ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บุปผา สายชล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับแอนดรอยด์
บรรทัด 46: บรรทัด 46:
ระหว่างนั้น เมื่อมีปัญหา เธอก็ได้หันหน้าไปปรึกษาหารือกับศรีไพร ใจพระ หรือ[[เก่งกาจ จงใจพระ]]ในปัจจุบันบัน ซึ่งตอนนั้นเป็นโฆษกของวง จนกลายเป็นคู่รักกันในที่สุด ในที่สุด ศรีไพร ใจพระ ก็หอบหิ้ว บุปผาออกมาตั้งวงเองในปี 2508 ชื่อวง กระดิ่งทอง และหาวิธีผลักดันบุปผา สายชล ด้วยการให้ บุปผา สายชล มีโอกาสเล่นลิเก กับชาย เมืองสิงห์ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีหวังได้เพลงจากชาย เมืองสิงห์ ศรีไพร ใจพระ ก็หันไปขอเพลงจากครู[[ไพบูลย์ บุตรขัน]]
ระหว่างนั้น เมื่อมีปัญหา เธอก็ได้หันหน้าไปปรึกษาหารือกับศรีไพร ใจพระ หรือ[[เก่งกาจ จงใจพระ]]ในปัจจุบันบัน ซึ่งตอนนั้นเป็นโฆษกของวง จนกลายเป็นคู่รักกันในที่สุด ในที่สุด ศรีไพร ใจพระ ก็หอบหิ้ว บุปผาออกมาตั้งวงเองในปี 2508 ชื่อวง กระดิ่งทอง และหาวิธีผลักดันบุปผา สายชล ด้วยการให้ บุปผา สายชล มีโอกาสเล่นลิเก กับชาย เมืองสิงห์ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีหวังได้เพลงจากชาย เมืองสิงห์ ศรีไพร ใจพระ ก็หันไปขอเพลงจากครู[[ไพบูลย์ บุตรขัน]]


จากที่เคยมีชื่อเสียงมาบ้างจากเพลงหวานอย่าง "แก้มนวล" ครูไพบูลย์ บุตรขัน เปลี่ยนทางให้บุปผา สายชล หันมาร้องเพลงแนวโฉบเฉี่ยวอย่างเพลง "รักคนแก่ดีกว่า" ซึ่งงานนี้ก็ไม่พลาดอีกเช่นกัน เมื่อเธอมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว จน [[รังสี ทัศนพยัคฆ์]] ต้องนำเธอไปร่วมแสดงในภาพยนตร์หลายสิบเรื่อง เริ่มจาก "ชาติลำชี" และตามมาด้วย “ [[มนต์รักลูกทุ่ง]] “ อันลือลั่นในยุคขายนักร้องลูกทุ่ง และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำให้เธอโด่งดังมากขึ้นไปอีก เพราะได้บทดี และได้ร้องเพลงหลายเพลง
จากที่เคยมีชื่อเสียงมาบ้างจากเพลงหวานอย่าง "แก้มนวล" ครูไพบูลย์ บุตรขัน เปลี่ยนทางให้บุปผา สายชล หันมาร้องเพลงแนวโฉบเฉี่ยวอย่างเพลง "รักคนแก่ดีกว่า" ซึ่งงานนี้ก็ไม่พลาดอีกเช่นกัน เมื่อเธอมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว จน [[รังสี ทัศนพยัคฆ์]] ต้องนำเธอไปร่วมแสดงในภาพยนตร์หลายสิบเรื่อง เริ่มจาก "[[ชาติลำชี]]​" และตามมาด้วย “ [[มนต์รักลูกทุ่ง]] “ อันลือลั่นในยุคขายนักร้องลูกทุ่ง และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำให้เธอโด่งดังมากขึ้นไปอีก เพราะได้บทดี และได้ร้องเพลงหลายเพลง


หลังการเสียชีวิตของ[[มิตร ชัยบัญชา]] พระเอกภาพยนตร์ ระดับตำนานของฟ้าเมืองไทย [[สุรพล สมบัติเจริญ]] ราชาเพลงลูกทุ่ง และ [[คำรณ สัมบุณณานนท์]] ราชาเพลงชีวิต ครูไพบูลย์ บุตรขัน ก็แต่งเพลง “ [[ยมบาล]]เจ้าขา “ เพื่อปรับทุกข์เรื่องการที่คนดีตายเร็ว คนชั่วตายช้า และก็ไม่ผิดหวังอีก เมื่อเพลงดังระเบิด รวมแล้วเธอมีผลงานบันทึกเสียงราว 500 เพลง
หลังการเสียชีวิตของ[[มิตร ชัยบัญชา]] พระเอกภาพยนตร์ ระดับตำนานของฟ้าเมืองไทย [[สุรพล สมบัติเจริญ]] ราชาเพลงลูกทุ่ง และ [[คำรณ สัมบุณณานนท์]] ราชาเพลงชีวิต ครูไพบูลย์ บุตรขัน ก็แต่งเพลง “ [[ยมบาล]]เจ้าขา “ เพื่อปรับทุกข์เรื่องการที่คนดีตายเร็ว คนชั่วตายช้า และก็ไม่ผิดหวังอีก เมื่อเพลงดังระเบิด รวมแล้วเธอมีผลงานบันทึกเสียงราว 500 เพลง

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:05, 25 พฤศจิกายน 2563

บุปผา สายชล
สารนิเทศภูมิหลัง
เกิด13 เมษายน พ.ศ. 2490
เสียชีวิต8 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 (อายุ 43 ปี)
จังหวัดชลบุรี
คู่สมรสศรีไพร ใจพระ (เลิกรา)
สิงหา สุริยงค์
อาชีพนักร้อง นักแสดง
ปีที่แสดงพ.ศ. 2508 - 2517
ผลงานเด่น"บุปผา" จาก มนต์รักลูกทุ่ง (2513)

บุปผา สายชล (13 เมษายน พ.ศ. 2490 - 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2533) เป็นนักร้องลูกทุ่งหญิงชื่อดังในครั้งอดีตที่ได้รับความนิยมอย่างสูง และนอกจากจะมีผลงานเพลงที่ได้รับความนิยมมากมายหลายสิบเพลงแล้ว ก็ยังมีผลงานทางด้านการแสดงภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง

ประวัติ

บุปผา สายชล

เข้าสู่วงการ

บุปผา สายชล เล่นลิเกในคณะสายพิณวัฒนา ของครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่จะรับบท กัณหา-ชาลี เล่นคู่กับพี่ชาย บุปผา สายชล ชื่นชอบการร้องเพลง เข้าสู่วงการด้วยการเป็นร้องร้องเชียร์รำวง ก่อนจะเข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่งเต็มตัวเมื่ออายุ 14 ปี จากการชักชวนของ สุชาติ เทียนทอง โดยได้มาอยู่กับวงจุฬารัตน์ ของครูมงคล อมาตยกุล และได้มีโอกาสบันทึกเสียงเพลงแรกชื่อ “ แก้มนวล “ แก้กับเพลง “ หอมหวน “ ของโฆษิต นพคุณ ที่แต่งโดยชาย เมืองสิงห์ ทั้งสองเพลง แต่อาชีพการงานของเธอในวงจุฬารัตน์นั้นไม่ค่อยเจริญรุ่งเรืองนัก เพราะการที่เธอไม่ค่อยมีโอกาสบันทึกเสียง ตอนที่ออกไปแสดงหน้าเวที ก็จึงต้องหยิบยืมเพลงของ ดวงใจ เมืองสิงห์ไปขับร้อง แต่ปรากฏว่าเธอร้องได้ดีกว่าเจ้าของเพลง ทำให้ชาย เมืองสิงห์ ไม่ค่อยกล้าป้อนเพลงให้มั่วไปหมด

โด่งดัง

ระหว่างนั้น เมื่อมีปัญหา เธอก็ได้หันหน้าไปปรึกษาหารือกับศรีไพร ใจพระ หรือเก่งกาจ จงใจพระในปัจจุบันบัน ซึ่งตอนนั้นเป็นโฆษกของวง จนกลายเป็นคู่รักกันในที่สุด ในที่สุด ศรีไพร ใจพระ ก็หอบหิ้ว บุปผาออกมาตั้งวงเองในปี 2508 ชื่อวง กระดิ่งทอง และหาวิธีผลักดันบุปผา สายชล ด้วยการให้ บุปผา สายชล มีโอกาสเล่นลิเก กับชาย เมืองสิงห์ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีหวังได้เพลงจากชาย เมืองสิงห์ ศรีไพร ใจพระ ก็หันไปขอเพลงจากครูไพบูลย์ บุตรขัน

จากที่เคยมีชื่อเสียงมาบ้างจากเพลงหวานอย่าง "แก้มนวล" ครูไพบูลย์ บุตรขัน เปลี่ยนทางให้บุปผา สายชล หันมาร้องเพลงแนวโฉบเฉี่ยวอย่างเพลง "รักคนแก่ดีกว่า" ซึ่งงานนี้ก็ไม่พลาดอีกเช่นกัน เมื่อเธอมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว จน รังสี ทัศนพยัคฆ์ ต้องนำเธอไปร่วมแสดงในภาพยนตร์หลายสิบเรื่อง เริ่มจาก "ชาติลำชี​" และตามมาด้วย “ มนต์รักลูกทุ่ง “ อันลือลั่นในยุคขายนักร้องลูกทุ่ง และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำให้เธอโด่งดังมากขึ้นไปอีก เพราะได้บทดี และได้ร้องเพลงหลายเพลง

หลังการเสียชีวิตของมิตร ชัยบัญชา พระเอกภาพยนตร์ ระดับตำนานของฟ้าเมืองไทย สุรพล สมบัติเจริญ ราชาเพลงลูกทุ่ง และ คำรณ สัมบุณณานนท์ ราชาเพลงชีวิต ครูไพบูลย์ บุตรขัน ก็แต่งเพลง “ ยมบาลเจ้าขา “ เพื่อปรับทุกข์เรื่องการที่คนดีตายเร็ว คนชั่วตายช้า และก็ไม่ผิดหวังอีก เมื่อเพลงดังระเบิด รวมแล้วเธอมีผลงานบันทึกเสียงราว 500 เพลง

ปัญหาครอบครัว

ปี 2517 ชีวิตครอบครัวของบุปผา สายชล และ ศรีไพร ใจพระ เริ่มมีปัญหาก็เลยเลิกกัน ศรีไพร ใจพระ หันไปทำวงดนตรีหงษ์ทอง ดาวอุดร ส่วนบุปผา สายชล ก็มุ่งไปสู่วงการภาพยนตร์ และพบรักใหม่กับ สิงหา สุริยงค์ พระเอกภาพยนตร์ที่มีโอกาสร่วมงานกัน และมีบุตรกับสิงหา สุริยงค์ 1 คน ซึ่งก่อนหน้านี้มีบุตรกับ ศรีไพร ใจพระ 1 คน

ในปี 2524 บุปผา สายชล ที่ไม่มี ศรีไพร ใจพระ ผลักดัน ได้พยายามกลับเข้าสู่วงการลูกทุ่งอีกครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

ลาลับ

บุปผา สายชล เสียชีวิต เมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 จากอาการเส้นโลหิตในสมองแตก เนื่องจากโรคความดันโลหิตสูง ที่โรงพยาบาลเอกชล จังหวัดชลบุรี เสียชีวิตในปีเดียวกับนางบุญมี พยนต์เลิศ คุณแม่ของเธอ ซึ่งเสียชีวิตในวันที่ 3 มกราคม 2533

ปัจจุบัน สุรชัย สายชล ทายาทคนหนึ่งของบุปผา สายชล ก็ได้ผลิตผลงานลูกทุ่งตามรอยผู้เป็นมารดา แต่ไม่ได้รับความนิยมนัก

ผลงานภาพยนตร์

  • ชาติลำชี (2512)
  • มนต์รักลูกทุ่ง (2513)
  • อยากดัง (2513)
  • ลำพู (2513)
  • ส้มตำ (2514)
  • มนต์รักจากใจ (2514)
  • หยาดฝน (2515)
  • ขวัญใจลูกทุ่ง (2515)
  • แก้วกลางนา (2516)
  • อำนาจเงิน (2516)
  • มนต์รักแผ่นดินทอง (2521)
  • ไอ้ฟ้าผ่า (2522)
  • กำนันโพธิ์ (2522)
  • ลำตัดรำเตะ (2525)
  • รักสุดหัวใจ (2527)
  • เขยเต็กกอ (2529)