ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มาสค์ไรเดอร์เซเบอร์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Mike Friday 13th (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 56: บรรทัด 56:
;ชินโด รินทาโร่ (新堂 倫太郎) / มาสค์ไรเดอร์เบลดส์ (仮面ライダーブレイズ)
;ชินโด รินทาโร่ (新堂 倫太郎) / มาสค์ไรเดอร์เบลดส์ (仮面ライダーブレイズ)
:รับบทโดย ยามางุจิ ทาคายะ (山口 貴也)
:รับบทโดย ยามางุจิ ทาคายะ (山口 貴也)
:นักดาบผู้ใช้ดาบวารี นางาเระ<ref name="CAST"/> ลักษณะเป็นชายหนุ่มในเสื้อโค๊ทสีน้ำเงิน บุคลิกยิ้มแย้ม และเป็นมิตร หลังจากสะกดรอยตามโทมะ และพบว่าโทมะที่เป็นคนธรรมดาได้กลายเป็นมาสค์ไรเดอร์เซเบอร์ รินทาโร่จึงตามเขาไปที่ร้านหนังสือและขอให้โทมะส่งไดรเวอร์ กับ วันเดอร์ไรด์บุ๊คให้ตน ในตอนที่ 2 หลังจากที่รินทาโร่เล็งเห็นหน่วยก้านของโทมะ เขาก็ยอมให้โทมะเป็นเซเบอร์ต่อไป และทำหน้าที่พี่เลี้ยง คอยให้คำแนะนำโทมะในการต่อสู้ รินทาโร่นั้นชื่นชอบขนมหวานมาก ซึ่งเมย์สังเกตเห็นได้ เพราะเขาจ้องเอแคลร์ที่เธอกินตาเป็นประกาย ในตอนที่ 6 เผยว่าอาจารย์ของรินทาโร่ หรือ เบลดส์รุ่นก่อนถูกสังหารโดย ซูออส รินทาโร่จึงบันดาลโทสะเมื่อเขาพบกับซูออสอีกครั้งจนเกิดการปะทะกัน แต่พลังของเขาตอนนี้ยังคงไม่สามารถเอาชนะซูออสได้ กระทั่งรินทาโร่ตัดสินใจงัดเอา เท็นคู โนะ เพกาซัส วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ที่ทรงพลังออกมาใช้ ในตอนที่ 7 หลังจากฝึกฝนใช้พลังใหม่มาด้วยความลำบากแล้ว รินทาโร่ก็เข้าต่อสู้กับพวกเมกิโด เพื่อช่วยบัสเตอร์ กับ เค็นซัน ที่กำลังเพลี่ยงพล้ำ จนในที่สุดเขาก็ปราบ เมดูซาเมกิโด ได้สำเร็จ พวกซูออสจึงต้องล่าถอยไปแต่โดยดี ในตอนที่ 11 แม้จะขัดแย้งกับเค็นโตะ แต่รินทาโร่กลับพุ่งเข้าไปรับการโจมตีของคาลิเบอร์แทนเค็นโตะ จนบาดเจ็บสาหัส ในอดีต รินทาโร่เป็นเด็กกำพร้าที่ทางภาคี ซอร์ดออฟโลกอส รับมาเลี้ยง เขาจึงมองว่าสมาชิกภาคีทุกคนคือครอบครัวของเขา แม้ว่าจะถูกเรย์กะสั่งให้ริบดาบและเข็มขัดมาจากโทมะที่ถูกกล่าวหาว่าทรยศ แต่ลึก ๆ แล้วรินทาโร่ก็ยังคงไม่เชื่อว่าโทมะทรยศต่อพวกเขาจริง ๆ
:นักดาบผู้ใช้ดาบวารี นางาเระ<ref name="CAST"/> ลักษณะเป็นชายหนุ่มในเสื้อโค๊ทสีน้ำเงิน บุคลิกยิ้มแย้ม และเป็นมิตร หลังจากสะกดรอยตามโทมะ และพบว่าโทมะที่เป็นคนธรรมดาได้กลายเป็นมาสค์ไรเดอร์เซเบอร์ รินทาโร่จึงตามเขาไปที่ร้านหนังสือและขอให้โทมะส่งไดรเวอร์ กับ วันเดอร์ไรด์บุ๊คให้ตน ในตอนที่ 2 หลังจากที่รินทาโร่เล็งเห็นหน่วยก้านของโทมะ เขาก็ยอมให้โทมะเป็นเซเบอร์ต่อไป และทำหน้าที่พี่เลี้ยง คอยให้คำแนะนำโทมะในการต่อสู้ รินทาโร่นั้นชื่นชอบขนมหวานมาก ซึ่งเมย์สังเกตเห็นได้ เพราะเขาจ้องเอแคลร์ที่เธอกินตาเป็นประกาย ในตอนที่ 6 เผยว่าอาจารย์ของรินทาโร่ หรือ เบลดส์รุ่นก่อนถูกสังหารโดย ซูออส รินทาโร่จึงบันดาลโทสะเมื่อเขาพบกับซูออสอีกครั้งจนเกิดการปะทะกัน แต่พลังของเขาตอนนี้ยังคงไม่สามารถเอาชนะซูออสได้ กระทั่งรินทาโร่ตัดสินใจงัดเอา เท็นคู โนะ เพกาซัส วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ที่ทรงพลังออกมาใช้ ในตอนที่ 7 หลังจากฝึกฝนใช้พลังใหม่มาด้วยความลำบากแล้ว รินทาโร่ก็เข้าต่อสู้กับพวกเมกิโด เพื่อช่วยบัสเตอร์ กับ เค็นซัน ที่กำลังเพลี่ยงพล้ำ จนในที่สุดเขาก็ปราบ เมดูซาเมกิโด ได้สำเร็จ พวกซูออสจึงต้องล่าถอยไปแต่โดยดี ในตอนที่ 11 แม้จะขัดแย้งกับเค็นโตะ แต่รินทาโร่กลับพุ่งเข้าไปรับการโจมตีของคาลิเบอร์แทนเค็นโตะ จนบาดเจ็บสาหัส ในอดีต รินทาโร่เป็นเด็กกำพร้าที่ทางภาคี ซอร์ดออฟโลกอส รับมาเลี้ยง เขาจึงมองว่าสมาชิกภาคีทุกคนคือครอบครัวของเขา แม้ว่าจะถูกเรย์กะสั่งให้ริบดาบและเข็มขัดมาจากโทมะที่ถูกกล่าวหาว่าทรยศ แต่ลึก ๆ แล้วรินทาโร่ก็ยังคงไม่เชื่อว่าโทมะทรยศต่อพวกเขาจริง ๆ และได้ไปหาโทมะพร้อมกับไดชินจิเพื่อเจรจาขอให้ร่วมมือด้วย
:ในการต่อสู้ เมื่อรินทาโร่เอาจริง เขาจะกล่าวว่า "ขอสาบานด้วยดาบวารี นางาเระ ! ผมจะปกป้องโลกไว้ให้ได้ !!"
:ในการต่อสู้ เมื่อรินทาโร่เอาจริง เขาจะกล่าวว่า "ขอสาบานด้วยดาบวารี นางาเระ ! ผมจะปกป้องโลกไว้ให้ได้ !!"
;ฟุคามิยะ เค็นโตะ (富加宮 賢人) / มาสค์ไรเดอร์เอสปาดา (仮面ライダーエスパーダ)
;ฟุคามิยะ เค็นโตะ (富加宮 賢人) / มาสค์ไรเดอร์เอสปาดา (仮面ライダーエスパーダ)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:57, 20 มกราคม 2564

มาสค์ไรเดอร์เซเบอร์

ข้อมูล
บทประพันธ์ โชทาโร่ อิชิโนะโมะริ
ผู้ผลิต ญี่ปุ่น โตเอ
เขียนบท
กำกับ
  • Takayuki Shibasaki
  • Shojiro Nakazawa
  • Kazuya Kamihoriuchi
  • Hidenori Ishida
  • Koichi Sakamoto
แสดงนำ Shuichiro Naito
Takaya Yamaguchi
Asuka Kawazu
Ryo Aoki
Eiji Togashi
Hiroaki Oka
Rina Chinen
บรรยาย Eiichiro Suzuki
เพลงเปิด "Almighty ~Kamen no Yakusoku feat. Yoohei Kawakami" โดย Tokyo Ska Paradise Orchestra
เพลงปิด "Kamen Rider Saber" โดย Tokyo Ska Paradise Orchestra
กำกับเสียง Kousuke Yamashita
จำนวนตอน TBA
การผลิต
โปรดิวเซอร์
  • Chihiro Inoue (TV Asahi)
  • Kei Mizutani (TV Asahi)
  • Kazuhiro Takahashi (Toei)
ความยาว 24-25 นาที. (ต่อหนึ่งตอน)
การออกอากาศ
ฉายครั้งแรก 6 กันยายน ค.ศ. 2020 (2020-09-06) - ปัจจุบัน
เว็บไซต์ทางการ
Official Site
ลำดับซีรีส์
เซโร่วัน

มาสค์ไรเดอร์เซเบอร์ (ญี่ปุ่น: 仮面ライダーセイバー/聖刃โรมาจิKamen Raidā Seibā - Kamen Rider Saber) เป็นละครโทคุซัทสึชุดมาสค์ไรเดอร์ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์เวลา 9:00 น. - 9:30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีอาซาฮิ ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 2020[1]

ประวัติ

มาสค์ไรเดอร์เซเบอร์ เป็นผลงานชุดที่ 2 ของมาสค์ไรเดอร์ในยุคเรวะและเป็นผลงานโทรทัศน์ลำดับที่ 32 ซึ่งผลงานเรื่องนี้ได้เปิดตัวมาสค์ไรเดอร์ทั้งหมด 10 คนตั้งแต่เริ่มเรื่อง[1] โดยที่มาสค์ไรเดอร์ซีรี่ส์​ชุดนี้จะมาในธีมของ หนังสือ อัศวิน เทพนิยาย และนิทานหรือเรื่องเล่าต่าง ๆ

เรื่องย่อ

อยู่ ๆ ก็เกิดปรากฏการณ์พิศวงขึ้น ส่วนหนึ่งของโลกแห่งความเป็นจริงได้อันตรธานไป และโลกต่างมิติก็พลันปรากฏุขึ้นมาแทนที่ ผู้คนต่างงงงวยโกลาหลไปทั่ว [2][3] เพื่อพาผู้คนที่ถูกส่งไปยังโลกต่างมิติกลับมายังโลกเดิม เหล่ามาสค์ไรเดอร์นักดาบ จึงกระโจนเข้าสู่ "โลกแห่งหนังสือ" และใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ต่อกรกับเหล่าร้ายในฐานะของ ผู้กอบกู้ นำความสงบสุขคืนกลับมาให้จงได้[2][3]

ตัวละคร

ตัวละครหลัก

คามิยามะ โทมะ (神山 飛羽真) / มาสค์ไรเดอร์เซเบอร์ (仮面ライダーセイバー)
รับบทโดย ไนโตะ ชูอิจิโร่ (内藤秀一郎)[1][4][5]
ตัวเอกของเรื่อง มีอาชีพเป็นนักเขียนนิยาย และมีร้านหนังสือเป็นของตนเองด้วย ในวัยเด็กเขาได้เข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่าง ซอร์ดออฟโลกอส และ เมกิดโด ขณะนั้นเขาพยายามจะช่วยเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจะถูกดูดเข้าไปในประตูมิติ แต่ก็ไม่ทันการ โทมะได้รับการช่วยเหลือโดย มาสค์ไรเดอร์เซเบอร์คนแรก ก่อนที่เขาจะถูกพามาส่งที่โลก และได้รับ เบรฟดราก้อน วันเดอร์ไรด์บุ๊ค มา หลังจากนั้นเขาก็สูญเสียความทรงจำและเห็นภาพอดีตในความฝันมาตลอด แต่แล้วเมื่อพวกเมกิโดรุกรานโลกอีกครั้ง โทมะก็ได้พบกับดาบศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นจะปกป้องผู้คน เขาจึงพยายามยกดาบขึ้น ขณะเดียวกัน ดาบได้กลายสภาพเป็นเข็มขัด เซย์เค็นซอร์ดไดรเวอร์ โทมะนำมันมาคาดเข้าที่เอว และหยิบวันเดอร์ไรด์บุ๊คที่เขานำติดตัวมาด้วยติดตั้งเข้ากับไดรเวอร์ ทันทีที่ชักดาบออกจากเข็มขัด โทมะก็ได้กลายเป็นมาสค์ไรเดอร์นักดาบ นามว่า มาสค์ไรเดอร์ เซเบอร์ ผู้ใช้ดาบอัคคี เร็กกะ ฟาดฟันเหล่าร้ายด้วยเปลวเพลิงแห่งคุณธรรม.
ในตอนที่ 16 โทมะได้รับการชักชวนจากเรย์กะให้มาร่วมมือกับ ซอร์ดออฟโลกอส สาขาเซาธ์เทิร์นเบส แทน แต่เขาปฏิเสธ เรย์กะจึงยุยงให้เหล่านักดาบที่เหลือเข้าใจว่า โทมะทรยศตามคามิโจ และ ฮายาโตะ ไปแล้ว เขาจึงถูกเพื่อนนักดาบตามล่าตัวเพื่อริบ เซย์เค็น และ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค แต่แล้วก็มีบุคคลปริศนากรากฎตัวขึ้นเพื่อช่วยเขา
มีประโยคเด็ดประจำตัวคือ "บทสรุปของเรื่องน่ะ ฉันจะเป็นคนกำหนดเอง"
ด้วยความที่โทมะไม่ได้ผ่านการฝึกแบบนักดาบตั้งแต่แรก ทุกครั้งที่ใช้พลังจาก วันเดอร์ไรด์บุ๊ค มากกว่า 1 เล่มขึ้นไปจะเกิดอาการอ่อนแรง เนื่องจากร่างกายต้องแบกรับพลังมหาศาล
ซึโด เมย์ (須藤 芽依)
รับบทโดย คาวาซึ อาสึกะ (川津明日香)[1]
สาวน้อยอารมณ์ดี ผู้เป็นบรรณาธิการประจำร้านหนังสือของโทมะ มีบุคลิกค่อนข้างกะเปิ๊บกะป๊าบ เธอมักจะมาตามทวงต้นฉบับกับโทมะบ่อย ๆ หลังจากที่โทมะได้เป็นเซเบอร์ เมย์รู้สึกตื่นตาตื่นใจ และอยากรู้อยากเห็นในความลับของ วันเดอร์เวิลด์ เป็นอย่างมาก เธอจึงตามติดโทมะ กับ รินทาโร่ ไปในการต่อสู้ทุกครั้งเพื่อถ่ายภาพ และในตอนที่ 8 เธอก็แอบตามพวกนักดาบไปที่ปราการ นอร์ธเทิร์นเบส จนได้ ในตอนที่ 9 โซเฟียได้มอบหนังสือวิเศษ ที่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ผิดปกติ ที่เกิดจากเมกิโดได้ไว้ให้เธอพกติดตัว

ซอร์ดออฟโลกอส

ซอร์ดออฟโลกอส คือ กลุ่มภาคีลึกลับที่ก่อตั้งโดยเหล่าอัศวินผู้กล้าในยุคโบราณ ซึ่งปฏิญาณว่าจะพิทักษ์ หนังสือแห่งโบราณกาล และปกป้องสันติสุขของโลก ซึ่งสมาชิกแต่ละคนเป็นนักดาบที่เชี่ยวชาญในเพลงดาบแต่ละธาตุ และเป็นมาสค์ไรเดอร์ มีปราการฐานทัพตั้งอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ และมีอีก 1 สาขาประจำที่ฝั่งขั้วโลกใต้

ชินโด รินทาโร่ (新堂 倫太郎) / มาสค์ไรเดอร์เบลดส์ (仮面ライダーブレイズ)
รับบทโดย ยามางุจิ ทาคายะ (山口 貴也)
นักดาบผู้ใช้ดาบวารี นางาเระ[4] ลักษณะเป็นชายหนุ่มในเสื้อโค๊ทสีน้ำเงิน บุคลิกยิ้มแย้ม และเป็นมิตร หลังจากสะกดรอยตามโทมะ และพบว่าโทมะที่เป็นคนธรรมดาได้กลายเป็นมาสค์ไรเดอร์เซเบอร์ รินทาโร่จึงตามเขาไปที่ร้านหนังสือและขอให้โทมะส่งไดรเวอร์ กับ วันเดอร์ไรด์บุ๊คให้ตน ในตอนที่ 2 หลังจากที่รินทาโร่เล็งเห็นหน่วยก้านของโทมะ เขาก็ยอมให้โทมะเป็นเซเบอร์ต่อไป และทำหน้าที่พี่เลี้ยง คอยให้คำแนะนำโทมะในการต่อสู้ รินทาโร่นั้นชื่นชอบขนมหวานมาก ซึ่งเมย์สังเกตเห็นได้ เพราะเขาจ้องเอแคลร์ที่เธอกินตาเป็นประกาย ในตอนที่ 6 เผยว่าอาจารย์ของรินทาโร่ หรือ เบลดส์รุ่นก่อนถูกสังหารโดย ซูออส รินทาโร่จึงบันดาลโทสะเมื่อเขาพบกับซูออสอีกครั้งจนเกิดการปะทะกัน แต่พลังของเขาตอนนี้ยังคงไม่สามารถเอาชนะซูออสได้ กระทั่งรินทาโร่ตัดสินใจงัดเอา เท็นคู โนะ เพกาซัส วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ที่ทรงพลังออกมาใช้ ในตอนที่ 7 หลังจากฝึกฝนใช้พลังใหม่มาด้วยความลำบากแล้ว รินทาโร่ก็เข้าต่อสู้กับพวกเมกิโด เพื่อช่วยบัสเตอร์ กับ เค็นซัน ที่กำลังเพลี่ยงพล้ำ จนในที่สุดเขาก็ปราบ เมดูซาเมกิโด ได้สำเร็จ พวกซูออสจึงต้องล่าถอยไปแต่โดยดี ในตอนที่ 11 แม้จะขัดแย้งกับเค็นโตะ แต่รินทาโร่กลับพุ่งเข้าไปรับการโจมตีของคาลิเบอร์แทนเค็นโตะ จนบาดเจ็บสาหัส ในอดีต รินทาโร่เป็นเด็กกำพร้าที่ทางภาคี ซอร์ดออฟโลกอส รับมาเลี้ยง เขาจึงมองว่าสมาชิกภาคีทุกคนคือครอบครัวของเขา แม้ว่าจะถูกเรย์กะสั่งให้ริบดาบและเข็มขัดมาจากโทมะที่ถูกกล่าวหาว่าทรยศ แต่ลึก ๆ แล้วรินทาโร่ก็ยังคงไม่เชื่อว่าโทมะทรยศต่อพวกเขาจริง ๆ และได้ไปหาโทมะพร้อมกับไดชินจิเพื่อเจรจาขอให้ร่วมมือด้วย
ในการต่อสู้ เมื่อรินทาโร่เอาจริง เขาจะกล่าวว่า "ขอสาบานด้วยดาบวารี นางาเระ ! ผมจะปกป้องโลกไว้ให้ได้ !!"
ฟุคามิยะ เค็นโตะ (富加宮 賢人) / มาสค์ไรเดอร์เอสปาดา (仮面ライダーエスパーダ)
รับบทโดย อาโอคิ เรียว (青木 瞭)
นักดาบผู้ใช้ดาบอสุนี อิคาซึจิ[4] เป็นเพื่อนสมัยเด็กของโทมะที่ห่างหายกันไปนาน และได้กลับมาพบกันที่ร้านหนังสือของโทมะในตอนที่ 3 โดยเค็นโตะมาปรากฏตัวพร้อมกับพรมวิเศษ ในตอนที่ 4 เค็นโตะปรากฏตัวขึ้นในฐานะเอสปาดา เข้าช่วยเซเบอร์ และ เบลดส์ จากการโจมตีของคาลิเบอร์​ ซึ่งดูเหมือนว่าเค็นโตะจะรู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับความลับในอดีตของโทมะ และตัวจริงของคาลิเบอร์ ซึ่งได้เผยออกมาในตอนที่ 5 ว่า ตัวจริงของคาลิเบอร์คือ พ่อของเคนโตะนั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ทราบเหตุผลแท้จริงที่เขาทรยศ หลังจากที่เค็นโตะรู้ว่า คาลิเบอร์คนที่เห็นไม่ใช่พ่อของตน ก็เกิดสับสน และควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทำให้เขามีปากเสียงกับพวกพ้อง หลังจากคามิโจยืนยันว่า พ่อของตนเป็นผู้ทรยศเช่นเดียวกับเขา เค็นโตะจึงสติแตกและเข้าปะทะกับคาลิเบอร์ทันที แต่ก็ไม่สามารถต่อกรกับคาลิเบอร์ ที่ได้พลังของ จาโอดราก้อน ได้ ขณะที่คาลิเบอร์กำลังจะปลิดชีวิตเค็นโตะ รินทาโร่ก็พุ่งมารับคมดาบแทน เค็นโตะเสียใจเป็นอย่างมากที่เป็นเหตุให้รินทาโร่ต้องบาดเจ็บปางตาย ในตอนที่ 12 เค็นโตะกลับไปท้าสู้กับคามิโจอีกครั้ง แต่ก็พ่ายแพ้หมดท่า โทมะที่ตามมาจึงพบกับเค็นโตะในสภาพที่แสนสาหัส ในตอนที่ 13 เค็นโตะที่ยังคงบาดเจ็บอยู่ได้ฝืนสังขารออกไปช่วยพวกโทมะ ทำให้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของคาลิเบอร์อีก โดยที่ก่อนหน้านี้เค็นโตะต้องพลังมืดจากคมดาบคุรายามิมาแล้ว ร่างกายของเค็นโตะจึงถูกพลังงานความมืดกัดกินจนสลายไป สร้างความโศกเศร้าให้เหล่านักดาบเป็นอย่างมาก ในตอนที่ 15 ระหว่างที่โทมะกำลังถูกความมืดกลืนกินจากการโจมตีของ คาลิเบอร์ ดวงจิตของเค็นโตะปรากฎขึ้นต่อหน้าโทมะ เพื่อช่วยดึงร่างของโทมะออกมาจากมิติมืด โทมะจึงกลับมาสู่โลกวันเดอร์เวิลด์ได้ในที่สุด
คำพูดประจำตัวในช่วงเวลาก่อนต่อสู้คือ "ฉันจะไม่ลังเลอีกแล้วล่ะ !"
อาคามิจิ เรน (緋道 蓮) / มาสค์ไรเดอร์เค็นซัน (仮面ライダー剣斬)
รับบทโดย โทงาชิ เอย์จิ (富樫 慧士)
นักดาบผู้ใช้ดาบคู่วายุ ฮายาเตะ[4] บุคลิกเป็นเด็กหนุ่มท่าทางเลือดร้อน และกระตือรือร้นตลอดเวลา เขาเป็นนักดาบที่ใช้วิชานินจาต่อสู้เป็นหลัก เรนเชื่อมั่นว่า ความแข็งแกร่ง คือความถูกต้อง และมองว่า โทมะคือคู่แข่งคนสำคัญคนหนึ่ง
ประโยคคำพูดประจำตัวของเขาคือ "ความแข็งแกร่ง และ เที่ยงธรรม ของฉัน ไม่มีทางแพ้ใคร !!"
โองามิ เรียว (尾上 亮) / มาสค์ไรเดอร์บัสเตอร์ (仮面ライダーバスター)
รับบทโดย อิคุชิมะ ยูคิ (生島勇輝)[6]
นักดาบผู้ใช้ดาบสนั่นพิภพ เกคิโด[4] มีลูกชาย 1 คน ชื่อว่า โซระ ซึ่งเวลาปฏิบัติภารกิจก็จะไปกันทั้ง 2 พ่อลูก เป็นมาสค์ไรเดอร์นักดาบที่อาวุโสที่สุดในกลุ่ม แรกเริ่มนั้นเรียวไม่ค่อยยอมรับในตัวโทมะ ที่มารับหน้าที่เป็นเซเบอร์เท่าไรนัก ด้วยความที่ว่าโทมะไม่ได้ถูกฝึกมาเป็นนักดาบตั้งแต่แรก แต่กระนั้นเขาก็ยอมเปิดโอกาสให้โทมะได้แก้มือใหม่ และไม่ถือโทษที่ช่วยโซระไว้ไม่ทัน หลังจากที่โทมะสามารถช่วยลูกชายของเขากลับมาได้อย่างปลอดภัย เรียวจึงเชื่อมั่นในตัวโทมะยิ่งขึ้น และยอมรับเขาในฐานะนักดาบคนหนึ่ง โดยโองามิชอบเรียกโทมะเล่น ๆ ว่า "เจ้าหนุ่มนักเขียน"
ในตอนที่ 16 โองามิได้รับคำสั่งจากภาคีให้หยุดโทมะในฐานะคนทรยศ แต่เขาก็ไม่ได้เชื่อว่าโทมะจะหักหลังพวกของตน แม้แต่ตอนปะทะกัน เขาก็พยายามเลี่ยงไม่ยอมลงมือกับโทมะ และเก็บดาบทันที
ประโยคเด็ดของเรียวที่เขามักกล่าวกับศัตรูก่อนต่อสู้คือ " 1.แกเป็นคนชั่วที่อุกอาจมาก ! 2. เตรียมรับความเกรี้ยวกราดแห่งพสุธา 3. ไม่ต้องพูดมาก มาตัดสินกัน !! "
ไดชินจิ เท็ตสึโอะ (大秦寺 哲雄) / มาสค์ไรเดอร์สแลช (仮面ライダースラッシュ)
รับบทโดย โอกะ ฮิโรอากิ (岡宏明)[5]
ช่างตีเหล็กของภาคี ซอร์ดออฟโลกอส เป็นผู้สร้างอาวุธให้กับเหล่านักดาบ มีบุคลิกเป็นคนขี้อายและพูดน้อย แต่จริงจังในการทำงานมาก ไดชินจิรักษาซ่อมแซมดาบเซย์เค็นทุกเล่มอย่างทะนุถนอม ราวกับว่ามันมีชีวิตจิตใจ ในตอนที่ 7 เผยว่าเขามีฉายานามคือ สแลช กระทั่งในตอนที่ 9 เขาก็ซ่อมแซม ดาบเสียงกังวาน สึซึเนะ ได้สำเร็จ หลังจากที่ดาบชำรุดตั้งแต่ 15 ปีก่อน และใช้มันแปลงร่างเป็น มาสค์ไรเดอร์ แสลช ซึ่งแท้จริงแล้วไดชินจิก็เป็นนักดาบเช่นกัน แต่เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการซ่อมบำรุงดาบ แม้ว่าไดชินจิจะมีหน้าตาที่ยังดูอายุน้อยเหมือนกับพวกรินทาโร่ แต่ความจริงอายุเขาอยู่ในรุ่นไล่เลี่ยกับโองามิ
โซเฟีย (ソフィア)
รับบทโดย ชิเน็น รินะ (知念里奈)[1][5]
ผู้วิเศษหญิงซึ่งเป็นผู้นำของภาคี ซอร์ดออฟโลกอส เธอมีจุดมุ่งหมายหวังจะสร้างสมดุลของโลกมนุษย์ และวันเดอร์เวิลด์ เธอเชื่อว่า การที่โทมะได้รับเลือกให้เป็นเซเบอร์นั้น คือโชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ในตอนที่ 16 โซเฟียหายตัวไปจากฐานทัพ โดยเรย์กะเป็นผู้มาบอกแก่เหล่านักดาบว่า เธอถูกพวกเมกิโดจับตัวไปขังไว้ ซึ่งความจริงเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครทราบได้
นากามิเนะ เค็นชิน (長嶺 謙信) / มาสค์ไรเดอร์เบลดส์ (รุ่นก่อน) (仮面ライダーブレイズ〈先代〉)
รับบทโดย มิคามิ มาซาชิ (三上 真史)
นักดาบวารีผู้เป็น มาสค์ไรเดอร์เบลดส์ รุ่นก่อน ซึ่งเป็นอาจารย์ของรินทาโร่ ในเหตุการณ์รุกรานของเหล่าเมกิโดเมื่อ 15 ปีก่อน เขาได้ต่อสู้กับซูออส จนกระทั่งพ่ายแพ้และถูกสังหาร สร้างบาดแผลในใจให้กับรินทาโร่ตลอดมา เมื่อรินทาโร่เผชิญหน้ากับซูออสอีกครั้ง ไฟแค้นในอดีตก็ได้ถูกจุดขึ้น เขาจึงมุ่งมั่นที่จะเอาชนะซูออส เพื่อล้างแค้นให้อาจารย์ให้จงได้
ฟุคามิยะ ฮายาโตะ (富加宮 隼人) / มาสค์ไรเดอร์คาลิเบอร์ (รุ่นก่อน) (仮面ライダーカリバー〈先代〉)
รับบทโดย คุราฮาชิ มิตซึรุ (唐橋 充)[4]
อดีตนักดาบแห่งภาคี ซอร์ดออฟโลกอส สหายเก่าของโองามิ เรียว ทุกคนต่างเชื่อว่าเขาแปรพักตร์ไปเข้ากับฝ่ายเมกิโด โดยมีเป้าหมายต้องการชิงหนังสือแห่งโบราณกาลเป็นของตน ความจริงเปิดเผยในตอนที่ 5 ว่า เขาคือพ่อของเค็นโตะ หรือ เอสปาดา ในอดีตเขาเป็นพ่อที่รักและห่วงใยลูกชายมาก ๆ ก่อนที่จะทิ้งเค็นโตะไว้กับภาคี แล้วหายตัวไป ในตอนที่ 9 โซเฟียรู้สึกเคลือบแคลงสงสัยว่า คาลิเบอร์ ที่ทุกคนเห็นอยู่นี่อาจไม่ใช่ฮายาโตะตัวจริง ซึ่งความจริงคือ เมื่อ 15 ปีก่อน ฮายาโตะหรือคาลิเบอร์ตัวจริง ถูกชิงดาบเซย์เค็น กับชุดเกราะไปโดยบุคคลปริศนา และนำไปใช้ในทางชั่วร้าย ความจริงเปิดเผยในตอนที่ 10 ว่า ผู้ที่ใช้เกราะคาลิเบอร์คนปัจจุบันคือ คามิโจ ไดจิ หรือ เซเบอร์คนก่อน นั่นเอง กระทั่งตอนที่ 11 คามิโจก็เผยว่า ฮายาโตะเป็นผู้ทรยศจริง เหมือนกับตน ก่อนที่ฮายาโตะจะหายสาบสูญไป โดยไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา กระทั่งคามิโจเผยว่าตนเป็นผู้สังหารฮายาโตะ แล้วจึงสวมรอยเป็นคาลิเบอร์เสียเอง ในตอนที่ 15 คามิโจกล่าวว่า ฮายาโตะถูกหลอกใช้โดยคนในภาคี จึงเป็นเหตุให้ทรยศและใช้ ลูน่าเป็นกุญแจเปิดมิติเพื่อเชื่อมโลกทั้ง 2 ด้านเข้าหากัน กระทั่งทั้งคู่ต่อสู้กัน ผลคือคามิโจต้องจำใจสังหารฮายาโตะ
ชินได เรย์กะ (神代 玲花)
รับบทโดย แองเจลา เมย์ (アンジェラ 芽衣)[4]
หญิงสาวในเสื้อโค๊ทยาวสีดำ ที่อยู่ ๆ ปรากฎตัวในนอร์ธเทิร์นเบส เธอคือ สมาชิกภาคี ซอร์ดออฟโลกอส สาขาเซาเทิร์นเบส และเป็นผู้มอบ ไทรเซอร์เบอรัส วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ให้เค็นโตะ ในตอนที่ 16 เรย์กะได้ไปชักชวนโทมะให้ร่วมมือกับ ซอร์ดออฟโลกอส สาขาเซาธ์เทิร์นเบส แต่โทมะปฏิเสธ เธอจึงยุยงเหล่านักดาบที่เหลือว่า โทมะทรยศต่อภาคี เหมือนกับคามิโจ และ ฮายาโตะ เพราะต้องการครอบครองพลังของหนังสือลี้ลับแห่ง วันเดอร์เวิลด์ และโซเฟียถูกพวกเมกิโดจับตัวไป ศึกระหว่างเซเบอร์ กับไรเดอร์ทั้ง 5 จึงอุบัติขึ้น

ผู้ที่อยู่ฝ่ายเมกิโด

คามิโจ ไดจิ (上條 大地) / มาสค์ไรเดอร์เซเบอร์ (รุ่นก่อน) (仮面ライダーセーバー〈先代〉) / มาสค์ไรเดอร์คาลิเบอร์ (仮面ライダーカリバー)
รับบทโดย ฮิรายามะ ฮิโรยูกิ (平山浩行)[6]
นักดาบอัคคี หรือ มาสค์ไรเดอร์เซเบอร์ รุ่นก่อน ที่ช่วยโทมะเอาไว้เมื่อตอนเด็ก และได้มอบ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค ไว้ให้ หลังจากนั้นนักดาบผู้นี้ก็หายสาบสูญไปและไม่มีใครได้ข่าวคราวอีกเลย จนกระทั่งโทมะได้รับเลือกให้เป็นเซเบอร์คนใหม่ เขาเป็นผู้ที่ให้คำสอนกับโทมะว่า "เหนือการเตรียมใจ ยังมีความหวังอยู่" ในตอนที่ 10 คามิโจกลับมาอีกครั้งโดยเผยตัวในฐานะคาลิเบอร์ ซึ่งสาเหตุที่เขาได้เกราะคาลิเบอร์มาจากฮายาโตะ และ แปรพักตร์ไปอยู่ฝ่าย เมกิโด ยังคงเป็นปริศนา แต่แล้วคามิโจก็เผยในตอนที่ 11 ว่า ฮายาโตะเป็นผู้ทรยศจริง ซึ่งเขาป็นผู้สังหารฮายาโตะเองด้วย ในขณะที่ตัวเขาเองก็แปรพักตร์เช่นกัน จากนั้นก็ทำทีเป็นว่าตนหายสาบสูญไป และคามิโจก็ปฏิบัติการในฐานะคาลิเบอร์ตั้งแต่นั้นมา ในตอนที่ 15 หลังจากต่อสู้กับโทมะและพ่ายแพ้แก่โทมะ คามิโจก็เริ่มเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อ 15 ปีก่อน ซึ่งกล่าวว่าฮายาโตะทรยศภาคีจริง และคิดจะใช้ตัวลูน่าเป็นกุญแจเปิดประตูเชื่อมโลกทั้ง 2 ฝั่ง เขาจึงต่อสู้กับฮายาโตะและสังหารฮายาโตะในที่สุด แต่ตัวเขานั้นเชื่อว่าฮายาโตะต้องถูกหลอกใช้จากคนในแน่นอน เพื่อล่อให้คนทรยศตัวจริงเปิดเผยตัวออกมา คามิโจจึงตัดสินใจแฝงตัวเป็นคาลิเบอร์ และทำทีเป็นแปรพักตร์เพื่อไปสืบความจริงจากฝั่งเมกิโดต่อ แต่แล้วก่อนที่จะเฉลยเรื่องราวได้หมด คามิโจก็ถูกเดซัสแทงดาบจากข้างหลังจนถึงแก่ความตาย ดาบคุรายามิ และจาอาคุดราก้อน วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ก็สาบสูญไป

ตัวละครอื่นๆ

ทัตเซล (タッセル)
รับบทโดย เร โรมาเนสค์ TOBI (レ・ロマネスクTOBI)[1]
ผู้บรรยายเรื่อง มีบทบาทในช่วงต้นเรื่องและท้ายเรื่องของตอน โดยจะกล่าวเปิดเรื่องว่า "Bon Lecture (อ่านให้สนุกนะ)"[6]
โองามิ โซระ (尾上 そら)
ลูกชายเพียงคนเดียวของเรียว และชอบเรียกพ่อของตนแบบไม่เหมือนใครว่า "ท่านพ่อ"
ลูน่า (ルナ)
เด็กหญิงปริศนาที่มาเล่นกับพวกโทมะ และ เค็นโตะ สมัยเด็ก โดยเธอพกหนังสือ วันเดอร์สตอรี่ ติดตัวมาอ่านกับพวกเขาประจำ จากนั้นทั้ง 3 ก็เริ่มแต่งนิทานร่วมกัน ในเหตุการณ์ที่ประตูมิติถูกเปิดเมื่อ 15 ก่อน ลูน่าถูกดึงเข้าไปในมิติหนึ่งของวันเดอร์เวิลด์ แล้วหายสาบสูญไปโดยไม่มีใครสามารถช่วยเธอไว้ได้ เรื่องนี้จึงกลายเป็นแผลในใจของโทมะและเค็นโตะตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ยูริ (ユーリ) / มาสค์ไรเดอร์ไซโค (仮面ライダー最光)
ชายปริศนาสวมผ้าคลุมสีขาวที่เคยปรากฎตัวในอาวาลอนต่อหน้าโทมะที่กำลังตามหา คิงอาเธอร์วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ซึ่งรู้จักกับทัตเซลด้วย บัดนี้เขากลับมาปรากฎตัวต่อหน้าโทมะอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือจากการถูกเหล่านักดาบโจมตี ในฐานะนักดาบแห่งแสง มาสค์ไรเดอร์ไซโค ผู้มีร่างกายเป็นดาบ ในตอนที่ 17 ยูริแสดงความสามารถในการใช้เวทมนตร​์ลอกเลียนแบบลักษณะเครื่องแต่งกายของคนที่ผ่านมาด้วยการมองเพียงครั้งเดียว ในตอนที่ 18 ยูริได้เล่าอดีตของตนให้โทมะฟังว่า เมื่อครั้งโบราณกาล ที่ดาบศักดิ์สิทธิ์ 2 เล่มแรกถูกสร้างขึ้น ซึ่งก็คือ ดาบแห่งแสงสว่าง และ ดาบแห่งความมืด ในสมัยที่ตัวเขาที่ยังเป็นเพียงนักดาบธรรมดาคนหนึ่ง เกิดกลัวว่าดาบแห่งแสงจะถูกนำไปใช้ในทางชั่วร้าย เนื่องด้วยหากดาบเซย์เค็นแห่ง แสงสว่าง และ ความมืด มารวมกันแล้วจะมีอานุภาพที่สุดจะหยั่งถึง ยูริจึงตัดสินใจสละกายหยาบเพื่อรวมร่างเป็นหนึ่งเดียวกับดาบแห่งแสง ทำให้เขามีอายุขัยที่ยืนยาวจนใกล้ความเป็นอมตะ และคอยเฝ้ามองดูโลกจากดินแดงอาวาลอน จนกระทั่งพบกับโทมะที่เข้าไปตามหาพลังแห่งคิงอาเธอร์

มาสค์ไรเดอร์

เข็มขัดแปลงร่าง

เซย์เค็นซอร์ดไดรเวอร์ (聖剣ソードライバー)
เข็มขัดแปลงร่างของมาสค์ไรเดอร์ เซเบอร์, เบลดส์ และ เอสปาดา มีส่วนประกอบคือตัวเข็มขัด และ เซย์เค็นซอร์ด ใช้งานโดยติดตั้ง วันเดอร์ไรด์บุ๊ค เข้าที่เข็มขัดซึ่งมีช่องสำหรับใส่ทั้งหมด 3 ช่อง และชักดาบออกจากเข็มขัด ผู้ใช้จะสวมเกราะกลายเป็นมาสค์ไรเดอร์ โดยพลังที่ได้จะถูกกำหนดตามวันเดอร์ไรด์บุ๊คเล่มนั้น ๆ โกร่งดาบของมาสค์ไรเดอร์แต่ละคนจะแตกต่างกันไปตามพลังธาตุ เมื่อต้องการใช้ท่าไม้ตาย จะต้องเสียบดาบกลับเข้าที่เข็มขัด กดไกที่ด้ามดาบ จะเป็นการใช้ท่าไม้ตายแรก หากกดไกและชักดาบออกมา จะเป็นการใช้ท่าไม้ตายด้วยดาบ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถนำวันเดอร์ไรด์บุ๊ค มาแสกนที่ตัวดาบโดยตรง เพื่อใช้ท่าพิเศษจากวันเดอร์ไรด์บุ๊คเล่มนั้น ๆ ได้โดยไม่ต้องติดตั้งกับไดรเวอร์ ปกติดาบจะเสียบอยู่ที่ซอร์ดไดรเวอร์ แต่เมื่อชักออกจากเข็มขัด ตัวดาบจะยาวขึ้นทันที บริเวณหัวเข็มขัดของซอร์ดไดรเวอร์มีอักษรของวันเดอร์เวิลด์สลักไว้ว่า เสียบหนังสือไว้ตรงนี้และปลดปล่อยพลังของมัน (Koko ni Hon wo Sashi Chikara wo Kaihou / ここに本をさし力を解放) , จงดึงดาบศักดิ์สิทธิออกมา (Seiken wo Hikinuke / 聖剣を引き抜け)
เมื่อติดตั้งวันเดอร์ไรด์บุ๊คที่มีมากกว่า 1 เล่มเสียงแปลงร่างจะแตกต่างกันขึ้นไปจากเดิมอยู่กับจำนวนหนังสือที่กำหนดไว้ (อย่างไรก็ตามในกรณีติดตั้งหนังสือที่เข้ากันได้อย่างเช่นไลอ้อนแฟนซิสต้า, ดราก้อนอีเกิ้ล หรือร่างวันเดอร์คอมโบ จะเป็นเสียงการแปลงร่างเฉพาะตัว ซึ่งจะเป็นไปตามพลังธาตุของผู้ใช้) ซึ่งเสียงประกาศจะมีใจความดังต่อไปนี้
เมื่อติดตั้งวันเดอร์ไรด์บุ๊คจำนวน 2 เล่ม
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ นิซัทสึ โนะ ฮง โวะ คาซาเนชิ โทคิ เซย์นารุเคน นิ จิคาระ กะ ยาโดรุ ! วันเดอร์ไรเดอร์ ! 〇〇 ! 〇〇 ! (〇〇 คือ เสียงที่หนังสือถูกติดตั้งไว้) ฟุทัตสึ โนะ โซคุเซย์ โวะ โซนาเอชิ ไยบะ งะ โทงิซุมาซาเรรุ ! (二冊の本を重ねし時、聖なる剣に力が宿る!ワンダーライダー!〇〇!〇〇! 二つの属性を備えし刃が研ぎ澄まされる!, เมื่อหนังสือ 2 เล่มเชื่อมประสานกัน พลังอันศักดิ์สิทธิ์ได้สถิตย์ในดาบเล่มนี้แล้ว ! วันเดอร์ไรเดอร์ ! 〇〇 ! 〇〇 ! คมดาบนี้จักถูกลับขึ้นโดยสองพลังทวีคูณ !)
เมื่อติดตั้งวันเดอร์ไรด์บุ๊คจำนวน 3 เล่ม
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ ซันซัทสึ โนะ ฮง โวะ คาซาเนชิ โทคิ เซย์นารุเคน นิ จิคาระ งะ มินากิรุ ! วันเดอร์ไรเดอร์ ! 〇〇 ! 〇〇 ! 〇〇 ! (〇〇 คือ เสียงที่หนังสือถูกติดตั้งไว้) ซันโซคุเซย์ โนะ จิคาระ โวะ ยาโดะชิตะ เคียวจิน นะ สึรุกิ กะ โคโคะ นิ โคริน ! (三冊の本を重なりし時、聖なる剣に力がみなぎる!ワンダーライダー!〇〇!〇〇!〇〇!三属性の力を宿した、強靭な剣が今ここに降臨 !, เมื่อหนังสือ 3 เล่มเชื่อมประสานกัน พลังอันศักดิ์สิทธิ์ได้สถิตย์ในดาบเล่มนี้แล้ว ! วันเดอร์ไรเดอร์ ! 〇〇 ! 〇〇 ! 〇〇 ! ดาบทรงอานุภาพพร้อมด้วยพลังทั้งสามปรากฏอยู่ ณ ที่นี้แล้ว !)
จาเค็นคาลิเบอร์ไดรเวอร์ (邪剣カリバードライバー)
เข็มขัดแปลงร่างเฉพาะตัวของ มาสค์ไรเดอร์คาลิเบอร์ ใช้คู่กับ ดาบรัตติกาล คุรายามิ โดยบริเวณหัวเข็มขัดเป็นที่ติดตั้ง วันเดอร์ไรด์บุ๊ค จากนั้นจึงใช้ปลายด้ามดาบกดที่ด้านบนเพื่อแสกน วันเดอร์ไรด์บุ๊ค จากนั้นตัวหนังสือจะเปิดออกและเข้าสู่ระบบแปลงร่าง
เซย์เค็นไซโคไดรเวอร์ (聖剣サイコウドライバー)
เข็มขัดแปลงร่างเฉพาะตัวของ มาสค์ไรเดอร์ไซโค ใช้คู่กับ ดาบประกายแสง ไซโค มีรูปทรงคล้ายคาลิเบอร์ไดรเวอร์ แต่มีสีเงินทั้งเส้น เมื่อติดตั้ง คินโนะบูคิ กินโนะบูคิ วันเดอร์ไรด์บุ๊คแล้วดึงดาบออก ร่างของผู้ใช้จะร่วมเป็น 1 เดียวกับดาบไซโค

อาวุธและอุปกรณ์

เซย์เค็น (聖剣)
ดาบศักดิ์สิทธิ์ อาวุธประจำกายซึ่งนักดาบแต่ละคนจะมีอยู่คนละ 1 เล่ม ในรูปแบบแตกต่างกันไปตามสาขาวิชาดาบที่ตนศึกษา โดยเซย์เค็นจะแต่ละเล่มจะเป็นผู้เลือกนักดาบที่คู่ควรกับเพลงดาบสายนั้น ๆ เอง
กาไทรค์โฟน (ガトライクフォン)
อุปกรณ์รูปแบบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่นักดาบสมาชิกของ ซอร์ดออฟโลกอส ทุกคนใช้งาน โดยสามารถแปลงสภาพเป็นรถมอเตอร์ไซค์ 3 ล้อ ติดอาวุธ ได้
ไรด์แกตไทรเกอร์ (ライドガトライカー)
ยานพาหนะประจำตัวของนักดาบสมาชิกซอร์ดออฟโลกอส มีลักษณะเป็นมอเตอร์ไซค์ 3 ล้อ ติดอาวุธปืนไว้ด้านหน้า แต่เมื่อกดที่แอพลิเคชั่นเปลี่ยนร่าง กาไทรค์โฟนจะกลายสภาพเข้าสู่โหมดมอเตอร์ไซค์ทันที
ซอร์ดออฟโลกอสบัคเคิล (ソードオブロゴスバックル)
เข็มขัดประเภทหนึ่งของมาสค์ไรเดอร์นักดาบ ที่อุปกรณ์แปลงร่างไม่ได้อยู่ในรูปแบบเข็มขัด ใช้โดยบัสเตอร์ เค็นซัน และ แสลช ส่วนหัวเข็มขัดที่เรียกว่า การ์ดไบน์ดิง ที่สร้างขึ้นจากวัสดุเดียวกับปกของวันเดอร์ไรด์บุ๊ค
ฮิทซัทสึโฮลเดอร์ (必冊ホルダー)
อุปกรณ์เก็บวันเดอร์ไรด์บุ๊คซึ่งติดอยู่ที่เอวทั้ง 2 ข้างเข็มขัด ผู้ใช้คือ เซเบอร์, เบลดส์, เอสปาดา และ คาลิเบอร์ โดยด้านขวาสามารถเก็บวันเดอร์ไรด์บุ๊คได้ 2 เล่ม ส่วนด้านซ้ายสามารถเก็บดาบ หรือวันเดอร์ไรด์บุ๊คก็ได้ โดยที่ตัวอุปกรณ์มีอักษรวันเดอร์เวิลด์สลักไว้ นอกจากนี้โฮลเดอร์ด้านซ้าย ยังสามารถนำดาบไปเสียบเพื่อใช้ท่าไม้ตายดาบพิฆาต "อิไอ" ได้อีกด้วย
ด้านซ้าย
จะใส่หนังสือ หรือ ดาบก็ย่อมได้ (本でも剣でも入りますよ / Hon demo ken demo hairimasu yo)
ด้านขวา
ตรงด้านนี้ ใส่หนังสือได้ทั้งหมด 2 เล่ม (こちら側には本二冊入ります / Kochiragawa ni wa hon ni-satsu hairimasu)
ซอร์ดออฟโลกอสโฮลเดอร์ (ソードオブロゴスホルダー )
อุปกรณ์เก็บวันเดอร์ไรด์บุ๊ค และ ดาบ สำหรับ ซอร์ดออฟโลกอสบัคเคิล
บุ๊คเกท (ブックゲート)
วันเดอร์ไรด์บุ๊คที่สามารถเปิดมิติเดินทางไปยังปราการของ ซอร์ดออฟโลกอส ได้จากทุกสถานที่ สมาชิก ซอร์ดออฟโลกอส จะมีติดตัวไว้คนละ 1 เล่ม

มาสค์ไรเดอร์เซเบอร์

ร่างแปลงของ คามิยามะ โทมะ หลังจากที่ได้รับเซย์เค็นซอร์ดไดรเวอร์ และกลายเป็นเซเบอร์คนที่ 2 ต่อจาก คามิโจ ไดจิ พลังธาตุประจำตัวคือ ไฟ สัตว์ประจำตัวคือ มังกรเพลิง มีดาบอัคคี เร็กกะ เป็นอาวุธประจำกาย

ร่างต่อสู้
เบรฟดราก้อน (ブレイブドラゴン)
ร่างพื้นฐานของเซเบอร์ ที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง ใช้เพลงดาบอัคคีต่อสู้เป็นหลัก ชุดเกราะมีสีดำ สลับขาว และแดง เกราะไหล่ขวามีลักษณะเป็น หัวมังกรเพลิง
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ เร็กกะ บัทโต! เบรฟดราก้อน! เร็กกะอิทซัทสึ! ยูคิ โนะ ริว โตะ คาเอ็นเค็น เร็กกะ กะ มาจิวารุ โทคิ ชินคุ โนะ สึรุกิ กะ อาคุ โวะ สึรานุคุ! (烈火抜刀!ブレイブドラゴン!烈火一冊!勇気の竜と火炎剣烈火が交わる時、真紅の剣が悪を貫く!, ชักดาบอัคคี ! เพลิงลุกโชน บทที่ 1 เมื่อมังกรแห่งความกล้า และ ดาบอัคคี เร็กกะ พานพบบรรจบกัน คมดาบแดงฉานนั้น จักทะลวงผ่านหมู่มารให้สิ้นไป !)
ดราก้อนแจ็คคุง (ドラゴンジャッ君)
ร่างที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค และ แจ็คคุง โตะ โดมาเมะโนกิ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง ในร่างนี้เซเบอร์จะสามารถยิงกระสุนเม็ดถั่วออกมาได้ และหากยิงเม็ดถั่วลงพื้น จะกลายเป็นต้นถั่วยักษ์ที่สามารถใช้สกัดศัตรูได้
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ เร็กกะ บัทโต! วันเดอร์ ไรเดอร์ ! แจ็ค โตะ โดมาเมะโนกิ โทอารุ โมโนกาตาริ โนะ จิคาระ กะ เค็น นิ ยาโดรุ ! (烈火抜刀!ワンダーラライダー!ジャックと豆の木!とある物語の力が剣に宿る!, แจ็คกับต้นถั่ววิเศษ! พลังแห่งเรื่องราวต่าง ๆ ได้สถิตย์อยู่ในดาบเล่มนี้แล้ว!)
ดราก้อนปีเตอร์ (ドラゴンピーター)
ร่างที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค และ ปีเตอร์แฟนตาซิสต้า วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง มีอาวุธเสริมเป็นตะขอ แคปเจอร์ฮุค ที่มือซ้าย ซึ่งสามารถยืดยาวออกมาจับศัตรู และปล่อยนางฟ้าขนาดเล็กออกมาช่วยโจมตีได้
ดราก้อนเฮ็ดจ์ฮอก (ドラゴンヘッジホッグ)
ร่างที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค และ นีเดิลเฮ็ดจ์ฮอก วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง มีความสามารถพิเศษคือ ใช้พลังไฟฟ้าในการโจมตี และปล่อยพลังออกมาในรูปแบบหนามได้
ดราก้อนเฮ็ดจ์ฮอกปีเตอร์ (ドラゴンヘッジホッグピーター)
ร่างที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค, นีเดิลเฮ็ดจ์ฮอกวันเดอร์ไรด์บุ๊ค, ปีเตอร์แฟนตาซิสต้า วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง เป็นการผสานความสามารถจากวันเดอร์ไรด์บุ๊คทั้ง 3 ได้อย่างสมดุล และยังสามารถอัญเชิญ นางฟ้าทิงเกอร์เบลล์ ที่มีพละกำลังมหาศาลออกมาช่วยต่อสู้ได้ แต่การใช้วันเดอร์ไรด์บุ๊ค 3 เล่มจะสร้างผลกระทบต่อร่างกายผู้ใช้ โทมะจึงหมดแรงทุกครั้งหลังจากคืนร่าง
ดราก้อนอีเกิล (ドラゴンイーグル)
ร่างที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค และ สตอร์มอีเกิลวันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง เนื่องด้วยพลังของ สตอร์มอีเกิล สนับสนุนเบรฟดรากอนได้เป็นอย่างดี ร่างนี้เซเบอร์จึงใช้พลังได้เต็มประสิทธิภาพกว่าร่าง วันเดอร์ไรเดอร์ อื่น ๆ ก่อนหน้า ด้วยปีก เวอร์มิลเลียน วิงก์ ที่ด้านหลัง ทำให้เซเบอร์ร่างนี้สามารถเหาะไปบนอากาศได้ และยังใช้สร้างพายุหมุนได้อีกด้วย
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ เร็กกะ บัทโต! ทัตสึมากิ ดราก้อนอีเกิล ! เร็กกะนิซัทสึ! อาราบุรุ โซระ โนะ โยคุริว กะ โกคุเอ็น โวะ มาโทอิ , อารายูรุโมโนะ โวะ ยาคิทสึคุ ! (竜巻ドラゴンイーグル!烈火二冊!荒ぶる空の翼龍が獄炎をまとい、あらゆるものを焼き尽くす!, ชักดาบอัคคี ! พายุหมุน ดราก้อนอีเกิล ! เพลิงลุกโชน บทที่ 2 ! พญาปักษาผู้เดือดดาล เผาผลาญสิ้นทุกสิ่งด้วยไฟโลกันตร์ !)
ดราก้อนอีเกิ้ลบุตะ 3 (ドラゴンイーグルぶた3, ดราก้อนอีเกิ้ลบุตะซัง)
ร่างที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค, สตอร์มอีเกิลวันเดอร์ไรด์บุ๊ค, โคบุตะ 3 เคียวได วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง โดยร่างนี้สามารถใช้พลังจากเรื่องหมู 3 ตัวได้โดยมีหมู 3 ตัวปรากฏขึ้นมาสร้างบ้านขึ้นมากักศัตรูไว้ และสร้างพายุเป่าศัตรูกระเด็นไป
ดราก้อนอาเธอร์ (ドラゴンアーサー)
ร่างที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค และ คิงออฟอาเธอร์วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง หลังจากที่ได้รับ คิงออฟอาเธอร์ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค มาจากดินแดนลี้ลับ อาวาลอน เพื่อปลดผนึกซอร์ดไดรเวอร์ที่โดนสโตเรียสผนึกไป ชุดเกราะสีฟ้าขลิบเหลืองทอง เกราะไหล่ด้านซ้ายมีลักษณะเป็นหมวกเกราะอัศวิน มีอาวุธประจำร่างคือดาบ คิงเอ็กซ์คาลิเบอร์ โดยหลังจากที่โทมะสามารถปลดล็อคพลังที่แท้จริงของ คิงออฟอาเธอร์ ได้ จะมีดาบคิงเอ็กซ์คาลิเบอร์ขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นหลังแปลงร่างด้วย ทุกครั้งที่เซเบอร์โจมตี ดาบขนาดยักษ์ก็จะโจมตีไปด้วย
คริมสันดราก้อน (クリムゾンドラゴン)
ร่าง วันเดอร์คอมโบ สมบูรณ์ของเซเบอร์ที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค, สตอร์มอีเกิลวันเดอร์ไรด์บุ๊ค และ ไซยูเจอร์นีย์วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง ด้วยพลังของวันเดอร์ไรด์บุ๊คทั้ง 3 เล่มที่ประสานกัน เซเบอร์จึงสามารถปลดปล่อยพลังออกมาได้อย่างเต็มที่ และสามารถต่อกรกับคาลิเบอร์ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ด้วยพลังมหาศาลจาก วันเดอร์ไรด์บุ๊ค 3 เล่มที่ผสานกันอย่างสมบูรณ์ ทำให้ร่างกายโทมะถึงกับหมดสภาพหลังจากการต่อสู้
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ เร็กกะ บัทโต! คาตาริทสึกะ เรชิ โนะ ชินจู โนะ โซโนะ นาวะ คริมสันดรากอน ! เร็กกะซันซัทสึ! ชินคุ โนะ ซึรุกิ กะ อาคุ โวะ ทสึรานุคิ , ซุเบเตะ โวะ โมยาสุ ! (烈火抜刀!語り継がれし神獣のその名は! クリムゾンドラゴン! 烈火三冊!真紅の剣が悪を貫き 全てを燃やす!, ชักดาบอัคคี ! นามกรแห่งสัตว์เทวะนั้นคือ ! คริมสันดราก้อน ! เพลิงลุกโชน บทที่ 3 ! คมดาบแดงฉานจักประหารหมู่มารให้มอดม้วย อีกผลาญด้วยเปลวไฟโชติช่วงทั้งโลกา !)
ไซยูดราก้อน (西遊ドラゴン)
ร่างเพิ่มพลังของเซเบอร์ ที่ใช้ ไซยูเจอร์นี วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง สามารถใช้กระบองเห้งเจียยืดยาวออกมาจากแขนซ้าย เพื่อโจมตีได้ รวมถึงเรียกเมฆวิเศษออกมาช่วยต่อสู้ได้อีกด้วย
ดราก้อนเบรเมน (ドラゴンブレーメン)
ร่างที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค และ เบรเมน โนะ ร็อกแบนด์วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง มีความสามารถในการปล่อยพลังคลื่นเสียง ออกมาเป็นรูปร่างต่าง ๆ เพื่อโจมตีศัตรู
เสียงที่ประกาศเฉพาะในการแปลงร่างคือ ดราก้อน! เบรเมน โนะ องคาคุไท! (ドラゴン!ブレーメンの音楽隊!)
ดราโกนิคไนท์ (ドラゴニックナイト)
ร่างพัฒนาของเซเบอร์จากการใช้ ดราโกนิคไนท์ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ที่ได้ตอบรับกับจิตใจของโทมะที่ต้องการสู้เพื่อพวกพ้อง ชุดเกราะทั้งร่างเปลี่ยนเป็นสีเงินขลิบแดง ซึ่งมีพลังป้องกันที่เพิ่มขึ้นมาก จนดาบของคาลิเบอร์ไม่สามารถทำอะไรได้แม้แต่รอยข่วน มี ดราโกนิคบูสเตอร์ ติดตั้งที่แขนซ้าย โดยสามารถนำวันเดอร์ไรด์บุ๊คไปแสกนเพื่อใช้พลังเสริมได้ และเซเบอร์ในร่างนี้ยังสามารถเรียกเบรฟดราก้อนมาเป็นพาหนะขึ้นขี่ในการต่อสู้ได้อีกด้วย
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ เร็กกะ บัทโต! Don't miss it ! (The knight appears. When you side,) โดเมทัลลิคอาร์เมอร์ ! (You have no fear and the flame is bright.) โดฮาเดนิคบูสเตอร์ ! (Ride on dragon, fight.) โดฮาคิเรียวคุ ไรเดอร์ ! (Dragonic Knight.) ดราโกนิคไนท์ ! สุนาวาชิ โด ทสึโย่ย ! , (烈火抜刀!Don't miss it!(The knight appears. When you side,) ドメタリックアーマー! (You have no fear and the flame is bright.) ドハデニックブースター! (Ride on dragon, fight.)ドハクリョックライダー! (Dragonic Knight.) ドラゴニックナイト! すなわちド強い!, จงคอยดู ! (อัศวินปรากฎกาย ต่อหน้าเจ้า) ชุดเกราะเหล็กไหล ! (ไร้ซึ่งความหวาดหวั่น เปลวไฟนั้นลุกโชติช่วง) โดฮาเดนิค บูสเตอร์ ! (ขี่มังกร ประจัญบาน) โดฮาคุเรียวคุ ไรเดอร์ ! (ดราโกนิคไนท์) ดราโกนิคไนท์ ! แกร่งกล้าเหนือคำบรรยาย !)
ดราก้อนอะลันจิน่า (ドラゴンアランジーナ)
ร่างที่ใช้ เบรฟดราก้อน วันเดอร์ไรด์บุ๊ค คู่กับ แลมป์ โด อะลันจินา วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ที่โทมะเก็บไว้เป็นของดูต่างหน้าเค็นโตะ ในร่างนี้เซเบอร์จะต่อสู้ด้วยดาบอัคคี เร็กกะ ควบคู่กับ ดาบอสุนี อิคาซึจิ เป็นการแสดงให้ถึงเจตนารมย์ที่โทมะต้องการสู้เพื่อล้างแค้นให้กับเค็นโตะ และในการโจมตี เซเบอร์จะสามารถใช้กระบวนท่าดาบไฟ ผสมกับ กระบวนท่าดาบสายฟ้าได้เช่นกัน
ดราก้อนอีเกิ้ลอาเธอร์ (ドラゴンイーグルアーサー)
ข้อมูลระดับพลังเบื้องต้น
ชื่อร่าง ส่วนสูง น้ำหนัก พลังชก พลังเตะ พลังกระโดด
(ต่อคน)
พลังความเร็ว
(100 เมตร)
เบรฟดราก้อน 217.0 ซม. 98.5 กก. 9.3 ตัน 19.2 ตัน 18.2 เมตร 4.5 วินาที
ดราก้อนแจ็คคุง 217.0 ซม. 102.5 กก. 10.5 ตัน 22.5 ตัน 18.9 เมตร 4.4 วินาที
ดราก้อนปีเตอร์ 217.0 ซม. 103.6 กก. 11.0 ตัน 21.4 ตัน 21.7 เมตร 4.3 วินาที
ดราก้อนเฮ็ดจ์ฮอก 217.0 ซม. 106.8 กก. 11.8 ตัน 24.3 ตัน 20.4 เมตร 4.3 วินาที
ดราก้อนเฮ็ดจ์ฮอกปีเตอร์ 217.0 ซม. 111.9 กก. 13.5 ตัน 26.5 ตัน 23.9 เมตร 4.1 วินาที
ดราก้อนอีเกิ้ล 217.0 ซม. 106.8 กก. 13.8 ตัน 26.2 ตัน 25.0 เมตร 4.3 วินาที
ดราก้อนอีเกิ้ลโคบุตะ 3 217.0 ซม. 115.7 กก. 14.7 ตัน 29.4 ตัน 26.1 เมตร 4.2 วินาที
ดราก้อนอาเธอร์ 217.0 ซม. 120.4 กก. 15.0 ตัน 28.4 ตัน 18.3 เมตร 4.5 วินาที
คริมสันดราก้อน 217.0 ซม. 118.2 กก. 18.2 ตัน 37.6 ตัน 31.5 เมตร 3.4 วินาที
ไซยูดราก้อน 217.0 ซม. 109.7 กก. 12.4 ตัน 27.8 ตัน 23.0 เมตร 3.7 วินาที
ดราก้อนเบรเมน 217.0 ซม. 104.3 กก. 11.2 ตัน 21.3 ตัน 19.9 เมตร 4.3 วินาที
ดราโกนิคไนท์ 217.0 ซม. 128.8 กก. 26.7 ตัน 48.9 ตัน 50.2 เมตร 2.7 วินาที
ดราก้อนอะลันจินา 217.0 ซม. 103.8 กก. 14.5 ตัน 29.9 ตัน 26.4 เมตร 3.6 วินาที
ดราก้อนอีเกิ้ลอาเธอร์ 217.0 ซม. 128.7 กก. 17.9 ตัน 35.4 ตัน 22.8 เมตร 4.4 วินาที
อาวุธ
คาเอ็นเค็นเร็กกะ (火炎剣烈火, ดาบอัคคี เร็กกะ)[7]
ดาบประจำตัวของเซเบอร์ เป็นเซย์เค็นซอร์ดธาตุไฟ บริเวณโกร่งดาบมีสัญลักษณ์ธาตุไฟของเซเบอร์อยู่
คิงเอ็กซ์คาลิเบอร์ (キングエクスカリバー)
ดาบประจำร่าง คิงออฟอาเธอร์ โดยจะปรากฏขึ้นพร้อมกับการแปลงร่าง สามารถกลายสภาพเป็นหุ่นยนต์ยักษ์ คิงออฟอาเธอร์ เพื่อรวมร่างกับเซเบอร์ได้
ดราโกนิคบูสเตอร์ (ドラゴニックブースター)
อุปกรณ์อ่านค่าพลังวันเดอร์ไรด์บุ๊ค ที่ติดตั้งที่แขนซ้ายของเซเบอร์ในร่าง ดราโกนิคไนท์ ลักษณะเป็นสนับแขนรูปทรงหัวมังกร ใช้งานโดยเปิดส่วนหัวมังกรขึ้น และนำวันเดอร์ไรด์บุ๊คไปแสกนในตัวเครื่อง เซเบอร์จะสามารถใช้พลังจากวันเดอร์ไรด์บุ๊คนั้น ๆ ควบคู่ไปกับพลังของ ดราโกนิคไนท์ ได้
ท่าไม้ตาย
ฮิริวชูเกคิฮะ (火龍蹴撃破, ヒリュウシュウゲキハ , หมัดมังกรเพลิงพิฆาต )
ท่าไม้ตายท่าแรกของเซเบอร์ เมื่อกดที่วันเดอร์ไรด์บุ๊ค เซเบอร์จะสร้างเปลวไฟขึ้นมาล้อมรอบตนเอง และปล่อยลูกไฟมังกรออกจากหมัดโจมตีศัตรู
ดราก้อน วันเดอร์ (ドラゴンワンダー)
เซเบอร์จะกดที่ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค จากนั้นจะรวมพลังงานไว้ที่หมัดเพลิง เมื่อชกออกไปจะปรากฏเป็นมังกรเพลิงออกมาโจมตีศัตรูโดยรอบ
คาเอ็นจูจิซัน (火炎十字斬, カエンジュウジザン, เพลงดาบผ่าเปลวเพลิง)
ท่าไม้ตายที่ใช้ดาบอัคคี เร็กกะ ฟาดฟันศัตรูอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็ว โดยมีมังกรเพลิงปรากฏออกมาขณะโจมตีด้วย
ฮิริวโดเซ็ตสึเท็น (火龍怒髪天, มังกรเพลิงสวรรค์พิโรธ)
ท่าไม้ตายของร่าง ดราก้อนเฮ็ดจ์ฮอกปีเตอร์ ของเซเบอร์ โดยเซเบอร์จะอัญเชิญ มังกร นางฟ้า ออกมาช่วยโจมตี และใช้พลังเม่นสายฟ้าโจมตีปิดท้าย
คาเอ็นทัตซึมากิซัน (火炎竜巻斬, カエンタツマキザン, ผ่าพิฆาตอัคคีสลาตัน)
ท่าไม้ตายร่าง ดราก้อนอีเกิล ของเซเบอร์ เป็นการใช้ดาบอัคคี เร็กกะ สร้างพายุหมุนพัดหอบศัตรูขึ้นไปในอากาศ จากนั้นจึงกระโจนเข้าไปและเปลี่ยนพายุให้กลายเป็นทอร์นาโดเพลิงเผาทำลายเป้าหมาย
คิงแสลช (キングスラッシュ)
ท่าไม้ตายของร่าง คิงออฟอาร์เธอร์ เป็นการใช้ดาบ เร็กกะ ฟันควบคู่กับ คิงเอ็กซ์คาลิเบอร์ ฟาดฟันโจมตีประสาน
บาคุเอ็นกุเร็นซัน (爆炎紅蓮斬 , ท่าผ่าพิฆาตเพลิงโลกันตร์)
ท่าไม้ตายของเซเบอร์ที่ได้พลัง วันเดอร์คอมโบ ที่สมบูรณ์ ซึ่งมีอานุภาพมากขึ้นไปอีกขั้น เซเบอร์จะยิงลูกไฟจำนวนมากไปรวมกันที่ศัตรู แล้วยิงเปลวไฟขนาดใหญ่ไประเบิดใส่ศัตรูพร้อมกันในคราวเดียว ศัตรูที่โดนท่านี้จะมอดไหม้เป็นจุลในพริบตา
ริวจินเท็ตสึโคดัน (龍神鉄鋼弾 , กระสุนเหล็กไหลเทพมังกร)
เซเบอร์จะยิงกระสุนเพลิงออกมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะใช้ลูกถีบโจมตี
ชินคะริว ฮะซัน (神火龍破斬 , ดาบพิฆาตเทพมังกรเพลิง)
คาเอ็น เดสโตรเดอร์ (火炎・デストローダ)
ท่าไม้ตายของเซเบอร์ ดราก้อนอะลันจินา เซเบอร์จะใช้ดาบฟันออกไปเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ที่ห่อหุ้มด้วยพลังงานไฟฟ้า
นิซัทสึกิริ + อิคาซึจิ อิไอ (二冊斬り+黄雷居合)
ท่าไม้ตายดาบคู่ของเซเบอร์ ดราก้อนอะลันจินา ด้วยการใช้ท่าไม้ตายของดาบเร็กกะ ควบคู่กับ ท่าดาบพิฆาต อิไอ ของดาบอิคาซึจิ เซเบอร์จะใช้ดาบทั้ง 2 เล่มที่อาบด้วยเปลวไฟ และกระแสไฟฟ้า ฟันโจมตีศัตรูพร้อม ๆ กันอย่างคล่องแคล่ว
โกคะไดคาคุเม/ชินคะริว ฮะซัน (豪火大革命/神火龍破斬 , เปลวไฟแห่งการปฏิวัติ/ดาบพิฆาตเทพมังกรเพลิง)
ท่าไม้ตายคอมโบของเซเบอร์ ร่างดราโกนิคไนท์ ถ้าฟันโจมตีในรูปกากบาท โดยใช้พลังจากไฟ และ สายฟ้า โดยในท่านี้จะปรากฎจิตของเอสปาดาขึ้นมาในขณะฟันด้วย
โคโกริว ฮะซัน (光剛龍破斬 , เพลงดาบมังกรฉายแสง)
ท่าไม้ตายดาบคู่ที่เซเบอร์ใช้ ดาบเร็กกะ คู่กับ ดาบไซโค โดยรวมพลังเพลิง และแสงสว่าง ฟันโจมตีเป็นรูปกากบาทใส่ศัตรู
ยานพาหนะ
ดีเอโก้สปีดี้ (ディアゴスピーディー)
มอเตอร์ไซค์ประจำตัวของเซเบอร์ ยามที่ไม่ใช้งานจะอยู่ในสภาพวันเดอร์ไรด์บุ๊ค แต่เมื่อกางออกจะแปรสภาพเป็นมอเตอร์ไซค์ทันที
คิงออฟอาร์เธอร์ (キングオブアーサー)
หุ่นยนต์ยักษ์ที่แปลงร่างมาจากคิงเอ็กซ์คาลิเบอร์ เกิดจากพลังของร่างดราก้อนอาเธอร์ โดยเซเบอร์จะกลายสภาพเป็นดาบอีกเล่มที่ชื่อว่า เซฟเวอร์เซเบอร์ ให้กับหุ่น คิงออฟอาร์เธอร์ ใช้ถือโจมตีคู่กับคิงเอ็กซ์คาลิเบอร์
สัตว์ประจำตัว
ชินจู เบรฟดราก้อน (神獣 ブレイブドラゴン)

มาสค์ไรเดอร์เบลดส์

ร่างแปลงของ ชินโด รินทาโร่ เป็นมาสค์ไรเดอร์นักดาบคนที่ 2 [7] พลังธาตุประจำตัวคือ น้ำ สัตว์ประจำตัวคือ สิงโตสีน้ำเงิน มีดาบวารี นางาเระ เป็นอาวุธประจำกาย สไตล์การต่อสู้ของเขามีลักษณะคล้ายคลึงกับศิลปะการใช้กระบี่ของจีน

ร่างต่อสู้
ไลออนเซ็นคิ (ライオン戦記)
ร่างพื้นฐานของเบลดส์ที่ใช้ ไลอ้อนเซ็นคิ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง ชุดเกราะสีน้ำเงินสลับดำ บริเวณเกราะหน้าอกลักษณะเป็นหัวสิงโต ใช้เพลงดาบวารีในการต่อสู้เป็นหลัก
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ นางาเระ บัทโต! ไลออนเซ็นคิ! นางาเระอิทซัทสึ! เฮียคุจู โนะ โอ โตะ ซุยเซเค็น นางาเระ กะ มาจิวารุ โทคิ คมเปคิ โนะ สึรุกิ กะ คิบะ โวะ มุคุ ! (流水抜刀!ライオン戦記!流水一冊!百獣の王と水勢剣流水が交わる時紺碧の剣が牙を剥く!, ชักดาบวารี ! ธาราไหลริน บทที่ 1 ! เมื่อจ้าวแห่งสรรพสัตว์ และ ดาบวารี นางาเระ พานพบบรรจบกัน คมดาบน้ำเงินนั้น จักเผยคมเขี้ยวขย้ำศัตรู !)
ไลออนแฟนตาซิสต้า (ライオンファンタジスタ)
ร่างที่ใช้ ปีเตอร์แฟนตาซิสต้า วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง ใช้ตะขอ แคปเจอร์ฮุค ที่มือซ้าย ควบคู่กับพลังแห่งจินตนาการ ซึ่งรินทาโร่ใช้ร่างนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าโทมะ
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ คางายาคุ ไลออนแฟนตาซิสต้า! นางาเระ นิซัทสึ! กาโอ! คิระคิระ! เก็นโซ โนะ สึเมะ งะ อิมะ อาโอคิ เคนชิ โนะ โซโนมินิ ยาโดรุ! (輝くライオンファンタジスタ!流水二冊!ガオー!キラキラ!幻想の爪が今、蒼き剣士のその身に宿る!, ธาราไหลริน บทที่ 2 ! คำราม ! เปล่งประกายแสง ! กรงเล็บแห่งจินตนาการ บัดนี้ได้สวมอยู่บนร่างของนักดาบสีน้ำเงินแล้ว !)
แฟนทาสติคไลออน (ファンタスティックライオン)
ร่าง วันเดอร์คอมโบ สมบูรณ์ของเบลดส์ที่ใช้ ไลออนเซ็นคิ, ปีเตอร์แฟนตาซิสตา, เท็นคู โนะ เพกาซัส ในการแปลงร่าง ซึ่งจะสามารถใช้พลังได้อย่างเต็มที่ มีความสามารถในการบิน เปลี่ยนสภาพร่างกายให้เป็นน้ำเพื่อหลบการโจมตีได้ และยังสามารถสร้างกระจกน้ำ เพื่อสะท้อนพลังคำสาปจากดวงตาของ เมดูซ่าเมกิโด ได้ เหมือนกับตำนานของเปอร์ซิอุส วีรบุรุษผู้ขี่ม้าเพกาซัส ที่ปราบ เมดูซ่า ด้วยโล่ห์กระจก
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ อาโอคิ ยาจู โนะ ทาเทงามิ กะ โซระนิ นะบิคุ ! แฟนทาสติคไลออน! นางาเระ ซันซัทสึ! คมเปคิ โนะ สึรุกิ กะ คิบะ โวะ มุคิ กิงกะ โวะ เซย์สึ! (蒼き野獣の鬣が空になびく!ファンタスティックライオン!流水三冊!紺碧の剣が牙を剥き銀河を制す!, แผงคอแห่งอสูรสีน้ำเงินปลิวไสวบนฟากฟ้าไกล ! แฟนทาสติคไลออน ! ธาราไหลริน บทที่ 3 ! คมดาบน้ำเงิน จักสำแดงคมเขี้ยวและควบคุมบัญชาจักรวาล ! )
คิงไลออน ไดเซ็นคิ (キングライオンダイ戦記)
ร่างพัฒนาจากของเบลดส์ จากการใช้ คิงไลออน ไดเซ็นคิ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ซึ่งเกิดจากการรวมพลังของ วันเดอร์คอมโบ กับ คิงอาร์เธอร์ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ชุดเกราะเป็นสีน้ำเงินเข้ม ขลิบฟ้า ที่ไหล่ 2 ข้างติดตั้งปืน คิงไลออน แคนน่อน ข้างละ 1 กระบอก ซึ่งสามารถยิงกระสุนน้ำแรงดันสูงได้ มี คิงไลออนบูสเตอร์ ติดตั้งอยู่ที่แขนซ้าย นอกจากนี้เบลดส์ยังสามารถแปลงร่างเป็นสิงโต คิงไลอ้อน ได้ด้วยการเปิด คิงไลอ้อน ไดเซ็นคิ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค หน้าที่ 2 เป็นการใช้งาน ไลออนโหมด ได้อีกด้วย ในครั้งแรกที่แปลงร่างนี้ เบลดส์สามารถรับมือกับ หัวหน้าเมกิโดทั้ง 3 ได้ด้วยตัวคนเดียวจนพวกมันต้องล่าถอยไป
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ นางาเระ บัตโต ! Rhyming! Riding! Rider! จูโอ ไรโอ ! Rising ! Lifull ! คิงไลออน ไดเซ็นคิ ! โซเระซึนาวาชิ โฮเกคิ โนะ เซ็นชิ ! (流水抜刀!Rhyming! Riding! Rider! 獣王来迎! Rising! Lifull! キングライオン大戦記! それすなわち砲撃の戦士!, ชักดาบวารี ! สัมผัสเสียง ! Riding ! Rider ! กำเนิดจ้าวป่า ! ผงาด ! ทรงพลัง ! คิงไลออน ไดเซ็นคิ ! อีกนัยหนึ่งคือ นักรบปืนใหญ่ ! )
ข้อมูลระดับพลังเบื้องต้น
ชื่อร่าง ส่วนสูง น้ำหนัก พลังชก พลังเตะ พลังกระโดด
(ต่อคน)
พลังความเร็ว
(100 เมตร)
ไลออนเซ็นคิ 217.0 ซม. 99.7 กก. 10.4 ตัน 17.8 ตัน 17.8 เมตร 4.3 วินาที
ไลออนแฟนตาซิสต้า 217.0 ซม. 104.8 กก. 13.1 ตัน 20.3 ตัน 21.8 เมตร 4.0 วินาที
แฟนทาสติคไลออน 217.0 ซม. 120.8 กก. 19.5 ตัน 32.8 ตัน 30.5 เมตร 3.4 วินาที
คิงไลออน ไดเซ็นคิ 217.0 ซม. 135.1 กก. 26.9 ตัน 46.0 ตัน 47.3 เมตร 2.3 วินาที
อาวุธ
ซุยเซย์เค็นนางาเระ (水勢剣流水, ดาบวารี นางาเระ)[7]
ดาบประจำตัวของเบลดส์ เป็นเซย์เค็นซอร์ด ธาตุน้ำ บริเวณโกร่งดาบมีสัญลักษณ์ธาตุน้ำของเบลดส์อยู่
คิงไลออนบูสเตอร์ (キングライオンブースター)
อุปกรณ์อ่านค่าพลังวันเดอร์ไรด์บุ๊คของเบลดส์ คิงไลออน ไดเซ็นคิ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ชนิดเดียวกับ ดราก้อนบูสเตอร์ ของเซเบอร์ ดราโกนิคไนท์ แต่ฝาด้านบนจะเป็นรูปหัวสิงโตสีน้ำเงิน

ใช้งานโดยเปิดฝาขึ้นแล้วนำ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค มาแสกนเช่นกัน

ท่าไม้ตาย
ไฮโดร สตรีม (ハイドロ・ストリーム)
กระบวนท่าที่ฟาดฟันดาบออกมาเป็นคลื่นน้ำอัดกระแทก
ไลออนเซ็นคิ
เลโอ คัสเคด (レオ・カスケード)
เบลดส์จะยิงพลังน้ำจาก เบรสไลอ้อน ที่เกราะหน้าอก ออกไปตรึงศัตรูให้อยู่ในมวลน้ำ แล้วจึงใช้ลูกเตะโจมตี
ไลออนเซ็นคิ
ไลออน วันเดอร์ (ライオン・ワンダー)
ใช้โดยกดที่วันเดอร์ไรด์บุ๊ค 1 ครั้ง เบลดส์จะโจมตีด้วยท่าดาบวารี และปรากฏเป็นสิงโตสีน้ำเงินเข้าจู่โจมศัตรู เหมาะแก่การรับมือศัตรูจำนวนมาก
ไลออนแฟนตาซิสตาวันเดอร์ (ライオンファンタジスタ・ワンダー)
เบลดส์จะกดที่วันเดอร์ไรด์บุ๊คทั้งสองเล่มบนเข็มขัด จากนั้นจะสร้างประตูมิติน้ำจำนวนมาก ขึ้นมาล้อมรอบศัตรู และ กระโดดออกมาโจมตีหลอกล่อศัตรูผ่านประตูนั้น พร้อมกับสิงโตสีน้ำเงิน
แฟนทาสติคไลออน
ไลออนวันเดอร์ (ライオン・ワンダー)
ทันทีที่กด ไลออนเซนคิ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค เบลดส​์จะเปลี่ยนสภาพตนเองให้กลายเป็นคลื่นน้ำซัดศัตรู เพื่อทะลวงการป้องกัน ก่อนมวลจะกลับมารวมตัวกลับเป็นเบลดส์ดังเดิม
ไฮโดร วอร์เท็กซ์ (ハイドロ・ボルテクス)
ท่าไม้ตายของร่าง แฟนทาสติคไลออน โดยเบลดส์จะซัดพลังใส่ศัตรูกลายเป็นวังน้ำวน หอบขึ้นไปในอากาศ และใช้ดาบฟันปิดฉากในดาบเดียว
คิงไลออน ไดเซ็นคิ
ไลโอเนล แกรนด์แคสเคด (ライオネル・グランド・カスケード)
ไลโอเนล ไฮโดรสตรีม (ライオネル・ハイドロ・ストリーム)
ไลโอเนล โซล สแปลช (ライオネル・ソウル・スプラッシュ)
ไลโอนิคเบิร์ส (ライオニックバースト)
ท่าไม้ตายจาก คิงไลออนบูสเตอร์ โดยการนำวันเดอร์ไรด์บุ๊คมาแสกนทั้งหมด 3 เล่ม เบลดส์จะยิงพลังโจมตีจากวันเดอร์ไรด์บุ๊คเล่มนั้น ๆ ออกมาได้
ไลออนโหมด
คิงไลออน เกรเนเจอร์ (キングライオングレネイチャー)

มาสค์ไรเดอร์เอสปาดา

ร่างแปลงของ ฟุคามิยะ เค็นโตะ มาสค์ไรเดอร์นักดาบคนที่ 4 แห่ง ซอร์ดออฟโลกอส พลังธาตุประจำตัวคือ แสง สัตว์ประจำตัวคือ ยักษ์ในตะเกียง จินนี มีดาบอสุนี อิคาซึจิ เป็นอาวุธประจำกาย สไตล์การต่อสู้ของเขาเป็นแบบ เฟนซิ่งเซเบอร์ หรือ ศิลปะการฟันดาบฝรั่งเศส

ร่างต่อสู้
แลมป์ โด อะลันจินา (ランプドアランジーナ)
ร่างพื้นฐานของเอสปาดา ที่ใช้ แลมป์ โด อะลันจินา วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง ใช้เพลงดาบอัสนีบาตต่อสู้เป็นหลัก ชุดเกราะมีสีเงินสลับขาว และทอง เกราะไหล่ซ้ายมีลักษณะเป็นตะเกียง มีความเร็วในการเคลื่อนที่เป็นเลิศ
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ อิคาซึจิ บัทโต! แลมป์ โด อะลันจินา! อิคาซึจิ อิทซัทสึ! แลมป์ โนะ เซย์ โตะ ไรเมย์เค็น กะ มาจิวารุ โทคิ อินาซุมะ โนะ สึรุกิ กะ ฮิคาริ คางายาคุ ! (黄雷抜刀!ランプドアランジーナ!黄雷一冊!ランプの精と雷鳴剣雷が交わる時稲妻の剣が光り輝く!, ชักดาบอัสนีบาต ! สายฟ้าคำรน บทที่ 1 ! เมื่อตะเกียงแห่งมนตรา และ ดาบอสุนี อิคาซึจิ พานพบบรรจบกัน คมดาบวัชระนั้น จักส่องประกายแสงเจิดจรัส !)
แลมป์ โด เฮดจ์ฮอก (ランプドヘッジホッグ)
ร่างเพิ่มพลังของเอสปาดา ที่ใช้ นีเดิลเฮ็ดจ์ฮอก วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ อิคาซึจิ บัทโต! โทเก ! โทเก ! แลมป์ โด เฮ็ดจ์ฮอก ! อิคาซึจิ นิซัทสึ ! คิวคิวโตะ โคซุรุ โตะ อาระวาเรตะ โซโนะ มาจิน เอะ โนะ เนกาอิ โตะ วะ ชิคูชิคู โนะ โยโรอิ ดัตตะ ! (黄雷抜刀!トゲ!トゲ!ランプドヘッジホッグ!黄雷二冊!キュキュっとこすると現れた その魔人への願いとはチクチクの鎧だった!, ชักดาบอัสนีบาต ! หนามแหลม ! หนามแหลม ! แลมป์ โด เฮ็ดจ์ฮอก ! สายฟ้าคำรน บทที่ 2 ! พรแห่งจินนีที่ข้าปรารถนานั่นหรือ คือชุดเกราะซึ่งเต็มไปด้วยหนามแหลมคม !)
โกลเดน อะลันจินา (ゴルデンアランジナ)
ร่างวันเดอร์คอมโบ ที่สมบูรณ์ของเอสปาดา ที่ใช้ ไทรเซอร์เบอร์รัส วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ร่วมกับ นีเดิลเฮ็ดจ์ฮอก และ แลมป์ โด อะลันจินา วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง โดยเอสปาดาจะสามารถแสดงพลังออกมาได้เต็มที่
เสียงประกาศในการแปลงร่าง คือ อิคาซึจิ บัทโต! แลมป์ โนะ มาจิน กะ ! ชิน โนะ จิคาระ โวะ ฮัคคิซุรุ ! โกลเดน อะลันจินา ! อิคาซึจิ ซันซัทสึ ! อินาซึมะ โนะ ซุรุกิ กะ ฮิคาริคางายาคิ ไรเมย์ กะ โทโดโรคุ ! (黄雷抜刀!ランプの魔人が真の力を発揮する! ゴールデンアランジーナ!黄雷三冊!稲妻の剣が光り輝き、雷鳴が轟く!, ชักดาบอัสนีบาต ! สำแดงฤทธิ์เดชที่แท้จริง ของตะเกียงแห่งจินนี ! โกลเดน อะลันจินา ! สายฟ้าคำรน บทที่ 3 ! คมดาบวัชระส่องแสงเรืองรอง ดังกึกก้องด้วยเสียงกัมปนาท !)
ข้อมูลระดับพลังเบื้องต้น
ชื่อร่าง ส่วนสูง น้ำหนัก พลังชก พลังเตะ พลังกระโดด
(ต่อคน)
พลังความเร็ว
(100 เมตร)
แลมป์ โด อะลันจินา 217.0 ซม. 98.3 กก. 9.8 ตัน 18.5 ตัน 20.4 เมตร 4.6 วินาที
แลมป์ โด เฮดจ์ฮอก 217.0 ซม. 106.6 กก. 12.8 ตัน 24.7 ตัน 23.2 เมตร 4.4 วินาที
โกลเดน อะลันจินา 217.0 ซม. 120.0 กก. 18.8 ตัน 34.6 ตัน 33.6 เมตร 4.1 วินาที
อาวุธ
ไรเมย์เค็นอิคาซึจิ (雷鳴剣黄雷, ดาบอสุนี อิคาซึจิ)
ดาบประจำตัวของเอสปาดา เป็นเซย์เค็นซอร์ด ธาตุ แสง บริเวณโกร่งดาบมีสัญลักษณ์สายฟ้าของเอสปาดาอยู่
ท่าไม้ตาย
อะลันจินา เดียโบล (アランジーナ・ディアブロー)
ท่าไรเดอร์คิกของเอสปาดา โดยรวมพลังงานสายฟ้าไว้ที่เท้าและใช้ลูกถีบพุ่งโจมตีด้วยความเร็วสูง
อะลันจินา วันเดอร์ (アランジーナ・ワンダー)
เมื่อกดที่ แลมป์ โด อะลันจินา วันเดอร์ไรด์บุ๊ค เอสปาด้าจะสามารถใช้เพลงดาบที่เพิ่มพลังสายฟ้าได้
เทรโน เดสโตรเดอร์ (トルエノ・デストローダ)
ท่าไม้ตายสังหาร เอสปาดาจะพุ่งเข้าหาศัตรูด้วยความเร็วสูงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า พร้อมกับใช้ดาบฟาดฟัน ขณะเดียวกันศัตรูจะถูกช็อตด้วยสายฟ้าและระเบิดไปในที่สุด
เทรโน มิล ลันซา (トルエノ・ミル・ランザ)
ท่าไม้ตายของเอสปาดา ร่างแลมป์ โด เฮ็ดจ์ฮอก โดยเอสปาด้าจะอัญเชิญยักษ์จินนี ออกมายิงกระสุนหนามใส่ศัตรู จากนั้นจึงพุ่งผ่านไปด้านหลังศัตรู เพื่อใช้เพลงดาบสายฟ้าฟันปิดฉาก
โอโร บอมบาร์เดโร (オーロ・ボンバルデーロ)
เทรโน เดล โซล (トルエノ・デル・ソル)
ท่าไม้ตายของร่าง โกลเดน อะลันจินา มีความหมายว่า สายฟ้าสุริยัน เอสปาดาจะรวมพลังงานทั้งหมดไปที่ใบดาบ และฟันใส่ศัตรูด้วยท่าดาบสายฟ้าที่มีอานุภาพมากขึ้น

มาสค์ไรเดอร์บัสเตอร์

ร่างแปลงของ โองามิ เรียว เป็นมาสค์ไรเดอร์นักดาบร่างใหญ่กำยำ โดยเป็นนักดาบที่ปรากฏตัวเป็นคนที่ 3 พลังธาตุประจำตัวคือ ดิน สัตว์ประจำตัวคือ เต่ายักษ์เก็มบุ มีดาบสนั่นพิภพ เกคิโด เป็นอาวุธประจำกายและอุปกรณ์แปลงร่าง ด้วยดาบที่มีขนาดใหญ่ บัสเตอร์จะมีสไตล์การต่อสู้ที่เน้นบุกตรง ๆ และเผด็จศึกในคราวเดียว

ร่างต่อสู้
เก็มบุชินวะ (玄武神話)
ร่างที่ใช้ เก็มบุชินวะวันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง เป็นร่างพื้นฐานของบัสเตอร์ มีชุดเกราะที่หนาและแข็งแกร่ง รวมถึงพละกำลังมหาศาล และพลังป้องกันเป็นเลิศ ใช้เพลงดาบพสุธาในการต่อสู้เป็นหลัก
เก็มบุแจ็คคุง (玄武ジャッ君)
ร่างที่ใช้ แจ็คคุง โตะ โดมาเมะโนกิ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง สามารถใช้เถาวัลย์ที่ยืดออกมาจากแขนซ้ายจับศัตรูไว้ได้
เก็มบุเบรเมน (玄武ブレーメン)
ร่างที่ใช้ เบรเมน โนะ ร๊อคแบนด์ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการเปลี่ยนร่าง เกราะแขนซ้ายจะเปลี่ยนเป็นรูปร่างลำโพง และเครื่องดนตรี ซึ่งใช้พลังเสียงโจมตีได้
ข้อมูลระดับพลังเบื้องต้น
ชื่อร่าง ส่วนสูง น้ำหนัก พลังชก พลังเตะ พลังกระโดด
(ต่อคน)
พลังความเร็ว
(100 เมตร)
เก็มบุชินวะ 202.1 ซม. 146.7 กก. 14.2 ตัน 26.4 ตัน 8.4 เมตร 8.2 วินาที
เก็มบุแจ็คคุง 202.1 ซม. 150.7 กก. 15.4 ตัน 29.7 ตัน 9.1 เมตร 8.1 วินาที
เก็มบุเบรเมน 202.1 ซม. 151.2 กก. 16.6 ตัน 28.2 ตัน 13.8 เมตร 7.4 วินาที
อาวุธ
โดโกเค็นเกคิโด (土豪剣激土, ดาบสนั่นพิภพ เกคิโด)
ดาบประจำตัวของบัสเตอร์ อาวุธดาบธาตุดิน ซึ่งเป็นอุปกรณ์แปลงร่างในตัว ระบบการแปลงร่างต่างจากของพวกเซเบอร์ มีลักษณะเป็นดาบขนาดใหญ่ ซึ่งความคล่องตัวจะต่ำ แต่ทดแทนด้วยระยะโจมตีที่กว้าง กับพลังทำลายล้างที่สูง มีช่องสำหรับติดตั้ง วันเดอร์ไรด์บุ๊ค และบริเวณเหนือช่องจะมี ชินกันรีดเดอร์ ซึ่งเป็นสวิตช์สำหรับแสกน วันเดอร์ไรด์บุ๊ค เพื่อใช้พลังเสริม บริเวณปลายด้ามดาบมีสัญลักษณ์ธาตุดินของบัสเตอร์อยู่
เมื่อติดตั้งวันเดอร์ไรด์บุ๊คในการแปลงร่างหรือเพิ่มพลัง มีเสียงประกาศในการใช้ว่า 〇〇 (ชื่อวันเดอร์ไรด์บุ๊ค) ! อิตโต เรียวดัน! บุตตะกิเระ ! โดโก ! โดโก ! โดโกเค็นเกคิโด ! เกคิโด จูฮัน ! เซ็ตไตโซโค โนะ ไทเค็น กะ โฮคุโฮ โยริ โออินารุ อิชิเกคิ โวะ ทาทาคิโคมุ ! (一刀両断!ブツた斬れ!ドゴ!ドゴ!土豪剣激土!激土重版!絶対装甲の大剣が北方より大いなる一撃を叩き込む!, หนึ่งดาบ ราบคาบ ! สะบั้น ทำลาย ! ตึงตัง ! ตึงตัง ! ดาบสนั่นพิภพ เกคิโด ! ตีพิมพ์สะท้านภพ ! ดาบยักษ์ที่เปี่ยมล้นด้วยฤทธา ! เคลื่อนภูผาสะเทือนใต้หล้าจรดทิศเหนือ !) และเมื่อนำวันเดอร์ไรด์บุ๊คมาแสกนชินกันรีดเดอร์ จะมีเสียงประกาศว่า 〇〇 (ชื่อวันเดอร์ไรด์บุ๊ค) ! โดกอน ! ไคชิน โนะ รันโดคุเกคิ ! โดกอน (〇〇!ドゴーン!会心の激土乱読撃!ドゴーン!, กระบวนท่าสุ่มอ่านโจมตี แยกพสุธา)
ท่าไม้ตาย
ไดดันดัน (大断断, ดาบผ่าพิภพ)
ท่าไม้ตายหลักของบัสเตอร์ เป็นการรวมพลังไว้ที่คมดาบและฟาดฟันศัตรูในดาบเดียว เป็นท่าที่มีอานุภาพรุนแรง และทำให้เกิดความเสียหายกระจายไปทั่วพื้นที่ต่อสู้
ไดเซ็นดัน (大旋断, ดาบทะลวงภูผา)
ท่าไม้ตายของบัสเตอร์ เก็มบุแจ๊คคุง ใช้ในกรณีที่กำลังถูกศัตรูรุกไล่ต้อน เมื่อแสกน เก็มบุชินวะ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ที่ดาบแล้ว บัสเตอร์จะปล่อยเถาวัลย์ต้นถั่วออกมายึดตัวเองไว้ ก่อนจะดีดตัวกลับไปหาศัตรู พร้อมฟันสวนด้วยดาบ

มาสค์ไรเดอร์เค็นซัน

ร่างแปลงของ อาคามิจิ เร็น เป็นมาสค์ไรเดอร์นักดาบที่ปรากฏตัวเป็นคนที่ 5 ความว่องไวเป็นเลิศ พลังธาตุประจำตัวคือ ลม ใช้พลังจากนินจาในตำนาน ซารุโทบิ มีดาบคู่วายุ ฮายาเตะ เป็นอาวุธประจำกาย และ อุปกรณ์แปลงร่าง ใช้สไตล์การต่อสู้แบบนินจาเป็นหลัก

ร่างต่อสู้
ซารุโทบินินจาเด็น (猿飛忍者伝)
ร่างพื้นฐานของเค็นซัน ที่ใช้ ซารุโทบินินจาเด็น วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง ใช้เพลงดาบวายุต่อสู้เป็นหลัก ชุดเกราะมีสีเขียวแซมเหลือง สลับดำ ขลิบเงิน ด้านหลังมีผ้าพันคอสีเขียว โดยลักษณะชุดเกราะจะบางกว่านักดาบคนอื่น เนื่องจากเน้นการใช้ความเร็ว ผนวกกับวิชานินจาที่ต้องมีความคล่องตัวเป็นหลัก จึงต้องแลกด้วยการมีพลังป้องกันที่ต่ำ
นินจาบูตะซัง (忍者ぶた3)
ร่างเพิ่มพลังของเค็นซัน ที่ใช้ โคบูตะ ซังเคียวได วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง เกราะแขนซ้ายจะแปรสภาพเป็นลักษณะบ้านของหมู 3 พี่น้อง ซึ่งเค็นซันจะสามารถเรียก หมู 3 ตัวออกมาช่วยต่อสู้ ด้วยการสร้างกำแพงกีดขวางอย่างรวดเร็ว เพื่อสกัดการเคลื่อนไหวศัตรู และให้เค็นซันใช้หลบซ่อน โจมตี หลอกล่อศัตรูแบบนินจา
นินจาแจ็คคุง (忍者ジャッ君)
ข้อมูลระดับพลังเบื้องต้น
ชื่อร่าง ส่วนสูง น้ำหนัก พลังชก พลังเตะ พลังกระโดด
(ต่อคน)
พลังความเร็ว
(100 เมตร)
ซารุโทบิ นินจาเด็น 200.3 ซม. 84.7 กก. 8.8 ตัน 17.6 ตัน 38.6 เมตร 3.7 วินาที
นินจาบูตะซัง 200.3 ซม. 91.2 กก. 10.1 ตัน 21.4 ตัน 40.7 เมตร 3.4 วินาที
นินจาแจ็คคุง 200.3 ซมซม. 89.5 กกกก. 9.6 ตันัน 19.9 ตันัน 38.8 เมตร 3.6 วินาที
อาวุธ
ฟูโซเค็นฮายาเตะ (風双剣翠風, ดาบคู่วายุ ฮายาเตะ)
ดาบประจำตัวของเค็นซัน เป็นอุปกรณ์แปลงร่างในตัว ลักษณะเป็นดาบนินจาโต ที่แยกส่วนออกเป็นดาบคู่ได้ และสามารถประกอบเป็นรูปแบบ ดาวกระจายขนาดใหญ่ได้ บริเวณโกร่งดาบ มีช่องติดตั้งวันเดอร์ไรด์บุ๊ค ที่ตรงกลางมีสัญลักษณ์ธาตุลมของเค็นซัน สามารถนำวันเดอร์ไรด์บุ๊คไปแสกนที่ ชินกันรีดเดอร์ ด้านข้างเพื่อใช้พลังเสริมได้
เมื่อติดตั้งกับวันเดอร์ไรด์บุ๊คในการแปลงร่างหรือเพิ่มพลัง มีเสียงประกาศว่า 〇〇 (ชื่อวันเดอร์ไรด์บุ๊ค) ! โซโต บุนดัน ! อิจิ โนะ เตะ ชูริเค็น ! นิ โนะ เตะ นิโตริว ! ฟุโซเค็น ฮายาเตะ ! ฮายาเตะ โนะ มากิ โคกะ ฟู ตง โนะ โซเค็น กะ ชินโซคุ โวะ นินจิทสุ เดะ เทคิ โวะ โอทสุ ! (猿飛忍者伝!双刀分断! 壱の手、手裏剣! 式の手、ニ力流!風双剣翠風 ! 風の巻、甲賀風道の双剣が神速の忍術で敵を討つ!, หนึ่งดาบแยกสอง ! หนึ่งหัตถ์เป็นดาวกระจาย สองหัตถ์กลายเป็นดาบคู่ ! ดาบวายุ ฮายาเตะ ! ม้วนคัมภีร์แห่งสลาตัน สองดาบคมแห่งสายลมโคกะ จักชนะศัตรูด้วยศาสตร์นินจาอันเยี่ยมยุทธ !) และเมื่อนำวันเดอร์ไรด์บุ๊คไปแสกนที่ ชินกันรีดเดอร์ จะมีเสียงประกาศว่า 〇〇 (ชื่อวันเดอร์ไรด์บุ๊ค) ! นินนิน ! ฮายาเตะโซคุโดคุเกคิ ! นินนิน ! (ニンニン!翠風速読撃!ニンニン!กระบวนท่าอ่านเร็ว พายุกระหน่ำ ! )
ท่าไม้ตาย
ซารุโทบิ นินจาเด็น
ชิปปู เค็นบุ อิจิเร็น (疾風剣舞 一連 , ดาบพายุร่ายรำ กระบวน 1)
เค็นซันจะรวมพลังงานไว้ที่ใบดาบ และพุ่งเข้าฟันตัดลำตัวด้วยความเร็ว
ชิปปู เค็นบุ นิเร็น (疾風剣舞 二連 , ดาบพายุร่ายรำ กระบวน 2)
เค็นซันจะรวมพลังงานลมไว้ที่ใบดาบ โดยจะเกิดกระแสลมรอบตัวด้วย จากนั้นจะใช้ดาบฟันศัตรูต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง ก่อนจะฟันจากด้านหลังเป็นรูปกากบาทปิดฉาก
ชิปปู เค็นบุ ไคเต็น (疾風剣舞 回転 , ดาบพายุร่ายรำ ควงสว่าน)
ขณะที่ใช้ท่านี้จะเกิดลมหมุนรอบตัวเค็นซัน จากนั้นจึงขว้างดาบฮายาเตะโหมดชูริเค็นไปสกัดศัตรู ขณะที่ศัตรูถูกเบี่ยงเบนด้วยดาวกระจาย เค็นซันจะกระโดดหมุนตัวด้วยความเร็วจนกลายเป็นลูกเตะพายุหมุนเข้าโจมตี
โคบูตะ ซังเคียวได
ชิปปู เค็นบุ อิจิเร็น (疾風剣舞 一連 , ดาบพายุร่ายรำ กระบวน 1)
หมู 3 ตัวจะปรากฎตัวขึ้นเพื่อสร้างกำแพงอิฐปิดล้อมศัตรูด้วยความรวดเร็ว โดยเค็นซันจะใช้วิชาพรางตัวลอบโจมตีศัตรูในกำแพง 3 ด้านนั้น
ชิปปู เค็นบุ อิตตง (疾風剣舞 一豚 , ดาบพายุร่ายรำ หมูตัวที่ 1)
เค็นซันจะใช้วิชาแยกร่างออกเป็น 3 คน ซึ่งเคลื่อนไหวได้อิสระ และมีโล่ที่แขนซ้ายแตกต่างกัน 3 แบบ โดยเค็นซันทั้ง 3 ร่างจะรุมโจมตีศัตรูพร้อมกันในคราวเดียว

มาสค์ไรเดอร์สแลช

ร่างแปลงของ ไดชินจิ เท็ตซึโอะ ช่างตีเหล็กแห่ง ซอร์ดออฟโลกอส ที่เผยตัวในฐานะนักดาบคนที่ 7 ผู้ใช้พลังจากเสียงดนตรี และยังใช้ความสามารถพิเศษด้านการฟังเสียง อ่านการเคลื่อนไหวคู่ต่อสู้ในการต่อสู้อีกด้วย มีดาบปืนเสียงกังวาน สึซึเนะ เป็นอาวุธประจำกาย อนึ่ง แสลชเป็นนักดาบเพียงคนเดียวที่มีอาวุธประเภทยิง

ร่างต่อสู้
เฮนเซลนัทส์ โตะ เกรเทล (ヘンゼルナッツとグレーテル)
ร่างพื้นฐานของสแลช ที่ใช้ เฮนเซลนัทส์ โตะ เกรเทล วันเดอร์ไรด์บุ๊คในการแปลงร่าง ชุดเกราะมีสีมาเจนต้า สลับดำ และประดับด้วยสีสันหลากสี ลักษณะเด่นคือคอปกเสื้อที่ตั้งชัน
เฮนเซลเบรเมน (ヘンゼルブレーメン)
ร่างเพิ่มพลังของสแลช ที่ใช้ เบรเมน โนะ ร๊อคแบนด์ วันเดอร์ไดร์บุ๊ค ในการเปลี่ยนร่าง เกราะด้านซ้ายจะเปลี่ยนเป็นลักษณะคล้ายลำโพง ประกอบด้วยรูปเครื่องดนตรี และเหล่าสัตว์จากเรื่องนักดนตรีแห่งเมืองเบรเมน ถนัดโจมตีด้วยเสียงในระยะไกล ควบคู่กับ ดาบปืนเสียงกังวาน สึซึเนะ โหมดปืน ทันทีที่ไดชินจิแปลงร่างนี้ บุคลิกของเขาจะเปลี่ยนไป กลายเป็นคนบ้าพลัง และสนุกสนานเหมือนกับชาวร๊อค รวมถึงสไตล์การต่อสู้ของร่างนี้ จะเป็นการเต้นและต่อสู้ไปพร้อม ๆ กันด้วย
เฮนเซลบุตะซัง (ヘンゼルぶた3)
ร่างเพิ่มพลังของสแลช ที่ใช้ โคบุตะ ซังเคียวได วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการเปลี่ยนร่าง เกราะแขนด้านซ้ายจะเป็นโล่ห์รูปร่างคล้ายบ้านหมู 3 ตัว โดยเมื่อแสกน โคบุตะ ซังเคียวได วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ที่ดาบซ้ำอีกครั้ง แสลชจะสามารถแยกร่างออกเป็น 3 ร่างเพื่อรับมือกับ สโตเรียส ที่ใช้วิชาแยกร่างเหมือนกันได้
ข้อมูลระดับพลังเบื้องต้น
ชื่อร่าง ส่วนสูง น้ำหนัก พลังชก พลังเตะ พลังกระโดด
(ต่อคน)
พลังความเร็ว
(100 เมตร)
เฮนเซลนัทส์ โตะ เกรเทล 201.2 ซม. 107.7 กก. 10.7 ตัน 20.6 ตัน 15.9 เมตร 5.1 วินาที
เฮนเซลเบรเมน 201.2 ซม. 113.5 กก. 13.5 ตัน 23.4 ตัน 21.8 เมตร 4.2 วินาที
เฮนเซลบูตะซัง 201.2 ซม. 115 กก. 11.6 ตัน 23.2 ตัน 17.5 เมตร 4.9 วินาที
อาวุธ
องจูเค็นสึซึเนะ (音銃剣錫音, ดาบปืนเสียงกังวาน สึซึเนะ)
ดาบประจำตัวของแสลช เป็นเซย์เค็นซอร์ดที่ใช้พลังแห่งเสียง ที่ไดชินจิเป็นผู้คิดค้นและพัฒนาขึ้นด้วยตัวเอง มีลักษณะเป็นดาบสั้น สามารถเปลี่ยนเป็นรูปแบบปืนได้ โดยพับด้ามลง ใบดาบจะเปิดออกเผยให้เห็นปากกระบอกปืน และแถบวัดพลัง เมื่อเปลี่ยนเป็นรูปแบบดาบจะมีเสียงดังว่า เค็นบัง ! และหากเปลี่ยนเป็นโหมดปืน จะมีเสียงดังว่า "จูโซ !" บริเวณโกร่งดาบมีช่องติดตั้ง วันเดอร์ไรด์บุ๊ค และสัญลักษณ์ของแสลชอยู่ เมื่อนำวันเดอร์ไรด์บุ๊ค มาแสกนที่ ชินกันรีดเดอร์ จะสามารถใช้ท่าโจมตีพิเศษได้เช่นกัน
เมื่อติดตั้งวันเดอร์ไรด์บุ๊คในการแปลงร่างหรือเพิ่มพลัง มีเสียงประกาศในการใช้ว่า 〇〇 (ชื่อวันเดอร์ไรด์บุ๊ค) ! จูเค็นเกคิดัน! จู เดะ Go ! Go ! อินะ ! เค็น เดะ อิคุโซ ! องจูเค็น ซึซึเนะ ! ซึซึเนะ กาคุโช ! อาไม มิวาคุ โนะ จูเค็น กะ โอกาชิ นะ ริทธึ่ม เดะ บีท โวะ คิริคิซามุ ! (〇〇! 銃剣撃弾!銃でGO!GO!否!剣で行くぞ!音銃剣錫音!錫音楽章!甘い魅惑の銃剣が、おかしなリズムでビートを斬り刻む!, ลั่นกระสุนดาบปืน ! ยิงด้วยปืน ! Go ! Go ! ไม่ ! ประชิดฟันด้วยดาบ ! ดาบปืนเสียงกังวาน สึซึเนะ ! บรรเลงเสียงดนตรี ! คมดาบที่หวานล้ำและทรงเสน่ห์ ตัดจังหวะ ด้วยทำนองสุดพิสดาร !)
ในการแปลงร่างด้วยโหมดปืน จะมีเสียงประกาศในการใช้ว่า 〇〇 (ชื่อวันเดอร์ไรด์บุ๊ค) ! จูเค็นเกคิดัน! เค็น เดะ อิคุเซ ! No ! No ! จู เดะ Go ! Go ! Bang ! Bang ! องจูเค็น ซึซึเนะ ! ซึซึเนะ กาคุโช ! อาไม มิวาคุ โนะ จูเค็น กะ โอกาชิ นะ ริทธึ่ม เดะ บีท โวะ คิริคิซามุ ! (〇〇! 銃剣撃弾!剣で行くぜ!NO!NO!銃で GO!GO!BANG!BANG!!音銃剣錫音!錫音楽章!甘い魅惑の銃剣が、おかしなリズムでビートを斬り刻む!, ลั่นกระสุนดาบปืน ! ประชิดฟันด้วยดาบ ! No ! No ! ใช้ปืน Go ! Go ! Bang ! Bang ! ดาบปืนเสียงกังวาน สึซึเนะ ! บรรเลงเสียงดนตรี ! คมดาบที่หวานล้ำและทรงเสน่ห์ ตัดจังหวะ ด้วยทำนองสุดพิสดาร !)
เมื่อนำวันเดอร์ไรด์บุ๊คมาแสกนที่ ชินกันรีดเดอร์ จะมีเสียงประกาศว่า 〇〇 (ชื่อวันเดอร์ไรด์บุ๊ค) ! เย้ ! ซึซึเนะ องโดคุเกคิ ! เย้ ! (〇〇!イェーイ!錫音音読撃!イェーイ!, กระบวนท่าเปล่งเสียงอ่านกึกก้อง)
ท่าไม้ตาย
เฮนเซลนัทส์ โตะ เกรเทล
สแน็ค อง เดอะ ช็อปเปอร์ (スナック・音・ザ・チョッパー)
ท่าไม้ตายเพลงดาบของแสลช โดยรวมพลังงานทั้งหมดไปที่ใบดาบ และฟันปิดฉากในดาบเดียว
บีท ลอลลี่ป๊อบเปอร์ (ビート・ロリポッパー)
เฮนเซลเบรเมน
กันส์ แอนด์ มิวสิค (ガンズ・アンド・ミュージック)
ท่าไม้ตายรูปแบบยิงของแสลชที่ใช้ โดยทำการชาร์จกระสุน และยิงใส่ศัตรูอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งศัตรูระเบิดไป
ไออ้อนเชาท์ (アイアン・シャウト)
ท่าไม้ตายในโหมดดาบของแสลช ซึ่งจะเป็นการรวมพลังงานเสียงไว้ที่ใบดาบ และฟันใส่ศัตรูจนระเบิดไป

มาสค์ไรเดอร์คาลิเบอร์

ในอดีตเป็นร่างแปลงของ ฟุคามิยะ ฮายาโตะ ผู้เป็นพ่อของ เค็นโตะ แต่ระหว่างเหตุการณ์ 15 ปีก่อน ฮายาโตะได้หายตัวไป ซึ่ง ดาบคุรายามิ ก็ตกมาอยู่ในมือผู้ใช้คนใหม่ นั้นคือ อดีตนักดาบอัคคี คามิโจ ไดจิ คาลิเบอร์ได้กลายเป็นเจ้าของสมญานาม นักดาบแห่งความมืด มาสค์ไรเดอร์นักดาบผู้หันหลังให้ภาคี ซอร์ดออฟโลกอส ซึ่งในหมู่มาสค์ไรเดอร์นักดาบของภาคี คาลิเบอร์มีพลังสูงที่สุด พลังธาตุประจำตัวคือความมืด สัตว์ประจำตัวคือ มังกรเพลิงทมิฬ และมีดาบรัตติกาล คุรายามิ เป็นอาวุธประจำกาย

ร่างต่อสู้
จาอาคุดราก้อน (ジャアクドラゴン)
ร่างที่ใช้ จาอาคุดราก้อน วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง เป็นร่างพื้นฐานของคาลิเบอร์ ชุดเกราะสีม่วง สลับดำและเงิน ขลิบทอง เกราะไหล่ขวามีลักษณะเป็น หัวมังกรเพลิงทมิฬ
เสียงประกาศในการแปลงร่าง คือ จาอาคุรีด ! อันโคคุเค็น คุรายามิ ! Get go under conquer than get keen. (เก็คโค! อันโคคุ! ซันเกคิ!) จาอาคุดราก้อน ! คุรายามิ ฮงยาคุ ! ฮิคาริ โวะ อุไบชิ ชิกโคคุ โนะ เค็น กะ เรย์โคคุ มุโจ นิ อันโคคุ ริว โวะ ชิไฮซุรุ ! (ジャアクリード! 闇黒剣月間! Get go under conquer than get keen. (月光! 暗黒! 斬撃!) ジャアクドラゴン! 暗闇翻訳!光を奪いし、漆黒の剣が冷酷無情に暗黒竜を支配する!, จาอาคุรีด ! ดาบรัตติกาล คุรายามิ ! พิชิตชัยให้ยิ่งใหญ่กว่าปัญญา (ประชิดฟัน! ในเงามืด! ใต้แสงจันทร์ !) มังกรเพลิงทมิฬ ! แปลสาสน์แห่งเงามืด ! ช่วงชิงแสงสว่าง ! ดาบแห่งปรภพอันไร้ปราณี คือสารถีแห่งมังกรรัตติกาล !)
จาโอดราก้อน (ジャーオウドラゴン)
ร่างเพิ่มพลังของคาลิเบอร์ ที่ใช้ จาโอดราก้อน วันเดอร์ไรเด์บุ๊ค ซึ่งสร้างจากพลังความมืดของ อัลเทอร์ไรด์บุ๊ค 3 เล่ม เกราะหน้าอกแหละหัวไหล่เปลี่ยนเป็นสีทอง หน้ากากมีกระจกตาสีแดง มิอัสไมเซอร์ เพิ่มมา และมีผ้าคลุม จาโอแมนเทิล ปรากฎที่ด้านหลัง สัตว์ประจำตัวคือ มังกรจอมมาร ซึ่งมีบริวารอีก 4 ตัว ด้วยร่างนี้ คาลิเบอร์จะสามารถใช้พลังความมืดได้อย่างเต็มที่ และมีพลังแกร่งกว่า วันเดอร์คอมโบ ของพวกเซเบอร์ จึงสามารถเอาชนะเอสปาดาไปได้อย่างง่ายดาย
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ จาโอรีด ! อันโคคุเค็น คุรายามิ ! Jump out the book, open it and burst. The fear of the darkness. You make might a just, no matter dark joke. Fury in the dark~! จาโอดราก้อน ! ดาเระ โมะ โนกาเระ ราเรไน... (ジャオウリード! 闇黒剣月間! Jump out the book, open it and burst. The fear of the darkness. You make might a just, no matter dark joke. Fury in the dark~! ジャオウドラゴン! 誰も逃れられない… , กระโจนจากหนังสือ เปิดออก และ ปะทุ ความกลัวแห่งเงาทมิฬ ความเที่ยงธรรมใด ๆ ล้วนเป็นเรื่องขบขันต่อความมืด โทสะแห่งรัตติกาล~! จาโอดราก้อน ! หาผู้ใดหลีกหนีได้ไม่...)
ข้อมูลระดับพลังเบื้องต้น
ชื่อร่าง ส่วนสูง น้ำหนัก พลังชก พลังเตะ พลังกระโดด
(ต่อคน)
พลังความเร็ว
(100 เมตร)
จาอาคุดราก้อน 217.6 ซม. 121.3 กก. 17.1 ตัน 29.4 ตัน 29.5 เมตร 3.9 วินาที
จาโอดราก้อน 217.6 ซม. 133.6 กก. 26.1 ตัน 47.8 ตัน 46.7 เมตร 2.9 วินาที
อาวุธ
อันโคคุเค็นคุรายามิ (闇黒剣月闇, ดาบรัตติกาล คุรายามิ)
ดาบประจำตัวของคาลิเบอร์ ปกติจะเก็บไว้ข้างเอวด้านซ้าย ในการแปลงร่างจะใช้ร่วมกับ จาเค็น คาลิเบอร์ไดรเวอร์ โดยนำวันเดอร์ไรด์บุ๊ค แสกนที่ตราสีเงินบนใบดาบ เพื่อทำการ จาอาคุรีด แล้วติดตั้งที่ หัวเข็มขัดไดรเวอร์ ก่อนจะนำด้ามดาบมากดบนหัวเข็มขัด หากต้องการใช้ท่าไม้ตาย จะต้องนำวันเดอร์ไรด์บุ๊ค มาแสกนที่ดาบอีกครั้ง เพื่อทำการ ฮิทซัทสึรีด แล้วจึงกดไกที่ด้าม รวมถึงสามารถเสียบดาบไว้ที่ฮิทซัทสึโฮลเดอร์ เพื่อใช้ท่าดาบพิฆาต อิไอ ได้ บริเวณโกร่งดาบมีลักษณะเป็นรูปหน้ากากของคาลิเบอร์
ท่าไม้ตาย
โดคุโกอิซเซ็น (読後一閃, ประกายแสงบรรลุ)
ท่าดาบพิฆาต คุรายามิ อิไอ(月闇居合) ท่าไม้ตายหลักของคาลิเบอร์ เป็นท่าฟันโจมตีออกมาเป็นคลื่นพลังความมืด
ชูโทคุ อิซเซ็น (習得一閃 , ประกายแสงเรียนรู้)
ใช้โดยแสกน วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ที่ดาบคุรายามิเพื่อเพิ่มพลังก่อนโจมตีด้วยเพลงดาบ และยังสามารถอัญเชิญ จาอาคุดราก้อน ให้ปรากฏออกมาช่วยต่อสู้ได้
ชูโทคุ ซันเซ็น (習得三閃 , สามประกายแสงเรียนรู้)
ใช้โดยแสกนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค ที่ดาบคุรายามิ 3 ครั้ง โดยเป็นเล่มเดิม หรือ คละเล่มก็ได้ คาลิเบอร์จะสามารถใช้พลังของวันเดอร์ไรด์บุ๊คนั้น ๆ ได้ สามอย่างพร้อมกัน หรือเพิ่มพลังโจมตีมากขึ้น
จาโอ ฮิทซัทสึเกคิ (ジャオウ必殺撃 , การลงทัณฑ์แห่งจอมมาร)
ท่าไม้ตายของคาลิเบอร์ร่างจาโอดราก้อน โดยจะรวมพลังความมืดไว้ที่ใบดาบ ปรากฎเป็นกลุ่มพลังงานความมืดรอบตัวพร้อมกับมังกรสีทอง 4 ตัว เมื่อคาลิเบอร์ฟันโจมตี จะเกิดเป็นพลังงานรูปร่างมังกรยักษ์กลืนกินศัตรูทันที

มาสค์ไรเดอร์ไซโค

ร่างแปลงของ ยูริ ชายปริศนาผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักดาบแห่งแสง และเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ในตำนานที่ร่ำลือกันว่าทรงพลังที่สุด

ร่างต่อสู้
คินโนะบูคิ กินโนะบูคิ (金の武器銀の武器)
ร่างพื้นฐานของไซโคที่ใช้ เซย์เค็น ไซโคไดรเวอร์ ร่วมกับ คินโนะบูคิ กินโนะบูคิ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง เป็นมาสค์ไรเดอร์เพียงคนเดียวที่มีร่างกายเป็นอาวุธดาบ โดยในการแปลงร่าง ร่างของยูริจะหลอมรวมเป็น 1 เดียวกับดาบ และต่อสู้เองได้โดยไม่ต้องมีผู้ถือ นอกจากนี้ยังสามารถในการสลายพลังจากเมกิโดที่ครอบงำมนุษย์ได้
เสียงประกาศในการแปลงร่าง คือ ไซโคฮัคโค ! Who is the shining sword ? ไซโค อิชโช ! คินกิน โนะ จิคาระ โวะ เอตะคางายาคุเค็น ! ไซโค ! (最光発光 ! Who is the shining sword ? 最光一章 ! 金銀の力を得た輝く剣!最光!, เปล่งแสงโชติช่วง ! ผู้ใดคือดาบแห่งแสง ? ประกายแสง บทที่ 1 ! ดาบอันเปี่ยมล้นด้วยเดชแห่งแสงทองและเงิน ! ไซโค ! )
ไซโคชาโดว์ (最光シャドー)
ร่างอวตารของไซโคที่เกิดจากเงาในรูปร่างมาสค์ไรเดอร์สีดำผู้ถือดาบ มีลักษณะรูปร่างเหมือนกับมนุษย์ปกติแต่มีความโปร่งแสง เปรียบเสมือนร่างกายของไซโค ทำหน้าที่ในการใช้เพลงดาบและท่าไม้ตาย โดยมีไซโคในรูปร่างดาบเป็นผู้ควบคุมผ่านจิต มีความสามารถพิเศษเหมือนกับเงา คือ เปลี่ยนรูปร่างและยืดหดได้อย่างอิสระ รวมถึงสามารถทะลุผ่านสิ่งกีดขวางหรือการโจมตีใด ๆ ได้อีกด้วย
เสียงประกาศในการแปลงร่าง คือ Who is this ? ไซโค นิโช ! ฮิคาริคาระ อุมาเรชิ คาเกะ ! ชาโดว์ ! (Who is this ? 最光二章! 光から生まれし影! シャドー! , ผู้ใดหรือ ? ประกายแสง บทที่ 2 ! เงาดำซึ่งถือกำเนิดจากแสงสว่าง ! ชาโดว์ ! )
ข้อมูลระดับพลังเบื้องต้น
ชื่อร่าง ส่วนสูง น้ำหนัก พลังการตัด พลังความเร็วสูงสุด
คินโนะบูคิ กินโนะบูคิ 121.0 ซม. 23.2 กก. 50.3 ตัน 300,000 กม. / ชม.
ชื่อร่าง ส่วนสูง น้ำหนัก พลังชก พลังเตะ พลังกระโดด
(ต่อคน)
พลังความเร็ว
(100 เมตร)
ไซโคชาโดว์ 195.3 ซม. 51.3 กก. 9.5 ตัน 18.8 ตัน 19.5 เมตร 4.4 วินาที
อาวุธ
โคโกเค็น ไซโค (光剛剣最光 , ดาบประกายแสง ไซโค)
ดาบประจำตัวของไซโค ซึ่งเป็นดาบเซย์เค็นธาตุแสงในตำนาน และยังเป็นร่างกายของไซโคเองอีกด้วย ใช้งานโดยประกอบเข้ากับ ไซโคไดรเวอร์ และกางใบดาบออก เมื่อยูริติดตั้ง คินโนะบูคิ กินโนะบูคิ วันเดอร์ไรด์บุ๊คเข้ากับดาบแล้วดึงดาบออกจากเข็มขัด ระบบแปลงร่างจะเริ่มทำงานทันที ตัวของยูริจะกลายเป็นแสงรวมเป็นหนึ่งเดียวกับตัวดาบ และส่วนใบดาบจะยืดยาวขึ้น วันเดอร์ไรด์บุ๊คจะกางออกเป็นรูปใบหน้าของไซโค
ท่าไม้ตาย
ฮิคาริอาเระ (光あれ , ดาบพิฆาตสาดแสง)
ท่าไม้ตายเพลงดาบของไซโค ซึ่งไซโคจะรวมพลังงานแสงไว้ที่ใบดาบจนเกิดแสงสว่างเจิดจ้า และพุ่งเข้าฟันศัตรูอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วโดยมีละอองแสงกระจายไปทั่ว

เมกิโด

กลุ่มปิศาจมาโมโนะที่มาจากโลก วันเดอร์เวิลด์ กำเนิดมาจาก อัลเทอร์ไรด์บุ๊ค ที่ มาจิน เป็นผู้สร้างขึ้น มีเป้าหมายต้องการรวมโลกหนังสือเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง

ชิมี่ (シミー)
ทหารระดับล่างของเมกิโด มักปรากฎตัวพร้อมกันจำนวนมาก
เดซัสท์ (デザスト)
ปิศาจเมกิโดที่สังหารนักดาบจากซอร์ด ออฟ โลกอส ไปหลายคนเมื่อ 15 ปีก่อน และถูกผนึกอยู่ในอัลเทอร์ ไรด์บุ๊ค จนกระทั่งคาลิเบอร์เป็นผู้ปลดปล่อยมันออกมา มีอาวุธประจำตัวคือ ดาบสองคม กรัดเดนจ์

เมกิโดระดับหัวหน้า

สโตเรียส (ストリウス)
รับบทโดย ฟุรุยะ โระบิน (古屋 呂敏)[4]
สมาชิกคนแรกของเมกิโดระดับหัวหน้า เป็นคนเยือกเย็น และเจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่ก็ทำตามคำสั่งของคาลิเบอร์โดยไม่คัดค้าน มีชื่อมาจากคำว่า Stories สื่อถึงพลังพิเศษจากเทพนิยาย และในตอนที่ 6 สโตเรียสได้แสดงความสามารถในการชิงพลังมาจากเซเบอร์ ส่งผลให้ระบบแปลงร่างถูกผนึก
เรเจล (レジエル)
รับบทโดย ทาคาโนะ ไครุ (高野 海琉)[4]
สมาชิกคนที่ 2 ของเมกิโดระดับหัวหน้า ลักษณะเป็นชายร่างสูงท่าทางขึงขัง สวมแจ๊คเก็ตหนังสีดำ ปกติมักทำตัวเงียบขรึม แต่ภายในกลับแฝงด้วยความคลุ้มคลั่ง มีชื่อมาจากคำว่า Legend สื่อถึงพลังพิเศษในการสร้างสัตว์ในตำนาน
ซุออส (ズオス)
รับบทโดย ไซคาวะ โคจิ (才川 コージ)[4]
สมาชิกคนที่ 3 ของเมกิโดระดับหัวหน้า มีอุปนิสัยมุทะลุ เชื่อมั่นในพลังของตนเองมาก เห็นการต่อสู้เป็นเรื่องสนุก มีชื่อมาจากคำว่า Zoo สื่อถึงพลังพิเศษจากเหล่าสรรพสัตว์

ไอเท็ม

วันเดอร์ไรด์บุ๊ค

วันเดอร์ไรด์บุ๊ค (ワンダーライドブック)[8]
ไอเทมรูปทรงหนังสือขนาดเล็ก เป็นขุมพลังของเหล่านักดาบมาสค์ไรเดอร์ มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทหลักคือ หนังสือแห่งสัตว์ในตำนาน (神獣の本) สำหรับติดตั้งในช่องขวาของซอร์ดไดรเวอร์, หนังสือแห่งสรรพสัตว์ (生物の本) สำหรับติดตั้งในช่องกลางของซอร์ดไดรเวอร์ และ หนังสือแห่งเรื่องเล่า (物語の本) สำหรับติดตั้งในช้องซ้ายของซอร์ดไดรเวอร์
มีส่วนประกอบคือ หน้าปก หน้าเนื้อหา และหน้าสำหรับการแปลงร่าง
ชื่อ ต้นแบบ ประเภท ผู้ใช้ เสียงเริ่มใช้งาน ปรากฏ รายละเอียด
เบรฟดราก้อน[8]
(ブレイブドラゴン)
มังกร สัตว์ในตำนาน เซเบอร์ กาลครั้งหนึ่งเคยมีสัตว์เทวะที่มีพลังมหาศาลซึ่งมีอำนาจทำลายล้างทุกสิ่ง
(かつて、全てを滅ぼすほどの偉大な力を手にした神獣がいた…)
บทที่ 1
ไลอ้อนเซ็นคิ[8]
(ライオン戦記)
สิงโต สรรพสัตว์ เบลดส์ ประวัติศาสตร์การต่อสู้ของราชาผู้สูงส่งที่ถูกจารึกจากแผงคอสีน้ำเงินนี้
(この蒼き鬣が新たに記す気高き王者の戦いの歴史 )
บทที่ 2
แจ็คคุง โตะ โดมาเมะโนะคิ[8]
(ジャッ君と土豆の木)
แจ็กกับต้นถั่ววิเศษ เรื่องเล่า เซเบอร์
เบลดส์
เรื่องราวสุดลึกลับเกี่ยวกับเด็กชายได้พบเม็ดถั่วที่กลายเป็นต้นไม้ยักษ์
(とある少年が、ふと手に入れたお豆が巨大な木となる不思議な話)
บทที่ 2 ได้มาจากอาริเมกิโด
ปีเตอร์แฟนตาซิสต้า[8]
(ピーターファンタジスタ)
ปีเตอร์ แพน เรื่องเล่า เซเบอร์
เบลดส์
เรื่องราวของความฝันกับความหวังที่ถูกตีแผ่โดยเด็กชายผู้ไม่มีวันเติบโต
(とある大人にならない少年が繰り広げる夢と希望のストーリー)
บทที่ 2 ได้มาจากคิริสกิริสเมกิโด
เก็มบุชินวะ[8]
(玄武神話)
เต่าดำ สัตว์ในตำนาน บัสเตอร์ กาลครั้งหนึ่งเคยมีสัตว์เทวะซึ่งมีเกราะหุ้มที่แข็งแกร่งเป็นหนึ่งในสัตว์เทวะทั้ง 4
(かつて四聖獣の一角を担う強靭な鎧の神獣がいたよろ)
บทที่ 3
นีดเดิ้ลเฮดจ์ฮอก[8]
(ニードルヘッジホッグ)
เม่น สรรพสัตว์ เซเบอร์
เอสปาดา
นี่คือสัตว์ที่เอาตัวรอดจากอันตรายในพงไพรด้วยขนหนามแหลมนับร้อย
(この弱肉強食の大自然で幾千もの針を纏い生き抜く獣がいる)
บทที่ 4 เค็นโตะมอบให้โทมะ
สตอร์มอีเกิ้ล[8]
(ストームイーグル)
นกอินทรี สรรพสัตว์ เซเบอร์ ครั้งหนึ่งเคยมีนกอินทรีตัวหนึ่งที่วางไข่ในทุกครั้งที่พายุปรากฏ
(この大鷲が現れし時、猛烈な竜巻が起こると言い伝えられている )
บทที่ 4 บัสเตอร์ได้มาจากเดซัสท์[9]
แลมป์ โด อะลันจินา[8]
(ランプドアランジーナ)
อะลาดิน เรื่องเล่า เอสปาดา เรื่องราวของตะเกียงจากแดนไกลที่มีอำนาจลึกลับตกทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ
(とある異国の地に古から伝わる不思議な力を持つランプがあった)
บทที่ 5
โคบุตะ 3 เคียวได[8]
(こぶた3兄弟)
ลูกหมูสามตัว เรื่องเล่า เค็นซัน
เซเบอร์
เรื่องราวของการต่อสู้ของ 3 พี่น้องที่ปกป้องบ้านของพวกเขา
(とある3兄弟が繰り広げるお家を守る戦いの物語)
บทที่ 6
ซารุโทบินินจาเด็น[8]
(猿飛忍者伝)
ซารุโทบิ ซาสึเกะ เรื่องเล่า เค็นซัน พายุหมุนที่เร้นกายในเงามืด! ที่มาพร้อมด้วยกระบวนท่าต่างๆ...
(とある影に忍ぶは疾風!あらゆる術でいざ候…)
บทที่ 6
คิงออฟอาร์เธอร์[8]
(キングオブアーサー)
กษัตริย์อาเธอร์ เรื่องเล่า เซเบอร์ ดาบแห่งการลงทัณฑ์ความชั่วร้ายอย่างสมบูรณ์แบบที่ดึงออกมาโดยราชาอัศวินองค์หนึ่ง
(とある騎士王の振り下ろす完全懲悪の一太刀)
บทที่ 7
เท็นคู โนะ เปกาซัส[8]
(天空のペガサス)
เปกาซัส สัตว์ในตำนาน เบลดส์ กาลครั้งหนึ่งเคยมีสัตว์เทวะมีปีกสีขาวที่ส่องแสงเรืองรองจากฟากฟ้า
(かつて蒼白の翼を持つ神獣が天から輝き舞い降りた)
บทที่ 7
จาอาคุดราก้อน[8]
(ジャアクドラゴン)
มังกร สัตว์ในตำนาน คาลิเบอร์ กาลครั้งหนึ่งมีสัตว์เทวะเพียงหนึ่งเดียวที่ถือกำเนิดจากความมืดที่เคยปกคลุมโลก
(かつて世界を包み込んだ暗闇を生んだのはたった1体の神獣だった)
บทที่ 7
ไซยูเจอร์นีย์[8]
(西遊ジャーニー)
ไซอิ๋ว เรื่องเล่า เซเบอร์ เรื่องราวการผจญภัยสุดอัศจรรย์ของจอมวานรที่ต้องเดินทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
(とあるお猿さんの冒険記摩訶不思議なその旅の行方は)
บทที่ 8
เฮนเซลนัทส์ โตะ เกรเทล[8]
(ヘンゼルナッツとグレーテル)
ฮันเซลกับเกรเทล เรื่องเล่า สแลช เรื่องราวการผจญภัยอันหฤหรรษ์ของสองพี่น้องที่หลงทางในป่าใหญ่
(ある森に迷い込んだ、小さな兄妹のおかしな冒険のお話。)
บทที่ 9
เบรเมน โนะ ร็อกแบนด์ [8]
(ブレーメンのロックバンド)
นักดนตรีแห่งเบรเมน เรื่องเล่า สแลช เรื่องราวของชัยชนะของสัตว์ทั้ง 4 ที่ต้องต่อสู้อย่างสุดกำลัง
(とある戦いを強いられた動物たちが奏でる勝利の四重奏。)
บทที่ 9
ไทรเคลเบรอส [8]
(トライケルベロス)
เซอร์เบอรัส สัตว์ในตำนาน เอสปาดา กาลครั้งหนึ่งเคยมีสุนัขที่น่ากลัวตัวหนึ่งซึ่งมีสามหัวอยู่ตรงทางเข้ายมโลก
(かつて冥界の入り口に三つの頭を持つ恐ろしい番犬がいた)
บทที่ 10
คิริน โนะ อนกาเอชิ [8]
(キリンの恩返)
นกกระเรียนตอบแทนคุณ เรื่องเล่า ของขวัญแห่งความขอบคุณที่ยีราฟสร้างขึ้นด้วยหัวใจทั้งหมดของเขา
(とあるキリンが気持ちを込めて作り出した感謝の贈り物)
บทที่ 10 ปรากฏเฉพาะในช่วงคั่นโฆษณาเท่านั้น
จาโอดราก้อน [8]
(ジャオウドラゴン)
มังกร สัตว์ในตำนาน คาลิเบอร์ ปลดปลอยพลังที่ซ่อนอยู่โดยเหล่ามังกรทมิฬแห่งความมืด
(邪道を極めた暗闇を纏い数多の竜が秘めた力を解放する)
บทที่ 11
โฮชินคาเมนเอ็นกิ [8]
(封神仮面演義)
ห้องสิน เรื่องเล่า มีการต่อสู้ที่แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นจากทุกสิ่งในโลกแห่งหนึ่ง
(とある世界で森羅万象が織りなす奇想天外な戦いがあった)
บทที่ 11 ปรากฏเฉพาะในช่วงคั่นโฆษณาเท่านั้น
ดราโกนิคไนท์[8]
(ドラゴニックナイト)
ทหารม้า สัตว์ในตำนาน เซเบอร์ การต่อสู้อันน่าทึ่งของอัศวินที่จัดการมังกรตัวใหญ่ได้อย่างฉูดฉาด
(ドでかい竜をド派手に乗りこなすド級の騎士のドラマチックバトル)
บทที่ 13
คิงไลอ้อนไดเซ็นคิ[8]
(キングライオン大戦記)
สิงโต สรรพสัตว์ เบลดส์ ดาบสีน้ำเงินที่อยู่เหนือธรรมชาติสวมเกราะและคำรามบนบัลลังก์
(自然を超越した蒼き鬣が装甲を纏い玉座に轟く)
บทที่ 14
คินโนะบูกิ กินโนะบูกิ [8]
(金の武器銀の武器)
เทพารักษ์กับคนตัดไม้ เรื่องเล่า ไซโค ทองหรือเงิน
(GOLD or SILVER)
บทที่ 16

อัลเทอร์ไรด์บุ๊ค

อัลเทอร์ไรด์บุ๊ค (アルターライドブック)
ไอเทมรูปแบบเดียวกับวันเดอร์ไรด์บุ๊ค แต่มีลักษณะไปในทางชั่วร้าย ซึ่งพวกเมกิโดใช้ในการสร้างปิศาจ ในหนังสือหน้าแรกมี เจลไบด์ดิ้ง ซึ่งทำหน้าที่ผนึกปีศาจเมกิโดที่อยู่ใน อัลเทอร์บุ๊ค นั้น ๆ และเมื่อเปิดออก เมกิโดที่ถูกกักไว้ใน เท็กซ์ออฟอัลเทอร์ จะถูกปลดปล่อย เพื่อดึงพลังของปีศาจเมกิโดตัวนั้นออกมา
ชื่อ ต้นแบบ ประเภท เมกิโด ปรากฏ รายละเอียด
กังเซคิโอ โกเลม[8]
(岩石王ゴーレム)
โกเลม สัตว์ในตำนาน โกเลมเมกิโด
(ゴーレムメギド)
บทที่ 1
อาริ กะ คิริกิริส [8]
(アリかキリギリス)
มดกับตั๊กแตน เรื่องเล่า อาริเมกิโด
(アリメギド)
คิริกิริสเมกิโด
(キリギリスメギド)
บทที่ 2
ฮังซากิซันโซโอ [8]
(ハンザキサンショウ王)
ซาลาแมนเดอร์ยักษ์ สรรพสัตว์ ฮังซากิเมกิโด
(ハンザキメギド)
บทที่ 3
ฮังซากิเมกิโด ร่างเสริมพลัง
(ハンザキメギド強化態)
บทที่ 4
เดซัสท์ [8]
(デザスト)
เฟนรีร์
ด้วงเสือญี่ปุ่น
โครงกระดูกร้องเพลง
สัตว์ในตำนาน
สรรพสัตว์
เรื่องเล่า
เดซัสท์
(デザスト)
บทที่ 4
ปิรันยา โนะ ลันช์ [8]
(ピラニアのランチ)
ปลาปิรันยา สรรพสัตว์ ปิรันยาเมกิโด
(ピラニアメギド)
บทที่ 5
เมดูซ่าจาเด็น [8]
(メデューサ蛇伝)
เมดูซ่า สัตว์ในตำนาน เมดูซ่าเมกิโด
(メデューサメギド)
บทที่ 7 ในตอนที่ 17 ได้ปรากฏตัวอีกครั้ง
มิเอนิคุอิ อาฮิรุ โนะ โกะ [8]
(見えにくいアヒルの子)
ลูกเป็ดขี้เหร่ เรื่องเล่า อาฮิรุเมกิโด
(アヒルメギド)
บทที่ 9
ฮาคุโจเมกิโด
(ハクチョウメギド)
บทที่ 10
อิตะซึระ ก็อบลินส์ [8]
(いたずらゴブリンズ)
ก็อบลิน สัตว์ในตำนาน ก็อบลินเมกิโด
(ゴブリンメギド)
บทที่ 11 ในตอนที่ 17 ได้ปรากฏตัวอีกครั้ง
ชิโระยุกิ เยติ[8]
(白雪イエティ)
เยติ สัตว์ในตำนาน เยติเมกิโด
(イエティメギド)
บทที่ 17

ข้อมูลอื่นๆ

เมืองนางาริ (かがり市)
วันเดอร์เวิลด์ (ワンダーワールド)
โลกแห่งจินตนาการในอีกมิติหนึ่ง ที่ซึ่งเต็มไปด้วยความลับ และพลังอันพิศวงแห่งเทพนิยาย หรือเรื่องเล่าต่าง ๆ สามารถเดินทางเข้าออกด้วย บุ๊คเกท ของภาคี ซอร์ดออฟโลกอส
นอร์ธเทิร์นเบส (ノーザンベース)
ปราการฐานทัพของ ซอร์ดออฟโลกอส ตั้งอยู่ในเขตขั้วโลกเหนือ เหล่าสมาชิกจะเดินทางเข้าออกด้วย บุ๊คเกท ภายในห้องโถงมีหนังสือที่บรรจุความรู้มากมายจากทั่วโลก และวันเดอร์เวิลด์
อาวาลอน (アヴァロン)
ดินแดนลี้ลับที่กล่าวขานกันว่า เป็นสถานที่ฝังศพของกษัตริย์อาเธอร์ ซึ่งมีขุมพลังมหาศาลหลับไหลอยู่ การจะเข้าไปได้ต้องใช้พลังของมังกรทั้ง 2 ตัว ซึ่งก็คือ เบรฟดราก้อน และ จาอาคุดราก้อน หากพลังแห่งแสงและความมืดมาบรรจบกัน ประตูมิติก็จะถูกเปิดออก

เพลงประกอบ

เพลงโอเพนนิง
ร้องโดย Tokyo Ska Paradise Orchestra Feat. คาวาคามิ โยเฮย์ (川上洋平)
เพลงเอนดิ้ง
ร้องโดย โมเทงิ เคนอิจิ (茂木欣一)

รายชื่อตอน

  • ชื่อตอนถูกกำกับว่าเป็น บทที่...
ตอนที่ (บท) ชื่อตอน ญี่ปุ่น ออกอากาศ
บทที่ 1 "นักดาบแห่งอัคคีได้เริ่มต้นขึ้น"
(はじめに、炎の剣士あり。) 
6 กันยายน 2020
บทที่ 2 "นักดาบแห่งวารีกับสิงโตสีน้ำเงิน"
(水の剣士、青いライオンとともに。) 
13 กันยายน 2020
บทที่ 3 "นักดาบและคุณพ่อ"
(父であり、剣士。) 
20 กันยายน 2020
บทที่ 4 "เพราะฉะนั้นฉันเปิดหนังสือ"
(本を開いた、それゆえに。) 
27 กันยายน 2020
บทที่ 5 "เพื่อนของฉัน นักดาบอสุนี"
(我が友、雷の剣士につき。) 
4 ตุลาคม 2020
บทที่ 6 "ผู้ดั่งสายลม เคนซัน"
(疾風の如く、見参。) 
11 ตุลาคม 2020
บทที่ 7 "ดาบราชา คำโกหกของอวาลอน"
(王の剣、アヴァロンにあり。) 
18 ตุลาคม 2020
บทที่ 8 "สิ่งที่ถูกผนึกไว้นั่นคือ อาเธอร์"
(封印されしは、アーサー。) 
25 ตุลาคม 2020
บทที่ 9 "การคาบซ้อนของนักดาบเสียงดนตรี"
(重なり合う、戦士の音色。) 
8 พฤศจิกายน 2020
บทที่ 10 "ก้าวข้ามดาบ ก้าวข้ามความรู้สึก"
(交わる剣と、交差する想い。) 
15 พฤศจิกายน 2020
บทที่ 11 "อสุนีที่กระวนกระวาย เมฆดำที่กระจาย"
(乱れる雷、広がる暗雲。) 
22 พฤศจิกายน 2020
บทที่ 12 "คำสัญญา ณ ที่แห่งนี้"
(約束の、あの場所で。) 
29 พฤศจิกายน 2020
บทที่ 13 "ฉันยังยึดติดกับความคิดของฉัน"
(俺は、俺の、思いを貫く。) 
6 ธันวาคม 2020
บทที่ 14 "ความรู้สึกนี้ที่อยู่ในดาบ"
(この思い、剣に宿して。) 
13 ธันวาคม 2020
บทที่ 15 "สิ่งที่เตรียมตัว นอกเหนือจากนั้น"
(覚悟を超えた、その先に。) 
20 ธันวาคม 2020
บทที่ 16 "ปกป้องโลกนี้ แสงแห่งประกาย"
(世界を救う、一筋の光。) 
27 ธันวาคม 2020
บทที่ 17 "สาส์นจากอารยธรรมโบราณ แสงที่กลายเป็นเงา"
(古の使者は、光か影か。) 
10 มกราคม 2021
บทที่ 18 "อัคคีที่ครอบงำ จงกำราบเมกิโด"
(炎の執念、メギドを討つ。) 
17 มกราคม 2021

ในสื่ออื่น

ภาพยนตร์

มาสค์ไรเดอร์เซเบอร์ เดอะช็อตมูวี่ นักดาบวิหคอมตะกับหนังสือที่ล่มสลาย (劇場短編 仮面ライダーセイバー 不死鳥の剣士と破滅の本)

ซีรีส์เว็บ

มาสค์ไรเดอร์เซเบอร์ สปินออฟ เค็นชิไกเด็น (仮面ライダーセイバー スピンオフ 剣士列伝)

การออกอากาศ

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 "仮面ライダー:"令和第2弾"は「セイバー」 モチーフは剣と本!". MANTANWEB. 2020-07-29. สืบค้นเมื่อ 2020-07-29.
  2. 2.0 2.1 "新仮面ライダーは『セイバー』 初の異世界が舞台に 主人公の文豪にして剣豪・神山飛羽真役に内藤秀一郎". ORICON NEWS. 2020-07-29. สืบค้นเมื่อ 2020-07-30.
  3. 3.0 3.1 "「仮面ライダーセイバー」"物語の結末は俺が決める!"異世界で戦うライダー誕生". アニメ!アニメ!. 2020-07-29. สืบค้นเมื่อ 2020-07-30.
  4. 4.00 4.01 4.02 4.03 4.04 4.05 4.06 4.07 4.08 4.09 "キャスト|仮面ライダーセイバー|テレビ朝日". テレビ朝日. 2020-08-23. สืบค้นเมื่อ 2020-08-23.
  5. 5.0 5.1 5.2 "新仮面ライダーは『セイバー』 令和の2号ライダーは文豪で剣豪 9月6日スタート". ORICON NEWS. 2020-07-29. สืบค้นเมื่อ 2020-07-29.
  6. 6.0 6.1 6.2 "「仮面ライダーセイバー」で平山浩行が先代の剣士に、子連れライダーも登場". コミックナタリー. 2020-08-23. สืบค้นเมื่อ 2020-08-23.
  7. 7.0 7.1 7.2 นิตยาสารอูจูเซ็น เล่มที่ 169 2020, pp. 42–44, 「仮面ライダーセイバー」
  8. 8.00 8.01 8.02 8.03 8.04 8.05 8.06 8.07 8.08 8.09 8.10 8.11 8.12 8.13 8.14 8.15 8.16 8.17 8.18 8.19 8.20 8.21 8.22 8.23 8.24 8.25 8.26 8.27 8.28 8.29 8.30 8.31 8.32 "ワンダーライドブック|仮面ライダーセイバー|テレビ朝日". テレビ朝日. สืบค้นเมื่อ 2020-09-08.
  9. "第4章「本を開いた、それゆえに。」". 仮面ライダーセイバー. テレビ朝日. 2020-09-27. สืบค้นเมื่อ 2020-09-27.

หมายเหตุ

ข้อมูลลิงก์