ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทมยันตี"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
Aroonsaha (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 40: บรรทัด 40:
{{บทความหลัก2|คดีระหว่างศรีวิทย์ เจียมเจริญ กับวิมล เจียมเจริญ และอาคม อรรถเวทย์วรวุฒิ}}-->
{{บทความหลัก2|คดีระหว่างศรีวิทย์ เจียมเจริญ กับวิมล เจียมเจริญ และอาคม อรรถเวทย์วรวุฒิ}}-->


วิมลสมรสคร้งแรกกับสมัคร กล่าเสถียร หลังจากเลิกเป็นครูแล้ว ต่อมาได้หย่าร้างกัน และสมรสคร้งที่สองกับร้อยตำรวจโทศรีวิทย์ เจียมเจริญ มีบุตรชายด้วยกันสามคน เธอใช้ชีวิตสมรสกับสามีระยะเวลาหน่ง แต่ก็เกิดปัญหาอีก ทำให้มีคดีฟ้องร้องกัน ราวปี พ.ศ. 2523 เพราะปัญหาความแตกร้าวในชีวิตคู่ เธอถูกฟ้องหย่าและถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับชายอื่น ในขณะท่เธอดำรงตำแหน่ง[[สมาชิกวุฒิสภา]] คดีน้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “คดีทมยันตี” หรือ “คดีชู้รักบันลือโลก” โดยสามีของเธอได้ฟ้องศาลและขอให้ศาลบังคับให้เธอหย่า พร้อมเรียกค่าเสียหายจากเธอเป็นจำนวนมาก ท้ายที่สุดศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินว่าเธอมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับชายอื่นจริง ทำให้เธอแพ้คดี จึงต้องแบ่งสินสมรสกับฝ่ายสามี แม้เธอจะได้ร้องขอให้ยกทรัพย์สินทั้งหมดให้บุตรทั้งสามคนก็ตาม แต่ทรัพย์สินทั้งหมดก็ถูกศาลแบ่งครึ่งตามกฎหมายและถูกขายทอดตลาด เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว วุฒิสภาได้ลงมติให้เธอต้องออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา
หลังจากเลิกเป็นครูแล้ว วิมลสมรสกับสมัคร กล่าเสถียร ต่อมาได้หย่าร้างกัน และสมรสครั้งที่สองกับร้อยตำรวจโทศรีวิทย์ เจียมเจริญ มีบุตรชายด้วยกันสามคน เธอใช้ชีวิตสมรสกับสามีระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็เกิดปัญหาอีก ทำให้มีคดีฟ้องร้องกันราวปี พ.ศ. 2523 เพราะปัญหาความแตกร้าวในชีวิตคู่ เธอถูกฟ้องหย่าและถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับชายอื่น ในขณะที่เธอดำรงตำแหน่ง[[สมาชิกวุฒิสภา]] คดีนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “คดีทมยันตี” หรือ “คดีชู้รักบันลือโลก” โดยสามีของเธอได้ฟ้องศาลและขอให้ศาลบังคับให้เธอหย่า พร้อมเรียกค่าเสียหายจากเธอเป็นจำนวนมาก ท้ายที่สุดศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินว่าเธอมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับชายอื่นจริง ทำให้เธอแพ้คดี จึงต้องแบ่งสินสมรสกับฝ่ายสามี แม้เธอจะได้ร้องขอให้ยกทรัพย์สินทั้งหมดให้บุตรทั้งสามคนก็ตาม แต่ทรัพย์สินทั้งหมดก็ถูกศาลแบ่งครึ่งตามกฎหมายและถูกขายทอดตลาด เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว วุฒิสภาได้ลงมติให้เธอต้องออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา


ต่อมาในปี พ.ศ. 2548 วิมลได้ฟ้องพันตำรวจเอกศรีวิทย์ เจียมเจริญ อดีตสามี เรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรเป็นคดีความยืดเยื้อกันไปถึงสามศาลอีกครั้งหนึ่ง<ref>คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2697/2548 ระหว่าง นางวิมล ศิริไพบูลย์ โจทก์ และ พันตำรวจเอกศรีวิทย์ เจียมเจริญ จำเลย</ref>
ต่อมาในปี พ.ศ. 2548 วิมลได้ฟ้องพันตำรวจเอกศรีวิทย์ เจียมเจริญ อดีตสามี เรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรเป็นคดีความยืดเยื้อกันไปถึงสามศาลอีกครั้งหนึ่ง<ref>คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2697/2548 ระหว่าง นางวิมล ศิริไพบูลย์ โจทก์ และ พันตำรวจเอกศรีวิทย์ เจียมเจริญ จำเลย</ref>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 03:25, 19 กุมภาพันธ์ 2564


วิมล ศิริไพบูลย์

เกิด10 กรกฎาคม พ.ศ. 2479 (87 ปี)
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จังหวัดพระนคร
นามปากกาทมยันตี
ลักษณวดี
กนกเรขา
โรสลาเรน
มายาวดี
วิม-ลา
อาชีพนักเขียน
รางวัลสำคัญศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2555
คู่สมรสสมัคร กล่ำเสถียร (หย่า)
ศรีวิทย์ เจียมเจริญ (หย่า)

คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ (เกิด 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2479) เป็นนักประพันธ์นวนิยายชาวไทย นามปากกาที่เป็นที่รู้จัก คือ ทมยันตี, ลักษณวดี, กนกเรขา, โรสลาเรน, วัสสิกา, มายาวดี และเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2555 ผลงาน เช่น คู่กรรม, ทวิภพ, ค่าของคน, อุบัติเหตุ, ดาวเรือง, ล่า, เวียงกุมกาม, นากพัทธ์, พิษสวาท, ดั่งดวงหฤทัย, คำมั่นสัญญา, พี่เลี้ยง, เลือดขัตติยา, ใบไม้ที่ปลิดปลิว และอื่น ๆ ซึ่งมีการสร้างเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายยุคหลายสมัย

ประวัติ

ทมยันตี มีชื่อจริงว่า คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ ชื่อเล่นว่า อี๊ด[1] เกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2479 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จังหวัดพระนคร เป็นบุตรีคนใหญ่ของทองคำ และไข่มุก ศิริไพบูลย์ มีพี่ชายหนึ่งคน และมีน้องสาวหนึ่งคน ตระกูลฝ่ายบิดาเป็นทหารเรือ ตระกูลฝ่ายมารดาเป็นชาววัง

วิมลจบการศึกษาระดับประถมและมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ จากนั้นศึกษาต่อในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายหลังเปลี่ยนมาศึกษาคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เธอเป็นนักโต้วาทีของมหาวิทยาลัย ร่วมทีมกับสมัคร สุนทรเวช และชวน หลีกภัย เธอใช้เวลาส่วนใหญ่อ่านหนังสือในห้องสมุดหลายแห่ง เธอตัดสินใจไม่ไปสอบเพื่อรับปริญญา ทำให้เธอสำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญาแทน ในขณะศึกษาระดับชั้นปีที่สาม เพื่อนของเธอได้ชักชวนให้ไปสมัครเป็นครูสอนวิชาภาษาไทยและวิชาประวัติศาสตร์ที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ เธอจึงลาออกเพื่อไปประกอบอาชีพครู และเขียนหนังสือไปพร้อม ๆ กัน ต่อมาเธอจึงเลิกสอนหนังสือและหันมาเขียนหนังสือเพียงอย่างเดียวจนถึงปัจจุบัน

วิมลเริ่มเขียนเรื่องสั้นเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 14 ปี ขณะเรียนอยู่ชั้นมัธยม 4 ได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร ศรีสัปดาห์ และได้เขียนเรื่องสั้นต่อเนื่องอยู่ถึง 11 ปี ขณะที่เริ่มเขียนเรื่องยาวเรื่องแรกคือเรื่อง ในฝัน เมื่ออายุ 19 ปี ใช้นามปากกา โรสลาเรน ตีพิมพ์ในนิตยสารศรีสัปดาห์

วิมลได้ชื่อว่ามีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับฝ่ายทหาร และมักสนับสนุนระบอบทหาร โดยเฉพาะในช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลา พ.ศ. 2519 วิมลมีบทบาทเป็นแกนนำสำคัญของชมรมแม่บ้าน ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของภรรยาข้าราชการ ภรรยานายพลและแม่บ้าน กับทั้งเคยปราศรัยโจมตีขบวนการนักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยว่าเป็นผู้บ่อนทำลายมิตรประเทศ คือ สหรัฐ[2] ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว วิมลได้รับแต่งตั้งจากรัฐบาลทหารให้เป็นสมาชิกสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ในปีถัดมา วิมลได้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, ปี พ.ศ. 2522 เป็นสมาชิกวุฒิสภา, และปี พ.ศ. 2527 ได้เป็นผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ

ชีวิตสมรส

หลังจากเลิกเป็นครูแล้ว วิมลสมรสกับสมัคร กล่าเสถียร ต่อมาได้หย่าร้างกัน และสมรสครั้งที่สองกับร้อยตำรวจโทศรีวิทย์ เจียมเจริญ มีบุตรชายด้วยกันสามคน เธอใช้ชีวิตสมรสกับสามีระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็เกิดปัญหาอีก ทำให้มีคดีฟ้องร้องกันราวปี พ.ศ. 2523 เพราะปัญหาความแตกร้าวในชีวิตคู่ เธอถูกฟ้องหย่าและถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับชายอื่น ในขณะที่เธอดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา คดีนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “คดีทมยันตี” หรือ “คดีชู้รักบันลือโลก” โดยสามีของเธอได้ฟ้องศาลและขอให้ศาลบังคับให้เธอหย่า พร้อมเรียกค่าเสียหายจากเธอเป็นจำนวนมาก ท้ายที่สุดศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินว่าเธอมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับชายอื่นจริง ทำให้เธอแพ้คดี จึงต้องแบ่งสินสมรสกับฝ่ายสามี แม้เธอจะได้ร้องขอให้ยกทรัพย์สินทั้งหมดให้บุตรทั้งสามคนก็ตาม แต่ทรัพย์สินทั้งหมดก็ถูกศาลแบ่งครึ่งตามกฎหมายและถูกขายทอดตลาด เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว วุฒิสภาได้ลงมติให้เธอต้องออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา

ต่อมาในปี พ.ศ. 2548 วิมลได้ฟ้องพันตำรวจเอกศรีวิทย์ เจียมเจริญ อดีตสามี เรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรเป็นคดีความยืดเยื้อกันไปถึงสามศาลอีกครั้งหนึ่ง[3]

นามปากกา

วิมลนิยมใช้สำนวนภาษาตามแบบหลวงวิจิตรวาทการ (วิจิตร วิจิตรวาทการ) และนักเขียนสตรีรุ่นเก่าอย่าง ร. จันทพิมพะ

นวนิยายหลายเรื่องถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ เช่น คู่กรรม ทั้งสองภาค ดั่งดวงหฤทัย ทวิภพ คำมั่นสัญญา ดาวเรือง รอยอินทร์ ร่มฉัตร เลือดขัตติยา ในฝัน เป็นต้น นวนิยายที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ คู่กรรม ภาคหนึ่ง

วิมลมีนามปากกา 6 ชื่อ ได้แก่

  1. โรสลาเรน เป็นนามปากกาแรก เทียบคำในภาษาฝรั่งเศส แปลว่า "กุหลาบราชินี" ใช้เขียนเรื่องรักพาฝันหรือจินตนิยาย วิมลกล่าวว่านามปากกานี้นำมาจากชื่อนางเอกซึ่งเป็นนักร้องโอเปร่าในเรื่องสั้นของหลวงวิจิตรวาทการ นามปากกานี้ใช้ครั้งแรกในนวนิยายเรื่อง "ในฝัน"
  2. ลักษณวดี ใช้สำหรับเขียนนวนิยายรัก ส่วนใหญ่เป็นเนื้อหาของเหล่าเจ้าหญิงเจ้าชาย คำว่า "ลักษณวดี" มีความหมายว่า "นางผู้มีลักษณะดี , นางผู้งามเลิศ" วิมลนำชื่อ "ลักษณวดี" ซึ่งเป็นนางในวรรณคดีและเป็นมเหสีของพระลอดิลกราชจากวรรณคดีเรื่อง "ลิลิตพระลอ"
  3. กนกเรขา ใช้สำหรับแต่งเรื่องตลกเบาสมอง คำว่า "กนกเรขา" แปลว่า "อักษรอันวิจิตร" วิมลนำชื่อ "กนกเรขา" ซึ่งเป็นนางในวรรณคดีเรื่อง "กนกนคร" ของพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ หรือพระนามเดิม คือ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส (น.ม.ส.) มาใช้เป็นนามปากกา
  4. ทมยันตี (อ่านว่า ทะ-มะ-ยัน-ตี) แปลว่า "นางผู้มีความอดทนอดกลั้น" เป็นนางในวรรณคดีเรื่อง "พระนลคำหลวง" ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นนามปากกาที่ใช้แต่งเรื่องราวที่สะท้อนชีวิตและสังคม รวมทั้งแต่งเรื่องราวแนวจิตวิญญาณ วิมลเริ่มใช้นามปากกานี้ในการประพันธ์นวนิยายเรื่อง "รอยมลทิน" เป็นเรื่องแรก
  5. มายาวดี ใช้เขียนเรื่องเกี่ยวกับศาสตร์แห่งเทวะ หรือเรื่องเล่าจากตำนาน ความเชื่อต่าง ๆ และเคยใช้นามปากกานี้เขียนคอลัมน์ "สนธยากาล" ลงในนิตยสารขวัญเรือน (ภายหลังนิตยสารขวัญเรือนได้เลิกกิจการ คุณหญิงวิมลได้เขียนเรื่องราวดังกล่าวข้างต้นลงในเพจเฟซบุ๊กชื่อ "ล้านนาเทวาลัย"
  6. วิม-ลา เป็นนามปากกาล่าสุดของคุณหญิงวิมล ใช้เขียนเรื่องเกี่ยวกับศาสตร์แห่งเทวะ หรือเรื่องเล่าจากตำนาน ความเชื่อต่าง ๆ ลงในเพจเฟซบุ๊กชื่อ "ล้านนาเทวาลัย" โดยเริ่มเขียนเผยแพร่เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2562

แม้ไม่ปรากฏว่างานเขียนของเธอเคยได้รับรางวัลสำคัญ แต่เป็นที่ยอมรับทั่วไปว่าเธอถือเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ มีผลงานได้รับความนิยมอย่างสูงเป็นจำนวนมาก เหตุผลที่ผลงานของเธอไม่ได้รับรางวัลทางวรรณกรรมใด ๆ นั้น เป็นเพราะเธอไม่ประสงค์ให้ส่งผลงานเธอไปประกวด และปฏิเสธการรับรางวัลทั้งปวง เธอเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ฉันเคยได้รับรางวัลจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาแล้ว นั่นคือรางวัลสูงสุดในชีวิต จากนั้นไม่เคยอยากได้รางวัลใด ๆ อีกเลย” ปัจจุบันเธอเริ่มลงมือเขียนเรื่อง 'จอมศาสดา' ซึ่งจะเป็นเรื่องสุดท้ายที่เธอจะเขียนแล้ว จากนั้นเธอจะหันหน้าเข้าสู่ความสงบใต้ร่มพระศาสนา

ผลงาน

ในนามปากกา "ทมยันตี"

  1. กฤตยา
  2. กษัตริยา
  3. แก้วกัลยาแห่งแผ่นดิน
  4. แก้วกลางดง
  5. คำมั่นสัญญา
  6. คลื่นชีวิต
  7. คุณหญิงนอกทำเนียบ
  8. คู่กรรม
  9. คู่กรรม 2
  10. จิตา
  11. เจ้าแม่
  12. จดหมายถึงลูก (ผู้) ชาย
  13. จิตตเทวะ
  14. ชามี
  15. ชามาช เปลวสุริยัน
  16. โซ่สังคม
  17. ฌาน
  18. ดาวเรือง
  19. ดาวนภา
  20. ตราบาป
  21. ตะวันลา
  22. เถ้ากุหลาบ
  23. ถนนสายหัวใจ
  24. ทิพย์
  25. ทวิภพ
  26. เทพบุตรสุดแสบ
  27. แนวสุดท้าย
  28. นางเอก
  29. นากพัทธ์
  30. นายกหญิง
  31. ใบไม้ที่ปลิดปลิว
  32. บาป
  33. ประกาศิตเงินตรา
  34. แผลหัวใจ
  35. เพลงชีวิต
  36. พิเธีย
  37. พี่เลี้ยง
  38. พิษสวาท
  39. พ่อไก่แจ้
  40. แม่ดอกสวะ
  41. เมียน้อย
  42. มงกุฎหนาม
  43. มณีร้าว
  44. มายา
  45. ใยเสน่หา
  46. ยอดอนงค์
  47. ร่มฉัตร
  48. รอยลิขิต
  49. รักลวง
  50. รักที่ต้องมนตรา
  51. ราชาวดี
  52. รอยมลทิน
  53. รายากุนิง
  54. ล่า
  55. เวียงกุมกาม
  56. วันที่รอคอย
  57. ไวษณวี 
  58. ศิวาลัย
  59. สะพานดาว
  60. สองชีวิต
  61. สายรุ้ง
  62. สำรองรัก
  63. สตรีหมายเลขหนึ่ง
  64. สุริยวรรมัน
  65. สุดหัวใจ
  66. อย่าลืมฉัน
  67. อันธการ
  68. อตีตา
  69. อธิราชา

ในนามปากกา "โรสลาเรน"

  1. ค่าของคน
  2. เงา
  3. เมฆขาว
  4. ตราบแผ่นดินกลบหน้า
  5. ทางรัก
  6. ในฝัน
  7. บัลลังก์เงา
  8. มงกุฎกุหลาบ
  9. มาลาเค
  10. ม่านหัวใจ
  11. รอยอินทร์
  12. รอยอาลัย
  13. ริมหัวใจ
  14. สายสัมพันธ์
  15. สิ้นสวาท
  16. โสมส่องแสง
  17. ณ ปลายฟ้า

ในนามปากกา "กนกเรขา"

  1. เดชแม่ยาย
  2. แต่งกับงาน
  3. บิ๊กเสี่ย
  4. พ่อครัวหัวป่า
  5. พ่อปลาไหล
  6. พ่อม่ายทีเด็ด
  7. แรงรัก
  8. สมาคมม่าย
  9. อุบัติเหตุ
  10. ไอ้คุณผี

ในนามปากกา "ลักษณวดี"

  1. จักรพรรดินี
  2. เจ้าแห่งรัตติกาล
  3. ดั่งดวงหฤทัย
  4. ธุวตารา
  5. บาดาล
  6. เทพอวตาร
  7. เทวปักษี
  8. มงกุฎที่ไร้บัลลังก์
  9. มนตราแห่งดารา
  10. มหารานี
  11. รัศมีจันทร์
  12. ราชินีชีบา
  13. เลือดขัตติยา
  14. สายใจ
  15. สรวงฟ้า
  16. หนี้รัก

ในนามปากกา "มายาวดี"

  1. จดหมายจากวิญญาณ
  2. ชีวิตหลังความตาย
  3. ทิพยนิยาย
  4. ทิพยอาภา คัมภีร์มรณะ
  5. สนธยากาล (รวมเรื่องสั้นเกี่ยวกับความเชื่อและวิญญาณ)
  6. เดจาวู (2562)
  7. ตระหนักรู้ (2563)

ผลงานเรื่องสั้น

  • ตุ๊กตายอดรัก
  • กระดูกคู่
  • ค่าของเงิน
  • คุณหมอ
  • คนชั่ว
  • คนเถื่อน
  • หัวใจเถื่อน
  • ผสมสิบ
  • ชุมทางชีวิต รวมเรื่องสั้นประกอบด้วยเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
    • เรื่องของคุณแต๋ว
    • คนใช้
    • 12 ปี แห่งความหลังของศรีวิทย์
    • ชีวิตของดารณี
    • 36-22-36 ของยาหยี
    • คนที่มีค่าของปรางทอง
    • กามเทพของเจ้าหล่อน
    • ผมชื่อ "ตูบ"
    • หัวใจของหนู
    • วิชยา
  • ในหนังสือ “ความหมายของชีวิต” คือ
    • โอ้...ลูก (ทมยันตี)
  • ในหนังสือ "ลำนำฤดูร้อน" (โรสลาเรน) มี 2 เรื่อง ได้แก่
    • ลำนำชีวิต
    • รัชดา (โรสลาเรน)
  • ในหนังสือ "คนใช้" (โรสลาเรน) มีหลายเรื่อง เช่น
    • คนใช้
    • คุณหมอ
    • กิ่งแก้ว
    • คนชั่ว
    • ชีวิต

หนังสือพิเศษเกี่ยวกับประวัติและผลงานของคุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ ที่รวบรวมโดยประพนธ์ วิพัฒนพร (เจ้าของนามปากกาวิศวนาถ, ภูเตศวร) มีดังนี้

  1. กว่าจะถึงวันนี้ของทมยันตี
  2. กลวิธีการเขียนนวนิยายสไตล์ทมยันตี

ผลงานปัจจุบัน

  • ณ ปลายฟ้า (ภาคต่อริมหัวใจ) และ เดจา-วู เปิดตัวหนังสือในวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2562
  • ตระหนักรู้ วางจำหน่ายในเดือนเมษายน พ.ศ. 2563

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

อ้างอิง

  1. "'ทมยันตี' เปิดใจยืมโครงนิยายฝรั่งมาเขียน 'พิษสวาท' จริงหรือ?". มติชนออนไลน์. 3 สิงหาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 3 สิงหาคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  2. บทที่ 2 เหตุการณ์ 6 ตุลา เกิดขึ้นได้อย่างไร หน้าที่ 32 จาก http://www.2519.net
  3. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2697/2548 ระหว่าง นางวิมล ศิริไพบูลย์ โจทก์ และ พันตำรวจเอกศรีวิทย์ เจียมเจริญ จำเลย
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๕๖, เล่ม 130 ตอนที่ 23 ข หน้า 105 วันที่ 24 ตุลาคม 2556