ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ราชพฤกษ์"
ประภาพร227 (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ประภาพร227 (คุย | ส่วนร่วม) |
||
บรรทัด 41: | บรรทัด 41: | ||
ดอกราชพฤกษ์ดูเหมือนจะปลูกได้ในพื้นที่ใดก็ตามของประเทศไทย ความคุ้นเคยที่สามารถพบเห็นได้ทั่วประเทศไทยโดยเฉพาะตามสวนสาธารณะและตลอดทาง ดังนั้นจึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ดอกราชพฤกษ์ได้รับเลือกให้เป็น “ดอกไม้ประจำชาติ” |
ดอกราชพฤกษ์ดูเหมือนจะปลูกได้ในพื้นที่ใดก็ตามของประเทศไทย ความคุ้นเคยที่สามารถพบเห็นได้ทั่วประเทศไทยโดยเฉพาะตามสวนสาธารณะและตลอดทาง ดังนั้นจึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ดอกราชพฤกษ์ได้รับเลือกให้เป็น “ดอกไม้ประจำชาติ” |
||
=== การดูแลรักษา === |
|||
* '''แสง''' ต้นราชพฤกษ์ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง |
|||
* '''น้ำ''' ต้นราชพฤกษ์ต้องการปริมาณน้ำน้อย ควรให้น้ำ 7–10 วัน/ครั้ง อายุประมาณ 4 ปี สามารถทนต่อสภาพธรรมชาติได้ |
|||
* '''ดิน''' ต้นราชพฤกษ์เจริยเติบโตได้ดีดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ดินร่วนเหนียว |
|||
* '''ปุ๋ย''' ต้นราชพฤกษ์นิยมใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในการบำรุงรักษา อัตรา 2–3 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 3–4 ครั้ง |
|||
* '''การขยายพันธุ์''' ต้นราชพฤกษ์นิยมขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง การเพาะเมล็ด วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การเพาะเมล็ด |
|||
* '''โรค''' ต้นราชพฤกษ์ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติพอสมควร |
|||
* '''ศัตรู''' ต้นราชพฤกษ์มีศัตรูหนอนเจาะลำต้น (Stem boring caterpillars) จะมีอาการลำต้นหรือยอดเป็นรู เป็นรอยเจาะทำให้กิ่งหักงอ |
|||
* '''การป้องกัน''' ต้นราชพฤกษ์ควรปลูกโดยรักษาความสะอาดบริเวณแปลงปลูก หรือกำจัดแมลงพาหะ ใช้ยาเช่นเดียวกับการกำจัด |
|||
* '''การกำจัด''' ต้นราชพฤกษ์นิยมใช้ยาไดเมทโธเอท หรือ เมโธมิล อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก |
|||
== สรรพคุณ == |
== สรรพคุณ == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:43, 4 ตุลาคม 2563
ราชพฤกษ์ | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
หมวด: | Magnoliophyta |
ชั้น: | Rosopsida |
อันดับ: | Fabales |
วงศ์: | Fabaceae |
วงศ์ย่อย: | Caesalpinioideae |
เผ่า: | Cassieae |
สกุล: | Cassia |
สปีชีส์: | C. fistula |
ชื่อทวินาม | |
Cassia fistula L. | |
ชื่อพ้อง[1] | |
|
ดอกไม้ที่เรียกว่า "ดอกราชพฤกษ์ (ต้นพระราชา)" ในภาษาไทย โดยทั่วไปเป็นคำที่ประกอบด้วย ราช (ราชา) พฤกษ์ (กลีบ) จึงเรียกว่า "ดอกไม้ประจำชาติ" ในความเป็นจริงมันถูกกำหนดให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยในปี 2552
ลักษณะของดอกไม้
ลักษณะของดอกราชพฤกษ์คือช่อดอกห้อยลงคล้ายดอกวิสทีเรียญี่ปุ่น แต่ดอกราชพฤกษ์ให้ความรู้สึกสวยงามมากแตกต่างจากดอกวิสทีเรียญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกสงบมากกว่า ชื่อภาษาอังกฤษ คือ “Golden Shower” ลักษณะเหมือนฝนตกสีทอง ช่วงเวลาออกดอกจะใกล้เคียงกับดอกซากุระของญี่ปุ่น ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม นอกจากนี้ช่วงที่ใบไม้ร่วงหล่น และช่วงที่ดอกไม้บานก็คล้ายกับดอกซากุระ เมื่อโตขึ้น ต้นจะสูงประมาณ 10 เมตร ลำต้นมีสีขาวเทาหรือดำและดูเหมือนว่ากิ่งก้านที่เรียวยาวจะมีใบไม้รูปไข่ 4 ถึง 8 ใบทางซ้ายและขวา
สีเหลือง : สีของดอกราชพฤกษ์และประเทศไทย
สาเหตุหนึ่งที่ "ดอกราชพฤกษ์" ได้รับเลือกให้เป็นดอกไม้ประจำชาติ ดูเหมือนว่าสีของดอก "สีเหลือง" จะเกี่ยวข้องกับศาสนาและราชวงศ์ของไทย ศาสนาที่คนไทยนับถือมากที่สุด คือ "ศาสนาพุทธ" เมื่อพูดถึงศาสนาพุทธของไทยจะนึกถึงพระสงฆ์ห่มจีวรสีเหลือง ดังนั้นสีเหลืองจึงเป็นสีสำคัญในพระพุทธศาสนา ความสัมพันธ์กับราชวงศ์ คือ สีที่เป็นสัญลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร คือ “สีเหลือง” ในประเทศไทยมีการกำหนดสีสำหรับแต่ละวันเกิดและสีประจำวันเกิดของกษัตริย์ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 คือ “สีเหลือง”
ดอกราชพฤกษ์และชีวิตประจำวันของคนไทย
ดอกราชพฤกษ์ดูเหมือนจะปลูกได้ในพื้นที่ใดก็ตามของประเทศไทย ความคุ้นเคยที่สามารถพบเห็นได้ทั่วประเทศไทยโดยเฉพาะตามสวนสาธารณะและตลอดทาง ดังนั้นจึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ดอกราชพฤกษ์ได้รับเลือกให้เป็น “ดอกไม้ประจำชาติ”
สรรพคุณ
ส่วนต่าง ๆ ของต้นราชพฤกษ์มีประโยชน์ดังนี้
- ฝักแก่ เนื้อสีน้ำตาลดำและชื้นตลอดเวลา มีรสหวาน สามารถใช้เป็นยาระบายได้ โดยนำฝักมาต้มกับน้ำ และเติมเกลือเล็กน้อย ดื่มก่อนนอนหรือก่อนรับประทานอาหาร นอกจากนั้น ฝักแก่ยังมีสารที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทของแมลง เมื่อนำฝักมาบดผสมน้ำแช่ทิ้งไว้ประมาณ 2–3 วัน สารละลายที่กรองได้สามารถฉีดพ่นกำจัดแมลงและหนอนในแปลงผักได้ ฝักแก่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการหุงต้มด้วยเตาเศรษฐกิจ มีขนาดที่พอเหมาะ ไม่ต้องผ่า เลื่อยหรือตัด เนื้อของฝักแก่ใช้แทนกากน้ำตาลในการทำหัวเชื้อจุลินทรีย์และจุลินทรีย์ขยาย
- ฝักอ่อน สามารถใช้ขับเสมหะได้
- ใบ สามารถนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคได้
- ดอก ช่วยแก้แผลเรื้อรัง ใช้เป็นยาถ่าย ยาระบาย ช่วยหล่อลื่นลำไส้ รักษาโรคที่เกี่ยวกับกระเพาะอาหาร
นอกจากนั้น ราชพฤกษ์ยังเป็นพืชที่มีฤทธิ์ทางอัลลีโลพาที สารสกัดจากฝักด้วยเอทานอลสามารถยับยั้งการเจริญของคะน้าได้[2]
ความเชื่อ
ต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้มงคลนิยมใช้ประกอบพีธีที่สำคัญ เช่น พีธีเสาไม้หลักเมือง เป็นส่วนประกอบในการทำคฑาจอมพล และ ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร ทำพิธีปลูกบ้าน ฯลฯ
คนไทยในสมัยโบราณเชื่อว่า ควรปลูกต้นราชพฤกษ์ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านเรือนมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นทวีคูณ ซึ่งความเป็นจริงคือทิศดังกล่าวจะได้รับแดดจัดตลอดช่วงบ่าย จึงควรปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ลดความร้อนและทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น[3]
คนไทยในสมัยโบราณยังมีความเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้ประจำบ้านจะช่วยให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ด้วยคนไทยส่วนใหญ่ยอมรับว่าต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีคุณค่าสูงและยังเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไทยอีกด้วย นอกจากนี้มีความเชื่อว่า ใบของต้นราชพฤกษ์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะในพิธีทางไสยศาสตร์ให้ใบทำน้ำพุทธมนต์สะเดาะเคราะห์ได้ผลดีดังนั้นจึงถือว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลนาม[4]
อ้างอิง
- ↑ จาก itis.gov
- ↑ ศานิต สวัสดิกาญจน์ สุวิทย์ เฑียรทอง เนาวรัตน์ ประดับเพ็ชร์ สิริวรรณ สมิทธิอาภรณ์ และวริสรา ปลื้มฤดี. 2553. ผลของสารสกัดจากพืชบางชนิดต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของคะน้า. เรื่องเต็มการประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 48. 3-5 ก.พ. 2553 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หน้า 412-421
- ↑ หลักการเลือกพันธุ์ไม้ให้เหมาะสมกับทิศ
- ↑ การเป็นมงคล