ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปอนด์สเตอร์ลิง"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
เพิ่มเนื้อหา
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 44: บรรทัด 44:


== ประวัติ ==
== ประวัติ ==
เงินปอนด์เริ่มใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณ กล่าวคือ เมื่อประมาณ [[พ.ศ. 1320]] ราชอาณาจักรซักซอน (อาจเรียกว่าพวกอังกฤษสมัยโบราณก็ได้ แต่ความจริงแล้ว ซักซอนไม่ได้เป็นบรรพบุรุษโดยตรงของอังกฤษปัจจุบัน) ได้ทำเหรียญกษาปณ์ขึ้นจากโลหะเงินแท้ น้ำหนัก 1 ปอนด์ ซึ่งได้เหรียญเงินเป็นจำนวน 240 อัน เรียกว่าเหรียญสเตอร์ลิง และด้วยน้ำหนักเท่ากับ 1 ปอนด์นี้เอง เมื่อต้องใช้จ่ายเงิน ก็จะบอกค่าเป็นจำนวนปอนด์ของเหรียญสเตอร์ลิง (pounds of sterlings) และภายหลังเรียกสั้นลงว่า ปอนด์สเตอร์ลิง (pound sterling)
เงินปอนด์เริ่มใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณ กล่าวคือ เมื่อประมาณ [[พ.ศ. 1320]] ราชอาณาจักรซักซอน (อาจเรียกว่าพวกอังกฤษสมัยโบราณก็ได้ แต่ความจริงแล้ว ซักซอนไม่ได้เป็นบรรพบุรุษโดยตรงของอังกฤษปัจจุบัน) ได้ทำเหรียญกษาปณ์ขึ้นจากโลหะแลกเปลี่ยนค่า เงินแท้ (น้ำหนัก 1 พอนด์)ซึ่งได้เหรียญเงินเป็นจำนวน 240 อัน เรียกว่าเหรียญสเตอร์ลิง และด้วยน้ำหนักเท่ากับ 1 พอนด์นี้เอง เมื่อต้องใช้จ่ายเงิน ก็จะบอกค่าเป็นจำนวนปอนด์ของเหรียญสเตอร์ลิง (pounds of sterlings) และภายหลังเรียกสั้นลงว่า ปอนด์สเตอร์ลิง (pound sterling)


ครั้นเมื่อพวกนอร์มัน (Norman) เข้ามาครองอำนาจแทนพวกซักซอน พวกนี้ได้แบ่งหน่วยเงินตราปอนด์ออกเป็นหน่วยย่อย คือ 1 ปอนด์ แบ่งได้ 20 ชิลลิง (shilling) และ 1 ชิลลิง ยังแบ่งได้อีกเป็น 12 เพนนี (เอกพจน์ penny, พหูพจน์ pennies หรือ pence)
ครั้นเมื่อพวกนอร์มัน (Norman) เข้ามาครองอำนาจแทนพวกซักซอน พวกนี้ได้แบ่งหน่วยเงินตราปอนด์ออกเป็นหน่วยย่อย คือ 1 พอนด์ แบ่งได้ 80 ชิลลิง (shilling) และ 1 ชิลลิง ยังแบ่งได้อีกเป็น 12 เพนนี (เอกพจน์ penny, พหูพจน์ pennies หรือ pence)


เรื่องค่าของปอนด์นั้นยังไม่จบ เพราะตัวย่อของปอนด์นั้นมีปัญหา เมื่ออักษรย่อของปอนด์นั้น ใช้ lb หรือ £ ซึ่งทำให้สับสน และอักษรย่อ หรือเครื่องหมายดังกล่าว มีที่มาจากคำว่า libra ในภาษาละตินสมัยกลาง ความจริงแล้ว คำว่า ลิบรา ก็คือ ตาชั่ง (คำเดียวกับที่เรียกกลุ่มดาวราศีตุล) สำหรับอักษร £. นั้น ก็คือตัว L นั่นเอง (ใช้ได้ทั้งสองแบบ) ในตำราเก่าๆ บางครั้งเขียน l. เฉยๆ ก็มี
เรื่องค่าของปอนด์นั้นยังไม่จบ เพราะตัวย่อของปอนด์นั้นมีปัญหา เมื่ออักษรย่อของปอนด์นั้น ใช้ lb หรือ £ ซึ่งทำให้สับสน และอักษรย่อ หรือเครื่องหมายดังกล่าว มีที่มาจากคำว่า libra ในภาษาละตินสมัยกลาง ความจริงแล้ว คำว่า ลิบรา ก็คือ ตาชั่ง (คำเดียวกับที่เรียกกลุ่มดาวราศีตุล) สำหรับอักษร £. นั้น ก็คือตัว L นั่นเอง (ใช้ได้ทั้งสองแบบ) ในตำราเก่าๆ บางครั้งเขียน l. เฉยๆ ก็มี

รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:54, 24 มกราคม 2564

ปอนด์สเตอร์ลิง
ISO 4217
รหัสGBP
หมายเลข826
จุดทศนิยม2
การตั้งชื่อ
หน่วยย่อย
1/100
เพนนี
เพนนีเพนซ์
สัญลักษณ์£
เพนนีp
ชื่อเล่นควิด
ธนบัตร£5, £10, £20, £50
 ไม่ค่อยใช้£100[a]
เหรียญ1p, 2p, 5p, 10p, 20p, 50p, £1, £2
ข้อมูลการใช้
ผู้ใช้อย่างเป็นทางการธงของสหราชอาณาจักร สหราชอาณาจักร

 เกิร์นซีย์ (ใช้ร่วมกับปอนด์เกิร์นซีย์)

 ไอล์ออฟแมน (ใช้ร่วมกับปอนด์แมนซ์)

 เจอร์ซีย์ (ใช้ร่วมกับปอนด์เจอร์ซีย์)
ผู้ใช้ที่ไม่เป็นทางการ หมู่เกาะพิตแคร์น[b]
การตีพิมพ์
ธนาคารกลางธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ
 เว็บไซต์www.bankofengland.co.uk
การประเมินค่า
อัตราเงินเฟ้อ1.4% (12 เดือน สิ้นสุดธันวาคม 2019)

ปอนด์สเตอร์ลิง (อังกฤษ: pound sterling) (สัญลักษณ์: £; รหัส ISO 4217: GBP) เป็นสกุลเงินตราอย่างเป็นทางการของสหราชอาณาจักร, เจอร์ซีย์, เกิร์นซีย์, ไอล์ออฟแมน, ยิบรอลตาร์, เกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช, บริติชแอนตาร์กติกเทร์ริทอรี[3][4] และตริสตันดากูนยา[5] หนึ่งปอนด์สเตอร์ลิงสามารถแบ่งย่อยได้เป็น 100 เพนนี ปอนด์สเตอร์ลิงยังเป็นสกุลเงินที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกใช้จนถึงปัจจุบัน

ประวัติ

เงินปอนด์เริ่มใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณ กล่าวคือ เมื่อประมาณ พ.ศ. 1320 ราชอาณาจักรซักซอน (อาจเรียกว่าพวกอังกฤษสมัยโบราณก็ได้ แต่ความจริงแล้ว ซักซอนไม่ได้เป็นบรรพบุรุษโดยตรงของอังกฤษปัจจุบัน) ได้ทำเหรียญกษาปณ์ขึ้นจากโลหะแลกเปลี่ยนค่า เงินแท้ (น้ำหนัก 1 พอนด์)ซึ่งได้เหรียญเงินเป็นจำนวน 240 อัน เรียกว่าเหรียญสเตอร์ลิง และด้วยน้ำหนักเท่ากับ 1 พอนด์นี้เอง เมื่อต้องใช้จ่ายเงิน ก็จะบอกค่าเป็นจำนวนปอนด์ของเหรียญสเตอร์ลิง (pounds of sterlings) และภายหลังเรียกสั้นลงว่า ปอนด์สเตอร์ลิง (pound sterling)

ครั้นเมื่อพวกนอร์มัน (Norman) เข้ามาครองอำนาจแทนพวกซักซอน พวกนี้ได้แบ่งหน่วยเงินตราปอนด์ออกเป็นหน่วยย่อย คือ 1 พอนด์ แบ่งได้ 80 ชิลลิง (shilling) และ 1 ชิลลิง ยังแบ่งได้อีกเป็น 12 เพนนี (เอกพจน์ penny, พหูพจน์ pennies หรือ pence)

เรื่องค่าของปอนด์นั้นยังไม่จบ เพราะตัวย่อของปอนด์นั้นมีปัญหา เมื่ออักษรย่อของปอนด์นั้น ใช้ lb หรือ £ ซึ่งทำให้สับสน และอักษรย่อ หรือเครื่องหมายดังกล่าว มีที่มาจากคำว่า libra ในภาษาละตินสมัยกลาง ความจริงแล้ว คำว่า ลิบรา ก็คือ ตาชั่ง (คำเดียวกับที่เรียกกลุ่มดาวราศีตุล) สำหรับอักษร £. นั้น ก็คือตัว L นั่นเอง (ใช้ได้ทั้งสองแบบ) ในตำราเก่าๆ บางครั้งเขียน l. เฉยๆ ก็มี

ส่วนชิลลิงนั้น ใช้อักษรย่อว่า s เฉย ๆ ตัวอักษรนี้ไม่ได้ย่อจาก shilling แต่มาจาก solidus ในภาษาละติน สำหรับหน่วยเล็กสุด คือ เพนนีนั้น ย่อเป็น d เพราะในภาษาละตินนั้น หน่วยเล็กสุดของค่าเงินคือ denarius เราจึงอาจพบการเขียนบอกจำนวนเงินเป็น 2l. 8s. 5d. นั่นคือ 2 ปอนด์ 8 ชิลลิง กับอีก 5 เพนนี

สำหรับเหรียญชิลลิงนั้น มีค่าเท่ากับ 12 เพนนี เดิมเรียกว่าเทสทัน หรือเทสทูน (teston, testoon) เริ่มมีครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2047 มีการแกะสลักเป็นพระพักตร์ของพระเจ้าเฮนรีที่ 7 ครั้นในสมัยรัชกาลพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ก็ยังคงใช้เหรียญค่านี้ แต่เรียกใหม่ว่า ชิลลิง ส่วนที่มาของชื่อนั้น จริงๆ แล้วยังไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แต่เข้าใจว่าเรียกตามเหรียญของพวกอังโกล-ซักซอน คือสคีลลิง (scilling, scylling) และบางรัฐของเยอรมนีก็มีการผลิตเหรียญกษาปณ์ที่เรียกว่า ชิลลิง (schilling) เหมือนกัน

ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2464 ค่าของชิลลิงเป็นแต่ชื่อเรียกเท่านั้น ไม่ได้มีการผลิตเหรียญเงินค่าชิลลิงออกมา และอีก 26 ปีต่อมา มีการผลิตเหรียญชิลลิง โดยใช้โลหะผสมระหว่างทองแดง และนิกเกิล เรียกว่าโลหะคิวโพรนิเกิล เมื่อถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 อังกฤษได้เปลี่ยนมาตราเงินแบบเทียบร้อยตามหลักสากล คือ 100 เพนนี เป็น 1 ปอนด์ โดยไม่ใช้หน่วยชิลลิงอีก ทำให้อักษรย่อชิลลิงจึงหมดไป อักษรย่อเพนนี เปลี่ยนจาก d เป็น p ซึ่งย่อมาจากคำว่าเพนนี (penny) โดยตรง

ธนบัตร

ธนบัตรประกอบด้วย

5,10, 20 และ 50 ปอนด์

เหรียญ

เหรียญประกอบด้วย 1, 2, 5, 10, 20, 50 เพนนี และ 1, 2 ปอนด์

เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนสกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิง
ภาพ มูลค่า เส้นผ่านศูนย์กลาง ความหนา น้ำหนัก ส่วนประกอบ ปีที่ประกาศใช้
ด้านหน้า ด้านหลัง
1 เพนนี 20.03 มม. 1.65 มม. 3.56 กรัม เหล็กกล้าชุบทองแดง พ.ศ. 2514
2 เพนซ์ 25.90 มม. 1.85 มม. 7.12 กรัม พ.ศ. 2514
5 เพนซ์ 18.00 มม. 1.70 มม. 3.25 กรัม ทองแดงผสมนิเกิล (คิวโปรนิเกิล) พ.ศ. 2533
10 เพนซ์ 24.50 มม. 1.85 มม. 6.50 กรัม พ.ศ. 2535
20 เพนซ์ 21.40 มม. 1.70 มม. 5.00 กรัม พ.ศ. 2525
25 เพนซ์ 38.61 มม. 2.89 มม. 28.28 กรัม พ.ศ. 2515
50 เพนซ์ 27.30 มม. 1.78 มม. 8.00 กรัม พ.ศ. 2540
1 ปอนด์ 22.50 มม. 3.15 มม. 9.50 กรัม ทองเหลืองผสมนิเกิล (นิเกิลบราส) พ.ศ. 2526
2 ปอนด์ 28.40 มม. 2.50 มม. 12.00 กรัม วงแหวน: ทองเหลืองผสมนิเกิล (นิเกิลบราส)
ตรงกลาง: ทองแดงผสมนิเกิล (คิวโปรนิเกิล)
พ.ศ. 2540
5 ปอนด์ 38.61 มม. 2.89 มม. 28.28 กรัม ทองแดงผสมนิเกิล (คิวโปรนิเกิล) พ.ศ. 2533

อ้างอิง

  1. Asia and Pacific Review 2003/04 p. 245 ISBN 1862170398
  2. "British Indian Ocean Territory Currency". Wwp.greenwichmeantime.com. 2 August 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 July 2016. สืบค้นเมื่อ 28 July 2014.
  3. British Antarctic Territory Currency Ordinance 1990
  4. "Foreign and Commonwealth Office country profiles: British Antarctic Territory". British Foreign & Commonwealth Office. 25 March 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 April 2009. สืบค้นเมื่อ 17 April 2010.
  5. "Foreign and Commonwealth Office country profiles: Tristan da Cunha". British Foreign & Commonwealth Office. 12 February 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 June 2010. สืบค้นเมื่อ 17 April 2010.

แหล่งข้อมูลอื่น



อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref> สำหรับกลุ่มชื่อ "lower-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="lower-alpha"/> ที่สอดคล้องกัน