ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ตลาดหลักทรัพย์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 3: บรรทัด 3:
เพื่อให้สามารถลงทุนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์บางแห่ง หลักทรัพย์ต้องมีการแสดงรายการต่างๆ โดยปกตินั้น จะตั้งอยู่ที่ตั้งศูนย์กลางที่เล็กที่สุดสำหรับการเก็บบันทึกข้อมูล แต่การลงทุนนั้นจะเชื่อมโยงกับสถานที่จริงได้น้อยลง เนื่องจากตลาดสมัยใหม่ได้ใช้[[ระบบเครือข่ายการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์]] ซึ่งทำให้พวกเขามีความได้เปรียบในด้านความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นและลดต้นทุนในการทำธุรกรรม การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้นจำกัดเฉพาะโบรกเกอร์ที่เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงไม่กี่ปี ช่องทางการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างๆ มากกมาย เช่น ระบบเครือข่ายการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ [[ระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ทางเลือก]] และ"[[ดาร์คพลู]]" ซึ่งมีกิจกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีความแตกต่างไปจากตลาดหลักทรัพย์แบบดั้งเดิม<ref>Lemke and Lins, ''Soft Dollars and Other Trading Activities'', §§2:25 - 2:30 (Thomson West, 2013-2014 ed.).</ref>
เพื่อให้สามารถลงทุนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์บางแห่ง หลักทรัพย์ต้องมีการแสดงรายการต่างๆ โดยปกตินั้น จะตั้งอยู่ที่ตั้งศูนย์กลางที่เล็กที่สุดสำหรับการเก็บบันทึกข้อมูล แต่การลงทุนนั้นจะเชื่อมโยงกับสถานที่จริงได้น้อยลง เนื่องจากตลาดสมัยใหม่ได้ใช้[[ระบบเครือข่ายการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์]] ซึ่งทำให้พวกเขามีความได้เปรียบในด้านความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นและลดต้นทุนในการทำธุรกรรม การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้นจำกัดเฉพาะโบรกเกอร์ที่เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงไม่กี่ปี ช่องทางการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างๆ มากกมาย เช่น ระบบเครือข่ายการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ [[ระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ทางเลือก]] และ"[[ดาร์คพลู]]" ซึ่งมีกิจกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีความแตกต่างไปจากตลาดหลักทรัพย์แบบดั้งเดิม<ref>Lemke and Lins, ''Soft Dollars and Other Trading Activities'', §§2:25 - 2:30 (Thomson West, 2013-2014 ed.).</ref>


[[การเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก|การเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก]]ของหุ้นและพันธบัตรให้กับนักลงทุนที่จะทำกันใน[[ตลาดหลัก]]และตามมาด้วยการลงทุนซื้อขายที่จะทำกันใน[[ตลาดรอง]] ตลาดหลักทรัพย์มักเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของ[[ตลาดหุ้น]] อุปสงค์และอุปทานในตลาดหุ้นได้รับแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยต่างๆ ที่ใน[[ตลาดเสรี]]ทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลต่อราคาของหุ้น(ดูที่การประเมินมูลค่าหุ้น)
[[การเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก|การเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก]]ของหุ้นและพันธบัตรให้กับนักลงทุนที่จะทำกันใน[[ตลาดหลัก]]และตามมาด้วยการลงทุนซื้อขายหุ้นที่จะทำกันใน[[ตลาดรอง]] ตลาดหลักทรัพย์มักเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของ[[ตลาดหุ้น]] อุปสงค์และอุปทานในตลาดหุ้นได้รับแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยต่างๆ ที่ใน[[ตลาดเสรี]]ทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลต่อราคาของหุ้น(ดูที่การประเมินมูลค่าหุ้น)


โดยทั่วไป จะไม่มีข้อผูกมัดใดๆ สำหรับหุ้นที่ถูกออกผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ และจะต้องไม่ทำการซื้อขายหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงในภายหลัง เช่น การซื้อขายดังกล่าวอาจจะต้องผ่านทางตลาดเจรจาต่อรอง(off exchange หรือ over-the-counter) นี่เป็นวิธีแบบปกติที่มีการซื้อขายตราสารอนุพันธ์และพันธบัตร เพื่อที่จะเพิ่มมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก ตลาดหลักทรัพย์ยังทำหน้าที่ทางเศรษฐกิจในการให้สถาพคล่องแก่ผู้ที่ถือหุ้นในการจัดหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพในจัดการหุ้น
โดยทั่วไป จะไม่มีข้อผูกมัดใดๆ สำหรับหุ้นที่ถูกออกผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ และจะต้องไม่ทำการซื้อขายหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงในภายหลัง เช่น การซื้อขายดังกล่าวอาจจะต้องผ่านทางตลาดเจรจาต่อรอง(off exchange หรือ over-the-counter) นี่เป็นวิธีแบบปกติที่มีการซื้อขายตราสารอนุพันธ์และพันธบัตร เพื่อที่จะเพิ่มมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก ตลาดหลักทรัพย์ยังทำหน้าที่ทางเศรษฐกิจในการให้สถาพคล่องแก่ผู้ที่ถือหุ้นในการจัดหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพในจัดการหุ้น

รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:59, 4 กรกฎาคม 2563

ตลาดหลักทรัพย์ (stock exchange, securities exchange, หรือ bourse) เป็นสถานที่ที่นายหน้าซื้อขายหุ้น(โบรกเกอร์) และนักลงทุนสามารถซื้อและขายหลักทรัพย์ เช่น หุ้นของทุน พันธบัตร และเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ ตลาดหลักทรัพย์ยังให้บริการอำนวยความสะดวกสำหรับการออกและไถ่ถอนหลักทรัพย์ เช่น ตราสาร และกิจกรรมเงินทุน รวมถึงการจ่ายรายได้และเงินปันผล หลักทรัพย์ที่ลงทุนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ประกอบไปด้วย หุ้นที่ถูกออกโดยบริษัทที่จดทะเบียน หน่วยลงทุน ตราสารอนุพันธ์ ผลิตภัณฑ์การลงทุนรวม และพันธบัตร ตลาดหลักทรัพย์มักจะทำหน้าที่เป็นตลาด"การประมูลขายทอดตลาดอย่างต่อเนื่อง" กับผู้ซื้อและผู้ขายที่ทำธุรกรรมผ่าน Open outcry ที่ตำแหน่งศูนย์กลาง เช่น ชั้นของการแลกเปลี่ยน หรือการใช้บริการระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์(electronic trading platform)[1]

เพื่อให้สามารถลงทุนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์บางแห่ง หลักทรัพย์ต้องมีการแสดงรายการต่างๆ โดยปกตินั้น จะตั้งอยู่ที่ตั้งศูนย์กลางที่เล็กที่สุดสำหรับการเก็บบันทึกข้อมูล แต่การลงทุนนั้นจะเชื่อมโยงกับสถานที่จริงได้น้อยลง เนื่องจากตลาดสมัยใหม่ได้ใช้ระบบเครือข่ายการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทำให้พวกเขามีความได้เปรียบในด้านความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นและลดต้นทุนในการทำธุรกรรม การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้นจำกัดเฉพาะโบรกเกอร์ที่เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงไม่กี่ปี ช่องทางการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างๆ มากกมาย เช่น ระบบเครือข่ายการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ทางเลือก และ"ดาร์คพลู" ซึ่งมีกิจกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีความแตกต่างไปจากตลาดหลักทรัพย์แบบดั้งเดิม[2]

การเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกของหุ้นและพันธบัตรให้กับนักลงทุนที่จะทำกันในตลาดหลักและตามมาด้วยการลงทุนซื้อขายหุ้นที่จะทำกันในตลาดรอง ตลาดหลักทรัพย์มักเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของตลาดหุ้น อุปสงค์และอุปทานในตลาดหุ้นได้รับแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยต่างๆ ที่ในตลาดเสรีทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลต่อราคาของหุ้น(ดูที่การประเมินมูลค่าหุ้น)

โดยทั่วไป จะไม่มีข้อผูกมัดใดๆ สำหรับหุ้นที่ถูกออกผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ และจะต้องไม่ทำการซื้อขายหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงในภายหลัง เช่น การซื้อขายดังกล่าวอาจจะต้องผ่านทางตลาดเจรจาต่อรอง(off exchange หรือ over-the-counter) นี่เป็นวิธีแบบปกติที่มีการซื้อขายตราสารอนุพันธ์และพันธบัตร เพื่อที่จะเพิ่มมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก ตลาดหลักทรัพย์ยังทำหน้าที่ทางเศรษฐกิจในการให้สถาพคล่องแก่ผู้ที่ถือหุ้นในการจัดหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพในจัดการหุ้น

ดัชนีราคาหุ้น

ประชาชนโดยทั่วไป จะรู้จักตลาดหลักทรัพย์ของประเทศต่าง ๆ ผ่านทางชื่อดัชนีราคาหุ้น (Price Index) ของตลาดหลักทรัพย์นั้น ๆ มากกว่าชื่อของตลาดหลักทรัพย์ ตัวอย่างดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นที่รู้จัก เช่น

ประเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกทรัพย์ ดัชนีราคาหุ้น
สหรัฐอเมริกา ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ดาวโจนส์
สหรัฐอเมริกา ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) เอสแอนด์พี 500
สหรัฐอเมริกา แนสแด็ก (NASDAQ) แนสแด็ก
อังกฤษ ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ฟุตซี่
สิงคโปร์ ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ สเตรทไทมส์
ญี่ปุ่น ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว นิกเคอิ
จีน ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต
ฮ่องกง ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ฮั่งเส็ง
ไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย SET
ไทย ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ MAI

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก หรือ New York Stock Exchange ถือไว้ว่าเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่เก่าแก่ที่สุด[3] และดัชนีดาวโจนส์ ถือว่าเป็นดัชนีราคาหลักทรัพย์ที่เก่าแก่ที่สุด ตลาดหลักทรัพย์ลาว[4] เป็นตลาดหลักทรัพย์ล่าสุด(เปิด10-10-10)เปิดทำการจริง 11-01-11 ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกจะนิยมใช้การคิดดัชนีราคาหลักทรัพย์ตามแบบ เอสแอนด์พี S&P ซึ่งคิดค้นโดยบริษัท สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ จำกัด เป็นส่วนใหญ่เนื่องจากจะสามารถสะท้อนถึงปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดได้ดีกว่าทั้งในด้านปริมาณของธุรกรรม และด้านราคาของหลักทรัพย์

มูลค่าตลาด

30 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด

  1. Apple (แอปเปิ้ล) ประมาณ $556,000,000,000
  2. General Electric (จีอี) $368,648,614,000
  3. Microsoft (ไมโครซอฟท์) $272,878,675,566
  4. Gazprom $250,132,759,200
  5. Citigroup (ธนาคารซิตี้แบงค์) $247,644,960,000
  6. Bank of America $246,253,076,390
  7. Royal Dutch Shell $219,640,875,000
  8. BP $212,327,784,000
  9. Pfizer (ไฟเซอร์) $207,151,515,000
  10. Wal-Mart Stores (วอล์มาร์ท) $206,200,322,720
  11. HSBC Holdings $204,521,208,000
  12. Procter & Gamble (พีแอนด์จี) $197,808,730,000
  13. Johnson & Johnson $191,594,050,000
  14. PetroChina $187,881,490,000
  15. Toyota Motor (โตโยต้า) $179,968,527,000
  16. American International Group (เอไอเอ หรือ เอไอจี) $173,313,972,000
  17. JPMorgan Chase $165,764,125,000
  18. Altria Groups $158,352,340,000
  19. GlaxoSmithKline $155,432,960,000
  20. Total SA $155,411,841,000
  21. Roche Holding $151,379,753,850
  22. Berkshire Hathaway $150,303,366,000
  23. Vodafone Group (บริษัทเครือข่ายมือถือรายใหญ่ในยุโรป) $145,192,590,000
  24. China Mobile $143,840,856,000
  25. Cisco Systems $142,098,700,000
  26. Chevron $138,342,120,000
  27. Novartis AG $137,499,012,000
  28. Nestle (เนสเลท์) $135,251,120,000
  29. Mitsubishi UFJ Financial Group $127,881,468,000
  30. AT&T (บริษัทโทรศัพท์พื้นฐานของอเมริกา) $126,430,710,000

ในวันที่ 02/11/2555

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. Lemke and Lins, Soft Dollars and Other Trading Activities, §2:3 (Thomson West, 2013-2014 ed.).
  2. Lemke and Lins, Soft Dollars and Other Trading Activities, §§2:25 - 2:30 (Thomson West, 2013-2014 ed.).
  3. หลักการลงทุน ศาสตรจารย์เพชรี ขุมทรัพย์
  4. ตลาดหลักทรัพย์ลาว

แหล่งข้อมูลอื่น