ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mda (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 48: บรรทัด 48:
วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2432 ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ณ พระอุโบสถ[[วัดพระศรีรัตนศาสดาราม]] โดยมี[[สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์|พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์]] เป็นพระอุปัชฌาย์ [[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (สา ปุสฺสเทโว)|สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (สา ปุสฺสเทโว)]] เป็นพระศีลาจารย์ และ[[สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส|พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส]] เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ผนวชแล้วเสด็จไปประทับ ณ [[วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร]] ถึงวันที่ 11 กรกฎาคม ศกนั้น จึงทรงย้ายไปประทับ ณ [[วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร]]<ref>{{cite journal|journal=ราชกิจจานุเบกษา|volume=6|issue=15|pages=124-5|title=ข่าวพระองค์เจ้า และหม่อมเจ้าทรงผนวช|url=http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2432/015/124.PDF|date=14 กรกฎาคม 2432|accessdate= 21 กันยายน 2559|language=ไทย}}</ref> แล้วลาผนวชในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2432<ref>{{cite journal|journal=ราชกิจจานุเบกษา|volume=51|issue=15|pages=447|title=ข่าวลาผนวช|url=http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2432/051/447_1.PDF|date=23 มีนาคม 2432|accessdate= 21 กันยายน 2559|language=ไทย}}</ref>
วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2432 ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ณ พระอุโบสถ[[วัดพระศรีรัตนศาสดาราม]] โดยมี[[สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์|พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์]] เป็นพระอุปัชฌาย์ [[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (สา ปุสฺสเทโว)|สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (สา ปุสฺสเทโว)]] เป็นพระศีลาจารย์ และ[[สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส|พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส]] เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ผนวชแล้วเสด็จไปประทับ ณ [[วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร]] ถึงวันที่ 11 กรกฎาคม ศกนั้น จึงทรงย้ายไปประทับ ณ [[วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร]]<ref>{{cite journal|journal=ราชกิจจานุเบกษา|volume=6|issue=15|pages=124-5|title=ข่าวพระองค์เจ้า และหม่อมเจ้าทรงผนวช|url=http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2432/015/124.PDF|date=14 กรกฎาคม 2432|accessdate= 21 กันยายน 2559|language=ไทย}}</ref> แล้วลาผนวชในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2432<ref>{{cite journal|journal=ราชกิจจานุเบกษา|volume=51|issue=15|pages=447|title=ข่าวลาผนวช|url=http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2432/051/447_1.PDF|date=23 มีนาคม 2432|accessdate= 21 กันยายน 2559|language=ไทย}}</ref>


พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ ทรงเป็นเจ้านายไทยพระองค์แรก ๆ ที่ได้ไปศึกษาต่อที่[[ประเทศอังกฤษ]] ทรงศึกษากฎหมายจาก[[เบลเลียลคอลเลจ]] [[มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด]] แล้วเสด็จกลับมาดำรงตำแหน่งเสนาบดี[[กระทรวงยุติธรรม]]พระองค์แรกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2435<ref>{{cite journal|journal=ราชกิจจานุเบกษา|volume=9|issue=4|pages=28|title=ประกาศตั้งตำแหน่งเสนาบดี|url=http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2435/004/25_1.PDF|date=24 เมษายน ร.ศ. 111|accessdate=3 กรกฎาคม พ.ศ. 2561|language=ไทย}}</ref> ทรงปรับปรุงกิจการศาลแบบเก่า ถึงปี พ.ศ. 2437 จึงโปรดเกล้าฯ ให้ไปราชการในยุโรป<ref>{{cite journal|journal=ราชกิจจานุเบกษา|volume=11|issue=31|pages=236|title=พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม|url=http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2437/031/235_1.PDF|date=28 ตุลาคม ร.ศ. 113|accessdate=3 กรกฎาคม พ.ศ. 2561|language=ไทย}}</ref>เพื่อถวายอภิบาลสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ( ร.6 ) ที่เสด็จไปศึกษา ณ สหราชอาณาจักรและในยุโรป ตลอดจนปฏิบัติราชการทางการทูตในยุโรปนานถึง 4 ปี ระหว่างปี พ.ศ. 2436 - 2440 นับว่ามีความสำคัญยิ่งเพราะเป็นช่วงระยะเวลาเกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 2466 ทรงรับตำแหน่งอธิบดี[[ศาลฎีกา]]พระองค์ที่ 3 ระหว่างวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2455 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2461
พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ ทรงเป็นเจ้านายไทยพระองค์แรก ๆ ที่ได้ไปศึกษาต่อที่[[ประเทศอังกฤษ]] ทรงศึกษากฎหมายจาก[[เบลเลียลคอลเลจ]] [[มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด]] แล้วเสด็จกลับมาดำรงตำแหน่งเสนาบดี[[กระทรวงยุติธรรม]]พระองค์แรกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2435<ref>{{cite journal|journal=ราชกิจจานุเบกษา|volume=9|issue=4|pages=28|title=ประกาศตั้งตำแหน่งเสนาบดี|url=http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2435/004/25_1.PDF|date=24 เมษายน ร.ศ. 111|accessdate=3 กรกฎาคม พ.ศ. 2561|language=ไทย}}</ref> ทรงปรับปรุงกิจการศาลแบบเก่า ถึงปี พ.ศ. 2437 จึงโปรดเกล้าฯ ให้ไปราชการในยุโรป<ref>{{cite journal|journal=ราชกิจจานุเบกษา|volume=11|issue=31|pages=236|title=พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม|url=http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2437/031/235_1.PDF|date=28 ตุลาคม ร.ศ. 113|accessdate=3 กรกฎาคม พ.ศ. 2561|language=ไทย}}</ref>เพื่อถวายอภิบาลสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ (ร.6) ที่เสด็จไปศึกษา ณ สหราชอาณาจักรและในยุโรป ตลอดจนปฏิบัติราชการทางการทูตในยุโรปนานถึง 4 ปี ระหว่างปี พ.ศ. 2436 - 2440 นับว่ามีความสำคัญยิ่งเพราะเป็นช่วงระยะเวลาเกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 2466 ทรงรับตำแหน่งอธิบดี[[ศาลฎีกา]]พระองค์ที่ 3 ระหว่างวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2455 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2461


เมื่อ พ.ศ. 2441 [[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม มีพระนามตามจารึกใน[[พระสุพรรณบัฏ]]ว่า ''พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสวัสดิวัดนวิศิษฎ์''<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2441/033/341_1.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ ในการพระราชทาน พระสุพรรณบัตร], เล่ม 15, ตอน 33, 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2441, หน้า 341</ref>
เมื่อ พ.ศ. 2441 [[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม มีพระนามตามจารึกใน[[พระสุพรรณบัฏ]]ว่า ''พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสวัสดิวัดนวิศิษฎ์''<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2441/033/341_1.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ ในการพระราชทาน พระสุพรรณบัตร], เล่ม 15, ตอน 33, 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2441, หน้า 341</ref>


ต่อมา[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนกรมขึ้นเป็น ''พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสวัสดิวัดนวิศิษฎ์'' เมื่อ พ.ศ. 2456<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2456/A/329.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ เลื่อนกรม ตั้งกรม ตั้งพระองค์เจ้า และตั้งเจ้าพระยา], เล่ม 30, ตอน ก, 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2456, หน้า 329</ref> และทรงได้รับการโปรดเกล้าให้เลื่อนกรมเป็นกรมพระอีกครั้งในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2466 มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า "''พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ สยามมิศรราชมาตุลาธิบดี ศรีพัชรินทรโสรานุชาร์ย มานวธรรมศาสดรวิธาน นิรุกติปรติภานพิทยโกศล โศภนมิตรสุจริตอาร์ชวาศัย ศรีรัตนไตรยสรณาภิรัต ชเนตภูมิปะภัทปิยมานมนุญ สุนทรธรรมย์บพิตร์''" ทรงศักดินา 15000<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2466/D/2600.PDF ประกาศสถาปนา เลื่อนกรม ตั้งกรม ตั้งพระองค์เจ้า และตั้งเจ้าพระยา], เล่ม 40, ตอน ง, 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2466, หน้า 2600 </ref> เนื่องด้วย พระองค์เป็นพระมาตุลา(น้า)อยู่แต่พระองค์เดียว สมควรจะยกย่องพระอิศริยยศให้ยิ่งขึ้น สนองพระคุณูปการ และความจงรักภักดีซึ่งได้มีมาแต่หนหลัง
ต่อมา[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนกรมขึ้นเป็น ''พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสวัสดิวัดนวิศิษฎ์'' เมื่อ พ.ศ. 2456<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2456/A/329.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ เลื่อนกรม ตั้งกรม ตั้งพระองค์เจ้า และตั้งเจ้าพระยา], เล่ม 30, ตอน ก, 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2456, หน้า 329</ref> และทรงได้รับการโปรดเกล้าให้เลื่อนกรมเป็นกรมพระอีกครั้งในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2466 มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า "''พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ สยามมิศรราชมาตุลาธิบดี ศรีพัชรินทรโสรานุชาร์ย มานวธรรมศาสดรวิธาน นิรุกติปรติภานพิทยโกศล โศภนมิตรสุจริตอาร์ชวาศัย ศรีรัตนไตรยสรณาภิรัต ชเนตภูมิปะภัทปิยมานมนุญ สุนทรธรรมย์บพิตร์''" ทรงศักดินา 15000<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2466/D/2600.PDF ประกาศสถาปนา เลื่อนกรม ตั้งกรม ตั้งพระองค์เจ้า และตั้งเจ้าพระยา], เล่ม 40, ตอน ง, 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2466, หน้า 2600 </ref> เนื่องด้วย พระองค์เป็นพระมาตุลา (น้า) อยู่แต่พระองค์เดียว สมควรจะยกย่องพระอิศริยยศให้ยิ่งขึ้น สนองพระคุณูปการ และความจงรักภักดีซึ่งได้มีมาแต่หนหลัง
[[ไฟล์:สมเด็จกรมสวัสดิ.jpg|thumb|ทรงฉลองพระองค์อย่างเทศ พระอิสริยยศ สมเด็จกรมพระ]]
[[ไฟล์:สมเด็จกรมสวัสดิ.jpg|thumb|ทรงฉลองพระองค์อย่างเทศ พระอิสริยยศ สมเด็จกรมพระ]]
ต่อมาในพิธีบรมราชาภิเษก[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]]เมื่อวันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2468 (นับแบบปัจจุบันตรงกับ พ.ศ. 2469) จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระเกียรติยศขึ้นเป็น " '''''สมเด็จ'''พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ฯ'' " เนื่องด้วยทรงมีอุปการคุณต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานเป็นพระมาตุลาธิบดี (น้า) อยู่แต่พระองค์เดียว<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2468/A/372.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ สถาปนาพระอิสริยศเฉลิมพระอภิไธยและเลื่อนกรมพระราชวงศ์], เล่ม 42, ตอน 0 ก, 21 มีนาคม พ.ศ. 2468, หน้า 372</ref>
ต่อมาในพิธีบรมราชาภิเษก[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]]เมื่อวันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2468 (นับแบบปัจจุบันตรงกับ พ.ศ. 2469) จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระเกียรติยศขึ้นเป็น " '''''สมเด็จ'''พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ฯ'' " เนื่องด้วยทรงมีอุปการคุณต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานเป็นพระมาตุลาธิบดี (น้า) อยู่แต่พระองค์เดียว<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2468/A/372.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ สถาปนาพระอิสริยศเฉลิมพระอภิไธยและเลื่อนกรมพระราชวงศ์], เล่ม 42, ตอน 0 ก, 21 มีนาคม พ.ศ. 2468, หน้า 372</ref>


=== สิ้นพระชนม์ ===
=== สิ้นพระชนม์ ===
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ สิ้นพระชนม์ใน ณ [[เกาะปีนัง]] เมื่อเวลา 4 นาฬิกา วันอังคาร เดือนอ้าย ขึ้น 15 ค่ำ ปีกุนสัปตศก จ.ศ. 1297 ตรงกับวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2478 พระชันษาได้ 70 ปี หลังจากทรงพระประชวรเนื่องจากตกรถยนต์เมื่อเสด็จเมืองอิโปห์ และ มีอการ เจ็บพระนาภี และ เส้นพระโลหิตในพระเศียรแตก<ref>สาส์นสมเด็จ ลายพระหัตถ์สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ และ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ (ภาคที่ ๗) พิมพ์ในงานพระราชทานเพิงศพ เสวกโท พระอโศกมนตรี (เรียม เศวตเศรณี) ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม วันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๔ หน้าที่ ๓๒ - ๓๓ </ref> พระราชทานเพลิงพระศพ ณ วัดปาตูลันจัง (วัดปิ่นบังอร) วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2478 เวลา 17:00 น. และ ได้ส่งพระอัฐิกลับกรุงเทพทางรถไฟ เพื่อประดิษฐาน ณ วัดราชาธิวาส เมื่อ วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2478<ref>''ราชสกุลวงศ์'',
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ สิ้นพระชนม์ใน ณ [[เกาะปีนัง]] เมื่อเวลา 4 นาฬิกา วันอังคาร เดือนอ้าย ขึ้น 15 ค่ำ ปีกุนสัปตศก จ.ศ. 1297 ตรงกับวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2478 พระชันษาได้ 70 ปี หลังจากทรงพระประชวรเนื่องจากตกรถยนต์เมื่อเสด็จเมืองอิโปห์ และ มีอาการ เจ็บพระนาภี และ เส้นพระโลหิตในพระเศียรแตก<ref>สาส์นสมเด็จ ลายพระหัตถ์สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ และ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ (ภาคที่ ๗) พิมพ์ในงานพระราชทานเพิงศพ เสวกโท พระอโศกมนตรี (เรียม เศวตเศรณี) ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม วันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๔ หน้าที่ ๓๒ - ๓๓ </ref> พระราชทานเพลิงพระศพ ณ วัดปาตูลันจัง (วัดปิ่นบังอร) วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2478 เวลา 17:00 น. และ ได้ส่งพระอัฐิกลับกรุงเทพทางรถไฟ เพื่อประดิษฐาน ณ วัดราชาธิวาส เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2478<ref>''ราชสกุลวงศ์'',


== ที่ประทับ ==
== ที่ประทับ ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:10, 6 พฤศจิกายน 2563

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 4
พระองค์เจ้าชั้นเอก
องคมนตรี[1]
[2]
ดำรงตำแหน่ง7 พฤษภาคม พ.ศ. 2430
อธิบดีศาลฎีกา
ดำรงตำแหน่งพ.ศ. 2455 – 31 สิงหาคม พ.ศ. 2461
ก่อนหน้าพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนศิริธัชสังกาศ
ถัดไปเจ้าพระยามหิธร (ลออ ไกรฤกษ์)
เสนาบดีกระทรวงยุติธรรม
ดำรงตำแหน่งพ.ศ. 2435 – 2437
ถัดไปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร
ประสูติ22 ธันวาคม พ.ศ. 2408
จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม
สิ้นพระชนม์10 ธันวาคม พ.ศ. 2478 (69 ปี)
เกาะปีนัง นิคมช่องแคบอาณานิคมของบริเตน
ภรรยาหม่อมพระราชทาน
หม่อมราชวงศ์เสงี่ยม สวัสดิวัตน์
พระชายา
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี
ชายา
หม่อมเจ้าฉวีวิลัย สวัสดิวัตน์
หม่อม
หม่อมลมุล สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา
หม่อมหุ่น สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา
หม่อมศรี สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา
หม่อมสุดใจ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา
หม่อมเร่ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา
หม่อมลัภ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา
หม่อมพงษ์ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา
พระบุตร48 พระองค์
ราชวงศ์จักรี
พระบิดาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระมารดาสมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา

มหาอำมาตย์เอก[3] สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ (22 ธันวาคม พ.ศ. 2408 - 10 ธันวาคม พ.ศ. 2478) เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา ร่วมพระชนนีกับสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นพระราชบิดาในสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมเป็นพระองค์แรก นอกจากนี้ยังทรงเคยดำรงตำแหน่งอธิบดีศาลฎีกาในระหว่าง พ.ศ. 2455-2461 ทรงเป็นต้นราชสกุลสวัสดิวัตน์[4]

พระประวัติ

พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ เมื่อครั้งทรงพระเยาว์

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 60 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประสูติแต่สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา (เจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยม) ประสูติเมื่อวันศุกร์ เดือนยี่ ขึ้น 5 ค่ำ ปีฉลูสัปตศก จ.ศ. 1227 ตรงกับวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2408 เมื่อแรกประสูติพระองค์มีพระอิสริยยศที่ พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานคาถาพระราชทานพระนามเป็นภาษามคธ ซึ่งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ได้แปลไว้ว่า[5]

"กุมารน้อยของเรานี้ จงมีชื่อว่า สวัสดิโสภณ ขอบุตรของเราผู้เกิดแต่เปี่ยมผู้มารดา จงบรรลุความเจริญฯ ขอบุตรนี้จงมีอายุยืน ไม่มีอุปัทวทุกข มั่งคั่ง มีโภคสมบัติ มีทรัพย์มาก มีความสุข เป็นเสรีภาพ มีอำนาจโดยลำพังตัว ขอพระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์นี้ และเทพเจ้าเป็นต้นผู้รักษารัฐมณฑล จงอภิบาลกุมารน้อยของเรานั้น ในกาลทุกเมื่อ ขอบุตรของเรานั้น พึงเป็นผู้มีเดช มีกำลังมาก มีฤทธานุภาพใหญ่ มีปัญญา และปรีชาในประโยชน์อย่างใด พึงรักษาตระกูลให้สำเร็จประโยชน์อย่างนั้น เทอญ "

พระองค์เป็นพระราชโอรสพระองค์สุดท้ายที่ประสูติแต่สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา โดยมีพระเชษฐาและพระเชษฐภคินีร่วมพระมารดา ได้แก่

  1. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุณากรรณอนันตนรไชย
  2. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ
  3. สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี
  4. สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
  5. สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2432 ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (สา ปุสฺสเทโว) เป็นพระศีลาจารย์ และพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ผนวชแล้วเสด็จไปประทับ ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ถึงวันที่ 11 กรกฎาคม ศกนั้น จึงทรงย้ายไปประทับ ณ วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร[6] แล้วลาผนวชในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2432[7]

พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ ทรงเป็นเจ้านายไทยพระองค์แรก ๆ ที่ได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ทรงศึกษากฎหมายจากเบลเลียลคอลเลจ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด แล้วเสด็จกลับมาดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมพระองค์แรกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2435[8] ทรงปรับปรุงกิจการศาลแบบเก่า ถึงปี พ.ศ. 2437 จึงโปรดเกล้าฯ ให้ไปราชการในยุโรป[9]เพื่อถวายอภิบาลสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ (ร.6) ที่เสด็จไปศึกษา ณ สหราชอาณาจักรและในยุโรป ตลอดจนปฏิบัติราชการทางการทูตในยุโรปนานถึง 4 ปี ระหว่างปี พ.ศ. 2436 - 2440 นับว่ามีความสำคัญยิ่งเพราะเป็นช่วงระยะเวลาเกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 2466 ทรงรับตำแหน่งอธิบดีศาลฎีกาพระองค์ที่ 3 ระหว่างวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2455 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2461

เมื่อ พ.ศ. 2441 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสวัสดิวัดนวิศิษฎ์[10]

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนกรมขึ้นเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ เมื่อ พ.ศ. 2456[11] และทรงได้รับการโปรดเกล้าให้เลื่อนกรมเป็นกรมพระอีกครั้งในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2466 มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า "พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ สยามมิศรราชมาตุลาธิบดี ศรีพัชรินทรโสรานุชาร์ย มานวธรรมศาสดรวิธาน นิรุกติปรติภานพิทยโกศล โศภนมิตรสุจริตอาร์ชวาศัย ศรีรัตนไตรยสรณาภิรัต ชเนตภูมิปะภัทปิยมานมนุญ สุนทรธรรมย์บพิตร์" ทรงศักดินา 15000[12] เนื่องด้วย พระองค์เป็นพระมาตุลา (น้า) อยู่แต่พระองค์เดียว สมควรจะยกย่องพระอิศริยยศให้ยิ่งขึ้น สนองพระคุณูปการ และความจงรักภักดีซึ่งได้มีมาแต่หนหลัง

ทรงฉลองพระองค์อย่างเทศ พระอิสริยยศ สมเด็จกรมพระ

ต่อมาในพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อวันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2468 (นับแบบปัจจุบันตรงกับ พ.ศ. 2469) จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระเกียรติยศขึ้นเป็น " สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ฯ " เนื่องด้วยทรงมีอุปการคุณต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานเป็นพระมาตุลาธิบดี (น้า) อยู่แต่พระองค์เดียว[13]

สิ้นพระชนม์

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ สิ้นพระชนม์ใน ณ เกาะปีนัง เมื่อเวลา 4 นาฬิกา วันอังคาร เดือนอ้าย ขึ้น 15 ค่ำ ปีกุนสัปตศก จ.ศ. 1297 ตรงกับวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2478 พระชันษาได้ 70 ปี หลังจากทรงพระประชวรเนื่องจากตกรถยนต์เมื่อเสด็จเมืองอิโปห์ และ มีอาการ เจ็บพระนาภี และ เส้นพระโลหิตในพระเศียรแตก[14] พระราชทานเพลิงพระศพ ณ วัดปาตูลันจัง (วัดปิ่นบังอร) วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2478 เวลา 17:00 น. และ ได้ส่งพระอัฐิกลับกรุงเทพทางรถไฟ เพื่อประดิษฐาน ณ วัดราชาธิวาส เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2478[15][16]

พระโอรสธิดา

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ เสกสมรสกับหม่อมราชวงศ์เสงี่ยม สนิทวงศ์ พระองค์ทรงเป็นต้นราชสกุลสวัสดิวัตน์ มีพระชายาและหม่อม รวม 10 ท่าน ได้แก่

  1. หม่อมลมุล (สกุลเดิม: พิศลยบุตร) ธิดาพระยาพิสณฑ์สมบัติบริบูรณ์ (ยิ้ม พิศลยบุตร) กับ ปราง สมบัติศิริ (ทั้ง 3 เป็นพี่น้องกัน หม่อมลมุล เป็นพี่สาว เรียงตามลำดับ)
  2. หม่อมหุ่น (สกุลเดิม: พิศลยบุตร) ธิดาพระยาพิสณฑ์สมบัติบริบูรณ์ (ยิ้ม พิศลยบุตร) (ทั้ง 3 เป็นพี่น้องกัน หม่อมลมุล เป็นพี่สาว เรียงตามลำดับ)
  3. หม่อมศรี (สกุลเดิม: พิศลยบุตร) ธิดาพระยาพิสณฑ์สมบัติบริบูรณ์ (ยิ้ม พิศลยบุตร)[17] (ทั้ง 3 เป็นพี่น้องกัน หม่อมลมุล เป็นพี่สาว เรียงตามลำดับ)
  4. หม่อมราชวงศ์เสงี่ยม ต.จ.(พ.ศ. 2443), หม่อมห้ามพระราชทาน (ราชสกุลเดิม: สนิทวงศ์) คุณหญิงเสงี่ยม เป็นธิดาในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ กับหม่อมเขียน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (สกุลเดิม: ศศิสมิต) [18]
  5. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี ป.จ.(พ.ศ. 2472), พระชายา (พระนามเดิม: หม่อมเจ้าอาภาพรรณี คัคณางค์) เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร กับหม่อมสุ่น คัคณางค์ ณ อยุธยา
  6. หม่อมสุดใจ
  7. หม่อมเจ้าฉวีวิลัย, ชายา (ราชสกุลเดิม: คัคณางค์) เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร กับหม่อมสุ่น คัคณางค์ ณ อยุธยา
  8. หม่อมเร่ (สกุลเดิม: บุนนาค) ธิดาขุนอนุมานพลนิกร (พลอย บุนนาค) กับทรัพย์ (สกุลเดิม: สิทธิโรจน์)
  9. หม่อมลัภ (สกุลเดิม: บุนนาค) ธิดาขุนอนุมานพลนิกร (พลอย บุนนาค) กับทรัพย์ (สกุลเดิม: สิทธิโรจน์)
  10. หม่อมพงษ์ (สกุลเดิม: บุณยรัตพันธุ์) ธิดาร้อยโทสามชัย บุณยรัตพันธุ์

โดยมีพระโอรสธิดารวมทั้งหมด 48 พระองค์ เป็นชาย 22 พระองค์ และหญิง 26 พระองค์

พระรูป พระนาม หม่อมมารดา ประสูติ สิ้นพระชนม์/สิ้นชีพิตักษัย คู่สมรส
1. หม่อมเจ้าพิไชยสิทธิสวัสดิ์ ที่ 1 ในหม่อมศรี 1 พฤษภาคม 2431 12 มีนาคม 2433
2. หม่อมเจ้าทัศนีนงลักษณ์ ที่ 1 ในหม่อมลมุล 26 มีนาคม 2432 28 พฤษภาคม 2444
3. หม่อมเจ้าพนัสนิคม (แฝด) ที่ 2 ในหม่อมศรี 30 สิงหาคม 2434 ในวันประสูติ
4. หม่อมเจ้าพนมสารคาม (แฝด) ที่ 3 ในหม่อมศรี 30 สิงหาคม 2434 ในวันประสูติ
5. หม่อมเจ้าพิมพ์พักตร์ภาณี ที่ 2 ในหม่อมลมุล 22 สิงหาคม 2435 22 ธันวาคม 2477
6. หม่อมเจ้าเฉลิมศรีสวัสดิวัตน์ ที่ 3 ในหม่อมลมุล 11 ธันวาคม 2441 15 กรกฎาคม 2507 หม่อมเจริญ (เศวตะทัต)
ไฟล์:หม่อมเจ้าวิศิษฎ์สวัสดิรักษ์ สวัสดิวัตน์.jpg 7. หม่อมเจ้าวิศิษฎ์สวัสดิรักษ์ หม่อมหุ่น 5 เมษายน 2442 26 ธันวาคม 2531 หม่อมราชวงศ์เครือศรี (โศภางค์)
8. หม่อมเจ้านงลักษณ์ทัศนีย์ ที่ 4 ในหม่อมลมุล 5 เมษายน 2443 31 มีนาคม 2482 หม่อมเจ้าลายฉลุทอง ทองใหญ่
ไฟล์:หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน์.jpg 9. หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท ที่ 1 ในหม่อมราชวงศ์เสงี่ยม 13 สิงหาคม 2443 22 เมษายน 2510 หม่อมเสมอ (สิงหเสนี)
10. หม่อมเจ้าหญิง (ไม่ปรากฏพระนาม) ที่ 2 ในหม่อมราชวงศ์เสงี่ยม 22 กันยายน 2444 มิถุนายน 2445
11. หม่อมเจ้าเสรีสวัสดิกมล ที่ 1 ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี 6 กันยายน 2445 7 มีนาคม 2454
12. หม่อมเจ้าโสภณภราไดย ที่ 2 ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี 8 มกราคม 2446 17 กรกฎาคม 2514 พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามยุรฉัตร

หม่อมแตงนวล หม่อมประเทือง

13. หม่อมเจ้าสุด (หญิง) ที่ 3 ในหม่อมราชวงศ์เสงี่ยม 22 มกราคม 2446 กรกฎาคม 2447
14. หม่อมเจ้ารำไพพรรณี

(พ.ศ. 2468: สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี)

ที่ 3 ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี 20 ธันวาคม 2447 22 พฤษภาคม 2527 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
15. หม่อมเจ้าใหม่ (หญิง) ที่ 4 ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี 19 กุมภาพันธ์ 2448 17 มีนาคม 2448
16. หม่อมเจ้าสวัสดิประดิษฐ์ หม่อมสุดใจ 16 กรกฎาคม 2449 2 สิงหาคม 2519 หม่อมเจ้าดวงตา (จักรพันธุ์)

หม่อมสอิ้ง หม่อมฉลวย

17. หม่อมเจ้าแดง (หญิง) ที่ 5 ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี 25 เมษายน 2450 30 พฤษภาคม 2450
18. หม่อมเจ้าพีรยศยุคล ที่ 1 ในหม่อมเจ้าฉวีวิลัย 16 มกราคม 2450 29 พฤษภาคม 2519 หม่อมเอสเตอร์
ไฟล์:หม่อมเจ้านนทิยาวัด.JPG 19. หม่อมเจ้านนทิยาวัด ที่ 6 ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี 25 เมษายน 2452 18 ตุลาคม 2501 หม่อมเจ้าสุวภาพเพราพรรณ (วุฒิชัย)
20. หม่อมเจ้ารัสสาทิศ ที่ 2 ในหม่อมเจ้าฉวีวิลัย 21 กรกฎาคม 2452 23 สิงหาคม 2539 หม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร
ไฟล์:หม่อมเจ้าอรชุณชิษณุ.JPG 21. หม่อมเจ้าอรชุนชิษณุ ที่ 7 ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี 15 มกราคม 2453 26 คุลาคม 2512 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจันทรกานตมณี
22. หม่อมเจ้าผุสสดีวิลาส ที่ 3 ในหม่อมเจ้าฉวีวิลัย 5 กุมภาพันธ์ 2453 8 สิงหาคม 2500
23. หม่อมเจ้าศกุนตลา

(ลาออกจากฐานันดรศักดิ์)

ที่ 1 ในหม่อมเร่ 29 กันยายน 2454 28 กรกฎาคม 2524 ราศี ปัทมะศังข์
24. หม่อมเจ้าผ่องผัสมณี ที่ 4 ในหม่อมเจ้าฉวีวิลัย 2 ตุลาคม 2455 26 มีนาคม 2526 หม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์
25. หม่อมเจ้ากอกษัตริย์ ที่ 5 ในหม่อมเจ้าฉวีวิลัย 27 มกราคม 2456 15 พฤษภาคม 2513 หม่อมเนลลี่ (วอง)
26. หม่อมเจ้าบุญ (ชาย) 14 กุมภาพันธ์ 2456 21 กุมภาพันธ์ 2456
27. หม่อมเจ้าอุษารดี ที่ 2 ในหม่อมเร่ 12 เมษายน 2457 8 มีนาคม 2550
28. หม่อมเจ้าผ่องศรีวิลัย

(พระนามเดิม: เหมวิลัย)

ที่ 6 ในหม่อมเจ้าฉวีวิลัย 23 เมษายน 2458 8 กรกฎาคม 2537
29. หม่อมเจ้ารอดรมาภัฎ ที่ 8 ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี 24 กุมภาพันธ์ 2458 4 สิงหาคม 2460
30. หม่อมเจ้าลอลิไตย ที่ 7 ในหม่อมเจ้าฉวีวิลัย 16 เมษายน 2459 พ.ศ. 2461
31. หม่อมเจ้าสุลัภวัลเลง หม่อมลัภ 7 กันยายน 2459 17 กันยายน 2540 หม่อมเจ้ารัตยากร วิสุทธิ
32. หม่อมเจ้าสุเลสลัลเวง

(ลาออกจากฐานันดรศักดิ์)

ที่ 3 ในหม่อมเร่ 14 พฤศิกายน 2459 14 เมษายน 2542 ประพันธ์ สิริกาญจน
33. หม่อมเจ้าเล็ก (หญิง) มีนาคม 2459 4 สิงหาคม 2460
ไฟล์:หม่อมเจ้ายุธิษเฐียร.JPG 34. หม่อมเจ้ายุธิษเฐียร สวัสดิวัตน์ ที่ 9 ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี 9 มีนาคม 2460 24 กันยายน 2528 หม่อมราชวงศ์ภัทราตรีทศ (เทวกุล)
35. หม่อมเจ้าสีดาดำรวง ที่ 8 ในหม่อมเจ้าฉวีวิลัย 2 สิงหาคม 2461 25 สิงหาคม 2533 หม่อมเจ้ากมลีสาณ ชุมพล
36. หม่อมเจ้าอมิตดา

(ลาออกจากฐานันดรศักดิ์)

ที่ 4 ในหม่อมเร่ 22 พฤษภาคม 2462 11 กันยายน 2542 นายแพทย์สภร ธรรมารักษ์
37. หม่อมเจ้ามัทรีโสภนา

(ลาออกจากฐานันดรศักดิ์)

ที่ 9 ในหม่อมเจ้าฉวีวิลัย 11 ธันวาคม 2462 15 กรกฎาคม 2546 ฟื้น ดุลยจินดา
38. หม่อมเจ้าณางค์กูลสวัสดิ์ ที่ 10 ในหม่อมเจ้าฉวีวิลัย 12 มีนาคม 2463 12 กันยายน 2507
39. หม่อมเจ้ามโนหรา ที่ 5 ในหม่อมเร่ 20 มิถุนายน 2464 6 กันยายน 2526
40. หม่อมเจ้าวิสาขานุจฉวี

(ลาออกจากฐานันดรศักดิ์)

ที่ 11 ในหม่อมเจ้าฉวีวิลัย 18 กรกฎาคม 2465 สิ้นชีพิตักษัยที่ประเทศญี่ปุ่น 30 ตุลาคม 2555 โบชูกุ อุตากาวา
41. หม่อมเจ้าอำนอร์สวัสดิ์ ที่ 6 ในหม่อมเร่ 2 ธันวาคม 2466 7 มีนาคม 2529 หม่อมฉลวย (เอกรัตน์)
42. หม่อมเจ้าบุญทัดสวัสดี ที่ 7 ในหม่อมเร่ 27 สิงหาคม 2468 22 กรกฎาคม 2539 หม่อมจารุวัลย์ (ศัตรวาหา)
43. หม่อมเจ้านรรยราช ที่ 8 ในหม่อมเร่ 27 พฤศจิกายน 2470 24 พฤษภาคม 2546 หม่อมแสงทอง (ดิศวนนท์)
ไฟล์:หม่อมเจ้าปุสาณ.JPG 44. หม่อมเจ้าปุสาณ ที่ 9 ในหม่อมเร่ 27 ธันวาคม 2472 ยังทรงพระชนม์ หม่อมนวลศรี (วีรบุตร)
45. หม่อมเจ้าพันฑูรย์ ที่ 1 ในหม่อมพงษ์ 4 กรกฎาคม 2472 21 เมษายน 2545
46. หม่อมเจ้าภากูล ที่ 2 ในหม่อมพงษ์ 1 กันยายน 2474 31 ตุลาคม 2499 หม่อมประชุมสินธุ์ (พันธ์พัฒน์)
47. หม่อมเจ้าเมรี ที่ 10 ในหม่อมเร่ 12 กรกฎาคม 2475 9 ตุลาคม 2561
48. หม่อมเจ้าโต ไม่ทราบปี ไม่ทราบปี

พระเกียรติยศ

พระอิสริยยศ

ธรรมเนียมพระยศของ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์
การทูลใต้ฝ่าพระบาท
การแทนตนข้าพระพุทธเจ้า
การขานรับพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ
  • พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ (22 ธันวาคม พ.ศ. 2408 - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411)
  • พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2441)
  • พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ (11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2441 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453)
  • พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ (23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2456)
  • พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ (11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2456 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2466)
  • พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ (11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2466 - 15 มีนาคม พ.ศ. 2469)
  • สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ (15 มีนาคม พ.ศ. 2469 - ปัจจุบัน)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ

ประเทศ ปีที่ได้รับ เครื่องอิสริยาภรณ์ แพรแถบ อ้างอิง
 อิตาลี พ.ศ. 2441 เครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎอิตาลี ชั้นที่ 1 [21]
 รัสเซีย พ.ศ. 2449 เครื่องราชอิสริยาภรณ์อเล็กซานเดอร์ เนฟสกี้ ชั้นที่ 1


พระอนุสรณ์[แก้]

พระอนุสาวรีย์[แก้]

พระอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ บริเวณ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน

สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ได้จัดสร้างพระอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ ในลักษณะประทับยืน บริเวณสระบัววิคตอเรีย ด้านหน้าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ถนนพระราม1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร อันเป็นวังที่ประทับเดิมของพระองค์ท่าน


วังที่ประทับ

วังที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์

1.วังปทุมวัน หรือ วังนอก รับพระราชทาน จากสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวสาอัยยิกาเจ้า พระเชษฐภคินีของสมเด็จฯ ตั้งอยู่ริมคลองบางกะปิ (คลองแสนแสบ) เขตปทุมวัน ใกล้กับวังสระปทุม และวังวินด์เซอร์ ปัจจุบัน สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้เช่า โดยเป็นที่ตั้งของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน

2.วังถนนพระอาทิตย์ (เลขที่ 19 ถนนพระอาทิตย์ ) รับพระราชทาน จาก ร. 7 ปัจจุบัน สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ให้เช่า โดยเป็นที่ตั้งของ ยูนิเซฟ และที่ทำการของสำนักงานองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations - FAO)

ราชตระกูล

พระราชตระกูลในสามรุ่นของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์
พระชนก:
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระอัยกาฝ่ายพระชนก:
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
พระปัยกาฝ่ายพระชนก:
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก:
สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนก:
สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี
พระปัยกาฝ่ายพระชนก:
เจ้าขรัวเงิน แซ่ตัน
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก:
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์
พระชนนี:
สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา
พระอัยกาฝ่ายพระชนนี:
หลวงอาสาสำแดง (แตง)
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี:
พระยาจินดารังสรรค์ (แก้วแขก)
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
ไม่ทราบ
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
ท้าวสุจริตธำรง (นาค)
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี:
ไม่ทราบ
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
ไม่ทราบ

อ้างอิง

เชิงอรรถ
  1. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2430/006/45.PDF
  2. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2430/006/47.PDF
  3. พระราชทานยศแลเครื่องยศ
  4. "ประกาศกรมราชเลขานุการ เรื่อง พระราชทานนามสกุล สำหรับสืบเชื้อพระวงศ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 32 (0 ง): 138. 18 เมษายน 2458. สืบค้นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2561. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  5. จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ, คาถาพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระนามพระราชโอรสธิดา, โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, พ.ศ. 2472
  6. "ข่าวพระองค์เจ้า และหม่อมเจ้าทรงผนวช" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 6 (15): 124–5. 14 กรกฎาคม 2432. สืบค้นเมื่อ 21 กันยายน 2559. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. "ข่าวลาผนวช" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 51 (15): 447. 23 มีนาคม 2432. สืบค้นเมื่อ 21 กันยายน 2559. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  8. "ประกาศตั้งตำแหน่งเสนาบดี" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 9 (4): 28. 24 เมษายน ร.ศ. 111. สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2561. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  9. "พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 11 (31): 236. 28 ตุลาคม ร.ศ. 113. สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2561. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  10. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ ในการพระราชทาน พระสุพรรณบัตร, เล่ม 15, ตอน 33, 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2441, หน้า 341
  11. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เลื่อนกรม ตั้งกรม ตั้งพระองค์เจ้า และตั้งเจ้าพระยา, เล่ม 30, ตอน ก, 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2456, หน้า 329
  12. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสถาปนา เลื่อนกรม ตั้งกรม ตั้งพระองค์เจ้า และตั้งเจ้าพระยา, เล่ม 40, ตอน ง, 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2466, หน้า 2600
  13. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ สถาปนาพระอิสริยศเฉลิมพระอภิไธยและเลื่อนกรมพระราชวงศ์, เล่ม 42, ตอน 0 ก, 21 มีนาคม พ.ศ. 2468, หน้า 372
  14. สาส์นสมเด็จ ลายพระหัตถ์สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ และ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ (ภาคที่ ๗) พิมพ์ในงานพระราชทานเพิงศพ เสวกโท พระอโศกมนตรี (เรียม เศวตเศรณี) ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม วันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๔ หน้าที่ ๓๒ - ๓๓
  15. ราชสกุลวงศ์,

    ที่ประทับ

    วังที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์

    1. วังปทุมวัน หรือ วังนอก รับพระราชทาน จากสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวสาอัยยิกาเจ้า พระเชษฐภคินีของสมเด็จฯ ตั้งอยู่ริมคลองบางกะปิ (คลองแสนแสบ) เขตปทุมวัน ใกล้กับวังสระปทุม และวังวินด์เซอร์ ปัจจุบัน สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้เช่า โดยเป็นที่ตั้งของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน
    2. วังถนนพระอาทิตย์ (เลขที่ 19 ถนนพระอาทิตย์ ) รับพระราชทาน จาก ร. 7 ปัจจุบัน สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ให้เช่า โดยเป็นที่ตั้งของ ยูนิเซฟ และที่ทำการของสำนักงานองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations - FAO)หน้า 78
  16. สาส์นสมเด็จ ลายพระหัตถ์สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ และ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ (ภาคที่ ๗)  พิมพ์ในงานพระราชทานเพิงศพ เสวกโท พระอโศกมนตรี (เรียม เศวตเศรณี) ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม วันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๔ หน้าที่ ๕๘ และ หน้า ๖๖ - ๖๙
  17. "ข่าวตาย" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 6 (9): 81. 2 มิถุนายน พ.ศ. 2432. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  18. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2454/D/1783.PDF
  19. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ ๔, เล่ม ๒๑, ตอน ๓๒, ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๗, หน้า ๕๖๔
  20. 20.0 20.1 20.2 ราชกิจจานุเบกษา, ส่งเหรียญดุษฎีมาลาออกไปพระราชทาน, เล่ม ๑๑, ตอน ๔๕, ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๓๗, หน้า ๓๘๔
  21. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานรานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๑๔, ตอน ๘, ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๐, หน้า ๙๐
บรรณานุกรม
  • สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตรื กรมศิลปากร. ราชสกุลวงศ์. กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตรื กรมศิลปากร, 2554. 296 หน้า. หน้า 77-78. ISBN 978-974-417-594-6
  • Jeffy Finestone. 2542. สมุดพระรูป พระราชโอรส พระราชธิดา พระราชนัดดาใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. ปรียนันทนา รังสิต,ม.ร.ว. โลมาโฮลดิ้ง
ก่อนหน้า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ ถัดไป
พระองค์แรก เสนาบดีกระทรวงยุติธรรม
(พ.ศ. 2435 — 2437)
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสิริธัชสังกาศ ประธานศาลฎีกาไทย
(พ.ศ. 2455 — 31 สิงหาคม พ.ศ. 2461)
พระยาจักรปาณีศรีศิลวิสุทธิ์ (ลออ ไกรฤกษ์)