ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรฮีนจา"
เพิ่มเนื้อหา ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
|||
บรรทัด 79: | บรรทัด 79: | ||
== ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจา == |
== ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจา == |
||
{{ล้าสมัย}} |
|||
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2552 สำนักข่าว[[ซีเอ็นเอ็น]]รายงานว่ามีผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาจำนวน 1,000 คนอพยพมาจาก[[ประเทศพม่า]] ได้ถูกทหารพม่าจับกุมพร้อมทั้งถูกทารุณกรรม จากนั้นถูกจับโยนลงทะเลโดยไม่มีเรือมารับ และขาดแคลนทั้งน้ำและอาหาร เรื่องนี้รัฐบาลทหารพม่าออกมาตอบโต้ในเบื้องต้นว่า ซีเอ็นเอ็นรายงานข่าวเกินความจริง และที่ว่าผู้ลี้ภัยเหล่านี้ใช้เรือใบโดยไม่มีเครื่องยนต์และห้องน้ำบนเรือ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือพวกเขาขึ้นมายังชายฝั่ง ทางด้าน โฆษกกระทรวงกลาโหมพม่า ออกมาปฏิเสธว่าสื่อรายงานไม่ถูกต้อง<ref>Bangkok Post, [http://www.bangkokpost.com/breakingnews/135943/pm-rohingya-reports-exaggerated], 20 January 2009</ref> |
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2552 สำนักข่าว[[ซีเอ็นเอ็น]]รายงานว่ามีผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาจำนวน 1,000 คนอพยพมาจาก[[ประเทศพม่า]] ได้ถูกทหารพม่าจับกุมพร้อมทั้งถูกทารุณกรรม จากนั้นถูกจับโยนลงทะเลโดยไม่มีเรือมารับ และขาดแคลนทั้งน้ำและอาหาร เรื่องนี้รัฐบาลทหารพม่าออกมาตอบโต้ในเบื้องต้นว่า ซีเอ็นเอ็นรายงานข่าวเกินความจริง และที่ว่าผู้ลี้ภัยเหล่านี้ใช้เรือใบโดยไม่มีเครื่องยนต์และห้องน้ำบนเรือ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือพวกเขาขึ้นมายังชายฝั่ง ทางด้าน โฆษกกระทรวงกลาโหมพม่า ออกมาปฏิเสธว่าสื่อรายงานไม่ถูกต้อง<ref>Bangkok Post, [http://www.bangkokpost.com/breakingnews/135943/pm-rohingya-reports-exaggerated], 20 January 2009</ref> |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:18, 6 มกราคม 2564
ประชากรทั้งหมด | |
---|---|
1,424,000–2,000,000 คน[1] | |
ภูมิภาคที่มีประชากรอย่างมีนัยสำคัญ | |
บังกลาเทศ | 1,300,000+ (มีนาคม 2561)[2] |
พม่า (รัฐยะไข่) | ~400,000 (พฤศจิกายน 2560)[3] |
ปากีสถาน | 350,000 (ตุลาคม 2560)[4] |
ซาอุดีอาระเบีย | 190,000 (มกราคม 2560)[5] |
มาเลเซีย | 150,000 (ตุลาคม 2560)[4] |
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | 50,000 (ธันวาคม 2560)[4] |
อินเดีย | 40,000 (กันยายน 2560)[6][7] |
สหรัฐ | 12,000+ (กันยายน 2560)[8] |
ไทย | 5,000 (ตุลาคม 2560)[9] |
ออสเตรเลีย | 3,000 (ตุลาคม 2561)[10] |
จีน | 3,000 (ตุลาคม 2557)[11] |
อินโดนีเซีย | 1,000 (ตุลาคม 2560)[9] |
ญี่ปุ่น | 300 (พฤษภาคม 2561)[12] |
เนปาล | 200 (กันยายน 2560)[13] |
แคนาดา | 200 (กันยายน 2560)[14] |
ไอร์แลนด์ | 107 (ธันวาคม 2560)[15] |
ศรีลังกา | 36 (มิถุนายน 2560)[16] |
ฟินแลนด์ | 11 (ตุลาคม 2562)[17] |
ภาษา | |
ภาษาโรฮีนจา | |
ศาสนา | |
อิสลามซุนนี (ส่วนใหญ่), ฮินดู (ส่วนน้อย)[18][19] |
โรฮีนจา[20] (พม่า: ရိုဟင်ဂျာ /ɹòhɪ̀ɴd͡ʑà/ โหร่หิ่งจ่า; โรฮีนจา: Ruáingga /ɾuájŋɡa/ รูไอง์กา; เบงกอล: রোহিঙ্গা, Rohingga) เป็นกลุ่มชาติพันธุ์มุสลิมที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ (อาระกัน) ทางตะวันตกของประเทศพม่า และพูดภาษาโรฮีนจา[21][22] ชาวโรฮีนจาและนักวิชาการบางส่วนกล่าวว่า โรฮีนจาเป็นชนพื้นเมืองในพื้นที่รัฐยะไข่ ในขณะที่นักประวัติศาสตร์บางส่วนอ้างว่า พวกเขาอพยพเข้าพม่าจากเบงกอลในสมัยการปกครองของสหราชอาณาจักรเป็นหลัก[23][24][25] และนักประวัติศาสตร์ส่วนน้อยกล่าวว่า พวกเขาอพยพมาหลังจากพม่าได้รับเอกราชในปี 2491 และหลังจากบังกลาเทศทำสงครามประกาศเอกราชในปี 2514[26][27][28][29][30]
ชาวมุสลิมตั้งถิ่นฐานในรัฐยะไข่ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 แต่ไม่สามารถประมาณจำนวนผู้ตั้งถิ่นฐานชาวมุสลิมก่อนการปกครองของสหราชอาณาจักรได้อย่างแม่นยำ[31] หลังสงครามอังกฤษ-พม่าครั้งที่หนึ่งในปี 2369 สหราชอาณาจักรผนวกรัฐยะไข่และสนับสนุนให้มีการย้ายถิ่นจากเบงกอลเพื่อทำงานเป็นผู้ใช้แรงงานในไร่นา ประชากรมุสลิมอาจมีจำนวนถึงร้อยละ 5 ของประชากรรัฐยะไข่แล้วเมื่อถึงปี 2412 แต่จากการประเมินของปีก่อนหน้าก็พบว่ามีจำนวนสูงกว่านี้ ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ความรุนแรงระหว่างชุมชนก็ปะทุขึ้นระหว่างชาวยะไข่ซึ่งนับถือศาสนาพุทธกับหน่วยกำลังวี (V-Force) ชาวโรฮีนจาที่สหราชอาณาจักรติดอาวุธให้ และการแบ่งขั้วก็รุนแรงมากขึ้นในพื้นที่[32] ในปี 2525 รัฐบาลพลเอกเนวีนตรากฎหมายความเป็นพลเมืองซึ่งปฏิเสธความเป็นพลเมืองของชาวโรฮีนจา[30][24]
ในปี 2556 มีชาวโรฮีนจาประมาณ 735,000 คนอาศัยอยู่ในประเทศพม่า[29] ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองทางเหนือของรัฐยะไข่ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 80–98 ของประชากร[30] สื่อระหว่างประเทศและองค์การสิทธิมนุษยชนกล่าวว่าชาวโรฮีนจาเป็นชนกลุ่มน้อยที่ถูกข่มเหงที่สุดกลุ่มหนึ่งในโลก[33][34][35] ชาวโรฮีนจาจำนวนมากหนีไปอยู่ในย่านชนกลุ่มน้อยและค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศเพื่อนบ้านอย่างบังกลาเทศ รวมทั้งพื้นที่ตามชายแดนไทย–พม่า ชาวโรฮีนจากว่า 100,000 คนยังอาศัยอยู่ในค่ายสำหรับผู้พลัดถิ่นในประเทศซึ่งทางการไม่อนุญาตให้ออกมา[36][37] ชาวโรฮีนจาได้รับความสนใจจากนานาชาติในห้วงเหตุจลาจลในรัฐยะไข่ พ.ศ. 2555
ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจา
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2552 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่ามีผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาจำนวน 1,000 คนอพยพมาจากประเทศพม่า ได้ถูกทหารพม่าจับกุมพร้อมทั้งถูกทารุณกรรม จากนั้นถูกจับโยนลงทะเลโดยไม่มีเรือมารับ และขาดแคลนทั้งน้ำและอาหาร เรื่องนี้รัฐบาลทหารพม่าออกมาตอบโต้ในเบื้องต้นว่า ซีเอ็นเอ็นรายงานข่าวเกินความจริง และที่ว่าผู้ลี้ภัยเหล่านี้ใช้เรือใบโดยไม่มีเครื่องยนต์และห้องน้ำบนเรือ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือพวกเขาขึ้นมายังชายฝั่ง ทางด้าน โฆษกกระทรวงกลาโหมพม่า ออกมาปฏิเสธว่าสื่อรายงานไม่ถูกต้อง[38]
นอกจากนี้สื่อยังได้รายงานผลการสอบสวนว่า ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ได้หายตัวไปจากการกักขังที่ส่วนกลางและยังไม่พบว่าอยู่ที่ไหน รัฐบาลทหารพม่าให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า "พวกเราอาจหยุดเดินเรือหรือพวกเขาจะกลับมา ทิศทางลมจะพาพวกเขาไปยังอินเดียหรือไม่ก็ที่อื่น"[39] จากนั้นรัฐบาลทหารพม่าให้สัญญาว่าจะดำเนินการสอบสวนผู้นำทางทหารอย่างเต็มที่ แต่ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่หาว่าปกปิดการใช้อำนาจกองทัพไปในทางที่ผิด
แอนเจลีนา โจลี ทูตสันถวไมตรีแห่งข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) วิจารณ์รัฐบาลทหารพม่าว่าไม่สนใจไยดีต่อสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้ายของชาวโรฮีนจา และเสนอแนะว่ารัฐบาลทหารพม่าควรดูแลคนกลุ่มนี้ให้ดีกว่าตอนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพม่า กระทรวงการต่างประเทศออกมาตำหนิยูเอ็นเอชซีอาร์ มีการบันทึกว่ายูเอ็นเอชซีอาร์ไม่มีอำนาจหน้าที่และการกล่าวว่าเรื่องนี้ไม่ควรจะอ้างถึงกระทรวงการต่างประเทศ และอาคันตุกะของกระทรวงการต่างประเทศ[40][41]
อ้างอิง
- ↑ "Ethnic cleansing in Myanmar: No place like home". The Economist. 2012-11-03. สืบค้นเมื่อ 2013-10-18.
- ↑ "WHO appeals for international community support; warns of grave health risks to Rohingya refugees in rainy season". ReliefWeb. 29 March 2018.
- ↑ "Why do some Rohingya men return to Rakhine at the dead of night?". Dhaka Tribune. 9 November 2017. สืบค้นเมื่อ 22 December 2017.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 "Myanmar Rohingya: What you need to know about the crisis". BBC News. 19 October 2017.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อmyanmar_nationals
- ↑ "India in talks with Myanmar, Bangladesh to deport 40,000 Rohingya". Reuters. 2017. สืบค้นเมื่อ 17 August 2017.
- ↑ "India plans to deport thousands of Rohingya refugees". Al Jazeera. 14 August 2017. สืบค้นเมื่อ 17 August 2017.
- ↑ Mclaughlin, Timothy (20 September 2016). "Myanmar refugees, including Muslim Rohingya, outpace Syrian arrivals in U.S." Reuters. สืบค้นเมื่อ 3 September 2017.
- ↑ 9.0 9.1 "Myanmar Rohingya: What you need to know about the crisis". BBC News. 19 October 2017.
- ↑ "Australia has an obligation to the Rohingya people: So why is the federal government prevaricating?". ABC News. 3 October 2018.
- ↑ Chen, Chun-yan (2016). "旅居瑞丽的缅甸罗兴伽人生存策略探析" [Research on Survival Strategy of Myanmar's Rohingya in Ruili]. Journal of Guangxi University for Nationalities (Philosophy and Social Science Edition) (ภาษาจีน). 38 (2): 98–104. ISSN 1673-8179.
- ↑ "Report on International religious freedom". United States Department of State. 20 November 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 May 2018. สืบค้นเมื่อ 1 May 2018.
- ↑ "200 Rohingya Refugees are not being accepted as Refugees and the Nepali Government considers them illegal migrants". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 June 2016.
An estimated 36,000 Rohingya Refugess living in India
- ↑ "200 'We have the right to exist': Rohingya refugees call for intervention in Myanmar". Canadian Broadcasting Corporation.
- ↑ Pollak, Sorcha (15 February 2015). "I'm really excited to see my girls growing up in Ireland". The Stateless Rohinga. สืบค้นเมื่อ 16 January 2018.
- ↑ "Sri Lanka Navy detains Rohingya – majority children". The Stateless Rohinga. 12 June 2017. สืบค้นเมื่อ 29 January 2018.
- ↑ "Finland helps Myanmar's Rohingya refugees through the Red Cross". Valtioneuvosto.
- ↑ Manogya Loiwal and Sara Malm for Mailonline (26 กันยายน 2560). "'They were killed in a row. Only eight women, young and beautiful, were allowed to live': Hindu Rohingya reveal how Muslim majority force them to convert or die in refugee camps". Daily Mail (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ Mahadi Al Hasnat (1 ตุลาคม 2560). "Who really attacked the Rohingya Hindus in Rakhine?". Dhaka Tribune (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "สำนักงานราชบัณฑิตยสภาชี้แจงคำ "โรฮีนจา" และ "เมียนมา"" (PDF). สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. พฤษภาคม 2558. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ Andrew Simpson (2007). Language and National Identity in Asia. United Kingdom: Oxford University Press. p. 267. ISBN 978-0199226481.
- ↑ "Rohingya reference at Ethnologue".
- ↑ Leider 2013, p. 7.
- ↑ 24.0 24.1 Derek Tonkin. "The 'Rohingya' Identity - British experience in Arakan 1826-1948". The Irrawaddy. สืบค้นเมื่อ 19 January 2015.
- ↑ Selth, Andrew (2003). Burma’s Muslims: Terrorists or Terrorised?. Australia: Strategic and Defence Studies Centre, Australian National University. p. 7. ISBN 073155437X.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อKaiser
- ↑ Adloff, Richard; Thompson, Virginia (1955). Minority Problems in Southeast Asia. United States: Stanford University Press. p. 154.
- ↑ Crisis Group 2014, pp. 4–5.
- ↑ 29.0 29.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ:5
- ↑ 30.0 30.1 30.2 Leider, Jacques P. ""Rohingya": Rakhaing and Recent Outbreak of Violence: A Note" (PDF). Network Myanmar. สืบค้นเมื่อ 11 February 2015.
- ↑ Leider 2013, p. 14.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ:2
- ↑ Crisis Group 2014, p. i.
- ↑ MclaughLin, Tim (8 July 2013). "Origin of 'most persecuted minority' statement unclear". สืบค้นเมื่อ 17 February 2015.
- ↑ "Myanmar, Bangladesh leaders 'to discuss Rohingya'". Agence France-Presse. 29 June 2012.
- ↑ "Trapped inside Burma's refugee camps, the Rohingya people call for recognition". The Guardian. 20 December 2012. สืบค้นเมื่อ 10 February 2015.
- ↑ "US Holocaust Museum highlights plight of Myanmar's downtrodden Rohingya Muslims". Fox News. Associated Press. 6 November 2013.
- ↑ Bangkok Post, [1], 20 January 2009
- ↑ Al Jazeera, Thais admit boat people set adrift, 27 January 2009
- ↑ The Nation, UNHCR warned over Angelina Jolie's criticism on Rohingya
- ↑ The Nation, Thai govt warns Jolie and UNHCR over comments on Rohingyas, 11 February 2009