ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564"
→การประท้วงระยะที่สาม: เพิ่มเนื้อหาการชุมนุมรอบใหม่ |
|||
บรรทัด 383: | บรรทัด 383: | ||
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรได้จัดกิจกรรม "ม็อบเฟสต์" ครั้งที่ 2 ที่หน้า[[สัปปายะสภาสถาน]] โดยมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาจำนวน 8 ประเด็น<ref>{{Cite web|url=https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/923562|title='นครบาล' ขีดเส้น 'Mob Fest' 4 ทุ่มยุติชุมนุมหน้าสภา|date=2021-02-19|access-date=2021-02-20|website=[[กรุงเทพธุรกิจ]]}}</ref> ซึ่งกิจกรรมนี้ก็ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ด้วย โดยในวันดังกล่าวได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมจากหลากหลายกลุ่มทั่วประเทศมาร่วมชุมนุมด้วย<ref>{{Cite web|url=https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/923681|title=เริ่มแล้ว 'ม็อบ' ราษฎรจัดซักฟอก 'รัฐบาล-ประยุทธ์'|date=2021-02-20|access-date=2021-02-20|website=[[กรุงเทพธุรกิจ]]}}</ref> และวันที่ 23 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรได้จัดการชุมนุมใหญ่ที่แยกราชประสงค์เป็นครั้งที่ 4 และเป็นครั้งที่ 2 ที่มีการเดินขบวนไปชุมนุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประท้วงการทุจริตและการใช้อำนาจแทรกแซงการเลื่อนตำแหน่งในวงการตำรวจ จาก[[การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีไทย พ.ศ. 2564|การอภิปรายไม่ไว้วางใจ]]ของ[[รังสิมันต์ โรม]] สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจาก[[พรรคก้าวไกล]] ในกรณีของ "ตั๋วช้าง"<ref>{{Cite web|date=2021-02-23|title=#ม็อบ23กุมภา เริ่มลงถนนแยกราชประสงค์ ชูธงชุมนุมเพื่อตำรวจ ขณะตำรวจเตรียมรถน้ำสกัด|url=https://www.sanook.com/news/8351474/|url-status=live|access-date=2021-02-23|website=[[สนุก.คอม]]|language=th}}</ref> |
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรได้จัดกิจกรรม "ม็อบเฟสต์" ครั้งที่ 2 ที่หน้า[[สัปปายะสภาสถาน]] โดยมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาจำนวน 8 ประเด็น<ref>{{Cite web|url=https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/923562|title='นครบาล' ขีดเส้น 'Mob Fest' 4 ทุ่มยุติชุมนุมหน้าสภา|date=2021-02-19|access-date=2021-02-20|website=[[กรุงเทพธุรกิจ]]}}</ref> ซึ่งกิจกรรมนี้ก็ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ด้วย โดยในวันดังกล่าวได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมจากหลากหลายกลุ่มทั่วประเทศมาร่วมชุมนุมด้วย<ref>{{Cite web|url=https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/923681|title=เริ่มแล้ว 'ม็อบ' ราษฎรจัดซักฟอก 'รัฐบาล-ประยุทธ์'|date=2021-02-20|access-date=2021-02-20|website=[[กรุงเทพธุรกิจ]]}}</ref> และวันที่ 23 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรได้จัดการชุมนุมใหญ่ที่แยกราชประสงค์เป็นครั้งที่ 4 และเป็นครั้งที่ 2 ที่มีการเดินขบวนไปชุมนุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประท้วงการทุจริตและการใช้อำนาจแทรกแซงการเลื่อนตำแหน่งในวงการตำรวจ จาก[[การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีไทย พ.ศ. 2564|การอภิปรายไม่ไว้วางใจ]]ของ[[รังสิมันต์ โรม]] สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจาก[[พรรคก้าวไกล]] ในกรณีของ "ตั๋วช้าง"<ref>{{Cite web|date=2021-02-23|title=#ม็อบ23กุมภา เริ่มลงถนนแยกราชประสงค์ ชูธงชุมนุมเพื่อตำรวจ ขณะตำรวจเตรียมรถน้ำสกัด|url=https://www.sanook.com/news/8351474/|url-status=live|access-date=2021-02-23|website=[[สนุก.คอม]]|language=th}}</ref> |
||
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ผู้ชุมนุมในนาม "รีเด็ม-ประชาชนสร้างตัว" ซึ่งแตกสาขาออกมาจากกลุ่มเยาวชนปลดแอก<ref>{{Cite web|url=https://www.matichon.co.th/politics/news_2595694|title=เยาวชนปลดแอก เปิดตัว REDEM ช่องทางออกแบบการเคลื่อนไหว บันไดสู่ ปชต.|date=2021-02-24|access-date=2021-02-28|website=[[มติชน]]}}</ref> ได้เดินขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปชุมนุมประท้วงที่สระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นบ้านพักหลวงของประยุทธ์ ภายใน[[กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์]]{{Cite web|url=https://www.prachachat.net/politics/news-621696|title=มวลชนทยอยรวมตัวอนุสาวรีย์ชัยฯ ก่อนเดินไปบ้านพักนายก “ประยุทธ์”|date=2021-02-28|access-date=2021-02-28|website=[[ประชาชาติธุรกิจ]]}} |
|||
{{clear}} |
{{clear}} |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:02, 28 กุมภาพันธ์ 2564
การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564 | |||
---|---|---|---|
ตามเข็มนาฬิกาจากด้านบน:
| |||
วันที่ |
| ||
สถานที่ | อย่างน้อย 49 จังหวัดในประเทศไทย และมีการประท้วงในต่างประเทศส่วนหนึ่ง | ||
สาเหตุ |
| ||
เป้าหมาย |
| ||
วิธีการ | เดินขบวน แฟลชม็อบ รณรงค์ออนไลน์ เข้าชื่อ | ||
สถานะ | กำลังดำเนินอยู่
| ||
การยอมผ่อนปรน |
| ||
คู่ขัดแย้ง | |||
| |||
ผู้นำ | |||
| |||
จำนวน | |||
| |||
ความเสียหาย | |||
บาดเจ็บ | 76 คน[b] | ||
ถูกจับกุม | 167+ คน[c] | ||
ถูกตั้งข้อหา | 234+ คน[30] |
การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564 เป็นการประท้วงที่กำลังดำเนินอยู่ต่อรัฐบาลนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แรกเริ่มเกิดจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 การประท้วงเกิดขึ้นในพื้นที่สถานศึกษาทั้งหมด และหยุดไปช่วงหนึ่งจากการระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทย และการออกคำสั่งปิดสถานศึกษาเพื่อควบคุมโรค
การประท้วงกลับมาอุบัติขึ้นอีกครั้งในวันที่ 18 กรกฎาคม ในรูปแบบการเดินขบวนซึ่งจัดระเบียบภายใต้กลุ่ม "เยาวชนปลดแอก" ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นับเป็นการชุมนุมใหญ่สุดในรอบ 6 ปี มีการยื่นข้อเรียกร้อง 3 ประการต่อรัฐบาล ได้แก่ ให้ยุบสภาผู้แทนราษฎร หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ การประท้วงในเดือนกรกฎาคมนั้นเกิดจากผลกระทบทางเศรษฐกิจของโควิด-19 และการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) นับแต่นั้นทำให้ต่อมาการประท้วงได้ลามไปอย่างน้อย 44 จังหวัดทั่วประเทศ จนวันที่ 3 สิงหาคม กลุ่มผู้ประท้วงจัดปราศรัยเกี่ยวกับประเด็นพระราชอำนาจและเพิ่มข้อเรียกร้องในการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ หลังจากนั้น ประเด็นพระราชอำนาจดูเหมือนเข้ามารวมอยู่ในเป้าหมายการประท้วงด้วย กลุ่มประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาลจัดการชุมนุมตอบโต้ โดยกล่าวหาผู้ประท้วงว่าถูกยุยงปลุกปั่นมีเจตนาแฝงล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ การประท้วงในวันที่ 19 กันยายนมีผู้เข้าร่วม 20,000–100,000 คน หลังรัฐสภาลงมติเลื่อนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในปลายเดือนกันยายนทำให้เกิดการแสดงออกนิยมสาธารณรัฐอย่างเปิดเผยหมู่ครั้งแรกในประเทศไทย นายกรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพมหานครระหว่างวันที่ 15–22 ตุลาคม โดยอ้างเหตุขวางขบวนเสด็จฯ แต่ก็ถูกกล่าวหาว่าทางการจงใจจัดขบวนเสด็จฯ ฝ่าผู้ชุมนุม สมัยประชุมวิสามัญได้ข้อสรุปว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาการเมือง การประชุมในเดือนพฤศจิกายนมีการรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ ซึ่งยังคงมีวุฒิสภา และห้ามแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 และหมวด 2 ทำให้การประท้วงในเดือนพฤศจิกายนมุ่งเป้าไปยังพระมหากษัตริย์มากขึ้น และมีการเผชิญหน้าระหว่างผู้ประท้วงและกลุ่มคนเสื้อเหลือง
การตอบสนองของภาครัฐมียุทธวิธีประวิงเวลา การแจ้งข้อหาอาญาโดยใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีการใช้หน่วยสงครามข่าวสาร การตรวจพิจารณาสื่อ และมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนรัฐบาล และมีการป้ายสีมีรัฐบาลและมีองค์การนอกภาครัฐต่างประเทศให้การสนับสนุน บ้างกล่าวหาว่าผู้ประท้วงกำลังต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์หรือตกเป็นเหยื่อของนักการเมือง สื่อนิยมเจ้าและนิยมรัฐบาลพยายามลงข่าวให้เข้าใจว่าผู้ชุมนุมเป็นฝ่ายสร้างความรุนแรง
เบื้องหลัง
สาเหตุโดยตรง
ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา สถาปนาอำนาจและได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 คสช. ครองอำนาจบริหารประเทศเป็นเวลา 5 ปี 1 เดือน โดยไม่มีการตรวจสอบ เป็นช่วงที่สิทธิพลเมืองและสิทธิการเมืองของประชาชนถูกจำกัด และความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจกว้างขึ้น[31][32] หลังการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญไทย พ.ศ. 2559 ที่ผลเป็นข้อพิพาท ตลอดจนไม่เสรีและเป็นธรรม[33] รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ฉบับปัจจุบัน มีผลใช้บังคับ ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีส่วนที่ไม่เป็นประชาธิปไตยหลายอย่าง เช่น วุฒิสภาที่สมาชิกมาจากการแต่งตั้งทั้งหมดและมีอำนาจร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นเวลาห้าปี (สองคน) และผูกมัดให้รัฐบาลในอนาคตต้องปฏิบัติตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของ คสช. นักวิชาการเรียกว่าเป็นประชาธิปไตยที่มีการชี้นำ (guided democracy) โดยกองทัพ[34]
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ถูกมองว่า "เสรีบางส่วนและไม่เป็นธรรม" และเป็นอำนาจนิยมแบบมีการเลือกตั้ง (electoral authoritarianism)[35] ทำให้ คสช. สิ้นสุดลงแต่ในนาม อย่างไรก็ดี ระบบการเมืองเดิมยังดำเนินต่อในรูปพรรคทหารแบบประเทศเมียนมาร์[35] กองทัพยังคงดำเนินนโยบายและปฏิบัติตามคำสั่งของ คสช. พรรคร่วมรัฐบาลประกอบด้วยพรรคที่สนับสนุนประยุทธ์และพรรคเล็กที่ได้รับผลประโยชน์จากการตีความกฎหมายเลือกตั้งโดยคณะกรรมการการเลือกตั้งที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช.[36] อีกทั้งยังมีพรรคพวกในวุฒิสภา ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรตามรัฐธรรมนูญต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ในราชการปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ถูกแต่งตั้งตามกลไกของ คสช. ผู้มีอำนาจจำนวนมาก รวมทั้งผู้มีส่วนในอาชญากรรมที่มีการจัดตั้ง (organized crime) ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสำคัญ[35][37][38]
ระหว่างการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 พรรคอนาคตใหม่ได้รับเสียงตอบรับดีจากผู้มีความคิดก้าวหน้าและเยาวชน ซึ่งมองว่าเป็นทางเลือกสำหรับพรรคการเมืองแบบเก่าและต่อต้าน คสช.[39] เผยให้เน้นการแบ่งแยกทางเศรษฐกิจและสังคมตามรุ่นวัย[35] หลังรัฐบาลผสมอายุได้ 11 เดือน พรรคอนาคตใหม่ซึ่งเป็นฝ่ายค้านถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคในห้วงที่สภาผู้แทนราษฎรกำลังมีญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาล[40] อดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่เปิดโปงการมีส่วนร่วมของรัฐบาลใน 1MDB[41]
สาเหตุพื้นเดิม
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชอำนาจเพิ่มขึ้นกว่าพระราชอำนาจตามประเพณีที่ทรงอำนาจอยู่แล้วนับแต่รัชกาลก่อน พระองค์ทรงมีความเห็นในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และนำไปสู่การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญทั้งที่ผู้ออกเสียงลงคะแนนรับร่างรัฐธรรมนูญนั้นแล้ว[42] ในปี 2561 มีการแก้ไขให้พระองค์เป็นเจ้าของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งตามกฎหมายถือว่าเป็นของสาธารณะ วันที่ 16 กรกฎาคม 2562 คณะรัฐมนตรีชุดใหม่สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง โดยสมาชิกคณะรัฐมนตรีนั้นกล่าวสวามิภักดิ์ต่อพระมหากษัตริย์ แต่ไม่ได้กล่าวถึงรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นการละเมิดการสาบานก่อนเข้ารับตำแหน่งโดยไม่ยอมกล่าวแก้ไข[36] ในปี 2563 รัฐบาลโอนหน่วยทหาร 2 หน่วยให้เป็นส่วนราชการในพระองค์ ซึ่งดูเหมือนว่ากระทำในพระปรมาภิไธย[43] ในช่วงเดียวกัน พระองค์ยังถูกกล่าวหาว่าพยายามลบประวัติศาสตร์ โดยมีการทำลายอนุสรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคณะราษฎรและการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475[36]
การใช้บังคับกฎหมายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยเป็นหัวข้อถกเถียงมาตั้งแต่รัชกาลก่อน จำนวนคดีได้เพิ่มสูงสุดหลังรัฐประหารปี 2557[44] นักวิจารณ์มองว่ากฎหมายนี้เป็นอาวุธทางการเมืองที่ใช้ปราบปรามผู้เห็นต่าง และจำกัดเสรีภาพในการพูด แม้ไม่มีคดีใหม่ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งประยุทธ์กล่าวว่าทรงเป็นพระราชประสงค์ แต่ก็มีการใช้กฎหมายความมั่นคงอื่นแทน เช่น กฎหมายการปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116), พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 หรือความผิดฐานอั้งยี่ ซึ่งทั้งหมดล้วนมีโทษร้ายแรงพอ ๆ กับกฎหมายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย ในเดือนมิถุนายน 2563 การบังคับสูญหายของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ในประเทศกัมพูชา ได้รับความสนใจและเห็นใจในโลกออนไลน์[45]
เหตุการณ์ประจวบ
รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม และสั่งเคอร์ฟิวเพื่อจำกัดการระบาด รัฐบาลยังสั่งงดเดินทางเข้าประเทศจากต่างประเทศ[46] แม้ประเทศค่อนข้างประสบความสำเร็จในการควบคุมโรคแล้ว เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานทางสาธารณสุขที่ทนทาน[47][48] แต่รัฐบาลยังไม่ยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน และข้อจำกัดทางเศรษฐกิจที่รุนแรง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีความสำคัญของประเทศได้รับผลกระทบหนัก กองทุนการเงินระหว่างประเทศทำนายว่าจีดีพีไทยจะหดตัวลงร้อยละ 6.7 ในปี 2563[49] รัฐบาลกู้ยืมเงินและประกาศเงินกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านบาท (60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่มีผู้ได้รับประโยชน์จริงจำนวนน้อย[50]
วันที่ 15 กรกฎาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประกาศผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 3 คน แต่ 2 ใน 3 คนนั้น เป็นทหารชาวอียิปต์และครอบครัวอุปทูตซูดาน ซึ่งทั้งสองเป็นแขกพิเศษของรัฐบาล และรัฐบาลผ่อนผันมาตรการปฏิบัติต่อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 บางอย่าง รัฐบาลปิดบังพื้นที่เสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยสองรายนี้จนกระทั่งวันที่ 16 กรกฎาคม ทำให้ชาวเน็ตหลายคนเกรงว่าอาจมีการระบาดระลอกที่ 2[51] ประชาชนจำนวนมากจึงวิจารณ์ความล้มเหลวของรัฐบาลในการควบคุมโรคกับแขกวีไอพีเหล่านี้[52] และความล้มเหลวในการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19[53][54] วันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเดินทางลงพื้นที่จังหวัดระยอง ตำรวจจับผู้ประท้วงสองคนที่ถือป้ายข้อความประท้วงนายกรัฐมนตรีและเรียกร้องให้ลาออก มีรายงานว่าทั้งสองถูกตำรวจทำร้ายด้วย[55]
ลำดับเหตุการณ์
การประท้วงระยะแรก (เดือนกุมภาพันธ์)
การประท้วงระยะแรกเกิดจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ พรรคการเมืองฝ่ายค้านซึ่งได้รับความนิยมในหมู่เยาวชน เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563[56] จึงเกิดการเดินขบวนในมหาวิทยาลัย วิทยาลัยและโรงเรียนหลายแห่งทั่วประเทศตั้งแต่นั้นมา การประท้วงเหล่านี้มีแฮชแท็กที่จำเพาะกับสถาบันของพวกตน การประท้วงในช่วงแรก ๆ เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โรงเรียนที่ประท้วงด้วย เช่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาและโรงเรียนศึกษานารีวิทยา อย่างไรก็ดี การประท้วงเหล่านี้จำกัดอยู่ในสถาบันของตนเท่านั้น[57][58] ด้าน อาจารย์ ดร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ระบุว่า การประท้วงบนถนนไม่เคยสร้างการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย หากกองทัพยังอยู่ข้างรัฐบาล[1]
แฮชแท็กที่เกิดขึ้นในการประท้วงเดือนกุมภาพันธ์ เช่น ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้ #เสาหลักจะไม่หักอีกต่อไป, ในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ใช้ #เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ, ในมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ใช้ #มศวคนรุ่นเปลี่ยน อีกจำนวนหนึ่งใช้แสดงออกถึงความเป็นปรปักษ์กับกลุ่มผู้สนับสนุนเผด็จการ เช่น #KUไม่ใช่ขนมหวานราดกะทิ, #KKUขอโทษที่ช้าโดนสลิ่มลบโพสต์, #ศาลายางดกินของหวานหลายสี, #พระจอมเกล้าชอบกินเหล้าไม่ชอบกินสลิ่ม
ต่อมาการประท้วงหยุดไปจากสถานการณ์การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทย และคำสั่งปิดสถานศึกษาทั่วประเทศเพื่อควบคุมโรคโดยให้จัดการเรียนการสอนทางออนไลน์แทน
การประท้วงทางออนไลน์
การรณรงค์ให้หยุดก่อม็อบลงถนนหลังกรณีศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่เพราะกลัวให้เป็นข้ออ้างในการปราบปรามสังหารประชาชนหรือการรัฐประหารซ้อน[59] การติดแฮชแท็กในทวิตเตอร์เริ่มเป็นที่นิยมในชื่อ save เพื่อให้มีการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนจากรัฐ เช่น #saveวันเฉลิม (วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยในประเทศกัมพูชา)[60], #saveทิวากร ผู้สวมเสื้อ เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว[61]
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการประวัติศาสตร์และผู้ลี้ภัยทางการเมือง ทวีตตั้งคำถามเกี่ยวกับรัชกาลที่ 10 พร้อมใส่แฮชแท็กดังกล่าว จนนำไปสู่การที่กลุ่มเยาวชนกล้าพูดในเรื่องที่สุ่มเสี่ยงที่สุด คือ #กษัตริย์มีไว้ทำไม[62] เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ "นิรนาม_"ถูกจับกุมที่ทวิตภาพและข้อความเกี่ยวกับรัชกาลที่ 10 และถูกฝากขังที่ศาลพัทยา และไม่ได้รับการอนุญาตให้ประกันตัว โดยใช้การตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากบริษัททรู[63]
ต่อมาในวันที่ 24 เมษายน สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า สนท. ขอเชิญชวนชาวไทยทุกคนร่วมประท้วงออนไลน์ โดยการถ่ายรูปถือป้ายแสดงความรู้สึกต่อรัฐบาลพร้อมติด #MobFromHome "โควิดหายมาไล่รัฐบาลกันไหม?"[64] ส่งผลให้ในวันต่อมา (25 เมษายน) #MobFromHome พุ่งติดเทรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ประเทศไทย โดยมีผู้ใช้ทวิตเตอร์แต่ละบัญชีต่างออกมาระบายความอัดอั้นตันใจที่มีต่อรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์[65]
และวันที่ 27 เมษายน นายแพทย์ สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวร่วม #MobFromHome ด้วย และได้เปิดตัวแฮชแท็กใหม่อีกคือ #NoCPTPP เนื่องจากในวันถัดมา (28 เมษายน) คณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นำโดยจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะมีการเสนอให้ประเทศไทยเข้าร่วมข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก หรือ CPTPP ซึ่งจากข้อตกลงนี้มีกฎหมายข้างเคียงที่จะทำให้ไทยถูกเอาเปรียบทางด้านการเกษตรและด้านการแพทย์อย่างมาก เช่น ต่างชาติสามารถผูกขาดเมล็ดพันธุ์พืชได้ ยามีราคาแพงขึ้น สิทธิบัตรยาถูกผูกขาดมากขึ้น ทำให้ไทยมีความมั่นคงทางอาหารและยาลดลง[66] และ ตุล ไวฑูรเกียรติ นักร้องนำวงอพาร์ตเมนต์คุณป้า ก็ได้ออกมาร่วมรณรงค์ให้คัดค้าน CPTPP ด้วย จนทำให้แฮชแท็ก #NoCPTPP ก็ติดอันดับ 1 ในทวิตเตอร์[67] จนกระทั่งจุรินทร์ต้องสั่งถอนวาระเรื่อง CPTPP ออกจากวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีทันทีในวันนั้นเอง[68]
การประท้วงระยะที่สอง
การชุมนุมภายใต้ข้อเรียกร้อง 3 ประการ
วันที่ 18 กรกฎาคม ประเทศไทยมีการเดินขบวนตามถนนครั้งใหญ่สุดนับแต่รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557[69] ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในกรุงเทพมหานคร ผู้ประท้วงซึ่งรวมตัวกันในชื่อกลุ่ม "เยาวชนปลดแอก" (อังกฤษ: Free Youth) ยื่นข้อเรียกร้อง 3 ประการ ได้แก่ การยุบสภาผู้แทนราษฎร โดยผู้ประท้วงระบุเหตุผลว่า รัฐบาลได้ล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการระบาดทั่วของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย และการปล่อยละเลยให้บุคคลสำคัญจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่กักตัว 14 วัน จึงเป็นเหตุผู้ประท้วงไม่ไว้วางใจในการทำงานของรัฐบาล, การหยุดคุกคามประชาชน เนื่องจากมีการอ้างความมั่นคงเพื่อปิดปากประชาชน และยัดข้อหาให้ผู้ชุมนุม และ การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นการสืบทอดอำนาจระบอบเผด็จการ ผู้ประท้วงกำหนดระยะเวลาให้รัฐบาลตอบสนองภายใน 2 สัปดาห์ มิฉะนั้นผู้ประท้วงจะทำการยกระดับการชุมนุมต่อไป[70] สาเหตุการประท้วงเกิดจากเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งผู้ชุมนุมมองว่า มีวัตถุประสงค์แอบแฝงเพื่อห้ามการชุมนุมทางการเมือง[71][72] โดยการชุมนุมเริ่มต้นในเวลา 17:00 น. มีผู้เข้าร่วมประมาณ 2,500 คน มีประกาศจะปักหลักค้างคืนจนถึงเวลา 08:00 แต่ในช่วงเวลา 00:00 กลุ่มผู้ประท้วงประกาศยุติการชุมนุม เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย[73] ส่วน ศ.พิเศษ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักวิชาการประวัติศาสตร์ เตือนผู้ชุมนุมอย่าชุมนุมค้างคืน เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ 6 ตุลา[74]
วันที่ 19 กรกฎาคม เกิดการประท้วงขึ้นอีกหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดอุบลราชธานี[75]
วันที่ 22 กรกฎาคม มีการจัดกิจกรรม "อิสานสิบ่ทน" ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ และเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 เพิ่มขึ้นมา แฮชแท็ก #อีสานสิบ่ทน พุ่งติดเทรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ประเทศไทยอย่างรวดเร็ว[76]
วันเดียวกัน กลุ่ม "มศว คนรุ่นเปลี่ยน" จัดการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อ "ชมสวน" หมายความถึง สวนที่กรุงเทพมหานครนำต้นไม้กระถางมาวางโดยรอบบริเวณ ซึ่งมีการยกออกไปในภายหลัง[77]
จากนั้นการประท้วงได้ลามไปทั่วประเทศ มีการจัดระเบียบการเดินขบวนในกว่า 20 จังหวัดในวันที่ 23 กรกฎาคม[78] บางมหาวิทยาลัยและโรงเรียนสั่งห้ามบุคลากรและนักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมการชุมนุมและห้ามจัดการชุมนุมในพื้นที่โดยอ้างเหตุความกังวลเรื่องโควิด-19 พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกและกลุ่มนิยมรัฐบาลชี้ว่าการกระทำบางอย่างของนักศึกษาอาจเข้าข่ายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย วันที่ 24 กรกฎาคม ที่จัตุรัสท้าวสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา มีการจัดการนั่งยึดพื้นที่โดยกลุ่มอาจารย์และนักศึกษาจาก 4 มหาวิทยาลัยในจังหวัด นับเป็นการประท้วงครั้งใหญ่สุดครั้งหนึ่ง[79] วันที่ 27 และ 29 กรกฎาคม คนไทยที่กรุงลอนดอน ในสหราชอาณาจักร และนครนิวยอร์กในสหรัฐ ร่วมประท้วงต่อต้านรัฐบาลด้วย[80]
วันที่ 25 กรกฎาคม กลุ่มหลากหลายทางเพศ (LGBT) ชื่อ เสรีเทย เดินขบวนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้องกฎหมายสมรสเพศเดียวกันนอกเหนือจากข้อเรียกร้องสามข้อของเยาวชนปลดแอก[81] วันที่ 26 กรกฎาคม มีการจัดกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยโดยใช้ตัวการ์ตูนแฮมทาโร่ ตอนแรกเป็นการเคลื่อนไหวออนไลน์ทางทวิตเตอร์ จนกระทั่งมีผู้เข้าร่วมประมาณ 3,000 คน[77] วันที่ 29 กรกฎาคม มีการชุมนุมเกิดขึ้นหลายที่ทั่วประเทศ เช่น ที่ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ มีการชุมนุมของประชาชนราว 1,000 คน ก่อนหน้านี้ แกนนำ 4 คนถูกตั้งข้อหาซึ่งนัดเข้ามอบตัวในวันที่ 30 กรกฎาคม, ที่จังหวัดน่าน มีผู้ชุมนุมราว 100 คน ใช้แฮชแท็ก #คิดว่าน่านจะทนหรอ #น่านกระซิบลุง, ที่จังหวัดนครสวรรค์ มีผู้ชุมนุม 200 คน ใช้สโลแกนว่า "นครสวรรค์จะไม่ทน เราจะสู้ จนกว่าตะได้ประชาธิปไตยคืนมา", ที่จังหวัดสุพรรณบุรี มีการชุมนุมของกลุ่ม "สุพรรณจะไม่ทน" จำนวน 150 คน และที่จังหวัดนนทบุรี ผู้ชุมนุมร่วมร้องเพลงแฮมทาโร่[82]
วันที่ 30 กรกฎาคม มีการจัดการประท้วงโดยสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าทั้ง 3 สถาบัน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ภายใต้แฮชแท็ก #สามพระจอมจะยอมได้ไง ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตกรุงเทพมหานคร[83] วันเดียวกัน มีการชุมนุมของกลุ่มอาชีวะ 2 กลุ่ม ได้แก่ "กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ" ที่แสดงจุดยืน "พิทักษ์" สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งกล่าวหาว่ากลุ่มเยาวชนปลดแอก "ท้าทาย ต่อต้าน หรือกระทั่งล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์" มีจำนวนประมาณ 110 คน จัดการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อีกกลุ่มหนึ่งคือ "อาชีวะเพื่อประชาชน" และกลุ่ม "ฟันเฟืองประชาธิปไตย" ที่แสดงจุดยืนเข้ากับผู้ชุมนุม[84]
รายงานของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (TLHR) ระบุว่า จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม มีการจัดกิจกรรมแล้ว 75 ครั้งใน 44 จังหวัด ในจำนวนนี้ 5 กิจกรรมไม่สามารถจัดได้เพราะมีการคุกคามและปิดกั้นของทางการ[85]
ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
วันที่ 1 สิงหาคม กลุ่มเยาวชนปลดแอกพบว่า หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ รัฐบาลไม่ตอบสนองแก่ข้อเรียกร้อง 3 ประการที่เรียกร้องไป ซ้ำยังพบการคุกคามประชาชนด้วย พ.ร.ก. ฉุกเฉิน มากกว่าเดิมอีก จึงได้โพสต์เฟซบุ๊กประกาศยกระดับการชุมนุม โดยตั้งกลุ่มการเมืองใหม่ในชื่อ "คณะประชาชนปลดแอก" (อังกฤษ: Free People) และได้เชิญชวนประชาชนทุกเพศ ทุกวัย มาร่วมมือกับเยาวชนเพื่อขับไล่รัฐบาลชุดนี้ด้วย โดยได้นัดหมายการชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 16 สิงหาคม[86]
วิดีโอจากแหล่งข้อมูลภายนอก | |
---|---|
คำปราศรัยเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ของอานนท์ นำภา, วิดีโอยูทูบ |
วันที่ 3 สิงหาคม กลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มมอกะเสด (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) จัดการชุมนุม มีแฮชแท็กว่า #เสกคาถาไล่คนที่คุณก็รู้ว่าใคร[87] เป็นการวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ มีผู้เข้าร่วมประมาณ 200 คน[88] โดยเวลาประมาณ 20.00 น. อานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขึ้นปราศรัย[89] ความตอนหนึ่งกล่าวถึงพระราชอำนาจที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปกฎหมายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย[88] อานนท์ถูกตั้งข้อหาหลายข้อหา รวมทั้งข้อหาหนักสุดการปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116) และถูกตำรวจจับกุมในวันที่ 7 สิงหาคม[90] ภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำเยาวชนปลดแอกในวันที่ 18 กรกฎาคม ถูกจับกุมด้วยอีกคน ทำให้เกิดแฮชแท็ก #หยุดคุกคามประชาชน ปล่อยอานนท์ ปล่อยไมค์" #saveทนายอานนท์ #saveไมค์ #หยุดคุกคามประชาชน[91] องค์การนิรโทษกรรมสากลประเทศไทยออกแถลงการณ์ให้ถอนข้อหา และคุ้มครองสิทธิในการชุมนุมของประชาชน[91] ปฏิกิริยาจากการจับกุมดังกล่าวทำให้เกิดการประท้วงที่มีผู้เข้าร่วมประมาณ 1,000 คนในวันที่ 8 สิงหาคม[92] ประมาณต้นเดือนสิงหาคม เกิดการรณรงค์ #ไม่รับปริญญา หมายถึง ไม่เข้าร่วมพิธีพระราชทานปริญญาบัตร[93]
วันที่ 7 สิงหาคม ไอลอว์เริ่มจัดกิจกรรมรวบรวมรายชื่อเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ หวังรวบรวมรายชื่อ 50,000 รายชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน[94]
วันที่ 9 สิงหาคม มีการจัดการชุมนุม "เชียงใหม่จะไม่ทน" ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี อานนท์ นำภา ปราศรัยเรื่องข้อเสนอปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อีกครั้ง มีผู้ชมุนมประมาณ 500–1,000 คน[95]
วันที่ 10 สิงหาคม คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเข้ายื่นร่างพระราชบัญญัติออกเสียงลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีศูนย์กลางประสานงานนักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบันฯ (ศอปส.) ชุมนุมประท้วงตอบโต้ โดยกล่าวหาว่านักศึกษาถูกยุยงให้โจมตีรัฐบาลและกองทัพ และดึงสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้อง อีกทั้งคิดล้มระบอบการปกครอง กลุ่มของตนจะใช้วิธีบีบบังคับทางสังคมเปิดโปงชื่อบุคคลให้สาธารณะทราบ[96] นอกจากนี้ กลุ่ม ศอปส. ยังประกาศจัดตั้งในทุกจังหวัด[97]
ในช่วงเย็นถึงหัวค่ำ มีการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี ชื่อ "#ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" มีผู้เข้าร่วมจากหลายกลุ่มและหลายมหาวิทยาลัย และมีกลุ่มอาชีวะมาช่วยรักษาความปลอดภัยให้[98] รวมประมาณ 3,000 คน[99] และใช้สโลแกนว่า "เราไม่ต้องการปฏิรูป เราต้องการปฏิวัติ" มีตัวแทนสหภาพแรงงานร่วมปราศรัย เล่าถึงปัญหาความไม่เสมอภาคและสัญญายกระดับคุณภาพชีวิตของรัฐบาลที่ทำไม่ได้จริง[100] นอกจากนี้ มีการปราศรัยของอานนท์ นำภา, เปิดคลิปของปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ พร้อมกับยื่นข้อเสนอ 10 ข้อเพื่อปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อให้บทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยสอดคล้องกับระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ[100] ตามข้อมูลของเอพี ผู้ประท้วงในงานรู้สึกคละกันเกี่ยวกับข้อเรียกร้องดังกล่าว[99] กลุ่มผู้ประท้วง มธ. แจ้งยกเลิกนัดหมายชุมนุมในวันที่ 12 สิงหาคมเนื่องจากทราบมาว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดี[101]
|
วันที่ 14 สิงหาคม บีบีซีรายงานว่ามีการจัดประท้วงแนวร่วมเยาวชนปลดแอกใน 49 จังหวัด และประชาชนปกป้องสถาบันฯ 11 จังหวัด[102]
วันที่ 16 สิงหาคม คณะประชาชนปลดแอกซึ่งยกระดับจากกลุ่มเยาวชนปลดแอก[36] จัดการชุมนุม "ขีดเส้นตายไล่เผด็จการ" ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียนรีวิวรายงานอ้างตำรวจภาคสนามว่ามีผู้เข้าร่วมอย่างน้อย 20,000 คน[103] โดยผู้ชุมนุมย้ำข้อเรียกร้อง 3 ข้อเดิม และเพิ่ม 2 จุดยืน ได้แก่ ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติและรัฐประหาร รวมถึง 1 ความฝัน คือ ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ" กลุ่มยังยื่นคำขาดว่า ภายในเดือนกันยายน จะต้องยกเลิกวุฒิสภาชุดปัจจุบัน ซึ่งคณะประชาชนปลดแอกมองว่าเป็นกลไกสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้ได้[36] นอกจากนี้ในวันเดียวกัน มีการชุมนุมสนับสนุนในต่างประเทศ คือ ในกรุงไทเป ประเทศไต้หวัน ซึ่งมีชาวไต้หวัน ชาวฮ่องกงและชาวสิงคโปร์เข้าร่วมด้วยจำนวนหนึ่ง[104] มีนักเรียนหลายโรงเรียนร่วมประท้วงด้วย ใช้แฮชแท็ก #โรงเรียนหน้าเขาไม่เอาเผด็จการ มีการกล่าวถึง 4 แสนครั้ง แต่มีโพสต์จากโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ว่าครูตราหน้านักเรียนว่าโง่และถูกพรรคการเมืองหลอก[105] รวมทั้งมีกรณีปัดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของนักเรียนเสียหาย[106]
วันที่ 18 สิงหาคม กลุ่ม "นักเรียนเลว" จัดการประท้วงเป่านกหวีดที่กระทรวงศึกษาธิการเพื่อขับณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีต กปปส.[107]
วันที่ 30 สิงหาคม มีกลุ่ม "ไทยภักดี" ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยประมาณ 1,000–1,200 คนชุมนุมในสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง จัดโดยนักการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม ในพื้นที่ใกล้เคียงเกิดเหตุทำร้ายร่างกายภารโรงสูงอายุคนหนึ่งที่ใส่เสื้อแดง[108][109]
หลังสภาผู้แทนราษฎรรับข้อเสนออย่างเป็นทางการ
วันที่ 26 สิงหาคม กลุ่มนักศึกษายื่นข้อเรียกร้อง รวมทั้งข้อเสนอปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อสภาผู้แทนราษฎร[110] ต่อมาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสองฝ่ายยื่นญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ซึ่งรวมทั้งเพื่อแก้ไขวรคว่าด้วยวิธีดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ[111][112] วันที่ 28 สิงหาคม ผู้มีชื่อตามหมายจับจำนวน 15 คนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ ส.น. สำราญราษฎร์ ซึ่งได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ต้องวางประกัน วันเดียวกัน เกิดเหตุมีศิลปินสาดสีใส่ชุดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ[113]
วันที่ 9 กันยายน แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้แถลงรายละเอียดหน้าตึกโดม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เกี่ยวกับการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายน ซึ่งเป็นวันครบรอบ 14 ปี ของการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 ซึ่งจะเป็นการชุมนุมปักหลักค้างคืน และจะมีการเดินขบวนไปยื่นข้อเรียกร้องแก่พลเอกประยุทธ์ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันรุ่งขึ้น โดยคาดว่าจะใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์หรือท้องสนามหลวงเป็นที่ชุมนุม[114]
ก่อนหน้าชุมนุมที่มีการนัดหมายในวันที่ 19 กันยายน เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยปิดประตู[115] คณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่ามีอาสาสมัครตั้งเต็นท์ศูนย์อำนวยการติดตามการชุมนุม[116]
วันที่ 19 กันยายน กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดการชุมนุมภายใต้ชื่อ "19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร" แต่เป็นการชุมนุมใหญ่ครั้งแรกที่เชิญชวนประชาชนให้ปักหลักค้างคืน[117] มีการเจรจาระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยจนสามารถเข้าไปในพื้นที่ได้สำเร็จ[118] ในเวลาบ่าย ผู้ชุมนุมย้ายไปปักหลักที่ท้องสนามหลวง โดยมีเจ้าหน้าที่กั้นรั้วรอบพื้นที่พระบรมมหาราชวัง[117] ในช่วงเย็น มีประมาณการผู้ร่วมชุมนุมระหว่าง 20,000–100,000 คนแล้วแต่แหล่งข้อมูล[119][120] ฝ่ายตำรวจมีการระดมเจ้าพนักงานกว่า 10,000 นายเข้ามาในพื้นที่[121] เช้าวันที่ 20 กันยายน มีการทำพิธีฝังหมุดคณะราษฎรหมุดที่ 2 เพื่อรำลึกถึงหมุดคณะราษฎรเดิมที่หายไปในปี 2560[122][123] และผู้ประท้วงเปลี่ยนแผนจากการเคลื่อนไปทำเนียบรัฐบาล เป็นเคลื่อนไปทำเนียบองคมนตรีแทน และยื่นข้อเรียกร้องต่อประธานองคมนตรีผ่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาลก่อนสลายตัว[124] ไม่มีรายงานเหตุการณ์ความรุนแรง โดยพริษฐ์ ชิวารักษ์ ประกาศนัดชุมนุมอีกในวันที่ 14 ตุลาคม[124] หมุดดังกล่าวถูกนำออกจากบริเวณภายใน 24 ชั่วโมง[125] สื่อต่างประเทศบางสำนักระบุว่าการประท้วงครั้งนี้เป็นการประท้วงต่อการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างเปิดเผย[126]
วันที่ 24 กันยายน ซึ่งเป็นวันลงมติในญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มีการชุมนุมเพื่อกดดันสมาชิกวุฒิสภา สุดท้ายรัฐสภามีมติตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนรับหลักการ อันเป็นผลให้เลื่อนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญออกไปอย่างน้อย 1 เดือน ทำให้เกิดทวีต #RepublicofThailand (สาธารณรัฐไทย) ติดอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ในคืนนั้น นับเป็นการแสดงออกนิยมสาธารณรัฐแบบหมู่สาธารณะครั้งแรกในประเทศไทย[127]
ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งได้รับสมญาว่า "นักร้องการเมือง" ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกลุ่มผู้ชุมนุมว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม จนศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องในวันที่ 16 กันยายน โดยนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้หน่วยงานของราชการส่งหลักฐานให้แก่เขาในวันที่ 24 กันยายน ทั้งนี้เขาหวังว่าคำวินิจฉัยของศาลว่าจะสามารถตีความอย่างกว้างขวางเพื่อขัดขวางมิให้กล่าวถึงในประเด็นการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อีกต่อไป และยังสามารถดำเนินคดีกับผู้สนับสนุนต่าง ๆ ได้[128]
วันที่ 2 ตุลาคม กลุ่มนักเรียนมัธยม "นักเรียนเลว" จัดการประท้วงในโรงเรียนหลายแห่งในกรุงเทพมหานครเพื่อประท้วงการละเมิดนักเรียน แล้วชุมนุมกันที่กระทรวงศึกษาธิการเพื่อเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลาออกอีกครั้ง[129]
สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง
วิดีโอจากแหล่งข้อมูลภายนอก | |
---|---|
ขบวนเสด็จฯ ฝ่าแนวผู้ชุมนุมประท้วง 14 ตุลาคม 2563, วิดีโอเฟซบุ๊ก | |
เหตุทำร้ายร่างกายนักศึกษาในมหาวิทยาลัยรามคำแหง 21 ตุลาคม 2563, วิดีโอทวิตเตอร์ |
วันที่ 13 ตุลาคม ก่อนหน้าวันที่นัดหมายชุมนุมใหญ่ 1 วัน ผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งชุมนุมกันที่ถนนราชดำเนินใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อประท้วงขบวนเสด็จฯ[130] โดยระหว่างขบวนเสด็จฯ ผ่านผู้ประท้วงได้ชูสัญลักษณ์มือสามนิ้วซึ่งเป็นการแสดงออกไม่พอใจพระมหากษัตริย์ไทยอย่างเปิดเผย มีการสลายการชุมนุม และมีผู้ประท้วงถูกจับกุม 21 คน ต่อมาแฮชแท็กโจมตีพระมหากษัตริย์ติดอันดับทวิตเตอร์[131]
วันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันนัดชุมนุมใหญ่ เริ่มมีการชุมนุมตั้งแต่เช้าภายใต้ชื่อ "คณะราษฎร" จำนวนหลายหมื่นคน[132] โดยประกาศจะเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้ประยุทธ์ลาออก[133] ปรากฏว่าทางการสั่งขนผู้ประท้วงตอบโต้โดยใช้พาหนะของราชการ[134] ส่วนกลุ่มนิยมเจ้า เช่น ไทยภักดี และองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน จัดการประท้วงตอบโต้[135] วันเดียวกัน เกิดเหตุทำร้ายร่างกายผู้ประท้วงโดยฝ่ายตรงข้าม มีการเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลแล้วตั้งเต้นท์และเวทีปราศรัยโดยรอบทั้ง 4 ทิศ ทั้งนี้ การประท้วงดังกล่าวตรงกับการเสด็จพระราชดำเนินตามหมายกำหนดการ ซึ่งผ่านบริเวณชุมนุมที่ถนนพิษณุโลกและไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการล่วงหน้า และทั้งที่กำหนดการเดิมว่าจะใช้ถนนราชดำเนิน[136] ไม่มีการขัดขวางขบวนเสด็จ แต่นายกรัฐมนตรีออกแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่าจะดำเนินคดีอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ขัดขวางขบวนเสด็จฯ ตามอ้าง[136] เช่นเดียวกับกลุ่มฝ่ายขวาและสื่อที่รีบออกมาโจมตีผู้ชุมนุม[137][138] ด้านอานนท์ นำภา กล่าวว่า ราชการจงใจจัดขบวนเสด็จฯ ฝ่าบริเวณชุมนุม และอานนท์กะจำนวนผู้เข้าร่วมประท้วงประมาณ 200,000 คนก่อนเวลาเที่ยงคืน[139]
วันที่ 15 ตุลาคม เวลา 04:00 น. นายกรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร มีคำสั่งห้ามชุมนุม และจำกัดการนำเสนอข่าว[140] รวมถึงจัดตั้งกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) ขึ้นมาควบคุมสถานการณ์โดยเฉพาะ[141] ทำให้ตำรวจใช้อำนาจนี้เข้าสลายการชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาล โดยมีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 20 คน และผู้ชุมนุมนัดหมายอีกครั้งในเวลา 16:00 น. ที่แยกราชประสงค์ ส่งผลให้แฮชแท็ก #15ตุลาไปราชประสงค์ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 แม้การเชิญชวนไปชุมนุมจะเป็นความผิด[142] วันเดียวกัน นายตำรวจระดับสูงสามนายถูกสั่งย้ายและสอบสวนจากกรณีขบวนเสด็จฯ[143] มีการส่งกำลังทหารมายังทำเนียบรัฐบาลและอาคารรัฐสภา[144] ส.ส. ฝ่ายค้านจึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นบรรยากาศเหมือนช่วงก่อนเกิดรัฐประหารปี 2557[145] พรรคร่วมฝ่ายค้านเรียกร้องให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพมหานคร และเปิดสมัยประชุมวิสามัญ[146] การประท้วงในเวลาเย็นที่แยกราชประสงค์ดำเนินต่อไป โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 13,500 คน[147] มีผู้ถูกจับกุมเพิ่มอีกอย่างน้อย 20 คน[148] แต่ผู้ประท้วงยืนยันจะประท้วงต่อโดยใช้ยุทธวิธีแฟลชม็อบ[149] มีนักกิจกรรมถูกจับกุม 2 คนฐานประทุษร้ายพระราชินี[150] ด้านศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่ามีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 51 คนระหว่างวันที่ 13 ถึง 15 ตุลาคม[28]
วันที่ 16 ตุลาคม ประยุทธ์กล่าวถึงผู้ประท้วงตอนหนึ่งว่า "อย่าประมาทกับชีวิต เพราะคนเราสามารถตายได้ทุกเวลา อย่าไปท้าทายกับพญามัจจุราช"[151] โดยเป็นการยกคำสอนตอนหนึ่งของพระพุทธเจ้า แต่ถูกมองว่าเป็นการขู่ฆ่าอย่างทรราช[152] ในเวลาเย็น ผู้ประท้วงที่ไม่มีอาวุธประมาณ 2,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น จัดแฟลชม็อบที่แยกปทุมวัน โดยเปลี่ยนจากแยกราชประสงค์ที่มีตำรวจประจำอยู่หนาแน่น แต่ไม่ถึงสองชั่วโมงถัดมาก็ถูกตำรวจสลายการชุมนุม มีรายงานใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง น้ำผสมสารเคมี[147] และแก๊สน้ำตา[153] ด้านหัวหน้าพรรคก้าวไกลพยายามเจรจากับตำรวจขอให้เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บออกจากที่ชุมนุม แต่ไร้ผล ด้านผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกล่าวว่ามีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 100 คน[29] หลังมีการสลายการชุมนุม นักศึกษาหลายมหาวิทยาลัยจัดแฟลชม็อบเพื่อประณามการกระทำดังกล่าว[154][155][156] ขณะที่วรงค์ เดชกิจวิกรมและอัษฎางค์ ยมนาคหยิบยกคลิปโดยสำนักข่าวเอเอฟพีที่มีผู้ประท้วงใช้คีมตัดเหล็กฟาดใส่ตำรวจในชุดเกราะมาตั้งคำถามว่าผู้ชุมนุมมือเปล่าจริงหรือไม่[157][158] สีของน้ำนั้นคาดการณ์ว่าเป็นเมทิลลีนบลู, แอเซอร์เอ, หรือไทโอนีน และใช้ติดตามตัวบุคคลเป็นเวลาหลายวัน[159] ด้านตำรวจไม่สามารถยืนยันประเภทของสารเคมีได้แน่ชัด ทำให้ถูกวิจารณ์ว่าดูไม่ได้ศึกษาสารเคมีที่จัดซื้อมา[160]
วันที่ 17 ตุลาคม ผู้ชุมนุมในนาม "กลุ่มราษฎร" ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจากคณะราษฎร และตำรวจประเมินว่ามีจำนวนประมาณ 23,000 คน จัดการชุมนุมในรูปแบบไร้แกนนำในหลายจุดในกรุงเทพมหานคร ทำให้รัฐบาลสั่งปิดระบบขนส่งมวลชน และมีผลกระทบต่อผู้โดยสารหลายแสนคน[161] การชุมนุมในวันที่ 18 ตุลาคม จัดที่แยกอโศกมนตรี แยกบางนา และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นหลัก เป็นการชุมนุมโดยสงบและไม่ยืดเยื้อ พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะผู้อำนวยการ กอร.ฉ. ใช้อำนาจสั่งปิดสถานีรถไฟฟ้าและสกายวอล์คในบริเวณดังกล่าว[162] ตำรวจระบุว่ามีผู้ชุมนุมประมาณ 6,000 คน ตามแยกต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งยังไม่รวมการประท้วงในอีกหลายจังหวัด[163] วันที่ 21 ตุลาคม กลุ่มคณะราษฎรเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่ง แต่ถูกตั้งเครื่องกีดขวางอย่างแน่นหนาและมีฝ่ายตรงข้ามพยายามขวาง[164] เกิดเหตุการณ์กลุ่มชายชุดเหลืองที่ประกาศตนว่าสนับสนุนสถาบันพระมหากษัตริย์ก่อเหตุฝ่าแนวกั้นตำรวจเข้าทำร้ายกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้นักศึกษาต้องย้ายสถานที่ชุมนุม ซึ่งกลุ่มชายชุดเหลืองประกาศว่าเป็นชัยชนะ[165][166][167] มีนักศึกษาได้รับบาดเจ็บ 1 คนและเข้าแจ้งความดำเนินคดี[15] วันเดียวกัน ประยุทธ์ออกแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ขอให้ทั้งสองฝ่ายลดความรุนแรงและแก้ไขสถานการณ์ผ่านกระบวนการรัฐสภา ขอให้ผู้ประท้วงลดคำพูดที่ "ก่อให้เกิดความแตกแยก"[168][169] วันที่ 22 ตุลาคม ประยุทธ์ออกประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพมหานคร[170][171]
ประยุทธ์จัดสมัยประชุมวิสามัญของรัฐสภาไทย 26–27 ตุลาคม 2563[172] แต่ผู้ประท้วงต้องการให้นายกรัฐมนตรีลาออกก่อนเพื่อเป็นการแสดงความสุจริตใจก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ[173] ในสมัยประชุมนั้นไม่มีประเด็นใดตอบสนองข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง[174][175] หลังการประชุม ประยุทธ์กล่าวว่ารัฐบาลจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และตั้งคณะกรรมการหาทางออก แต่ตนจะไม่ลาออก[176]
การประท้วงที่พุ่งเป้าไปยังพระมหากษัตริย์ และม็อบชนม็อบ
วันที่ 24 ตุลาคม กลุ่มราษฎรพบว่าประยุทธ์ไม่ลาออกจากตำแหน่งตามกำหนด จึงประกาศยกระดับการชุมนุมอีกครั้ง โดยไผ่ ดาวดิน ได้จัดการชุมนุมในวันที่ 25 ตุลาคม ที่แยกราชประสงค์ นับเป็นการชุมนุมใหญ่ที่แยกราชประสงค์ของกลุ่มราษฎรเป็นครั้งที่ 2[177] และในวันถัดมาคือวันที่ 26 ตุลาคม ได้เดินขบวนจากแยกสามย่านไปยังสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี เพื่อยื่นหนังสือสอบถามเกี่ยวกับการใช้พระราชอำนาจในประเทศเยอรมนีของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเฮโค มาส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี ได้ระบุว่า ได้ติดตามสิ่งที่พระองค์ทำระหว่างประทับอยู่ในเยอรมนีมานานพอสมควรแล้ว และยังคงตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีการทำผิดกฎหมายจะดำเนินการทันที[178] จากนั้นในวันที่ 29 ตุลาคม มีการชุมนุมหน้าวัดพระศรีมหาอุมาเทวี เพื่อประท้วงเสื้อผ้าของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยมีรายงานว่าได้รับจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน 13 ล้านบาท[179][180][181] วันที่ 30 ตุลาคม เกิดการชุมนุมหน้าสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น หลังพริษฐ์ ชิวารักษ์ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และภาณุพงศ์ จาดนอก ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ แต่ตำรวจอายัดตัวต่อ[182] ซึ่งพบร่องรอยการบาดเจ็บ การถูกทำร้าย ขาดน้ำและอดนอน[16]
วันที่ 3 พฤศจิกายน มีการประท้วงหน้าศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อประท้วงการสั่งปิดเว็บไซต์สื่อลามก พอร์นฮับ ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าพยายามปกปิดภาพของพระมหากษัตริย์ที่ละเอียดอ่อน[183]
วันที่ 8 พฤศจิกายน กลุ่มราษฎรจัดกิจกรรมส่งราษฎรสาส์นถึงพระมหากษัตริย์ที่สำนักพระราชวัง แต่ถูกตำรวจฉีดน้ำสกัดก่อนถึงที่หมายโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าและยังไม่ทันเจรจา[184] จนสุดท้ายได้หย่อนจดหมายที่ตู้ไปรษณีย์จำลองโดยไปไม่ถึงสำนักพระราชวัง กลุ่มผู้ชุมนุมยังมีแถลงการณ์ระบุว่า "กษัตริย์มิอาจเลือกที่รักมักที่ชัง"[184] มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน เป็นเจ้าหน้าที่ 1 คน[17] ด้านตำรวจออกมาขอโทษผู้ชุมนุมโดยอ้างว่าเป็นความผิดพลาด "มือลั่น"[185] แต่ต่อมาอ้างว่าเป็นการฉีดน้ำหลังจากพยายามเจรจาแล้วไม่เป็นผล[184] ทางการและหน่วยสารสนเทศของรัฐบาลส่งต่อภาพที่ปรากฏว่ามีผู้ชุมนุมขว้างวัตถุที่เหมือนติดไฟใส่ตำรวจและพยายามสร้างภาพว่าผู้ประท้วงใช้ความรุนแรง แต่ผู้ชุมนุมระบุว่าเป็นเพียงระเบิดควันเท่านั้น ซึ่งปาไปเพราะต้องการบดบังทัศนวิสัยหลังฉีดน้ำรอบแรก[186]
วันที่ 10 พฤศจิกายน เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติประเมินว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีผู้เข้าร่วมลดลงทั่วประเทศ โดยประเมินว่ามีจำนวนไม่เกิน 15,000 คนในกรุงเทพมหานคร และไม่เกิน 20,000 คนทั่วประเทศ พร้อมขู่ว่าเมื่อกระแสอ่อนแรงเมื่อไรจะดำเนินคดีตามกฎหมาย[187]
วันที่ 14 พฤศจิกายน กลุ่มประท้วงประมาณ 20 กลุ่ม ซึ่งมีตั้งแต่นักเรียนมัธยมปลาย นักกิจกรรมสิทธิสตรีและ LGBTQ ร่วมจัดการประท้วงในงาน "ม็อบเฟสต์" กลุ่มนักเรียนมีการใช้ผ้าคลุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเกิดการปะทะกับตำรวจเล็กน้อย ซึ่งสื่อรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บที่ขา 1 นาย[19]
วันที่ 17 พฤศจิกายน รัฐสภาเริ่มต้นการประชุมเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ การประท้วงนอกอาคารรัฐสภาในวันนั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 55 คน หลังผู้ประท้วงพยายามเข้าใกล้อาคารและถูกตำรวจสกัดด้วยปืนใหญ่ฉีดน้ำและแก๊สน้ำตาสีม่วง ต่อมาในช่วงค่ำ เกิดการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับผู้ประท้วงนิยมเจ้าสวมเสื้อเหลือง ซึ่งมีผู้ถูกปืนยิง 6 คน[18][188] มีคนสวมเสื้อเหลืองคนหนึ่งถูกจับกุมในบริเวณนั้นฐานครอบครองปืนสั้นและเครื่องกระสุน แต่เขาอ้างว่าพกมาเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น[189] สำหรับสารที่ตำรวจใช้นั้น อาจารย์วิชาเคมีคนหนึ่งเปิดเผยว่ามีสารเคมีหลายชนิดในกลุ่มแก๊สน้ำตา แต่มีการผสมให้เข้มข้นมาก และทำให้ผู้ถูกสารมีตุ่มน้ำพุพอง[190]
วันที่ 18 พฤศจิกายน รัฐสภาลงมติรับหลักการของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ซึ่งให้มีวุฒิสภาต่อไป และห้ามแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 และหมวด 2 แต่ปฏิเสธร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ไอลอว์ยกร่าง[191] ผู้ชุมนุมที่รู้สึกโกรธเพราะถูกปฏิเสธร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ไอลอว์ยกร่างและการใช้กำลังของตำรวจเมื่อวันก่อนจึงยกระดับการชุมนุมและไปชุมนุมกันที่แยกราชประสงค์อีกครั้ง นับเป็นการชุมนุมใหญ่ที่แยกราชประสงค์ของกลุ่มราษฎรเป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนชื่อแยกเป็น "ราษฎรประสงค์" และเดินขบวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสาดสีและเติมรอยขูดขีดเขียนในบริเวณนั้น ก่อนจะนัดชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 25 พฤศจิกายน เวลา 15:00 น. ที่หน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ บริเวณวังแดง เพื่อทวงคืนทรัพย์สินที่ควรเป็นของราษฎร วันต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลรีบทำความสะอาดป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บ้างใช้สีขาวหรือสีดำทาทับพื้นถนน และประยุทธ์ขอบใจการกระทำนี้[192]
วันที่ 21 พฤศจิกายน กลุ่มนักเรียนเลวจัดกิจกรรม "บ๊ายบายไดโนเสาร์" ซึ่งหมายถึงสมาชิกรัฐสภาที่มีความคิดล้าสมัย ในกิจกรรมมีหญิงในชุดนักเรียนถือกระดาษมีข้อความว่า "หนูถูกครูทำอนาจาร รร.ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย"[193] ทำให้มีสมาชิกวุฒิสภาฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลออกมากล่าวหาในเรื่องความจริงใจและเจตนาของเธอ[194][195]
วันที่ 23 พฤศจิกายน ตำรวจล้อมรั้วลวดหนามและตู้คอนเทนเนอร์รอบสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งติดตั้งป้าย "เขตพระราชฐาน" ในยามวิกาล[196] วันที่ 24 พฤศจิกายน ตำรวจออกหมายเรียกแกนนำผู้ชุมนุมจำนวน 12 คน ให้เข้าไปรับทราบข้อหาความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งในครั้งแรกตำรวจขอหมายจับ แต่ศาลไม่อนุมัติ[197] ตอนดึก ผู้ชุมนุมประกาศย้ายสถานที่จัดการชุมนุม โดยย้ายไปชุมนุมที่หน้าเอสซีบีพาร์กพลาซา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ บนถนนรัชดาภิเษกแทน โดยระบุว่าเพื่อลดโอกาสในการปะทะกับกลุ่มคนเสื้อเหลือง[198]
วิดีโอจากแหล่งข้อมูลภายนอก | |
---|---|
คลิปบุคคลปาวัตถุระเบิด ณ ที่ชุมนุม 25 พฤศจิกายน 2563, วิดีโอทวิตเตอร์ |
วันที่ 25 พฤศจิกายน เวลา 15:00 น. กลุ่มราษฎรได้จัดชุมนุมที่หน้าเอสซีบีพาร์กพลาซาตามกำหนด[199]พริษฐ์ ชิวารักษ์ ปราศรัยว่า การเข้ามาทำธุรกิจของสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นไม่สง่างาม และต้องทวงคืนกลับมาเป็นสมบัติของชาติ และมีการเสนอเพื่อรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อยกเลิก พ.ร.บ. จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2561 และให้แยกทรัพย์สินส่วนพระองค์กับทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์[200] จากนั้นสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ได้ขึ้นปราศรัยต่อว่า การที่รัฐบาลกลับมาใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ถือเป็นการขัดพระบรมราชโองการ และจากสาเหตุนี้ประยุทธ์ควรลาออก[201] ทั้งนี้ผู้ชุมนุมได้ประกาศจัดการชุมนุมต่อเนื่องยาว 5 วัน[202] ก่อนหน้านี้ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีความคิดที่จะใช้กฎอัยการศึก[203] จากนั้นในช่วงดึกเกิดเสียงระเบิดและเสียงปืนดังขึ้นในบริเวณที่ชุมนุม มีการ์ดผู้ชุมนุมถูกยิงได้รับบาดเจ็บและนำตัวส่งโรงพยาบาล 2 คน[20][204] ด้านผู้ชุมนุมจับตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้[205] ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าตำรวจเข้าระงับเหตุล่าช้า[206] วันรุ่งขึ้น ตำรวจแถลงว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นเหตุวิวาท โดยอ้างคลิปวิดีโอที่เข้าใจว่าเป็นการ์ดผู้ชุมนุมสนทนากัน และยังไม่มีการควบคุมตัวผู้ใด ส่วนประยุทธ์รีบออกแถลงการณ์ว่ารัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง[206] นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลอ้างว่าเป็นการยิงกันเองเพื่อสร้างสถานการณ์[207]
วันที่ 27 พฤศจิกายน กลุ่มราษฎรจัดกิจกรรม "ซ้อมต้านรัฐประหาร" ที่ห้าแยกลาดพร้าว โดย ภาณุพงศ์ จาดนอก ได้ขึ้นเวทีเพื่อปราศรัยวิธีการต่อต้านรัฐประหาร โดยนำรถยนต์ไปจอดทิ้งไว้บนถนนสายต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อขัดขวางการเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหาร รวมทั้งรวมตัวกันขัดขืนคำสั่งของคณะรัฐประหาร[208]
วันที่ 29 พฤศจิกายน กลุ่มราษฎรจัดชุมนุมเดินขบวนจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ของรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท ไปยังกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ทั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแผนจากเดิมที่จะจัดชุมนุมหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ซึ่งตำรวจได้ล้อมรั้วลวดหนามและตู้คอนเทนเนอร์ไว้โดยรอบ และเมื่อถึงกรมทหารราบที่ 11 แกนนำได้อ่านแถลงการณ์เกี่ยวกับการถ่ายโอนอำนาจของกองกำลังทหารให้คืนสู่ต้นสังกัดเดิม[209]
วันที่ 1 ธันวาคม กลุ่มนักเรียนเลว จัดกิจกรรมนัดแต่งชุดไปรเวทไปโรงเรียนในวันเปิดภาคเรียน เพื่อต่อต้านกฎระเบียบเกี่ยวกับชุดนักเรียน ที่กลุ่มนักเรียนเลวระบุว่า "ล้าหลัง" ขณะเดียวกัน ภาคีนักเรียนขอนแก่น (ภาคีนักเรียน KKC) ก็ได้จัดกิจกรรมนัดแต่งไปรเวทด้วยเช่นกัน โดยระบุว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการตั้งคำถามต่อการบังคับให้นักเรียนต้องแต่งชุดนักเรียน ว่าท้ายที่สุดแล้วการสวมชุดนักเรียนมีประโยชน์อย่างไร และผลการเรียนขึ้นอยู่กับการแต่งชุดนักเรียนหรือไม่ ซึ่งจากกิจกรรมนี้ทำให้ บางโรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนที่แต่งชุดไปรเวทสามารถเข้าเรียนได้ แต่บางโรงเรียนต้องประกาศให้แต่งชุดนักเรียนในวันเปิดเทอม หากแต่งชุดไปรเวทจะไม่อนุญาตให้เข้าเรียน บ้างก็ให้ไปคุยกับผู้บริหารในห้องปกครองนานหลายชั่วโมง[210]
วันที่ 2 ธันวาคม หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าประยุทธ์ไม่ได้กระทำการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเข้าพักอาศัยในบ้านพักราชการทหาร กลุ่มราษฎรจึงประกาศยกระดับการชุมนุมอีกครั้งที่ห้าแยกลาดพร้าว โดยได้ปิดการจราจรบนถนนพหลโยธินตั้งแต่บริเวณห้าแยกลาดพร้าวจนถึงแยกรัชโยธิน[211] จากนั้นครูใหญ่ อรรถพล ได้ขึ้นเวทีวิพากษ์วิจารณ์คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และมีการทุบศาลพระภูมิเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์[212] หลังจากนั้นการประท้วงได้หยุดลงชั่วคราวอีกครั้งเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ในระลอกใหม่
วันที่ 31 ธันวาคม กลุ่ม We volunteer หรือ วีโว่ จัดกิจกรรมจำหน่ายกุ้งสด บริเวณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยมีนายแพทย์ ทศพร เสรีรักษ์ เข้าร่วม ต่อมาตำรวจได้จับกุมปิยรัฐ จงเทพ แกนนำการชุมนุม โดยมีการปะทะมีผู้บาดเจ็บหนึ่งราย จากการทำร้ายร่างกายบริเวณใบหน้า[213] ต่อมาเวลา 23.35 น. มีเหตุคนร้ายวางระเบิดเกิดขึ้น มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย ตลอดทั้งวันรวม 5 ราย
หลังการระบาดของโควิด-19 รอบสอง
ในระหว่างช่วงที่หยุดพักการชุมนุมบนท้องถนน การประท้วงยังคงดำเนินต่อไปบนโลกออนไลน์ ขณะที่ผู้ชุมนุมที่มีชื่อเสียงยังต้องต่อสู้คดีความ ระหว่างเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2563 มีผู้ถูกดำเนินคดี 38 คน[30] วันที่ 14 มกราคม 2564 มีนักศึกษาคนหนึ่งถูกจับกุมที่หอพักในเวลาดึก ทำให้มีการจัดการประท้วงแฟลชม็อบที่สถานีตำรวจในเวลาไล่เลี่ยกัน[214] วันที่ 16 มกราคม นักกิจกรรม 5 คนถูกจับกุมหลังกลับมามีการชุมนุมบนถนนอีก เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ เกิดเหตุระเบิดซึ่งคาดว่าเป็นระเบิดปิงปองโดยดูเหมือนว่าปาใส่ตำรวจปราบจลาจล ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความรุนแรง[215] วันเดียวกัน การ์ดราษฎรคนหนึ่งถูกลักพาตัว จนมาพบตัวอีกครั้งในวันที่ 17 มกราคม โดยคาดว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่ความมั่นคง[216]
การประท้วงระยะที่สาม
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ อัยการสั่งฟ้องแกนนำกลุ่มราษฎร 4 คนในหลายข้อหา รวมทั้งความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์[217] และคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว[218] ทำให้ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรกลับมาจัดการชุมนุมบนท้องถนนอีกครั้งในรอบ 3 เดือน โดยจัดกิจกรรม "รวมพลคนไม่มีจะกิน ตีหม้อไล่เผด็จการ" บนสกายวอล์กวันสยาม แยกปทุมวัน โดยผู้ชุมนุมได้นำหม้อ จาน ชาม มาตีและเคาะ[219] ซึ่งเป็นการเลียนแบบจากการที่ผู้ชุมนุมในประเทศพม่าตีหม้อ จาน ชาม เพื่อต่อต้านการรัฐประหารในประเทศพม่า[220] ส่วนเนื้อหาในการชุมนุมมีทั้งมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่ทำให้ประชาชนตกงาน, การบริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลวของรัฐบาล และการจัดหาวัคซีนที่ล่าช้า[221] จากนั้นปนัสยาประกาศว่ามีผู้ชุมนุมจำนวน 10 คน ถูกควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ผู้ชุมนุมจึงได้เคลื่อนขบวนลงจากสกายวอล์กวันสยามไปยังสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน[222] เมื่อถึงสถานีตำรวจ ภาณุพงศ์ได้เข้าเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ปล่อยตัว และประกาศว่าหากเจ้าหน้าที่ไม่ยอมปล่อยตัวผู้ชุมนุมภายในเวลา 20:30 น. ผู้ชุมนุมจะบุกเข้าไปในโรงพัก[223] จากนั้นเกิดเสียงดังคล้ายระเบิดต่อเนื่องประมาณ 3-4 ลูกบริเวณแนวกั้น[224] จากนั้น ปนัสยาจึงได้กล่าวปราศรัยว่า ที่ผ่านมาพวกเขาต่อสู้แบบประนีประนอม ไม่ใช้ความรุนแรง และได้เชิญชวนให้ประชาชนออกมาชุมนุมบนถนนกันให้มากขึ้น รวมถึงจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาควบคู่ไปกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาด้วย ก่อนจะยุติการชุมนุม[225] ตำรวจวางกำลังประมาณ 100 นาย เผชิญหน้ากับผู้ประท้วงกว่า 1,000 คน มีการใช้แก๊สน้ำตา แต่ตำรวจรีบออกมาบอกว่าเป็นแก๊สน้ำตาที่ถูกขโมยไปจากการชุมนุมก่อนหน้านี้ ทั้งที่ยังไม่ได้มีการสอบสวน[226] มีนักกิจกรรมถูกจับกุมราว 10 คน[227]
วิดีโอจากแหล่งข้อมูลภายนอก | |
---|---|
ตำรวจกระทืบผู้แต่งเครื่องแบบแพทย์สนาม, คลิปทวิตเตอร์ |
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผู้ประท้วงจัดการประท้วงอย่างสันติอีกครั้ง โดยจัดกิจกรรมปราศรัยและห่ออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้วยผ้าแดง ก่อนเคลื่อนไปยังศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร[228] แต่ในเวลาหัวค่ำหลังผู้ประท้วงส่วนใหญ่แยกย้ายตามประกาศของแกนนำแล้ว ก็ได้เกิดการปะทะระหว่างผู้ประท้วงที่เหลือกับตำรวจ เกิดเสียงระเบิดดังหลายครั้ง และตำรวจอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 20 คน[228] และมีผู้ประท้วงถูกจับกุม 11 คน[229] นอกจากนี้ยังมีการ์ดอาชีวะคนหนึ่งถูกยิงที่ขาด้วยปืนที่คาดว่าเป็นลูกซองสั้น ผู้ประท้วงเข้าปิดล้อมร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่ผู้ลงมือหลบหนีเข้าไปจนตำรวจตามมาจับกุมในภายหลัง[230] มีคลิปวิดีโอออกมาว่า ผู้สวมชุดแพทย์อาสาถูกตำรวจรุมทำร้าย[228] จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้แฮชแท็ก #ตำรวจกระทืบหมอ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ โดยมีประชาชนเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิการกระทำของตำรวจเป็นจำนวนมาก[231]
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรได้จัดกิจกรรม "ม็อบเฟสต์" ครั้งที่ 2 ที่หน้าสัปปายะสภาสถาน โดยมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาจำนวน 8 ประเด็น[232] ซึ่งกิจกรรมนี้ก็ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ด้วย โดยในวันดังกล่าวได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมจากหลากหลายกลุ่มทั่วประเทศมาร่วมชุมนุมด้วย[233] และวันที่ 23 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรได้จัดการชุมนุมใหญ่ที่แยกราชประสงค์เป็นครั้งที่ 4 และเป็นครั้งที่ 2 ที่มีการเดินขบวนไปชุมนุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประท้วงการทุจริตและการใช้อำนาจแทรกแซงการเลื่อนตำแหน่งในวงการตำรวจ จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล ในกรณีของ "ตั๋วช้าง"[234]
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ผู้ชุมนุมในนาม "รีเด็ม-ประชาชนสร้างตัว" ซึ่งแตกสาขาออกมาจากกลุ่มเยาวชนปลดแอก[235] ได้เดินขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปชุมนุมประท้วงที่สระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นบ้านพักหลวงของประยุทธ์ ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์"มวลชนทยอยรวมตัวอนุสาวรีย์ชัยฯ ก่อนเดินไปบ้านพักนายก "ประยุทธ์"". ประชาชาติธุรกิจ. 2021-02-28. สืบค้นเมื่อ 2021-02-28.
ยุทธวิธีและวาระของผู้ประท้วง
กลุ่มผู้ประท้วงไม่มีแกนนำชัดเจน แต่ผู้ประท้วงบางคนโดดเด่นขึ้นมาและมีชื่อปรากฏในสื่อ เช่น อานนท์ นำภา และปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ซึ่งเป็นผู้ปราศรัยบนเวทีและกล่าวข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี ให้สัมภาษณ์ว่าเขายินดีที่ขบวนการประท้วงไม่ต้องการผู้นำ และสามารถระดมคนออนไลน์ได้ภายใน 30 นาที[236] การประท้วงในช่วงแรก ๆ นั้นมีสื่ออธิบายว่ามีความคิดสร้างสรรค์ และสามารถใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ มีการประท้วงโดยใช้สัญลักษณ์ปัญหาสังคมโดยเลี่ยงการกล่าวออกมาตรง ๆ[237] รวมทั้งการพาดพิงถึงวัฒนธรรมป็อป ติ๊กต็อก และทวิตเตอร์ เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ประท้วงนิยมใช้ และน่าจะเป็นครั้งแรกที่การประท้วงได้ลบขอบเขตระหว่างโลกจริงและโลกออนไลน์[238] ผู้ประท้วงมักใช้สัญลักษณ์ชูสามนิ้วจากภาพยนตร์ชุด เกมล่าเกม เพื่อต่อต้านรัฐบาล อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้ประท้วงถูกประเมินว่าขาดยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องกัน และไม่ได้มองการณ์ไกลไปมากกว่าชุมนุมแบบวันต่อวันเท่านั้น ส่วนหนึ่งคาดว่ามีสาเหตุจากการขาดโครงสร้างแบบรวมศูนย์เช่นเดียวกับขบวนการนักศึกษาในพุทธทศวรรษ 2510[239] สมาชิกขบวนการส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษา และเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ ซึ่งต่างจากการประท้วงบนถนนก่อนหน้านี้ที่ฝ่ายทางการเมืองแย่งชิงอำนาจกัน[236] ในการชุมนุมบางครั้ง ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นหญิง ซึ่งต่อสู้เพื่อความเสมอภาคทางเพศและระบบชายเป็นใหญ่[240] ผู้ประท้วงยังใช้ยุทธวิธีศิลปะประท้วง คือ การแบ่งปันไฟล์ภาพหมุดคณะราษฎรหมุดที่ 2[241]
ข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ในเดือนสิงหาคม 2563 นับเป็นครั้งแรกที่มีการอภิปรายเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในที่สาธารณะในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นมองว่าข้อเสนอดังกล่าวน่าจะลดจำนวนผู้สนับสนุนขบวนการลง แต่หากรัฐบาลใช้กำลังปราบปรามก็อาจจะทำให้มีผู้กลับมาสนับสนุนขบวนการนี้มากขึ้น[242] ด้านหนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ ลงความเห็นว่า ขบวนการอาจต้องขยายวาระทางสังคมหากต้องการให้การประท้วงสัมฤทธิ์ผล[243] แต่หลังจากการเลื่อนการลงมติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในเดือนกันยายน 2563 คอลัมนิสต์บางกอกโพสต์คนหนึ่งเขียนว่า สำนึกเรื่องสาธารณรัฐนิยมเพิ่มสูงสุดในประเทศไทยอย่างไม่เคยมีมาก่อน[244] สำหรับข้อเรียกร้องต่าง ๆ นั้น ทัดเทพมองว่าต่างมีความชัดเจนอยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องเจรจา[236] ผู้ประท้วงยืนยันว่าข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ของพวกตนนั้น "ประนีประนอมที่สุดแล้ว"[245]
หลังการจับกุมผู้ประท้วงคนสำคัญในเดือนตุลาคม 2563 นักวิชาการรัฐศาสตร์คนหนึ่งมองว่า เมื่อขาดแกนนำไปอาจทำให้ขบวนการอยู่นอกเหนือการควบคุมได้ และไม่สามารถริเริ่มทางยุทธศาสตร์ได้[246] ผู้ประท้วงยึดถือคติ "ทุกคนคือแกนนำ" หันไปนิยมสวมเครื่องแต่งกายสีดำเพื่อให้ปลอดภัยและลดความสะดุดตา มีการพกเสื้อกันฝนและร่มโดยส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันสารเคมีที่ตำรวจอาจใช้ ผู้ประท้วงหันไปใช้การสื่อสารแบบเกมป้องปากและภาษามือเนื่องจากไม่สามารถใช้รถติดเครื่องขยายเสียง มีการใช้สื่อสังคมกระจายข่าวสาร กลุ่มแชตดังกล่าวยังเป็นที่สำหรับเลือกจัดการชุมนุมครั้งถัดไปด้วย ด้านขบวนการนักศึกษาย้ายไปใช้แอปพลิเคชันเทเลแกรม หลังมีข่าวว่าทางการเตรียมใช้อำนาจปิดหน้าเดิมด้วย[247] ในระยะหลัง ผู้ร่วมชุมนุมใช้ร่มต่างโล่ บ้างสวมหมวกกันน็อก แว่นตาและหน้ากากกันแก๊ส และมีการปรับใช้ยุทธวิธีสายน้ำแบบการประท้วงในฮ่องกง[248] หลังการสลายการชุมนุมในวันที่ 16 ตุลาคม แฮชแท็ก #WhatsHappeningInThailand (เกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย) มีการใช้มากขึ้น โดยมีการเผยแพร่เป็นภาษาอังกฤษ จีน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่นและเกาหลี ในแพลตฟอร์มสื่อสังคมหลายแห่ง เพื่อเรียกความสนใจของประชาคมโลกถึงสถานการณ์ในประเทศ[249]
การสาดสีเป็นวิธีการแสดงออกอย่างหนึ่งที่ผู้ประท้วงเลือกใช้ ซึ่งมีผู้ประท้วงแสดงความเห็นเป็นวิธีการแสดงออกแบบใหม่ ส่วนไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ แสดงความเห็นถึงผู้ที่มองว่าไม่เหมาะสมไว้ว่า "มันคือสังคมดัดจริตเกินไป ในขณะที่ขีดเขียนถนนแล้วโดนวิพากษ์วิจารณ์ หรือใด ๆ ก็ตามที่ทำถนนเลอะเทอะ มองภาพใหญ่เรากำลังโดนกดขี่ และทำให้สังคมสกปรกมากกว่านั้นอีก การขีดเขียนพวกนี้เป็นเรื่องเล็กครับ"[250]
การเงิน
การประท้วงครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินผ่านการบริจาค[251][252] ซึ่งหลัก ๆ มาจากทราย เจริญปุระ นักแสดง[253][254] และจากแฟนคลับศิลปินเกาหลีในประเทศไทยที่ระดมทุนกัน[255][256] โดยเงินจากกลุ่มหลังนี้ ในวันที่ 18 ตุลาคม 2563 มียอดรวมกว่า 3.6 ล้านบาท[257] นอกจากนี้ยังมีการเดินถือกล่องเพื่อเรี่ยไรเงินบริจาคด้วย[258] ส่วนปกรณ์ พรชีวางกูร เปิดตัวเป็นผู้สนับสนุนด้านการเงินของผู้ประท้วงอีกคนหนึ่ง แต่แถลงว่าจะไม่ชี้แจงที่มาของเงินบริจาค เพราะเป็นเอกชนมาบริจาคให้เอง และการเปิดเผยชื่อจะนำมาซึ่งความไม่ปลอดภัย[208]
มีความพยายามดำเนินคดีต่อผู้บริจาคดังกล่าว[259] และมีข้อกล่าวหาจากกลุ่มนิยมสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า การประท้วงได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งสถานทูตสหรัฐปฏิเสธ[260]
ยุทธวิธีของทางการ
รัฐบาลถูกกล่าวหาว่าใช้กฎหมายบังคับแทนการเจรจาอย่างสันติวิธี มีการใช้นิติสงคราม หมายถึง การแจ้งความดำเนินคดีที่มีอัตราโทษหนักทั้งที่ไม่เข้าองค์ประกอบ[261] ตำรวจยังใช้วิธีอายัดตัวและฝากขังแกนนำผู้ประท้วงไปทีละหมายจับ พาตัวไปยังที่ทุรกันดาร และขัดขวางการทำหน้าที่ของทนายความ[262]
ตำรวจอ้างว่าได้ปฏิบัติตามหลักสากลในการควบคุมฝูงชน ทั้งการใช้ปีนใหญ่ฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา[263][264] รวมทั้งขู่ใช้กระสุนยาง[265] (ซึ่ง อานนท์ นำภา อ้างว่ามีผู้ชุมนุมถูกยิงด้วยกระสุนยางแล้ว)[266] แต่คำแนะนำของสหประชาชาติระบุว่าปืนใหญ่ฉีดน้ำให้ใช้เฉพาะกับการประท้วงรุนแรงเท่านั้น และต้องไม่ฉีดไปยังตัวบุคคลโดยตรง[267] และการใช้กระสุนยางก็มีอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่งและถูกวิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน[268]
มีรายงานว่าตำรวจปล่อยปละละเลยให้กลุ่มคนเสื้อเหลืองปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม กับมีข่าวลือว่าเครือข่ายนักการเมืองภาคตะวันออกเกณฑ์คนเข้ามาในกรุงเทพมหานคร[269]
ปฏิกิริยา
การตอบสนองภาครัฐ การคุกคามและจับกุม
วิดีโอจากแหล่งข้อมูลภายนอก | |
---|---|
ตำรวจจับกุมพริษฐ์ ชีวารักษ์ แกนนำนักศึกษา 14 สิงหาคม 2563, วิดีโอยูทูบ | |
ตำรวจจับไผ่ ดาวดิน 13 ตุลาคม 2563, วิดีโอยูทูบ |
บทวิเคราะห์พบว่าการตอบสนองของภาครัฐได้แก่การใช้กำลังและการคุกคาม การกักขังตามอำเภอใจ การจับกุมและตั้งข้อหา การเผยแพร่ความเท็จ การใช้หน่วยสงครามข่าวสาร (IO) การตรวจพิจารณาสื่อ การประวิงเวลา การขัดขวาง การสนับสนุนกลุ่มนิยมรัฐบาล และการเจรจา[270] กรมประชาสัมพันธ์เปิดตัวคลิปโฆษณาชวนเชื่อโจมตีผู้ประท้วง[271] พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์เตือนว่าการกระทำของผู้ประท้วงบางคนอาจเข้าข่ายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย และน้ำตาคลอเมื่อเล่าถึงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ของตน[272] ด้านพลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ที่เพิ่งรับตำแหน่งในเดือนตุลาคม 2563 รีบตำหนิข้อเสนอปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ทันที พร้อมกับบอกว่าให้ "ปฏิรูปตนเองก่อน"[273] ด้านอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แสดงความกังวลถึงโอกาสแพร่กระจายของโรคโควิด-19 แต่วางท่าทีเป็นกลางต่อข้อเรียกร้อง 3 ประการ[274]
ยุทธวิธีของทางการไทยประกอบด้วยคำสั่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อสั่งให้ขัดขวางการชุมนุมของนักศึกษา และรวบรวมชื่อแกนนำผู้ประท้วง การกล่าวหาว่าข้อเรียกร้องของนักศึกษาจะนำไปสู่ความรุนแรง บ้างมีการพาดพิงถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา และพฤษภาทมิฬ[275] มหาวิทยาลัยที่สั่งห้ามชุมนุมในพื้นที่ของตน เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีข่าวว่าตำรวจบางท้องที่ส่งจดหมายสั่งห้ามจัดการชุมนุมในสถานศึกษา[276] ต่อมาวันที่ 18 สิงหาคม 2563 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานออกประกาศอนุญาตให้นักเรียนจัดการชุมนุมในโรงเรียนรัฐได้ โดยห้ามคนนอกเข้าร่วม[277] แต่ในปลายเดือนสิงหาคม มีรายงานว่ามีการกีดกันหรือคุกคามการแสดงออกทางการเมืองอย่างน้อย 109 กรณี[278]
ต้นเดือนสิงหาคม 2563 กลุ่มทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเปิดเผยว่ามียุทธวิธีคุกคามฝ่ายผู้ประท้วงของทางการ เช่น การติดตามหาข้อมูลถึงบ้าน การถ่ายภาพผู้ประท้วงและป้ายข้อความรายบุคคล การปิดกั้นพื้นที่ ฯลฯ[279] จนถึงเดือนตุลาคม 2563 มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 167 คน โดยมีการตั้งข้อหาหนักสุดคือปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง รวมทั้งมีการจับกุมเยาวชน 5 คนโดยไม่มีการตั้งข้อหา[23][280] อ้างว่าทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนว่าถูกควบคุมตัวไปยังค่าย ตชด. แห่งหนึ่ง[281] ฝ่ายตำรวจอ้างว่าตรวจสอบแล้วไม่พบเหตุดังกล่าว และได้ออกหมายจับนายเวหา หรืออาร์ท แสนชนชนะศึก แอดมินของเพจดังกล่าว ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ[280] ตำรวจยึดหนังสือคำปราศรัยของอานนท์ นำภา[282] มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 63 คนตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินทั้งที่รัฐบาลอ้างว่าอนุญาตให้มีการชุมนุมภายใต้กฎหมายดังกล่าว [283] ผู้ที่ถูกตำรวจควบคุมตัวบางครั้งพบว่าได้รับบาดเจ็บ[16] ศ. นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักประวัติศาสตร์ไทย แสดงความกังวลว่าหากปล่อยเวลาไปอีก 6 เดือน กอ.รมน. อาจจัดตั้งฝ่ายต่อต้านได้สำเร็จเหมือนกับครั้งในปี 2519[284]
วันที่ 15 ตุลาคม 2563 นายกรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร และตั้งกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง[285] ซึ่งอาจารย์และนักรัฐศาสตร์กว่า 100 คนเขียนจดหมายเปิดผนึกตั้งคำถามถึงความชอบด้วยกฎหมายของการประกาศดังกล่าว[286] ต่อมามีการใช้อำนาจสั่งปิดสื่อ ประกอบด้วยประชาไท เดอะรีพอร์ตเตอส์ เดอะสแตนดาร์ด และวอยซ์ทีวี[287] รวมทั้งสั่งปิดแอปพลิเคชันเทเลแกรม[288] แต่ต่อมาศาลมีคำสั่งยกเลิกคำร้อง[289] ตำรวจยังยึดหนังสือที่มีเนื้อหาวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ของสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน[290]
กรุงเทพมหานครให้การสนับสนุนผู้ประท้วงโต้โดยมีการจัดรถส่งคนไปยังที่ชุมนุม[291] และจัดหารถสุขาและรถขยะให้[292]
ในเดือนพฤศจิกายน 2563 มหาเถรสมาคมสั่งห้ามภิกษุสามเณรร่วมการชุมนุมทางการเมือง[293] ประยุทธ์แถลงว่าจะยกระดับการบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับและทุกมาตราต่อผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการกลับมาดำเนินคดีฐานความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์[294]
บทบาทของพระมหากษัตริย์
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสำนักพระราชวังไม่มีความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการประท้วงต่อสาธารณะตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ในเดือนสิงหาคม หนังสือพิมพ์ เอเชียไทมส์ รายงานอ้างข้าราชการคนหนึ่งว่า พระมหากษัตริย์ทรงไม่รู้สึกถูกรบกวนจากการประท้วง และผู้ประท้วงควรสามารถแสดงความคิดเห็นได้[295] อย่างไรก็ดี อัลจาซีรารายงานว่า พระมหากษัตริย์ทรงให้สื่อไทยตรวจพิจารณาข้อเรียกร้อง 10 ข้อ[296]
วันที่ 24 ตุลาคม 2563 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวตรัสชมอดีตพระพุทธะอิสระและผู้ชูพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กลางกลุ่มผู้ชุมนุม[297] นับเป็นการแสดงความเห็นต่อสาธารณะครั้งแรกต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ทำให้แฮชแท็ก #23ตุลาตาสว่าง ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ของประเทศไทย โดยมีการรีทวีตกว่า 500,000 ครั้ง ผู้ประท้วงคนหนึ่งออกความเห็นว่า พระมหากษัตริย์อยู่ ณ ใจกลางของปัญหาการเมืองไทยมาโดยตลอด[8] แพทริก จอรี อาจารย์มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ระบุว่า พระองค์ทรงมีอุปนิสัยทำนายไม่ได้ ทรง "เต็มพระทัยใช้ความรุนแรง" และอาจกดดันประยุทธ์ให้ปราบปรามผู้ประท้วง[298]
สนับสนุน
มี ส.ส. สังกัดพรรคก้าวไกล ระบุว่าการพาดพิงถึงพระมหากษัตริย์ในการประท้วง (เช่น การล้อเลียน เสียดสี มีม ฯลฯ) เป็นความจริงที่น่ากระอักกระอ่วน และจำต้องให้ความสนใจ อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์ ผู้จัดการ และ อภิรัชต์ คงสมพงษ์ตอบโต้อย่างรุนแรง โดยมองว่าในผู้ประท้วงมีกลุ่มผู้ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์แอบแฝง หรือไม่นักศึกษาก็ตกเป็นเหยื่อของผู้อยู่เบื้องหลังที่มีเจตนาดังกล่าว[299] นับแต่มีข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ สำหรับพรรคการเมืองมีเพียงพรรคก้าวไกลที่ออกมาสนับสนุนให้เปิดโอกาสแสดงออกแก่นักศึกษา[300] คณาจารย์อย่างน้อย 147 คนลงชื่อสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออกของนักศึกษาในวันที่ 10 สิงหาคม และระบุว่าเนื้อหาไม่ได้ขัดต่อกฎหมาย[301][103] และนักวิชาการเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองอย่างน้อย 358 สนับสนุนการประท้วง[103] บุคลากรโรงเรียนบางส่วนสนับสนุนการแสดงออกของนักเรียน[302]
มารีญา พูลเลิศลาภ นางงาม แสดงจุดยืนเข้ากับผู้ประท้วง[303] ต่อมาเธอเล่าว่าตนได้รับผลกระทบจากการสนับสนุนดังกล่าว นักแคสเกมที่มีชื่อเสียงที่ใช้ชื่อว่า ฮาร์ตร็อกเกอร์ ก็แสดงความสนับสนุนเช่นกัน[304] หลังมีข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ในต้นเดือนสิงหาคม ผู้กำกับ ทรงยศ สุขมากอนันต์, ดารา พีรวัส แสงโพธิรัตน์, ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ ประกาศสนับสนุนการประท้วง[305] เช่นเดียวกับสมาชิกบีเอ็นเคโฟร์ตีเอตห้าคน[306][307] แพทย์คนหนึ่งถูกไล่ออกเพราะลงนามสนับสนุนผู้ประท้วง[308]
องค์การระหว่างประเทศบางองค์การแสดงออกเพื่อสนับสนุนและเรียกร้องให้คุ้มครองสิทธิในการประท้วง ยูนิเซฟออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายรับรองความปลอดภัยของผู้ชุมนุมเด็กและเยาวชน โรงเรียนและสถานศึกษาเป็นที่แสดงออกและแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างสร้างสรรค์[309] สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติและองค์การนิรโทษกรรมสากลรับรองสภาพสงบของการชุมนุม และประณามการสลายการชุมนุม[310][311] ผู้อำนวยการฮิวแมนไรต์วอชเอเชียกล่าวว่า การทำให้การชุมนุมโดยสงบเป็นความผิดเป็นสัญลักษณ์ของการปกครองระบอบเผด็จการ ทั้งเรียกร้องให้สหประชาชาติและรัฐบาลนานาประเทศประณามด้วย และให้ปล่อยตัวนักโทษ[147] นักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกง โจชัว หว่อง โพสต์ทวิตเตอร์แสดงความเป็นอันหนึ่งเดียวกับผู้ประท้วง และขอให้ทั่วโลกสนใจการประท้วงในประเทศไทย[312]
หนังสือพิมพ์ ข่าวสด และ บางกอกโพสต์ เขียนบทบรรณาธิการเรียกร้องให้ประยุทธ์ลาออกเพื่อลดความขัดแย้ง แต่ทั้งสองไม่ได้กดดันข้อเรียกร้องรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์[313][314]
คัดค้าน
นักเรียนเลว ทวิตเตอร์ @BadStudent_ นี่สิ่งที่เพื่อน ๆ ของเราหลายคนต้องเจอค่ะ
- ขู่ตัดแม่ตัดลูกถ้ายังไม่หยุดทำ
- ไม่ให้เงินไปโรงเรียนมาเกือบ 2 เดือน
- เก็บค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าที่อยู่กับลูกตัวเอง
- จะไล่ออกจากบ้าน ให้ไปอยู่ที่อื่น
- จะส่งไปอยู่ต่างประเทศ
- จะไม่จ่ายค่าเทอมให้Sep 16, 2020[315]
การคัดค้านในเวลาต่อมาพยายามอ้างว่ามีรัฐบาลหรือองค์การนอกภาครัฐต่างชาติให้การสนับสนุนการประท้วง วันที่ 10 สิงหาคม สถาบันทิศทางไทย ซึ่งมีอดีตสมาชิกกลุ่ม กปปส. เข้าร่วม[316] เผยแพร่ "แผนผังเครือข่ายปฏิวัติประชาชน" ซึ่งโยงผู้ประท้วงนักศึกษา กับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ทักษิณ ชินวัตร ตลอดจนมีการเชื่อมโยงเป็นทฤษฎีสมคบคิดเพื่อทำลายประเทศไทย[317] บ้างอ้างว่า ที่องค์การการบริจาคทรัพย์เพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ (National Endowment for Democracy) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นองค์การนอกภาครัฐที่ได้รับจัดสรรเงินสนับสนุนผ่านรัฐสภาสหรัฐ สนับสนุนกลุ่มต่าง ๆ ที่ถือฝ่ายผู้ประท้วงนั้น เป็นหลักฐานเชื่อมโยงดังกล่าว[318] ในหลายกรณีพบกลุ่มชายฉกรรจ์ทรงผมสั้นเกรียนและสวมเสื้อผ้าคล้ายกันในการชุมนุมหลายครั้ง ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นทหารหรือตำรวจนอกเครื่องแบบ[319]
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองส่วนใหญ่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ประยุทธ์แสดงความไม่สบายใจ[320] ด้าน คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอที่กระทบกระเทือนพระราชอำนาจ[321] หนังสือพิมพ์แนวหน้า เขียนว่าข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นการกระทำชั่วร้าย สร้างความแตกแยก อ้างว่าเป็นการประท้วงรัฐบาลหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อบังหน้า แต่เป็นการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ มีเบื้องหลังเป็นพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่[322] ในช่องทางออนไลน์ กลุ่มองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน ซึ่งถูกขนานนามในวารสารวิชาการระดับนานาชาติว่าเป็นองค์การคลั่งเจ้า ฟาสซิสต์และได้รับการสนับสนุนจากรัฐ[323][324][325] กล่าวหานักศึกษาว่าเป็นพวกล้มเจ้า กบฏ คนทรยศและขยะ[326][327] นอกจากนี้เกิดเหตุทำร้ายร่างกายผู้ประท้วงโดยมวลชนฝ่ายตรงข้าม[328] วันที่ 16 กันยายน ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยกรณีปราศรัยข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ในวันที่ 10 สิงหาคมในข้อหาล้มล้างการปกครอง[329]
หลังจากการเข้าร่วมการชุมนุมของนักเรียนมัธยม ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่ามีกรณีการคุกคามนักเรียนอย่างน้อย 103 กรณี[330] การดูหมิ่นผู้ประท้วงนักเรียนหญิงบางคนไปไกลถึงขั้นว่าสมควรถูกข่มขืนกระทำชำเรา[331] ต่อมาในเดือนกันยายน ทวิตเตอร์กลุ่มนักเรียนเลวโพสต์ว่าสมาชิกกลุ่มบางส่วนได้รับผลกระทบทั้งในด้านความสัมพันธ์ในครอบครัวและเศรษฐกิจจากการเข้าร่วมการชุมนุม[332]
บางคนและกลุ่มค้านยุทธวิธีของผู้ประท้วง เช่น รองศาสตราจารย์ เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ หรือเพจโปลิศไทยแลนด์ ประณามการสาดสีใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจของผู้ประท้วง โดยกล่าวว่าเป็น "ความรุนแรง"[333][334] บางกลุ่มรับไม่ได้กับภาษาหยาบคายที่แกนนำผู้ชุมนุมใช้[335]
ตำรวจและกลุ่มฝ่ายขวาส่วนหนึ่งรังควาน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และอดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่เพราะถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนการประท้วง[336][337] สื่อหลายสำนักพยายามลงข่าวให้เข้าใจว่าฝ่ายผู้ชุมนุมพยายามก่อให้เกิดความรุนแรงก่อน[338][339]
แม้นายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารบกประกาศว่าจะไม่รัฐประหาร แต่ สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้กองทัพเข้ารักษาความสงบอีกครั้ง[340] เช่นเดียวกับกลุ่ม คปส.[341]
การรายงานของสื่อ
เดือนสิงหาคม เนชั่นทีวีลงข่าวยอมรับว่ามีผู้สื่อข่าวของตนปกปิดสังกัดและแอบอ้างว่ามาจากช่องอื่นจริง และกองบรรณาธิการเรียกตักเตือนแล้ว แต่ก็อ้างว่าที่นักข่าวกระทำเช่นนั้นเพราะกลัวเกิดอันตรายจากผู้ชุมนุม[342] ต่อมาจึงเกิดการดำเนินกิจกรรมของผู้บริโภคชื่อ #แบนสปอนเซอร์เนชั่น เพื่อให้เนชั่นเปลี่ยนแปลงวิธีการนำเสนอข่าว แต่เนชั่นออกแถลงการณ์อ้างว่าจะทำให้บริษัทเหล่านั้นเสียหาย ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับการนำเสนอของเนชั่น[343] ปลายเดือนกันยายน สำนักข่าวรอยเตอส์และไฟแนนเชียลไทมส์ลงข่าวกระแสแฮชแท็ก #RepublicofThailand ทางทวิตเตอร์[344]
สัญญาณจากซีเอ็นเอ็น, บีบีซี เวิลด์นิวส์, อัลญะซีเราะฮ์อิงกลิช, เอ็นเอชเคเวิลด์ และสำนักข่าวต่างประเทศอื่นที่นำเสนอการชุมนุมในประเทศไทยถูกห้ามออกอากาศทางทรูวิชั่นส์ และแอปพลิเคชันทรูไอดี[345]
หนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ ลงแก้ไขข่าวว่าในหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 18 ตุลาคม รายงานผิดว่าผู้ประท้วงรบกวนระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร แต่แท้จริงแล้ว กอร.ฉ. สั่งปิดรถไฟฟ้า[346] และวันเดียวกัน แฮชแท็ก #แบนช่อง3 ก็ติดเทรนต์ทวิตเตอร์ถึงอันดับที่ 2 เนื่องจากฝ่ายข่าว ช่อง 3 เอชดี ได้นำคลิปที่มีคนบางกลุ่มทำออกมาเพื่อปกป้องตำรวจมาออกอากาศในรายการเรื่องเล่า เสาร์-อาทิตย์ โดยไม่ได้นำเสนอคลิปที่ตำรวจกระทำรุนแรงต่อผู้ประท้วง ทำให้ผู้ชมไม่พอใจเป็นจำนวนมาก[347]
31 ตุลาคม สำนักข่าวเอเอฟพีลงข่าวเพื่อแก้ไขข่าวเท็จที่บิดเบือนคำพูดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่า พระมหากษัตริย์ไทยมิได้กระทำผิด[348]
ในเดือนพฤศจิกายน หนังสือพิมพ์ นิวยอร์กไทมส์ ลงบทวิเคราะห์ว่ามีข่าวลือรัฐประหารในไทยอีกครั้ง ส่วนสื่อต่าง ๆ ในประเทศเยอรมนีจับประเด็นการพำนักของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว[349] สื่อในสหราชอาณาจักร ตั้งแต่หนังสือพิมพ์ที่ได้รับความเคารพนับถือไปจนถึงแทบลอยด์ต่างให้ความสนใจกับข่าวการประท้วง หลายเจ้าตั้งคำถามถึงพระจริยวัตรและพระราชทรัพย์ เช่น ดิอีโคโนมิสต์ ลงว่า พระองค์ต้องการสถาปนาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือ เดอะไทมส์ พาดหัวว่า พระองค์ทรงเป็นของขวัญของนักสาธารณรัฐนิยม[350]
หมายเหตุ
ดูเพิ่ม
- การบังคับสูญหายซึ่งวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์
- การเสียชีวิตของวิเชียร กลั่นประเสริฐ
- ขบวนการนักศึกษาในประเทศไทย
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 "แฟลชม็อบนักเรียน-นักศึกษา ประกายไฟในกระทะ หรือ เพลิงลามทุ่ง". BBC Thai. 2020-02-28.
- ↑ คณะราษฎร: ประกาศ 3 ข้อเรียกร้องก่อนชุมนุมใหญ่ 14 ตุลา ประยุทธ์ลาออก-เปิดสภาแก้ รธน.-ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
- ↑ จากใจตำรวจควบคุมฝูงชน อยากให้คนไทยรักและสามัคคีกัน หลังต้องทิ้งครอบครัวมาปฏิบัติหน้าที่ - ผู้จัดการ
- ↑ ยันรถน้ำจีโน่มาตรฐานสากล สงสัยขอตรวจสอบได้ที่อคฝ. - เดลินิวส์
- ↑ รถน้ำแรงดันสูง-รถเติมน้ำโดนม็อบทำเสียหาย – innnews
- ↑ ผู้ชุมนุมผวา! ตชด.ตั้งแถวบริเวณถนนอักษะตะโกนด่าลั่น - Thai Post
- ↑ "เยาวชนช่วยชาติ" นัดรวมตัว แสดงความรักชาติ พรุ่งนี้ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
- ↑ 8.0 8.1 "Thai king's praise for defiant loyalist draws controversy". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 24 October 2020. สืบค้นเมื่อ 24 October 2020.
- ↑ 9.0 9.1 คุม 'ทนายอานนท์ - ไมค์' ส่งศาลแล้วทั้งคู่ ท่ามกลางมวลชนนับร้อย
- ↑ เพนกวิน ตะโกน “ไม่มีสิทธิคุกคามประชาชน” ระหว่างตำรวจบุกจับคดีเดียวกับ อานนท์-ไมค์ แต่ถูกตั้งข้อหา “ทำร้ายร่างกาย” เพิ่มด้วย
- ↑ นับเงินกันเพลิน! แกนนำปลดแอก เปิดบัญชีธนาคารระดมทุนจัดงาน 14 ต.ค.พบบริจาคมากสุดกว่า 1 หมื่นบาท
- ↑ "สภาวุ่น! ม็อบปิดทางออกรัฐสภา-บุกปีนรั้วเจ็บ 1 คน". ไทยพีบีเอส. สืบค้นเมื่อ 24 September 2020.
- ↑ "ด่วน! ม็อบปะทะวุ่น หลังตำรวจเริ่มกระชับพื้นที่ เจ็บ 1 ราย". ข่าวสด. สืบค้นเมื่อ 14 October 2020.
- ↑ "คณะราษฎรเดินหน้าชุมนุมต่อวันที่ 4-สรุปบาดเจ็บ 7 คน". Thai PBS. 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
- ↑ 15.0 15.1 "เครือข่ายรามคำแหงฯ เข้าแจ้งความกลุ่มเสื้อเหลืองทำร้ายร่างกาย". Manager Online. 21 October 2020. สืบค้นเมื่อ 22 October 2020.
- ↑ 16.0 16.1 16.2 "Police vow to detain 3 protesters further". Bangkok Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 November 2020. สืบค้นเมื่อ 31 October 2020.
- ↑ 17.0 17.1 "เอราวัณ รายงานเหตุชุมนุมเจ็บ 5 ราย ส่ง รพ.และกลับบ้านได้แล้วทุกราย". มติชนออนไลน์. 8 November 2020. สืบค้นเมื่อ 8 November 2020.
- ↑ 18.0 18.1 Yuda, Masayuki (18 November 2020). "Thailand parliament weighs changing constitution as protests rage". Nikkei Asia. สืบค้นเมื่อ 18 November 2020.
- ↑ 19.0 19.1 "Protest Promotes a Diversity of Causes, From Feminism to LGBT". Khaosod English. 15 November 2020. สืบค้นเมื่อ 22 November 2020.
- ↑ 20.0 20.1 "เกิดเหตุชุลมุนหลังเกิดเสียงคล้ายปืน หลัง "ราษฎร" ยุติชุมนุม". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ อานนท์ นำภา: ศาลอนุมัติหมายจับ "ทนายอานนท์" หลังปราศรัยเรื่องสถาบันกษัตริย์
- ↑ จับแล้ว! 'ภาณุพงศ์ จาดนอก' กำลังถูกนำตัวไป สน.สำราญราษฎร์
- ↑ 23.0 23.1 Anti-Govt Protesters Detained, Given ‘Attitude Adjustment’ in Jungle
- ↑ "โดนแล้ว! ตำรวจบุกรวบ 'เพนกวิน' หลังถูกแจ้งจับ ผิดมาตรา116". Thai Post. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
- ↑ "รวบ 'บารมี ชัยรัตน์' คดีชุมนุมเยาวชนปลดแอก 18 ก.ค." VoiceTV. สืบค้นเมื่อ 19 August 2020.
- ↑ "หยุดไม่อยู่ แฟลชม็อบทุกวัน ตร.จับ 9 แกนปลดแอกส่งฝากขัง-ศาลให้ประกัน ตั้งเงื่อนไขห้ามผิดซ้ำ". มติชนออนไลน์. 21 August 2020. สืบค้นเมื่อ 21 August 2020.
- ↑ ""ทัตเทพ-ภานุมาศ" ได้รับการปล่อยตัวแล้ว นักวิชาการ-ส.ส. ช่วยประกัน". บีบีซีไทย. สืบค้นเมื่อ 26 August 2020.
- ↑ 28.0 28.1 "Prayut Refuses To Resign, Police Crack Down on Protesters". Khaosod English. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
- ↑ 29.0 29.1 "พรรคก้าวไกล เจรจา ผบช.น. เข้าพื้นที่ชุมนุม พาคนเจ็บออกจากม็อบ". ประชาชาติธุรกิจ. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
- ↑ 30.0 30.1 "Law and the virus fail to halt Thailand's 'guerrilla' protest movement". Thai PBS World. สืบค้นเมื่อ 15 January 2021.
- ↑ Montesano, Michael John, III, 1961- editor. Chong, Terence, editor. Heng, Mark, editor. After the coup : the National Council for Peace and Order era and the future of Thailand. ISBN 978-981-4818-98-8. OCLC 1082521938.
{{cite book}}
:|last=
มีชื่อเรียกทั่วไป (help)CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ Kongkirati, Prajak; Kanchoochat, Veerayooth (2018). "The Prayuth Regime: Embedded Military and Hierarchical Capitalism in Thailand". TRaNS: Trans -Regional and -National Studies of Southeast Asia. 6 (2): 279–305. doi:10.1017/trn.2018.4. ISSN 2051-364X.
- ↑ McCargo, Duncan; T Alexander, Saowanee; Desatova, Petra (2016-12-31). "Ordering Peace: Thailand's 2016 Constitutional Referendum". Contemporary Southeast Asia. 39 (1): 65–95. doi:10.1355/cs39-1b. ISSN 0129-797X.
- ↑ Montesano, Michael J. (2019). "The Place of the Provinces in Thailand's Twenty-Year National Strategy: Toward Community Democracy in a Commercial Nation?" (PDF). ISEAS Perspective. 2019 (60): 1–11.
- ↑ 35.0 35.1 35.2 35.3 Sawasdee, Siripan Nogsuan (2019-12-12). "Electoral integrity and the repercussions of institutional manipulations: The 2019 general election in Thailand". Asian Journal of Comparative Politics. 5 (1): 52–68. doi:10.1177/2057891119892321. ISSN 2057-8911.
- ↑ 36.0 36.1 36.2 36.3 36.4 ""ประชาชนปลดแอก" ประกาศจะไม่หยุดเคลื่อนไหวจนกว่า "อำนาจมืด" จะหมดไป". BBC ไทย. 16 August 2020. สืบค้นเมื่อ 16 August 2020.
- ↑ McCargo, Duncan (2019). "Southeast Asia's Troubling Elections: Democratic Demolition in Thailand". Journal of Democracy. 30 (4): 119–133. doi:10.1353/jod.2019.0056. ISSN 1086-3214.
- ↑ McCargo, Duncan; Alexander, Saowanee T. (2019). "Thailand's 2019 Elections: A State of Democratic Dictatorship?". Asia Policy. 26 (4): 89–106. doi:10.1353/asp.2019.0050. ISSN 1559-2960.
- ↑ McCARGO, DUNCAN (2019). "Anatomy: Future Backward". Contemporary Southeast Asia. 41 (2): 153–162. doi:10.2307/26798844. ISSN 0129-797X.
- ↑ News, A. B. C. "Court in Thailand orders popular opposition party dissolved". ABC News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-08-23.
{{cite web}}
:|last=
มีชื่อเรียกทั่วไป (help) - ↑ "แฟลชม็อบนักเรียน-นักศึกษา ประกายไฟในกระทะ หรือ เพลิงลามทุ่ง" [Student flash mobs: sparks in pan or spreading fire?]. BBC Thai. 2020-02-28. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Thai parliament approves king's constitutional changes request, likely delaying elections". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 2017-01-13. สืบค้นเมื่อ 2020-08-23.
- ↑ "Thai king takes control of five palace agencies". The Business Times (ภาษาอังกฤษ). 2017-05-02. สืบค้นเมื่อ 2020-08-23.
- ↑ 2014 coup marks the highest number of lèse-majesté prisoners in Thai history. Prachatai.
- ↑ Wright, George; Praithongyaem, Issariya (2020-07-02). "The satirist who vanished in broad daylight". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2020-08-23.
- ↑ Pulitzer, Greeley (2 April 2020). "National curfew announced. Takes effect tomorrow". The Thaiger.
- ↑ Abuza, Zachary (21 April 2020). "Explaining Successful (and Unsuccessful) COVID-19 Responses in Southeast Asia". The Diplomat. สืบค้นเมื่อ 10 June 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Bello, Walden (3 June 2020). "How Thailand Contained COVID-19". Foreign Policy In Focus. สืบค้นเมื่อ 10 June 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Paweewun, Oranan (16 April 2020). "IMF: Thai GDP down 6.7%". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 10 June 2020.
- ↑ Theparat, Chatrudee (7 April 2020). "Cabinet gives green light to B1.9tn stimulus". Bangkok Post.
- ↑ "โควิด-19: ผลการสืบสวนโรคพบผู้ที่ต้องเฝ้าระวังจากกรณีเด็กหญิงซูดานและทหารอียิปต์มีทั้งหมด 36 คน". BBC Thai. 2020-07-16. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
- ↑ "ปชช.กังวลทหารอียิปต์-ครอบครัวซูดาน ทำ COVID-19 ระบาดใหม่". Thai PBS. 2020-07-19. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
- ↑ "หละหลวม ปล่อยทหารอียิปต์ติดโควิด เข้ามา ท่องเที่ยวระยองพังหนัก รอวันตาย". Thairath. 2020-07-15. สืบค้นเมื่อ 2020-07-14.
- ↑ "ท่องเที่ยวระยองพังพินาศ แห่ถอนจองโรงแรมรีสอร์ท90%". Dailynews. 2020-07-14. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
- ↑ "โซเชียลเดือด ดันแฮชแท็ก #ตำรวจระยองอุ้มประชาชน ปม 2 วัยรุ่นชูป้ายไล่นายกฯ". Thairath. 2020-07-15. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
- ↑ "Thailand's Future Forward Party Has the Support of Young Thais. A Court Could Disband It Entirely". Time (ภาษาอังกฤษ). 2020-01-20. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
- ↑ "A Popular Thai Opposition Party Was Disbanded. What Happens Next?". CFR (ภาษาอังกฤษ). 2020-02-27. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
- ↑ "Tจุดติด-ไม่ติด : แฮชแท็กและการชุมนุมประท้วงของนิสิตนักศึกษาบอกอะไรเราบ้าง". The Momentum Co. (ภาษาอังกฤษ). 2020-02-26. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
- ↑ ถอดรหัสแฮชแท็ก #เว้นเซเว่นทุกWednesday และ #pausemob prachatai.17 มีนาคม 2563. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563
- ↑ #saveโรม ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ หลังเดินหน้าตามปม 'วันเฉลิม-หมู่อาร์ม' prachatai.2020-06-19 สืบค้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2563
- ↑ #saveทิวากร ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ หลังมีข่าวผู้สวมเสื้อ 'เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว' ถูกจับเข้าจิตเวช prachatai.2020-07-14 สืบค้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2563
- ↑ ส่องปรากฏการณ์ #กษัตริย์มีไว้ทำไม กับ 'แอคหลุม-มีม' เซฟโซนสีเทาของคนรุ่นใหม่ prachatai.2020-03-26 สืบค้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2563
- ↑ ตร.พัทยา อ้าง พ.ร.บ.คอมฯ จับผู้ใช้ทวิตเตอร์บัญชี "นิรนาม_" 20 กุมภาพันธ์ 2563.สืบค้นเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563
- ↑ Bright Today (25 April 2020). "สนท. ชวนประท้วงรัฐบาลผ่านออนไลน์ พร้อมติด #MobFromHome". www.brighttv.co.th. สืบค้นเมื่อ 28 August 2020.
- ↑ กระปุก.คอม (25 April 2020). "โซเชียลไทยเดือด ผุด #MobFromHome ประท้วงรัฐบาล พุ่งเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์". kapook.com. สืบค้นเมื่อ 28 August 2020.
- ↑ มติชน (27 April 2020). "หมอสุภัทรชวนติดแฮชแท็กต้าน CPTPP ร่วม Mob from Home นวัตกรรมประชาธิปไตยในยุคโควิด -19". www.matichon.co.th. สืบค้นเมื่อ 28 August 2020.
- ↑ สนุก.คอม (27 April 2020). ""ตุล อพาร์ตเมนต์คุณป้า" ชวนชุมนุมออนไลน์ต้าน "CPTPP" หลังกลายเป็นประเด็นร้อน". www.sanook.com. สืบค้นเมื่อ 13 September 2020.
- ↑ สนุก.คอม (27 April 2020). "กระทรวงพาณิชย์ยอมถอย CPTPP ถอดพ้นวาระประชุมคณะรัฐมนตรี". www.sanook.com. สืบค้นเมื่อ 13 September 2020.
- ↑ "Anti-government rallies spreading across Thailand". Coconut Thailand (ภาษาอังกฤษ). 2020-07-20. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
- ↑ "'เยาวชนปลดแอก' เปิดแถลงการณ์ข้อเรียกร้องฉบับเต็ม". Bangkok Biz News. 2020-07-18. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
- ↑ "Thai protesters call for government to resign". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 18 July 2020. สืบค้นเมื่อ 20 July 2020.
- ↑ ""เยาวชนปลดแอก" ยุติการชุมนุมก่อนเที่ยงคืน อ้างความปลอดภัย สรุปบรรยากาศจากเริ่มจนจบ". BBC Thai. 18 July 2020. สืบค้นเมื่อ 20 July 2020.
- ↑ “ม็อบปลดแอก” ยุติชุมนุมหวั่นมือที่ 3 ลั่นไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นการเริ่มต้น เผยแพร่: 19 ก.ค. 2563 05:19 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ สืบค้นเมื่อ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
- ↑ “ชาญวิทย์” เตือนม็อบ “เยาวชนปลดแอก” อย่าค้างคืน หวั่นซ้ำรอย “6 ตุลา”
- ↑ "Chiang Mai, Ubon rally against Prayut, government". Bangkok Post (ภาษาอังกฤษ). 20 July 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
- ↑ https://www.thairath.co.th/news/society/1895380
- ↑ 77.0 77.1 "ม็อบดิจิตัล: ความป๊อปในโลกออนไลน์ ที่ผลักดันให้การชุมนุมเข้าถึงคนมากขึ้น". Workpoint Today]. 25 July 2020. สืบค้นเมื่อ 26 July 2020.
- ↑ "ประท้วงดาวกระจายลามกว่า 20 จังหวัด เปิดไทม์ไลน์จุดเริ่มจาก 'เยาวชนปลดแอก'". The Bangkok Insight. 23 July 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-07-25.
- ↑ "4 มหาวิทยาลัยในโคราช นักเรียน ประชาชน แสดงพลังทวงคืนประชาธิปไตย". Thairath. 2020-07-24. สืบค้นเมื่อ 2020-07-26.
- ↑ ชาวไทยในต่างประเทศ ร่วมแสดงพลังเรียกร้องประชาธิปไตย "ขับไล่เผด็จการ"
- ↑ ""กลุ่มเสรีเทยพลัส" จัดกิจกรรมม็อบไม่มุ้งมิ้งแต่ตุ้งติ้งค่ะคุณรัฐบาล". MGR Online. 25 July 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-07-26.
- ↑ แฟลชม็อบคึกคัก หลายจังหวัดทั่วไทย ฮือต้าน รบ. ทวงคืนประชาธิปไตย
- ↑ #สามพระจอมจะยอมได้ไง อาชีวะไล่เผด็จการ ส่งไม้เวียนจัดแฟลชม็อบ ย้ำ 3 ข้อเรียกร้องเยาวชนปลดแอก
- ↑ อาชีวะช่วยชาติ: นศ. อาชีวะ 2 กลุ่มประกาศปกป้องสถาบัน กับ พิทักษ์ประชาชน
- ↑ "2 อาทิตย์หลังเยาวชนเริ่มปลดแอก: เสนอหยุดคุกคาม กลับถูกคุกคามกว้างขวาง". ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (THAI LAWYERS FOR HUMAN RIGHTS). 31 July 2020. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
- ↑ มติชน (1 August 2020). "เปิดตัว 'คณะประชาชนปลดแอก' ลั่น เยาวชนไม่อาจสู้ลำพัง เล็งนัดหมายเร็ว ๆ นี้". www.matichon.co.th. สืบค้นเมื่อ 3 August 2020.
- ↑ กรุงเทพธุรกิจ (3 August 2020). "กลุ่มมหานครฯ-มอกะเสด แต่งกายชุดพ่อมด-แม่มด ขับไล่อำนาจมืดจากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร". www.bangkokbiznews.com. สืบค้นเมื่อ 3 August 2020.
- ↑ 88.0 88.1 Demonstrators gather in Harry Potter-themed protest against Thai monarchy
- ↑ มติชน (3 August 2020). "สวมหน้ากาก 'บิ๊กป้อม' ร่วมม็อบ เจอเสกคาถาไล่ ปล่อยมุขฮา 'ไม่รู้ ๆ '". www.matichon.co.th. สืบค้นเมื่อ 3 August 2020.
- ↑ ด่วน! โดนจับแล้ว 'อานนท์ นำภา' ตามหมายจับศาลอาญา
- ↑ 91.0 91.1 อานนท์ นำภา ส่งสารถึงผู้ชุมนุม "ต่อสู้ให้ถึงเส้นชัย" ด้านแอมเนสตี้ฯ ประเทศไทย เรียกร้อง "ถอนข้อกล่าวหาที่ปราศจากมูลความจริง"
- ↑ "Rival protests raise fears of return to violence". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
- ↑ "คิดแต่ละเรื่อง! "อัษฎางค์" จวกยับ "เยาวชนปลดแอก" ยุ "ไม่รับปริญญา" "ปวิน" แอ่นรับสนับสนุนแคมเปญทันควัน". mgronline.com. 10 August 2020.
- ↑ เตือน!คนรุ่นใหม่ลุกฮือสู้เผด็จการ ล่า5หมื่นชื่อแก้รธน.60ตั้งส.ส.ร.
- ↑ "ทนายอานนท์ปราศรัยที่เชียงใหม่ ส่วนผู้จัดที่พิษณุโลกบอกถูกเจ้าหน้าที่ขอร้องไม่ให้จัด". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
- ↑ "ครช.ยื่นร่างพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ ร่าง รธน.ใหม่ ฝ่ายค้านรับเร่งเสนอในสัปดาห์นี้". prachatai.com. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
- ↑ ""ประชาชนปกป้องสถาบันฯ" ผุด ศอปส. ทุกจังหวัด จับผิด-เปิดเผยตัวตน "คนชังชาติ"". BBC News ไทย. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
- ↑ "ม็อบนศ.ฮือต้าน"รัฐบาลลุงตู่"แน่น ม.ธรรมศาสตร์". posttoday.com. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
- ↑ 99.0 99.1 Press, Associated (11 August 2020). "Student Protest at Thammasat the Largest Rally in Months". Khaosod English. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
- ↑ 100.0 100.1 "ประมวลชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน 'เราไม่ต้องการปฏิรูปเราต้องการปฏิวัติ'". prachatai.com. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
- ↑ "รวมปฏิกิริยาต่อ 10 ข้อเรียกร้องของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 12 August 2020.
- ↑ "สำรวจแนวการชุมนุมประชาชนหนุน-ต้านรัฐบาล". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 18 August 2020.
- ↑ 103.0 103.1 103.2 "Thailand's youth demo evolves to largest protest since 2014 coup". Nikkei Asian Review. สืบค้นเมื่อ 18 August 2020.
- ↑ "ชาวไทย-ไต้หวัน-ฮ่องกง จัดชุมนุม #ไทเปจะไม่ทน จี้ รัฐบาลไทย หยุดคุกคามประชาชน". มติชนออนไลน์. 16 August 2020. สืบค้นเมื่อ 16 August 2020.
- ↑ "โรงเรียนทั่วประเทศเดือด ชูสามนิ้ว-ผูกโบว์ขาว ไม่เอาเผด็จการ". ประชาชาติธุรกิจ. 17 August 2020. สืบค้นเมื่อ 17 August 2020.
- ↑ "ครูขอโทษแล้ว หลังคลิปว่อนด่าปัญญาอ่อน ตบมือถือ นร.วอนเคารพความคิด". ข่าวสด. 17 August 2020. สืบค้นเมื่อ 17 August 2020.
- ↑ "เอาแล้ว! กลุ่มนักเรียนเลว นัดเป่านกหวีดไล่ รมว.ศึกษา ลั่นต้องปกป้องอนาคต". ข่าวสด. 18 August 2020. สืบค้นเมื่อ 19 August 2020.
- ↑ "Royalists rally to support monarchy". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-08-30.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ English, Khaosod (2020-08-31). "Royalists Slam 'Foreign Interference' in Major Counter-Rally". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2020-08-31.
- ↑ "Students submit manifesto". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 27 August 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "First ever dialogue on Thai monarchy arrives in Parliament's 'safe zone'". www.thaipbsworld.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2020-09-14.
- ↑ Sattaburut, Aekarach; Chetchotiros, Nattaya. "Govt pleads for charter support". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-09-24.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ปล่อยตัว ไผ่ ดาวดิน กับพวก ขอโทษสาดสีใส่ตำรวจ บอกเป็นราคาที่ต้องจ่าย". ไทยรัฐ. 28 August 2020. สืบค้นเมื่อ 28 August 2020.
- ↑ มติชน (9 September 2020). "รุ้ง-เพนกวิน ประกาศค้างคืน มธ.ท่าพระจันทร์ 19 ก.ย. เช้าเดินขบวนสู่ทำเนียบรัฐบาล". www.matichon.co.th. สืบค้นเมื่อ 13 September 2020.
- ↑ คล้องกุญแจ ปิดประตู ม.ธรรมศาสตร์ แล้ว จับตาความเคลื่อนไหวม็อบพรุ่งนี้ ไทยรัฐ. 18 September 2020. สืบค้นเมื่อวันที่19 September 2020
- ↑ พท. ตั้งเต้นท์เกาะสถานการณ์ชุมนุม 19 กย. พร้อมเตรียมเอกสารช่วยประกันตัวนิสิต-นศ. สยามรัฐ. สยามรัฐ. 18 September 2020. สืบค้นเมื่อวันที่19 September 2020
- ↑ 117.0 117.1 ชุมนุม 19 กันยา: มวลชนยึดสนามหลวงเป็นที่ชุมนุมได้สำเร็จ ตร. ตรึงกำลังห้ามเข้าใกล้เขตพระราชฐาน BBC News. 19 September 2020.สืบค้นเมื่อวันที่ 19 September 2020
- ↑ ม็อบเคลื่อนขบวนออกจาก'ธรรมศาสตร์' ดาหน้าบุกยึดท้องสนามหลวงแล้ว แนวหน้า. 19 September 2020. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 September 2020
- ↑ "Massive Crowd Gathers in Bangkok for Weekend of Pro-Democracy Protests". BenarNews (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-09-19.
- ↑ "Scenes From Thailand's Massive Protests Demanding Reform". Diplomat. สืบค้นเมื่อ 23 September 2020.
- ↑ "'ปรับแผน-เพิ่มกำลัง' รับมือชุมนุมวันนี้ ตร.ตรึง 1 หมื่นนาย ม็อบลั่นปิดเกมก่อนเที่ยง 20 ก.ย." Bangkokbiznews. สืบค้นเมื่อ 20 September 2020.
- ↑ "Thai activists challenge monarchy by laying plaque". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2020-09-20. สืบค้นเมื่อ 2020-09-20.
- ↑ "Protesters install 'new plaque' at Sanam Luang". Bangkok Post. 2020-09-20. สืบค้นเมื่อ 2020-09-20.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 124.0 124.1 "Activists end rally after submitting demands". Bangkok Post. 2020-09-20. สืบค้นเมื่อ 2020-09-20.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Plaque installed by Thai protesters near palace removed". Al Jazeera. 2020-09-21. สืบค้นเมื่อ 2020-09-21.
- ↑ "Protests continue to target Thai monarchy". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
- ↑ Reed, John. "#RepublicofThailand trends as protesters maintain push on monarchy". Financial Times. สืบค้นเมื่อ 25 September 2020.
- ↑ "เปิดคำร้องคดี 10 สิงหา กับข้อกล่าวหาล้มล้างการปกครองฯ". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 29 September 2020.
- ↑ "Students protest against abuse in schools, call for Education Minister to resign". Prachatai English (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-10-14.
- ↑ "Early rally site cleared, protesters arrested". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-13.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Johnson, Panu Wongcha-um, Panarat Thepgumpanat, Kay (2020-10-13). "Thai protesters clash with police, call out as king's motorcade passes". Reuters (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-10-13.
- ↑ "Anti-government protesters reach Government House, criticize monarchy". Prachatai English (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-10-16.
- ↑ "Protesters gathering at Democracy Monument". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-14.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Ashworth, Caitlin (2020-10-14). ""Elevated risk of unrest" after 21 activist arrests, UN department says". The Thaiger (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-10-14.
- ↑ "Arrests heighten rally concerns". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-14.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 136.0 136.1 "PM ORDERS PROSECUTION OF PROTESTERS WHO 'BLOCKED ROYAL CONVOY'". Khaosod English. สืบค้นเมื่อ 14 October 2020.
- ↑ "ม็อบ3นิ้วเหิมเกริมหนักล้อมขบวนเสด็จ-ยึดทำเนียบฯไล่นายกฯ". Manager Online. 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
- ↑ "เอาแล้ว! 'ลุงกำนัน' เหลืออดม็อบคุกคามขบวนเสด็จ ชวนพี่น้องร่วมอุดมการณ์ปกป้องสถาบัน". Thai Post. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
- ↑ "เกาะติด "คณะราษฎร" ชุมนุม 14 ตุลา "ราษฎรจะเดินนำ ที่ราชดำเนิน" - บีบีซีไทย". BBC Thai. สืบค้นเมื่อ 14 October 2020.
- ↑ ไทยรัฐ (October 15, 2020). "ราชกิจจาฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพฯ". www.thairath.co.th. สืบค้นเมื่อ October 15, 2020.
- ↑ ประชาชาติธุรกิจ (October 15, 2020). "ตั้ง 'กอร.ฉ.' คุมสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง จ่อประกาศเพิ่มจังหวัดอื่น". www.prachachat.net. สืบค้นเมื่อ October 27, 2020.
- ↑ The Bangkok Insight (October 15, 2020). "แฮชแท็ก #15ตุลาไปราชประสงค์ ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 สวนทางคำขู่ตำรวจ". www.thebangkokinsight.com. สืบค้นเมื่อ October 15, 2020.
- ↑ English, Khaosod (15 October 2020). "3 Senior Policemen Removed for Motorcade Bedlam". Khaosod English.
- ↑ "Prawit-led centre likely to handle situation". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-15.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "'รังสิมันต์ โรม'โพสต์ภาพทหารเข้าประจำการรัฐสภาหวั่นคล้ายสถานการณ์ปี57". Siam Rath. 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
- ↑ "ฝ่ายค้านจี้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทันที เสนอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ". Thai Rath. 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
- ↑ 147.0 147.1 147.2 "Water cannon used on protesters". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
- ↑ "Thai protests: Demonstrators gather again in Bangkok, defying crackdown". BBC News. 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
- ↑ "Protesters occupy Ratchaprasong intersection". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-15.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Regan, Helen (October 16, 2020). "Two Thai protesters could face life imprisonment for violence against the Queen". CNN. สืบค้นเมื่อ 2020-10-16.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ""ประยุทธ์" ถามกลับ ผมทำผิดอะไร ลั่นไม่ลาออก รับ มีแผนใช้เคอร์ฟิว แต่ยังไม่ใช้ตอนนี้". มติชนออนไลน์. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
- ↑ "'Everyone Can Die Any Moment,' Outrage at Prayut's Protest Remark". Khaosod English. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
- ↑ "Thai police resort to teargas, arrest warrants against protesters". Nikkei Asia. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
- ↑ "นักศึกษาธรรมศาสตร์ จัดแฟลชม็อบ ประณามสลายการชุมนุม". ประชาชาติธุรกิจ. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
- ↑ "นศ.ลุกฮือประณามรัฐ ต่อต้านใช้ความรุนแรง". Bangkokbiznews (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
- ↑ "นักศึกษา ม.ขอนแก่น รับไม่ได้ ลุกฮือจัดชุมนุม ประณามการกระทำจนท". ข่าวสด. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
- ↑ "'หมอวรงค์'งัดภาพม็อบทำร้ายจนท.ด้วยคีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ แฉขบวนการบิดเบือน". สยามรัฐ. 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
- ↑ "อัษฎางค์ เปิดประเด็น ม็อบมือเปล่าจริงหรือ ด่าสถาบันฯ กลางราชประสงค์...เรียกชุมนุมสงบจริงหรือ". ทีนิวส์. 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
- ↑ "ไขข้อสงสัย สลายม็อบ 'แยกปทุมวัน' ทำไมต้อง 'น้ำสีฟ้า' !?". ฺBangkokbiznews. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ "Police insist water cannons did not fire harmful chemicals". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ "Protesters pick 3 sites as mass transit shut down". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
- ↑ "ผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เริ่มวิจารณ์สถาบันฯ และรัฐบาล". BBC ไทย. 18 October 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ "House mulls meet to end unrest". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-19.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "เกาะติดการชุมนุมกลุ่ม "ราษฎร" เคลื่อนขบวนไปทำเนียบฯ". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 21 October 2020.
- ↑ "ชุลมุน! เสื้อเหลืองป่วน ฝ่าแนวกั้น ตร. บุกขับไล่ เยาวชนราษฎร ออกจาก ม.รามคำแหง". มติชนออนไลน์. 21 October 2020. สืบค้นเมื่อ 21 October 2020.
- ↑ "ด่วนปะทะกันแล้ว!! ม็อบอาชีวะ-กลุ่มราษฏร ไล่หวดกันวุ่นหน้ารามคำแหงฯ". แนวหน้า. สืบค้นเมื่อ 21 October 2020.
- ↑ "ม.รามเดือด กลุ่มปกป้องสถาบัน เผชิญหน้า-ปะทะ กลุ่มรามคำแหงปชต. ตร.ห้ามวุ่น". ข่าวสด. 21 October 2020. สืบค้นเมื่อ 21 October 2020.
- ↑ Paddock, Richard C.; Suhartono, Muktita (21 October 2020). "Thailand's Leader Offers End to Crackdown on Pro-Democracy Protesters". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 22 October 2020.
- ↑ "PM offers end to 'emergency'". Bangok Post. 22 October 2020. สืบค้นเมื่อ 22 October 2020.
- ↑ "State of emergency ends in Bangkok". Bangkok Post. 22 October 2020. สืบค้นเมื่อ 22 October 2020.
- ↑ Regan, Helen (22 October 2020). "Thailand's Prime Minister lifts state of emergency. Protesters give him three days to resign". CNN.com. สืบค้นเมื่อ 22 October 2020.
- ↑ "Protesters plan action after PM ignores deadline to quit". Bangkok Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 November 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-10-25.
- ↑ Prapart, Erich; Satrusayang, Cod (27 October 2020). "Student protest leaders do not trust the prime minister's offer to amend the constitution by December". Thai Enquirer. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 October 2020. สืบค้นเมื่อ 27 October 2020.
- ↑ "Thai protesters shun Parliament, ask Germany to probe king". ChannelNewsAsia.com. 27 October 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 October 2020. สืบค้นเมื่อ 27 October 2020.
- ↑ Strangio, Sebastian (26 October 2020). "Thai Parliament Opens Special Session Over Anti-Government Protests". The Diplomat. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 October 2020. สืบค้นเมื่อ 27 October 2020.
- ↑ "Charter change boost". Bangkok Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 November 2020. สืบค้นเมื่อ 30 October 2020.
- ↑ ฝ่ายข่าว ช่อง 7 เอชดี (25 October 2020). "แกนนำกลุ่มราษฎร ประกาศยกระดับการชุมนุมเย็นวันนี้". news.ch7.com. สืบค้นเมื่อ 27 October 2020.
- ↑ ประชาไท (26 October 2020). "ประมวล #ม็อบ26ตุลา ถาม 4 ข้อสงสัยต่อสถานทูตเยอรมันเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์". prachatai.com. สืบค้นเมื่อ 27 October 2020.
- ↑ Promchertchoo, Pichayada (29 October 2020). "Thai protesters stage 'people's runway' in downtown Bangkok against princess' fashion brand". ChannelNewsAsia.com. สืบค้นเมื่อ 30 October 2020.
- ↑ "Khana Ratsadon 2020 put on a mock 'Sirivannavari Fashion Show'". Thisrupt. 30 October 2020. สืบค้นเมื่อ 30 October 2020.
- ↑ "Government to spend 29 billion baht on monarchy". Prechatai. 26 March 2020. สืบค้นเมื่อ 30 October 2020.
- ↑ "เกิดเหตุวุ่นวาย หลังเพนกวิน-ไมค์-รุ้ง ถูกอายัดตัวต่อ". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 30 October 2020.
- ↑ "Outrage as Thailand bans Pornhub, other porn websites". South China Morning Post (ภาษาอังกฤษ). 3 November 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 November 2020. สืบค้นเมื่อ 5 November 2020.
- ↑ 184.0 184.1 184.2 "เปิดจดหมาย "ราษฎร" ถึงพระมหากษัตริย์". BBC ไทย. 8 November 2020. สืบค้นเมื่อ 8 November 2020.
- ↑ "ตำรวจขอโทษม็อบไม่ตั้งใจ มือลั่นเลยเปิดฉากฉีดน้ำ หมอเผยบาดเจ็บ 2 รถพยาบาลรับออกไปแล้ว". amarintv. สืบค้นเมื่อ 8 November 2020.
- ↑ "Projectile Thrown at Cops Was a Smoke Bomb, Activist Says". Khaosod English. 9 November 2020. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
- ↑ "วอร์รูมนายกฯ ประเมินม็อบทั่วไทย ไม่เกิน 2 หมื่น รอแผ่วลง หวดกลับแน่!". ข่าวสด. 11 November 2020. สืบค้นเมื่อ 11 November 2020.
- ↑ Setboonsarng, Chayut; Thepgumpanat, Panarat (17 November 2020). "At least 55 hurt in Thailand's most violent protests since new movement emerged". Reuters. สืบค้นเมื่อ 18 November 2020.
- ↑ Ngamham, Wassayos (18 November 2020). "Pro-monarchy supporter caught with pistol, bullets at rally site". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 18 November 2020.
- ↑ "เปิดคุณสมบัติสารเคมี 5 ตัวในน้ำสีม่วงที่ฉีดใส่ผู้ชุมนุม ไม่ถึงตายแต่อาการหนัก". Kom Chad Luek. 21 November 2020.
- ↑ Yuda, Masayuki (18 November 2020). "Thailand parliament discards most constitutional reform ideas". Nikkei Asia. สืบค้นเมื่อ 20 November 2020.
- ↑ "PM thanks volunteers for graffiti cleanup after huge anti-government protest". The Thaiger (ภาษาอังกฤษ). 21 November 2020. สืบค้นเมื่อ 22 November 2020.
- ↑ ""นักเรียนเลว" จัดชุมนุม "บ๊ายบายไดโนเสาร์" ไม่สนหมายเรียก". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ "ส.ว.คนดังไม่ปักใจเชื่อ จี้สอบม็อบชูป้ายถูกครูทำอนาจาร 'สุวินัย' เชื่อ-เห็นใจ แผลในใจน้อง". มติชนออนไลน์. 21 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ "เปิดวาร์ปสาวชุดนักเรียนถือป้ายถูกครูทำอนาจารกับสารพัดชุดคอสเพลย์สุดแซ่บ". ผู้จัดการออนไลน์ (ภาษาอังกฤษ). 21 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ "ล้อมลวดหนาม'สนง.ทรัพย์สินฯ' ตั้งป้าย'เขตพระราชฐาน'". เดลินิวส์. 23 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "เปิดรายชื่อ "12 แกนนำ" ตำรวจออกหมายเรียกคดี มาตรา 112". ประชาชาติธุรกิจ. 24 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "SCB: กลุ่มราษฎรเปลี่ยนที่ชุมนุม 25 พ.ย. จากสำนักงานทรัพย์สินฯ เป็นสำนักงานใหญ่ไทยพาณิชย์". บีบีซีไทย. 24 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "เริ่มแล้ว ม็อบคณะราษฎร รวมตัวกันเต็มพื้นที่หน้า SCB สำนักงานใหญ่". คมชัดลึก. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ชุมนุม 25 พ.ย.: อานนท์ประกาศล่ารายชื่อเสนอ กม. "ทวงคืนทรัพย์สินที่ควรเป็นของราษฎร" ด้าน ส. ศิวรักษ์ ชี้ "ประยุทธ์รังแกพระเจ้าแผ่นดิน"". BBC ไทย. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 26 November 2020.
- ↑ "เซอร์ไพรส์! "ส.ศิวรักษ์" โผล่ร่วมชุมนุม ปราศัยโจมตี "บิ๊กตู่" ใช้ ม.112 ขัดพระบรมราชโองการ". พีพีทีวี. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ""ม็อบราษฎร" เล็งจัดชุมนุมใหญ่แบบไม่ค้างคืน 5 วันติด". ผู้จัดการออนไลน์. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ""บิ๊กตู่" ยัน ไม่เคยคิดใช้กฎอัยการศึก ขู่ ทำผิดกฎหมายดำเนินการแน่ (คลิป)". ไทยรัฐ. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "กระสุนเข้าจุดสำคัญ! "นพ.ทศพร"เผยอาการการ์ดอาชีวะโดนยิงร่วง แพทย์ต้องผ่าตัดด่วน". ข่าวสด. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ "ฮือรุมจับมือยิงใส่ม็อบ! การ์ดอาชีวะโดนท้องเจ็บ อีกคนโผล่ปาบึ้มสนั่นวิ่งแหกวงล้อมหนีรอด". ข่าวสด. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ 206.0 206.1 "เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเหตุรุนแรงหลังการชุมนุม "ราษฎร"". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 26 November 2020.
- ↑ "เกมตื้นๆ 'ปารีณา' ชี้เปรี้ยง 3 นิ้วยิงกันเอง หวังสร้างสถานการณ์". Thai Post. สืบค้นเมื่อ 26 November 2020.
- ↑ 208.0 208.1 "ชุมนุม 27 พ.ย.: แนวร่วม "ราษฎร" เริ่มกิจกรรม "ซ้อมต้านรัฐประหาร"". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 27 November 2020.
- ↑ ""เพนกวิน" ประกาศชัยชนะนำม็อบถึงราบ 11 - อ่านแถลงการณ์ถ่ายโอนกำลังทหารคืนสังกัด". สนุก.คอม. 29 พฤศจิกายน 2563. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2563.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help)CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ""นักเรียนเลว-ภาคีนักเรียน KKC ชวนแต่งไปรเวท 1 ธ.ค. ท้ากฎระเบียบล้าหลัง". สนุก.คอม. 1 ธันวาคม 2563. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2563.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help)CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ไบร์ท ชินวัตร เผยเตรียมยกระดับม็อบราษฎร หลัง "ประยุทธ์" ยังเป็นนายกฯ". ไทยรัฐ. 2 ธันวาคม 2563. สืบค้นเมื่อ 2 ธันวาคม 2563.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help)CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ครูใหญ่ อรรถพล บัวพัฒน์ ทุบศาลพระภูมิ ที่ชุมนุมห้าแยกลาดพร้าว". คมชัดลึก. 2 ธันวาคม 2563. สืบค้นเมื่อ 2 ธันวาคม 2563.
{{cite web}}
: zero width space character ใน|title=
ที่ตำแหน่ง 15 (help); ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help)CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ล็อกโตโต้ขายกุ้งสนามหลวง คอมแบตถีบหน้าการ์ดหญิง
- ↑ "เพนกวิน-รุ่ง นำมวลชนชุมนุมหน้าสภ.คลองหลวง เหตุ 'นิว มธ.' ถูกจับคดี112". Bangkokbiznews. สืบค้นเมื่อ 15 January 2021.
- ↑ "Scuffles Break Out as Thai Protesters Flout Virus Rules to Protest | Voice of America - English". VOA (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 18 January 2021.
- ↑ "'Kidnapped' Free Guard found". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 18 January 2021.
- ↑ "สั่งฟ้อง4แกนนำ'ม็อบราษฎร' ผิดม.112+อีก10ข้อหา!". เดลินิวส์. 2021-02-09. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ส่งตัวเข้าเรือนจำ! ศาลไม่ให้ประกัน4แกนนำ'ม็อบราษฎร'". เดลินิวส์. 2021-02-09. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "แน่น!ม็อบตีหม้อไล่เผด็จการ ตร.ตรึงกำลัง-รถน้ำพร้อม". เดลินิวส์. 2021-02-10. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "รานงาน : บทบาท ราษฎร 'ตีหม้อ' ไล่ 'เผด็จการ' #ม็อบ10กุมภา". มติชน. 2021-02-10. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "#ม็อบ10กุมภา เคลื่อนขบวน! เป้าหมาย สน.ปทุมวัน หลังตำรวจรวบผู้ชุมนุม 10 คน". สนุก.คอม. 2021-02-10. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.
- ↑ ""รุ้ง" นำม็อบราษฎรลงถนน มุ่งหน้า สน.ปทุมวัน หลังผู้ชุมนุมโดนรวบ". ประชาชาติธุรกิจ. 2021-02-10. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.
- ↑ "ม็อบราษฎร ขีดเส้นตำรวจ สน.ปทุมวัน ปล่อยตัวผู้ชุมนุม ก่อน 20.30 น. ขู่บุกโรงพัก". ไทยรัฐ. 2021-02-10. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.
- ↑ "เกิดเสียงดังคล้ายประทัด บริเวณแนวกั้นตำรวจควบคุมฝูงชน". ไทยรัฐ. 2021-02-10. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.
- ↑ ""รุ้ง" ปนัสยา ประกาศยุติชุมนุม หน้า สน.ปทุมวัน แย้มมีซักฟอกรบ.นอกสภา". ไทยรัฐ. 2021-02-10. สืบค้นเมื่อ 2021-02-13.
- ↑ "Cops Say They Don't Use Tear Gas During Clash at Police Station". Khaosod English. 12 February 2021. สืบค้นเมื่อ 14 February 2021.
- ↑ "First Major Rally in Months Saw 10 Protesters Briefly Detained". Khaosod English. 11 February 2021. สืบค้นเมื่อ 14 February 2021.
- ↑ 228.0 228.1 228.2 "Police and protesters face off again". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 14 February 2021.
- ↑ "เปิด 11 รายชื่อ ถูกรวบคาม็อบ #13กุมภาฯ". มติชนออนไลน์. 13 February 2021. สืบค้นเมื่อ 14 February 2021.
- ↑ "การ์ดอาชีวะถูกยิง-มวลชนล้อม 7-11 จับมือปืนส่งตำรวจได้ 1 คน". มติชนออนไลน์. 13 February 2021. สืบค้นเมื่อ 14 February 2021.
- ↑ "#ตำรวจกระทืบหมอ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ เช้านี้ หลัง ชาวเน็ตแชร์คลิป ทีมแพทย์โดนล้อม". มติชนออนไลน์. 14 February 2021. สืบค้นเมื่อ 14 February 2021.
- ↑ "'นครบาล' ขีดเส้น 'Mob Fest' 4 ทุ่มยุติชุมนุมหน้าสภา". กรุงเทพธุรกิจ. 2021-02-19. สืบค้นเมื่อ 2021-02-20.
- ↑ "เริ่มแล้ว 'ม็อบ' ราษฎรจัดซักฟอก 'รัฐบาล-ประยุทธ์'". กรุงเทพธุรกิจ. 2021-02-20. สืบค้นเมื่อ 2021-02-20.
- ↑ "#ม็อบ23กุมภา เริ่มลงถนนแยกราชประสงค์ ชูธงชุมนุมเพื่อตำรวจ ขณะตำรวจเตรียมรถน้ำสกัด". สนุก.คอม. 2021-02-23. สืบค้นเมื่อ 2021-02-23.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "เยาวชนปลดแอก เปิดตัว REDEM ช่องทางออกแบบการเคลื่อนไหว บันไดสู่ ปชต". มติชน. 2021-02-24. สืบค้นเมื่อ 2021-02-28.
- ↑ 236.0 236.1 236.2 "Thai Protest Leader: 'Our Demands Are Supremely Clear' | Voice of America - English". VOA News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 30 October 2020.
- ↑ Atiya, Achakulwisut. "Crackdown on student protest is a wasted effort". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-09-15.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "From Hamtaro to Drag Queen: Pop Cultures as the New Means for Thai Political Movement". workpointTODAY. 27 July 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ "Opinion: Student Protest Leaders Lack a Coherent Strategy". Khaosod English. 13 August 2020. สืบค้นเมื่อ 24 August 2020.
- ↑ English, Khaosod (20 October 2020). "Schoolgirls Emerge as Leaders of Leaderless Protests in Bangkok". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 21 October 2020.
- ↑ "Less Than a Day Old, Democracy Plaque Lives On In Memes, Fanart". Khaosod English. 22 September 2020. สืบค้นเมื่อ 5 November 2020.
- ↑ Helen Regan; Kocha Olarn. "Thailand's monarchy was long considered God-like. But protesters say it's time for change". CNN. สืบค้นเมื่อ 24 August 2020.
- ↑ Pongsudhirak, Thitinan. "Reforms need broadening of the agenda". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-09-25.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Cunningham, Philip J. "An unexpectedly successful protest". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 24 September 2020.
- ↑ "ม็อบยุติชุมนุมหลังจัดกิจกรรมส่งสาส์นราษฎร ย้ำ3ข้อเรียกร้องประนีประนอมที่สุดแล้ว". โพสต์ทูเดย์. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
- ↑ "Loss of protest leaders 'critical'". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
- ↑ "4 ปรากฏการณ์ใหม่ในแฟลชม็อบ "ไร้แกนนำ" เมื่อ "ราษฎร" ไทยลุกฮือ". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ "'A moving current': Thai protesters adopt Hong Kong tactics". Bangkok Post.
- ↑ "Thailand's Protesters Want the World to Know #WhatsHappeningInThailand". Diplomat. สืบค้นเมื่อ 22 October 2020.
- ↑ "สันติวิธีหรือไม่ เมื่อไปสาดสี-ขีดเขียน-ใช้คำหยาบ ในการชุมนุม". BBC ไทย. 24 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ "เปิดบทสนทนาของนักศึกษากลุ่ม "ไทยภักดี" กับ "ประชาชนปลดแอก" ว่าด้วยท่อน้ำเลี้ยง-เพดาน-สิ่งศักดิ์สิทธิ์". BBC ไทย. BBC. 28 August 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ "กัดไม่ปล่อย จ่อร้อง "สรรพากร" สอบท่อน้ำเลี้ยงม็อบ". ฐานเศรษฐกิจ. Bangkok: ฐานเศรษฐกิจ. 17 September 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ Komkrit Duangmanee (22 September 2020). "ทราย เจริญปุระ โพสต์โต้ปมควักเงินหนุนม็อบ ลั่น "จะตรวจสอบอะไร ไม่ได้รับบริจาค"". สนุก! นิวส์. Bangkok: เทนเซนต์ (ประเทศไทย). สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ "มาแล้ว! "ทราย เจริญปุระ" ตั้งโรงครัวให้ชาวม็อบ บริเวณสนามหลวงใกล้พระแม่ธรณีฯ". สนุก! นิวส์. Bangkok: เทนเซนต์ (ประเทศไทย). 19 September 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ "สุดปังพลังติ่ง แฟนคลับศิลปินเกาหลีระดมเงิน 2.3 ล้านสนับสนุนม็อบ". ประชาชาติธุรกิจ. Bangkok: ประชาชาติธุรกิจ. 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ "ปังมาก! แฟนคลับเกาหลี โดเนทท่อน้ำเลี้ยงม็อบ ไม่กี่วันทะลุล้าน ผุดแคมเปญ เลิกซื้อโฆษณารฟฟ". มติชน. Bangkok: มติชน. 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ "เหล่าแฟนคลับศิลปินเกาหลีร่วมระดมทุนท่อน้ำเลี้ยง ยอดทะลุล้านในเวลาอันรวดเร็ว!". Kornews. Bangkok: Kornews. 18 October 2020. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ "ม็อบเดินถือกล่องขอรับบริจาคเงินผู้ชุมนุม ร่วมเป็นท่อน้ำเลี้ยงไล่'บิ๊กตู่'". แนวหน้า. สืบค้นเมื่อ 26 October 2020.
- ↑ กองบรรณาธิการวอยซ์ออนไลน์ (16 September 2020). "'ศรีสุวรรณ' ร้องสอบ 'ท่อน้ำเลี้ยงม็อบ' รับหาหลักฐานเอาผิด 'กปปส.' ยาก". Voice Online. Bangkok: Voice. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ English, Khaosod (31 August 2020). "U.S. Embassy Denies Funding Anti-Govt Protests". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 31 August 2020.
- ↑ ""ก้าวไกล" จี้ หยุดใช้นิติสงครามกับ ปชช.ยัน คดี นิสิต-นศ.ไม่เข้า ม.116". ไทยรัฐ. 3 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ "เครือข่ายทนายสิทธิร้องเรียน ตร.ละเมิดกฎหมายและสิทธิมนุษยชนต่อนักกิจกรรม". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ Yuda, Masayuki (18 October 2020). "Thailand's crackdown on protests turns violent: Five things to know". Nikkei Asian Review.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ตร.ยืนยัน! รถฉีดน้ำ-ก๊าซน้ำตา เป็นยุทธวิธีเหมาะสมกับผู้ชุมนุม ไม่ใช้กระสุนยาง-กระสุนจริง". ช่อง 7. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ "เจ้าหน้าที่เตรียมใช้กระสุนยาง สกัดกลุ่มผู้ชุมนุม". เนชั่นทีวี. 17 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ "ทนายอานนท์ เผย มีผู้ชุมนุมโดนยิงด้วยกระสุนยาง กำลังส่ง รพ". ประชาชาติธุรกิจ. 17 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ Human Rights Watch (17 October 2020). "Thailand: Water Cannon Used Against Peaceful Activists". Human Rights Watch.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ไขปม! 'กระสุนยาง' อันตรายแค่ไหน ทำไมจึงไม่ควรใช้ 'สลายการชุมนุม'". กรุงเทพธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ "'ม็อบ' ยิ่งรุก 'รัฐบาล' ยิ่งต้าน ประกาศ 'นิติสงคราม'". กรุงเทพธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ Chotanan, Patawee. "Dancing with dictatorship: how the government is dealing with the Free Youth movement".
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "แห่ดิสไลค์ คลิปกรมประชาฯ โวยรัฐใช้ภาษีทำคลิปดิสเครดิตม็อบเยาวชน". ไทยรัฐ. 22 August 2020. สืบค้นเมื่อ 22 August 2020.
- ↑ ""บิ๊กแดง" น้ำตาคลอ! เปิดใจถึงม็อบ นศ. เตือนอย่าใช้วาจาจาบจ้วง". Channel 8. 24 July 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-07-26.
- ↑ "ผบ.ทบ. ลั่นโอกาสรัฐประหาร "เป็นศูนย์"". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 6 October 2020.
- ↑ "จับตา! #ม็อบไม่มุ้งมิ้งแต่ตุ้งติ้ง ทวง 3 ข้อรัฐบาล". ThaiPBS. 25 July 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-07-26.
- ↑ "Exclusive: Thailand tells universities to stop students' calls for monarchy reform". www.msn.com. สืบค้นเมื่อ 2020-09-14.
- ↑ "ด่วน! ตร.พัทลุง ทำหนังสือถึงโรงเรียน สั่งห้าม นร.-นศ. ชุมนุมไล่รัฐบาล". Khaosod. 24 July 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 July 2020. สืบค้นเมื่อ 26 July 2020.
- ↑ "ให้ทุกรร.สังกัดสพฐ.อนุญาตเด็กจัดชุมนุมแต่ห้ามคนนอกร่วม". เนชั่น. 18 August 2020. สืบค้นเมื่อ 18 August 2020.
- ↑ "เปิดชื่อ 109 รร. คุกคาม นร. "ผูกโบว์ขาว-ชู 3 นิ้ว"". BBC Thai. สืบค้นเมื่อ 24 August 2020.
- ↑ ศูนย์ทนายสิทธิฯ เปิด 8 รูปแบบการคุกคามปิดกั้น รอบ 2 อาทิตย์หลังเยาวชนเริ่มปลดแอก
- ↑ 280.0 280.1 ไม่รอด! ตร.จับแอดมินกุข่าวอุ้ม 3 แกนนำเยาวชนพิษณุโลกเข้าค่าย ตชด. แฉมีคดีติดตัว
- ↑ 3 แกนนำเยาวชนยังหายตัวปริศนา ส.ส.พิษณุโลก เผย ตชด.ปฏิเสธ ไม่ได้คุมตัว
- ↑ "สกัดรถยึดหนังสือ กลุ่มนักศึกษาปลดแอก 50,000 เล่ม มวลชนเผาหุ่นฟางนายกฯ". ไทยรัฐ. 19 September 2020. สืบค้นเมื่อ 19 October 2020.
- ↑ "The politics of decree". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "นิธิ เอียวศรีวงศ์ หวั่น 6 ตุลา รอบใหม่". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 12 August 2020.
- ↑ "ประกาศแต่งตั้ง หัวหน้าผู้รับผิดชอบ กอร.ฉ. แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง". ไทยรัฐ. 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
- ↑ English, Khaosod (2020-10-16). "Editorial: Prayut Has Lost All Legitimacy. He Must Go". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2020-10-17.
- ↑ "Police move to silence news, Facebook platforms". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-19.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "โลกออนไลน์ เผยแพร่เอกสาร สั่งปิด 'เทเลแกรม'". มติชนออนไลน์. 19 October 2020. สืบค้นเมื่อ 19 October 2020.
- ↑ "ด่วน! ศาลอาญายกเลิกคำร้องปิดวอยซ์ทีวี รวมทั้ง 'เยาวชนปลดแอก' ด้วย". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 21 October 2020.
- ↑ "ตำรวจบุก "ฟ้าเดียวกัน" ตรวจยึดหนังสือวิจารณ์สถาบันกษัตริย์". ูผู้จัดการออนไลน์. 19 October 2020. สืบค้นเมื่อ 19 October 2020.
- ↑ "Anti-Gov't Protest Plans Complicated by Royal Itinerary". Khaosod English. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 14 October 2020 – โดยทาง Reuters.
- ↑ "'อัศวิน'จัดรถขยะ-รถสุขา ให้ม็อบป้องสถาบันฯหน้ารัฐสภา". Daily News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 October 2020. สืบค้นเมื่อ 25 October 2020.
- ↑ "มหาเถรสมาคม ห้าม 'พระ-สามเณร' ยุ่งกิจกรรมการเมือง". กรุงเทพธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ "Thailand's Prime Minister Threatens Protesters with Lese Majesty Law". Chiang Rai Times (ภาษาอังกฤษ). 21 November 2020. สืบค้นเมื่อ 22 November 2020.
- ↑ Crispin, Shawn W. (18 August 2020). "New generation of daring resistance in Thailand". Asia Times. สืบค้นเมื่อ 20 August 2020.
- ↑ "Thai PM says protesters' call for monarchy reform 'went too far'". www.aljazeera.com. สืบค้นเมื่อ 2020-08-20.
- ↑ ""ในหลวง" ตรัส "กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ" ชายชูพระบรมฉายาลักษณ์ ร.๙ กลางผู้ประท้วง (ชมคลิป)". ผู้จัดการออนไลน์. 24 October 2020. สืบค้นเมื่อ 23 October 2020.
- ↑ "Can Thai monarchy emerge unscathed as it faces its greatest challenge?". South China Morning Post (ภาษาอังกฤษ). 31 October 2020. สืบค้นเมื่อ 1 November 2020.
- ↑ ยอมรับแล้ว! “ปิยบุตร” ยืมปาก “พิธา” เฉลย “ล้มเจ้า” ในม็อบ “สาธิต” นักธุรกิจอินเดียรักในหลวงขอถก “บิ๊กแดง”
- ↑ @MFPThailand (11 August 2020). "นอกจาก 3 ข้อเรียกร้องทางการเมืองไทยแล้ว" (ทวีต). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
- ↑ "คณาจารย์ ลงชื่อหนุนกลุ่ม นศ. "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน"". ไทยรัฐ. 12 August 2020. สืบค้นเมื่อ 12 August 2020.
- ↑ ครูร่วมปลดแอก ชูสามนิ้วในห้องพักครู ขออยู่เคียงข้างนักเรียน matichon.co.th เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 สืบค้นเมื่อ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563
- ↑ 'มารีญา' โพสต์ประกาศจุดยืนขออยู่ข้าง 'เยาวชนปลดแอก'
- ↑ เอก HRK และ โบ๊ะบ๊ะแฟมมิลี่ ออกมาแสดงจุดยืนทางการเมือง ถึงกลุ่ม เยาวชนปลดแอก
- ↑ "Time to call out. Thai stars show solidarity with protest leader". workpointTODAY. 13 August 2020. สืบค้นเมื่อ 16 September 2020.
- ↑ AmirinTV. "คอมเมนต์สนั่น! ปรากฏการณ์โซเชียลมูฟเมนต์ จากไอดอลสาว BNK 48". Amarin.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Prachachat (14 August 2020). "ดารา-คนบันเทิง แห่โพสต์สนับสนุนเสรีภาพ ต้านการคุกคามประชาชน". Prachachat.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Doctor sacked for opposing govt's dispersal of protesters". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ "ยูนิเซฟ เรียกร้องเคารพสิทธิ-ปกป้องความรุนแรงเด็กและเยาวชน". ประชาชาติธุรกิจ. 18 August 2020. สืบค้นเมื่อ 18 August 2020.
- ↑ "Thailand: Bangkok shuts public transport as protests persist | DW | 17.10.2020". Deutshe Welle. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
- ↑ "Thailand: Police disperse pro-democracy protesters outside PM's office". Euro News (ภาษาอังกฤษ). 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
- ↑ "โจชัว หว่อง ฝากถึงชาวโลก ให้ช่วยยืนเคียงข้างชาวไทยหัวใจประชาธิปไตย". Khaosod. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
- ↑ English, Khaosod (2020-10-16). "7 Arrested for Fresh Protest, Cops Threaten to Charge Everyone". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2020-10-17.
- ↑ "Listen to the young". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-19.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ นักเรียนเลว [@BadStudent_] (Sep 16, 2020). "นี่สิ่งที่เพื่อน ๆ ของเราหลายคนต้องเจอค่ะ - ขู่ตัดแม่ตัดลูกถ้ายังไม่หยุดทำ
- ไม่ให้เงินไปโรงเรียนมาเกือบ 2 เดือน
- เก็บค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าที่อยู่กับลูกตัวเอง
- จะไล่ออกจากบ้าน ให้ไปอยู่ที่อื่น
- จะส่งไปอยู่ต่างประเทศ
- จะไม่จ่ายค่าเทอมให้" (ทวีต) – โดยทาง ทวิตเตอร์. - ↑ "เปิดตัว 'สถาบันทิศทางไทย' ขับเคลื่อนไทยไร้ขัดแย้ง". bangkokbiznews.com. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
- ↑ "สถาบันทิศทางไทย เปิดผังเครือข่ายปฏิวัติประชาชน (เพ้อฝัน)". nationtv.tv. 10 August 2020. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
- ↑ "A global conspiracy against the Thai Kingdom". thisrupt.co. สืบค้นเมื่อ 31 August 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ชาวเน็ตสงสัย พบกลุ่มชายหัวเกรียน รวมตัวเป็นกลุ่ม ตั้งข้อสังเกต เตรียมแฝงม็อบ?". Khaosod. 25 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
- ↑ "นายกฯ ไม่สบายใจม็อบธรรมศาสตร์ชุมนุม บอกติดตามดูอยู่". ไทยรัฐ. 11 August 2020. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
- ↑ "'สุดารัตน์'ติงไม่ควรก้าวล่วงสถาบัน วอนยึด3ข้อเรียกร้อง". เดลินิวส์. 11 August 2020. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
- ↑ "หยุดจาบจ้วงพระมหากษัตริย์". แนวหน้า. สืบค้นเมื่อ 17 August 2020.
- ↑ Sombatpoonsiri, Janjira; Carnegie Endowment for International Peace (2018). "Conservative Civil Society in Thailand". ใน Youngs, Richard (บ.ก.). The mobilization of conservative civil society (PDF) (ภาษาอังกฤษ). Washington, D.C.: Carnegie Endowment for International Peace. pp. 27–32. OCLC 1059452133.
- ↑ Correspondent, Our. "Thailand Blocks Overseas Opposition Voice". www.asiasentinel.com. สืบค้นเมื่อ 29 August 2020.
- ↑ "New Social Media and Politics in Thailand: The Emergence of Fascist Vigilante Groups on Facebook". ASEAS - Austrian Journal of South-East Asian Studies (ภาษาเยอรมัน). 9 (2): 215–234. 2016. ISSN 1999-2521. OCLC 7179244833.
- ↑ English, Khaosod (28 July 2020). "Royalist Campaign Tells Companies Not to Hire Protesters". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 28 August 2020.
- ↑ "Thai royalist seeks to shame, sack young protesters - UCA News". ucanews.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 28 August 2020.
- ↑ "Thai protests: Thousands gather in Bangkok as king returns to country". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2020-10-14. สืบค้นเมื่อ 2020-10-14.
- ↑ "ศาลรธน.รับวินิจฉัยปมปราศรัยล้มล้างการปกครอง". เดลินิวส์. 16 September 2020. สืบค้นเมื่อ 16 September 2020.
- ↑ "11th grader summoned by teacher, asked not to give protest speeches". Prachatai English (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 16 September 2020.
- ↑ ""Whores" & "Sluts": why "good people" love these insults". thisrupt.co. สืบค้นเมื่อ 2020-09-14.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "นักเรียนเลว โอดเคลื่อนไหวทางการเมือง โดนครอบครัวขู่-ไล่ออกจากบ้าน". ข่าวสด. 16 September 2020. สืบค้นเมื่อ 16 September 2020.
- ↑ "'อ.เจษฎา' ชี้ม็อบสาดสีใส่ตร. 'รุนแรง-คุกคาม' ยกตัวอย่างสากลประท้วงสันติวิธีด้วยภาพวาด". Thai Post (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 1 September 2020.
- ↑ "เพจโปลิศไทยแลนด์ ตำหนิม็อบสาดสีใส่ตำรวจไม่เกิดผลดีเลย แสดงออกถึงตัวตนเป็นเช่นไร". Thai Post (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 1 September 2020.
- ↑ "หมอสุกิจ อัดม็อบหยาบคายใส่ 'ชวน' ยันเป็นกลาง ไล่ไปด่า ส.ส.-สว.ตัวเอง". ข่าวสด. 25 September 2020. สืบค้นเมื่อ 14 October 2020.
- ↑ "ตำรวจ บุกไทยซัมมิท กลางวงแถลงข่าวคณะก้าวหน้า". Bangkokbiznews. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
- ↑ "บุก 'ไทยซัมมิท' หนสอง ศ.ป.ป.ส.ไล่ 'ธนาธร' พ้นแผ่นดิน จี้ถือธงนำหน้า อย่าแอบหลังขบวนการ น.ศ." Matichon. 12 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
- ↑ "มือมืดปาสี ใส่กลุ่มไทยภักดี ขณะชุมนุมปกป้องสถาบันที่ศาลหลักเมืองขอนแก่น". สยามรัฐ. 23 October 2020. สืบค้นเมื่อ 23 October 2020.
- ↑ "ชูป้ายผิดชีวิตเปลี่ยน หวิดถูก'กลุ่มผู้ชุมนุม'ประชาทัณฑ์". เดลินิวส์. 23 October 2020. สืบค้นเมื่อ 23 October 2020.
- ↑ "นิวยอร์กไทมส์ ระบุข่าวลือรัฐประหารในไทยผุดขึ้นหลังการประท้วงของเยาวชน". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 3 November 2020.
- ↑ "ม็อบเสื้อเหลือง นัดหน้าทำเนียบ ชง "ประยุทธ์-ผบ.ทบ." รัฐประหาร". ประชาชาติธุรกิจ. 8 November 2020. สืบค้นเมื่อ 10 November 2020.
- ↑ "แจงปมผู้สื่อข่าวหญิงปกปิดต้นสังกัดรายงานข่าวม็อบ". เนชั่นทีวี. 17 August 2020. สืบค้นเมื่อ 17 August 2020.
- ↑ "จากใจเนชั่น ขอยืนหยัดทำข่าวบนพื้นฐานจริยธรรม วอนหยุดแบนสินค้า". คมชัดลึกออนไลน์. 19 August 2020. สืบค้นเมื่อ 22 August 2020.
- ↑ "สื่อต่างชาติรายงาน #RepublicofThailand เกลื่อนโลกโชเชียลไทย". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 29 September 2020.
- ↑ "โซเชียลตั้งคำถาม ทีวีไทยเซ็นเซอร์ ตัดสัญญาณออกอากาศสื่อต่างประเทศ". มติชนออนไลน์. 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
- ↑ "Correction to story 'Protesters hit Bangkok train stations'". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 24 October 2020.
- ↑ "งานเข้าอีกแล้ว!โซเชี่ยล โพสต์แรงถึง "ช่อง 3"". tvpoolonline.com. 19 October 2020. สืบค้นเมื่อ 12 November 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "AFP แจงสื่อออนไลน์บิดเบือนบทสัมภาษณ์ รมต.ต่างประเทศเยอรมนี กรณีกษัตริย์ไทย". มติชนออนไลน์. 31 October 2020. สืบค้นเมื่อ 31 October 2020.
- ↑ "นิวยอร์กไทมส์ ระบุข่าวลือรัฐประหารในไทยผุดขึ้นหลังการประท้วงของเยาวชน". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
- ↑ "สื่ออังกฤษกับรายงานปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ไทย". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
แหล่งข้อมูลอื่น
- "ลำดับเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง 2563". BBC ไทย. 30 October 2020. สืบค้นเมื่อ 30 October 2020.
- แฮมทาโร่ หอแต๋วแตก ถอดรหัสชุมนุมเยาวชนจากอิทธิพลป๊อบคัลเจอร์ - BBC News ไทย
- "สื่อเสวนา ทำข่าวเรื่องกษัตริย์ในที่ชุมนุมมีความกลัว-เงื่อนไข แต่จำเป็นมากกับสังคม". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 17 August 2020.
- วิดีโอโฆษณาชวนเชื่อของกรมประชาสัมพันธ์