ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เคปเลอร์-16บี"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
AekwatNs (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
AekwatNs (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 77: บรรทัด 77:
'''เคปเลอร์-16บี''' ({{lang-en|Kepler-16b}}) หรือชื่อเดิมคือ '''เคปเลอร์-16 (เอบี)-บี''' เป็น[[ดาวเคราะห์นอกระบบ]]มันเป็นดาวเคราะห์มวล[[ดาวเสาร์]]ประกอบด้วย[[ก๊าซ]]และ[[หิน]]ครึ่งหนึ่งและ[[น้ำแข็ง]]<ref name=scienceNews>{{cite web|last=Drake|first=Nadia|title=On Kepler-16b, shadows come in pairs |url=http://www.sciencenews.org/view/generic/id/334409/title/On_Kepler-16b,_shadows_come_in_pairs|work=Science News|publisher=Society for Science & the Public|accessdate=16 September 2011}}</ref> โคจรรอบ[[ระบบดาวคู่]] [[เคปเลอร์-16]] ด้วยระยะเวลา 229 วัน<ref name=discovery_article/> เป็นครั้งแรกที่มีการยืนยันอย่างชัดเจนว่ามี[[ดาวเคราะห์รอบดาวฤกษ์คู่|ดาวเคราะห์​]]ที่โคจรรอบดาวฤกษ์​สองดวง
'''เคปเลอร์-16บี''' ({{lang-en|Kepler-16b}}) หรือชื่อเดิมคือ '''เคปเลอร์-16 (เอบี)-บี''' เป็น[[ดาวเคราะห์นอกระบบ]]มันเป็นดาวเคราะห์มวล[[ดาวเสาร์]]ประกอบด้วย[[ก๊าซ]]และ[[หิน]]ครึ่งหนึ่งและ[[น้ำแข็ง]]<ref name=scienceNews>{{cite web|last=Drake|first=Nadia|title=On Kepler-16b, shadows come in pairs |url=http://www.sciencenews.org/view/generic/id/334409/title/On_Kepler-16b,_shadows_come_in_pairs|work=Science News|publisher=Society for Science & the Public|accessdate=16 September 2011}}</ref> โคจรรอบ[[ระบบดาวคู่]] [[เคปเลอร์-16]] ด้วยระยะเวลา 229 วัน<ref name=discovery_article/> เป็นครั้งแรกที่มีการยืนยันอย่างชัดเจนว่ามี[[ดาวเคราะห์รอบดาวฤกษ์คู่|ดาวเคราะห์​]]ที่โคจรรอบดาวฤกษ์​สองดวง


ดาวเคราะห์ดวงนี้ถูกค้นพบโดยใช้[[กล้องโทรทรรศน์อวกาศ]]ต่างประเทศ คือ[[ยานอวกาศเคปเลอร์]]<ref name=laTimes>{{cite news|last=Gold|first=Scott|title=Scientists find planet orbiting two suns like in 'Star Wars'|url=http://www.latimes.com/news/local/la-me-double-sun-20110916,0,7303143.story|accessdate=16 September 2011|newspaper=Los Angeles Times|date=2011-09-15}}</ref>ของ[[นาซ่า]] นักวิทยาศาสตร์ก็สามารถตรวจจับดาวเคราะห์ดวงโดยใช้วิธีการขนส่งตอนที่พวกเขาสังเกตเห็นแสงสลัวของหนึ่งในดาวของระบบแม้ในขณะที่คนอื่นๆ ไม่ได้กระไรแล้ว<ref name=nyTimes>{{cite news|last=Overbye|first=Dennis|title=NASA Detects Planet Dancing With a Pair of Stars|url=http://www.nytimes.com/2011/09/16/science/space/16planet.html|accessdate=16 September 2011|newspaper=The New York Times|date=2011-09-15}}</ref>
ดาวเคราะห์ดวงนี้ถูกค้นพบโดยใช้[[กล้องโทรทรรศน์อวกาศเคปเลอร์​]]<ref name=laTimes>{{cite news|last=Gold|first=Scott|title=Scientists find planet orbiting two suns like in 'Star Wars'|url=http://www.latimes.com/news/local/la-me-double-sun-20110916,0,7303143.story|accessdate=16 September 2011|newspaper=Los Angeles Times|date=2011-09-15}}</ref>ของ[[นาซ่า]] นักวิทยาศาสตร์ก็สามารถตรวจจับดาวเคราะห์ดวงโดยใช้วิธีการขนส่งตอนที่พวกเขาสังเกตเห็นแสงสลัวของหนึ่งในดาวของระบบแม้ในขณะที่คนอื่นๆ ไม่ได้กระไรแล้ว<ref name=nyTimes>{{cite news|last=Overbye|first=Dennis|title=NASA Detects Planet Dancing With a Pair of Stars|url=http://www.nytimes.com/2011/09/16/science/space/16planet.html|accessdate=16 September 2011|newspaper=The New York Times|date=2011-09-15}}</ref>


มองจากโลกดาวเคราะห์จะหยุดผ่านหน้า ดาวดวงหนึ่งเร็วที่สุดเท่าที่ในปี [[ค.ศ. 2014]] และจะหยุดข้ามดาวสองและสว่างในปี [[ค.ศ. 2018]] หลังจากนั้นดาวเคราะห์ดวงนี้จะยังคงใช้วิธีการตรวจสอบไม่พบการขนส่งไปจนถึงปี [[ค.ศ. 2042]]<ref name=nyTimes />
มองจากโลกดาวเคราะห์จะหยุดผ่านหน้า ดาวดวงหนึ่งเร็วที่สุดเท่าที่ในปี [[ค.ศ. 2014]] และจะหยุดข้ามดาวสองและสว่างในปี [[ค.ศ. 2018]] หลังจากนั้นดาวเคราะห์ดวงนี้จะยังคงใช้วิธีการตรวจสอบไม่พบการขนส่งไปจนถึงปี [[ค.ศ. 2042]]<ref name=nyTimes />

รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:42, 29 มิถุนายน 2563

Kepler-16b
ดาวเคราะห์นอกระบบ รายชื่อ

ภาพวาดจินตนาการของระบบดาวเคราะห์เคปเลอร์-16 แสดงดาวคู่กำลังโคจร โดย เคปเลอร์-16บี
ดาวฤกษ์แม่
ดาวฤกษ์ เคปเลอร์-16
กลุ่มดาว กลุ่มดาวหงส์
ความส่องสว่างปรากฏ (mV) 11.5
ระยะห่าง200[1] ly
(61 pc)
มวล (m) 0.69 / 0.2026 M
รัศมี (r) 0.649 / 0.2262 R
อุณหภูมิ (T) 4450 ± 150 (A) K
ความเป็นโลหะ [Fe/H] -0.3 ± 0.2 (A)
องค์ประกอบวงโคจร
ต้นยุคอ้างอิง BJD 2455212.12316
กึ่งแกนเอก(a) 0.7048 ± 0.0011 AU
ความเยื้องศูนย์กลาง (e) 0.0069 ± 0.0015
คาบการโคจร(P)228.776 ± 0.037 d
ความเอียง (i) 90.0322 ± 0.0023°
ลองจิจูดของจุดโหนด (Ω) 0.003 ± 0.013°
มุมของจุดใกล้ที่สุด (ω) 318 ± 22°
ลักษณะทางกายภาพ
มวล(m)0.333 ± 0.015 MJ
รัศมี(r)0.7538 ± 0.0025 RJ
ความหนาแน่น(ρ)0.964 ± 0.047 g cm-3
แรงโน้มถ่วงพื้นผิว(g)14.52 ± 0.7 m/s²
อุณหภูมิ (T) 170 - 200 K
ข้อมูลการค้นพบ
ค้นพบเมื่อ 09.15.2011
ค้นพบโดย Laurance Doyle[1]
วิธีตรวจจับ Transit (Kepler Mission)
สถานะการค้นพบ Published
อ้างอิงกับฐานข้อมูลอื่น
สารานุกรม
ดาวเคราะห์นอกระบบ
ข้อมูล
ซิมแบดข้อมูล

เคปเลอร์-16บี (อังกฤษ: Kepler-16b) หรือชื่อเดิมคือ เคปเลอร์-16 (เอบี)-บี เป็นดาวเคราะห์นอกระบบมันเป็นดาวเคราะห์มวลดาวเสาร์ประกอบด้วยก๊าซและหินครึ่งหนึ่งและน้ำแข็ง[2] โคจรรอบระบบดาวคู่ เคปเลอร์-16 ด้วยระยะเวลา 229 วัน[1] เป็นครั้งแรกที่มีการยืนยันอย่างชัดเจนว่ามีดาวเคราะห์​ที่โคจรรอบดาวฤกษ์​สองดวง

ดาวเคราะห์ดวงนี้ถูกค้นพบโดยใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเคปเลอร์​[3]ของนาซ่า นักวิทยาศาสตร์ก็สามารถตรวจจับดาวเคราะห์ดวงโดยใช้วิธีการขนส่งตอนที่พวกเขาสังเกตเห็นแสงสลัวของหนึ่งในดาวของระบบแม้ในขณะที่คนอื่นๆ ไม่ได้กระไรแล้ว[4]

มองจากโลกดาวเคราะห์จะหยุดผ่านหน้า ดาวดวงหนึ่งเร็วที่สุดเท่าที่ในปี ค.ศ. 2014 และจะหยุดข้ามดาวสองและสว่างในปี ค.ศ. 2018 หลังจากนั้นดาวเคราะห์ดวงนี้จะยังคงใช้วิธีการตรวจสอบไม่พบการขนส่งไปจนถึงปี ค.ศ. 2042[4]

ดาวเคราะห์ดวงนี้โคจรอยู่บนขอบด้านนอกของเขตอาศัยได้[5] แต่มันอาจเป็นไปได้ก๊าซยักษ์ที่มีอุณหภูมิพื้นผิวประมาณ -100 ถึง -70 ° C (-150 ถึง -94 ° F)

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 1.2 Doyle, Laurance R.; Carter, Joshua A.; Fabrycky, Daniel C.; Slawson, Robert W.; Howell, Steve B.; Winn, Joshua N.; Orosz, Jerome A.; Prša, Andrej; Welsh, William F. (2011). "Kepler-16: A Transiting Circumbinary Planet". Science. 333 (6049): 1602–6. arXiv:1109.3432. Bibcode:2011Sci...333.1602D. doi:10.1126/science.1210923. PMID 21921192.
  2. Drake, Nadia. "On Kepler-16b, shadows come in pairs". Science News. Society for Science & the Public. สืบค้นเมื่อ 16 September 2011.
  3. Gold, Scott (2011-09-15). "Scientists find planet orbiting two suns like in 'Star Wars'". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ 16 September 2011.
  4. 4.0 4.1 Overbye, Dennis (2011-09-15). "NASA Detects Planet Dancing With a Pair of Stars". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 16 September 2011.
  5. https://sites.google.com/a/upr.edu/planetary-habitability-laboratory-upra/library/notes/exoplanetscontinuouslywithinthehabitablezone

แหล่งข้อมูลอื่น