ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ราชพฤกษ์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ประภาพร227 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
ดอกไม้ที่เรียกว่า "ดอกราชพฤกษ์ (ต้นพระราชา)" ในภาษาไทย โดยทั่วไปเป็นคำที่ประกอบด้วย
{{ชื่ออื่น|พรรณไม้||}}
ราช (ราชา) พฤกษ์ (กลีบ) จึงเรียกว่า "ดอกไม้ประจำชาติ" ในความเป็นจริงมันถูกกำหนดให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยในปี 2552
{{Taxobox
| color = lightgreen
| name = ราชพฤกษ์
| image = Ahmedabad August2005 1.jpg
| image_width = 240px
| image_caption =
| regnum = [[Plant]]ae
| divisio = [[Flowering plant|Magnoliophyta]]
| classis = [[Rosopsida]]
| ordo = [[Fabales]]
| familia = [[Fabaceae]]
| subfamilia = [[Caesalpinioideae]]
| tribus = [[Cassieae]]
| genus = ''[[สกุลราชพฤกษ์|Cassia]]''
| species = '''''C. fistula'''''
| binomial = ''Cassia fistula''
| binomial_authority = [[Carolus Linnaeus|L.]]
| synonyms = *''Cassia fistulosa'' <small>L. ex R.W. Long & Lakela</small>
| synonyms_ref = <ref>[http://www.itis.gov/servlet/SingleRpt/SingleRpt?search_topic=TSN&search_value=25749 จาก itis.gov]</ref>
}}

[[ไฟล์:Cassia fistula MHNT.BOT.2007.26.54.jpg|thumb|ผลของต้นราชพฤกษ์]]

'''ราชพฤกษ์''', '''คูน''', '''ลมแล้ง''' ({{ชื่อวิทยาศาสตร์|Cassia fistula}}) เป็นไม้ดอกในตระกูล [[Fabaceae]] เป็นพืชพื้นเมืองของ[[เอเชียใต้]] ตั้งแต่ทางตอนใต้ของ[[ปากีสถาน]] ไปจนถึง[[อินเดีย]] [[ศรีลังกา]] [[พม่า]] และ[[ไทย]] นอกจากนี้ดอกราชพฤกษ์ยังเป็นดอกไม้ประจำชาติไทยอีกด้วย


== ลักษณะ ==
== ลักษณะ ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:07, 6 ตุลาคม 2563

ดอกไม้ที่เรียกว่า "ดอกราชพฤกษ์ (ต้นพระราชา)" ในภาษาไทย โดยทั่วไปเป็นคำที่ประกอบด้วย ราช (ราชา) พฤกษ์ (กลีบ) จึงเรียกว่า "ดอกไม้ประจำชาติ" ในความเป็นจริงมันถูกกำหนดให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยในปี 2552

ลักษณะ

ราชพฤกษ์เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูง 10–20 เมตร ดอกขึ้นเป็นช่อยาว 20–40 เซนติเมตร แต่ละดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4–7 เซนติเมตร มีกลีบดอกสีเหลืองขนาดเท่ากัน 5 กลีบ ผลยาว 30–62 เซนติเมตร และกว้าง 1.5–2.5 เซนติเมตร มีกลิ่นฉุน และมีเมล็ดที่มีพิษเป็นจำนวนมาก

ลักษณะดอกของต้นราชพฤกษ์

เกี่ยวกับชื่อ

ชื่อของราชพฤกษ์นั้นมีการเรียกแตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถิ่น ส่วนใหญ่จะเรียกราชพฤกษ์ว่า คูน เนื่องจากจำง่ายกว่า (แต่มักจะเขียนผิดเป็น คูณ) ทางภาคเหนือเรียกว่า ลมแล้ง ทางภาคใต้เรียกว่า ราชพฤกษ์ ลักเกลือ หรือลักเคย ชาวกะเหรี่ยงและในกาญจนบุรีเรียกว่า กุเพยะ

ลักษณะใบของต้นราชพฤกษ์

การปลูกและการดูแลรักษา

การปลูก

ในช่วงแรก ๆ ต้นราชพฤกษ์จะเจริญเติบโตได้ช้าในระยะเวลาประมาณ 1–3 ปีแรก หลังจากนั้นต้นราชพฤกษ์จะเจริญเติบโตเร็วขึ้น เปลือกจะเป็นสีน้ำตาลเรียบ มีรากแก้วยาวสีเหลือง และ มีรากแขนงเป็นจำนวนมาก เมื่อต้นราพฤกษ์มีอายุ 4–5 ปี จึงออกดอกและเมล็ดและเจริญเติบโตต่อไป

สรรพคุณ

นอกจากนั้น ราชพฤกษ์ยังเป็นพืชที่มีฤทธิ์ทางอัลลีโลพาที สารสกัดจากฝักด้วยเอทานอลสามารถยับยั้งการเจริญของคะน้าได้[1]

ความเชื่อ

ต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้มงคลนิยมใช้ประกอบพีธีที่สำคัญ เช่น พีธีเสาไม้หลักเมือง เป็นส่วนประกอบในการทำคฑาจอมพล และ ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร ทำพิธีปลูกบ้าน ฯลฯ

คนไทยในสมัยโบราณเชื่อว่า ควรปลูกต้นราชพฤกษ์ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านเรือนมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นทวีคูณ ซึ่งความเป็นจริงคือทิศดังกล่าวจะได้รับแดดจัดตลอดช่วงบ่าย จึงควรปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ลดความร้อนและทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น[2]

คนไทยในสมัยโบราณยังมีความเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้ประจำบ้านจะช่วยให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ด้วยคนไทยส่วนใหญ่ยอมรับว่าต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีคุณค่าสูงและยังเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไทยอีกด้วย นอกจากนี้มีความเชื่อว่า ใบของต้นราชพฤกษ์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะในพิธีทางไสยศาสตร์ให้ใบทำน้ำพุทธมนต์สะเดาะเคราะห์ได้ผลดีดังนั้นจึงถือว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลนาม[3]

อ้างอิง

  1. ศานิต สวัสดิกาญจน์ สุวิทย์ เฑียรทอง เนาวรัตน์ ประดับเพ็ชร์ สิริวรรณ สมิทธิอาภรณ์ และวริสรา ปลื้มฤดี. 2553. ผลของสารสกัดจากพืชบางชนิดต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของคะน้า. เรื่องเต็มการประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 48. 3-5 ก.พ. 2553 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หน้า 412-421
  2. หลักการเลือกพันธุ์ไม้ให้เหมาะสมกับทิศ
  3. การเป็นมงคล