ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รีพับลิค พี-47 ทันเดอร์โบลท์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
Replace superseded image. (GlobalReplace v0.6.5) |
||
บรรทัด 13: | บรรทัด 13: | ||
| retired = 1966, [[Peruvian Air Force]] |
| retired = 1966, [[Peruvian Air Force]] |
||
| สถานะ = |
| สถานะ = |
||
| ผู้ใช้งานหลัก = {{flagicon image|US roundel 1943-1947.svg}} [[กองทัพอากาศทหารบกสหรัฐ]]<br/> {{flagicon image|RAF |
| ผู้ใช้งานหลัก = {{flagicon image|US roundel 1943-1947.svg}} [[กองทัพอากาศทหารบกสหรัฐ]]<br/> {{flagicon image|RAF type C1 roundel.svg}} [[กองทัพอากาศสหราชอาณาจักร]]<br />{{flagicon image|Roundel of France.svg}} [[กองทัพอากาศฝรั่งเศส]] |
||
| ช่วงการผลิต = 1941–1945 |
| ช่วงการผลิต = 1941–1945 |
||
| จำนวนที่ผลิต = 15,636 |
| จำนวนที่ผลิต = 15,636 |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:56, 31 ตุลาคม 2563
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
บทบาท | เครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิด |
---|---|
ชาติกำเนิด | สหรัฐ |
บริษัทผู้ผลิต | รีพับลิคเอวิเอชัน |
ผู้ออกแบบ | Alexander Kartveli |
เริ่มใช้ | November 1942[1] |
ปลดประจำการ | 1966, Peruvian Air Force |
ผู้ใช้งานหลัก | กองทัพอากาศทหารบกสหรัฐ กองทัพอากาศสหราชอาณาจักร กองทัพอากาศฝรั่งเศส |
ช่วงการผลิต | 1941–1945 |
จำนวนที่ผลิต | 15,636 |
มูลค่า | US$ 83,000 in 1945[2] |
รีพลับลิค พี-47 ทันเดอร์โบลท์ (อังกฤษ: Republic P-47 Thunderbolt) เป็นเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดที่ส่วนมากถูกใช้ในแนวรบยุโรปในสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเคยคุ้มกันเครื่องบินทิ้งระเบิด แต่ในภายหลังได้แทนที่ด้วย พี-51 มัสแตงที่มีพิสัยไกลกว่า แต่ พี-47 ยังรับหน้าที่ในการโจมตีภาคพื้นดิน นอกจากนี้ยังคุ้มกันเครื่องบินทิ้งระเบิดในแนวรบแปซิฟิก อีกด้วย
ข้อมูลทางเทคนิค (พี-47 ดี-30)
- ลูกเรือ: 1 คน
- ความยาว: 11 เมตร
- ปีกกว้าง: 12.42 เมตร
- สูง: 4.47 เมตร
- เครื่องยนต์: แพรท แอนด์ วิทนี่ย์ อาร์ 2800-59บี ให้ขุมพลัง 2,600 แรงม้า
- ความเร็วสูงสุด: 433 ไมล์ต่อชม. ที่ 29,000 ฟุต
- พิสัยบิน: 1,800 ไมล์ (800 ไมล์ในการรบ)
อาวุธ
- ปืนกลบราวนิ่ง เอ็ม 2 8 x .50 นิ้ว
- ระเบิดบรรทุกได้ถึง 2,500 ปอนด์
- จรวด 5 นิ้ว 10 ลูก
ความแข็งแกร่ง
เกราะขนาด 9.5 มิลลิเมตร รอบห้องนักบิน เป็นโครงสร้างที่แข็งแกร่ง History Channel พี-47 ทันเดอร์โบลท์
นักบินโรเบร์ต เอส. จอห์นสัน รอดจากการถูก FW-190 ยิงสองรอบ โดยระหว่างกลับฐาน ถูกสกัดโดยเสืออากาศเยอรมัน
อีกอน ไมเยอร์ เมือถึงฐาน เขานับรูกระสุน ได้มากกว่า 200 รู โดยไม่ต้องเดินรอบเครื่องเลย
อ้างอิง
- ↑ Dwyer, Larry (October 7, 2014). "Republic P-47 Thunderbolt". aviation-history.com. The Aviation History Online Museum. สืบค้นเมื่อ April 16, 2017.
- ↑ Goebel, Greg. "The Republic P-47 Thunderbolt". airvectors.net. AirVectors. สืบค้นเมื่อ 23 November 2015.