยสงครามข่าวสาร การตรวจพิจารณาสื่อ และมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนรัฐบาล และมีการป้ายสีมีรัฐบาลและมีองค์การนอกภาครัฐต่างประเทศให้การสนับสนุน บ้างกล่าวหาว่าผู้ประท้วงกำลังต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์หรือตกเป็นเหยื่อของนักการเมือง สื่อนิยมเจ้าและนิยมรัฐบาลพยายามลงข่าวให้เข้าใจว่าผู้ชุมนุมเป็นฝ่ายสร้างความรุนแรง

เบื้องหลัง

สาเหตุโดยตรง

ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา สถาปนาอำนาจและได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 คสช. ครองอำนาจบริหารประเทศเป็นเวลา 5 ปี 1 เดือน โดยไม่มีการตรวจสอบ เป็นช่วงที่สิทธิพลเมืองและสิทธิการเมืองของประชาชนถูกจำกัด และความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจกว้างขึ้น[31][32] หลังการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญไทย พ.ศ. 2559 ที่ผลเป็นข้อพิพาท ตลอดจนไม่เสรีและเป็นธรรม[33] รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ฉบับปัจจุบัน มีผลใช้บังคับ ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีส่วนที่ไม่เป็นประชาธิปไตยหลายอย่าง เช่น วุฒิสภา​ที่สมาชิกมาจากการแต่งตั้งทั้งหมดและมีอำนาจร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นเวลาห้าปี (สองคน) และผูกมัดให้รัฐบาลในอนาคตต้องปฏิบัติตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของ คสช. นักวิชาการเรียกว่าเป็นประชาธิปไตยที่มีการชี้นำ (guided democracy) โดยกองทัพ[34]

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ถูกมองว่า "เสรีบางส่วนและไม่เป็นธรรม" และเป็นอำนาจนิยมแบบมีการเลือกตั้ง (electoral authoritarianism)[35] ทำให้ คสช. สิ้นสุดลงแต่ในนาม อย่างไรก็ดี ระบบการเมืองเดิมยังดำเนินต่อในรูปพรรคทหารแบบประเทศเมียนมาร์[35] กองทัพยังคงดำเนินนโยบายและปฏิบัติตามคำสั่งของ คสช. พรรคร่วมรัฐบาลประกอบด้วยพรรคที่สนับสนุนประยุทธ์และพรรคเล็กที่ได้รับผลประโยชน์จากการตีความกฎหมายเลือกตั้งโดยคณะกรรมการการเลือกตั้งที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช.[36] อีกทั้งยังมีพรรคพวกในวุฒิสภา ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรตามรัฐธรรมนูญต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ในราชการปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ถูกแต่งตั้งตามกลไกของ คสช. ผู้มีอำนาจจำนวนมาก รวมทั้งผู้มีส่วนในอาชญากรรมที่มีการจัดตั้ง (organized crime) ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสำคัญ[35][37][38]

ระหว่างการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 พรรคอนาคตใหม่ได้รับเสียงตอบรับดีจากผู้มีความคิดก้าวหน้าและเยาวชน ซึ่งมองว่าเป็นทางเลือกสำหรับพรรคการเมืองแบบเก่าและต่อต้าน คสช.[39] เผยให้เน้นการแบ่งแยกทางเศรษฐกิจและสังคมตามรุ่นวัย[35] หลังรัฐบาลผสมอายุได้ 11 เดือน พรรคอนาคตใหม่ซึ่งเป็นฝ่ายค้านถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคในห้วงที่สภาผู้แทนราษฎรกำลังมีญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาล[40] อดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่เปิดโปงการมีส่วนร่วมของรัฐบาลใน 1MDB[41]

สาเหตุพื้นเดิม

ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชอำนาจเพิ่มขึ้นกว่าพระราชอำนาจตามประเพณีที่ทรงอำนาจอยู่แล้วนับแต่รัชกาลก่อน พระองค์ทรงมีความเห็นในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และนำไปสู่การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญทั้งที่ผู้ออกเสียงลงคะแนนรับร่างรัฐธรรมนูญนั้นแล้ว[42] ในปี 2561 มีการแก้ไขให้พระองค์เป็นเจ้าของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งตามกฎหมายถือว่าเป็นของสาธารณะ วันที่ 16 กรกฎาคม 2562 คณะรัฐมนตรีชุดใหม่สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง โดยสมาชิกคณะรัฐมนตรีนั้นกล่าวสวามิภักดิ์ต่อพระมหากษัตริย์ แต่ไม่ได้กล่าวถึงรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นการละเมิดการสาบานก่อนเข้ารับตำแหน่งโดยไม่ยอมกล่าวแก้ไข[36] ในปี 2563 รัฐบาลโอนหน่วยทหาร 2 หน่วยให้เป็นส่วนราชการในพระองค์ ซึ่งดูเหมือนว่ากระทำในพระปรมาภิไธย[43] ในช่วงเดียวกัน พระองค์ยังถูกกล่าวหาว่าพยายามลบประวัติศาสตร์ โดยมีการทำลายอนุสรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคณะราษฎรและการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475[36]

การใช้บังคับกฎหมายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยเป็นหัวข้อถกเถียงมาตั้งแต่รัชกาลก่อน จำนวนคดีได้เพิ่มสูงสุดหลังรัฐประหารปี 2557[44] นักวิจารณ์มองว่ากฎหมายนี้เป็นอาวุธทางการเมืองที่ใช้ปราบปรามผู้เห็นต่าง และจำกัดเสรีภาพในการพูด แม้ไม่มีคดีใหม่ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งประยุทธ์กล่าวว่าทรงเป็นพระราชประสงค์ แต่ก็มีการใช้กฎหมายความมั่นคงอื่นแทน เช่น กฎหมายการปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116), พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 หรือความผิดฐานอั้งยี่​ ซึ่งทั้งหมดล้วนมีโทษร้ายแรงพอ ๆ กับกฎหมายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย ในเดือนมิถุนายน 2563 การบังคับสูญหายของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ในประเทศกัมพูชา​ ได้รับความสนใจและเห็นใจในโลกออนไลน์[45]

เหตุการณ์ประจวบ

รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม และสั่งเคอร์ฟิวเพื่อจำกัดการระบาด รัฐบาลยังสั่งงดเดินทางเข้าประเทศจากต่างประเทศ[46] แม้ประเทศค่อนข้างประสบความสำเร็จในการควบคุมโรคแล้ว เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานทางสาธารณสุขที่ทนทาน[47][48] แต่รัฐบาลยังไม่ยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน และข้อจำกัดทางเศรษฐกิจที่รุนแรง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีความสำคัญของประเทศได้รับผลกระทบหนัก กองทุนการเงินระหว่างประเทศทำนายว่าจีดีพีไทยจะหดตัวลงร้อยละ 6.7 ในปี 2563[49] รัฐบาลกู้ยืมเงินและประกาศเงินกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านบาท (60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่มีผู้ได้รับประโยชน์จริงจำนวนน้อย[50]

วันที่ 15 กรกฎาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประกาศผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 3 คน แต่ 2 ใน 3 คนนั้น เป็นทหารชาวอียิปต์และครอบครัวอุปทูตซูดาน ซึ่งทั้งสองเป็นแขกพิเศษของรัฐบาล และรัฐบาลผ่อนผันมาตรการปฏิบัติต่อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 บางอย่าง รัฐบาลปิดบังพื้นที่เสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยสองรายนี้จนกระทั่งวันที่ 16 กรกฎาคม ทำให้ชาวเน็ตหลายคนเกรงว่าอาจมีการระบาดระลอกที่ 2[51] ประชาชนจำนวนมากจึงวิจารณ์ความล้มเหลวของรัฐบาลในการควบคุมโรคกับแขกวีไอพีเหล่านี้[52] และความล้มเหลวในการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19[53][54] วันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเดินทางลงพื้นที่จังหวัดระยอง ตำรวจจับผู้ประท้วงสองคนที่ถือป้ายข้อความประท้วงนายกรัฐมนตรีและเรียกร้องให้ลาออก มีรายงานว่าทั้งสองถูกตำรวจทำร้ายด้วย[55]

ลำดับเหตุการณ์

การประท้วงระยะแรก (เดือนกุมภาพันธ์)

การประท้วงที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตองครักษ์ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ โดยตัวเลขที่ถูกขีดฆ่าหมายถึง จำนวนคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วประเทศที่เลือกให้กับพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกขีดทิ้ง

การประท้วงระยะแรกเกิดจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ พรรคการเมืองฝ่ายค้านซึ่งได้รับความนิยมในหมู่เยาวชน เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563[56] จึงเกิดการเดินขบวนในมหาวิทยาลัย วิทยาลัยและโรงเรียนหลายแห่งทั่วประเทศตั้งแต่นั้นมา การประท้วงเหล่านี้มีแฮชแท็กที่จำเพาะกับสถาบันของพวกตน การประท้วงในช่วงแรก ๆ เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โรงเรียนที่ประท้วงด้วย เช่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา​และโรงเรียนศึกษานารีวิทยา อย่างไรก็ดี การประท้วงเหล่านี้จำกัดอยู่ในสถาบันของตนเท่านั้น[57][58] ด้าน อาจารย์ ด​ร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง​ ระบุว่า การประท้วงบนถนนไม่เคยสร้างการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย หากกองทัพยังอยู่ข้างรัฐบาล[1]

แฮชแท็กที่เกิดขึ้นในการประท้วงเดือนกุมภาพันธ์ เช่น ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้ #เสาหลักจะไม่หักอีกต่อไป, ในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ใช้ #เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ, ในมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ใช้ #มศวคนรุ่นเปลี่ยน อีกจำนวนหนึ่งใช้แสดงออกถึงความเป็นปรปักษ์กับกลุ่มผู้สนับสนุนเผด็จการ เช่น #KUไม่ใช่ขนมหวานราดกะทิ, #KKUขอโทษที่ช้าโดนสลิ่มลบโพสต์, #ศาลายางดกินของหวานหลายสี, #พระจอมเกล้าชอบกินเหล้าไม่ชอบกินสลิ่ม

ต่อมาการประท้วงหยุดไปจากสถานการณ์การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทย และคำสั่งปิดสถานศึกษาทั่วประเทศเพื่อควบคุมโรคโดยให้จัดการเรียนการสอนทางออนไลน์แทน

การประท้วงทางออนไลน์

การรณรงค์ให้หยุดก่อม็อบลงถนนหลังกรณีศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่เพราะกลัวให้เป็นข้ออ้างในการปราบปราม​สังหารประชาชนหรือการรัฐประหารซ้อน​[59] การติดแฮชแท็กในทวิตเตอร์เริ่มเป็นที่นิยมในชื่อ save เพื่อให้มีการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนจากรัฐ เช่น #saveวันเฉลิม (วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยในประเทศกัมพูชา)[60], #saveทิวากร ผู้สวมเสื้อ เราหมดศรัทธา​สถาบันกษัตริย์​แล้ว[61]

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการประวัติศาสตร์และผู้ลี้ภัยทางการเมือง ทวีตตั้งคำถามเกี่ยวกับรัชกาลที่ 10 พร้อมใส่แฮชแท็กดังกล่าว จนนำไปสู่การที่กลุ่มเยาวชนกล้าพูดในเรื่องที่สุ่มเสี่ยงที่สุด คือ #กษัตริย์มีไว้ทำไม[62] เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ "นิรนาม_"ถูกจับกุมที่ทวิตภาพและข้อความเกี่ยวกับรัชกาลที่ 10 และถูกฝากขังที่ศาลพัทยา และไม่ได้รับการอนุญาตให้ประกันตัว โดยใช้การตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากบริษัททรู[63]

ต่อมาในวันที่ 24 เมษายน สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า สนท. ขอเชิญชวนชาวไทยทุกคนร่วมประท้วงออนไลน์ โดยการถ่ายรูปถือป้ายแสดงความรู้สึกต่อรัฐบาลพร้อมติด #MobFromHome "โควิดหายมาไล่รัฐบาลกันไหม?"[64] ส่งผลให้ในวันต่อมา (25 เมษายน) #MobFromHome พุ่งติดเทรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ประเทศไทย โดยมีผู้ใช้ทวิตเตอร์แต่ละบัญชีต่างออกมาระบายความอัดอั้นตันใจที่มีต่อรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์[65]

และวันที่ 27 เมษายน นายแพทย์ สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวร่วม #MobFromHome ด้วย และได้เปิดตัวแฮชแท็กใหม่อีกคือ #NoCPTPP เนื่องจากในวันถัดมา (28 เมษายน) คณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นำโดยจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะมีการเสนอให้ประเทศไทยเข้าร่วมข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก หรือ CPTPP ซึ่งจากข้อตกลงนี้มีกฎหมายข้างเคียงที่จะทำให้ไทยถูกเอาเปรียบทางด้านการเกษตรและด้านการแพทย์อย่างมาก เช่น ต่างชาติสามารถผูกขาดเมล็ดพันธุ์พืชได้ ยามีราคาแพงขึ้น สิทธิบัตรยาถูกผูกขาดมากขึ้น ทำให้ไทยมีความมั่นคงทางอาหารและยาลดลง[66] และ ตุล ไวฑูรเกียรติ นักร้องนำวงอพาร์ตเมนต์คุณป้า ก็ได้ออกมาร่วมรณรงค์ให้คัดค้าน CPTPP ด้วย จนทำให้แฮชแท็ก #NoCPTPP ก็ติดอันดับ 1 ในทวิตเตอร์[67] จนกระทั่งจุรินทร์ต้องสั่งถอนวาระเรื่อง CPTPP ออกจากวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีทันทีในวันนั้นเอง[68]

การประท้วงระยะที่สอง

การชุมนุมภายใต้ข้อเรียกร้อง 3 ประการ

กลุ่มเสรีเทยโบกธงสีรุ้งในการประท้วงวันที่ 25 กรกฎาคม

วันที่ 18 กรกฎาคม ประเทศไทยมีการเดินขบวนตามถนนครั้งใหญ่สุดนับแต่รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557[69]อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในกรุงเทพมหานคร ผู้ประท้วงซึ่งรวมตัวกันในชื่อกลุ่ม "เยาวชนปลดแอก" (อังกฤษ: Free Youth) ยื่นข้อเรียกร้อง 3 ประการ ได้แก่ การยุบสภาผู้แทนราษฎร โดยผู้ประท้วงระบุเหตุผลว่า รัฐบาลได้ล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการระบาดทั่วของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย และการปล่อยละเลยให้บุคคลสำคัญจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่กักตัว 14 วัน จึงเป็นเหตุผู้ประท้วงไม่ไว้วางใจในการทำงานของรัฐบาล, การหยุดคุกคามประชาชน เนื่องจากมีการอ้างความมั่นคงเพื่อปิดปากประชาชน และยัดข้อหาให้ผู้ชุมนุม และ การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นการสืบทอดอำนาจระบอบเผด็จการ ผู้ประท้วงกำหนดระยะเวลาให้รัฐบาลตอบสนองภายใน 2 สัปดาห์ มิฉะนั้นผู้ประท้วงจะทำการยกระดับการชุมนุมต่อไป[70] สาเหตุการประท้วงเกิดจากเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งผู้ชุมนุมมองว่า มีวัตถุประสงค์แอบแฝงเพื่อห้ามการชุมนุมทางการเมือง[71][72] โดยการชุมนุมเริ่มต้นในเวลา 17:00 น. มีผู้เข้าร่วมประมาณ 2,500 คน มีประกาศจะปักหลักค้างคืนจนถึงเวลา 08:00 แต่ในช่วงเวลา 00:00 กลุ่มผู้ประท้วงประกาศยุติการชุมนุม เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย[73] ส่วน ศ.พิเศษ​ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักวิชาการประวัติศาสตร์ เตือนผู้ชุมนุมอย่าชุมนุมค้างคืน เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ 6 ตุลา[74]

การประท้วงที่จังหวัดนครราชสีมาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม

วันที่ 19 กรกฎาคม เกิดการประท้วงขึ้นอีกหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดอุบลราชธานี[75]

วันที่ 22 กรกฎาคม มีการจัดกิจกรรม "อิสานสิบ่ทน" ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ และเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 เพิ่มขึ้นมา แฮชแท็ก #อีสานสิบ่ทน พุ่งติดเทรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ประเทศไทย​อย่างรวดเร็ว[76]

วันเดียวกัน กลุ่ม "มศว คนรุ่นเปลี่ยน" จัดการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อ "ชมสวน" หมายความถึง สวนที่กรุงเทพมหานครนำต้นไม้กระถางมาวางโดยรอบบริเวณ ซึ่งมีการยกออกไปในภายหลัง[77]

จากนั้นการประท้วงได้ลามไปทั่วประเทศ มีการจัดระเบียบการเดินขบวนในกว่า 20 จังหวัดในวันที่ 23 กรกฎาคม[78] บางมหาวิทยาลัยและโรงเรียนสั่งห้ามบุคลากรและนักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมการชุมนุมและห้ามจัดการชุมนุมในพื้นที่โดยอ้างเหตุความกังวลเรื่องโควิด-19 พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกและกลุ่มนิยมรัฐบาลชี้ว่าการกระทำบางอย่างของนักศึกษาอาจเข้าข่ายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย วันที่ 24 กรกฎาคม ที่จัตุรัสท้าวสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา มีการจัดการนั่งยึดพื้นที่โดยกลุ่มอาจารย์และนักศึกษาจาก 4 มหาวิทยาลัยในจังหวัด นับเป็นการประท้วงครั้งใหญ่สุดครั้งหนึ่ง[79] วันที่ 27 และ 29 กรกฎาคม คนไทยที่กรุงลอนดอน ในสหราชอาณาจักร และนครนิวยอร์กในสหรัฐ ร่วมประท้วงต่อต้านรัฐบาลด้วย[80]

วันที่ 25 กรกฎาคม กลุ่มหลากหลายทางเพศ (LGBT) ชื่อ เสรีเทย เดินขบวนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้องกฎหมายสมรสเพศเดียวกันนอกเหนือจากข้อเรียกร้องสามข้อของเยาวชนปลดแอก[81] วันที่ 26 กรกฎาคม มีการจัดกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยโดยใช้ตัวการ์ตูนแฮมทาโร่ ตอนแรกเป็นการเคลื่อนไหวออนไลน์ทางทวิตเตอร์ จนกระทั่งมีผู้เข้าร่วมประมาณ 3,000 คน[77] วันที่ 29 กรกฎาคม มีการชุมนุมเกิดขึ้นหลายที่ทั่วประเทศ เช่น ที่ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ มีการชุมนุมของประชาชนราว 1,000 คน ก่อนหน้านี้ แกนนำ 4 คนถูกตั้งข้อหาซึ่งนัดเข้ามอบตัวในวันที่ 30 กรกฎาคม, ที่จังหวัดน่าน มีผู้ชุมนุมราว 100 คน ใช้แฮชแท็ก #คิดว่าน่านจะทนหรอ #น่านกระซิบลุง, ที่จังหวัดนครสวรรค์ มีผู้ชุมนุม 200 คน ใช้สโลแกนว่า "นครสวรรค์จะไม่ทน เราจะสู้ จนกว่าตะได้ประชาธิปไตยคืนมา", ที่จังหวัดสุพรรณบุรี มีการชุมนุมของกลุ่ม "สุพรรณจะไม่ทน" จำนวน 150 คน และที่จังหวัดนนทบุรี ผู้ชุมนุมร่วมร้องเพลงแฮมทาโร่[82]

วันที่ 30 กรกฎาคม มีการจัดการประท้วงโดยสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าทั้ง 3 สถาบัน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ภายใต้แฮชแท็ก #สามพระจอมจะยอมได้ไง ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตกรุงเทพมหานคร[83] วันเดียวกัน มีการชุมนุมของกลุ่มอาชีวะ 2 กลุ่ม ได้แก่ "กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ" ที่แสดงจุดยืน "พิทักษ์" สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งกล่าวหาว่ากลุ่มเยาวชนปลดแอก "ท้าทาย ต่อต้าน หรือกระทั่งล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์" มีจำนวนประมาณ 110 คน จัดการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อีกกลุ่มหนึ่งคือ "อาชีวะเพื่อประชาชน" และกลุ่ม "ฟันเฟืองประชาธิปไตย" ที่แสดงจุดยืนเข้ากับผู้ชุมนุม[84]

รายงานของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (TLHR) ระบุว่า จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม มีการจัดกิจกรรมแล้ว 75 ครั้งใน 44 จังหวัด ในจำนวนนี้ 5 กิจกรรมไม่สามารถจัดได้เพราะมีการคุกคามและปิดกั้นของทางการ[85]

ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

ไฟล์:10 August rangsit 1.jpg
การชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม โดยมีการจัดแสดงภาพบุคคลที่ถูกบังคับให้สูญหายบางส่วนในประเทศไทย

วันที่ 1 สิงหาคม กลุ่มเยาวชนปลดแอกพบว่า หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ รัฐบาลไม่ตอบสนองแก่ข้อเรียกร้อง 3 ประการที่เรียกร้องไป ซ้ำยังพบการคุกคามประชาชนด้วย พ.ร.ก. ฉุกเฉิน มากกว่าเดิมอีก จึงได้โพสต์เฟซบุ๊กประกาศยกระดับการชุมนุม โดยตั้งกลุ่มการเมืองใหม่ในชื่อ "คณะประชาชนปลดแอก" (อังกฤษ: Free People) และได้เชิญชวนประชาชนทุกเพศ ทุกวัย มาร่วมมือกับเยาวชนเพื่อขับไล่รัฐบาลชุดนี้ด้วย โดยได้นัดหมายการชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 16 สิงหาคม[86]

วิดีโอจากแหล่งข้อมูลภายนอก
คำปราศรัยเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ของอานนท์ นำภา, วิดีโอยูทูบ

วันที่ 3 สิงหาคม กลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มมอกะเสด (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) จัดการชุมนุม มีแฮชแท็กว่า #เสกคาถาไล่คนที่คุณก็รู้ว่าใคร[87] เป็นการวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ มีผู้เข้าร่วมประมาณ 200 คน[88] โดยเวลาประมาณ 20.00 น. อานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขึ้นปราศรัย[89] ความตอนหนึ่งกล่าวถึงพระราชอำนาจที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปกฎหมายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย[88] อานนท์ถูกตั้งข้อหาหลายข้อหา รวมทั้งข้อหาหนักสุดการปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116) และถูกตำรวจจับกุมในวันที่ 7 สิงหาคม[90] ภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำเยาวชนปลดแอกในวันที่ 18 กรกฎาคม ถูกจับกุมด้วยอีกคน ทำให้เกิดแฮชแท็ก #หยุดคุกคามประชาชน ปล่อยอานนท์ ปล่อยไมค์" #saveทนายอานนท์ #saveไมค์ #หยุดคุกคามประชาชน[91] องค์การนิรโทษกรรมสากลประเทศไทยออกแถลงการณ์ให้ถอนข้อหา และคุ้มครองสิทธิในการชุมนุมของประชาชน[91] ปฏิกิริยาจากการจับกุมดังกล่าวทำให้เกิดการประท้วงที่มีผู้เข้าร่วมประมาณ 1,000 คนในวันที่ 8 สิงหาคม[92] ประมาณต้นเดือนสิงหาคม เกิดการรณรงค์ #ไม่รับปริญญา หมายถึง ไม่เข้าร่วมพิธีพระราชทานปริญญาบัตร[93]

วันที่ 7 สิงหาคม ไอลอว์เริ่มจัดกิจกรรมรวบรวมรายชื่อเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ หวังรวบรวมรายชื่อ 50,000 รายชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน[94]

วันที่ 9 สิงหาคม มีการจัดการชุมนุม "เชียงใหม่จะไม่ทน" ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี อานนท์ นำภา ปราศรัยเรื่องข้อเสนอปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อีกครั้ง มีผู้ชมุนมประมาณ 500–1,000 คน[95]

วันที่ 10 สิงหาคม คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเข้ายื่นร่างพระราชบัญญัติออกเสียงลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีศูนย์กลางประสานงานนักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบันฯ (ศอปส.) ชุมนุมประท้วงตอบโต้ โดยกล่าวหาว่านักศึกษาถูกยุยงให้โจมตีรัฐบาลและกองทัพ และดึงสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้อง อีกทั้งคิดล้มระบอบการปกครอง กลุ่มของตนจะใช้วิธีบีบบังคับทางสังคมเปิดโปงชื่อบุคคลให้สาธารณะทราบ[96] นอกจากนี้ กลุ่ม ศอปส. ยังประกาศจัดตั้งในทุกจังหวัด[97]

ในช่วงเย็นถึงหัวค่ำ มีการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี ชื่อ "#ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" มีผู้เข้าร่วมจากหลายกลุ่มและหลายมหาวิทยาลัย และมีกลุ่มอาชีวะมาช่วยรักษาความปลอดภัยให้[98] รวมประมาณ 3,000 คน[99] และใช้สโลแกนว่า "เราไม่ต้องการปฏิรูป เราต้องการปฏิวัติ" มีตัวแทนสหภาพแรงงานร่วมปราศรัย เล่าถึงปัญหาความไม่เสมอภาคและสัญญายกระดับคุณภาพชีวิตของรัฐบาลที่ทำไม่ได้จริง[100] นอกจากนี้ มีการปราศรัยของอานนท์ นำภา, เปิดคลิปของปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ พร้อมกับยื่นข้อเสนอ 10 ข้อเพื่อปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อให้บทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยสอดคล้องกับระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ[100] ตามข้อมูลของเอพี ผู้ประท้วงในงานรู้สึกคละกันเกี่ยวกับข้อเรียกร้องดังกล่าว[99] กลุ่มผู้ประท้วง มธ. แจ้งยกเลิกนัดหมายชุมนุมในวันที่ 12 สิงหาคมเนื่องจากทราบมาว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดี[101]

ข้อเรียกร้อง 10 ประการของ #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน
  1. ยกเลิกบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ห้ามผู้ใดกล่าวหาฟ้องร้องกษัตริย์ ให้สภาผู้แทนราษฎรสามารถพิจารณาความผิดของกษัตริย์ได้ ดังที่เคยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับคณะราษฎร
  2. ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ให้แสดงความเห็นต่อสถาบันฯ ได้อย่างเสรี และให้นิรโทษกรรมผู้ถูกดำเนินคดีทุกคน
  3. ยกเลิก พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2561 และให้แบ่งทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และทรัพย์สินส่วนพระองค์อย่างชัดเจน
  4. ลดงบประมาณแผ่นดินที่จัดสรรให้กับสถาบันกษัตริย์ให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ
  5. ยกเลิกส่วนราชการในพระองค์ และยกเลิกหน่วยงานที่ไม่มีความจำเป็น เช่น คณะองคมนตรี
  6. ยกเลิกการบริจาคและรับบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลทั้งหมด เพื่อให้การเงินของสถาบันกษัตริย์อยู่ภายใต้การตรวจสอบทั้งหมด
  7. ยกเลิกพระราชอำนาจในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในที่สาธารณะ
  8. ยกเลิกการประชาสัมพันธ์และการโฆษณาชวนเชื่อสถาบันกษัตริย์ทั้งหมด
  9. สอบสวนความจริงเกี่ยวกับการฆ่าราษฎรผู้ออกความเห็นหรือวิจารณ์สถาบันกษัตริย์
  10. ห้ามลงพระปรมาภิไธยรับรองรัฐประหารอีก

วันที่ 14 สิงหาคม บีบีซีรายงานว่ามีการจัดประท้วงแนวร่วมเยาวชนปลดแอกใน 49 จังหวัด และประชาชนปกป้องสถาบันฯ 11 จังหวัด[102]

การชุมนุมของคณะประชาชนปลดแอกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม

วันที่ 16 สิงหาคม คณะประชาชนปลดแอกซึ่งยกระดับจากกลุ่มเยาวชนปลดแอก[36] จัดการชุมนุม "ขีดเส้นตายไล่เผด็จการ" ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียนรีวิวรายงานอ้างตำรวจภาคสนามว่ามีผู้เข้าร่วมอย่างน้อย 20,000 คน[103] โดยผู้ชุมนุมย้ำข้อเรียกร้อง 3 ข้อเดิม และเพิ่ม 2 จุดยืน ได้แก่ ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติและรัฐประหาร รวมถึง 1 ความฝัน คือ ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ" กลุ่มยังยื่นคำขาดว่า ภายในเดือนกันยายน จะต้องยกเลิกวุฒิสภาชุดปัจจุบัน ซึ่งคณะประชาชนปลดแอกมองว่าเป็นกลไกสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้ได้[36] นอกจากนี้ในวันเดียวกัน มีการชุมนุมสนับสนุนในต่างประเทศ คือ ในกรุงไทเป ประเทศไต้หวัน ซึ่งมีชาวไต้หวัน ชาวฮ่องกงและชาวสิงคโปร์เข้าร่วมด้วยจำนวนหนึ่ง[104] มีนักเรียนหลายโรงเรียนร่วมประท้วงด้วย ใช้แฮชแท็ก #โรงเรียนหน้าเขาไม่เอาเผด็จการ มีการกล่าวถึง 4 แสนครั้ง แต่มีโพสต์จากโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ว่าครูตราหน้านักเรียนว่าโง่และถูกพรรคการเมืองหลอก[105] รวมทั้งมีกรณีปัดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของนักเรียนเสียหาย[106]

วันที่ 18 สิงหาคม กลุ่ม "นักเรียนเลว" จัดการประท้วงเป่านกหวีดที่กระทรวงศึกษาธิการเพื่อขับณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีต กปปส.[107]

วันที่ 30 สิงหาคม มีกลุ่ม "ไทยภักดี" ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยประมาณ 1,000–1,200 คนชุมนุมในสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง จัดโดยนักการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม ในพื้นที่ใกล้เคียงเกิดเหตุทำร้ายร่างกายภารโรงสูงอายุคนหนึ่งที่ใส่เสื้อแดง[108][109]

หลังสภาผู้แทนราษฎรรับข้อเสนออย่างเป็นทางการ

วันที่ 26 สิงหาคม กลุ่มนักศึกษายื่นข้อเรียกร้อง รวมทั้งข้อเสนอปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อสภาผู้แทนราษฎร[110] ต่อมาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสองฝ่ายยื่นญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ซึ่งรวมทั้งเพื่อแก้ไขวรคว่าด้วยวิธีดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ[111][112] วันที่ 28 สิงหาคม ผู้มีชื่อตามหมายจับจำนวน 15 คนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ ส.น. สำราญราษฎร์ ซึ่งได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ต้องวางประกัน วันเดียวกัน เกิดเหตุมีศิลปินสาดสีใส่ชุดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ[113]

วันที่ 9 กันยายน แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้แถลงรายละเอียดหน้าตึกโดม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เกี่ยวกับการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายน ซึ่งเป็นวันครบรอบ 14 ปี ของการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 ซึ่งจะเป็นการชุมนุมปักหลักค้างคืน และจะมีการเดินขบวนไปยื่นข้อเรียกร้องแก่พลเอกประยุทธ์ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันรุ่งขึ้น โดยคาดว่าจะใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์หรือท้องสนามหลวงเป็นที่ชุมนุม[114]

การปักหลักชุมนุมที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 19 กันยายน 2563

ก่อนหน้าชุมนุมที่มีการนัดหมายในวันที่ 19 กันยายน เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยปิดประตู[115] คณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่ามีอาสาสมัครตั้งเต็นท์ศูนย์อำนวยการติดตามการชุมนุม[116]

วันที่ 19 กันยายน กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดการชุมนุมภายใต้ชื่อ "19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร" แต่เป็นการชุมนุมใหญ่ครั้งแรกที่เชิญชวนประชาชนให้ปักหลักค้างคืน[117] มีการเจรจาระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยจนสามารถเข้าไปในพื้นที่ได้สำเร็จ[118] ในเวลาบ่าย ผู้ชุมนุมย้ายไปปักหลักที่ท้องสนามหลวง โดยมีเจ้าหน้าที่กั้นรั้วรอบพื้นที่พระบรมมหาราชวัง[117] ในช่วงเย็น มีประมาณการผู้ร่วมชุมนุมระหว่าง 20,000–100,000 คนแล้วแต่แหล่งข้อมูล[119][120] ฝ่ายตำรวจมีการระดมเจ้าพนักงานกว่า 10,000 นายเข้ามาในพื้นที่[121] เช้าวันที่ 20 กันยายน มีการทำพิธีฝังหมุดคณะราษฎรหมุดที่ 2 เพื่อรำลึกถึงหมุดคณะราษฎรเดิมที่หายไปในปี 2560[122][123] และผู้ประท้วงเปลี่ยนแผนจากการเคลื่อนไปทำเนียบรัฐบาล เป็นเคลื่อนไปทำเนียบองคมนตรีแทน และยื่นข้อเรียกร้องต่อประธานองคมนตรีผ่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาลก่อนสลายตัว[124] ไม่มีรายงานเหตุการณ์ความรุนแรง โดยพริษฐ์ ชิวารักษ์ ประกาศนัดชุมนุมอีกในวันที่ 14 ตุลาคม[124] หมุดดังกล่าวถูกนำออกจากบริเวณภายใน 24 ชั่วโมง[125] สื่อต่างประเทศบางสำนักระบุว่าการประท้วงครั้งนี้เป็นการประท้วงต่อการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างเปิดเผย[126]

วันที่ 24 กันยายน ซึ่งเป็นวันลงมติในญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มีการชุมนุมเพื่อกดดันสมาชิกวุฒิสภา สุดท้ายรัฐสภามีมติตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนรับหลักการ อันเป็นผลให้เลื่อนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญออกไปอย่างน้อย 1 เดือน ทำให้เกิดทวีต #RepublicofThailand (สาธารณรัฐไทย) ติดอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ในคืนนั้น นับเป็นการแสดงออกนิยมสาธารณรัฐแบบหมู่สาธารณะครั้งแรกในประเทศไทย[127]

ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งได้รับสมญาว่า "นักร้องการเมือง" ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกลุ่มผู้ชุมนุมว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม จนศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องในวันที่ 16 กันยายน โดยนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้หน่วยงานของราชการส่งหลักฐานให้แก่เขาในวันที่ 24 กันยายน ทั้งนี้เขาหวังว่าคำวินิจฉัยของศาลว่าจะสามารถตีความอย่างกว้างขวางเพื่อขัดขวางมิให้กล่าวถึงในประเด็นการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อีกต่อไป และยังสามารถดำเนินคดีกับผู้สนับสนุนต่าง ๆ ได้[128]

วันที่ 2 ตุลาคม กลุ่มนักเรียนมัธยม "นักเรียนเลว" จัดการประท้วงในโรงเรียนหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร​เพื่อประท้วงการละเมิดนักเรียน แล้วชุมนุมกันที่กระทรวงศึกษาธิการเพื่อเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลาออกอีกครั้ง[129]

สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง

การปักหลักชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 14 ตุลาคม 2563
วิดีโอจากแหล่งข้อมูลภายนอก
ขบวนเสด็จฯ ฝ่าแนวผู้ชุมนุมประท้วง 14 ตุลาคม 2563, วิดีโอเฟซบุ๊ก
เหตุทำร้ายร่างกายนักศึกษาในมหาวิทยาลัยรามคำแหง 21 ตุลาคม 2563, วิดีโอทวิตเตอร์

วันที่ 13 ตุลาคม ก่อนหน้าวันที่นัดหมายชุมนุมใหญ่ 1 วัน ผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งชุมนุมกันที่ถนนราชดำเนินใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อประท้วงขบวนเสด็จฯ[130] โดยระหว่างขบวนเสด็จฯ ผ่านผู้ประท้วงได้ชูสัญลักษณ์มือสามนิ้วซึ่งเป็นการแสดงออกไม่พอใจพระมหากษัตริย์ไทยอย่างเปิดเผย มีการสลายการชุมนุม และมีผู้ประท้วงถูกจับกุม 21 คน ต่อมาแฮชแท็กโจมตีพระมหากษัตริย์ติดอันดับทวิตเตอร์[131]

วันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันนัดชุมนุมใหญ่ เริ่มมีการชุมนุมตั้งแต่เช้าภายใต้ชื่อ "คณะราษฎร" จำนวนหลายหมื่นคน[132] โดยประกาศจะเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้ประยุทธ์ลาออก[133] ปรากฏว่าทางการสั่งขนผู้ประท้วงตอบโต้โดยใช้พาหนะของราชการ[134] ส่วนกลุ่มนิยมเจ้า เช่น ไทยภักดี และองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน จัดการประท้วงตอบโต้[135] วันเดียวกัน เกิดเหตุทำร้ายร่างกายผู้ประท้วงโดยฝ่ายตรงข้าม มีการเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลแล้วตั้งเต้นท์และเวทีปราศรัยโดยรอบทั้ง 4 ทิศ ทั้งนี้ การประท้วงดังกล่าวตรงกับการเสด็จพระราชดำเนินตามหมายกำหนดการ ซึ่งผ่านบริเวณชุมนุมที่ถนนพิษณุโลกและไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการล่วงหน้า และทั้งที่กำหนดการเดิมว่าจะใช้ถนนราชดำเนิน[136] ไม่มีการขัดขวางขบวนเสด็จ แต่นายกรัฐมนตรีออกแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่าจะดำเนินคดีอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ขัดขวางขบวนเสด็จฯ ตามอ้าง[136] เช่นเดียวกับกลุ่มฝ่ายขวาและสื่อที่รีบออกมาโจมตีผู้ชุมนุม[137][138] ด้านอานนท์ นำภา กล่าวว่า ราชการจงใจจัดขบวนเสด็จฯ ฝ่าบริเวณชุมนุม และอานนท์กะจำนวนผู้เข้าร่วมประท้วงประมาณ 200,000 คนก่อนเวลาเที่ยงคืน[139]

ตำรวจใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวันในวันที่ 16 ตุลาคม

วันที่ 15 ตุลาคม เวลา 04:00 น. นายกรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร มีคำสั่งห้ามชุมนุม และจำกัดการนำเสนอข่าว[140] รวมถึงจัดตั้งกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) ขึ้นมาควบคุมสถานการณ์โดยเฉพาะ[141] ทำให้ตำรวจใช้อำนาจนี้เข้าสลายการชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาล โดยมีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 20 คน และผู้ชุมนุมนัดหมายอีกครั้งในเวลา 16:00 น. ที่แยกราชประสงค์ ส่งผลให้แฮชแท็ก #15ตุลาไปราชประสงค์ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 แม้การเชิญชวนไปชุมนุมจะเป็นความผิด[142] วันเดียวกัน นายตำรวจระดับสูงสามนายถูกสั่งย้ายและสอบสวนจากกรณีขบวนเสด็จฯ[143] มีการส่งกำลังทหารมายังทำเนียบรัฐบาลและอาคารรัฐสภา[144] ส.ส. ฝ่ายค้านจึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นบรรยากาศเหมือนช่วงก่อนเกิดรัฐประหารปี 2557[145] พรรคร่วมฝ่ายค้านเรียกร้องให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพมหานคร และเปิดสมัยประชุมวิสามัญ[146] การประท้วงในเวลาเย็นที่แยกราชประสงค์ดำเนินต่อไป โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 13,500 คน[147] มีผู้ถูกจับกุมเพิ่มอีกอย่างน้อย 20 คน[148] แต่ผู้ประท้วงยืนยันจะประท้วงต่อโดยใช้ยุทธวิธีแฟลชม็อบ[149] มีนักกิจกรรมถูกจับกุม 2 คนฐานประทุษร้ายพระราชินี[150] ด้านศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่ามีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 51 คนระหว่างวันที่ 13 ถึง 15 ตุลาคม[28]

วันที่ 16 ตุลาคม ประยุทธ์กล่าวถึงผู้ประท้วงตอนหนึ่งว่า "อย่าประมาทกับชีวิต เพราะคนเราสามารถตายได้ทุกเวลา อย่าไปท้าทายกับพญามัจจุราช"[151] โดยเป็นการยกคำสอนตอนหนึ่งของพระพุทธเจ้า แต่ถูกมองว่าเป็นการขู่ฆ่าอย่างทรราช[152] ในเวลาเย็น ผู้ประท้วงที่ไม่มีอาวุธประมาณ 2,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น จัดแฟลชม็อบที่แยกปทุมวัน โดยเปลี่ยนจากแยกราชประสงค์ที่มีตำรวจประจำอยู่หนาแน่น แต่ไม่ถึงสองชั่วโมงถัดมาก็ถูกตำรวจสลายการชุมนุม มีรายงานใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง น้ำผสมสารเคมี[147] และแก๊สน้ำตา[153] ด้านหัวหน้าพรรคก้าวไกลพยายามเจรจากับตำรวจขอให้เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บออกจากที่ชุมนุม แต่ไร้ผล ด้านผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกล่าวว่ามีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 100 คน[29] หลังมีการสลายการชุมนุม นักศึกษาหลายมหาวิทยาลัยจัดแฟลชม็อบเพื่อประณามการกระทำดังกล่าว[154][155][156] ขณะที่วรงค์ เดชกิจวิกรมและอัษฎางค์ ยมนาคหยิบยกคลิปโดยสำนักข่าวเอเอฟพีที่มีผู้ประท้วงใช้คีมตัดเหล็กฟาดใส่ตำรวจในชุดเกราะมาตั้งคำถามว่าผู้ชุมนุมมือเปล่าจริงหรือไม่[157][158] สีของน้ำนั้นคาดการณ์ว่าเป็นเมทิลลีนบลู, แอเซอร์เอ, หรือไทโอนีน และใช้ติดตามตัวบุคคลเป็นเวลาหลายวัน[159] ด้านตำรวจไม่สามารถยืนยันประเภทของสารเคมีได้แน่ชัด ทำให้ถูกวิจารณ์ว่าดูไม่ได้ศึกษาสารเคมีที่จัดซื้อมา[160]

วันที่ 17 ตุลาคม ผู้ชุมนุมในนาม "กลุ่มราษฎร" ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจากคณะราษฎร และตำรวจประเมินว่ามีจำนวนประมาณ 23,000 คน จัดการชุมนุมในรูปแบบไร้แกนนำในหลายจุดในกรุงเทพมหานคร ทำให้รัฐบาลสั่งปิดระบบขนส่งมวลชน และมีผลกระทบต่อผู้โดยสารหลายแสนคน[161] การชุมนุมในวันที่ 18 ตุลาคม จัดที่แยกอโศกมนตรี แยกบางนา และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นหลัก เป็นการชุมนุมโดยสงบและไม่ยืดเยื้อ พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะผู้อำนวยการ กอร.ฉ. ใช้อำนาจสั่งปิดสถานีรถไฟฟ้าและสกายวอล์คในบริเวณดังกล่าว[162] ตำรวจระบุว่ามีผู้ชุมนุมประมาณ 6,000 คน ตามแยกต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งยังไม่รวมการประท้วงในอีกหลายจังหวัด[163] วันที่ 21 ตุลาคม กลุ่มคณะราษฎรเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่ง แต่ถูกตั้งเครื่องกีดขวางอย่างแน่นหนาและมีฝ่ายตรงข้ามพยายามขวาง[164] เกิดเหตุการณ์กลุ่มชายชุดเหลืองที่ประกาศตนว่าสนับสนุนสถาบันพระมหากษัตริย์ก่อเหตุฝ่าแนวกั้นตำรวจเข้าทำร้ายกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้นักศึกษาต้องย้ายสถานที่ชุมนุม ซึ่งกลุ่มชายชุดเหลืองประกาศว่าเป็นชัยชนะ[165][166][167] มีนักศึกษาได้รับบาดเจ็บ 1 คนและเข้าแจ้งความดำเนินคดี[15] วันเดียวกัน ประยุทธ์ออกแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ขอให้ทั้งสองฝ่ายลดความรุนแรงและแก้ไขสถานการณ์ผ่านกระบวนการรัฐสภา ขอให้ผู้ประท้วงลดคำพูดที่ "ก่อให้เกิดความแตกแยก"[168][169] วันที่ 22 ตุลาคม ประยุทธ์ออกประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพมหานคร[170][171]

ประยุทธ์จัดสมัยประชุมวิสามัญของรัฐสภาไทย 26–27 ตุลาคม 2563[172] แต่ผู้ประท้วงต้องการให้นายกรัฐมนตรีลาออกก่อนเพื่อเป็นการแสดงความสุจริตใจก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ[173] ในสมัยประชุมนั้นไม่มีประเด็นใดตอบสนองข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง[174][175] หลังการประชุม ประยุทธ์กล่าวว่ารัฐบาลจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และตั้งคณะกรรมการหาทางออก แต่ตนจะไม่ลาออก[176]

การประท้วงที่พุ่งเป้าไปยังพระมหากษัตริย์ และม็อบชนม็อบ

ไฟล์:Protest in Bangkok Si Lom 29 October 2020 ไข่แมว 1.jpg
ภาพวาดการ์ตูนที่จัดแสดงในการชุมนุมประท้วงในวันที่ 29 ตุลาคม ที่ถนนสีลม แสดงภาพนักกิจกรรมคนสำคัญ, หมุดคณะราษฎรหมุดที่ 2, ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ และ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล

วันที่ 24 ตุลาคม กลุ่มราษฎรพบว่าประยุทธ์ไม่ลาออกจากตำแหน่งตามกำหนด จึงประกาศยกระดับการชุมนุมอีกครั้ง โดยไผ่ ดาวดิน ได้จัดการชุมนุมในวันที่ 25 ตุลาคม ที่แยกราชประสงค์ นับเป็นการชุมนุมใหญ่ที่แยกราชประสงค์ของกลุ่มราษฎรเป็นครั้งที่ 2[177] และในวันถัดมาคือวันที่ 26 ตุลาคม ได้เดินขบวนจากแยกสามย่านไปยังสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี เพื่อยื่นหนังสือสอบถามเกี่ยวกับการใช้พระราชอำนาจในประเทศเยอรมนีของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเฮโค มาส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี ได้ระบุว่า ได้ติดตามสิ่งที่พระองค์ทำระหว่างประทับอยู่ในเยอรมนีมานานพอสมควรแล้ว และยังคงตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีการทำผิดกฎหมายจะดำเนินการทันที[178] จากนั้นในวันที่ 29 ตุลาคม มีการชุมนุมหน้าวัดพระศรีมหาอุมาเทวี เพื่อประท้วงเสื้อผ้าของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยมีรายงานว่าได้รับจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน 13 ล้านบาท[179][180][181] วันที่ 30 ตุลาคม เกิดการชุมนุมหน้าสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น หลังพริษฐ์ ชิวารักษ์ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และภาณุพงศ์ จาดนอก ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ แต่ตำรวจอายัดตัวต่อ[182] ซึ่งพบร่องรอยการบาดเจ็บ การถูกทำร้าย ขาดน้ำและอดนอน[16]

วันที่ 3 พฤศจิกายน มีการประท้วงหน้าศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อประท้วงการสั่งปิดเว็บไซต์สื่อลามก พอร์นฮับ ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าพยายามปกปิดภาพของพระมหากษัตริย์ที่ละเอียดอ่อน[183]

วันที่ 8 พฤศจิกายน กลุ่มราษฎรจัดกิจกรรมส่งราษฎรสาส์นถึงพระมหากษัตริย์ที่สำนักพระราชวัง แต่ถูกตำรวจฉีดน้ำสกัดก่อนถึงที่หมายโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าและยังไม่ทันเจรจา[184] จนสุดท้ายได้หย่อนจดหมายที่ตู้ไปรษณีย์จำลองโดยไปไม่ถึงสำนักพระราชวัง กลุ่มผู้ชุมนุมยังมีแถลงการณ์ระบุว่า "กษัตริย์มิอาจเลือกที่รักมักที่ชัง"[184] มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน เป็นเจ้าหน้าที่ 1 คน[17] ด้านตำรวจออกมาขอโทษผู้ชุมนุมโดยอ้างว่าเป็นความผิดพลาด "มือลั่น"[185] แต่ต่อมาอ้างว่าเป็นการฉีดน้ำหลังจากพยายามเจรจาแล้วไม่เป็นผล[184] ทางการและหน่วยสารสนเทศของรัฐบาลส่งต่อภาพที่ปรากฏว่ามีผู้ชุมนุมขว้างวัตถุที่เหมือนติดไฟใส่ตำรวจและพยายามสร้างภาพว่าผู้ประท้วงใช้ความรุนแรง แต่ผู้ชุมนุมระบุว่าเป็นเพียงระเบิดควันเท่านั้น ซึ่งปาไปเพราะต้องการบดบังทัศนวิสัยหลังฉีดน้ำรอบแรก[186]

วันที่ 10 พฤศจิกายน เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติประเมินว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีผู้เข้าร่วมลดลงทั่วประเทศ โดยประเมินว่ามีจำนวนไม่เกิน 15,000 คนในกรุงเทพมหานคร และไม่เกิน 20,000 คนทั่วประเทศ พร้อมขู่ว่าเมื่อกระแสอ่อนแรงเมื่อไรจะดำเนินคดีตามกฎหมาย[187]

วันที่ 14 พฤศจิกายน กลุ่มประท้วงประมาณ 20 กลุ่ม ซึ่งมีตั้งแต่นักเรียนมัธยมปลาย นักกิจกรรมสิทธิสตรีและ LGBTQ ร่วมจัดการประท้วงในงาน "ม็อบเฟสต์" กลุ่มนักเรียนมีการใช้ผ้าคลุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเกิดการปะทะกับตำรวจเล็กน้อย ซึ่งสื่อรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บที่ขา 1 นาย[19]

วันที่ 17 พฤศจิกายน รัฐสภาเริ่มต้นการประชุมเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ การประท้วงนอกอาคารรัฐสภาในวันนั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 55 คน หลังผู้ประท้วงพยายามเข้าใกล้อาคารและถูกตำรวจสกัดด้วยปืนใหญ่ฉีดน้ำและแก๊สน้ำตาสีม่วง ต่อมาในช่วงค่ำ เกิดการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับผู้ประท้วงนิยมเจ้าสวมเสื้อเหลือง ซึ่งมีผู้ถูกปืนยิง 6 คน[18][188] มีคนสวมเสื้อเหลืองคนหนึ่งถูกจับกุมในบริเวณนั้นฐานครอบครองปืนสั้นและเครื่องกระสุน แต่เขาอ้างว่าพกมาเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น[189] สำหรับสารที่ตำรวจใช้นั้น อาจารย์วิชาเคมีคนหนึ่งเปิดเผยว่ามีสารเคมีหลายชนิดในกลุ่มแก๊สน้ำตา แต่มีการผสมให้เข้มข้นมาก และทำให้ผู้ถูกสารมีตุ่มน้ำพุพอง[190]

วันที่ 18 พฤศจิกายน รัฐสภาลงมติรับหลักการของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ซึ่งให้มีวุฒิสภาต่อไป และห้ามแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 และหมวด 2 แต่ปฏิเสธร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ไอลอว์ยกร่าง[191] ผู้ชุมนุมที่รู้สึกโกรธเพราะถูกปฏิเสธร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ไอลอว์ยกร่างและการใช้กำลังของตำรวจเมื่อวันก่อนจึงยกระดับการชุมนุมและไปชุมนุมกันที่แยกราชประสงค์อีกครั้ง นับเป็นการชุมนุมใหญ่ที่แยกราชประสงค์ของกลุ่มราษฎรเป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนชื่อแยกเป็น "ราษฎรประสงค์" และเดินขบวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสาดสีและเติมรอยขูดขีดเขียนในบริเวณนั้น ก่อนจะนัดชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 25 พฤศจิกายน เวลา 15:00 น. ที่หน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ บริเวณวังแดง เพื่อทวงคืนทรัพย์สินที่ควรเป็นของราษฎร วันต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลรีบทำความสะอาดป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บ้างใช้สีขาวหรือสีดำทาทับพื้นถนน และประยุทธ์ขอบใจการกระทำนี้[192]

วันที่ 21 พฤศจิกายน กลุ่มนักเรียนเลวจัดกิจกรรม "บ๊ายบายไดโนเสาร์" ซึ่งหมายถึงสมาชิกรัฐสภาที่มีความคิดล้าสมัย ในกิจกรรมมีหญิงในชุดนักเรียนถือกระดาษมีข้อความว่า "หนูถูกครูทำอนาจาร รร.ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย"[193] ทำให้มีสมาชิกวุฒิสภาฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลออกมากล่าวหาในเรื่องความจริงใจและเจตนาของเธอ[194][195]

วันที่ 23 พฤศจิกายน ตำรวจล้อมรั้วลวดหนามและตู้คอนเทนเนอร์รอบสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งติดตั้งป้าย "เขตพระราชฐาน" ในยามวิกาล[196] วันที่ 24 พฤศจิกายน ตำรวจออกหมายเรียกแกนนำผู้ชุมนุมจำนวน 12 คน ให้เข้าไปรับทราบข้อหาความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งในครั้งแรกตำรวจขอหมายจับ แต่ศาลไม่อนุมัติ[197] ตอนดึก ผู้ชุมนุมประกาศย้ายสถานที่จัดการชุมนุม โดยย้ายไปชุมนุมที่หน้าเอสซีบีพาร์กพลาซา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ บนถนนรัชดาภิเษกแทน โดยระบุว่าเพื่อลดโอกาสในการปะทะกับกลุ่มคนเสื้อเหลือง[198]

วิดีโอจากแหล่งข้อมูลภายนอก
คลิปบุคคลปาวัตถุระเบิด ณ ที่ชุมนุม 25 พฤศจิกายน 2563, วิดีโอทวิตเตอร์

วันที่ 25 พฤศจิกายน เวลา 15:00 น. กลุ่มราษฎรได้จัดชุมนุมที่หน้าเอสซีบีพาร์กพลาซาตามกำหนด[199]พริษฐ์ ชิวารักษ์ ปราศรัยว่า การเข้ามาทำธุรกิจของสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นไม่สง่างาม และต้องทวงคืนกลับมาเป็นสมบัติของชาติ และมีการเสนอเพื่อรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อยกเลิก พ.ร.บ. จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2561 และให้แยกทรัพย์สินส่วนพระองค์กับทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์[200] จากนั้นสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ได้ขึ้นปราศรัยต่อว่า การที่รัฐบาลกลับมาใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ถือเป็นการขัดพระบรมราชโองการ และจากสาเหตุนี้ประยุทธ์ควรลาออก[201] ทั้งนี้ผู้ชุมนุมได้ประกาศจัดการชุมนุมต่อเนื่องยาว 5 วัน[202] ก่อนหน้านี้ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีความคิดที่จะใช้กฎอัยการศึก[203] จากนั้นในช่วงดึกเกิดเสียงระเบิดและเสียงปืนดังขึ้นในบริเวณที่ชุมนุม มีการ์ดผู้ชุมนุมถูกยิงได้รับบาดเจ็บและนำตัวส่งโรงพยาบาล 2 คน[20][204] ด้านผู้ชุมนุมจับตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้[205] ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าตำรวจเข้าระงับเหตุล่าช้า[206] วันรุ่งขึ้น ตำรวจแถลงว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นเหตุวิวาท โดยอ้างคลิปวิดีโอที่เข้าใจว่าเป็นการ์ดผู้ชุมนุมสนทนากัน และยังไม่มีการควบคุมตัวผู้ใด ส่วนประยุทธ์รีบออกแถลงการณ์ว่ารัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง[206] นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลอ้างว่าเป็นการยิงกันเองเพื่อสร้างสถานการณ์[207]

วันที่ 27 พฤศจิกายน กลุ่มราษฎรจัดกิจกรรม "ซ้อมต้านรัฐประหาร" ที่ห้าแยกลาดพร้าว โดย ภาณุพงศ์ จาดนอก ได้ขึ้นเวทีเพื่อปราศรัยวิธีการต่อต้านรัฐประหาร โดยนำรถยนต์ไปจอดทิ้งไว้บนถนนสายต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อขัดขวางการเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหาร รวมทั้งรวมตัวกันขัดขืนคำสั่งของคณะรัฐประหาร[208]

วันที่ 29 พฤศจิกายน กลุ่มราษฎรจัดชุมนุมเดินขบวนจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ของรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท ไปยังกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ทั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแผนจากเดิมที่จะจัดชุมนุมหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ซึ่งตำรวจได้ล้อมรั้วลวดหนามและตู้คอนเทนเนอร์ไว้โดยรอบ และเมื่อถึงกรมทหารราบที่ 11 แกนนำได้อ่านแถลงการณ์เกี่ยวกับการถ่ายโอนอำนาจของกองกำลังทหารให้คืนสู่ต้นสังกัดเดิม[209]

วันที่ 1 ธันวาคม กลุ่มนักเรียนเลว จัดกิจกรรมนัดแต่งชุดไปรเวทไปโรงเรียนในวันเปิดภาคเรียน เพื่อต่อต้านกฎระเบียบเกี่ยวกับชุดนักเรียน ที่กลุ่มนักเรียนเลวระบุว่า "ล้าหลัง" ขณะเดียวกัน ภาคีนักเรียนขอนแก่น (ภาคีนักเรียน KKC) ก็ได้จัดกิจกรรมนัดแต่งไปรเวทด้วยเช่นกัน โดยระบุว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการตั้งคำถามต่อการบังคับให้นักเรียนต้องแต่งชุดนักเรียน ว่าท้ายที่สุดแล้วการสวมชุดนักเรียนมีประโยชน์อย่างไร และผลการเรียนขึ้นอยู่กับการแต่งชุดนักเรียนหรือไม่ ซึ่งจากกิจกรรมนี้ทำให้ บางโรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนที่แต่งชุดไปรเวทสามารถเข้าเรียนได้ แต่บางโรงเรียนต้องประกาศให้แต่งชุดนักเรียนในวันเปิดเทอม หากแต่งชุดไปรเวทจะไม่อนุญาตให้เข้าเรียน บ้างก็ให้ไปคุยกับผู้บริหารในห้องปกครองนานหลายชั่วโมง[210]

วันที่ 2 ธันวาคม หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าประยุทธ์ไม่ได้กระทำการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเข้าพักอาศัยในบ้านพักราชการทหาร กลุ่มราษฎรจึงประกาศยกระดับการชุมนุมอีกครั้งที่ห้าแยกลาดพร้าว โดยได้ปิดการจราจรบนถนนพหลโยธินตั้งแต่บริเวณห้าแยกลาดพร้าวจนถึงแยกรัชโยธิน[211] จากนั้นครูใหญ่ อรรถพล​ ได้ขึ้นเวทีวิพากษ์วิจารณ์คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และมีการทุบศาลพระภูมิเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์[212] หลังจากนั้นการประท้วงได้หยุดลงชั่วคราวอีกครั้งเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ในระลอกใหม่

วันที่ 31 ธันวาคม กลุ่ม We volunteer หรือ วีโว่ จัดกิจกรรมจำหน่ายกุ้งสด บริเวณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยมีนายแพทย์ ทศพร เสรีรักษ์ เข้าร่วม ต่อมาตำรวจได้จับกุมปิยรัฐ จงเทพ แกนนำการชุมนุม โดยมีการปะทะมีผู้บาดเจ็บหนึ่งราย จากการทำร้ายร่างกายบริเวณใบหน้า[213] ต่อมาเวลา 23.35 น. มีเหตุคนร้ายวางระเบิดเกิดขึ้น มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย ตลอดทั้งวันรวม 5 ราย

หลังการระบาดของโควิด-19 รอบสอง

ในระหว่างช่วงที่หยุดพักการชุมนุมบนท้องถนน การประท้วงยังคงดำเนินต่อไปบนโลกออนไลน์ ขณะที่ผู้ชุมนุมที่มีชื่อเสียงยังต้องต่อสู้คดีความ ระหว่างเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2563 มีผู้ถูกดำเนินคดี 38 คน[30] วันที่ 14 มกราคม 2564 มีนักศึกษาคนหนึ่งถูกจับกุมที่หอพักในเวลาดึก ทำให้มีการจัดการประท้วงแฟลชม็อบที่สถานีตำรวจในเวลาไล่เลี่ยกัน[214] วันที่ 16 มกราคม นักกิจกรรม 5 คนถูกจับกุมหลังกลับมามีการชุมนุมบนถนนอีก เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ เกิดเหตุระเบิดซึ่งคาดว่าเป็นระเบิดปิงปองโดยดูเหมือนว่าปาใส่ตำรวจปราบจลาจล ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความรุนแรง[215] วันเดียวกัน การ์ดราษฎรคนหนึ่งถูกลักพาตัว จนมาพบตัวอีกครั้งในวันที่ 17 มกราคม โดยคาดว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่ความมั่นคง[216]

การประท้วงระยะที่สาม

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ อัยการสั่งฟ้องแกนนำกลุ่มราษฎร 4 คนในหลายข้อหา รวมทั้งความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์[217] และคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว[218] ทำให้ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรกลับมาจัดการชุมนุมบนท้องถนนอีกครั้งในรอบ 3 เดือน โดยจัดกิจกรรม "รวมพลคนไม่มีจะกิน ตีหม้อไล่เผด็จการ" บนสกายวอล์กวันสยาม แยกปทุมวัน โดยผู้ชุมนุมได้นำหม้อ จาน ชาม มาตีและเคาะ[219] ซึ่งเป็นการเลียนแบบจากการที่ผู้ชุมนุมในประเทศพม่าตีหม้อ จาน ชาม เพื่อต่อต้านการรัฐประหารในประเทศพม่า[220] ส่วนเนื้อหาในการชุมนุมมีทั้งมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่ทำให้ประชาชนตกงาน, การบริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลวของรัฐบาล และการจัดหาวัคซีนที่ล่าช้า[221] จากนั้นปนัสยาประกาศว่ามีผู้ชุมนุมจำนวน 10 คน ถูกควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ผู้ชุมนุมจึงได้เคลื่อนขบวนลงจากสกายวอล์กวันสยามไปยังสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน[222] เมื่อถึงสถานีตำรวจ ภาณุพงศ์ได้เข้าเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ปล่อยตัว และประกาศว่าหากเจ้าหน้าที่ไม่ยอมปล่อยตัวผู้ชุมนุมภายในเวลา 20:30 น. ผู้ชุมนุมจะบุกเข้าไปในโรงพัก[223] จากนั้นเกิดเสียงดังคล้ายระเบิดต่อเนื่องประมาณ 3-4 ลูกบริเวณแนวกั้น[224] จากนั้น ปนัสยาจึงได้กล่าวปราศรัยว่า ที่ผ่านมาพวกเขาต่อสู้แบบประนีประนอม ไม่ใช้ความรุนแรง และได้เชิญชวนให้ประชาชนออกมาชุมนุมบนถนนกันให้มากขึ้น รวมถึงจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาควบคู่ไปกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาด้วย ก่อนจะยุติการชุมนุม[225] ตำรวจวางกำลังประมาณ 100 นาย เผชิญหน้ากับผู้ประท้วงกว่า 1,000 คน มีการใช้แก๊สน้ำตา แต่ตำรวจรีบออกมาบอกว่าเป็นแก๊สน้ำตาที่ถูกขโมยไปจากการชุมนุมก่อนหน้านี้ ทั้งที่ยังไม่ได้มีการสอบสวน[226] มีนักกิจกรรมถูกจับกุมราว 10 คน[227]

วิดีโอจากแหล่งข้อมูลภายนอก
ตำรวจกระทืบผู้แต่งเครื่องแบบแพทย์สนาม, คลิปทวิตเตอร์

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผู้ประท้วงจัดการประท้วงอย่างสันติอีกครั้ง โดยจัดกิจกรรมปราศรัยและห่ออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้วยผ้าแดง ก่อนเคลื่อนไปยังศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร[228] แต่ในเวลาหัวค่ำหลังผู้ประท้วงส่วนใหญ่แยกย้ายตามประกาศของแกนนำแล้ว ก็ได้เกิดการปะทะระหว่างผู้ประท้วงที่เหลือกับตำรวจ เกิดเสียงระเบิดดังหลายครั้ง และตำรวจอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 20 คน[228] และมีผู้ประท้วงถูกจับกุม 11 คน[229] นอกจากนี้ยังมีการ์ดอาชีวะคนหนึ่งถูกยิงที่ขาด้วยปืนที่คาดว่าเป็นลูกซองสั้น ผู้ประท้วงเข้าปิดล้อมร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่ผู้ลงมือหลบหนีเข้าไปจนตำรวจตามมาจับกุมในภายหลัง[230] มีคลิปวิดีโอออกมาว่า ผู้สวมชุดแพทย์อาสาถูกตำรวจรุมทำร้าย[228] จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้แฮชแท็ก #ตำรวจกระทืบหมอ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ โดยมีประชาชนเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิการกระทำของตำรวจเป็นจำนวนมาก[231]

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรได้จัดกิจกรรม "ม็อบเฟสต์" ครั้งที่ 2 ที่หน้าสัปปายะสภาสถาน โดยมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาจำนวน 8 ประเด็น[232] ซึ่งกิจกรรมนี้ก็ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ด้วย โดยในวันดังกล่าวได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมจากหลากหลายกลุ่มทั่วประเทศมาร่วมชุมนุมด้วย[233] และวันที่ 23 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรได้จัดการชุมนุมใหญ่ที่แยกราชประสงค์เป็นครั้งที่ 4 และเป็นครั้งที่ 2 ที่มีการเดินขบวนไปชุมนุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประท้วงการทุจริตและการใช้อำนาจแทรกแซงการเลื่อนตำแหน่งในวงการตำรวจ จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล ในกรณีของ "ตั๋วช้าง"[234]

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ผู้ชุมนุมในนาม "รีเด็ม-ประชาชนสร้างตัว" ซึ่งแตกสาขาออกมาจากกลุ่มเยาวชนปลดแอก[235] ได้เดินขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปชุมนุมประท้วงที่สระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นบ้านพักหลวงของประยุทธ์ ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์[236]

ยุทธวิธีและวาระของผู้ประท้วง

การชุมนุมประท้วงที่แยกราชประสงค์ในวันที่ 15 ตุลาคม จัดขึ้นในภายหลังแกนนำถูกจับกุมจำนวนมาก

กลุ่มผู้ประท้วงไม่มีแกนนำชัดเจน แต่ผู้ประท้วงบางคนโดดเด่นขึ้นมาและมีชื่อปรากฏในสื่อ เช่น อานนท์ นำภา และปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ซึ่งเป็นผู้ปราศรัยบนเวทีและกล่าวข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี ให้สัมภาษณ์ว่าเขายินดีที่ขบวนการประท้วงไม่ต้องการผู้นำ และสามารถระดมคนออนไลน์ได้ภายใน 30 นาที[237] การประท้วงในช่วงแรก ๆ นั้นมีสื่ออธิบายว่ามีความคิดสร้างสรรค์ และสามารถใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ มีการประท้วงโดยใช้สัญลักษณ์ปัญหาสังคมโดยเลี่ยงการกล่าวออกมาตรง ๆ[238] รวมทั้งการพาดพิงถึงวัฒนธรรมป็อป ติ๊กต็อก และทวิตเตอร์ เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ประท้วงนิยมใช้ และน่าจะเป็นครั้งแรกที่การประท้วงได้ลบขอบเขตระหว่างโลกจริงและโลกออนไลน์[239] ผู้ประท้วงมักใช้สัญลักษณ์ชูสามนิ้วจากภาพยนตร์ชุด เกมล่าเกม เพื่อต่อต้านรัฐบาล อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้ประท้วงถูกประเมินว่าขาดยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องกัน และไม่ได้มองการณ์ไกลไปมากกว่าชุมนุมแบบวันต่อวันเท่านั้น ส่วนหนึ่งคาดว่ามีสาเหตุจากการขาดโครงสร้างแบบรวมศูนย์เช่นเดียวกับขบวนการนักศึกษาในพุทธทศวรรษ 2510[240] สมาชิกขบวนการส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษา และเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ ซึ่งต่างจากการประท้วงบนถนนก่อนหน้านี้ที่ฝ่ายทางการเมืองแย่งชิงอำนาจกัน[237] ในการชุมนุมบางครั้ง ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นหญิง ซึ่งต่อสู้เพื่อความเสมอภาคทางเพศและระบบชายเป็นใหญ่[241] ผู้ประท้วงยังใช้ยุทธวิธีศิลปะประท้วง คือ การแบ่งปันไฟล์ภาพหมุดคณะราษฎรหมุดที่ 2[242]

ข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ในเดือนสิงหาคม 2563 นับเป็นครั้งแรกที่มีการอภิปรายเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในที่สาธารณะในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นมองว่าข้อเสนอดังกล่าวน่าจะลดจำนวนผู้สนับสนุนขบวนการลง แต่หากรัฐบาลใช้กำลังปราบปรามก็อาจจะทำให้มีผู้กลับมาสนับสนุนขบวนการนี้มากขึ้น[243] ด้านหนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ ลงความเห็นว่า ขบวนการอาจต้องขยายวาระทางสังคมหากต้องการให้การประท้วงสัมฤทธิ์ผล[244] แต่หลังจากการเลื่อนการลงมติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในเดือนกันยายน 2563 คอลัมนิสต์บางกอกโพสต์คนหนึ่งเขียนว่า สำนึกเรื่องสาธารณรัฐนิยมเพิ่มสูงสุดในประเทศไทยอย่างไม่เคยมีมาก่อน[245] สำหรับข้อเรียกร้องต่าง ๆ นั้น ทัดเทพมองว่าต่างมีความชัดเจนอยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องเจรจา[237] ผู้ประท้วงยืนยันว่าข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ของพวกตนนั้น "ประนีประนอมที่สุดแล้ว"[246]

หลังการจับกุมผู้ประท้วงคนสำคัญในเดือนตุลาคม 2563 นักวิชาการรัฐศาสตร์คนหนึ่งมองว่า เมื่อขาดแกนนำไปอาจทำให้ขบวนการอยู่นอกเหนือการควบคุมได้ และไม่สามารถริเริ่มทางยุทธศาสตร์ได้[247] ผู้ประท้วงยึดถือคติ "ทุกคนคือแกนนำ" หันไปนิยมสวมเครื่องแต่งกายสีดำเพื่อให้ปลอดภัยและลดความสะดุดตา มีการพกเสื้อกันฝนและร่มโดยส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันสารเคมีที่ตำรวจอาจใช้ ผู้ประท้วงหันไปใช้การสื่อสารแบบเกมป้องปากและภาษามือเนื่องจากไม่สามารถใช้รถติดเครื่องขยายเสียง มีการใช้สื่อสังคมกระจายข่าวสาร กลุ่มแชตดังกล่าวยังเป็นที่สำหรับเลือกจัดการชุมนุมครั้งถัดไปด้วย ด้านขบวนการนักศึกษาย้ายไปใช้แอปพลิเคชันเทเลแกรม หลังมีข่าวว่าทางการเตรียมใช้อำนาจปิดหน้าเดิมด้วย[248] ในระยะหลัง ผู้ร่วมชุมนุมใช้ร่มต่างโล่ บ้างสวมหมวกกันน็อก แว่นตาและหน้ากากกันแก๊ส และมีการปรับใช้ยุทธวิธีสายน้ำแบบการประท้วงในฮ่องกง[249] หลังการสลายการชุมนุมในวันที่ 16 ตุลาคม แฮชแท็ก #WhatsHappeningInThailand (เกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย) มีการใช้มากขึ้น โดยมีการเผยแพร่เป็นภาษาอังกฤษ จีน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่นและเกาหลี ในแพลตฟอร์มสื่อสังคมหลายแห่ง เพื่อเรียกความสนใจของประชาคมโลกถึงสถานการณ์ในประเทศ[250]

การสาดสีเป็นวิธีการแสดงออกอย่างหนึ่งที่ผู้ประท้วงเลือกใช้ ซึ่งมีผู้ประท้วงแสดงความเห็นเป็นวิธีการแสดงออกแบบใหม่ ส่วนไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ แสดงความเห็นถึงผู้ที่มองว่าไม่เหมาะสมไว้ว่า "มันคือสังคมดัดจริตเกินไป ในขณะที่ขีดเขียนถนนแล้วโดนวิพากษ์วิจารณ์ หรือใด ๆ ก็ตามที่ทำถนนเลอะเทอะ มองภาพใหญ่เรากำลังโดนกดขี่ และทำให้สังคมสกปรกมากกว่านั้นอีก การขีดเขียนพวกนี้เป็นเรื่องเล็กครับ"[251]

การเงิน

การประท้วงครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินผ่านการบริจาค[252][253] ซึ่งหลัก ๆ มาจากทราย เจริญปุระ นักแสดง[254][255] และจากแฟนคลับศิลปินเกาหลีในประเทศไทยที่ระดมทุนกัน[256][257] โดยเงินจากกลุ่มหลังนี้ ในวันที่ 18 ตุลาคม 2563 มียอดรวมกว่า 3.6 ล้านบาท[258] นอกจากนี้ยังมีการเดินถือกล่องเพื่อเรี่ยไรเงินบริจาคด้วย[259] ส่วนปกรณ์ พรชีวางกูร​ เปิดตัวเป็นผู้สนับสนุนด้านการเงินของผู้ประท้วงอีกคนหนึ่ง แต่แถลงว่าจะไม่ชี้แจงที่มาของเงินบริจาค เพราะเป็นเอกชนมาบริจาคให้เอง และการเปิดเผยชื่อจะนำมาซึ่งความไม่ปลอดภัย[208]

มีความพยายามดำเนินคดีต่อผู้บริจาคดังกล่าว[260] และมีข้อกล่าวหาจากกลุ่มนิยมสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า การประท้วงได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งสถานทูตสหรัฐปฏิเสธ[261]

ยุทธวิธีของทางการ

รัฐบาลถูกกล่าวหาว่าใช้กฎหมายบังคับแทนการเจรจาอย่างสันติวิธี มีการใช้นิติสงคราม หมายถึง การแจ้งความดำเนินคดีที่มีอัตราโทษหนักทั้งที่ไม่เข้าองค์ประกอบ[262] ตำรวจยังใช้วิธีอายัดตัวและฝากขังแกนนำผู้ประท้วงไปทีละหมายจับ พาตัวไปยังที่ทุรกันดาร และขัดขวางการทำหน้าที่ของทนายความ[263]

ตำรวจอ้างว่าได้ปฏิบัติตามหลักสากลในการควบคุมฝูงชน ทั้งการใช้ปีนใหญ่ฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา[264][265] รวมทั้งขู่ใช้กระสุนยาง[266] (ซึ่ง อานนท์ นำภา อ้างว่ามีผู้ชุมนุมถูกยิงด้วยกระสุนยางแล้ว)[267] แต่คำแนะนำของสหประชาชาติระบุว่าปืนใหญ่ฉีดน้ำให้ใช้เฉพาะกับการประท้วงรุนแรงเท่านั้น และต้องไม่ฉีดไปยังตัวบุคคลโดยตรง[268] และการใช้กระสุนยางก็มีอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่งและถูกวิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน[269]

มีรายงานว่าตำรวจปล่อยปละละเลยให้กลุ่มคนเสื้อเหลืองปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม กับมีข่าวลือว่าเครือข่ายนักการเมืองภาคตะวันออกเกณฑ์คนเข้ามาในกรุงเทพมหานคร[270]

ปฏิกิริยา

การตอบสนองภาครัฐ การคุกคามและจับกุม

ไฟล์:Student protester hit by a tear gas.jpg
นักศึกษากำลังได้รับปฐมพยาบาลหลังถูกน้ำผสมสารเคมีในวันที่ 16 ตุลาคม
วิดีโอจากแหล่งข้อมูลภายนอก
ตำรวจจับกุมพริษฐ์ ชีวารักษ์ แกนนำนักศึกษา 14 สิงหาคม 2563, วิดีโอยูทูบ
ตำรวจจับไผ่ ดาวดิน 13 ตุลาคม 2563, วิดีโอยูทูบ

บทวิเคราะห์พบว่าการตอบสนองของภาครัฐได้แก่การใช้กำลังและการคุกคาม การกักขังตามอำเภอใจ การจับกุมและตั้งข้อหา การเผยแพร่ความเท็จ การใช้หน่วยสงครามข่าวสาร (IO) การตรวจพิจารณาสื่อ การประวิงเวลา การขัดขวาง การสนับสนุนกลุ่มนิยมรัฐบาล และการเจรจา[271] กรมประชาสัมพันธ์เปิดตัวคลิปโฆษณาชวนเชื่อโจมตีผู้ประท้วง[272] พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์เตือนว่าการกระทำของผู้ประท้วงบางคนอาจเข้าข่ายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย และน้ำตาคลอเมื่อเล่าถึงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ของตน[273] ด้านพลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ที่เพิ่งรับตำแหน่งในเดือนตุลาคม 2563 รีบตำหนิข้อเสนอปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ทันที พร้อมกับบอกว่าให้ "ปฏิรูปตนเองก่อน"[274] ด้านอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แสดงความกังวลถึงโอกาสแพร่กระจายของโรคโควิด-19 แต่วางท่าทีเป็นกลางต่อข้อเรียกร้อง 3 ประการ[275]

ยุทธวิธีของทางการไทยประกอบด้วยคำสั่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อสั่งให้ขัดขวางการชุมนุมของนักศึกษา และรวบรวมชื่อแกนนำผู้ประท้วง การกล่าวหาว่าข้อเรียกร้องของนักศึกษาจะนำไปสู่ความรุนแรง บ้างมีการพาดพิงถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา และพฤษภาทมิฬ[276] มหาวิทยาลัยที่สั่งห้ามชุมนุมในพื้นที่ของตน เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีข่าวว่าตำรวจบางท้องที่ส่งจดหมายสั่งห้ามจัดการชุมนุมในสถานศึกษา[277] ต่อมาวันที่ 18 สิงหาคม 2563 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานออกประกาศอนุญาตให้นักเรียนจัดการชุมนุมในโรงเรียนรัฐได้ โดยห้ามคนนอกเข้าร่วม[278] แต่ในปลายเดือนสิงหาคม มีรายงานว่ามีการกีดกันหรือคุกคามการแสดงออกทางการเมืองอย่างน้อย 109 กรณี[279]

ต้นเดือนสิงหาคม 2563 กลุ่มทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเปิดเผยว่ามียุทธวิธีคุกคามฝ่ายผู้ประท้วงของทางการ เช่น การติดตามหาข้อมูลถึงบ้าน การถ่ายภาพผู้ประท้วงและป้ายข้อความรายบุคคล การปิดกั้นพื้นที่ ฯลฯ[280] จนถึงเดือนตุลาคม 2563 มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 167 คน โดยมีการตั้งข้อหาหนักสุดคือปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง รวมทั้งมีการจับกุมเยาวชน 5 คนโดยไม่มีการตั้งข้อหา[23][281] อ้างว่าทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนว่าถูกควบคุมตัวไปยังค่าย ตชด. แห่งหนึ่ง[282] ฝ่ายตำรวจอ้างว่าตรวจสอบแล้วไม่พบเหตุดังกล่าว และได้ออกหมายจับนายเวหา หรืออาร์ท แสนชนชนะศึก แอดมินของเพจดังกล่าว ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ[281] ตำรวจยึดหนังสือคำปราศรัยของอานนท์ นำภา[283] มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 63 คนตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินทั้งที่รัฐบาลอ้างว่าอนุญาตให้มีการชุมนุมภายใต้กฎหมายดังกล่าว [284] ผู้ที่ถูกตำรวจควบคุมตัวบางครั้งพบว่าได้รับบาดเจ็บ[16] ศ. นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักประวัติศาสตร์ไทย แสดงความกังวลว่าหากปล่อยเวลาไปอีก 6 เดือน กอ.รมน. อาจจัดตั้งฝ่ายต่อต้านได้สำเร็จเหมือนกับครั้งในปี 2519[285]

วันที่ 15 ตุลาคม 2563 นายกรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร และตั้งกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง[286] ซึ่งอาจารย์และนักรัฐศาสตร์กว่า 100 คนเขียนจดหมายเปิดผนึกตั้งคำถามถึงความชอบด้วยกฎหมายของการประกาศดังกล่าว[287] ต่อมามีการใช้อำนาจสั่งปิดสื่อ ประกอบด้วยประชาไท เดอะรีพอร์ตเตอส์ เดอะสแตนดาร์ด และวอยซ์ทีวี[288] รวมทั้งสั่งปิดแอปพลิเคชันเทเลแกรม[289] แต่ต่อมาศาลมีคำสั่งยกเลิกคำร้อง[290] ตำรวจยังยึดหนังสือที่มีเนื้อหาวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ของสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน[291]

กรุงเทพมหานครให้การสนับสนุนผู้ประท้วงโต้โดยมีการจัดรถส่งคนไปยังที่ชุมนุม[292] และจัดหารถสุขาและรถขยะให้[293]

ในเดือนพฤศจิกายน 2563 มหาเถรสมาคมสั่งห้ามภิกษุสามเณรร่วมการชุมนุมทางการเมือง[294] ประยุทธ์แถลงว่าจะยกระดับการบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับและทุกมาตราต่อผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการกลับมาดำเนินคดีฐานความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์[295]

บทบาทของพระมหากษัตริย์

ป้ายแบนเนอร์ “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” ที่การขุมนุมในวันที่ 29 ตุลาคม

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสำนักพระราชวังไม่มีความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการประท้วงต่อสาธารณะตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ในเดือนสิงหาคม หนังสือพิมพ์ เอเชียไทมส์ รายงานอ้างข้าราชการคนหนึ่งว่า พระมหากษัตริย์ทรงไม่รู้สึกถูกรบกวนจากการประท้วง และผู้ประท้วงควรสามารถแสดงความคิดเห็นได้[296] อย่างไรก็ดี อัลจาซีรารายงานว่า พระมหากษัตริย์ทรงให้สื่อไทยตรวจพิจารณาข้อเรียกร้อง 10 ข้อ[297]

วันที่ 24 ตุลาคม 2563 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวตรัสชมอดีตพระพุทธะอิสระและผู้ชูพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กลางกลุ่มผู้ชุมนุม[298] นับเป็นการแสดงความเห็นต่อสาธารณะครั้งแรกต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ทำให้แฮชแท็ก #23ตุลาตาสว่าง ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ของประเทศไทย โดยมีการรีทวีตกว่า 500,000 ครั้ง ผู้ประท้วงคนหนึ่งออกความเห็นว่า พระมหากษัตริย์อยู่ ณ ใจกลางของปัญหาการเมืองไทยมาโดยตลอด[8] แพทริก จอรี อาจารย์มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ระบุว่า พระองค์ทรงมีอุปนิสัยทำนายไม่ได้ ทรง "เต็มพระทัยใช้ความรุนแรง" และอาจกดดันประยุทธ์ให้ปราบปรามผู้ประท้วง[299]

สนับสนุน

ผู้ประท้วงสตรีนิยมแสดงข้อความรณรงค์เกี่ยวกับอวัยวะเพศสตรีและแนวคิดสิทธิเสรีภาพของสตรีในการชุมนุมในกรุงเทพมหานคร
ผู้ประท้วงความหลากหลายทางเพศแสดงข้อความเสียดสีทางการเมือง

มี ส.ส. สังกัดพรรคก้าวไกล ระบุว่าการพาดพิงถึงพระมหากษัตริย์ในการประท้วง (เช่น การล้อเลียน เสียดสี มีม ฯลฯ) เป็นความจริงที่น่ากระอักกระอ่วน และจำต้องให้ความสนใจ อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์ ผู้จัดการ และ อภิรัชต์ คงสมพงษ์ตอบโต้อย่างรุนแรง โดยมองว่าในผู้ประท้วงมีกลุ่มผู้ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์แอบแฝง หรือไม่นักศึกษาก็ตกเป็นเหยื่อของผู้อยู่เบื้องหลังที่มีเจตนาดังกล่าว[300] นับแต่มีข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ สำหรับพรรคการเมืองมีเพียงพรรคก้าวไกลที่ออกมาสนับสนุนให้เปิดโอกาสแสดงออกแก่นักศึกษา[301] คณาจารย์อย่างน้อย 147 คนลงชื่อสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออกของนักศึกษาในวันที่ 10 สิงหาคม และระบุว่าเนื้อหาไม่ได้ขัดต่อกฎหมาย[302][103] และนักวิชาการเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองอย่างน้อย 358 สนับสนุนการประท้วง[103] บุคลากรโรงเรียนบางส่วนสนับสนุนการแสดงออกของนักเรียน[303]

มารีญา พูลเลิศลาภ นางงาม แสดงจุดยืนเข้ากับผู้ประท้วง[304] ต่อมาเธอเล่าว่าตนได้รับผลกระทบจากการสนับสนุนดังกล่าว นักแคสเกมที่มีชื่อเสียงที่ใช้ชื่อว่า ฮาร์ตร็อกเกอร์ ก็แสดงความสนับสนุนเช่นกัน[305] หลังมีข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ในต้นเดือนสิงหาคม ผู้กำกับ ทรงยศ สุขมากอนันต์, ดารา พีรวัส แสงโพธิรัตน์, ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ ประกาศสนับสนุนการประท้วง[306] เช่นเดียวกับสมาชิกบีเอ็นเคโฟร์ตีเอตห้าคน[307][308] แพทย์คนหนึ่งถูกไล่ออกเพราะลงนามสนับสนุนผู้ประท้วง[309]

องค์การระหว่างประเทศบางองค์การแสดงออกเพื่อสนับสนุนและเรียกร้องให้คุ้มครองสิทธิในการประท้วง ยูนิเซฟออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายรับรองความปลอดภัยของผู้ชุมนุมเด็กและเยาวชน โรงเรียนและสถานศึกษาเป็นที่แสดงออกและแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างสร้างสรรค์[310] สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติและองค์การนิรโทษกรรมสากลรับรองสภาพสงบของการชุมนุม และประณามการสลายการชุมนุม[311][312] ผู้อำนวยการฮิวแมนไรต์วอชเอเชียกล่าวว่า การทำให้การชุมนุมโดยสงบเป็นความผิดเป็นสัญลักษณ์ของการปกครองระบอบเผด็จการ ทั้งเรียกร้องให้สหประชาชาติและรัฐบาลนานาประเทศประณามด้วย และให้ปล่อยตัวนักโทษ[147] นักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกง โจชัว หว่อง โพสต์ทวิตเตอร์แสดงความเป็นอันหนึ่งเดียวกับผู้ประท้วง และขอให้ทั่วโลกสนใจการประท้วงในประเทศไทย[313]

หนังสือพิมพ์ ข่าวสด และ บางกอกโพสต์ เขียนบทบรรณาธิการเรียกร้องให้ประยุทธ์ลาออกเพื่อลดความขัดแย้ง แต่ทั้งสองไม่ได้กดดันข้อเรียกร้องรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์[314][315]

คัดค้าน

นักเรียนเลว ทวิตเตอร์
@BadStudent_

Sep 16, 2020[316]

ผู้ชุมนุมกลุ่มคณะราษฎรถูกผู้ชุมนุมตอบโต้ในชุดเหลืองทำร้ายร่างกาย, 14 ตุลาคม 2563

การคัดค้านในเวลาต่อมาพยายามอ้างว่ามีรัฐบาลหรือองค์การนอกภาครัฐต่างชาติให้การสนับสนุนการประท้วง วันที่ 10 สิงหาคม สถาบันทิศทางไทย ซึ่งมีอดีตสมาชิกกลุ่ม กปปส. เข้าร่วม[317] เผยแพร่ "แผนผังเครือข่ายปฏิวัติประชาชน" ซึ่งโยงผู้ประท้วงนักศึกษา กับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ทักษิณ ชินวัตร ตลอดจนมีการเชื่อมโยงเป็นทฤษฎีสมคบคิดเพื่อทำลายประเทศไทย[318] บ้างอ้างว่า ที่องค์การการบริจาคทรัพย์เพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ (National Endowment for Democracy) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นองค์การนอกภาครัฐที่ได้รับจัดสรรเงินสนับสนุนผ่านรัฐสภาสหรัฐ สนับสนุนกลุ่มต่าง ๆ ที่ถือฝ่ายผู้ประท้วงนั้น เป็นหลักฐานเชื่อมโยงดังกล่าว[319] ในหลายกรณีพบกลุ่มชายฉกรรจ์ทรงผมสั้นเกรียนและสวมเสื้อผ้าคล้ายกันในการชุมนุมหลายครั้ง ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นทหารหรือตำรวจนอกเครื่องแบบ[320]

ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองส่วนใหญ่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ประยุทธ์แสดงความไม่สบายใจ[321] ด้าน คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอที่กระทบกระเทือนพระราชอำนาจ[322] หนังสือพิมพ์แนวหน้า เขียนว่าข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นการกระทำชั่วร้าย สร้างความแตกแยก อ้างว่าเป็นการประท้วงรัฐบาลหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อบังหน้า แต่เป็นการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ มีเบื้องหลังเป็นพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่[323] ในช่องทางออนไลน์ กลุ่มองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน ซึ่งถูกขนานนามในวารสารวิชาการระดับนานาชาติว่าเป็นองค์การคลั่งเจ้า ฟาสซิสต์และได้รับการสนับสนุนจากรัฐ[324][325][326] กล่าวหานักศึกษาว่าเป็นพวกล้มเจ้า กบฏ คนทรยศและขยะ[327][328] นอกจากนี้เกิดเหตุทำร้ายร่างกายผู้ประท้วงโดยมวลชนฝ่ายตรงข้าม[329] วันที่ 16 กันยายน ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยกรณีปราศรัยข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ในวันที่ 10 สิงหาคมในข้อหาล้มล้างการปกครอง[330]

หลังจากการเข้าร่วมการชุมนุมของนักเรียนมัธยม ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่ามีกรณีการคุกคามนักเรียนอย่างน้อย 103 กรณี[331] การดูหมิ่นผู้ประท้วงนักเรียนหญิงบางคนไปไกลถึงขั้นว่าสมควรถูกข่มขืนกระทำชำเรา[332] ต่อมาในเดือนกันยายน ทวิตเตอร์กลุ่มนักเรียนเลวโพสต์ว่าสมาชิกกลุ่มบางส่วนได้รับผลกระทบทั้งในด้านความสัมพันธ์ในครอบครัวและเศรษฐกิจจากการเข้าร่วมการชุมนุม[333]

บางคนและกลุ่มค้านยุทธวิธีของผู้ประท้วง เช่น รองศาสตราจารย์ เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ หรือเพจโปลิศไทยแลนด์ ประณามการสาดสีใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจของผู้ประท้วง โดยกล่าวว่าเป็น "ความรุนแรง"[334][335] บางกลุ่มรับไม่ได้กับภาษาหยาบคายที่แกนนำผู้ชุมนุมใช้[336]

ตำรวจและกลุ่มฝ่ายขวาส่วนหนึ่งรังควาน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และอดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่เพราะถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนการประท้วง[337][338] สื่อหลายสำนักพยายามลงข่าวให้เข้าใจว่าฝ่ายผู้ชุมนุมพยายามก่อให้เกิดความรุนแรงก่อน[339][340]

แม้นายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารบกประกาศว่าจะไม่รัฐประหาร แต่ สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้กองทัพเข้ารักษาความสงบอีกครั้ง[341] เช่นเดียวกับกลุ่ม คปส.[342]

การรายงานของสื่อ

เดือนสิงหาคม เนชั่นทีวีลงข่าวยอมรับว่ามีผู้สื่อข่าวของตนปกปิดสังกัดและแอบอ้างว่ามาจากช่องอื่นจริง และกองบรรณาธิการเรียกตักเตือนแล้ว แต่ก็อ้างว่าที่นักข่าวกระทำเช่นนั้นเพราะกลัวเกิดอันตรายจากผู้ชุมนุม[343] ต่อมาจึงเกิดการดำเนินกิจกรรมของผู้บริโภคชื่อ #แบนสปอนเซอร์เนชั่น เพื่อให้เนชั่นเปลี่ยนแปลงวิธีการนำเสนอข่าว แต่เนชั่นออกแถลงการณ์อ้างว่าจะทำให้บริษัทเหล่านั้นเสียหาย ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับการนำเสนอของเนชั่น[344] ปลายเดือนกันยายน สำนักข่าวรอยเตอส์และไฟแนนเชียลไทมส์ลงข่าวกระแสแฮชแท็ก #RepublicofThailand ทางทวิตเตอร์[345]

สัญญาณจากซีเอ็นเอ็น, บีบีซี เวิลด์นิวส์, อัลญะซีเราะฮ์อิงกลิช, เอ็นเอชเคเวิลด์ และสำนักข่าวต่างประเทศอื่นที่นำเสนอการชุมนุมในประเทศไทยถูกห้ามออกอากาศทางทรูวิชั่นส์ และแอปพลิเคชันทรูไอดี[346]

หนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ ลงแก้ไขข่าวว่าในหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 18 ตุลาคม รายงานผิดว่าผู้ประท้วงรบกวนระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร แต่แท้จริงแล้ว กอร.ฉ. สั่งปิดรถไฟฟ้า[347] และวันเดียวกัน แฮชแท็ก #แบนช่อง3 ก็ติดเทรนต์ทวิตเตอร์ถึงอันดับที่ 2 เนื่องจากฝ่ายข่าว ช่อง 3 เอชดี ได้นำคลิปที่มีคนบางกลุ่มทำออกมาเพื่อปกป้องตำรวจมาออกอากาศในรายการเรื่องเล่า เสาร์-อาทิตย์ โดยไม่ได้นำเสนอคลิปที่ตำรวจกระทำรุนแรงต่อผู้ประท้วง ทำให้ผู้ชมไม่พอใจเป็นจำนวนมาก[348]

31 ตุลาคม สำนักข่าวเอเอฟพีลงข่าวเพื่อแก้ไขข่าวเท็จที่บิดเบือนคำพูดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่า พระมหากษัตริย์ไทยมิได้กระทำผิด[349]

ในเดือนพฤศจิกายน หนังสือพิมพ์ นิวยอร์กไทมส์ ลงบทวิเคราะห์ว่ามีข่าวลือรัฐประหารในไทยอีกครั้ง ส่วนสื่อต่าง ๆ ในประเทศเยอรมนีจับประเด็นการพำนักของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว[350] สื่อในสหราชอาณาจักร ตั้งแต่หนังสือพิมพ์ที่ได้รับความเคารพนับถือไปจนถึงแทบลอยด์ต่างให้ความสนใจกับข่าวการประท้วง หลายเจ้าตั้งคำถามถึงพระจริยวัตรและพระราชทรัพย์ เช่น ดิอีโคโนมิสต์ ลงว่า พระองค์ต้องการสถาปนาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือ เดอะไทมส์ พาดหัวว่า พระองค์ทรงเป็นของขวัญของนักสาธารณรัฐนิยม[351]

หมายเหตุ

  1. ภายหลังพบว่ามีความเกี่ยวข้องเป็นหุ้นส่วนกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย
  2. รวบรวมจากหลายแหล่ง:[12][13][14][15][16][17][18][19][20]
  3. รวบรวมจากหลายแหล่ง:[21][22][23][24][25][26][27][28][29]

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 "แฟลชม็อบนักเรียน-นักศึกษา ประกายไฟในกระทะ หรือ เพลิงลามทุ่ง". BBC Thai. 2020-02-28.
  2. คณะราษฎร: ประกาศ 3 ข้อเรียกร้องก่อนชุมนุมใหญ่ 14 ตุลา ประยุทธ์ลาออก-เปิดสภาแก้ รธน.-ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
  3. จากใจตำรวจควบคุมฝูงชน อยากให้คนไทยรักและสามัคคีกัน หลังต้องทิ้งครอบครัวมาปฏิบัติหน้าที่ - ผู้จัดการ
  4. ยันรถน้ำจีโน่มาตรฐานสากล สงสัยขอตรวจสอบได้ที่อคฝ. - เดลินิวส์
  5. รถน้ำแรงดันสูง-รถเติมน้ำโดนม็อบทำเสียหาย – innnews
  6. ผู้ชุมนุมผวา! ตชด.ตั้งแถวบริเวณถนนอักษะตะโกนด่าลั่น​ - Thai Post
  7. "เยาวชนช่วยชาติ" นัดรวมตัว แสดงความรักชาติ พรุ่งนี้ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
  8. 8.0 8.1 "Thai king's praise for defiant loyalist draws controversy". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 24 October 2020. สืบค้นเมื่อ 24 October 2020.
  9. 9.0 9.1 คุม 'ทนายอานนท์ - ไมค์' ส่งศาลแล้วทั้งคู่ ท่ามกลางมวลชนนับร้อย
  10. เพนกวิน ตะโกน “ไม่มีสิทธิคุกคามประชาชน” ระหว่างตำรวจบุกจับคดีเดียวกับ อานนท์-ไมค์ แต่ถูกตั้งข้อหา “ทำร้ายร่างกาย” เพิ่มด้วย
  11. นับเงินกันเพลิน! แกนนำปลดแอก เปิดบัญชีธนาคารระดมทุนจัดงาน 14 ต.ค.พบบริจาคมากสุดกว่า 1 หมื่นบาท
  12. "สภาวุ่น! ม็อบปิดทางออกรัฐสภา-บุกปีนรั้วเจ็บ 1 คน". ไทยพีบีเอส. สืบค้นเมื่อ 24 September 2020.
  13. "ด่วน! ม็อบปะทะวุ่น หลังตำรวจเริ่มกระชับพื้นที่ เจ็บ 1 ราย". ข่าวสด. สืบค้นเมื่อ 14 October 2020.
  14. "คณะราษฎรเดินหน้าชุมนุมต่อวันที่ 4-สรุปบาดเจ็บ 7 คน". Thai PBS. 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  15. 15.0 15.1 "เครือข่ายรามคำแหงฯ เข้าแจ้งความกลุ่มเสื้อเหลืองทำร้ายร่างกาย". Manager Online. 21 October 2020. สืบค้นเมื่อ 22 October 2020.
  16. 16.0 16.1 16.2 "Police vow to detain 3 protesters further". Bangkok Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 November 2020. สืบค้นเมื่อ 31 October 2020.
  17. 17.0 17.1 "เอราวัณ รายงานเหตุชุมนุมเจ็บ 5 ราย ส่ง รพ.และกลับบ้านได้แล้วทุกราย". มติชนออนไลน์. 8 November 2020. สืบค้นเมื่อ 8 November 2020.
  18. 18.0 18.1 Yuda, Masayuki (18 November 2020). "Thailand parliament weighs changing constitution as protests rage". Nikkei Asia. สืบค้นเมื่อ 18 November 2020.
  19. 19.0 19.1 "Protest Promotes a Diversity of Causes, From Feminism to LGBT". Khaosod English. 15 November 2020. สืบค้นเมื่อ 22 November 2020.
  20. 20.0 20.1 "เกิดเหตุชุลมุนหลังเกิดเสียงคล้ายปืน หลัง "ราษฎร" ยุติชุมนุม". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  21. อานนท์ นำภา: ศาลอนุมัติหมายจับ "ทนายอานนท์" หลังปราศรัยเรื่องสถาบันกษัตริย์
  22. จับแล้ว! 'ภาณุพงศ์ จาดนอก' กำลังถูกนำตัวไป​ สน.สำราญราษฎร์
  23. 23.0 23.1 Anti-Govt Protesters Detained, Given ‘Attitude Adjustment’ in Jungle
  24. "โดนแล้ว! ตำรวจบุกรวบ 'เพนกวิน' หลังถูกแจ้งจับ ผิดมาตรา116". Thai Post. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  25. "รวบ 'บารมี ชัยรัตน์' คดีชุมนุมเยาวชนปลดแอก 18 ก.ค." VoiceTV. สืบค้นเมื่อ 19 August 2020.
  26. "หยุดไม่อยู่ แฟลชม็อบทุกวัน ตร.จับ 9 แกนปลดแอกส่งฝากขัง-ศาลให้ประกัน ตั้งเงื่อนไขห้ามผิดซ้ำ". มติชนออนไลน์. 21 August 2020. สืบค้นเมื่อ 21 August 2020.
  27. ""ทัตเทพ-ภานุมาศ" ได้รับการปล่อยตัวแล้ว นักวิชาการ-ส.ส. ช่วยประกัน". บีบีซีไทย. สืบค้นเมื่อ 26 August 2020.
  28. 28.0 28.1 "Prayut Refuses To Resign, Police Crack Down on Protesters". Khaosod English. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  29. 29.0 29.1 "พรรคก้าวไกล เจรจา ผบช.น. เข้าพื้นที่ชุมนุม พาคนเจ็บออกจากม็อบ". ประชาชาติธุรกิจ. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  30. 30.0 30.1 "Law and the virus fail to halt Thailand's 'guerrilla' protest movement". Thai PBS World. สืบค้นเมื่อ 15 January 2021.
  31. Montesano, Michael John, III, 1961- editor. Chong, Terence, editor. Heng, Mark, editor. After the coup : the National Council for Peace and Order era and the future of Thailand. ISBN 978-981-4818-98-8. OCLC 1082521938. {{cite book}}: |last= มีชื่อเรียกทั่วไป (help)CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)
  32. Kongkirati, Prajak; Kanchoochat, Veerayooth (2018). "The Prayuth Regime: Embedded Military and Hierarchical Capitalism in Thailand". TRaNS: Trans -Regional and -National Studies of Southeast Asia. 6 (2): 279–305. doi:10.1017/trn.2018.4. ISSN 2051-364X.
  33. McCargo, Duncan; T Alexander, Saowanee; Desatova, Petra (2016-12-31). "Ordering Peace: Thailand's 2016 Constitutional Referendum". Contemporary Southeast Asia. 39 (1): 65–95. doi:10.1355/cs39-1b. ISSN 0129-797X.
  34. Montesano, Michael J. (2019). "The Place of the Provinces in Thailand's Twenty-Year National Strategy: Toward Community Democracy in a Commercial Nation?" (PDF). ISEAS Perspective. 2019 (60): 1–11.
  35. 35.0 35.1 35.2 35.3 Sawasdee, Siripan Nogsuan (2019-12-12). "Electoral integrity and the repercussions of institutional manipulations: The 2019 general election in Thailand". Asian Journal of Comparative Politics. 5 (1): 52–68. doi:10.1177/2057891119892321. ISSN 2057-8911.
  36. 36.0 36.1 36.2 36.3 36.4 ""ประชาชนปลดแอก" ประกาศจะไม่หยุดเคลื่อนไหวจนกว่า "อำนาจมืด" จะหมดไป". BBC ไทย. 16 August 2020. สืบค้นเมื่อ 16 August 2020.
  37. McCargo, Duncan (2019). "Southeast Asia's Troubling Elections: Democratic Demolition in Thailand". Journal of Democracy. 30 (4): 119–133. doi:10.1353/jod.2019.0056. ISSN 1086-3214.
  38. McCargo, Duncan; Alexander, Saowanee T. (2019). "Thailand's 2019 Elections: A State of Democratic Dictatorship?". Asia Policy. 26 (4): 89–106. doi:10.1353/asp.2019.0050. ISSN 1559-2960.
  39. McCARGO, DUNCAN (2019). "Anatomy: Future Backward". Contemporary Southeast Asia. 41 (2): 153–162. doi:10.2307/26798844. ISSN 0129-797X.
  40. News, A. B. C. "Court in Thailand orders popular opposition party dissolved". ABC News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-08-23. {{cite web}}: |last= มีชื่อเรียกทั่วไป (help)
  41. "แฟลชม็อบนักเรียน-นักศึกษา ประกายไฟในกระทะ หรือ เพลิงลามทุ่ง" [Student flash mobs: sparks in pan or spreading fire?]. BBC Thai. 2020-02-28. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  42. "Thai parliament approves king's constitutional changes request, likely delaying elections". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 2017-01-13. สืบค้นเมื่อ 2020-08-23.
  43. "Thai king takes control of five palace agencies". The Business Times (ภาษาอังกฤษ). 2017-05-02. สืบค้นเมื่อ 2020-08-23.
  44. 2014 coup marks the highest number of lèse-majesté prisoners in Thai history. Prachatai.
  45. Wright, George; Praithongyaem, Issariya (2020-07-02). "The satirist who vanished in broad daylight". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2020-08-23.
  46. Pulitzer, Greeley (2 April 2020). "National curfew announced. Takes effect tomorrow". The Thaiger.
  47. Abuza, Zachary (21 April 2020). "Explaining Successful (and Unsuccessful) COVID-19 Responses in Southeast Asia". The Diplomat. สืบค้นเมื่อ 10 June 2020.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  48. Bello, Walden (3 June 2020). "How Thailand Contained COVID-19". Foreign Policy In Focus. สืบค้นเมื่อ 10 June 2020.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  49. Paweewun, Oranan (16 April 2020). "IMF: Thai GDP down 6.7%". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 10 June 2020.
  50. Theparat, Chatrudee (7 April 2020). "Cabinet gives green light to B1.9tn stimulus". Bangkok Post.
  51. "โควิด-19: ผลการสืบสวนโรคพบผู้ที่ต้องเฝ้าระวังจากกรณีเด็กหญิงซูดานและทหารอียิปต์มีทั้งหมด 36 คน". BBC Thai. 2020-07-16. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
  52. "ปชช.กังวลทหารอียิปต์-ครอบครัวซูดาน ทำ COVID-19 ระบาดใหม่". Thai PBS. 2020-07-19. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
  53. "หละหลวม ปล่อยทหารอียิปต์ติดโควิด เข้ามา ท่องเที่ยวระยองพังหนัก รอวันตาย". Thairath. 2020-07-15. สืบค้นเมื่อ 2020-07-14.
  54. "ท่องเที่ยวระยองพังพินาศ แห่ถอนจองโรงแรมรีสอร์ท90%". Dailynews. 2020-07-14. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
  55. "โซเชียลเดือด ดันแฮชแท็ก #ตำรวจระยองอุ้มประชาชน ปม 2 วัยรุ่นชูป้ายไล่นายกฯ". Thairath. 2020-07-15. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
  56. "Thailand's Future Forward Party Has the Support of Young Thais. A Court Could Disband It Entirely". Time (ภาษาอังกฤษ). 2020-01-20. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
  57. "A Popular Thai Opposition Party Was Disbanded. What Happens Next?". CFR (ภาษาอังกฤษ). 2020-02-27. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
  58. "Tจุดติด-ไม่ติด : แฮชแท็กและการชุมนุมประท้วงของนิสิตนักศึกษาบอกอะไรเราบ้าง". The Momentum Co. (ภาษาอังกฤษ). 2020-02-26. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
  59. ถอดรหัส​แฮชแท็ก​ #เว้นเซเว่นทุก​Wednesday และ #pausemob prachatai.17 มีนาคม 2563. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563
  60. #saveโรม ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ หลังเดินหน้าตามปม 'วันเฉลิม-หมู่อาร์ม' prachatai.2020-06-19 สืบค้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2563
  61. #saveทิวากร ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ หลังมีข่าวผู้สวมเสื้อ 'เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว' ถูกจับเข้าจิตเวช prachatai.2020-07-14 สืบค้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2563
  62. ส่องปรากฏการณ์ #กษัตริย์มีไว้ทำไม กับ 'แอคหลุม-มีม' เซฟโซนสีเทาของคนรุ่นใหม่ prachatai.2020-03-26 สืบค้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2563
  63. ตร.พัทยา อ้าง พ.ร.บ.คอมฯ จับผู้ใช้ทวิตเตอร์บัญชี "นิรนาม_" 20 กุมภาพันธ์ 2563.สืบค้นเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563
  64. Bright Today (25 April 2020). "สนท. ชวนประท้วงรัฐบาลผ่านออนไลน์ พร้อมติด #MobFromHome". www.brighttv.co.th. สืบค้นเมื่อ 28 August 2020.
  65. กระปุก.คอม (25 April 2020). "โซเชียลไทยเดือด ผุด #MobFromHome ประท้วงรัฐบาล พุ่งเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์". kapook.com. สืบค้นเมื่อ 28 August 2020.
  66. มติชน (27 April 2020). "หมอสุภัทรชวนติดแฮชแท็กต้าน CPTPP ร่วม Mob from Home นวัตกรรมประชาธิปไตยในยุคโควิด -19". www.matichon.co.th. สืบค้นเมื่อ 28 August 2020.
  67. สนุก.คอม (27 April 2020). ""ตุล อพาร์ตเมนต์คุณป้า" ชวนชุมนุมออนไลน์ต้าน "CPTPP" หลังกลายเป็นประเด็นร้อน". www.sanook.com. สืบค้นเมื่อ 13 September 2020.
  68. สนุก.คอม (27 April 2020). "กระทรวงพาณิชย์ยอมถอย CPTPP ถอดพ้นวาระประชุมคณะรัฐมนตรี". www.sanook.com. สืบค้นเมื่อ 13 September 2020.
  69. "Anti-government rallies spreading across Thailand". Coconut Thailand (ภาษาอังกฤษ). 2020-07-20. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
  70. "'เยาวชนปลดแอก' เปิดแถลงการณ์ข้อเรียกร้องฉบับเต็ม". Bangkok Biz News. 2020-07-18. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
  71. "Thai protesters call for government to resign". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 18 July 2020. สืบค้นเมื่อ 20 July 2020.
  72. ""เยาวชนปลดแอก" ยุติการชุมนุมก่อนเที่ยงคืน อ้างความปลอดภัย สรุปบรรยากาศจากเริ่มจนจบ". BBC Thai. 18 July 2020. สืบค้นเมื่อ 20 July 2020.
  73. “ม็อบปลดแอก” ยุติชุมนุมหวั่นมือที่ 3 ลั่นไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นการเริ่มต้น เผยแพร่: 19 ก.ค. 2563 05:19 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ สืบค้นเมื่อ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
  74. “ชาญวิทย์” เตือนม็อบ “เยาวชนปลดแอก” อย่าค้างคืน หวั่นซ้ำรอย “6 ตุลา”
  75. "Chiang Mai, Ubon rally against Prayut, government". Bangkok Post (ภาษาอังกฤษ). 20 July 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
  76. https://www.thairath.co.th/news/society/1895380
  77. 77.0 77.1 "ม็อบดิจิตัล: ความป๊อปในโลกออนไลน์ ที่ผลักดันให้การชุมนุมเข้าถึงคนมากขึ้น". Workpoint Today]. 25 July 2020. สืบค้นเมื่อ 26 July 2020.
  78. "ประท้วงดาวกระจายลามกว่า 20 จังหวัด เปิดไทม์ไลน์จุดเริ่มจาก 'เยาวชนปลดแอก'". The Bangkok Insight. 23 July 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
  79. "4 มหาวิทยาลัยในโคราช นักเรียน ประชาชน แสดงพลังทวงคืนประชาธิปไตย". Thairath. 2020-07-24. สืบค้นเมื่อ 2020-07-26.
  80. ชาวไทยในต่างประเทศ ร่วมแสดงพลังเรียกร้องประชาธิปไตย "ขับไล่เผด็จการ"
  81. ""กลุ่มเสรีเทยพลัส" จัดกิจกรรมม็อบไม่มุ้งมิ้งแต่ตุ้งติ้งค่ะคุณรัฐบาล". MGR Online. 25 July 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-07-26.
  82. แฟลชม็อบคึกคัก หลายจังหวัดทั่วไทย ฮือต้าน รบ. ทวงคืนประชาธิปไตย
  83. #สามพระจอมจะยอมได้ไง อาชีวะไล่เผด็จการ ส่งไม้เวียนจัดแฟลชม็อบ ย้ำ 3 ข้อเรียกร้องเยาวชนปลดแอก
  84. อาชีวะช่วยชาติ: นศ. อาชีวะ 2 กลุ่มประกาศปกป้องสถาบัน กับ พิทักษ์ประชาชน
  85. "2 อาทิตย์หลังเยาวชนเริ่มปลดแอก: เสนอหยุดคุกคาม กลับถูกคุกคามกว้างขวาง". ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (THAI LAWYERS FOR HUMAN RIGHTS). 31 July 2020. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  86. มติชน (1 August 2020). "เปิดตัว 'คณะประชาชนปลดแอก' ลั่น เยาวชนไม่อาจสู้ลำพัง เล็งนัดหมายเร็ว ๆ นี้". www.matichon.co.th. สืบค้นเมื่อ 3 August 2020.
  87. กรุงเทพธุรกิจ (3 August 2020). "กลุ่มมหานครฯ-มอกะเสด แต่งกายชุดพ่อมด-แม่มด ขับไล่อำนาจมืดจากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร". www.bangkokbiznews.com. สืบค้นเมื่อ 3 August 2020.
  88. 88.0 88.1 Demonstrators gather in Harry Potter-themed protest against Thai monarchy
  89. มติชน (3 August 2020). "สวมหน้ากาก 'บิ๊กป้อม' ร่วมม็อบ เจอเสกคาถาไล่ ปล่อยมุขฮา 'ไม่รู้ ๆ '". www.matichon.co.th. สืบค้นเมื่อ 3 August 2020.
  90. ด่วน! โดนจับแล้ว 'อานนท์ นำภา' ตามหมายจับศาลอาญา
  91. 91.0 91.1 อานนท์ นำภา ส่งสารถึงผู้ชุมนุม "ต่อสู้ให้ถึงเส้นชัย" ด้านแอมเนสตี้ฯ ประเทศไทย เรียกร้อง "ถอนข้อกล่าวหาที่ปราศจากมูลความจริง"
  92. "Rival protests raise fears of return to violence". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  93. "คิดแต่ละเรื่อง! "อัษฎางค์" จวกยับ "เยาวชนปลดแอก" ยุ "ไม่รับปริญญา" "ปวิน" แอ่นรับสนับสนุนแคมเปญทันควัน". mgronline.com. 10 August 2020.
  94. เตือน!คนรุ่นใหม่ลุกฮือสู้เผด็จการ ล่า5หมื่นชื่อแก้รธน.60ตั้งส.ส.ร.
  95. "ทนายอานนท์ปราศรัยที่เชียงใหม่ ส่วนผู้จัดที่พิษณุโลกบอกถูกเจ้าหน้าที่ขอร้องไม่ให้จัด". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  96. "ครช.ยื่นร่างพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ ร่าง รธน.ใหม่ ฝ่ายค้านรับเร่งเสนอในสัปดาห์นี้". prachatai.com. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  97. ""ประชาชนปกป้องสถาบันฯ" ผุด ศอปส. ทุกจังหวัด จับผิด-เปิดเผยตัวตน "คนชังชาติ"". BBC News ไทย. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  98. "ม็อบนศ.ฮือต้าน"รัฐบาลลุงตู่"แน่น ม.ธรรมศาสตร์". posttoday.com. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  99. 99.0 99.1 Press, Associated (11 August 2020). "Student Protest at Thammasat the Largest Rally in Months". Khaosod English. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  100. 100.0 100.1 "ประมวลชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน 'เราไม่ต้องการปฏิรูปเราต้องการปฏิวัติ'". prachatai.com. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  101. "รวมปฏิกิริยาต่อ 10 ข้อเรียกร้องของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 12 August 2020.
  102. "สำรวจแนวการชุมนุมประชาชนหนุน-ต้านรัฐบาล". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 18 August 2020.
  103. 103.0 103.1 103.2 "Thailand's youth demo evolves to largest protest since 2014 coup". Nikkei Asian Review. สืบค้นเมื่อ 18 August 2020.
  104. "ชาวไทย-ไต้หวัน-ฮ่องกง จัดชุมนุม #ไทเปจะไม่ทน จี้ รัฐบาลไทย หยุดคุกคามประชาชน". มติชนออนไลน์. 16 August 2020. สืบค้นเมื่อ 16 August 2020.
  105. "โรงเรียนทั่วประเทศเดือด ชูสามนิ้ว-ผูกโบว์ขาว ไม่เอาเผด็จการ". ประชาชาติธุรกิจ. 17 August 2020. สืบค้นเมื่อ 17 August 2020.
  106. "ครูขอโทษแล้ว หลังคลิปว่อนด่าปัญญาอ่อน ตบมือถือ นร.วอนเคารพความคิด". ข่าวสด. 17 August 2020. สืบค้นเมื่อ 17 August 2020.
  107. "เอาแล้ว! กลุ่มนักเรียนเลว นัดเป่านกหวีดไล่ รมว.ศึกษา ลั่นต้องปกป้องอนาคต". ข่าวสด. 18 August 2020. สืบค้นเมื่อ 19 August 2020.
  108. "Royalists rally to support monarchy". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-08-30.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  109. English, Khaosod (2020-08-31). "Royalists Slam 'Foreign Interference' in Major Counter-Rally". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2020-08-31.
  110. "Students submit manifesto". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 27 August 2020.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  111. "First ever dialogue on Thai monarchy arrives in Parliament's 'safe zone'". www.thaipbsworld.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2020-09-14.
  112. Sattaburut, Aekarach; Chetchotiros, Nattaya. "Govt pleads for charter support". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-09-24.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  113. "ปล่อยตัว ไผ่ ดาวดิน กับพวก ขอโทษสาดสีใส่ตำรวจ บอกเป็นราคาที่ต้องจ่าย". ไทยรัฐ. 28 August 2020. สืบค้นเมื่อ 28 August 2020.
  114. มติชน (9 September 2020). "รุ้ง-เพนกวิน ประกาศค้างคืน มธ.ท่าพระจันทร์ 19 ก.ย. เช้าเดินขบวนสู่ทำเนียบรัฐบาล". www.matichon.co.th. สืบค้นเมื่อ 13 September 2020.
  115. คล้องกุญแจ ปิดประตู ม.ธรรมศาสตร์ แล้ว จับตาความเคลื่อนไหวม็อบพรุ่งนี้ ไทยรัฐ. 18 September 2020. สืบค้นเมื่อวันที่19 September 2020
  116. พท. ตั้งเต้นท์เกาะสถานการณ์ชุมนุม 19 กย. พร้อมเตรียมเอกสารช่วยประกันตัวนิสิต-นศ. สยามรัฐ. สยามรัฐ. 18 September 2020. สืบค้นเมื่อวันที่19 September 2020
  117. 117.0 117.1 ชุมนุม 19 กันยา: มวลชนยึดสนามหลวงเป็นที่ชุมนุมได้สำเร็จ ตร. ตรึงกำลังห้ามเข้าใกล้เขตพระราชฐาน BBC News. 19 September 2020.สืบค้นเมื่อวันที่ 19 September 2020
  118. ม็อบเคลื่อนขบวนออกจาก'ธรรมศาสตร์' ดาหน้าบุกยึดท้องสนามหลวงแล้ว แนวหน้า. 19 September 2020. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 September 2020
  119. "Massive Crowd Gathers in Bangkok for Weekend of Pro-Democracy Protests". BenarNews (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-09-19.
  120. "Scenes From Thailand's Massive Protests Demanding Reform". Diplomat. สืบค้นเมื่อ 23 September 2020.
  121. "'ปรับแผน-เพิ่มกำลัง' รับมือชุมนุมวันนี้ ตร.ตรึง 1 หมื่นนาย ม็อบลั่นปิดเกมก่อนเที่ยง 20 ก.ย." Bangkokbiznews. สืบค้นเมื่อ 20 September 2020.
  122. "Thai activists challenge monarchy by laying plaque". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2020-09-20. สืบค้นเมื่อ 2020-09-20.
  123. "Protesters install 'new plaque' at Sanam Luang". Bangkok Post. 2020-09-20. สืบค้นเมื่อ 2020-09-20.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  124. 124.0 124.1 "Activists end rally after submitting demands". Bangkok Post. 2020-09-20. สืบค้นเมื่อ 2020-09-20.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  125. "Plaque installed by Thai protesters near palace removed". Al Jazeera. 2020-09-21. สืบค้นเมื่อ 2020-09-21.
  126. "Protests continue to target Thai monarchy". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  127. Reed, John. "#RepublicofThailand trends as protesters maintain push on monarchy". Financial Times. สืบค้นเมื่อ 25 September 2020.
  128. "เปิดคำร้องคดี 10 สิงหา กับข้อกล่าวหาล้มล้างการปกครองฯ". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 29 September 2020.
  129. "Students protest against abuse in schools, call for Education Minister to resign". Prachatai English (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-10-14.
  130. "Early rally site cleared, protesters arrested". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-13.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  131. Johnson, Panu Wongcha-um, Panarat Thepgumpanat, Kay (2020-10-13). "Thai protesters clash with police, call out as king's motorcade passes". Reuters (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-10-13.
  132. "Anti-government protesters reach Government House, criticize monarchy". Prachatai English (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-10-16.
  133. "Protesters gathering at Democracy Monument". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-14.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  134. Ashworth, Caitlin (2020-10-14). ""Elevated risk of unrest" after 21 activist arrests, UN department says". The Thaiger (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-10-14.
  135. "Arrests heighten rally concerns". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-14.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  136. 136.0 136.1 "PM ORDERS PROSECUTION OF PROTESTERS WHO 'BLOCKED ROYAL CONVOY'". Khaosod English. สืบค้นเมื่อ 14 October 2020.
  137. "ม็อบ3นิ้วเหิมเกริมหนักล้อมขบวนเสด็จ-ยึดทำเนียบฯไล่นายกฯ". Manager Online. 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
  138. "เอาแล้ว! 'ลุงกำนัน' เหลืออดม็อบคุกคามขบวนเสด็จ ชวนพี่น้องร่วมอุดมการณ์ปกป้องสถาบัน". Thai Post. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
  139. "เกาะติด "คณะราษฎร" ชุมนุม 14 ตุลา "ราษฎรจะเดินนำ ที่ราชดำเนิน" - บีบีซีไทย". BBC Thai. สืบค้นเมื่อ 14 October 2020.
  140. ไทยรัฐ (October 15, 2020). "ราชกิจจาฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพฯ". www.thairath.co.th. สืบค้นเมื่อ October 15, 2020.
  141. ประชาชาติธุรกิจ (October 15, 2020). "ตั้ง 'กอร.ฉ.' คุมสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง จ่อประกาศเพิ่มจังหวัดอื่น". www.prachachat.net. สืบค้นเมื่อ October 27, 2020.
  142. The Bangkok Insight (October 15, 2020). "แฮชแท็ก #15ตุลาไปราชประสงค์ ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 สวนทางคำขู่ตำรวจ". www.thebangkokinsight.com. สืบค้นเมื่อ October 15, 2020.
  143. English, Khaosod (15 October 2020). "3 Senior Policemen Removed for Motorcade Bedlam". Khaosod English.
  144. "Prawit-led centre likely to handle situation". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-15.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  145. "'รังสิมันต์ โรม'โพสต์ภาพทหารเข้าประจำการรัฐสภาหวั่นคล้ายสถานการณ์ปี57". Siam Rath. 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
  146. "ฝ่ายค้านจี้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทันที เสนอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ". Thai Rath. 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
  147. 147.0 147.1 147.2 "Water cannon used on protesters". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  148. "Thai protests: Demonstrators gather again in Bangkok, defying crackdown". BBC News. 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
  149. "Protesters occupy Ratchaprasong intersection". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-15.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  150. Regan, Helen (October 16, 2020). "Two Thai protesters could face life imprisonment for violence against the Queen". CNN. สืบค้นเมื่อ 2020-10-16.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  151. ""ประยุทธ์" ถามกลับ ผมทำผิดอะไร ลั่นไม่ลาออก รับ มีแผนใช้เคอร์ฟิว แต่ยังไม่ใช้ตอนนี้". มติชนออนไลน์. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  152. "'Everyone Can Die Any Moment,' Outrage at Prayut's Protest Remark". Khaosod English. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  153. "Thai police resort to teargas, arrest warrants against protesters". Nikkei Asia. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  154. "นักศึกษาธรรมศาสตร์ จัดแฟลชม็อบ ประณามสลายการชุมนุม". ประชาชาติธุรกิจ. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  155. "นศ.ลุกฮือประณามรัฐ ต่อต้านใช้ความรุนแรง". Bangkokbiznews (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  156. "นักศึกษา ม.ขอนแก่น รับไม่ได้ ลุกฮือจัดชุมนุม ประณามการกระทำจนท". ข่าวสด. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  157. "'หมอวรงค์'งัดภาพม็อบทำร้ายจนท.ด้วยคีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ แฉขบวนการบิดเบือน". สยามรัฐ. 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  158. "อัษฎางค์ เปิดประเด็น ม็อบมือเปล่าจริงหรือ ด่าสถาบันฯ กลางราชประสงค์...เรียกชุมนุมสงบจริงหรือ". ทีนิวส์. 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  159. "ไขข้อสงสัย สลายม็อบ 'แยกปทุมวัน' ทำไมต้อง 'น้ำสีฟ้า' !?". ฺBangkokbiznews. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  160. "Police insist water cannons did not fire harmful chemicals". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  161. "Protesters pick 3 sites as mass transit shut down". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  162. "ผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เริ่มวิจารณ์สถาบันฯ และรัฐบาล". BBC ไทย. 18 October 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  163. "House mulls meet to end unrest". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-19.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  164. "เกาะติดการชุมนุมกลุ่ม "ราษฎร" เคลื่อนขบวนไปทำเนียบฯ". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 21 October 2020.
  165. "ชุลมุน! เสื้อเหลืองป่วน ฝ่าแนวกั้น ตร. บุกขับไล่ เยาวชนราษฎร ออกจาก ม.รามคำแหง". มติชนออนไลน์. 21 October 2020. สืบค้นเมื่อ 21 October 2020.
  166. "ด่วนปะทะกันแล้ว!! ม็อบอาชีวะ-กลุ่มราษฏร ไล่หวดกันวุ่นหน้ารามคำแหงฯ". แนวหน้า. สืบค้นเมื่อ 21 October 2020.
  167. "ม.รามเดือด กลุ่มปกป้องสถาบัน เผชิญหน้า-ปะทะ กลุ่มรามคำแหงปชต. ตร.ห้ามวุ่น". ข่าวสด. 21 October 2020. สืบค้นเมื่อ 21 October 2020.
  168. Paddock, Richard C.; Suhartono, Muktita (21 October 2020). "Thailand's Leader Offers End to Crackdown on Pro-Democracy Protesters". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 22 October 2020.
  169. "PM offers end to 'emergency'". Bangok Post. 22 October 2020. สืบค้นเมื่อ 22 October 2020.
  170. "State of emergency ends in Bangkok". Bangkok Post. 22 October 2020. สืบค้นเมื่อ 22 October 2020.
  171. Regan, Helen (22 October 2020). "Thailand's Prime Minister lifts state of emergency. Protesters give him three days to resign". CNN.com. สืบค้นเมื่อ 22 October 2020.
  172. "Protesters plan action after PM ignores deadline to quit". Bangkok Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 November 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-10-25.
  173. Prapart, Erich; Satrusayang, Cod (27 October 2020). "Student protest leaders do not trust the prime minister's offer to amend the constitution by December". Thai Enquirer. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 October 2020. สืบค้นเมื่อ 27 October 2020.
  174. "Thai protesters shun Parliament, ask Germany to probe king". ChannelNewsAsia.com. 27 October 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 October 2020. สืบค้นเมื่อ 27 October 2020.
  175. Strangio, Sebastian (26 October 2020). "Thai Parliament Opens Special Session Over Anti-Government Protests". The Diplomat. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 October 2020. สืบค้นเมื่อ 27 October 2020.
  176. "Charter change boost". Bangkok Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 November 2020. สืบค้นเมื่อ 30 October 2020.
  177. ฝ่ายข่าว ช่อง 7 เอชดี (25 October 2020). "แกนนำกลุ่มราษฎร ประกาศยกระดับการชุมนุมเย็นวันนี้". news.ch7.com. สืบค้นเมื่อ 27 October 2020.
  178. ประชาไท (26 October 2020). "ประมวล #ม็อบ26ตุลา ถาม 4 ข้อสงสัยต่อสถานทูตเยอรมันเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์". prachatai.com. สืบค้นเมื่อ 27 October 2020.
  179. Promchertchoo, Pichayada (29 October 2020). "Thai protesters stage 'people's runway' in downtown Bangkok against princess' fashion brand". ChannelNewsAsia.com. สืบค้นเมื่อ 30 October 2020.
  180. "Khana Ratsadon 2020 put on a mock 'Sirivannavari Fashion Show'". Thisrupt. 30 October 2020. สืบค้นเมื่อ 30 October 2020.
  181. "Government to spend 29 billion baht on monarchy". Prechatai. 26 March 2020. สืบค้นเมื่อ 30 October 2020.
  182. "เกิดเหตุวุ่นวาย หลังเพนกวิน-ไมค์-รุ้ง ถูกอายัดตัวต่อ". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 30 October 2020.
  183. "Outrage as Thailand bans Pornhub, other porn websites". South China Morning Post (ภาษาอังกฤษ). 3 November 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 November 2020. สืบค้นเมื่อ 5 November 2020.
  184. 184.0 184.1 184.2 "เปิดจดหมาย "ราษฎร" ถึงพระมหากษัตริย์". BBC ไทย. 8 November 2020. สืบค้นเมื่อ 8 November 2020.
  185. "ตำรวจขอโทษม็อบไม่ตั้งใจ มือลั่นเลยเปิดฉากฉีดน้ำ หมอเผยบาดเจ็บ 2 รถพยาบาลรับออกไปแล้ว". amarintv. สืบค้นเมื่อ 8 November 2020.
  186. "Projectile Thrown at Cops Was a Smoke Bomb, Activist Says". Khaosod English. 9 November 2020. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
  187. "วอร์รูมนายกฯ ประเมินม็อบทั่วไทย ไม่เกิน 2 หมื่น รอแผ่วลง หวดกลับแน่!". ข่าวสด. 11 November 2020. สืบค้นเมื่อ 11 November 2020.
  188. Setboonsarng, Chayut; Thepgumpanat, Panarat (17 November 2020). "At least 55 hurt in Thailand's most violent protests since new movement emerged". Reuters. สืบค้นเมื่อ 18 November 2020.
  189. Ngamham, Wassayos (18 November 2020). "Pro-monarchy supporter caught with pistol, bullets at rally site". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 18 November 2020.
  190. "เปิดคุณสมบัติสารเคมี 5 ตัวในน้ำสีม่วงที่ฉีดใส่ผู้ชุมนุม ไม่ถึงตายแต่อาการหนัก". Kom Chad Luek. 21 November 2020.
  191. Yuda, Masayuki (18 November 2020). "Thailand parliament discards most constitutional reform ideas". Nikkei Asia. สืบค้นเมื่อ 20 November 2020.
  192. "PM thanks volunteers for graffiti cleanup after huge anti-government protest". The Thaiger (ภาษาอังกฤษ). 21 November 2020. สืบค้นเมื่อ 22 November 2020.
  193. ""นักเรียนเลว" จัดชุมนุม "บ๊ายบายไดโนเสาร์" ไม่สนหมายเรียก". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  194. "ส.ว.คนดังไม่ปักใจเชื่อ จี้สอบม็อบชูป้ายถูกครูทำอนาจาร 'สุวินัย' เชื่อ-เห็นใจ แผลในใจน้อง". มติชนออนไลน์. 21 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  195. "เปิดวาร์ปสาวชุดนักเรียนถือป้ายถูกครูทำอนาจารกับสารพัดชุดคอสเพลย์สุดแซ่บ". ผู้จัดการออนไลน์ (ภาษาอังกฤษ). 21 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  196. "ล้อมลวดหนาม'สนง.ทรัพย์สินฯ' ตั้งป้าย'เขตพระราชฐาน'". เดลินิวส์. 23 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  197. "เปิดรายชื่อ "12 แกนนำ" ตำรวจออกหมายเรียกคดี มาตรา 112". ประชาชาติธุรกิจ. 24 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  198. "SCB: กลุ่มราษฎรเปลี่ยนที่ชุมนุม 25 พ.ย. จากสำนักงานทรัพย์สินฯ เป็นสำนักงานใหญ่ไทยพาณิชย์". บีบีซีไทย. 24 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  199. "เริ่มแล้ว ม็อบคณะราษฎร รวมตัวกันเต็มพื้นที่หน้า SCB สำนักงานใหญ่". คมชัดลึก. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  200. "ชุมนุม 25 พ.ย.: อานนท์ประกาศล่ารายชื่อเสนอ กม. "ทวงคืนทรัพย์สินที่ควรเป็นของราษฎร" ด้าน ส. ศิวรักษ์ ชี้ "ประยุทธ์รังแกพระเจ้าแผ่นดิน"". BBC ไทย. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 26 November 2020.
  201. "เซอร์ไพรส์! "ส.ศิวรักษ์" โผล่ร่วมชุมนุม ปราศัยโจมตี "บิ๊กตู่" ใช้ ม.112 ขัดพระบรมราชโองการ". พีพีทีวี. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  202. ""ม็อบราษฎร" เล็งจัดชุมนุมใหญ่แบบไม่ค้างคืน 5 วันติด". ผู้จัดการออนไลน์. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  203. ""บิ๊กตู่" ยัน ไม่เคยคิดใช้กฎอัยการศึก ขู่ ทำผิดกฎหมายดำเนินการแน่ (คลิป)". ไทยรัฐ. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  204. "กระสุนเข้าจุดสำคัญ! "นพ.ทศพร"เผยอาการการ์ดอาชีวะโดนยิงร่วง แพทย์ต้องผ่าตัดด่วน". ข่าวสด. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  205. "ฮือรุมจับมือยิงใส่ม็อบ! การ์ดอาชีวะโดนท้องเจ็บ อีกคนโผล่ปาบึ้มสนั่นวิ่งแหกวงล้อมหนีรอด". ข่าวสด. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  206. 206.0 206.1 "เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเหตุรุนแรงหลังการชุมนุม "ราษฎร"". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 26 November 2020.
  207. "เกมตื้นๆ 'ปารีณา' ชี้เปรี้ยง 3 นิ้วยิงกันเอง หวังสร้างสถานการณ์". Thai Post. สืบค้นเมื่อ 26 November 2020.
  208. 208.0 208.1 "ชุมนุม 27 พ.ย.: แนวร่วม "ราษฎร" เริ่มกิจกรรม "ซ้อมต้านรัฐประหาร"". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 27 November 2020.
  209. ""เพนกวิน" ประกาศชัยชนะนำม็อบถึงราบ 11 - อ่านแถลงการณ์ถ่ายโอนกำลังทหารคืนสังกัด". สนุก.คอม. 29 พฤศจิกายน 2563. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  210. ""นักเรียนเลว-ภาคีนักเรียน KKC ชวนแต่งไปรเวท 1 ธ.ค. ท้ากฎระเบียบล้าหลัง". สนุก.คอม. 1 ธันวาคม 2563. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  211. "ไบร์ท ชินวัตร เผยเตรียมยกระดับม็อบราษฎร หลัง "ประยุทธ์" ยังเป็นนายกฯ". ไทยรัฐ. 2 ธันวาคม 2563. สืบค้นเมื่อ 2 ธันวาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  212. "ครูใหญ่ อรรถพล​ บัวพัฒน์​ ทุบศาลพระภูมิ ที่ชุมนุมห้าแยกลาดพร้าว". คมชัดลึก. 2 ธันวาคม 2563. สืบค้นเมื่อ 2 ธันวาคม 2563. {{cite web}}: zero width space character ใน |title= ที่ตำแหน่ง 15 (help); ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  213. ล็อกโตโต้ขายกุ้งสนามหลวง คอมแบตถีบหน้าการ์ดหญิง
  214. "เพนกวิน-รุ่ง นำมวลชนชุมนุมหน้าสภ.คลองหลวง เหตุ 'นิว มธ.' ถูกจับคดี112". Bangkokbiznews. สืบค้นเมื่อ 15 January 2021.
  215. "Scuffles Break Out as Thai Protesters Flout Virus Rules to Protest | Voice of America - English". VOA (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 18 January 2021.
  216. "'Kidnapped' Free Guard found". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 18 January 2021.
  217. "สั่งฟ้อง4แกนนำ'ม็อบราษฎร' ผิดม.112+อีก10ข้อหา!". เดลินิวส์. 2021-02-09. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  218. "ส่งตัวเข้าเรือนจำ! ศาลไม่ให้ประกัน4แกนนำ'ม็อบราษฎร'". เดลินิวส์. 2021-02-09. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  219. "แน่น!ม็อบตีหม้อไล่เผด็จการ ตร.ตรึงกำลัง-รถน้ำพร้อม". เดลินิวส์. 2021-02-10. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  220. "รานงาน : บทบาท ราษฎร 'ตีหม้อ' ไล่ 'เผด็จการ' #ม็อบ10กุมภา". มติชน. 2021-02-10. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  221. "#ม็อบ10กุมภา เคลื่อนขบวน! เป้าหมาย สน.ปทุมวัน หลังตำรวจรวบผู้ชุมนุม 10 คน". สนุก.คอม. 2021-02-10. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.
  222. ""รุ้ง" นำม็อบราษฎรลงถนน มุ่งหน้า สน.ปทุมวัน หลังผู้ชุมนุมโดนรวบ". ประชาชาติธุรกิจ. 2021-02-10. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.
  223. "ม็อบราษฎร ขีดเส้นตำรวจ สน.ปทุมวัน ปล่อยตัวผู้ชุมนุม ก่อน 20.30 น. ขู่บุกโรงพัก". ไทยรัฐ. 2021-02-10. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.
  224. "เกิดเสียงดังคล้ายประทัด บริเวณแนวกั้นตำรวจควบคุมฝูงชน". ไทยรัฐ. 2021-02-10. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.
  225. ""รุ้ง" ปนัสยา ประกาศยุติชุมนุม หน้า สน.ปทุมวัน แย้มมีซักฟอกรบ.นอกสภา". ไทยรัฐ. 2021-02-10. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.
  226. "Cops Say They Don't Use Tear Gas During Clash at Police Station". Khaosod English. 12 February 2021. สืบค้นเมื่อ 14 February 2021.
  227. "First Major Rally in Months Saw 10 Protesters Briefly Detained". Khaosod English. 11 February 2021. สืบค้นเมื่อ 14 February 2021.
  228. 228.0 228.1 228.2 "Police and protesters face off again". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 14 February 2021.
  229. "เปิด 11 รายชื่อ ถูกรวบคาม็อบ #13กุมภาฯ". มติชนออนไลน์. 13 February 2021. สืบค้นเมื่อ 14 February 2021.
  230. "การ์ดอาชีวะถูกยิง-มวลชนล้อม 7-11 จับมือปืนส่งตำรวจได้ 1 คน". มติชนออนไลน์. 13 February 2021. สืบค้นเมื่อ 14 February 2021.
  231. "#ตำรวจกระทืบหมอ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ เช้านี้ หลัง ชาวเน็ตแชร์คลิป ทีมแพทย์โดนล้อม". มติชนออนไลน์. 14 February 2021. สืบค้นเมื่อ 14 February 2021.
  232. "'นครบาล' ขีดเส้น 'Mob Fest' 4 ทุ่มยุติชุมนุมหน้าสภา". กรุงเทพธุรกิจ. 2021-02-19. สืบค้นเมื่อ 2021-02-20.
  233. "เริ่มแล้ว 'ม็อบ' ราษฎรจัดซักฟอก 'รัฐบาล-ประยุทธ์'". กรุงเทพธุรกิจ. 2021-02-20. สืบค้นเมื่อ 2021-02-20.
  234. "#ม็อบ23กุมภา เริ่มลงถนนแยกราชประสงค์ ชูธงชุมนุมเพื่อตำรวจ ขณะตำรวจเตรียมรถน้ำสกัด". สนุก.คอม. 2021-02-23. สืบค้นเมื่อ 2021-02-23.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  235. "เยาวชนปลดแอก เปิดตัว REDEM ช่องทางออกแบบการเคลื่อนไหว บันไดสู่ ปชต". มติชน. 2021-02-24. สืบค้นเมื่อ 2021-02-28.
  236. "มวลชนทยอยรวมตัวอนุสาวรีย์ชัยฯ ก่อนเดินไปบ้านพักนายก "ประยุทธ์"". ประชาชาติธุรกิจ. 2021-02-28. สืบค้นเมื่อ 2021-02-28.
  237. 237.0 237.1 237.2 "Thai Protest Leader: 'Our Demands Are Supremely Clear' | Voice of America - English". VOA News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 30 October 2020.
  238. Atiya, Achakulwisut. "Crackdown on student protest is a wasted effort". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-09-15.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  239. "From Hamtaro to Drag Queen: Pop Cultures as the New Means for Thai Political Movement". workpointTODAY. 27 July 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  240. "Opinion: Student Protest Leaders Lack a Coherent Strategy". Khaosod English. 13 August 2020. สืบค้นเมื่อ 24 August 2020.
  241. English, Khaosod (20 October 2020). "Schoolgirls Emerge as Leaders of Leaderless Protests in Bangkok". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 21 October 2020.
  242. "Less Than a Day Old, Democracy Plaque Lives On In Memes, Fanart". Khaosod English. 22 September 2020. สืบค้นเมื่อ 5 November 2020.
  243. Helen Regan; Kocha Olarn. "Thailand's monarchy was long considered God-like. But protesters say it's time for change". CNN. สืบค้นเมื่อ 24 August 2020.
  244. Pongsudhirak, Thitinan. "Reforms need broadening of the agenda". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-09-25.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  245. Cunningham, Philip J. "An unexpectedly successful protest". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 24 September 2020.
  246. "ม็อบยุติชุมนุมหลังจัดกิจกรรมส่งสาส์นราษฎร ย้ำ3ข้อเรียกร้องประนีประนอมที่สุดแล้ว". โพสต์ทูเดย์. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
  247. "Loss of protest leaders 'critical'". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  248. "4 ปรากฏการณ์ใหม่ในแฟลชม็อบ "ไร้แกนนำ" เมื่อ "ราษฎร" ไทยลุกฮือ". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  249. "'A moving current': Thai protesters adopt Hong Kong tactics". Bangkok Post.
  250. "Thailand's Protesters Want the World to Know #WhatsHappeningInThailand". Diplomat. สืบค้นเมื่อ 22 October 2020.
  251. "สันติวิธีหรือไม่ เมื่อไปสาดสี-ขีดเขียน-ใช้คำหยาบ ในการชุมนุม". BBC ไทย. 24 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  252. "เปิดบทสนทนาของนักศึกษากลุ่ม "ไทยภักดี" กับ "ประชาชนปลดแอก" ว่าด้วยท่อน้ำเลี้ยง-เพดาน-สิ่งศักดิ์สิทธิ์". BBC ไทย. BBC. 28 August 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  253. "กัดไม่ปล่อย จ่อร้อง "สรรพากร" สอบท่อน้ำเลี้ยงม็อบ". ฐานเศรษฐกิจ. Bangkok: ฐานเศรษฐกิจ. 17 September 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  254. Komkrit Duangmanee (22 September 2020). "ทราย เจริญปุระ โพสต์โต้ปมควักเงินหนุนม็อบ ลั่น "จะตรวจสอบอะไร ไม่ได้รับบริจาค"". สนุก! นิวส์. Bangkok: เทนเซนต์ (ประเทศไทย). สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  255. "มาแล้ว! "ทราย เจริญปุระ" ตั้งโรงครัวให้ชาวม็อบ บริเวณสนามหลวงใกล้พระแม่ธรณีฯ". สนุก! นิวส์. Bangkok: เทนเซนต์ (ประเทศไทย). 19 September 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  256. "สุดปังพลังติ่ง แฟนคลับศิลปินเกาหลีระดมเงิน 2.3 ล้านสนับสนุนม็อบ". ประชาชาติธุรกิจ. Bangkok: ประชาชาติธุรกิจ. 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  257. "ปังมาก! แฟนคลับเกาหลี โดเนทท่อน้ำเลี้ยงม็อบ ไม่กี่วันทะลุล้าน ผุดแคมเปญ เลิกซื้อโฆษณารฟฟ". มติชน. Bangkok: มติชน. 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  258. "เหล่าแฟนคลับศิลปินเกาหลีร่วมระดมทุนท่อน้ำเลี้ยง ยอดทะลุล้านในเวลาอันรวดเร็ว!". Kornews. Bangkok: Kornews. 18 October 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  259. "ม็อบเดินถือกล่องขอรับบริจาคเงินผู้ชุมนุม ร่วมเป็นท่อน้ำเลี้ยงไล่'บิ๊กตู่'". แนวหน้า. สืบค้นเมื่อ 26 October 2020.
  260. กองบรรณาธิการวอยซ์ออนไลน์ (16 September 2020). "'ศรีสุวรรณ' ร้องสอบ 'ท่อน้ำเลี้ยงม็อบ' รับหาหลักฐานเอาผิด 'กปปส.' ยาก". Voice Online. Bangkok: Voice. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  261. English, Khaosod (31 August 2020). "U.S. Embassy Denies Funding Anti-Govt Protests". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 31 August 2020.
  262. ""ก้าวไกล" จี้ หยุดใช้นิติสงครามกับ ปชช.ยัน คดี นิสิต-นศ.ไม่เข้า ม.116". ไทยรัฐ. 3 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  263. "เครือข่ายทนายสิทธิร้องเรียน ตร.ละเมิดกฎหมายและสิทธิมนุษยชนต่อนักกิจกรรม". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  264. Yuda, Masayuki (18 October 2020). "Thailand's crackdown on protests turns violent: Five things to know". Nikkei Asian Review.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  265. "ตร.ยืนยัน! รถฉีดน้ำ-ก๊าซน้ำตา เป็นยุทธวิธีเหมาะสมกับผู้ชุมนุม ไม่ใช้กระสุนยาง-กระสุนจริง". ช่อง 7. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  266. "เจ้าหน้าที่เตรียมใช้กระสุนยาง สกัดกลุ่มผู้ชุมนุม". เนชั่นทีวี. 17 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  267. "ทนายอานนท์ เผย มีผู้ชุมนุมโดนยิงด้วยกระสุนยาง กำลังส่ง รพ". ประชาชาติธุรกิจ. 17 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  268. Human Rights Watch (17 October 2020). "Thailand: Water Cannon Used Against Peaceful Activists". Human Rights Watch.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  269. "ไขปม! 'กระสุนยาง' อันตรายแค่ไหน ทำไมจึงไม่ควรใช้ 'สลายการชุมนุม'". กรุงเทพธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  270. "'ม็อบ' ยิ่งรุก 'รัฐบาล' ยิ่งต้าน ประกาศ 'นิติสงคราม'". กรุงเทพธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  271. Chotanan, Patawee. "Dancing with dictatorship: how the government is dealing with the Free Youth movement".{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  272. "แห่ดิสไลค์ คลิปกรมประชาฯ โวยรัฐใช้ภาษีทำคลิปดิสเครดิตม็อบเยาวชน". ไทยรัฐ. 22 August 2020. สืบค้นเมื่อ 22 August 2020.
  273. ""บิ๊กแดง" น้ำตาคลอ! เปิดใจถึงม็อบ นศ. เตือนอย่าใช้วาจาจาบจ้วง". Channel 8. 24 July 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-07-26.
  274. "ผบ.ทบ. ลั่นโอกาสรัฐประหาร "เป็นศูนย์"". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 6 October 2020.
  275. "จับตา! #ม็อบไม่มุ้งมิ้งแต่ตุ้งติ้ง ทวง 3 ข้อรัฐบาล". ThaiPBS. 25 July 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-07-26.
  276. "Exclusive: Thailand tells universities to stop students' calls for monarchy reform". www.msn.com. สืบค้นเมื่อ 2020-09-14.
  277. "ด่วน! ตร.พัทลุง ทำหนังสือถึงโรงเรียน สั่งห้าม นร.-นศ. ชุมนุมไล่รัฐบาล". Khaosod. 24 July 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 July 2020. สืบค้นเมื่อ 26 July 2020.
  278. "ให้ทุกรร.สังกัดสพฐ.อนุญาตเด็กจัดชุมนุมแต่ห้ามคนนอกร่วม". เนชั่น. 18 August 2020. สืบค้นเมื่อ 18 August 2020.
  279. "เปิดชื่อ 109 รร. คุกคาม นร. "ผูกโบว์ขาว-ชู 3 นิ้ว"". BBC Thai. สืบค้นเมื่อ 24 August 2020.
  280. ศูนย์ทนายสิทธิฯ เปิด 8 รูปแบบการคุกคามปิดกั้น รอบ 2 อาทิตย์หลังเยาวชนเริ่มปลดแอก
  281. 281.0 281.1 ไม่รอด! ตร.จับแอดมินกุข่าวอุ้ม 3 แกนนำเยาวชนพิษณุโลกเข้าค่าย ตชด. แฉมีคดีติดตัว
  282. 3 แกนนำเยาวชนยังหายตัวปริศนา ส.ส.พิษณุโลก เผย ตชด.ปฏิเสธ ไม่ได้คุมตัว
  283. "สกัดรถยึดหนังสือ กลุ่มนักศึกษาปลดแอก 50,000 เล่ม มวลชนเผาหุ่นฟางนายกฯ". ไทยรัฐ. 19 September 2020. สืบค้นเมื่อ 19 October 2020.
  284. "The politics of decree". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  285. "นิธิ เอียวศรีวงศ์ หวั่น 6 ตุลา รอบใหม่". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 12 August 2020.
  286. "ประกาศแต่งตั้ง หัวหน้าผู้รับผิดชอบ กอร.ฉ. แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง". ไทยรัฐ. 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  287. English, Khaosod (2020-10-16). "Editorial: Prayut Has Lost All Legitimacy. He Must Go". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2020-10-17.
  288. "Police move to silence news, Facebook platforms". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-19.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  289. "โลกออนไลน์ เผยแพร่เอกสาร สั่งปิด 'เทเลแกรม'". มติชนออนไลน์. 19 October 2020. สืบค้นเมื่อ 19 October 2020.
  290. "ด่วน! ศาลอาญายกเลิกคำร้องปิดวอยซ์ทีวี รวมทั้ง 'เยาวชนปลดแอก' ด้วย". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 21 October 2020.
  291. "ตำรวจบุก "ฟ้าเดียวกัน" ตรวจยึดหนังสือวิจารณ์สถาบันกษัตริย์". ูผู้จัดการออนไลน์. 19 October 2020. สืบค้นเมื่อ 19 October 2020.
  292. "Anti-Gov't Protest Plans Complicated by Royal Itinerary". Khaosod English. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 14 October 2020 – โดยทาง Reuters.
  293. "'อัศวิน'จัดรถขยะ-รถสุขา ให้ม็อบป้องสถาบันฯหน้ารัฐสภา". Daily News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 October 2020. สืบค้นเมื่อ 25 October 2020.
  294. "มหาเถรสมาคม ห้าม 'พระ-สามเณร' ยุ่งกิจกรรมการเมือง". กรุงเทพธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  295. "Thailand's Prime Minister Threatens Protesters with Lese Majesty Law". Chiang Rai Times (ภาษาอังกฤษ). 21 November 2020. สืบค้นเมื่อ 22 November 2020.
  296. Crispin, Shawn W. (18 August 2020). "New generation of daring resistance in Thailand". Asia Times. สืบค้นเมื่อ 20 August 2020.
  297. "Thai PM says protesters' call for monarchy reform 'went too far'". www.aljazeera.com. สืบค้นเมื่อ 2020-08-20.
  298. ""ในหลวง" ตรัส "กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ" ชายชูพระบรมฉายาลักษณ์ ร.๙ กลางผู้ประท้วง (ชมคลิป)". ผู้จัดการออนไลน์. 24 October 2020. สืบค้นเมื่อ 23 October 2020.
  299. "Can Thai monarchy emerge unscathed as it faces its greatest challenge?". South China Morning Post (ภาษาอังกฤษ). 31 October 2020. สืบค้นเมื่อ 1 November 2020.
  300. ยอมรับแล้ว! “ปิยบุตร” ยืมปาก “พิธา” เฉลย “ล้มเจ้า” ในม็อบ “สาธิต” นักธุรกิจอินเดียรักในหลวงขอถก “บิ๊กแดง”
  301. @MFPThailand (11 August 2020). "นอกจาก 3 ข้อเรียกร้องทางการเมืองไทยแล้ว" (ทวีต). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  302. "คณาจารย์ ลงชื่อหนุนกลุ่ม นศ. "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน"". ไทยรัฐ. 12 August 2020. สืบค้นเมื่อ 12 August 2020.
  303. ครูร่วมปลดแอก ชูสามนิ้วในห้องพักครู ขออยู่เคียงข้างนักเรียน matichon.co.th เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 สืบค้นเมื่อ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563
  304. 'มารีญา' โพสต์ประกาศจุดยืนขออยู่ข้าง 'เยาวชนปลดแอก'
  305. เอก HRK และ โบ๊ะบ๊ะแฟมมิลี่ ออกมาแสดงจุดยืนทางการเมือง ถึงกลุ่ม เยาวชนปลดแอก
  306. "Time to call out. Thai stars show solidarity with protest leader". workpointTODAY. 13 August 2020. สืบค้นเมื่อ 16 September 2020.
  307. AmirinTV. "คอมเมนต์สนั่น! ปรากฏการณ์โซเชียลมูฟเมนต์ จากไอดอลสาว BNK 48". Amarin.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  308. Prachachat (14 August 2020). "ดารา-คนบันเทิง แห่โพสต์สนับสนุนเสรีภาพ ต้านการคุกคามประชาชน". Prachachat.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  309. "Doctor sacked for opposing govt's dispersal of protesters". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  310. "ยูนิเซฟ เรียกร้องเคารพสิทธิ-ปกป้องความรุนแรงเด็กและเยาวชน". ประชาชาติธุรกิจ. 18 August 2020. สืบค้นเมื่อ 18 August 2020.
  311. "Thailand: Bangkok shuts public transport as protests persist | DW | 17.10.2020". Deutshe Welle. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  312. "Thailand: Police disperse pro-democracy protesters outside PM's office". Euro News (ภาษาอังกฤษ). 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
  313. "โจชัว หว่อง ฝากถึงชาวโลก ให้ช่วยยืนเคียงข้างชาวไทยหัวใจประชาธิปไตย". Khaosod. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  314. English, Khaosod (2020-10-16). "7 Arrested for Fresh Protest, Cops Threaten to Charge Everyone". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2020-10-17.
  315. "Listen to the young". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-19.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  316. นักเรียนเลว [@BadStudent_] (Sep 16, 2020). "นี่สิ่งที่เพื่อน ๆ ของเราหลายคนต้องเจอค่ะ - ขู่ตัดแม่ตัดลูกถ้ายังไม่หยุดทำ
    - ไม่ให้เงินไปโรงเรียนมาเกือบ 2 เดือน
    - เก็บค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าที่อยู่กับลูกตัวเอง
    - จะไล่ออกจากบ้าน ให้ไปอยู่ที่อื่น
    - จะส่งไปอยู่ต่างประเทศ
    - จะไม่จ่ายค่าเทอมให้"
    (ทวีต) – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  317. "เปิดตัว 'สถาบันทิศทางไทย' ขับเคลื่อนไทยไร้ขัดแย้ง". bangkokbiznews.com. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  318. "สถาบันทิศทางไทย เปิดผังเครือข่ายปฏิวัติประชาชน (เพ้อฝัน)". nationtv.tv. 10 August 2020. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  319. "A global conspiracy against the Thai Kingdom". thisrupt.co. สืบค้นเมื่อ 31 August 2020.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  320. "ชาวเน็ตสงสัย พบกลุ่มชายหัวเกรียน รวมตัวเป็นกลุ่ม ตั้งข้อสังเกต เตรียมแฝงม็อบ?". Khaosod. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  321. "นายกฯ ไม่สบายใจม็อบธรรมศาสตร์ชุมนุม บอกติดตามดูอยู่". ไทยรัฐ. 11 August 2020. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  322. "'สุดารัตน์'ติงไม่ควรก้าวล่วงสถาบัน วอนยึด3ข้อเรียกร้อง". เดลินิวส์. 11 August 2020. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  323. "หยุดจาบจ้วงพระมหากษัตริย์". แนวหน้า. สืบค้นเมื่อ 17 August 2020.
  324. Sombatpoonsiri, Janjira; Carnegie Endowment for International Peace (2018). "Conservative Civil Society in Thailand". ใน Youngs, Richard (บ.ก.). The mobilization of conservative civil society (PDF) (ภาษาอังกฤษ). Washington, D.C.: Carnegie Endowment for International Peace. pp. 27–32. OCLC 1059452133.
  325. Correspondent, Our. "Thailand Blocks Overseas Opposition Voice". www.asiasentinel.com. สืบค้นเมื่อ 29 August 2020.
  326. "New Social Media and Politics in Thailand: The Emergence of Fascist Vigilante Groups on Facebook". ASEAS - Austrian Journal of South-East Asian Studies (ภาษาเยอรมัน). 9 (2): 215–234. 2016. ISSN 1999-2521. OCLC 7179244833.
  327. English, Khaosod (28 July 2020). "Royalist Campaign Tells Companies Not to Hire Protesters". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 28 August 2020.
  328. "Thai royalist seeks to shame, sack young protesters - UCA News". ucanews.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 28 August 2020.
  329. "Thai protests: Thousands gather in Bangkok as king returns to country". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2020-10-14. สืบค้นเมื่อ 2020-10-14.
  330. "ศาลรธน.รับวินิจฉัยปมปราศรัยล้มล้างการปกครอง". เดลินิวส์. 16 September 2020. สืบค้นเมื่อ 16 September 2020.
  331. "11th grader summoned by teacher, asked not to give protest speeches". Prachatai English (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 16 September 2020.
  332. ""Whores" & "Sluts": why "good people" love these insults". thisrupt.co. สืบค้นเมื่อ 2020-09-14.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  333. "นักเรียนเลว โอดเคลื่อนไหวทางการเมือง โดนครอบครัวขู่-ไล่ออกจากบ้าน". ข่าวสด. 16 September 2020. สืบค้นเมื่อ 16 September 2020.
  334. "'อ.เจษฎา' ชี้ม็อบสาดสีใส่ตร. 'รุนแรง-คุกคาม' ยกตัวอย่างสากลประท้วงสันติวิธีด้วยภาพวาด". Thai Post (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 1 September 2020.
  335. "เพจโปลิศไทยแลนด์ ตำหนิม็อบสาดสีใส่ตำรวจไม่เกิดผลดีเลย แสดงออกถึงตัวตนเป็นเช่นไร". Thai Post (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 1 September 2020.
  336. "หมอสุกิจ อัดม็อบหยาบคายใส่ 'ชวน' ยันเป็นกลาง ไล่ไปด่า ส.ส.-สว.ตัวเอง". ข่าวสด. 25 September 2020. สืบค้นเมื่อ 14 October 2020.
  337. "ตำรวจ บุกไทยซัมมิท กลางวงแถลงข่าวคณะก้าวหน้า". Bangkokbiznews. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  338. "บุก 'ไทยซัมมิท' หนสอง ศ.ป.ป.ส.ไล่ 'ธนาธร' พ้นแผ่นดิน จี้ถือธงนำหน้า อย่าแอบหลังขบวนการ น.ศ." Matichon. 12 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  339. "มือมืดปาสี ใส่กลุ่มไทยภักดี ขณะชุมนุมปกป้องสถาบันที่ศาลหลักเมืองขอนแก่น". สยามรัฐ. 23 October 2020. สืบค้นเมื่อ 23 October 2020.
  340. "ชูป้ายผิดชีวิตเปลี่ยน หวิดถูก'กลุ่มผู้ชุมนุม'ประชาทัณฑ์". เดลินิวส์. 23 October 2020. สืบค้นเมื่อ 23 October 2020.
  341. "นิวยอร์กไทมส์ ระบุข่าวลือรัฐประหารในไทยผุดขึ้นหลังการประท้วงของเยาวชน". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 3 November 2020.
  342. "ม็อบเสื้อเหลือง นัดหน้าทำเนียบ ชง "ประยุทธ์-ผบ.ทบ." รัฐประหาร". ประชาชาติธุรกิจ. 8 November 2020. สืบค้นเมื่อ 10 November 2020.
  343. "แจงปมผู้สื่อข่าวหญิงปกปิดต้นสังกัดรายงานข่าวม็อบ". เนชั่นทีวี. 17 August 2020. สืบค้นเมื่อ 17 August 2020.
  344. "จากใจเนชั่น ขอยืนหยัดทำข่าวบนพื้นฐานจริยธรรม วอนหยุดแบนสินค้า". คมชัดลึกออนไลน์. 19 August 2020. สืบค้นเมื่อ 22 August 2020.
  345. "สื่อต่างชาติรายงาน #RepublicofThailand เกลื่อนโลกโชเชียลไทย". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 29 September 2020.
  346. "โซเชียลตั้งคำถาม ทีวีไทยเซ็นเซอร์ ตัดสัญญาณออกอากาศสื่อต่างประเทศ". มติชนออนไลน์. 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
  347. "Correction to story 'Protesters hit Bangkok train stations'". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 24 October 2020.
  348. "งานเข้าอีกแล้ว!โซเชี่ยล โพสต์แรงถึง "ช่อง 3"". tvpoolonline.com. 19 October 2020. สืบค้นเมื่อ 12 November 2020.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  349. "AFP แจงสื่อออนไลน์บิดเบือนบทสัมภาษณ์ รมต.ต่างประเทศเยอรมนี กรณีกษัตริย์ไทย". มติชนออนไลน์. 31 October 2020. สืบค้นเมื่อ 31 October 2020.
  350. "นิวยอร์กไทมส์ ระบุข่าวลือรัฐประหารในไทยผุดขึ้นหลังการประท้วงของเยาวชน". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
  351. "สื่ออังกฤษกับรายงานปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ไทย". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.

แหล่งข้อมูลอื่น