ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การสักยันต์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ย้อนการแก้ไขของ พงศ์ สาริตาจินดา (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย Aranya
ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว
บรรทัด 5: บรรทัด 5:
''''''การสักยันต์''''' ([https://www.bangkokhaps.com/guide/getting-inked-in-thailand-tattoo-trends-parlours-dr-tattofscribed%20at%20Help:I%20have%20been%20blocked. Sak Yant])' เป็น[[การสัก]]ที่ต่างจากการสักทั่วไปที่มุ่งเน้นเรื่องความสวยงามหรือเพื่องาน[[ศิลปะ]] แต่การสักยันต์มีจุดประสงค์หลักในเรื่องของความเชื่อทาง[[ไสยศาสตร์]] เช่น จะทำให้มีโชค แคล้วคลาด ปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน และพ้นจากอันตรายต่าง ๆ โดยมีความเชื่อว่า รูปแบบลายสักหรือยันต์แต่ละชนิดจะให้คุณที่ต่างกัน<ref name="ประวัติ">[http://www.importancetattoo.com/th/article04.php ประวัติความเป็นมาในการสักยันต์ของไทย] {{th}}</ref> และผู้ที่ได้รับการสักยันต์จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่แต่ละสำนักกำหนดไว้ เช่น ห้ามด่า[[บิดา]][[มารดา]] ห้ามลบหลู่[[ครู]][[อาจารย์]] เป็นต้น<ref name="ข้อห้าม">[http://www.checkduang.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=5360630 การสักยันต์มีหลายสำนักที่มีกฏมีระเบียบว่าควรถืออะไรบ้างเมื่อสักยันต์ที่สำนักนั้นแล้ว] {{th}}</ref>
''''''การสักยันต์''''' ([https://www.bangkokhaps.com/guide/getting-inked-in-thailand-tattoo-trends-parlours-dr-tattofscribed%20at%20Help:I%20have%20been%20blocked. Sak Yant])' เป็น[[การสัก]]ที่ต่างจากการสักทั่วไปที่มุ่งเน้นเรื่องความสวยงามหรือเพื่องาน[[ศิลปะ]] แต่การสักยันต์มีจุดประสงค์หลักในเรื่องของความเชื่อทาง[[ไสยศาสตร์]] เช่น จะทำให้มีโชค แคล้วคลาด ปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน และพ้นจากอันตรายต่าง ๆ โดยมีความเชื่อว่า รูปแบบลายสักหรือยันต์แต่ละชนิดจะให้คุณที่ต่างกัน<ref name="ประวัติ">[http://www.importancetattoo.com/th/article04.php ประวัติความเป็นมาในการสักยันต์ของไทย] {{th}}</ref> และผู้ที่ได้รับการสักยันต์จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่แต่ละสำนักกำหนดไว้ เช่น ห้ามด่า[[บิดา]][[มารดา]] ห้ามลบหลู่[[ครู]][[อาจารย์]] เป็นต้น<ref name="ข้อห้าม">[http://www.checkduang.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=5360630 การสักยันต์มีหลายสำนักที่มีกฏมีระเบียบว่าควรถืออะไรบ้างเมื่อสักยันต์ที่สำนักนั้นแล้ว] {{th}}</ref>


การสัก คือ ''การเอาเหล็กแหลมแทงลงด้วยวิธี การหรือเพื่อประโยชน์ต่าง ๆ กัน ใช้เหล็กแหลมจุ้มหมึกหรือน้ำมันแทงที่ผิวหนังให้เป็นอักขระ เครื่องหมายหรือลวดลาย ถ้าใช้หมึกเรียกว่าสักหมึก ถ้าใช้น้ำมันเรียกว่าสักน้ำมัน''<ref name="ประวัติ"/> ส่วนคำว่า "ยันต์" ตาม[[พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน]] กล่าวว่า ''ยันต์คือตารางหรือลายเส้นเป็นตัวเลข อักขระหรือรูปภาพที่เขียน สัก หรือแกะสลักลงบนแผ่นผ้า ผิวหนัง ไม้ โลหะ เป็นต้น ถือว่าเป็นของขลัง เช่น ยันต์ตรีนิสิงเห ยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ เรียกเสื้อหรือผ้าเป็นต้นที่มีลวดลายเช่นนั้นว่า เสื้อยันต์ ผ้ายันต์ เรียกกิริยาที่ทำเช่นนั้นว่า ลงเลข ลงยันต์''<ref name="พจนานุกรม">[http://dictionary.sanook.com/search/ยันต์ พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน]</ref>นอกจากนั้นในประเทศไทยนั้นมีวัดมากมายที่ผู้ที่มีความเชื่อในเรื่องการสักยันต์สามารถเดินทางไปเข้าพิธีเพื่อสักยันต์อันศักดิ์สิทธิ์ แต่ใช่ว่าพระสงฆ์ที่วัดใดก็ได้ที่จะสามารถทำการลงอักขระให้ได้หากแต่พระสงฆ์ผู้ที่ลงอักขระหรือสักให้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างชำนาญการแล้วจึงจะสามารถที่จะสักยันต์ให้ได้ เนื่องจากไม่ใช่เพียงแค่ศิลปะในการสักเท่านั้นแต่ในระหว่างสักจะต้องมีการสวดมนต์หรือท่องคาถาและพิธีต่างๆไปพร้อมๆกันด้วย หรือที่เรียกง่ายๆก็คือ เมือสักยันต์ไปปากก็ท่องมนต์ไปพร้อมๆกันด้วย โดยหมึกที่ใช่ในการสักนั้นจะต้ิงเป็นหมึกที่เป็นผสมขึ้นมาพิเศษและจะรู้เฉพาะพระอาจารย์ที่สืบทอดกันมารุ่นต่อเท่านั้น สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือประวัติความเป็นมาของการสักยันต์ เพราะยังมีวิธีต่างๆที่แตกต่างกันไปในการสักยันต์ทั้งเ วทย์มนต์ที่ใช้เกี่ยวกับการสักยันต์นั้น มีทั้งสีขาวและสีดำ หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายก็คือ มีทั้งเวทมนตร์ที่ดีและไม่ดีที่สามารถใช้ในการสักยันต์ โดยพระสงฆ์และอาจารย์(ผู้ชำนาญการสักยันต์แต่ไม่ใช่พระ)จะใช่วิธีปฏิบัติหรือการใช่บทสวดที่แตกต่างกัน ตามวาระ ความต้องการและความเชื่อของผู้สักนั้นๆที่จะนำไปใช้<ref>{{Cite web|title=ประวัติความเป็นมาของรอยสักยันต์ ต้นกำเนิดและความแพร่หลายของการสักยันต์|url=http://www.sakyant.net/history-sakyant.php|website=www.sakyant.net}}</ref>
การสัก คือ ''การเอาเหล็กแหลมแทงลงด้วยวิธี การหรือเพื่อประโยชน์ต่าง ๆ กัน ใช้เหล็กแหลมจุ้มหมึกหรือน้ำมันแทงที่ผิวหนังให้เป็นอักขระ เครื่องหมายหรือลวดลาย ถ้าใช้หมึกเรียกว่าสักหมึก ถ้าใช้น้ำมันเรียกว่าสักน้ำมัน''<ref name="ประวัติ"/> ส่วนคำว่า "ยันต์" ตาม[[พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน]] กล่าวว่า ''ยันต์คือตารางหรือลายเส้นเป็นตัวเลข อักขระหรือรูปภาพที่เขียน สัก หรือแกะสลักลงบนแผ่นผ้า ผิวหนัง ไม้ โลหะ เป็นต้น ถือว่าเป็นของขลัง เช่น ยันต์ตรีนิสิงเห ยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ เรียกเสื้อหรือผ้าเป็นต้นที่มีลวดลายเช่นนั้นว่า เสื้อยันต์ ผ้ายันต์ เรียกกิริยาที่ทำเช่นนั้นว่า ลงเลข ลงยันต์''<ref name="พจนานุกรม">[http://dictionary.sanook.com/search/ยันต์ พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน]</ref>


== ประวัติ ==
== ประวัติ ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 08:30, 7 กุมภาพันธ์ 2564

ยันต์แปดทิศ เชื่อว่ามีคุณทางด้านเมตตา อยู่ยงคงกระพัน คุ้มครองทิศทั้งแปด
การสักยันต์ลงบนแผ่นหลัง

'การสักยันต์ (Sak Yant)' เป็นการสักที่ต่างจากการสักทั่วไปที่มุ่งเน้นเรื่องความสวยงามหรือเพื่องานศิลปะ แต่การสักยันต์มีจุดประสงค์หลักในเรื่องของความเชื่อทางไสยศาสตร์ เช่น จะทำให้มีโชค แคล้วคลาด ปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน และพ้นจากอันตรายต่าง ๆ โดยมีความเชื่อว่า รูปแบบลายสักหรือยันต์แต่ละชนิดจะให้คุณที่ต่างกัน[1] และผู้ที่ได้รับการสักยันต์จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่แต่ละสำนักกำหนดไว้ เช่น ห้ามด่าบิดามารดา ห้ามลบหลู่ครูอาจารย์ เป็นต้น[2]

การสัก คือ การเอาเหล็กแหลมแทงลงด้วยวิธี การหรือเพื่อประโยชน์ต่าง ๆ กัน ใช้เหล็กแหลมจุ้มหมึกหรือน้ำมันแทงที่ผิวหนังให้เป็นอักขระ เครื่องหมายหรือลวดลาย ถ้าใช้หมึกเรียกว่าสักหมึก ถ้าใช้น้ำมันเรียกว่าสักน้ำมัน[1] ส่วนคำว่า "ยันต์" ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน กล่าวว่า ยันต์คือตารางหรือลายเส้นเป็นตัวเลข อักขระหรือรูปภาพที่เขียน สัก หรือแกะสลักลงบนแผ่นผ้า ผิวหนัง ไม้ โลหะ เป็นต้น ถือว่าเป็นของขลัง เช่น ยันต์ตรีนิสิงเห ยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ เรียกเสื้อหรือผ้าเป็นต้นที่มีลวดลายเช่นนั้นว่า เสื้อยันต์ ผ้ายันต์ เรียกกิริยาที่ทำเช่นนั้นว่า ลงเลข ลงยันต์[3]

ประวัติ

การสักยันต์มีมาก่อนอาณาจักรสุโขทัย โดยต้นแบบน่าจะมาจากขอมในขณะที่ขอมยังครอบครองดินแดนสุวรรณภูมิเมื่อประมาณ 1,400 ปีที่แล้ว เพราะอักขระและลวดลายที่ใช้สักกันนั้นเป็นแบบอักษรขอม และใช้ภาษาบาลีเป็นส่วนใหญ่[4]

ส่วนในประเทศไทยการสักสืบทอดกันมาแต่โบราณ ในอดีตข้าราชการของไทยจะทำตำหนิที่ข้อมือคนในบังคับซึ่งเป็นหน้าที่ของแผนกทะเบียนเป็นผู้บันทึกและรวบรวมสถิติชาย สันนิษฐานว่า การทำเครื่องหมายลงบนร่างกายนี้อาจมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ[1]

แม้ว่าการสักยันต์ในประเทศไทยจะมีมาแต่โบราณ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนนัก จะมีก็แต่หลักฐานที่ปรากฏในวรรณคดีเรื่อง "ขุนช้างขุนแผน" และวรรณกรรมอื่น ๆ โดยเชื่อมโยงกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ ทำให้แคล้วคลาดต่ออันตรายต่าง ๆ เป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้จิตใจมีความมั่นคง ซึ่งการสักยันต์เพื่อหวังผลทางไสยศาสตร์จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ เพื่อผลทางเมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรี[1]

อ้างอิง

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น