ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฐานานุกรม"
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ล ป้องกัน "ฐานานุกรม" แล้ว: การก่อกวนจำนวนมาก ([แก้ไข=ป้องกันสำหรับผู้ที่ไม่ล็อกอิน] (ไม่มีกำหนด) [ย้าย=ป้องกันสำหรับผู้ที่ไม่ล็อกอิน] (ไม่มีกำหนด)) ป้ายระบุ: แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{พุทธศาสนา}} |
{{พุทธศาสนา}} |
||
[[ไฟล์:ตั้งฐานานุกรมในพระปัญญานันทมุนี.jpg|200px|thumb|left|[[พระราชาคณะ]]ตั้งแต่ชั้นสามัญขึ้นไป สามารถตั้งพระฐานานุกรมของตนได้ตามอัธยาศัย (ในพระบรมราชานุญาต)]] |
[[ไฟล์:ตั้งฐานานุกรมในพระปัญญานันทมุนี.jpg|200px|thumb|left|[[พระราชาคณะ]]ตั้งแต่ชั้นสามัญขึ้นไป สามารถตั้งพระฐานานุกรมของตนได้ตามอัธยาศัย (ในพระบรมราชานุญาต)]] |
||
'''ฐานานุกรม''' คือชื่อเรียกลำดับตำแหน่ง[[สมณศักดิ์]]ของ[[พระสงฆ์]]ไทย ซึ่ง[[ภิกษุ]]ผู้มีตำแหน่งทางการปกครองหรือมีสมณศักดิ์สูงบางตำแหน่งมีสิทธิ์ตั้งพระรูปอื่นให้เป็นฐานากรมได้ตามศักดิ์ที่ได้รับพระบรมราชานุญาต เช่น พระสงฆ์ตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ สามารถตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่ง [[พระราชาคณะ]]ชั้นสามัญตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่ง เป็นต้น ไปจนกระทั่งถึง[[สมเด็จพระสังฆราช]]ทรงตั้งฐานานุกรมได้ 15 ตำแหน่ง |
|||
'''ฐานานุกรม''' คือชื่อเรียกลำดับตำแหน่ง[[สมณศักดิ์]]ของ[[พระสงฆ์]]ไทย ซึ่ง[[ภิกษุ]]ผู้มีตำแหน่งทางการปกครองหรือมีสมณศักดิ์สูงบางตำแหน่ง มีสิทธิ์ตั้งพระภิกษุรูปอื่นให้เป็นฐานานุกรมได้ ตามศักดิ์ที่ได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระมหากษัตริย์ไทยที่ระบุไว้ในพระบรมราชโองการพระราชทานสมณศักดิ์ หรือพระราชบัญญัติอื่นอันเกี่ยวเนื่องด้วยคณะสงฆ์ |
|||
ฐานานุกรมนั้นมีตำแหน่งที่เป็นหลัก 3 ตำแหน่ง คือ '''พระปลัด พระสมุห์ พระใบฎีกา''' หากพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ที่มีสิทธิ์ตั้งฐานานุกรมเป็นผู้ที่มีสมณศักดิ์ตั้งแต่พระราชาคณะชั้นราชขึ้นไป พระฐานานุกรมที่ท่านเหล่านั้นตั้ง จะเรียก "พระครู" นำหน้าตำแหน่งฐานานุกรมนั้นทุกตำแหน่ง เช่น พระครูปลัด พระครูสังฆรักษ์ เป็นต้น |
|||
ฐานานุกรมนั้นมีตำแหน่งที่เป็นหลัก 3 ตำแหน่ง คือ '''พระปลัด พระสมุห์ พระใบฎีกา''' หากพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ที่มีสิทธิ์ตั้งฐานานุกรมเป็นผู้ที่มีสมณศักดิ์ตั้งแต่พระราชาคณะชั้นราชขึ้นไป พระฐานานุกรมที่ท่านเหล่านั้นตั้ง จะเรียก "พระครู" นำหน้าตำแหน่งฐานานุกรมนั้นทุกตำแหน่ง เช่น พระครูปลัด พระครูสังฆรักษ์ เป็นต้น<ref name="วิทยา2">พระธรรมปริยัติโสภณ (วรวิทย์ คงฺคปญฺโญ ป.ธ. ๘). (2552). วิทยาพระสังฆาธิการ เล่ม 2. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ รำไท เพรส จำกัด. ISBN 9789748287768</ref> |
|||
สิทธิในการให้พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์สามารถแต่งตั้งพระฐานานุกรมได้ จะมีระบุไว้ในสัญญาบัตรพระราชทานสมณศักดิ์ ว่าให้สามารถตั้งได้เท่านั้นเท่านี้รูป ซึ่งพระสงฆ์ผู้ได้รับพระราชทานสิทธิในการตั้งพระฐานานุกรม จะตั้งหรือไม่ตั้งก็ได้ หรือจะตั้ง แต่ตั้งเพียงจำนวนเท่าที่เห็นควรก็ได้ ไม่จำต้องตั้งทั้งหมด |
|||
สิทธิในการให้พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์สามารถแต่งตั้งพระฐานานุกรมได้ จะมีระบุไว้ในสัญญาบัตรพระบรมราชโองการพระราชทานสมณศักดิ์ ว่าให้สามารถตั้งได้เท่านั้นเท่านี้รูป ซึ่งพระสงฆ์ผู้ได้รับพระราชทานสิทธิในการตั้งพระฐานานุกรม จะตั้งหรือไม่ตั้งก็ได้ หรือจะตั้ง แต่ตั้งเพียงจำนวนเท่าที่เห็นควรก็ได้ ไม่จำต้องตั้งทั้งหมด |
|||
ตำแหน่งเหล่านี้เดิมมี[[พัดยศ]]ของหลวงพระราชทานมาให้ แต่ปัจจุบันนี้ต้องจัดทำเอง โดยพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ที่มีสิทธิ์แต่งตั้งฐานานุกรมจะแต่งตั้งพระสงฆ์รูปใดในศิษยานุศิษย์ของตน ก็สุดแล้วแต่อัธยาศัย ทางการไม่ได้เกี่ยวข้องในการแต่งตั้งพระฐานานุกรม เพียงแต่รับรู้เท่านั้น |
|||
ตำแหน่งเหล่านี้เดิมมี[[พัดยศ]]ของหลวงพระราชทานมาให้ แต่ปัจจุบันนี้ต้องจัดทำเอง โดยพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ที่มีสิทธิ์แต่งตั้งฐานานุกรมจะแต่งตั้งพระสงฆ์รูปใดในศิษยานุศิษย์ของตน ก็สุดแล้วแต่อัธยาศัย ทางการไม่ได้เกี่ยวข้องในการแต่งตั้งพระฐานานุกรม เพียงแต่รับรู้เท่านั้น<ref name="วิทยา2"/> |
|||
ภิกษุผู้ได้รับแต่งตั้งในลักษณะนี้เรียกว่า '''พระฐานานุกรม''' ทุกรูปจัดเป็นพระมีสมณศักดิ์เหมือนพระสมณศักดิ์ที่ทรงแต่งตั้ง พระในตำแหน่งเหล่านี้บางทีเรียก'''ประทวนสัญญาบัตร''' บ้าง '''ฐานาประทวน''' บ้าง และเนื่องจากสมณศักดิ์เหล่านี้[[พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว]]ไม่ได้พระราชทานเอง ดังนั้นเมื่อพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ที่ได้ตั้งฐานานุกรมไว้[[มรณภาพ]] ตำแหน่งฐานานุกรมต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นอันสิ้นสุดไปด้วย เรียกกันในภาษาปากว่า '''พระครูม่าย''' หรือ '''ฐานาม่าย''' จนกว่าจะได้รับแต่งตั้งฐานานุกรมใหม่ |
|||
== ความหมายของฐานานุกรม == |
|||
ในอดีต ตำแหน่งฐานานุกรมบางตำแหน่งมีลำดับสมณศักดิ์สูงกว่า[[พระมหา]]เปรียญ จึงมีบางครั้งที่พระมหาเปรียญก็อาจได้รับแต่งตั้งฐานานุกรมบ้าง ซึ่งเรียกกันในภาษาปากว่า '''ฐานาทรงเครื่อง''' หรือ '''พระครูทรงเครื่อง''' คือมีทั้งตำแหน่งมหาเปรียญและฐานานุกรมในคราวเดียวกัน |
|||
คำว่า ฐานานุกรม ในภาษาบาลี มาจากบทคือ ฐาน (ตำแหน่ง) +อนุกฺกม (ลำดับ, ระเบียบ, ชั้น) ประกอบกัน จึงแปลว่า ตำแหน่งที่ตั้งขึ้นตามทำเนียบ ฐานานุกรมจึงหมายถึง ลำดับตำแหน่งยศพระสงฆ์ที่พระราชาคณะมีอำนาจตั้งสมณศักดิ์ให้ ตามทำเนียบที่พระมหากษัตริย์โปรดเกล้าพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระราชาคณะหรือเจ้าคณะผู้ปกครองนั้น ๆ เช่น พระสงฆ์ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ สามารถตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่ง [[พระราชาคณะ]]ชั้นสามัญตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่ง เป็นต้น ไปจนกระทั่งถึง[[สมเด็จพระสังฆราช]]ทรงตั้งฐานานุกรมได้ 15 ตำแหน่ง |
|||
== |
=== สถานะของพระฐานานุกรม === |
||
ภิกษุผู้ได้รับแต่งตั้งในลักษณะนี้เรียกว่า '''พระฐานานุกรม''' ทุกรูปจัดเป็นพระมีสมณศักดิ์ เช่นเดียวกับพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ตั้งแต่พระครูสัญญาบัตรขึ้นไป ที่พระมหากษัตริย์ทรงมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง |
|||
การตั้งฐานานุกรมของพระราชาคณะ เป็นการตั้งโดยพระบรมราชานุญาตตามความที่ระบุในพระบรมราชโองการ ซึ่งทรงใช้พระราชอำนาจในการสถาปนาและถอดถอนฐานันดรศักดิ์ ตามความใน[[รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย]] โดยไม่ทรงระบุอำนาจในการถอดถอนฐานานุกรมไว้แต่ประการใด ดังนั้นผู้ได้รับแต่งตั้งฐานานุกรมจากพระราชาคณะแล้ว จึงได้รับฐานานุกรมเป็นสิทธิ์เฉพาะตัวตามพระราชโองการ และสามารถใช้ตำแหน่งนั้นได้ตราบเท่าที่ผู้ได้รับตั้งให้เป็นฐานานุกรมยังไม่ลาสิกขา ได้รับสมณศักดิ์สูงขึ้น หรือมรณภาพ |
|||
กรณีพระราชาคณะผู้ได้ตั้งฐานานุกรมไว้ตามความในพระราชโองการพระราชทานสมณศักดิ์ ได้ลาสิกขา ได้รับสมณศักดิ์สูงขึ้น หรือ[[มรณภาพ]] ตำแหน่งฐานานุกรมต่าง ๆ ที่พระราชาคณะนั้นๆ ได้ตั้งไว้แก่พระภิกษุต่างๆ แล้ว ยังไม่ถือเป็นอันสิ้นสุดไป เว้นแต่ตำแหน่งฐานานุกรมที่ยังไม่ได้ตั้งจึงถือเป็นอันสิ้นสุดไปตามผู้มีสิทธิ์ตั้ง ไม่สามารถตั้งได้อีกตามพระบรมราชโองการ เนื่องจากพระราชาคณะนั้นๆ ย่อมได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ลาสิกขาบท ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์สูงขึ้น หรือได้ทำหนังสือกราบถวายบังคมทูลลามรณภาพแล้วตามระเบียบปฏิบัติ |
|||
ในอดีต ตำแหน่งฐานานุกรมบางตำแหน่งมีลำดับสมณศักดิ์สูงกว่า[[พระมหา]]เปรียญ จึงมีบางครั้งที่พระมหาเปรียญก็อาจได้รับแต่งตั้งฐานานุกรมบ้าง ซึ่งเรียกกันในภาษาปากว่า '''ฐานาทรงเครื่อง''' หรือ '''พระครูทรงเครื่อง''' คือมีทั้งตำแหน่งมหาเปรียญและฐานานุกรมในคราวเดียวกัน<ref name="วิทยา2"/> |
|||
=== ประเภทของฐานานุกรม=== |
|||
ฐานานุกรมแบ่งได้ 4 ตำแหน่ง ได้แก่ |
ฐานานุกรมแบ่งได้ 4 ตำแหน่ง ได้แก่ |
||
# '''ฐานานุกรมชั้นพระราชาคณะ''' ตำแหน่งนี้มีเฉพาะฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น มี 2 ตำแหน่งคือ พระราชาคณะปลัดขวาและพระราชาคณะซ้าย (บางสมัยอาจมีพระราชาคณะปลัดกลาง) และฐานานุกรมชั้นนี้สามารถตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่งเหมือนพระราชาคณะชั้นสามัญทั่วไป |
# '''ฐานานุกรมชั้นพระราชาคณะ''' ตำแหน่งนี้มีเฉพาะฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น มี 2 ตำแหน่งคือ พระราชาคณะปลัดขวาและพระราชาคณะซ้าย (บางสมัยอาจมีพระราชาคณะปลัดกลาง) และฐานานุกรมชั้นนี้สามารถตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่งเหมือนพระราชาคณะชั้นสามัญทั่วไป |
||
บรรทัด 20: | บรรทัด 30: | ||
# '''ฐานานุกรมชั้นธรรมดา''' ฐานานุกรมชั้นนี้เป็นของพระราชาชั้นสามัญ มี 3 ตำแหน่งคือ พระปลัด พระสมุห์ และพระใบฎีกา ไม่มีคำว่าพระครูนำหน้า |
# '''ฐานานุกรมชั้นธรรมดา''' ฐานานุกรมชั้นนี้เป็นของพระราชาชั้นสามัญ มี 3 ตำแหน่งคือ พระปลัด พระสมุห์ และพระใบฎีกา ไม่มีคำว่าพระครูนำหน้า |
||
== ฐานานุกรม |
== ทำเนียบฐานานุกรมของพระราชาคณะชั้นต่างๆ == |
||
; สมเด็จพระสังฆราชที่สถิต ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
|||
ได้แก่ [[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน)]]<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2517/A/106/1.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช] เล่ม ๙๑, ตอนที่ ๑๐๖ ฉบับพิเศษ, วันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๑๗, หน้า ๕</ref> และ[[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร)]] ตั้งฐานานุกรมได้ 15 รูป คือ<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/B/005/1.PDF พระราชโองการ ประกาศสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช], เล่ม ๑๓๔, ตอนที่ ๕ข, วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐, หน้า ๒-๓</ref> |
|||
* '''พระมหาคณิสร''' ''พุทธศาสนิกนิกรปสาทาภิบาล สกลสังฆประธานมหาสถาวีรกิจการี นายกบดีศรีรัตนคมกาจารย์'' พระราชาคณะปลัดขวา |
|||
* '''พระจุลคณิศร''' ''สัทธรรมนิติธรมหาเถราธิการ คณกิจบรรหารธุรการี สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์'' พระราชาคณะปลัดซ้าย |
|||
{{Col-begin}} |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูวินยาภิวุฒิ''' |
|||
* '''พระครูวิจิตรธรรมการ''' พระครูพระปริตร |
|||
* '''พระครูวินัยธร''' |
|||
* '''พระครูโฆสิตสุทธสร''' พระครูคู่สวด |
|||
* '''พระครูพิลาสบรรณวัตร''' |
|||
* '''พระครูสังฆวิธาน''' |
|||
* '''พระครูใบฎีกา''' |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูสุตตาภิรม''' |
|||
* '''พระครูวิจารณ์ธรรมกิจ''' พระครูพระปริตร |
|||
* '''พระครูธรรมธร''' |
|||
* '''พระครูอมรสรนาท''' พระครูคู่สวด |
|||
* '''พระครูพิพัฒบรรณกร''' |
|||
* '''พระครูสมุห์''' |
|||
{{Col-end}} |
|||
; สมเด็จพระสังฆราชที่สถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหาร |
|||
ได้แก่ [[สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์]] และ[[สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน)]] |
|||
ตั้งฐานานุกรมได้ 15 รูป คือ<ref>http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2532/A/063/1.PDF ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๖ ตอนที่ ๖๓ วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๓๒ ฉบับพิเศษ หน้า ๖-๗</ref> |
|||
* '''พระมหานายก''' ''พุทธปาพจนดิลกโลกยปสาทาภิบาล สกลสังฆประธานมหาเถรกิจการี คณาธิบดีศรีรัตนคมกาจารย์'' พระราชาคณะปลัดขวา |
|||
* '''พระจุลนายก''' ''ธรรมนีติสาธกมหาเถราธิการ คณะกิจบรรหารธุรการี สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์'' พระราชาคณะปลัดซ้าย |
|||
{{Col-begin}} |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูวิสุทธิธรรมภาณ''' |
|||
* '''พระครูประสาทพุทธปริตร''' พระครูพระปริตร |
|||
* '''พระครูวินัยธร''' |
|||
* '''พระครูสรภัญญประกาศ''' พระครูคู่สวด |
|||
* '''พระครูนิเทศธรรมจักร''' |
|||
* '''พระครูสังฆสิทธิกร''' |
|||
* '''พระครูใบฎีกา''' |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูพิศาลวินัยวาท''' |
|||
* '''พระครูประสิทธิพุทธมนต์''' พระครูพระปริตร |
|||
* '''พระครูธรรมธร''' |
|||
* '''พระครูสรนาทวิเศษ''' พระครูคู่สวด |
|||
* '''พระครูพิทักษ์ธุรกิจ''' |
|||
* '''พระครูสมุห์''' |
|||
{{Col-end}} |
|||
; สมเด็จพระสังฆราชที่สถิต ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามและวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม |
|||
ได้แก่ [[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ)]]<ref>http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2503/A/038/1.PDF ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๗๗ ตอนที่ ๓๘ วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๐๓ ฉบับพิเศษ หน้า ๗</ref> และ[[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริ)]] |
|||
ตั้งฐานานุกรมได้ 15 รูป<ref>http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2515/A/114/1.PDF ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๘๙ ตอนที่ ๑๑๔ วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๑๕ ฉบับพิเศษ หน้า ๖-๗</ref> |
|||
* '''พระทักษิณคณาธิกร''' ''สุนทรธรรมสาธก พุทธปาพจนดิลกมหาเถรกิจการี คณาธิบดีศรีรัตนคมกาจารย์'' พระราชาคณะปลัดขวา |
|||
* '''พระอุดรคณาภิรักษ์''' ''อัครศาสนกิจบรรหาร มหาเถราธิการธุรการี สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์'' พระราชาคณะปลัดซ้าย |
|||
{{Col-begin}} |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูธรรมกถาสุนทร''' |
|||
* '''พระครูพรหมวิหาร''' พระครูพระปริตร |
|||
* '''พระครูวินัยธร''' |
|||
* '''พระครูพิมลสรภาณ''' พระครูคู่สวด |
|||
* '''พระครูพิบูลบรรณวัตร''' |
|||
* '''พระครูสังฆบริหาร''' |
|||
* '''พระครูใบฎีกา''' |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูวินัยกรณ์โสภณ''' |
|||
* '''พระครูฌานวิสุทธิ์''' พระครูพระปริตร |
|||
* '''พระครูธรรมธร''' |
|||
* '''พระครูพิศาลสรคุณ''' พระครูคู่สวด |
|||
* '''พระครูพิพัฒน์บรรณกิจ''' |
|||
* '''พระครูสมุห์''' |
|||
{{Col-end}} |
|||
; [[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฺฐายี)]] |
|||
ตั้งฐานานุกรมได้ 15 รูป คือ<ref>http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2508/A/102/1.PDF ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๘๒ ตอนที่ ๑๐๒ วันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๐๘ ฉบับพิเศษ หน้า ๕-๖</ref> |
|||
* '''พระมหาคณานุศิษฏ์''' ''สังฆอิสริยาลงกรณ์ สุนทรธรรมสาทก พุทธปาพจนดิลกมหาเถรกิจจการี คณาธิบดีศรีรัตนคมกาจารย์'' พระราชาคณะปลัดขวา |
|||
* '''พระจุลคณานุศาสก์''' ''วิจารโณภาสภาคยคุณ สุนทรศาสนกิจบรรหาร มหาเถราธุรกิจจการี สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์'' พระราชาคณะปลัดซ้าย |
|||
{{Col-begin}} |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูธรรมกถาสุนทร''' |
|||
* '''พระครูพรหมวิหาร''' พระครูพระปริตร |
|||
* '''พระครูวินัยธร''' |
|||
* '''พระครูพิมลสรภาณ''' พระครูคู่สวด |
|||
* '''พระครูพิบูลบรรณวัตร''' |
|||
* '''พระครูสังฆบริหาร''' |
|||
* '''พระครูใบฎีกา''' |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูวินัยกรณ์โสภณ''' |
|||
* '''พระครูฌานวิสุทธิ์''' พระครูพระปริตร |
|||
* '''พระครูธรรมธร''' |
|||
* '''พระครูพิศาลสรคุณ''' พระครูคู่สวด |
|||
* '''พระครูพิพัฒนบรรณกิจ''' |
|||
* '''พระครูสมุห์''' |
|||
{{Col-end}} |
|||
; [[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทโย)]] |
|||
ตั้งฐานานุกรมได้ 15 รูป คือ<ref>http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2506/A/045/1.PDF ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๘๐ ตอนที่ ๔๕ วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๐๖ ฉบับพิเศษ หน้า ๔</ref> |
|||
* '''พระมหาคณานุศิษฏ์''' ''สังฆอิสริยาลงกรณ์ สุนทรธรรมสาธก พุทธปาพจนดิลกมหาเถรกิจจการี คณาธิบดีศรีรัตนคมกาจารย์'' พระราชาคณะปลัดขวา |
|||
* '''พระจุลคณานุศาสน์''' ''วิจารโณภาสภาคยคุณ สุนทรศาสนกิจบรรหาร มหาเถราธิการธุรการี สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์'' พระราชาคณะปลัดซ้าย |
|||
{{Col-begin}} |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูธรรมกถาสุนทร''' |
|||
* '''พระครูพรหมวิหาร''' พระครูพระปริตร |
|||
* '''พระครูวินัยธร''' |
|||
* '''พระครูพิมลสรภาณ''' พระครูคู่สวด |
|||
* '''พระครูพิบูลบรรณวัตร''' |
|||
* '''พระครูสังฆบริหาร''' |
|||
* '''พระครูใบฎีกา''' |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูวินัยกรณ์โสภณ''' |
|||
* '''พระครูฌานวิสุทธิ์''' พระครูพระปริตร |
|||
* '''พระครูธรรมธร''' |
|||
* '''พระครูพิศาลสรคุณ''' พระครูคู่สวด |
|||
* '''พระครูพิพัฒนบรรณกิจ''' |
|||
* '''พระครูสมุห์''' |
|||
{{Col-end}} |
|||
; [[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว)|'''สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว)''']] |
|||
ตั้งฐานานุกรมได้ 15 รูป คือ<ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2482/D/1781.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๖ วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๔๘๒ หน้า ๑๗๘๓-๑๗๘๔</ref> |
|||
* '''พระครูมหาคณานุสิชฌม์''' ''สังฆอิศริยาลังการ วิจารณโกศล วิมลสังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต'' พระครูปลัดขวา |
|||
* '''พระครูจุลคณานุสาสน์''' ''วิจารโณภาสภาคยคุณ สุนทรสังฆานุคุตติ วิสุทธิสังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต'' พระครูปลัดซ้าย |
|||
{{Col-begin}} |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูธรรมกถาสุนทร''' |
|||
* '''พระครูพรหมวิหาร''' พระครูปริตร |
|||
* '''พระครูวินัยธร''' |
|||
* '''พระครูพิมลสรภาณ''' พระครูคู่สวด |
|||
* '''พระครูพิบุลบรรณวัตร''' |
|||
* '''พระครูสังฆบริหาร''' |
|||
* '''พระครูใบฎีกา''' |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูวินัยกรณ์โศภน''' |
|||
* '''พระครูญาณวิสุทธิ์''' พระครูปริตร |
|||
* '''พระครูธรรมธร''' |
|||
* '''พระครูพิศาลสรคุณ''' พระครูคู่สวด |
|||
* '''พระครูพิพัฒน์บรรณกิจ''' |
|||
* '''พระครูสมุห์''' |
|||
{{Col-end}} |
|||
; [[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว)]] |
|||
ตั้งฐานานุกรมได้ 16 รูป คือ<ref>http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2436/036/388.PDF ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 10 หน้า 389-390</ref> |
|||
* '''พระครูปลัดสัมพิพรรฒศีลาจารย์''' ''ญาณวิมล สกลคณิศร อุดรสังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต'' |
|||
* '''พระครูปลัดวาจีคณานุสิชฌน์''' ''สังฆอิศริยาลังการ วิจารณกิจโกศล วิมลสังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต'' |
|||
* '''พระครูปลัดอุทิจยานุสาสน์''' ''วิจารโณภาษภาคยคุณ สุนทรสังฆานุคติ วิสุทธิสังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต'' |
|||
{{Col-begin}} |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูธรรมกถาสุนทร''' |
|||
* '''พระครูพรหมวิหาร''' |
|||
* '''พระครูวินัยธร''' |
|||
* '''พระครูเมธังกร''' |
|||
* '''พระครูธรรมราต''' |
|||
* '''พระครูสังฆวิจารณ์''' |
|||
* '''พระครูใบฎีกา''' |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูวินัยกรณ์โศภน''' |
|||
* '''พระครูญาณวิสุทธ์''' |
|||
* '''พระครูวินัยธรรม''' |
|||
* '''พระครูวรวงษา''' |
|||
* '''พระครูธรรมรูจี''' |
|||
* '''พระครูสมุห์''' |
|||
{{Col-end}} |
|||
==รายนามฐานานุกรม ในพระอัฐิ[[สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส]] == |
|||
* '''พระทักษิณคณิสสร''' ''บวรสังฆสิทธิการ วิจารณกิจโกศล สกลมหาคณาธิบดี ตรีปิฎกธรรมรักขิต'' พระราชาคณะปลัดขวา |
|||
* '''พระอุดรคณารักษ์''' ''อรรควิจารณคุณ วิบุลญาณอนันต์ สรรพมหาคณาธิบดี ตรีปิฎกธรรมรักขิต'' พระราชาคณะปลัดซ้าย |
|||
* '''พระสมุหวรคณิสสรสิทธิการ''' ''พิศาลวรกิจโกศล โสภณศีลาจารนืวิฐ พิพิธมหาคณาธิบดี ตรีปิฎกธรรมรักขิต'' พระราชาคณะปลัดกลาง |
|||
{{Col-begin}} |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูวิทยาคม''' พระครูพระปริตร |
|||
* '''พระครูอมรวิไชย''' พระครูพระปริตร |
|||
* '''พระครูวิสุทธิสมโพธิ์''' พระครู[[วิปัสสนา]] |
|||
* '''พระครูวินัยธร''' |
|||
* '''พระครูสุนทรโฆสิต''' พระครูคู่สวด |
|||
* '''พระครูสังฆบริรักษ์''' |
|||
* '''พระครูใบฎีกา''' |
|||
{{Col-2}} |
|||
* '''พระครูอุดมสังวร''' พระครูพระปริตร |
|||
* '''พระครูไกรสรศักดิ์''' พระครูพระปริตร |
|||
* '''พระครูนิโรธรักขิต''' พระครูวิปัสสนา |
|||
* '''พระครูวิจิตรโฆษา''' พระครูคู่สวด |
|||
* '''พระครูธรรมธร''' |
|||
* '''พระครูสมุห์''' |
|||
{{Col-end}} |
|||
ตามประกาศ ตำแหน่งพระสงฆ์สมณศักดิ์ คณะกลาง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พระอัฎฐิพระ |
|||
ถานานุกรมในพระอัฎฐิ 17 รูป<ref name=":0">ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2435/017/112.PDF ประกาศ ตำแหน่งพระสงฆ์สมณศักดิ์ คณะกลาง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พระอัฎฐิพระ], เล่ม ๙, ตอนที่ ๑๗, ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๕, หน้า ๑๑๒</ref> |
|||
* '''พระครูปลัดอริยวงษาจาริย์ญาณมุนีศรีสังฆปรินายก''' พระครูปลัดขวา |
|||
* '''พระครูปลัดเทพสิทธิเทพาธิบดี''' พระครูปลัดซ้าย |
|||
* '''พระครูทักษิณคณิศร''' |
|||
* '''พระครูอุดรคณารักษ์''' ผู้ดูการวัด |
|||
* '''พระครูสมุห์วรอรรคณิศรสิทธิการ''' |
|||
* '''พระครูไพโรจน์ราชสังฆาราม''' |
|||
* '''พระครูวิสุทธิสมโพธิ์''' |
|||
* '''พระครูไกรสรประสิทธิ์''' |
|||
* '''พระครูวิธยาคม''' |
|||
* '''พระครูอุดมสังวร''' |
|||
* '''พระครูอมรวิไชย์''' |
|||
* '''พระครูวินัยธร''' |
|||
* '''พระครูธรรมธร''' |
|||
* '''พระครูสุนทรโฆสิต''' |
|||
* '''พระครูวิจิตรโฆษา''' |
|||
* '''พระครูสังฆบริรักษ์''' |
|||
* '''พระครูใบฎีกา''' |
|||
จำนวนของฐานานุกรม ที่พระราชาคณะชั้นต่างๆ จะมีสิทธิ์ตั้งได้นั้น จะถูกระบุไว้ในพระบรมราชโองการพระราชทานสมณศักดิ์ ปัจจุบันการพระราชทานพระราชอำนาจให้แก่พระราชาคณะในการตั้งฐานานุกรมชั้นต่าง ๆ เป็นไปตามพระราชอัธยาศรัย แต่โดยประเพณีจะมีการตั้งโดยระบุฐานานุกรมมีราชทินนาม และฐานานุกรมอื่น ดังนี้ |
|||
== รายนามฐานานุกรมของพระราชาคณะชั้นต่างๆ == |
|||
{|class="wikitable" |
{|class="wikitable" |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:34, 27 มิถุนายน 2563
ส่วนหนึ่งของชุดบทความ |
ศาสนาพุทธ |
---|
ฐานานุกรม คือชื่อเรียกลำดับตำแหน่งสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ไทย ซึ่งภิกษุผู้มีตำแหน่งทางการปกครองหรือมีสมณศักดิ์สูงบางตำแหน่ง มีสิทธิ์ตั้งพระภิกษุรูปอื่นให้เป็นฐานานุกรมได้ ตามศักดิ์ที่ได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระมหากษัตริย์ไทยที่ระบุไว้ในพระบรมราชโองการพระราชทานสมณศักดิ์ หรือพระราชบัญญัติอื่นอันเกี่ยวเนื่องด้วยคณะสงฆ์
ฐานานุกรมนั้นมีตำแหน่งที่เป็นหลัก 3 ตำแหน่ง คือ พระปลัด พระสมุห์ พระใบฎีกา หากพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ที่มีสิทธิ์ตั้งฐานานุกรมเป็นผู้ที่มีสมณศักดิ์ตั้งแต่พระราชาคณะชั้นราชขึ้นไป พระฐานานุกรมที่ท่านเหล่านั้นตั้ง จะเรียก "พระครู" นำหน้าตำแหน่งฐานานุกรมนั้นทุกตำแหน่ง เช่น พระครูปลัด พระครูสังฆรักษ์ เป็นต้น[1]
สิทธิในการให้พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์สามารถแต่งตั้งพระฐานานุกรมได้ จะมีระบุไว้ในสัญญาบัตรพระบรมราชโองการพระราชทานสมณศักดิ์ ว่าให้สามารถตั้งได้เท่านั้นเท่านี้รูป ซึ่งพระสงฆ์ผู้ได้รับพระราชทานสิทธิในการตั้งพระฐานานุกรม จะตั้งหรือไม่ตั้งก็ได้ หรือจะตั้ง แต่ตั้งเพียงจำนวนเท่าที่เห็นควรก็ได้ ไม่จำต้องตั้งทั้งหมด
ตำแหน่งเหล่านี้เดิมมีพัดยศของหลวงพระราชทานมาให้ แต่ปัจจุบันนี้ต้องจัดทำเอง โดยพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ที่มีสิทธิ์แต่งตั้งฐานานุกรมจะแต่งตั้งพระสงฆ์รูปใดในศิษยานุศิษย์ของตน ก็สุดแล้วแต่อัธยาศัย ทางการไม่ได้เกี่ยวข้องในการแต่งตั้งพระฐานานุกรม เพียงแต่รับรู้เท่านั้น[1]
ความหมายของฐานานุกรม
คำว่า ฐานานุกรม ในภาษาบาลี มาจากบทคือ ฐาน (ตำแหน่ง) +อนุกฺกม (ลำดับ, ระเบียบ, ชั้น) ประกอบกัน จึงแปลว่า ตำแหน่งที่ตั้งขึ้นตามทำเนียบ ฐานานุกรมจึงหมายถึง ลำดับตำแหน่งยศพระสงฆ์ที่พระราชาคณะมีอำนาจตั้งสมณศักดิ์ให้ ตามทำเนียบที่พระมหากษัตริย์โปรดเกล้าพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระราชาคณะหรือเจ้าคณะผู้ปกครองนั้น ๆ เช่น พระสงฆ์ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ สามารถตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่ง พระราชาคณะชั้นสามัญตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่ง เป็นต้น ไปจนกระทั่งถึงสมเด็จพระสังฆราชทรงตั้งฐานานุกรมได้ 15 ตำแหน่ง
สถานะของพระฐานานุกรม
ภิกษุผู้ได้รับแต่งตั้งในลักษณะนี้เรียกว่า พระฐานานุกรม ทุกรูปจัดเป็นพระมีสมณศักดิ์ เช่นเดียวกับพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ตั้งแต่พระครูสัญญาบัตรขึ้นไป ที่พระมหากษัตริย์ทรงมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง
การตั้งฐานานุกรมของพระราชาคณะ เป็นการตั้งโดยพระบรมราชานุญาตตามความที่ระบุในพระบรมราชโองการ ซึ่งทรงใช้พระราชอำนาจในการสถาปนาและถอดถอนฐานันดรศักดิ์ ตามความในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยไม่ทรงระบุอำนาจในการถอดถอนฐานานุกรมไว้แต่ประการใด ดังนั้นผู้ได้รับแต่งตั้งฐานานุกรมจากพระราชาคณะแล้ว จึงได้รับฐานานุกรมเป็นสิทธิ์เฉพาะตัวตามพระราชโองการ และสามารถใช้ตำแหน่งนั้นได้ตราบเท่าที่ผู้ได้รับตั้งให้เป็นฐานานุกรมยังไม่ลาสิกขา ได้รับสมณศักดิ์สูงขึ้น หรือมรณภาพ
กรณีพระราชาคณะผู้ได้ตั้งฐานานุกรมไว้ตามความในพระราชโองการพระราชทานสมณศักดิ์ ได้ลาสิกขา ได้รับสมณศักดิ์สูงขึ้น หรือมรณภาพ ตำแหน่งฐานานุกรมต่าง ๆ ที่พระราชาคณะนั้นๆ ได้ตั้งไว้แก่พระภิกษุต่างๆ แล้ว ยังไม่ถือเป็นอันสิ้นสุดไป เว้นแต่ตำแหน่งฐานานุกรมที่ยังไม่ได้ตั้งจึงถือเป็นอันสิ้นสุดไปตามผู้มีสิทธิ์ตั้ง ไม่สามารถตั้งได้อีกตามพระบรมราชโองการ เนื่องจากพระราชาคณะนั้นๆ ย่อมได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ลาสิกขาบท ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์สูงขึ้น หรือได้ทำหนังสือกราบถวายบังคมทูลลามรณภาพแล้วตามระเบียบปฏิบัติ
ในอดีต ตำแหน่งฐานานุกรมบางตำแหน่งมีลำดับสมณศักดิ์สูงกว่าพระมหาเปรียญ จึงมีบางครั้งที่พระมหาเปรียญก็อาจได้รับแต่งตั้งฐานานุกรมบ้าง ซึ่งเรียกกันในภาษาปากว่า ฐานาทรงเครื่อง หรือ พระครูทรงเครื่อง คือมีทั้งตำแหน่งมหาเปรียญและฐานานุกรมในคราวเดียวกัน[1]
ประเภทของฐานานุกรม
ฐานานุกรมแบ่งได้ 4 ตำแหน่ง ได้แก่
- ฐานานุกรมชั้นพระราชาคณะ ตำแหน่งนี้มีเฉพาะฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น มี 2 ตำแหน่งคือ พระราชาคณะปลัดขวาและพระราชาคณะซ้าย (บางสมัยอาจมีพระราชาคณะปลัดกลาง) และฐานานุกรมชั้นนี้สามารถตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่งเหมือนพระราชาคณะชั้นสามัญทั่วไป
- ฐานานุกรมชั้นพระครูปลัดมีราชทินนาม พระครูปลัดมีราชทินนามเป็นฐานานุกรมของพระราชาคณะชั้นธรรมขึ้นไปจนถึงสมเด็จพระราชาคณะ เมื่อได้ตั้งฐานานุกรมชั้นนี้แล้ว ต้องไปแจ้งที่กรมการศาสนาเพื่อขึ้นทะเบียน และจัดนิตยภัตถวายเช่นเดียวกับพระครูสัญญาบัตรทั่วไป
- ฐานานุกรมชั้นพระครูอื่น คือ ฐานานุกรมของพระราชาชั้นราชขึ้นไปจนถึงฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราชบางตำแหน่ง เป็นตำแหน่งที่มีคำว่า "พระครู" นำหน้า เช่น พระครูปลัด พระครูวินัยธร เป็นต้น อนึ่ง พระครูฐานานุกรมของสมเด็จพระสังฆราช 4 ตำแหน่งที่อยู่อยู่ระหว่างพระราชาคณะปลัดซ้ายกับพระครูวินัยธร มีสิทธิ์รับพระราชทานนิตยภัตเช่นเดียวกับพระครูปลัดมีราชทินนาม
- ฐานานุกรมชั้นธรรมดา ฐานานุกรมชั้นนี้เป็นของพระราชาชั้นสามัญ มี 3 ตำแหน่งคือ พระปลัด พระสมุห์ และพระใบฎีกา ไม่มีคำว่าพระครูนำหน้า
ทำเนียบฐานานุกรมของพระราชาคณะชั้นต่างๆ
จำนวนของฐานานุกรม ที่พระราชาคณะชั้นต่างๆ จะมีสิทธิ์ตั้งได้นั้น จะถูกระบุไว้ในพระบรมราชโองการพระราชทานสมณศักดิ์ ปัจจุบันการพระราชทานพระราชอำนาจให้แก่พระราชาคณะในการตั้งฐานานุกรมชั้นต่าง ๆ เป็นไปตามพระราชอัธยาศรัย แต่โดยประเพณีจะมีการตั้งโดยระบุฐานานุกรมมีราชทินนาม และฐานานุกรมอื่น ดังนี้
สมเด็จพระราชาคณะ | พระราชาคณะเจ้าคณะรอง | พระราชาคณะชั้นธรรม | พระราชาคณะชั้นเทพ | พระราชาคณะชั้นราช | พระราชาคณะชั้นสามัญ |
---|---|---|---|---|---|
|
|
|
|
|
|
- หมายเหตุ
- ↑ ยกเว้นพระครูปลัด ฐานานุกรมในพระสาสนโสภณ จะมีราชทินนามว่า พระครูปลัดอรรถจริยานุกิจ
- ↑ ในพระราชาคณะชั้นธรรมบางรูป จะมีฐานานุกรมที่ลงท้ายด้วย "วัตร" เช่น พระธรรมราชานุวัตร มีพระครูปลัด มีราชทินนามว่า พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร เป็นต้น
อ้างอิง
- พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช), พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548
- ↑ 1.0 1.1 1.2 พระธรรมปริยัติโสภณ (วรวิทย์ คงฺคปญฺโญ ป.ธ. ๘). (2552). วิทยาพระสังฆาธิการ เล่ม 2. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ รำไท เพรส จำกัด. ISBN 9789748287768