ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดนตรีนิวเอจ"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 14: | บรรทัด 14: | ||
| other_topics= |
| other_topics= |
||
}} |
}} |
||
'''ดนตรีนิวเอจ ''' ({{Lang-en|New Age}}) หากแปลตามตัวก็หมายถึง ดนตรียุคใหม่ เป็นแนวดนตรีชนิดหนึ่งมีจุดเริ่มต้นจากงานความหลากหลายของนักดนตรียุโรปและอเมริกันในทศวรรษที่ 60 ที่ทำเพลง[[ดนตรีอีเลกโทรนิก|อีเลกโทรนิก]]และ[[อคูสติก]] |
'''ดนตรีนิวเอจ ''' ({{Lang-en|New Age}}) หากแปลตามตัวก็หมายถึง ดนตรียุคใหม่ เป็นแนวดนตรีชนิดหนึ่งมีจุดเริ่มต้นจากงานความหลากหลายของนักดนตรียุโรปและอเมริกันในทศวรรษที่ 60 ที่ทำเพลง[[ดนตรีอีเลกโทรนิก|อีเลกโทรนิก]]และ[[อคูสติก]] โดยทั่วไปมีลักษณะการใช้เครื่องดนตรีพื้นฐานและความซ้ำของเมโลดี้ในธรรมชาติ การบันทึกเสียงจากธรรมชาติก็มีการนำมาใช้ในเพลง ดนตรีนิวเอจมีดนตรีที่ให้ความผ่อนคลาย แรงบันดาลใจ และมักใช้กับกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเช่น [[โยคะ]] การนวด การทำสมาธิ การอ่านหนังสือ และการบริหารความเครียด<ref>Lehrer, Paul M.; David H. (FRW) Barlow, Robert L. Woolfolk, Wesley E. Sime (2007). Principles and Practice of Stress Management, Third Edition, p46-47. ISBN 1-59385-000-X. </ref> ที่จะสร้างบรรยากาศไม่ว่าจะที่บ้านหรือสถานที่ต่าง ๆ |
||
ลักษณะของดนตรีนิวเอจมักผสมระหว่างเสียงเอฟเฟกหรือเสียงจากธรรมชาติ รวมกับเพลงอีเลกโทรนิกและ[[เครื่องดนตรี]] อาศัยโครงของดนตรีหนุนไว้ อย่างเช่น [[ฟลุต]] [[เปียโน]] อคูสติกกีตาร์ และอาจรวมถึงเครื่องดนตรีตะวันออก ซึ่งในบางเพลงอาจมีการร้องลำนำใน[[ภาษาสันสกฤต]] [[ทิเบต]] หรือการสวดของคนพื้นถิ่นในทวีปอเมริกาเหนือ เป็นต้น หรือในบาง |
ลักษณะของดนตรีนิวเอจมักผสมระหว่างเสียงเอฟเฟกหรือเสียงจากธรรมชาติ รวมกับเพลงอีเลกโทรนิกและ[[เครื่องดนตรี]] อาศัยโครงของดนตรีหนุนไว้ อย่างเช่น [[ฟลุต]] [[เปียโน]] อคูสติกกีตาร์ และอาจรวมถึงเครื่องดนตรีตะวันออก ซึ่งในบางเพลงอาจมีการร้องลำนำใน[[ภาษาสันสกฤต]] [[ทิเบต]] หรือการสวดของคนพื้นถิ่นในทวีปอเมริกาเหนือ เป็นต้น หรือในบางครั้งก็มีการเขียนเนื้อร้องที่อิงมาจาก[[เทพนิยาย]]อย่างตำนาน[[เคลติก]] เป็นต้น สำหรับเพลงที่มีความยาวมากกว่า 20 นาทีในเพลงประเภทนี้ไม่ใช่สิ่งที่แปลกอะไร และในบางครั้งลักษณะของเพลงแบบนี้ก็มีการเปรียบได้ว่า[[ดนตรีแอมเบียนต์]] (ambient music) |
||
ในช่วงทศวรรษที่ 80 ดนตรีนิวเอจได้รับความนิยมทางสถานีวิทยุทั่วไป |
ในช่วงทศวรรษที่ 80 ดนตรีนิวเอจได้รับความนิยมทางสถานีวิทยุทั่วไป |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:16, 10 ธันวาคม 2563
นิวเอจ | |
---|---|
แหล่งกำเนิดทางรูปแบบ | ดนตรีคลาสสิก ดนตรีอีเลกโทรนิก Musique concrète โพรเกรสซีฟร็อก ไซเคเดลิกร็อก เวิลด์มิวสิก เคราต์ร็อก ดนตรีอาวองต์-การ์ด ดนตรีโฟล์กพื้นบ้าน ดนตรีแอมเบียนต์ มินิมอลิสม์ |
แหล่งกำเนิดทางวัฒนธรรม | ปลายทศวรรษ 1960 ใน ยุโรป |
เครื่องบรรเลงสามัญ | เปียโน, เครื่องสังเคราะห์เสียง, แซมเพลอ, sequencer, คอมพิวเตอร์, เครื่องดนตรีสาย, เสียงจากธรรมชาติ (เช่น เสียงนก ปลาวาฬ น้ำตก เป็นต้น), เครื่องดนตรีโฟล์ก, อคูสติกกีตาร์, ฟลูต, พิณ, ซิตาร์, แทมบูรา, tabla, ออร์แกน, เสียงเอฟเฟกต์ |
รูปแบบอนุพันธุ์ | โพสต์-ร็อก |
แนวประสาน | |
เคลติกฟิวชัน, tone poem, biomusic, โพสต์-ร็อก |
ดนตรีนิวเอจ (อังกฤษ: New Age) หากแปลตามตัวก็หมายถึง ดนตรียุคใหม่ เป็นแนวดนตรีชนิดหนึ่งมีจุดเริ่มต้นจากงานความหลากหลายของนักดนตรียุโรปและอเมริกันในทศวรรษที่ 60 ที่ทำเพลงอีเลกโทรนิกและอคูสติก โดยทั่วไปมีลักษณะการใช้เครื่องดนตรีพื้นฐานและความซ้ำของเมโลดี้ในธรรมชาติ การบันทึกเสียงจากธรรมชาติก็มีการนำมาใช้ในเพลง ดนตรีนิวเอจมีดนตรีที่ให้ความผ่อนคลาย แรงบันดาลใจ และมักใช้กับกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเช่น โยคะ การนวด การทำสมาธิ การอ่านหนังสือ และการบริหารความเครียด[1] ที่จะสร้างบรรยากาศไม่ว่าจะที่บ้านหรือสถานที่ต่าง ๆ
ลักษณะของดนตรีนิวเอจมักผสมระหว่างเสียงเอฟเฟกหรือเสียงจากธรรมชาติ รวมกับเพลงอีเลกโทรนิกและเครื่องดนตรี อาศัยโครงของดนตรีหนุนไว้ อย่างเช่น ฟลุต เปียโน อคูสติกกีตาร์ และอาจรวมถึงเครื่องดนตรีตะวันออก ซึ่งในบางเพลงอาจมีการร้องลำนำในภาษาสันสกฤต ทิเบต หรือการสวดของคนพื้นถิ่นในทวีปอเมริกาเหนือ เป็นต้น หรือในบางครั้งก็มีการเขียนเนื้อร้องที่อิงมาจากเทพนิยายอย่างตำนานเคลติก เป็นต้น สำหรับเพลงที่มีความยาวมากกว่า 20 นาทีในเพลงประเภทนี้ไม่ใช่สิ่งที่แปลกอะไร และในบางครั้งลักษณะของเพลงแบบนี้ก็มีการเปรียบได้ว่าดนตรีแอมเบียนต์ (ambient music)
ในช่วงทศวรรษที่ 80 ดนตรีนิวเอจได้รับความนิยมทางสถานีวิทยุทั่วไป
อ้างอิง
- ↑ Lehrer, Paul M.; David H. (FRW) Barlow, Robert L. Woolfolk, Wesley E. Sime (2007). Principles and Practice of Stress Management, Third Edition, p46-47. ISBN 1-59385-000-X.