ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สวอนส์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Yusni5127 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Yusni5127 (คุย | ส่วนร่วม)
สร้างขึ้นโดยการแปลหน้า "Swans (band)"
บรรทัด 35: บรรทัด 35:
ตั้งแต่ปี 1990 ผลงานทั้งหมดของสวอนส์ได้ถูกเผยแพร่โดยค่าย[[ยังก็อดส์เรคอร์ดส]]ที่จิราเป็นผู้ก่อตั้งเอง
ตั้งแต่ปี 1990 ผลงานทั้งหมดของสวอนส์ได้ถูกเผยแพร่โดยค่าย[[ยังก็อดส์เรคอร์ดส]]ที่จิราเป็นผู้ก่อตั้งเอง


ในปี 2010 จิราได้กลับมาตั้งวงใหม่โดยที่ไม่มีจาร์โบ พร้อมกับได้มีการจัดเดินสายแสดงสดไปทั่วโลก โดยที่พวกเขาได้ออกอัลบั้มไปทั้งหมดสี่อัลบั้ม ซึ่งผลงานชุดไตรภาคอย่าง''[[เดอะเซียร์]]'' ''[[ทูบีไคนด์]]''และ''[[เดอะโกลว์อิงแมน]]''ล้วนได้รับคำชื่นชมล้นหลาม<ref><ref name="Final shows"><ref name="Final shows2">{{cite web|url=https://www.facebook.com/SwansOfficial/posts/10156578518251978|title=Final shows|publisher=Facebook post|date=September 7, 2017|accessdate=September 9, 2017}}</ref> โดยหลั งจากที่วงนั้นได้ถูกพักในปี 2017 ในปี 2019 จิราได้ออกอัลบั้มใหม่ ''[[ลีฟวิงมีนนิง]]''
ในปี 2010 จิราได้กลับมาตั้งวงใหม่โดยที่ไม่มีจาร์โบ พร้อมกับได้มีการจัดเดินสายแสดงสดไปทั่วโลก <ref name="metacritic">https://www.metacritic.com/person/swans</ref> โดยที่พวกเขาได้ออกอัลบั้มไปทั้งหมดสี่อัลบั้ม ซึ่งผลงานชุดไตรภาคอย่าง''[[เดอะเซียร์]]'' ''[[ทูบีไคนด์]]''และ''[[เดอะโกลว์อิงแมน]]''ล้วนได้รับคำชื่นชมล้นหลาม โดยหลั งจากที่วงนั้นได้ถูกพักในปี 2017 ในปี 2019 จิราได้ออกอัลบั้มใหม่ ''[[ลีฟวิงมีนนิง]]''


== ประวัติ ==
== ประวัติ ==
บรรทัด 43: บรรทัด 43:


==== อิทธิพลเบื้องต้น ====
==== อิทธิพลเบื้องต้น ====
ไมเคิล จิราได้กล่าวว่า "หงส์" คือคำที่จำกัดความของดนตรีที่เขาต้องการทำมากที่สุด <ref name="majestic"><ref name="majestic2" /></ref> โดยเหตุผลว่า "หงส์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างที่งดงาม ที่มาด้วยนิสัยอันเกรี้ยวกราดรุนแรง " <ref name="majestic" />
ไมเคิล จิราได้กล่าวว่า "หงส์" คือคำที่จำกัดความของดนตรีที่เขาต้องการทำมากที่สุด <ref name="majestic"><nowiki><ref></nowiki>http://www.flowersinagun.com/interview-with-michael-gira-from-swans/<nowiki></ref></nowiki></ref> โดยเหตุผลว่า "หงส์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างที่งดงาม ที่มาด้วยนิสัยอันเกรี้ยวกราดรุนแรง "


สมาชิกรุ่นแรกของสวอนส์นั้นประกอบไปด้วยจิราเป็นมือเบสและร้องนำ [[โจนาธาน เคน]]เล่นกลอง [[ซู ฮาเนล]]เล่นกีตาร์ [[โมโจ]]เล่นเครื่องกระทบ โดยในช่วงนี้วงยังมีมือเบสคนที่สองที่หมุนเวียนแยู่กับวงเป็นระยะสั้นๆ ได้แก่ [[แดน บรอวน์]] [[จอน เทสส์เลอร์]](เล่นเครื่องกระทบและลูปเทปด้วย)และ[[เธอร์สตัน มัวร์]]ที่ต่อมาจะออกจากวงไปก่อตั้งวง[[โซนิกยูท]] <ref name="Swans allmusic"><ref name="Swans allmusic" /><ref name="Jonathan Kane and Swans" /></ref> ผลงานชุดเดียวของวงที่มีฮาเนลอยู่ในรายชื่อผู้ร่วมสร้างสรรค์คือผลงานชุดรวมเพลง ''[[บอดีทูบอดี, จ็อบทูจ็อบ]]'' แต่ทั้งนี้ ในอัลบั้มไม่ได้ระบุว่าเธอเล่นเพลงใด เคนได้กล่าวว่า "ซูเป็นนักกีตาร์ที่น่ากลัวที่สุดที่เราเคยได้พบเจอในนิวยอร์ก เธอเป็นคนที่น่าเหลือเชื่อสุดๆ " <ref name="Jonathan Kane and Swans"><ref name="Jonathan Kane and Swans2" /></ref>
สมาชิกรุ่นแรกของสวอนส์นั้นประกอบไปด้วยจิราเป็นมือเบสและร้องนำ [[โจนาธาน เคน]]เล่นกลอง [[ซู ฮาเนล]]เล่นกีตาร์ [[โมโจ]]เล่นเครื่องกระทบ โดยในช่วงนี้วงยังมีมือเบสคนที่สองที่หมุนเวียนแยู่กับวงเป็นระยะสั้นๆ ได้แก่ [[แดน บรอวน์]] [[จอน เทสส์เลอร์]](เล่นเครื่องกระทบและลูปเทปด้วย)และ[[เธอร์สตัน มัวร์]]ที่ต่อมาจะออกจากวงไปก่อตั้งวง[[โซนิกยูท]] <ref name="Swans allmusic"><nowiki><ref></nowiki>https://www.allmusic.com/artist/swans-mn0000034988/biography<nowiki></ref></nowiki></ref> ผลงานชุดเดียวของวงที่มีฮาเนลอยู่ในรายชื่อผู้ร่วมสร้างสรรค์คือผลงานชุดรวมเพลง ''[[บอดีทูบอดี, จ็อบทูจ็อบ]]'' แต่ทั้งนี้ ในอัลบั้มไม่ได้ระบุว่าเธอเล่นเพลงใด เคนได้กล่าวว่า "ซูเป็นนักกีตาร์ที่น่ากลัวที่สุดที่เราเคยได้พบเจอในนิวยอร์ก เธอเป็นคนที่น่าเหลือเชื่อสุดๆ " <ref name="Jonathan Kane and Swans">https://younggodrecords.com/blogs/press/13026405-jonathan-kane-and-swans</ref>


ในเวลาต่อมาฮาเนลได้ถูกแทนที่โดย[[บ็อบ เพซโซลา]] <ref name="Nobody Knows No Wave"><ref name="Nobody Knows No Wave" /></ref> ผู้และในช่วงนั้นก็ได้มีนัก[[แซกโซโฟน]]ชื่อ[[แดเนียล กัลลี-ดัวนี]]จากวง[[อาวอง-การ์ด]]ชื่อ[[ทรานส์มิชชัน]]เข้ามาร่วมวงด้วย <ref name="Nobody Knows No Wave" /> ในปี 1982 สวอนส์ได้ออกผลงาน[[อีพี]]ชุดแรก[[สวอนส์ (อีพี)|ที่ตั้งตามชื่อวง]] ซึ่งผลงานอีพีชุดนี้มีความแตกต่างทางด้านดนตรีจากผลงานในช่วงต่อๆ ไปของวง<ref name="Nobody Knows No Wave" /> โดยนักวิจารณ์ได้กล่าวว่าเสียงกีตาร์ที่เน้นหนักไปในการทำให้เสียงแตกทำให้นึกถึงวง[[โพสต์พังก์]]เช่นวง[[จอยดิวิชัน]] แต่ในเวลาต่อมา ดนตรีของวงก็ได้เปลี่ยนไปเป็นการเล่นคอร์ดแบบซ้ำไปซ้ำมาแบบ[[บลูส์]] ในขณะที่อิทธิพลของ[[แจ๊ส|ดนตรีแจ๊ส]]และจังหวะอันแปลกประหลาดที่เป็นเอกลักษณ์ของดนตรี[[โนเวฟ]]ในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ก็ได้ค่อยๆ จางหายไปหลังจากมีการออกอัลบั้มชุดที่สอง ''[[ค็อป (อัลบั้ม)|ค็อป]]'' ในปี 1984
ในเวลาต่อมาฮาเนลได้ถูกแทนที่โดย[[บ็อบ เพซโซลา]] <ref name="Nobody Knows No Wave">https://www.telegraph.co.uk/culture/books/non_fictionreviews/3670741/Nobody-knows-No-Wave.html</ref> ผู้และในช่วงนั้นก็ได้มีนัก[[แซกโซโฟน]]ชื่อ[[แดเนียล กัลลี-ดัวนี]]จากวง[[อาวอง-การ์ด]]ชื่อ[[ทรานส์มิชชัน]]เข้ามาร่วมวงด้วย <ref name="Nobody Knows No Wave" /> ในปี 1982 สวอนส์ได้ออกผลงาน[[อีพี]]ชุดแรก[[สวอนส์ (อีพี)|ที่ตั้งตามชื่อวง]] ซึ่งผลงานอีพีชุดนี้มีความแตกต่างทางด้านดนตรีจากผลงานในช่วงต่อๆ ไปของวง<ref name="Nobody Knows No Wave" /> โดยนักวิจารณ์ได้กล่าวว่าเสียงกีตาร์ที่เน้นหนักไปในการทำให้เสียงแตกทำให้นึกถึงวง[[โพสต์พังก์]]เช่นวง[[จอยดิวิชัน]] แต่ในเวลาต่อมา ดนตรีของวงก็ได้เปลี่ยนไปเป็นการเล่นคอร์ดแบบซ้ำไปซ้ำมาแบบ[[บลูส์]] ในขณะที่อิทธิพลของ[[แจ๊ส|ดนตรีแจ๊ส]]และจังหวะอันแปลกประหลาดที่เป็นเอกลักษณ์ของดนตรี[[โนเวฟ]]ในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ก็ได้ค่อยๆ จางหายไปหลังจากมีการออกอัลบั้มชุดที่สอง ''[[ค็อป (อัลบั้ม)|ค็อป]]'' ในปี 1984


==== รูปแบบดนตรีในช่วงต้น ====
==== รูปแบบดนตรีในช่วงต้น ====
เคนได้เปรียบเทียบสวอนส์กับตำนานบลูส์อย่างเชสเตอร์ เอร์เน็ตต์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ[[ฮาวลินวูลฟ์]] <ref name="''Greed'' review"><ref name="''Greed'' review" /></ref> เพราะเพลงของพวกเขานั้นมักจะมีการตั้งฐานมาจากการเล่น[[ริฟฟ์]]เพียงริฟฟ์เดียว <ref name="''Greed'' review" /> เพลงของเบอร์เน็ตต์บางเพลงโดยเฉพาะเพลงที่เบอร์เน็ตต์เขียนเองนั้นมีโครงสร้างและคุณภาพที่คล้ายคลึงกัน ดนตรีในช่วงแรกของพวกเขาถูกตรึงโดยเสียง[[กีตาร์]]ที่ช้าและกดดัน พร้อมกับการตีกลองที่ดุดันและหนักหน่วง และคำร้องที่น่ากลัว เต็มไปด้วยความเกลียดชังและรุนแรงของจิรา (ที่เขาได้รับแรงบันดาลใจจาก[[ฌอง เกเนต์]]และ[[มาร์กี เดอ ซาด]]) ที่มักจะตะโกนหรือกระทั่งเหห่าในขณะทำหน้าที่นักร้องนำ นักวิจารณ์ได้กล่าวว่าดนตรีในช่วงแรกของสวอนส์นั้น "ก้าวร้าวเกินคำบรรยาย" <ref name="''Greed'' review" />
เคนได้เปรียบเทียบสวอนส์กับตำนานบลูส์อย่างเชสเตอร์ เอร์เน็ตต์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ[[ฮาวลินวูลฟ์]] <ref name="''Greed'' review">https://www.allmusic.com/album/greed-mw0001883300</ref> เพราะเพลงของพวกเขานั้นมักจะมีการตั้งฐานมาจากการเล่น[[ริฟฟ์]]เพียงริฟฟ์เดียว <ref name="''Greed'' review" /> เพลงของเบอร์เน็ตต์บางเพลงโดยเฉพาะเพลงที่เบอร์เน็ตต์เขียนเองนั้นมีโครงสร้างและคุณภาพที่คล้ายคลึงกัน ดนตรีในช่วงแรกของพวกเขาถูกตรึงโดยเสียง[[กีตาร์]]ที่ช้าและกดดัน พร้อมกับการตีกลองที่ดุดันและหนักหน่วง และคำร้องที่น่ากลัว เต็มไปด้วยความเกลียดชังและรุนแรงของจิรา (ที่เขาได้รับแรงบันดาลใจจาก[[ฌอง เกเนต์]]และ[[มาร์กี เดอ ซาด]]) ที่มักจะตะโกนหรือกระทั่งเหห่าในขณะทำหน้าที่นักร้องนำ นักวิจารณ์ได้กล่าวว่าดนตรีในช่วงแรกของสวอนส์นั้น "ก้าวร้าวเกินคำบรรยาย" <ref name="''Greed'' review" />


''[[ฟิลธ์]]'' (1983) คือสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของวง มีความโดดเด่นในการตีกลองที่"กัดกร่อน"และมักจะเปลี่ยนจังหวะอยู่บ่อยครั้ง ร่วมด้วยการเล่นดนตรีที่เหมือนกับการเล่นดนตรี[[เฮฟวีเมทัล]]ในระดับความเร็วต่ำสุด นักวิจารณ์บางคนได้กล่าวว่าสวอนส์เป็นเหมือน"สิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในดนตรี" <ref name="''Filth'' review" /> ''ฟิลธ์'' เป็นอัลบั้มชุดแรกที่มีนักกีตาร์[[นอร์แมน เวสต์เบิร์ก|นอร์แมนเวสต์เบิร์ก]] ผู้ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในวง และจะปรากฏในอัลบั้มสตูดิโอทุกอัลบั้มถนอกจากชุด[[เลิฟออฟไลฟ์|''เลิฟออฟไลฟ์'']] <ref name="''Filth'' review" />
''[[ฟิลธ์]]'' (1983) คือสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของวง มีความโดดเด่นในการตีกลองที่"กัดกร่อน"และมักจะเปลี่ยนจังหวะอยู่บ่อยครั้ง ร่วมด้วยการเล่นดนตรีที่เหมือนกับการเล่นดนตรี[[เฮฟวีเมทัล]]ในระดับความเร็วต่ำสุด<ref name="''Filth'' review">https://www.allmusic.com/album/filth-mw0000691039</ref> นักวิจารณ์บางคนได้กล่าวว่าสวอนส์เป็นเหมือน"สิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในดนตรี" <ref name="''Filth'' review" /> ''ฟิลธ์'' เป็นอัลบั้มชุดแรกที่มีนักกีตาร์[[นอร์แมน เวสต์เบิร์ก|นอร์แมนเวสต์เบิร์ก]] ผู้ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในวง และจะปรากฏในอัลบั้มสตูดิโอทุกอัลบั้มถนอกจากชุด[[เลิฟออฟไลฟ์|''เลิฟออฟไลฟ์'']] <ref name="''Filth'' review" />


อัลบั้มชุดที่สอง''[[ค็อป (อัลบั้ม)|ค็อป]]'' และอีพี[[ยังก็อด (อีพี)|''ยังก็อด'']] ถูกปล่อยออกมาในปี 1984 โดยเดิมที่นั้น''ยังก็อด'' ยังเป็นผลงานที่ไม่ได้มีการตั้งชื่อเอาไว้ ทำให้มีการตั้งชื่อกันเองในหมู่แฟนเพลง เช่น "ไอครอวล์ด (I Crawled)" หรือชื่ออันฉาวโฉ่อย่าง "เรปปิงอะสเลฟ (Raping A Slave)" อีพีชุดนี้มักจะถูกสับสนกับอัลบั้มชุดแรกของพวกเขา โดย''ค็อป''ยังคงความหนักหน่วงแบบที่''ฟิลธ์''เคยมี ในยุคนี้สวอนส์มีจิราร้องนำ เวสต์เบิร์กเล่นกีตาร์ [[แฮร์รี ครอสบี]]เล่นกีตาร์เบสร่วมกับจิรา และ[[โรลี มอซิมันน์]]เล่นกลอง โดยในช่วงนี้ เสียงร้องของจิราได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยได้ปรากฎการร้องแบบไพเราะและช้าลง แม้ว่าเสียงคำรามดุดันจะยังคงอยู่ก็ตาม บางเพลงในอีพีโดยเฉพาะ "ยังก็อด" และ "ไอครอวล์ด" มีทำนองร้อแท้จริงถ้าเป็นพื้นฐานให้ความสำคัญกับเสียงของการเผยแพร่ในอนาคต
อัลบั้มชุดที่สอง''[[ค็อป (อัลบั้ม)|ค็อป]]'' และอีพี[[ยังก็อด (อีพี)|''ยังก็อด'']] ถูกปล่อยออกมาในปี 1984 โดยเดิมที่นั้น''ยังก็อด'' ยังเป็นผลงานที่ไม่ได้มีการตั้งชื่อเอาไว้ ทำให้มีการตั้งชื่อกันเองในหมู่แฟนเพลง เช่น "ไอครอวล์ด (I Crawled)" หรือชื่ออันฉาวโฉ่อย่าง "เรปปิงอะสเลฟ (Raping A Slave)" อีพีชุดนี้มักจะถูกสับสนกับอัลบั้มชุดแรกของพวกเขา โดย''ค็อป''ยังคงความหนักหน่วงแบบที่''ฟิลธ์''เคยมี ในยุคนี้สวอนส์มีจิราร้องนำ เวสต์เบิร์กเล่นกีตาร์ [[แฮร์รี ครอสบี]]เล่นกีตาร์เบสร่วมกับจิรา และ[[โรลี มอซิมันน์]]เล่นกลอง โดยในช่วงนี้ เสียงร้องของจิราได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยได้ปรากฎการร้องแบบไพเราะและช้าลง แม้ว่าเสียงคำรามดุดันจะยังคงอยู่ก็ตาม บางเพลงในอีพีโดยเฉพาะ "ยังก็อด" และ "ไอครอวล์ด" มีทำนองร้อแท้จริงถ้าเป็นพื้นฐานให้ความสำคัญกับเสียงของการเผยแพร่ในอนาคต

== สไตล์ดนตรีและอิทธิพล ==
[[ไฟล์:Swans_@_Stylus,_Leeds_University_5-4-2013_(8624010609).jpg|right|thumb|225x225px| จิราแสดงร่วมกับสวอนส์ที่สไตลัส [[มหาวิทยาลัยลีดส์]] ในเดือนเมษายน 2013 ]]
ดนตรีของสวอนส์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่โดยทั่วไปดนตรีของพวกเขามักจะมืดมน <ref name="trebleguide">https://www.treblezine.com/beginners-guide-swans/</ref> <ref name="Columbus">https://www.columbusalive.com/content/stories/2013/07/18/staff-pick-swans-grueling-post-rock-will-send-you-reeling.html</ref> และ "สื่อถึงวันสิ้นโลก", <ref name="guareview">https://www.theguardian.com/music/2013/apr/05/swans-review</ref> และมักจะมุ่งเน้นไปที่รูปแบบของ[[อำนาจ]] [[ศาสนา]] [[เพศสภาพของมนุษย์|เพศ]] และ[[ความตาย]] <ref name="stereogum">https://www.stereogum.com/1197001/swans-albums-from-worst-to-best/</ref> โดยมักจะมีการทดลองสิ่งใหม่ๆ ในดนตรีของพวกเขาอยู่เสมอ <ref>https://www.rollingstone.com/music/music-lists/20-rock-albums-turning-20-in-2016-163911/sublime-sublime-145838/</ref> นิตยสาร''[[สปิน (นิตยสาร)|สปิน]]''ได้กล่าวว่า วงนี้แสดงให้เห็นถึง "ความสามารถในการถ่ายทอดความรุนแรงอันไร้สาระของสภาพมนุษย์ให้เป็นดนตรีที่น่าตื่นเต้นและรุนแรงในเวลาเดียวกันอย่างไม่มีใครเทียบได้" <ref>https://www.spin.com/2016/06/review-swans-the-glowing-man/</ref>

ผลงานในช่วงแรกของพวกเขาหยั่งรากในดนตรี[[โนเวฟ]]ที่กำลังจางหายจาก[[นครนิวยอร์ก|มหานครนิวยอร์ก]]<ref>https://www.factmag.com/2014/03/10/a-beginners-guide-to-no-wave/</ref> ดนตรีของวงได้รับชื่อเสียงจากการที่พวกเขาเล่นดนตรีไปด้วยความก้าวร้าวอย่างยิ่ง ซึ่งไมเคิล จิราได้กล่าววาพวกเขากำลังพยายาม "ถอดองค์ประกอบสำคัญของสิ่งที่เราพิจารณาว่าเป็นส่วนหนึ่งของ[[ร็อก|ดนตรีร็อก]]" <ref name="ltw">https://louderthanwar.com/swans-in-depth-interview-with-michael-gira/</ref> ''[[เดอะการ์เดียน]]'' กล่าวว่า "เป็นดนตรีที่จังหวะที่เน้นจังหวะรุนแรงสั่นไหวที่กระจายในหลายแนวเพลง ทั้ง[[โพสต์พังก์]] [[ดนตรีอินดัสเทรียล|อินดัสเทรียล]] [[ดูมเมทัล]] [[อาวองมินิมัลลิซึม]]และ [[บลูส์]]; ซึ่งก็มักจะเข้ากับคำร้องที่เน้นในแนวคิด[[สูญนิยม]] [[การต่อต้านแนวคิดการมีลูก]] และ[[อัตถิภาวนิยม]] ... ที่ถูกร่ายออกมาราวกับว่าตนเป็น[[เมสสิยาห์|ศาสนพยากรณ์]] " <ref name="guard">https://www.theguardian.com/music/2015/dec/04/enduring-love-why-swans-are-more-vital-now-than-ever</ref> ดนตรีในช่วงนี้เป็นการผสมผสานของดนตรีอินดัสเทรียล <ref>Reynolds, Simon (2005). ''Rip It Up and Start Again: Postpunk 1978–1984.'' (Page 487) London: Faber and Faber. ISBN 0-571-21569-6</ref> และ[[นอยส์ร็อก]] <ref>https://www.allmusic.com/style/noise-rock-ma0000004455</ref> เชื่อกันว่าดนตรีของวงนี้มีอิทธิพลต่อการเกิดขึ้นของ[[ไกรนด์คอร์]]และ[[สลัดจ์เมทัล]] <ref>https://www.loudersound.com/features/the-10-essential-sludge-metal-albums</ref> ต่อมาในช่วงทศวรรษ 1980 ดนตรีของสวอนส์ได้เริ่มรวมองค์ประกอบที่ไพเราะและสลับซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่การเปิดตัวของจาร์โบในฐานะนักแต่งเพลงในอัลบั้ม''[[ชิลเดร็นออฟก็อด]]''ในปี 1987 <ref name="AMbio">https://www.allmusic.com/artist/swans-mn0000034988/biography</ref> ในขณะเดียวกันก็ยังการรักษาความไม่ประสมสอดคล้องกันอยู่ จากนั้นพวกเขายังได้พัฒนาดนตรีไปยังแนวเพลงต่าง ๆ เช่น โพสต์พังก์ <ref name="PPcorn">http://ppcorn.com/us/2014/10/02/swans-wave-act-survived/</ref> [[กอทิกร็อก|โกธิคร็อก]] [[นีโอโฟล์ก]] [[ไซเคเดลิกร็อก]] และ[[อาร์ตร็อก]] อัลบั้มสุดท้ายของพวกเขาก่อนที่จะยุบวงอย่าง''[[ซาวด์แทร็กสฟอร์เดอะไบลนด์]]'' เป็น อัลบั้มคู่ที่เน้นบรรยากาศแบบแนว[[โพสต์ร็อก]] <ref name="trebleguide" /> <ref name="stereogum" /> [[โดรน (แนวดนตรี)|โดรน]] <ref name="magnet">http://magnetmagazine.com/2016/08/16/magnet-classics-the-making-of-swans-soundtracks-for-the-blind/</ref> และ[[ดาร์กแอมเบียนต์]] <ref name="magnet" /> นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นใหม่ในปี 2010 พวกเขายังคงเล่นดนตรีโพสต์ร็อค พร้อมกับโดรนและนอยส์ร็อก อัลบั้มคู่สามอัลบั้มของพวกเขา(''[[เดอะเซียร์]]'' ''[[ทูบีไคนด์]]''และ''[[เดอะโกลว์อิงแมน]]'')ได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวาง โดยผลงานในช่วงนี้มักจะมีผลงานเพลงที่มีความซับซ้อน เน้นบรรยากาศและมีความยาวมาก โดยบางเพลงในยุคนี้อาจมีความยาวถึงยี่สิบถึงสามสิบนาที<ref>https://pitchfork.com/reviews/albums/21994-the-glowing-man/</ref>

สวอนส์ได้รับการยอมรับว่าเป็นวงที่มีอิทธิพลต่อวง[[เอกซ์ตรีมเมทัล]]หลายวงและนักดนตรีร็อกหลายคน ดังเช่นสมาชิกของวง [[นาปาล์มเดธ]] <ref name="napalm death">http://askearache.blogspot.com/2010/04/napalm-deaths-tributescovers-of-other.html</ref> [[ก็อดเฟล็ช]] <ref name="broadrick intervew">https://www.vice.com/en_us/article/6vajmr/justin-broadrick-on-the-secret-history-of-godflesh</ref> [[เมลวินส์]] <ref>http://www.markprindle.com/kingbuzzo-i.htm</ref>[[นิวรอซิส]] [[เนอร์วานา]] <ref>https://www.kerrang.com/features/kurt-cobains-50-favourite-albums/</ref> [[ทูล (วงดนตรี)|ทูล]] <ref name="Tool">https://consequenceofsound.net/2016/10/maynard-james-keenan-details-how-tool-and-rage-against-the-machine-formed-in-new-biography/</ref> [[มายดายอิงไบรด์]] <ref>http://www.releasemagazine.net/Spotlight/spotlightmydyingbride.htm</ref> [[เลวีอาธาน (วงดนตรี)|เลวีอาธาน]] <ref>http://www.maelstromzine.com/ezine/interview_iss5_61.php</ref> [[วีกกลิง]] <ref name="weakling">http://www.maelstromzine.com/ezine/interview_iss25_165.php</ref> [[คาเนท]]<ref name="khanate">https://www.cosmiclava.com/reviews-interviews/interviews/2001/khanate.html</ref> [[ลิทูร์จี]] <ref name="Liturgy (band)|Liturgy">http://www.spinner.com/2011/03/03/liturgy-sxsw-top-100/</ref> เทรโพเนมพาล <ref>http://www.leseternels.net/interviews.aspx?id=152</ref> และ[[คาร์ซีทเฮดเรสต์|คาร์ซีทเฮดเรสท์]] <ref>https://www.whatthesound.com/interviews/car-seat-headrest/</ref>


== สมาชิก ==
== สมาชิก ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:42, 14 มิถุนายน 2563


สวอนส์
การแสดงสดของวงที่วอร์ซอว์ในเดือนธันวาคม 2010. จากซ้ายไปขวา: คริสตอฟ ฮาห์น เล่นกีตาร์นั่งตัก ไมเคิล จิรา เล่นกีตาร์ ธอร์ แฮร์ริส เล่นเครื่องกระทบ คริสโตเฟอร์ พราฟดิกา เล่นเบส และนอร์แมน เวสต์เบิร์ก เล่นกีตาร์ ฟิล พูลีโอ เล่นกลองอยู่หลังกลองชุด
เว็บไซต์younggodrecords.com

สวอนส์เป็นวงดนตรีเอกซ์เพอร์ริเมนทอลร็อก สัญชาติอเมริกันที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1982 โดยนักร้องนักแต่งเพลงและนักดนดรีชื่อว่าไมเคิล จิรา วงนี้นับว่าเป็นวงดนตรีในเครือของกลุ่มดนตรีแนวโนเวฟไม่กี่วงที่ยังคงดำรงอยู่ได้เป็นเวลานาน และเป็นวงเดียวที่สามารถอยู่ได้นานถึงสามทศวรรษ วงนี้เป็นที่รู้จักจากการที่มีการพัฒนาดนตรีของดนเองไปในทิศทางต่าง ๆ ในหลายแนว เช่น นอยส์ร็อก โพสต์พังก์ อินดัสเทรียล และโพสต์ร็อก ในช่วงระยะแรกนั้น พวกเขาเป็นที่รู้จักในฐานะวงที่มีดนตรีอันเข้มข้นและรุนแรง และคำร้องที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังเผ่าพันธุ์มนุษย์ โดยในปี 1986 นักร้องหญิงชื่อว่าจาร์โบได้เข้ามาร่วมวง ทำให้แนวเพลงของวงเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงจากโนเวฟมาเป็นกอทิกร็อก แล้วจากนั้นจึงกลายเป็นโพสต์พังก์และโพสต์ร็อก เธอได้กลายเป็นสมาชิกประจำของวงร่วมกับจิราและมือกีตาร์นอร์แมน เวสต์เบิร์กจนกระทั่งยุบวงในปี 1997 หลังจากที่มีการวางแผงอัลบั้มซาวด์แทร็กส์ทูเดอะไบลนด์

ตั้งแต่ปี 1990 ผลงานทั้งหมดของสวอนส์ได้ถูกเผยแพร่โดยค่ายยังก็อดส์เรคอร์ดสที่จิราเป็นผู้ก่อตั้งเอง

ในปี 2010 จิราได้กลับมาตั้งวงใหม่โดยที่ไม่มีจาร์โบ พร้อมกับได้มีการจัดเดินสายแสดงสดไปทั่วโลก [1] โดยที่พวกเขาได้ออกอัลบั้มไปทั้งหมดสี่อัลบั้ม ซึ่งผลงานชุดไตรภาคอย่างเดอะเซียร์ ทูบีไคนด์และเดอะโกลว์อิงแมนล้วนได้รับคำชื่นชมล้นหลาม โดยหลั งจากที่วงนั้นได้ถูกพักในปี 2017 ในปี 2019 จิราได้ออกอัลบั้มใหม่ ลีฟวิงมีนนิง

ประวัติ

วงนี้ถูกก่อตั้งและนำโดยไมเคิล จิรา ที่ในภาพกำลังแสดงใน แคนซัสซิตี รัฐมิสซูรี ในเดือนกันยายน 2012

ช่วงแรก (1982-1985)

อิทธิพลเบื้องต้น

ไมเคิล จิราได้กล่าวว่า "หงส์" คือคำที่จำกัดความของดนตรีที่เขาต้องการทำมากที่สุด [2]</nowiki></ref> โดยเหตุผลว่า "หงส์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างที่งดงาม ที่มาด้วยนิสัยอันเกรี้ยวกราดรุนแรง "

สมาชิกรุ่นแรกของสวอนส์นั้นประกอบไปด้วยจิราเป็นมือเบสและร้องนำ โจนาธาน เคนเล่นกลอง ซู ฮาเนลเล่นกีตาร์ โมโจเล่นเครื่องกระทบ โดยในช่วงนี้วงยังมีมือเบสคนที่สองที่หมุนเวียนแยู่กับวงเป็นระยะสั้นๆ ได้แก่ แดน บรอวน์ จอน เทสส์เลอร์(เล่นเครื่องกระทบและลูปเทปด้วย)และเธอร์สตัน มัวร์ที่ต่อมาจะออกจากวงไปก่อตั้งวงโซนิกยูท [3]</nowiki></ref> ผลงานชุดเดียวของวงที่มีฮาเนลอยู่ในรายชื่อผู้ร่วมสร้างสรรค์คือผลงานชุดรวมเพลง บอดีทูบอดี, จ็อบทูจ็อบ แต่ทั้งนี้ ในอัลบั้มไม่ได้ระบุว่าเธอเล่นเพลงใด เคนได้กล่าวว่า "ซูเป็นนักกีตาร์ที่น่ากลัวที่สุดที่เราเคยได้พบเจอในนิวยอร์ก เธอเป็นคนที่น่าเหลือเชื่อสุดๆ " [4]

ในเวลาต่อมาฮาเนลได้ถูกแทนที่โดยบ็อบ เพซโซลา [5] ผู้และในช่วงนั้นก็ได้มีนักแซกโซโฟนชื่อแดเนียล กัลลี-ดัวนีจากวงอาวอง-การ์ดชื่อทรานส์มิชชันเข้ามาร่วมวงด้วย [5] ในปี 1982 สวอนส์ได้ออกผลงานอีพีชุดแรกที่ตั้งตามชื่อวง ซึ่งผลงานอีพีชุดนี้มีความแตกต่างทางด้านดนตรีจากผลงานในช่วงต่อๆ ไปของวง[5] โดยนักวิจารณ์ได้กล่าวว่าเสียงกีตาร์ที่เน้นหนักไปในการทำให้เสียงแตกทำให้นึกถึงวงโพสต์พังก์เช่นวงจอยดิวิชัน แต่ในเวลาต่อมา ดนตรีของวงก็ได้เปลี่ยนไปเป็นการเล่นคอร์ดแบบซ้ำไปซ้ำมาแบบบลูส์ ในขณะที่อิทธิพลของดนตรีแจ๊สและจังหวะอันแปลกประหลาดที่เป็นเอกลักษณ์ของดนตรีโนเวฟในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ก็ได้ค่อยๆ จางหายไปหลังจากมีการออกอัลบั้มชุดที่สอง ค็อป ในปี 1984

รูปแบบดนตรีในช่วงต้น

เคนได้เปรียบเทียบสวอนส์กับตำนานบลูส์อย่างเชสเตอร์ เอร์เน็ตต์ หรือที่รู้จักกันในชื่อฮาวลินวูลฟ์ [6] เพราะเพลงของพวกเขานั้นมักจะมีการตั้งฐานมาจากการเล่นริฟฟ์เพียงริฟฟ์เดียว [6] เพลงของเบอร์เน็ตต์บางเพลงโดยเฉพาะเพลงที่เบอร์เน็ตต์เขียนเองนั้นมีโครงสร้างและคุณภาพที่คล้ายคลึงกัน ดนตรีในช่วงแรกของพวกเขาถูกตรึงโดยเสียงกีตาร์ที่ช้าและกดดัน พร้อมกับการตีกลองที่ดุดันและหนักหน่วง และคำร้องที่น่ากลัว เต็มไปด้วยความเกลียดชังและรุนแรงของจิรา (ที่เขาได้รับแรงบันดาลใจจากฌอง เกเนต์และมาร์กี เดอ ซาด) ที่มักจะตะโกนหรือกระทั่งเหห่าในขณะทำหน้าที่นักร้องนำ นักวิจารณ์ได้กล่าวว่าดนตรีในช่วงแรกของสวอนส์นั้น "ก้าวร้าวเกินคำบรรยาย" [6]

ฟิลธ์ (1983) คือสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของวง มีความโดดเด่นในการตีกลองที่"กัดกร่อน"และมักจะเปลี่ยนจังหวะอยู่บ่อยครั้ง ร่วมด้วยการเล่นดนตรีที่เหมือนกับการเล่นดนตรีเฮฟวีเมทัลในระดับความเร็วต่ำสุด[7] นักวิจารณ์บางคนได้กล่าวว่าสวอนส์เป็นเหมือน"สิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในดนตรี" [7] ฟิลธ์ เป็นอัลบั้มชุดแรกที่มีนักกีตาร์นอร์แมนเวสต์เบิร์ก ผู้ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในวง และจะปรากฏในอัลบั้มสตูดิโอทุกอัลบั้มถนอกจากชุดเลิฟออฟไลฟ์ [7]

อัลบั้มชุดที่สองค็อป และอีพียังก็อด ถูกปล่อยออกมาในปี 1984 โดยเดิมที่นั้นยังก็อด ยังเป็นผลงานที่ไม่ได้มีการตั้งชื่อเอาไว้ ทำให้มีการตั้งชื่อกันเองในหมู่แฟนเพลง เช่น "ไอครอวล์ด (I Crawled)" หรือชื่ออันฉาวโฉ่อย่าง "เรปปิงอะสเลฟ (Raping A Slave)" อีพีชุดนี้มักจะถูกสับสนกับอัลบั้มชุดแรกของพวกเขา โดยค็อปยังคงความหนักหน่วงแบบที่ฟิลธ์เคยมี ในยุคนี้สวอนส์มีจิราร้องนำ เวสต์เบิร์กเล่นกีตาร์ แฮร์รี ครอสบีเล่นกีตาร์เบสร่วมกับจิรา และโรลี มอซิมันน์เล่นกลอง โดยในช่วงนี้ เสียงร้องของจิราได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยได้ปรากฎการร้องแบบไพเราะและช้าลง แม้ว่าเสียงคำรามดุดันจะยังคงอยู่ก็ตาม บางเพลงในอีพีโดยเฉพาะ "ยังก็อด" และ "ไอครอวล์ด" มีทำนองร้อแท้จริงถ้าเป็นพื้นฐานให้ความสำคัญกับเสียงของการเผยแพร่ในอนาคต

สไตล์ดนตรีและอิทธิพล

จิราแสดงร่วมกับสวอนส์ที่สไตลัส มหาวิทยาลัยลีดส์ ในเดือนเมษายน 2013

ดนตรีของสวอนส์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่โดยทั่วไปดนตรีของพวกเขามักจะมืดมน [8] [9] และ "สื่อถึงวันสิ้นโลก", [10] และมักจะมุ่งเน้นไปที่รูปแบบของอำนาจ ศาสนา เพศ และความตาย [11] โดยมักจะมีการทดลองสิ่งใหม่ๆ ในดนตรีของพวกเขาอยู่เสมอ [12] นิตยสารสปินได้กล่าวว่า วงนี้แสดงให้เห็นถึง "ความสามารถในการถ่ายทอดความรุนแรงอันไร้สาระของสภาพมนุษย์ให้เป็นดนตรีที่น่าตื่นเต้นและรุนแรงในเวลาเดียวกันอย่างไม่มีใครเทียบได้" [13]

ผลงานในช่วงแรกของพวกเขาหยั่งรากในดนตรีโนเวฟที่กำลังจางหายจากมหานครนิวยอร์ก[14] ดนตรีของวงได้รับชื่อเสียงจากการที่พวกเขาเล่นดนตรีไปด้วยความก้าวร้าวอย่างยิ่ง ซึ่งไมเคิล จิราได้กล่าววาพวกเขากำลังพยายาม "ถอดองค์ประกอบสำคัญของสิ่งที่เราพิจารณาว่าเป็นส่วนหนึ่งของดนตรีร็อก" [15] เดอะการ์เดียน กล่าวว่า "เป็นดนตรีที่จังหวะที่เน้นจังหวะรุนแรงสั่นไหวที่กระจายในหลายแนวเพลง ทั้งโพสต์พังก์ อินดัสเทรียล ดูมเมทัล อาวองมินิมัลลิซึมและ บลูส์; ซึ่งก็มักจะเข้ากับคำร้องที่เน้นในแนวคิดสูญนิยม การต่อต้านแนวคิดการมีลูก และอัตถิภาวนิยม ... ที่ถูกร่ายออกมาราวกับว่าตนเป็นศาสนพยากรณ์ " [16] ดนตรีในช่วงนี้เป็นการผสมผสานของดนตรีอินดัสเทรียล [17] และนอยส์ร็อก [18] เชื่อกันว่าดนตรีของวงนี้มีอิทธิพลต่อการเกิดขึ้นของไกรนด์คอร์และสลัดจ์เมทัล [19] ต่อมาในช่วงทศวรรษ 1980 ดนตรีของสวอนส์ได้เริ่มรวมองค์ประกอบที่ไพเราะและสลับซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่การเปิดตัวของจาร์โบในฐานะนักแต่งเพลงในอัลบั้มชิลเดร็นออฟก็อดในปี 1987 [20] ในขณะเดียวกันก็ยังการรักษาความไม่ประสมสอดคล้องกันอยู่ จากนั้นพวกเขายังได้พัฒนาดนตรีไปยังแนวเพลงต่าง ๆ เช่น โพสต์พังก์ [21] โกธิคร็อก นีโอโฟล์ก ไซเคเดลิกร็อก และอาร์ตร็อก อัลบั้มสุดท้ายของพวกเขาก่อนที่จะยุบวงอย่างซาวด์แทร็กสฟอร์เดอะไบลนด์ เป็น อัลบั้มคู่ที่เน้นบรรยากาศแบบแนวโพสต์ร็อก [8] [11] โดรน [22] และดาร์กแอมเบียนต์ [22] นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นใหม่ในปี 2010 พวกเขายังคงเล่นดนตรีโพสต์ร็อค พร้อมกับโดรนและนอยส์ร็อก อัลบั้มคู่สามอัลบั้มของพวกเขา(เดอะเซียร์ ทูบีไคนด์และเดอะโกลว์อิงแมน)ได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวาง โดยผลงานในช่วงนี้มักจะมีผลงานเพลงที่มีความซับซ้อน เน้นบรรยากาศและมีความยาวมาก โดยบางเพลงในยุคนี้อาจมีความยาวถึงยี่สิบถึงสามสิบนาที[23]

สวอนส์ได้รับการยอมรับว่าเป็นวงที่มีอิทธิพลต่อวงเอกซ์ตรีมเมทัลหลายวงและนักดนตรีร็อกหลายคน ดังเช่นสมาชิกของวง นาปาล์มเดธ [24] ก็อดเฟล็ช [25] เมลวินส์ [26]นิวรอซิส เนอร์วานา [27] ทูล [28] มายดายอิงไบรด์ [29] เลวีอาธาน [30] วีกกลิง [31] คาเนท[32] ลิทูร์จี [33] เทรโพเนมพาล [34] และคาร์ซีทเฮดเรสท์ [35]

สมาชิก

ธอร์ แฮร์ริส (หลังจิรา)
นอร์แมน เวสต์เบิร์ก
ฟิล พูลีโอ
คริสโตเฟอร์ พราฟดิกา
จาร์โบ

ปัจจุบัน

สมาชิกเดินสาย

อดีตสมาชิก


เส้นเวลา

ผลงาน

สตูดิโออัลบั้ม

หมายเหตุ

อ้างอิง

  1. https://www.metacritic.com/person/swans
  2. <ref>http://www.flowersinagun.com/interview-with-michael-gira-from-swans/</span> </li> <li id="cite_note-Swans_allmusic-3"><span class="mw-cite-backlink">[[#cite_ref-Swans_allmusic_3-0|↑]]</span> <span class="reference-text"><nowiki><ref>https://www.allmusic.com/artist/swans-mn0000034988/biography<nowiki>
  3. https://younggodrecords.com/blogs/press/13026405-jonathan-kane-and-swans
  4. 5.0 5.1 5.2 https://www.telegraph.co.uk/culture/books/non_fictionreviews/3670741/Nobody-knows-No-Wave.html
  5. 6.0 6.1 6.2 https://www.allmusic.com/album/greed-mw0001883300
  6. 7.0 7.1 7.2 https://www.allmusic.com/album/filth-mw0000691039
  7. 8.0 8.1 https://www.treblezine.com/beginners-guide-swans/
  8. https://www.columbusalive.com/content/stories/2013/07/18/staff-pick-swans-grueling-post-rock-will-send-you-reeling.html
  9. https://www.theguardian.com/music/2013/apr/05/swans-review
  10. 11.0 11.1 https://www.stereogum.com/1197001/swans-albums-from-worst-to-best/
  11. https://www.rollingstone.com/music/music-lists/20-rock-albums-turning-20-in-2016-163911/sublime-sublime-145838/
  12. https://www.spin.com/2016/06/review-swans-the-glowing-man/
  13. https://www.factmag.com/2014/03/10/a-beginners-guide-to-no-wave/
  14. https://louderthanwar.com/swans-in-depth-interview-with-michael-gira/
  15. https://www.theguardian.com/music/2015/dec/04/enduring-love-why-swans-are-more-vital-now-than-ever
  16. Reynolds, Simon (2005). Rip It Up and Start Again: Postpunk 1978–1984. (Page 487) London: Faber and Faber. ISBN 0-571-21569-6
  17. https://www.allmusic.com/style/noise-rock-ma0000004455
  18. https://www.loudersound.com/features/the-10-essential-sludge-metal-albums
  19. https://www.allmusic.com/artist/swans-mn0000034988/biography
  20. http://ppcorn.com/us/2014/10/02/swans-wave-act-survived/
  21. 22.0 22.1 http://magnetmagazine.com/2016/08/16/magnet-classics-the-making-of-swans-soundtracks-for-the-blind/
  22. https://pitchfork.com/reviews/albums/21994-the-glowing-man/
  23. http://askearache.blogspot.com/2010/04/napalm-deaths-tributescovers-of-other.html
  24. https://www.vice.com/en_us/article/6vajmr/justin-broadrick-on-the-secret-history-of-godflesh
  25. http://www.markprindle.com/kingbuzzo-i.htm
  26. https://www.kerrang.com/features/kurt-cobains-50-favourite-albums/
  27. https://consequenceofsound.net/2016/10/maynard-james-keenan-details-how-tool-and-rage-against-the-machine-formed-in-new-biography/
  28. http://www.releasemagazine.net/Spotlight/spotlightmydyingbride.htm
  29. http://www.maelstromzine.com/ezine/interview_iss5_61.php
  30. http://www.maelstromzine.com/ezine/interview_iss25_165.php
  31. https://www.cosmiclava.com/reviews-interviews/interviews/2001/khanate.html
  32. http://www.spinner.com/2011/03/03/liturgy-sxsw-top-100/
  33. http://www.leseternels.net/interviews.aspx?id=152
  34. https://www.whatthesound.com/interviews/car-seat-headrest/