ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระธรรมพัชรญาณมุนี (ฌอน ชยสาโร)"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 7: | บรรทัด 7: | ||
| สมณศักดิ์ = พระเทพพัชรญาณมุนี |
| สมณศักดิ์ = พระเทพพัชรญาณมุนี |
||
| วันเกิด = 7 มกราคม 2501 |
| วันเกิด = 7 มกราคม 2501 |
||
| วันบวช = |
| วันบวช = พ.ศ. 2523 |
||
| วันตาย = |
| วันตาย = |
||
| พรรษา = |
| พรรษา = |
||
| อายุ = |
| อายุ = {{อายุ|2501|1|7}} |
||
| วัด = สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี |
| วัด = สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี |
||
| จังหวัด = [[นครราชสีมา]] |
| จังหวัด = [[นครราชสีมา]] |
||
| สังกัด = |
| สังกัด = [[มหานิกาย]] |
||
| วุฒิ = |
| วุฒิ = |
||
| ตำแหน่ง = |
| ตำแหน่ง = |
||
บรรทัด 20: | บรรทัด 20: | ||
'''พระเทพพัชรญาณมุนี''' มีนามเดิมว่า '''ฌอน ไมเคิล ชิเวอร์ตัน''' ({{lang-en|Shaun Michael Chiverton}}) ฉายา '''ชยสาโร''' สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี [[จังหวัดนครราชสีมา]] เป็นพระฝรั่งที่ถ่ายทอดความลึกซึ้งทางธรรมฉบับภาษาไทยได้สละสลวย และเป็นที่ประทับใจต่อพุทธศาสนิกชนทั่วโลก<ref>[http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/health/20100726/344727/ชยสาโรภิกขุ-แรงศรัทธาบนความต่าง.html "ชยสาโรภิกขุ แรงศรัทธาบนความต่าง"] กรุงเทพธุรกิจออนไลน์. เรียกข้อมูลวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553.</ref> |
'''พระเทพพัชรญาณมุนี''' มีนามเดิมว่า '''ฌอน ไมเคิล ชิเวอร์ตัน''' ({{lang-en|Shaun Michael Chiverton}}) ฉายา '''ชยสาโร''' สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี [[จังหวัดนครราชสีมา]] เป็นพระฝรั่งที่ถ่ายทอดความลึกซึ้งทางธรรมฉบับภาษาไทยได้สละสลวย และเป็นที่ประทับใจต่อพุทธศาสนิกชนทั่วโลก<ref>[http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/health/20100726/344727/ชยสาโรภิกขุ-แรงศรัทธาบนความต่าง.html "ชยสาโรภิกขุ แรงศรัทธาบนความต่าง"] กรุงเทพธุรกิจออนไลน์. เรียกข้อมูลวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553.</ref> |
||
== ประวัติ == |
|||
⚫ | พระราชพัชรมานิตได้ยื่นเรื่องขอแปลงสัญชาติเป็นไทยต่อ[[กระทรวงมหาดไทย]] กระทั่งวันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2563 [[พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว]] จึงได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยเป็นกรณีพิเศษแก่พระราชพัชรมานิตด้วยเหตุผลที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า ได้เข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน เป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย แตกฉานในพระธรรมคำสอน มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่ธรรมะทั้งในประเทศไทยและนานาชาติ กับเคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติมาก่อน ถือเป็นผู้ทำคุณประโยชน์เป็นพิเศษต่อประเทศไทยและพระพุทธศาสนา<ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/054/T_0001.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยเป็นกรณีพิเศษ]</ref> |
||
⚫ | |||
⚫ | พระเทพพัชรญาณมุนี เกิดวันที่ 7 มกราคม 2501 เกาะไอล์ออฟไวต์ ประเทศอังกฤษ เมื่อยังเล็กท่านมีสุขภาพไม่ดี มีอาการหอบหืด แม้จะต้องหยุดโรงเรียนบ่อย แต่ก็ได้ใช้เวลาในการศึกษาด้วยตนเอง ด้วยความเป็นคนที่ช่างคิด ช่างค้นคว้าจึงมีผลการเรียนที่ดีเยี่ยมจนบิดามีความหวังให้เข้าสอบชิงทุนเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศอังกฤษ แต่สิ่งที่สนใจจริงแล้วก็คืออะไรคือสิ่งสูงสุดที่เราจะได้จากการเป็นมนุษย์ อะไรคือความจริงสากลที่ไม่ขึ้นอยู่กับสมมุติของแต่ละสังคม ทำไมคนเราอยากจะอยู่อย่างเป็นมิตรแต่กลับรบราฆ่าฟันกันอยู่เรื่อยไป |
||
จากนั้นในวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 [[พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ได้มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ '''พระเทพพัชรญาณมุนี วิปัสสนาวิธีโกศล วิมลภาวนาวรกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี''' |
|||
⚫ | |||
⚫ | พระ |
||
== การแสวงหาสัจธรรม |
=== การแสวงหาสัจธรรม === |
||
เมื่อไม่มีบุคคลใดสามารถให้คำตอบแก่ท่านได้ ท่านจึงเริ่มอ่านหนังสือต่างๆมากมายหลากหลาย จนกระทั่งพบคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาว่าเป็น "สัจธรรมความจริง" ที่กำลังแสวงหาอยู่ จึงสนใจการฝึกจิตและศึกษาหาความรู้ทางพุทธศาสนาตั้งแต่อยู่ในวัยรุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญให้ท่านเริ่มทำงานเก็บเงินและออกเดินทางหาประสบการณ์ในประเทศต่างๆ อาทิ ประเทศอิหร่านซึ่งลำบากมาก ถึงขนาดที่ว่าเคยโดนซ้อม แต่ท่านก็ไม่ย่อท้อจนมีคนชวนท่านไปอยู่ที่บ้านเพื่อให้สอนภาษาอังกฤษให้แลกกับการให้ที่พักและอาหาร หรือเมื่อครั้งท่านไปประพฤติตนเป็นฤๅษีที่อินเดีย แต่สุดท้ายก็มีเหตุจากปัจจัยภายนอกทำให้ท่านต้องเดินทางกลับ ท่านเดินทางไปทั่ว จนแน่ใจว่าการศึกษาและปฏิบัติธรรม อันเป็นหนทางที่ต้องการแทนการเรียนต่อในมหาวิทยาลัย โดยท่านใช้เวลาค้นหาสิ่งที่ท่านต้องการตั้งแต่อายุ 17 ปี ใช้เวลา 2 ปี จนเมื่อ พ.ศ. 2521 ท่านได้พบและเริ่มปฏิบัติกับ[[พระเทพญาณวิเทศ (โรเบิร์ต สุเมโธ)|พระอาจารย์สุเมโธ]] (พระชาวต่างชาติรูปแรกที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา สุภทฺโท) ที่วิหารแฮมสเตด ประเทศอังกฤษ และได้ถือเพศเป็น[[อนาคาริก]] (ปะขาว) อยู่กับท่านพระอาจารย์สุเมโธ ถือศีล 10 เป็นเวลา 1 พรรษา แล้วเดินทางมายังประเทศไทย |
เมื่อไม่มีบุคคลใดสามารถให้คำตอบแก่ท่านได้ ท่านจึงเริ่มอ่านหนังสือต่างๆมากมายหลากหลาย จนกระทั่งพบคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาว่าเป็น "สัจธรรมความจริง" ที่กำลังแสวงหาอยู่ จึงสนใจการฝึกจิตและศึกษาหาความรู้ทางพุทธศาสนาตั้งแต่อยู่ในวัยรุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญให้ท่านเริ่มทำงานเก็บเงินและออกเดินทางหาประสบการณ์ในประเทศต่างๆ อาทิ ประเทศอิหร่านซึ่งลำบากมาก ถึงขนาดที่ว่าเคยโดนซ้อม แต่ท่านก็ไม่ย่อท้อจนมีคนชวนท่านไปอยู่ที่บ้านเพื่อให้สอนภาษาอังกฤษให้แลกกับการให้ที่พักและอาหาร หรือเมื่อครั้งท่านไปประพฤติตนเป็นฤๅษีที่อินเดีย แต่สุดท้ายก็มีเหตุจากปัจจัยภายนอกทำให้ท่านต้องเดินทางกลับ ท่านเดินทางไปทั่ว จนแน่ใจว่าการศึกษาและปฏิบัติธรรม อันเป็นหนทางที่ต้องการแทนการเรียนต่อในมหาวิทยาลัย โดยท่านใช้เวลาค้นหาสิ่งที่ท่านต้องการตั้งแต่อายุ 17 ปี ใช้เวลา 2 ปี จนเมื่อ พ.ศ. 2521 ท่านได้พบและเริ่มปฏิบัติกับ[[พระเทพญาณวิเทศ (โรเบิร์ต สุเมโธ)|พระอาจารย์สุเมโธ]] (พระชาวต่างชาติรูปแรกที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา สุภทฺโท) ที่วิหารแฮมสเตด ประเทศอังกฤษ และได้ถือเพศเป็น[[อนาคาริก]] (ปะขาว) อยู่กับท่านพระอาจารย์สุเมโธ ถือศีล 10 เป็นเวลา 1 พรรษา แล้วเดินทางมายังประเทศไทย |
||
== ชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ == |
=== ชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ === |
||
แม้ว่าท่านจะได้ปฏิบัติมาบ้างเมื่ออยู่กับพระอาจารย์สุเมโธมาแล้วก็ตาม แต่หลวงพ่อชาก็ยังไม่บวชให้ ท่านรับการฝึกฝนเคี่ยวเข็ญด้วยอุบายต่าง ๆ จากหลวงพ่อชา ท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อหลวงพ่อชาถามว่า อยากบวชไหม หากบอกว่า อยาก ท่านก็จะตอบว่า ยังไม่ให้บวช จนกว่าจะตอบว่า "แล้วแต่หลวงพ่อ" ท่านจึงได้บวช เมื่อ พ.ศ. 2523 โดยอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดหนองป่าพง โดยมี[[พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)]] เป็นพระอุปัชฌาย์<ref>[http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/pra-chayasaro/pra-chayasaro-hist-01.htm พระอาจารย์ฌอน ชยสาโร]</ref> |
แม้ว่าท่านจะได้ปฏิบัติมาบ้างเมื่ออยู่กับพระอาจารย์สุเมโธมาแล้วก็ตาม แต่หลวงพ่อชาก็ยังไม่บวชให้ ท่านรับการฝึกฝนเคี่ยวเข็ญด้วยอุบายต่าง ๆ จากหลวงพ่อชา ท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อหลวงพ่อชาถามว่า อยากบวชไหม หากบอกว่า อยาก ท่านก็จะตอบว่า ยังไม่ให้บวช จนกว่าจะตอบว่า "แล้วแต่หลวงพ่อ" ท่านจึงได้บวช เมื่อ พ.ศ. 2523 โดยอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดหนองป่าพง โดยมี[[พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)]] เป็นพระอุปัชฌาย์<ref>[http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/pra-chayasaro/pra-chayasaro-hist-01.htm พระอาจารย์ฌอน ชยสาโร]</ref> |
||
บรรทัด 40: | บรรทัด 37: | ||
ปัจจุบันพระอาจารย์ชยสาโรพำนักอยู่ ณ สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา<ref>[http://www.thawsischool.com/dhamma-news.html" ธรรมเทศนาพระอาจารย์ชยสาโร"].</ref> |
ปัจจุบันพระอาจารย์ชยสาโรพำนักอยู่ ณ สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา<ref>[http://www.thawsischool.com/dhamma-news.html" ธรรมเทศนาพระอาจารย์ชยสาโร"].</ref> |
||
== การแปลงสัญชาติเป็นกรณีพิเศษ == |
|||
⚫ | พระราชพัชรมานิตได้ยื่นเรื่องขอแปลงสัญชาติเป็นไทยต่อ[[กระทรวงมหาดไทย]] กระทั่งวันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2563 [[พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว]] จึงได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยเป็นกรณีพิเศษแก่พระราชพัชรมานิตด้วยเหตุผลที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า ได้เข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน เป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย แตกฉานในพระธรรมคำสอน มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่ธรรมะทั้งในประเทศไทยและนานาชาติ กับเคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติมาก่อน ถือเป็นผู้ทำคุณประโยชน์เป็นพิเศษต่อประเทศไทยและพระพุทธศาสนา<ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/054/T_0001.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยเป็นกรณีพิเศษ]</ref> |
||
==สมณศักดิ์== |
==สมณศักดิ์== |
||
บรรทัด 51: | บรรทัด 51: | ||
* [http://dhamma.vayoclub.com/index.php?topic=307.0 ประวัติ พระอาจารย์ ชยสาโร ฌอน ชิเวอร์ตัน] |
* [http://dhamma.vayoclub.com/index.php?topic=307.0 ประวัติ พระอาจารย์ ชยสาโร ฌอน ชิเวอร์ตัน] |
||
{{เรียงลำดับ| |
{{เรียงลำดับ|เทพพัชรญาณมุนี}} |
||
{{อายุขัย|2501}} |
{{อายุขัย|2501}} |
||
⚫ | |||
[[หมวดหมู่:สายพระป่าในประเทศไทย]] |
|||
[[หมวดหมู่:บุคคลที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธ]] |
[[หมวดหมู่:บุคคลที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธ]] |
||
⚫ | |||
[[หมวดหมู่:ภิกษุในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย]] |
[[หมวดหมู่:ภิกษุในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย]] |
||
[[หมวดหมู่:พระราชาคณะชั้นเทพ|พัชรญาณมุนี]] |
[[หมวดหมู่:พระราชาคณะชั้นเทพ|พัชรญาณมุนี]] |
||
[[หมวดหมู่: |
[[หมวดหมู่:ชาวไทยเชื้อสายสหราชอาณาจักร]] |
||
[[หมวดหมู่:บุคคลจากมณฑลไอล์ออฟไวท์]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:50, 24 กรกฎาคม 2563
พระเทพพัชรญาณมุนี (ฌอน ชิเวอร์ตัน ชยสาโร) | |
---|---|
คำนำหน้าชื่อ | พระเดชพระคุณ |
ชื่ออื่น | พระอาจารย์ชยสาโร |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 7 มกราคม 2501 (66 ปี) |
นิกาย | มหานิกาย |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี นครราชสีมา |
อุปสมบท | พ.ศ. 2523 |
พระเทพพัชรญาณมุนี มีนามเดิมว่า ฌอน ไมเคิล ชิเวอร์ตัน (อังกฤษ: Shaun Michael Chiverton) ฉายา ชยสาโร สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี จังหวัดนครราชสีมา เป็นพระฝรั่งที่ถ่ายทอดความลึกซึ้งทางธรรมฉบับภาษาไทยได้สละสลวย และเป็นที่ประทับใจต่อพุทธศาสนิกชนทั่วโลก[1]
ประวัติ
การศึกษา
พระเทพพัชรญาณมุนี เกิดวันที่ 7 มกราคม 2501 เกาะไอล์ออฟไวต์ ประเทศอังกฤษ เมื่อยังเล็กท่านมีสุขภาพไม่ดี มีอาการหอบหืด แม้จะต้องหยุดโรงเรียนบ่อย แต่ก็ได้ใช้เวลาในการศึกษาด้วยตนเอง ด้วยความเป็นคนที่ช่างคิด ช่างค้นคว้าจึงมีผลการเรียนที่ดีเยี่ยมจนบิดามีความหวังให้เข้าสอบชิงทุนเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศอังกฤษ แต่สิ่งที่สนใจจริงแล้วก็คืออะไรคือสิ่งสูงสุดที่เราจะได้จากการเป็นมนุษย์ อะไรคือความจริงสากลที่ไม่ขึ้นอยู่กับสมมุติของแต่ละสังคม ทำไมคนเราอยากจะอยู่อย่างเป็นมิตรแต่กลับรบราฆ่าฟันกันอยู่เรื่อยไป
การแสวงหาสัจธรรม
เมื่อไม่มีบุคคลใดสามารถให้คำตอบแก่ท่านได้ ท่านจึงเริ่มอ่านหนังสือต่างๆมากมายหลากหลาย จนกระทั่งพบคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาว่าเป็น "สัจธรรมความจริง" ที่กำลังแสวงหาอยู่ จึงสนใจการฝึกจิตและศึกษาหาความรู้ทางพุทธศาสนาตั้งแต่อยู่ในวัยรุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญให้ท่านเริ่มทำงานเก็บเงินและออกเดินทางหาประสบการณ์ในประเทศต่างๆ อาทิ ประเทศอิหร่านซึ่งลำบากมาก ถึงขนาดที่ว่าเคยโดนซ้อม แต่ท่านก็ไม่ย่อท้อจนมีคนชวนท่านไปอยู่ที่บ้านเพื่อให้สอนภาษาอังกฤษให้แลกกับการให้ที่พักและอาหาร หรือเมื่อครั้งท่านไปประพฤติตนเป็นฤๅษีที่อินเดีย แต่สุดท้ายก็มีเหตุจากปัจจัยภายนอกทำให้ท่านต้องเดินทางกลับ ท่านเดินทางไปทั่ว จนแน่ใจว่าการศึกษาและปฏิบัติธรรม อันเป็นหนทางที่ต้องการแทนการเรียนต่อในมหาวิทยาลัย โดยท่านใช้เวลาค้นหาสิ่งที่ท่านต้องการตั้งแต่อายุ 17 ปี ใช้เวลา 2 ปี จนเมื่อ พ.ศ. 2521 ท่านได้พบและเริ่มปฏิบัติกับพระอาจารย์สุเมโธ (พระชาวต่างชาติรูปแรกที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา สุภทฺโท) ที่วิหารแฮมสเตด ประเทศอังกฤษ และได้ถือเพศเป็นอนาคาริก (ปะขาว) อยู่กับท่านพระอาจารย์สุเมโธ ถือศีล 10 เป็นเวลา 1 พรรษา แล้วเดินทางมายังประเทศไทย
ชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์
แม้ว่าท่านจะได้ปฏิบัติมาบ้างเมื่ออยู่กับพระอาจารย์สุเมโธมาแล้วก็ตาม แต่หลวงพ่อชาก็ยังไม่บวชให้ ท่านรับการฝึกฝนเคี่ยวเข็ญด้วยอุบายต่าง ๆ จากหลวงพ่อชา ท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อหลวงพ่อชาถามว่า อยากบวชไหม หากบอกว่า อยาก ท่านก็จะตอบว่า ยังไม่ให้บวช จนกว่าจะตอบว่า "แล้วแต่หลวงพ่อ" ท่านจึงได้บวช เมื่อ พ.ศ. 2523 โดยอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดหนองป่าพง โดยมีพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) เป็นพระอุปัชฌาย์[2]
ก่อนเดินทางมาประเทศไทย ท่านได้ตั้งใจว่าจะอยู่ที่วัดหนองป่าพง ให้ครบ 5 ปี โดยไม่มีเงื่อนไขเพื่อศึกษาปฏิบัติธรรม เมื่อมาพบหลวงพ่อชา ก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาในปฏิปทาและความเป็นครูที่มีทั้งเมตตา และปัญญาในการสอนอย่างลึกซึ้ง จึงสามารถทนต่อความยากลำบากในการปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตแบบพระวัดป่า ที่เข้มงวดในวินัย และการฝึกปฏิบัติตามรอยพระพุทธเจ้า และการอยู่ร่วมกับคณะสงฆ์ชาวไทยจนเกิดความก้าวหน้าและเบิกบานในธรรม แนวการสอนของหลวงพ่อชาเน้นการปฏิบัติการรักษาศีล และข้อวัตรปฏิบัติ ความอดทน ความเพียร การใคร่ครวญหลักธรรม และน้อมมาสู่ใจให้เฝ้าสังเกตจนรู้ทันอารมณ์ของตนเอง และสามารถใช้สติปัญญาในการสร้างประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่นพร้อมกันไป ทำให้ท่านผูกพันกับหลวงพ่อชามาก
เหตุที่เลือกยึดหลักเถรวาท เพราะท่านมีความตั้งใจ ต้องการจะทุ่มเทกาย ถวายชีวิตให้กับพระพุทธศาสนา เพื่อบรรลุมรรคผลนิพพานและที่ชอบฝ่ายเถรวาท เพราะถูกจริต ตรงไปตรงมา ไม่มีพิธีรีตองมากมายเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เข้ามาเกี่ยวกับกาย กับใจ กับทุกข์ การที่จะอยู่กับป่ากับ ธรรมชาติ อย่างที่สาวกพระพุทธเจ้าเคยปฏิบัติในสมัยพุทธกาล
แม้ว่าท่านจะเป็นชาวต่างชาติแต่เรื่องภาษาไม่ใช่อุปสรรค เพราะท่านเชื่อว่าภาษาพื้นฐาน คือบาลีสันสกฤต ซึ่งทั้งคนไทยและต่างชาติก็ต้องเริ่มมาเรียนรู้เหมือนกัน ภาษามีความยากพอกัน แต่คนไทยอาจจะง่ายกว่าที่ศัพท์ไทยมีบาลีสันสกฤต ท่านจึงต้องพยายามและขยันมากหน่อย แต่ก็ไม่นาน โดยท่านใช้วิธีการท่องตัวอักษรจนกระทั่งอ่านได้ จากนั้นก็อยู่คนเดียว ค่อย ๆ อ่าน ดูศัพท์ในดิกชันนารี อีกทั้งอยู่กับครูบาอาจารย์ ไม่ได้เรียนทฤษฎีอะไรมากมาย ก็ปฏิบัติไปด้วย มีการพิสูจน์ไปด้วย ได้ปรึกษาหารือกับครูบาอาจารย์ ได้อ่านได้ฟัง พูดคุยกับพระด้วยกัน ทั้งหมดเป็นชีวิตของท่าน ท่านเองก็ต้องคลุกคลีกับสิ่งนี้อยู่แล้วจึงไม่ยากเท่าไร
ปัจจุบันพระอาจารย์ชยสาโรพำนักอยู่ ณ สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา[3]
การแปลงสัญชาติเป็นกรณีพิเศษ
พระราชพัชรมานิตได้ยื่นเรื่องขอแปลงสัญชาติเป็นไทยต่อกระทรวงมหาดไทย กระทั่งวันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2563 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยเป็นกรณีพิเศษแก่พระราชพัชรมานิตด้วยเหตุผลที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า ได้เข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน เป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย แตกฉานในพระธรรมคำสอน มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่ธรรมะทั้งในประเทศไทยและนานาชาติ กับเคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติมาก่อน ถือเป็นผู้ทำคุณประโยชน์เป็นพิเศษต่อประเทศไทยและพระพุทธศาสนา[4]
สมณศักดิ์
- 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระราชพัชรมานิต พิสิฐธรรมคุณสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี [5]
- 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระเทพพัชรญาณมุนี วิปัสสนาวิธีโกศล วิมลภาวนาวรกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[6]
อ้างอิง
- ↑ "ชยสาโรภิกขุ แรงศรัทธาบนความต่าง" กรุงเทพธุรกิจออนไลน์. เรียกข้อมูลวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553.
- ↑ พระอาจารย์ฌอน ชยสาโร
- ↑ " ธรรมเทศนาพระอาจารย์ชยสาโร".
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยเป็นกรณีพิเศษ
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการประกาศ เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 136, ตอนที่ 40 ข, 28 กรกฎาคม 2562 , หน้า 13
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์